ทีมชาติไทย ชุดแชมป์ AFF
กองหลังทีมชาติไทย ที่ มาโน่ เรียกมาติดในทีมชุดนี้ ถือว่าได้ตัวที่ต้องการมาเกือบครบ อีกทั้งยังได้โยกผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางให้มาเล่นกองหลัง ซึ่งในรอบแรกจนถึงรอบรองชนะเลิศ ได้วางระบบหลัง 4 แต่เมื่อถึงเกมชิงชนะเลิศก็ได้ปรับมาเล่นหลัง 3 ก่อนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมไปถึงแชมป์

พรรษา เหมวิบูลย์ (8)
หากไม่เจ็บไม่ป่วยจนต้องหามขึ้นเปล เจ้าโย่งถือเป็นตัวหลักของทีมชาติไทย ที่ตะต้องลงสนามช่วยทีม ซึ่งจุดเด่นเรื่องกลางอากาศถือว่าไว้ใจได้ โดยในนัดที่ออกไปเยือนมาเลเซีย นัดแรก มีบาดแผลที่ปลายคิ้วแบบไม่ต้องเย็บ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหากับการลงสนามจนถึงรอบชิงชนะเลิศนัดที่ 2
กฤษดา กาแมน (7)

เป็นนักเตะที่เล่นกองกลางเมื่ออยู่กับสโมสร แต่สำหรับทีมชาติไทย เจ้าตัวถูกจับมาเล่นกองหลังแบบถาวรเสียแล้ว โดยจากฟอร์มการเล่นทั้งทัวร์นาเมนต์ การอ่านทางที่เฉียบขาดช่วยให้ดักทางคู่แข่งและตัดการขึ้นเกมบุกของคู่แข่งได้ดี แต่ข้อเสียที่เป็นปัญหาใหญ่ คือ การสกัดลูกกลางอากาศ ที่ยังเป็นรองและไม่สามารถทำได้เหมือนกองหลังพันธุ์แท้
จักพัน ไพรสุวรรณ (6)

มีบทบาทเป็นกองหลังตัวสำรองของทีม โดยมักถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรอง ซึ่งในนัดที่พบกับ มาเลเซีย การถูกแซงตรงมุมแคบเกือบมีผลให้ทีมเสียประตู ส่วนในด้านที่น่าจำคงเป็นการสกัดบอลและการยิงฟรีคลิกที่ทเอาผู้รักษาฝ่ายตรงข้ามต้องออกแรงเซฟอยู่เหมือนกัน
เฉลิมศักดิ์ อักขี (6)

โชว์ฟอร์มได้ดีกับสโมสรและด้วยตัวผู้เล่นรายอื่นบาดเจ็บ นั่นจึงให้เจ้าตัวได้มีชื่อหลุดเข้ามาในรอบ 23 คนสุดท้าย โดยบทบาทที่มักได้รับ คือ การลงมาเป็นตัวสำรองเพื่ออุดประตูและปิดเกมให้กับทีม กระนั้นการได้คะแนนก็ไม่ได้หมายความว่านักเตะเล่นไม่ดี หากแต่เรื่องของความโด่ดเด่นและเวลาที่ได้อยู่ในสนามมันค่อนข้างน้อยนิด
วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (6)
ในรายการนี้เมื่อครั้งที่แล้ว วีรเทพ แจ้งเกิดแบบเต็มตัวในฐานะอะไหล่กองกลาง พร้อมกับโชว์ทักษะด้วยการลงไปเล่นเป็นกองหลัง แต่ในฤดูกาลนี้ ผลงานกับสโมสรถือว่าดรอปลงไปแบบน่าใจหาย อย่างไรเสียด้วยความที่นักเตะรายอื่นไม่ถูกปล่อยตัวมา
นั่นจึงทำให้เจ้าตัวยังมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดนี้ แม้จะถูกวางไว้ข้างสนามเป็นหลัก จนในเกมนัดชิงชนะกับ เวียดนาม ก็ได้รับมอบหมายให้ลงเล่นกองหลังทีมชาติไทย ในระบบ 3-5-2 ซึ่งฟอร์มโดยรวม 2 นัด ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก
ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com
FB : Sport lover