Categories
Sport

“ทำดีที่สุดแล้ว”

บีจี หมดลุ้นแชมป์ แต่โชว์สปิริตเก็บชัยเหนือ โคราช  3-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมคืนวันอาทิตย์ คู่สุดท้ายของสัปดาห์นี้ ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่รั้งรองจ่าฝูงของตาราง จะต้องพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่สถานการณ์ยังสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น ฉะนั้นในวันนี้จำเป็นอย่างที่จะต้องเก็บแต้มออกไปให้ได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ทั้งเจ้าบ้านและทีมเยือนต่างในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน

      บีจี ปทุม ออกสตาร์ทเกมนี้ไม่ค่อยวูบวาบเท่าไร เพราะการครองบอลและจบสกอร์ไปไม่ถึงแดนสุดท้าย จะมีลุ้นก็จากฟรีคลิก นอกจากนี้การจ่ายบอลในแดนตัวเองยังเสียให้คู่แข่งเอาไปจู่โจม กระนั้นยังดีที่แนวรุกนครราชสีมา ไม่สามารถพาบอลเข้าพื้นที่กรอบเขตโทษได้ กระทั่งการยิงไม่มีความอันตราย จากนั้นเมื่อเกมผ่าน 25 นาที บีจี ปทุม เริ่มต่อบอลและพาเข้าพื้นที่อันตรายได้มากขึ้น ซึ่งนิยมขึ้นทางฝั่งขวาด้วยกาจ่ายทแยงหรือวางเข้าไป แต่สุดท้ายก็ยังติด พิศาล ที่ยืนตำแหน่งดีและบินเซฟได้อยู่

ครึ่งหลัง โคราช แก้เกมโต้กลับได้ดีกับการวางบอลไปทางด้านข้างเพื่อให้แนวรุกได้เก็บ ก่อนจ่ายเข้าแดนอันตราย ขาดเสียเพียงการจบสกอร์ที่ยังไม่เหน่งเท่าไร กลับกันทางฝั่ง บีจี ปทุม พอมีโอกาสก็ขึ้นนำ 1-0 ทันที โดยจังหวะนี้เป็นการยิงนอกกรอบ แนวรับยืนปิดได้ดีแล้ว แต่ พิศาล กะจังหวะบอลกระดอนไม่ดี ทำให้เมื่อปัดไม่โดนก็เข้าประตูไป จากนั้น บีจี ปทุม พยายามประคองตัวแล้วมาได้ประตู 2-0 จาการโต้กลับ ซึ่งการเอาบอลลงของ วรชิต นับเป็นที่น่าชื่นชม เพราะมันทำให้จังหวะต่อมาเล่นง่าย ก่อนจะประสานกับ ธีรศิลป์ และจัดการส่งบอลเจ้าสู่ก้นตาข่าย ส่วนประตู 3-0 มาติดๆ จากการตัดบอลและจ่าย 3 จังหวะ แล้วยิงโล่งๆ

      บทสรุปจากเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เริ่มต้นเกมแบบไม่วูบวาบเท่าไร อีกทั้งยังมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ แต่พอเวลาผ่านไป พวกเขาเร่งระดับของเกมรุกได้ กระทั่งมาได้ประตูในครึ่งหลัง อีกทั้งการโต้กลับและฉกบอลจากคู่แข่ง ก็ได้ช่วยให้พวกเขายิงทิ้งห่าง ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับทีมที่มีมิติหลากหลาย ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ครึ่งแรกเล่นเกมรับได้ดีพอควร ส่วนเกมรุกมีโอกาสแต่ไม่อันตรายพ กลับกันในครึ่งหลัง เกมรุกแก้ทางมาดีและเกือบนำก่อน อย่างไรเสียพอโดนยิงไปก่อน เกมรุกเกมโต้กลับก็หายไป มิหนำเกมรับได้เปิดรูรั่วอีก ทำให้สุดท้ายกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ดึงเสื้ออาจารย์จนได้เรื่อง”

“ดึงเสื้ออาจารย์จนได้เรื่อง” ขอนแก่น 10 ตัวต้านไม่ไหว โดน บียู ตามเจ๊า 2-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แข้งเทพ ที่ในตอนนี้ได้แค่ประคองจบอันดับที่ 3 จะต้องพบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ก็ลอยลำจากการหนีตายแล้วเช่นกัน ทำให้เกมนัดนี้ไม่ค่อยมีความกดดันมากนัด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนวาง 5-3-2 เพื่อตั้งรับแบบเต็มอัตราศึก

การแข่งขันเริ่มไปเพียง 4 นาที ขอนแก่น ชิงนำก่อน 0-1 จากการต่อบอลขึ้นมา ซึ่งการให้บอลของ เมโล่ ถือเป็นการหลอกแนวรับเจ้าบ้านแบบตายสนิท เพราะเหมือนจะเปิด แต่เปลี่ยนมาชิบให้เพื่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านต่อไปยัง อิสลามี่ ได้ยิงแบบเผาขน จากนั้นรูปเกมของ ทรู แบงค็อก แข้งเทพ ยังไม่ดีขึ้น แถมยังเล่นผิดพลาดจนเกือบเพิ่ม สุดท้ายนาทีที่ 10 พวกเขาไม่รอดพ้นต่อการเสียประตูที่ 2 โดยในจังหวะนี้เป็น วรุฒ ที่ออกมาตัดบอลแล้วเตะพลาด ทำให้โดน เมโล่ ตามไปยิงง่ายๆเป็น 0-2

หลังจาก บียู โดนทิ้งห่าง 2 ประตู รูปเกมก็ยังทรงๆ กระทั่งนาทีที่ 34 จุดเปลี่ยนก็ได้เกิดขึ้น ซึ่งเริ่มจากความผิดพลาดในการยืนป้องกันของแนวรับทีมเยือน ทำให้แรวรุกของ บียู ได้วิ่งควงคู่มายิงระยะเผาขนเป็น 1-2 แล้วจากจังหวะนี้ผู้เล่นของ ขอนแก่น พยายามจะประท้วงว่ามีการฟาวล์เกิดขึ้น กระทั่งมีการถกเถียงแล้วจบที่ วิเอรา พยายามจะไปดึงเสื้อผู้ตัดสินให้ไปดูอะไรบ้างอย่าง แต่ด้วยการดึงที่รุนแรงมันมีผลให้ผู้ตัดสินต้องควักใบแดงไล่เจ้าตัวออกไป จากนั้นในอีก 10 นาทีกว่าๆในครึ่งแรก แข้งเทพโหมเต็มที่และน่าได้ประตูตีเสมอ ทั้งๆที่มีโอกาสแบบจ่อๆแล้ว

ครึ่งหลังเป็น บียู ที่โหมกระหน่ำข้างเดียว จนมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 78 ซึ่งฝ่ายป้องกันอย่าง ขอนแก่น ถือว่าทำเต็มที่แล้ว กระนั้นในอีก 10 นาทีกว่าๆ เจ้าบ้านมีอัตราเร่งเกมบุกลดลง แต่ก็ยังมีโกาสแล้วยิงแซงไม่ได้เอง

บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แข้งเทพ เปิดหัวด้วยฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ กระทั่งการตีไข่แตกเป็น 1-2 และทีมเยือนเหลือ 10 คน มันได้พลิกโมเมนตัมให้พวกเขากลับมา กระทั่งมีรูปเกมที่เหนือกว่าจนแบ่งแต้มได้ กระนั้นหากเทียบกับโอกาสที่พวกเขามี การได้ 1 แต้มถือว่าน่าผิดหวัง ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น ยูไนเต็ด การประสานงานที่ยอดเยี่ยมในเกมรุก นำพาให้พวกเขาออกนำไปก่อน 0-2 กระทั่งความใจร้อนรายบุคคล มันเป็นผลให้ทีมต้องเผชิญกับความยากลำบาก สุดท้ายจาก 3 จึงเหลือแต้มเดียว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอยู่ไม่น้อย

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แมวข่วนโอ่ง”

นครราชสีมา Fได้ชาร์ลี โขกเฉือน ราชบุรี 1-0 โอกาสรอดตายเปิดกว้าง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 ในโปรแกรมเย็นวันเสาร์ ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ตอนนี้ต้องหนีตกชั้นแบบสุดชีวิต จะต้องพบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่สถานการณ์ไม่อันตราย แต่ก็ไม่ควรพ่ายแพ้ออกไป ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-2-3-1 ส่วนทีมปรับเป็น 4-4-2

      ในช่วงต้นเกม ราชบุรี ดูดีกว่าชัดเจนจากโจมตีทางริมเส้นและลูกเตะมุม ซึ่งมันสร้างโอกาสได้ดีและน่าเป็นประตูหลายหน กระนั้นเมื่อมีโอกาสเท่าไรแล้วทำไม่ได้เสียที เกมรุกก็เริ่มหายไปเมื่อผ่านครึ่งทางของ 45 นาทีแรก ส่วนทางฝั่ง โคราช ต้นเกมเป็นรอง จนได้แค่ตั้งรับและรอสาดบอลยาวไปข้างหน้า แล้วเป็นเรื่องดีที่เอาตัวรอดมาได้แบบไม่เสียประตู ทำให้เมื่อเกมผ่านไปเรื่อยๆ พวกเขาสามารถตั้งเกมของตัวเอง พร้อมกับต่อบอลจากด้านข้างเข้าไปหาหน้าประตู กระทั่งช่วงท้ายครึ่งแรก สวาทแคทมาได้ประตูนำ 1-0 จากการโหม่งของ ชาร์ลี ซึ่งการโขกลูกนี้อาจจะมีทิศทางที่ไม่ดี แต่มันได้เรื่องความแรง นอกจากนี้ต้องกล่าวโทษ ปวีร์ ที่ไปเสียเหลี่ยมให้คู่แข่งอยู่ด้านหน้าตัวเองแบบไม่เข้าไปเบียดรบกวน   

ครึ่งหลัง ราชบุรี พยายามจะบุกเข้าใส่ แต่เจ้าบ้านรับเหนียวและยืนตำแหน่งได้ดี ทำให้การพาบอลเข้าไปป่วนในแดนสุดท้าย ไม่ค่อยมีปรากฏให้เห็น กลับกันทางฝั่ง โคราช ได้โต้กลับอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งการโต้กลับหรือทำเกมบุก ก็ได้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนเมื่อถึงแดน 3 ซึ่งจะใช้การโยกหาช่องแล้วจ่ายหรือเปิดแทนการโจมตีทางริมเส้น ซึ่งมันสร้างโอกาสได้เรื่อยๆ แต่สวาทแคททำไม่ได้เอง  

บทสรุปจากเกม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ออกสตาร์ทเกมนี้ด้วยการโดนถล่มใส่ แต่เมื่อรักษาสกอร์ได้ ตรงนี้จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนแรกของเกม จากนั้นจุดเปลี่ยนที่ 2 คือ การได้ประตูนำก่อนหมดครึ่งแรก ซึ่งมันทำให้พวกเขาเล่นง่ายในครึ่งหลัง แต่มันก็น่าเสียดายที่มีโอกาสยิงเพิ่มแล้วทำไม่ได้ กระนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คงหนีไม่พ้น 3 แต้ม ที่ช่วยให้การหนีเปิดกว้างแบบสุดๆ ขณะที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เล่นดีเพียง 20 นาทีแรกของเกม แต่พอยิงนำไม่ได้รูปเกมเริ่มเริ่มดรอป แล้วยิ่งซ้ำร้ายกว่านั้น คือ การเสียประตูก่อนจบครึ่งแรก อย่างไรเสียพวกเขามีเวลามากมายใน 45 นาทีหลัง แต่เพราะตัวเองไม่มีน้ำยา ทำให้ไม่สามารถทวงคืนประตูกลับมาและเอาแต้มออกไปได้  

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แฮร์มิลตันตัวเดียว ทำสะเทือนทั้งลีก”  

สรุปผลงาน หนองบัว พิชญ เอฟซี ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

การก้าวขึ้นมาสู่ไทยลีก 1 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ หนองบัว พิชญ เอฟซี แถมทำงานผลงานด้วยการเก็บแต้มแบบเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งเกินกว่าครึ่งเป็นการคว้าชัยชนะในบ้าน กระทั่ง พิชญ สเตเดี้ยม กลายเป็นนรกสำหรับทีมเยือน และเป็นที่เซอร์ไพรส์สำหรับน้องใหม่ที่ฟอร์มพุ่งกระฉูดเช่นนี้

ก่อนเริ่มเลกที่ 2 บอร์ดบริหารได้จัดการเสริมทัพแบบจัดหนัก โดยเฉพาะการคว้า ทาร์เดลี่ ที่เป็นดีลสะเทือนลีกไทยแบบของแท้ อีกทั้งการมายืนคู่กับ แฮร์มิลตัน มันก็ยิ่งเพิ่มความอันตรายในเกมรุกให้ก้าวไปอีกขั้น ซึ่งการเสริมทัพเช่นนี้ก็ดูสมเหตุสมผล เนื่องจากตลอดเลกแรก แฮร์มิลตัน จัดเป็นเดอะแบกของทีม แล้วเมื่อไรที่ทีมขาดแนวรุกผู้นี้ไป การยิงประตูของทีมก็หายไปและแต้มก็ตกหล่นตามไปด้วย ฉะนั้นการได้ ทาร์เดลี่ เข้ามาช่วย นอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระแล้ว การยิงประตูจะได้มีความสม่ำเสมอ รวมถึงการมองถึงอันดับในตารางให้สูงที่สุด

ผลงานยามเล่นในบ้านในเลกที่ 2 ยังคงเป็นจุดเด่นที่พวกเขามักเก็บ 3 แต้ม เว้นเสียแต่ในที่พบ บุรีรัมย์ ที่หลายฝ่ายจับตาว่าจะเป็นจุดพลิกผันให้ บีจี ปทุม กลับมาเบียดลุ้นแชมป์แบบเต็มตัวหรือไม่ แต่ท้ายที่สุดพวกเขาพ่ายแบบขาดลอยถึง 0-3 ส่วนเกมนอกบ้านยังมีสถิติที่ไม่ค่อยดี โดยกว่าจะคว้าชัยนอกบ้านนัดแรก ก็ต้องรอถึงนัดที่ 24 ที่บุกไปตบสุพรรณบุรี กระนั้นแม้ผลงานนอกบ้านจะไม่ค่อยดี แต่ก็มีเกมที่น่าจดจำ เช่น การบุกไปเสมอ บีจี ปทุม 1-1 แบบน่าชนะ, เกมบุกคว่ำ พีที ประจวบ 2-3 และเกมถล่ม โคราช 0-4 ในปิดฤดูกาล ทำให้เมื่อมองกลับไปที่ตารางคะแนน ทีมที่อยู่ด้านบนล้วนสะดุดกันเป็นทิวแถว นั่นจึงเป็นผลให้พญาไก่ชนของโค้ชวัง พุ่งทะยานและจบฤดูกาลในอันดับ 5 ซึ่งเป็นอันดับที่สูงลิบจนเกือบมีลุ้นคว้าตั๋ว ACL รอบเพลย์ออฟเสียด้วยซ้ำ

การที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี เลื่อนชั้นขึ้นมาปีแรกแล้วจบอันดับ 5 ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ทุกฝ่ายของทีมต้องภาคภูมิใจ แต่อาถรรพ์น้องใหม่ที่มักมีผลงานย่ำแย่ในฤดูกาลที่ 2 ถือเป็นเรื่องที่ทัพพญาไก่ชนต้องตระหนักและไม่เหลิงกับผลงานที่แล้วมา เพราะสิ่งเหล่านี้ได้เกิดให้เห็นมานักต่อนัก มิหนำซ้ำในฤดูกาลหน้า แฮร์มิลตัน ก็ได้เลือกที่จะย้ายทีมออกไป ฉะนั้นการหาตัวแทนเข้ามาถือเป็นเรื่องเร่งด่วน ส่วนผลงานก็อาจต้องมองการหนีตายให้รอดก่อนเป็นเบื้องต้น

ติดตาม ความSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ไปไม่สุด เพราะทีมเล็กไป”

สรุปผลงาน ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2021/22 มีการปรับนโยบายเรื่องขนาดทีม ด้วยจำกัดจำนวนผู้เล่นให้เหลือราว 20-25 คน โดยในจำนวนนี้จะเน้นเก็บตัวไทยและไม่เปลี่ยนโควต้าต่างชาติ ซึ่งในช่วงเริ่มต้นเหมือนจะไม่กระทบต่อทีม แต่เมื่อการแข่งขันผ่านไปเรื่อยๆ กว่างโซ้งมหาภัยเริ่มยืนระยะไม่ไหวและเผชิญกับผลงานอันย่ำแย่ โดยเฉพาะเกมในบ้านที่เก็บชัยได้น้อยนิด กลับกันพอเป็นเกมนอกบ้าน ผลงานดันไฉไลกว่าอย่างเห็นได้ชัด

จากผลงานที่หลุดจากเป้าหมายไปเยอะในเลกแรก ที่ปรึกษาอย่างบิ๊กฮั่น จึงไม่รอช้าที่จะต้องเสริมทัพแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการเสริมทัพตัวไทยได้ขอยืม สิโรจน์ มาจาก บีจี ปทุม, ยืม นิติพงษ์ จาก การท่าเรือ และโควต้าต่างชาติได้ดึง เก็ทเดอร์สัน เข้ามาแทน บิลล์ โรซิมาร์ ที่ปล่อยยืมตัวไปอยู่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ขณะที่โควต้าเอเชียได้ดึง คาโตะ มาแทน โช จีฮุน ที่กลับเกาหลีใต้ โดยการเสริมนักเตะของเชียงราย ในครั้งนี้ แน่นอนว่าพวกเขาหวังถึงแชมป์บอลถ้วย รวมถึงอันดับในลีกที่อย่างน้อยต้องท็อปโฟร์

การเสริมตัวนักเตะข้ามาใหม่ ดูไม่สร้างความแตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะในรายของ เก็ทเดอร์สัน ที่ดูจะไม่ตอบโจทย์และไม่สามารถทดแทนคนเดิมอย่าง บิลล์ ได้ เพราะนักเตะรายนี้เป็นนักเตะประเภทรอยิงในเขตโทษอย่างเดียว ต่างจาก บิลล์ ที่แม้จะเชื่องช้าเหมือนกัน แต่สามารถเชื่อมบอลและจบสกอร์ได้เฉียบคมกว่า เช่นเดียวกับ คาโตะ ที่เล่นไม่โดดเด่นเหมือน โช จีฮุน หรือ อียอง แล ที่เป็นโควต้าเอเชียก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเตะไทยอย่าง นิติพงษ์ ยังคืนฟอร์มเก่งแบบวันวานไม่ได้ และที่ดูจะล้มเหลวที่สุดคงหนีไม่พ้น สิโรจน์ ที่ยังโชว์ฟอร์มไม่ออกอีกครั้ง และน่าจะเป็นนักเตะรายแรกๆที่ต้องปล่อยออก

ผลงานแบบภาพรวมของ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด กับการจบอันดับที่ 6 ถือว่าเป็นไปตามเนื้อผ้า ถ้าดูจากจำนวนขุมกำลังที่มีอยู่ แต่หากมองจากเป้าหมายของผู้บริหาร ที่ต้องการมีลุ้นแชมป์และคว้าถ้วยใดถ้วยหนึ่งแบบต่อเนื่องมันก็เป็นไปได้ยาก เพราะขุมกำลังนักเตะไทยมีน้อย ตัวต่างชาติที่เคยปังเริ่มโรยราตามอายุ และที่สำคัญคือการเสริมทัพช่วงพักเลกที่ไม่ปังอย่างที่คาด ผลงานจึงดูน่าผิดหวังสำหรับผู้บริหารที่ตั้งเป้าสูง ฉะนั้นในฤดูกาลหน้า การเสริมทัพที่ตรงจุดและจัดสรรคงบให้เพียงพอ คือ การบ้านใหญ่ที่จะต้องให้สำคัญ เพราะหากมีระบบจัดการทีมที่ดี แล้วมีวัตถุดิบที่ดีตามไปด้วย ผลงานที่ดีก็ย่อมหวังได้

ติดตาม ความSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ชลบุรี เอฟซี ในเลกที่ 2

สรุปผลงาน ชลบุรี เอฟซี ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22 “ผลงานไม่ปัง เพราะฉลามพิการ”

การจบเลกแรกในอันดับที่ 3 ถือเป็นผลงานที่น่าพึงพอใจสำหรับ ชลบุรี เอฟซี เพราะโครงสร้างทีมเน้นใช้ตัวเยาวชนเป็นแกนหลัก ผสมกับต่างชาติที่ผ่านการคัดเกรดเพื่อเข้ามาประคองเด็กๆ นั่นจึงเป็นผลให้ทัพฉลามชลมีส่วนผสมที่ลงตัว และไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเสริมทัพในเลกที่ 2 เพราะมั่นใจในศักยภาพทีม

การเสริมทัพของ ชลบุรี เอฟซี ฮือฮาที่สุดคงหนีไม่พ้น ฟาอิค โบเกียห์ ซึ่งเป็นทายาทของราชวงษ์แห่งบรูไนที่มีสินทรัพย์ร่ำรวยติดอันดับโลก มาเสริมเกมทางริมเส้น ส่วนการปล่อยตัวผู้เล่นออกก็ได้ทำการขาย วรชิต ที่ปลุกปั้นมาตั้งแต่ 10 ขวบ ให้ บีจี ปทุม ด้วยราคา 36 ล้านบาท ส่วนการแข่งขันในเลกที่ 2 ผลงานเหมือนจะดีต่อเนื่อง แต่ทำไปทำมาดันออกอาการแบบช่วงต้นเลกแรก กล่าวคือ ผลงานดรอปไปดื้อๆ มิหนำซ้ำตัวผู้เล่นต่างชาติดันทยอยเจ็บแบบครบทีม จนถึงนัดที่ออกไปเยือน สุพรรณบุรี ที่ทั้งเสียตัวผู้เล่นเพราะโดนใบแดงและเสียตัวผู้เล่นระหว่างเกมเพราะอาการบาดเจ็บ ทำให้ในเลกที่ 2 โค้ชเตี้ยไม่สามารถจัดทีมแบบเต็มอัตราศึกได้เลย

การขาดหายไปของ วรชิต ดูจะไม่มีผลกระทบกับ ชลบุรี เพราะก่อนที่เจ้ายิมจะย้ายออกไป เจ้าตัวก็โดดเด่นเป็นบางนัดเท่านั้น ขณะที่การเข้ามาของ ฟาอิค โบเกียห์ ดูจะเป็นดีลที่คุ้มค่าไม่น้อย เพราะด้วยลีลาการกระชากบอลทางริมเส้น มันมักไปถึงเพื่อนที่รออยู่หน้าประตู กระนั้นแนวรุกชาวเกาหลีใต้อย่าง ยู บยอง ซู อยู่ๆได้เกิดอาการสากเข้าสิงห์และใช้โอกาสเปลื้อง อย่างไรเสียด้วยความที่แนวรุกประสบอาการบาดเจ็บกันหมด ทำให้ ยู ที่แม้จะโดนวิจารณ์อยู่เรื่อยๆ ได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องและยังดีที่สามารถยิงประตูสำคัญให้ทีมได้ตลอด

การที่ ชลบุรี เอฟซี จบอันดับที่ 7 ของตาราง ดูเหมือนจะน่าผิดหวัง เพราะด้วยการเสริมตัวต่างชาติแบบจัดเต็ม แต่หากมองจากสภาพขุมกำลังที่ไม่เคยอยู่ในสภาพสมบูรณ์ให้โค้ชเตี้ยได้จัดเลย มันก็พอจะเข้าใจได้ กระนั้นตัวที่เป็นดั่งความหวังสุดท้ายอย่าง ยู บยอง ซู ดันฟอร์มตก จนไม่สามารถช่วยฉุดโมเมนตัมของทีมให้ขึ้นมาได้ ส่วนในฤดูกาลถัดไป ฉลามชลต้องเผชิญต่อความท้าทายอีกครั้งกับการหานักเตะต่างชาติ โควต้าเอเชีย และอาเซียน เข้ามาแทนตัวที่ออกไป โดยหากหามาและทดแทนได้ ผลงานที่ดีก็สามารถหวังได้ แต่หากหามาแล้วไม่รุ่ง ผลงานของทีมก็อาจจะวนๆเวียนๆเหมือนในปีที่พึ่งผ่านพ้นไป

ติดตาม ความSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“มียวบแต่ยังดุ”

เมืองทอง ทำเสียว แต่ยังโชว์โหด ถล่ม สมุทรปราการ จมโซนแดง 5-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้ลุ้นทำอันดับให้สูงที่สุด จะต้องพบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่จำเป็นต้องเก็บชัยชนะแบบด่วนๆ มิเช่นนั้นการหนีตายจะลำบากขึ้นเป็นเท่าตัว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-1-4-1 เหมือนเคย ขณะที่ทีมเยือนเป็น 4-4-2 ตามเดิม

      การแข่งขันเริ่มไปเพียง 5 นาที เมืองทอง ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้น 1-0 จากการที่ พ็อพพ์ เลือกจะเลี้ยงตัดเข้าด้านหน้าและจ่ายให้ อานิเยร์ แต่งบอลและยิง ซึ่งในจังหวะนี้ต้องชมไหวพริบของ พ็อพพ์ ที่เห็นพื้นที่หน้าหัวกะโหลกว่างอยู่ แล้วเลือกเลี้ยงตัดเข้าไปจ่ายระยะเผาขน

ขณะเดียวกันก็ต้องกล่าวโทษแนวรับสมุทรปราการ ที่อ่านจังหวะบอลผิด กับการคิดว่าพ็อพพ์จะไหลบอลต่อและไปเปิดที่ริมเส้นหลังประตู จากนั้นนาทีที่ 12 กิเลนผยองมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากการลากจนสุดเส้นของ พ็อพพ์ และตบมาให้ อานิเยร์ ที่วิ่งเข้าพื้นที่ประจำการ ก่อนจะได้ยิงง่ายๆเพราะแนวรับทีมเยือนประกบไม่แนบและซ้อนไม่ทัน ส่วนช่วงท้ายครึ่งแรก แนวรับเขี้ยวสมุทรยืนป้องกันหลวม ทำให้ พ็อพพ์ เจ้าเก่าได้ยิงซ้ำที่เสาไกล  

ครึ่งหลัง แนวรับของเจ้าถิ่นมีความประมาทจนโดน สมุทรปราการ ตีตื้น 3-1  ซึ่งจากการเสียประตูตรงนี้มันได้กลายเป็นอาการตื่นจนโดนยิงไล่เป็น 3-2 จากการสกัดที่ไม่ดี เข้าถึงบอลช้า โรซ่า จึงได้ยิงแบบเด็ดขาด กระนั้นยังดีที่ครึ่งชั่วโมงหลัง แนวรับกิเลนผยองเรียกสติกลับมาได้ แล้วประคองเกมไปจนถึงช่วงท้ายเกม ก็มาได้ประตู 4-2 จากการเบิ้ลบอลเร็วของ ซาดอร์ แล้ว อริส สกัดไม่โดนบอล ทำให้ 2 ตัวที่รออยู่ ได้หลุดเข้าไปยิง จากนั้นไล่หลัง 2 นาที เมืองทองมาได้ประตูปิดกล่อง 5-2 จากการโหม่งโล่งๆและไร้ตัวประกบของ ซาดอร์

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด มีเกมรุกที่มีประสิทธิภาพพอสมควร อีกทั้งไม่ปรากฏให้เห็นปัญหาเมื่อเจอทีมเล็ก กระนั้นแนวรับ คือ สิ่งที่ต้องปรับปรุงต่อไป เพราะในช่วงต้นครึ่งหลังพอเสียประตู อาการรวนออกทันที ขณะที่ สมุทรปราการ ซิตี้ เกมในครึ่งแรกถือว่าสู้ไม่ได้ อีกทั้งยังโดนยิงทิ้งห่างแบบขาดลอย อย่างไรก็ตามในช่วงต้นครึ่งหลัง พวกเขามาตีตื้นได้ 3-2 ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นโอกาสดีที่โหมต่อเพื่อให้โมเมนตัมเหวี่ยงมาหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ยิ่งเล่นยิ่งแผ่ว แล้วสุดท้าย 2 ประตูที่ได้มา ก็ไร้ความหมายเพราะพวกเขาเสียประตูเพิ่มช่วงท้ายเกม

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แมนยู” ซ้อมอะไรกันบ้าง

เดอะแมตช์ แบงค็อก เซนจูรี่คัพ 2022 แมนยู ซ้อมอะไรกันบ้าง

เกมแดงเดือดครั้งแรกในทวีปเอเชียได้ผ่านพ้นไปแล้ว รวมถึง ณ ตอนนี้ที่ผู้ชนะในเกมเดอะแมตช์อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้ออกเดินทางไปลงเกมอุ่นเครื่องต่อที่ออสเตรเลีย ตั้งแต่หลังเกมราวเที่ยงคืน ซึ่งในการมาทัวร์ประเทศไทยครั้งนี้ ปีศาจแดงภายใต้การทำทีมของกุนซือของ เอริค เทน ฮาก จะเป็นอย่างไรบ้าง นับจากนี้เราจะมาสรุปกันเป็นข้อๆ   

เข้าแคมป์เร็ว เพื่อเร่งสร้างทีม

       แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มีการเรียกนักเตะกลับมาเข้าแคมป์ปรีซีซั่นตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับโค้ชใหม่อย่าง เอริค เทน ฮาก ที่จะมีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น เพราะตัวกุนซือไม่มีประสบการณ์ในเวทีพรีเมียร์ลีก รวมถึงการเข้ามารับงานปีศาจแดง ทุกคนย่อมรู้ถึงความกดดันและความคาดหวังที่มีอยู่มหาศาล กระนั้นการที่ โรนัลโด้ ไม่มารายงานตัวฝึกซ้อม มันก็ดูเหมือนจะเป็นปัญหา อีกทั้งการไม่มีนักเตะระดับบิ๊กเข้ามาสู่ทีมเสียที มันก็ได้เกิดความกังวลใจเล็กๆสำหรับแฟนบอล  

ระบบการซ้อมมีความเข้มข้น

      แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินทางถึงประเทศไทยในช่วงสายของวันเสาร์ที่ 9 กค นั่นจึงทำให้พวกเขามีเวลาซ้อมและปรับตัวมากกว่าคู่แข่ง โดยในการฝึกซ้อม การรับส่งบอลยังช้าและขาดๆเกินๆ ซึ่งเมื่อไรที่ เทน ฮาก เห็นถึงความผิดพลาดและไม่เป็นไปตามแผน เจ้าตัวจะเรียกนักเตะมาพูดคุยทันที ฉะนั้นมันจึงแน่นอนว่า แมนยู กำลังอยู่ในช่วงสร้างทีมและต้องใช้เวลา แต่จะถูกทางหรือไม่ เวลาจะเป็นตัวบ่งบอก นอกจากนี้ในการวอร์มอัพก่อนเกมอุ่นเครื่อง สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น คือ การยิงประตูของผู้เล่นปีศาจแดงเกือบ 80% มีความเฉียบคมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

จัดชุดใหญ่ในช่วงต้น และทยอยเปลี่ยนตัวลงมา

      แมนยู วางระบบ 4-2-3-1 ซึ่งเป็นระบบที่โซลชา เคยใช้เป็นแผนหลัก ส่วนตัวผู้เล่นที่จัดลงไปถือเป็นชุดที่เกือบฟูลทีม ซึ่งได้เล่นร่วมกันใน 45 นาทีแรก โดยสิ่งที่ได้เห็น คือ การต่อบอลจากแดนตัวเองยังต้องอาศัยการวางยาวเป็นหลัก กระนั้นด้วยความผิดพลาดของคู่แข่ง ตัวเองจึงมีโอกาสแถมยิงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ขณะที่ครึ่งหลังได้มีการเปลี่ยนผู้เล่นชุดใหม่ลงมา ซึ่งมีตัวจริงเพียงไม่มีกี่ราย ทำให้รูปเกมใน 45 นาทีหลัง ต้องเน้นการตั้งรับ และโต้กลับ แล้วด้วยความเฉียบคมจึงมาได้ประตูที่ 4 ในช่วงโค้งสุดท้ายของเกม  

สิ่งที่ต้องมองนับจากนี้

      ในเรื่องของระบบ การยืนพื้นที่ และวิ่งขยับหาช่อง คือ สิ่งที่ เทน ฮาก ต้องพัฒนาต่อ เพราะรูปแบบที่กล่าวมานี้ยังไม่ค่อยชัดเจน อีกทั้งยังเป็นปัญหาที่ แมนยู มักประสบมาตลอดในช่วงหลัง ฉะนั้นหากก่อนเปิดซีซั่น แมนยู สามารถทำเหล่านี้ได้ชัดเจนขึ้นได้ ผลงานที่ดีก็อาจจะอยู่ไม่ไกล

ติดตาม ความSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ยิงโหดเหมือนโกรธกันมา”

อิคซาน ดับเบิ้ล 4  พา บีจี ถล่ม ประจวบ 7-2 การันตีจบรองแชมป์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 29 ซึ่งเป็นการแข่งแบบล่วงหน้า ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ยังมีลุ้นแชมป์แบบห่างๆ จะต้องพบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ผลงานดีใช้ได้และไม่น่าจะเดือดร้อนต่อการหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนเป็น 3-5-2

ในช่วง 10 นาทีแรก บีจี ปทุม ต่อบอลได้ดีขึ้นกว่านัดที่ผ่านมา แต่ยังพาบอลไปไม่ถึงแดน 3-4 กลับกันพอเป็น พีที ประจวบ สวนกลับครั้งแรก ดันได้ประตูนำ 0-1 จากการเข้าพรวดของ อภิสิทธิ์ จนเสียจุดโทษ อย่างไรเสียแม้จะโดนนำแบบสุดช็อค แต่ บีจี ปทุม ก็ได้ประตูตีเสมอเร็ว จากการจ่ายแบบข้ามหลอกและมีช่องได้ยิง ซึ่งยิงไม่ดีมาก แต่ ขวัญชัย ดันรับบอลพลาดจนลอดขาเข้าประตู

หลังจาก บีจี ปทุม ตีเสมอ 1-1 ก็เหมือนกับเสือกระหายเหยื่อ เพราะได้ทำการปูพรมบุกใส่ ขณะเดียวกัน พีที ประจวบ เหมือนคนสติแตก นั่นจึงทำให้ประตู 2-1 เกิดขึ้น และสกอร์ไหลเป็น 3-1, 4-1 และ 5-1 พร้อมกับเป็นแฮตทริกของ อิคซาน ที่ยิงคนเดียว 4 ลูก

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม เริ่มประคองตัว ตรงข้ามกับ พีที ประจวบ ที่แม้จะโดนยิงห่าง แต่ก็พยายามจะบุกเพื่อทวงประตูตีตื้น จนมาได้ประตู 5-2 จากจุดโทษอีกหน ซึ่งในรอบนี้เป็น สันติภาพ ที่เข้าพรวด จากนั้น ประจวบ ยังบุกต่อ แต่มีจังหวะจ่ายพลาดและโดน ดิโอโก้ ลากไปจ่ายให้ ธีรศิลป์ ยิงเป็น 6-2 และประตู 7-2 ปิดท้าย มาจากจุดโทษบ้าง

      บทสรุปจากเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เล่นเริ่มด้วยฟอร์มการเล่นที่ดี แต่การโดนยิงนำแบบสุดช็อคตั้งแต่ต้นเกมไม่ได้มีผลให้รูปเกมเสีย พร้อมกันนั้นยังเล่นแบบเดิม จนมายิงประตูแบบกระหน่ำถึง 5 ลูกรวดในครึ่งแรก กระนั้นเกมรับต้องมีสมาธิต่อการเข้าสกัดที่ต้องแม่นยำกว่านี้ ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี โชคดีและคว้าโอกาสขึ้นนำได้ก่อน ซึ่งมันน่าจะเป็นความได้เปรียบที่ทำให้พวกเขาเล่นง่าย กระนั้นพอโดนยิงตีเสมอ เกมรับดันเกิดอาการสมาธิหลุดและมีช่องว่างมากมาย ทำให้โดนเจาะและยิงแบบรัวๆถึง 5 ประตูในครึ่งแรก และ 2 ประตู ในครึ่งหลัง โดยตรงจุดนี้ถือเป็นปัญหาที่โค้ชหระต้องแก้เป็นการด่วน มิเช่นนั้นจะเกิดความลำบากในนัดที่เหลือของฤดูกาล

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover