Categories
Sport

สรุปภาพรวม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23 “หยิบแชมป์ เหมือนดีดนิ้ว”  

สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน

สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างผลงานคว้าทริปเปิ้ลแชมป์อีกครั้งเมื่อฤดูกาล 2021/22 นั่นจึงทำให้พวกเขาคาดหวังว่าจะรักษาแชมป์ไว้ให้ได้ แล้วสุดท้ายฤดูกาลที่พึ่งจบลงไป ทัพปราสาทสายฟ้าได้สร้างสถิติคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน ซึ่งน่าจะเป็นทีมแรกและทีมเดียวในไทยลีกที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ดีในระหว่างที่พวกเขาลงแข่งขัน มันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะนำมาสรุปดังต่อไปนี้

มาซาทาดะ อิชิอิ ได้รับโอกาสคุมทีมต่อเนื่อง ซึ่งสภาพทีมถือว่าลงตัวและมีความพร้อม แม้จะเสียเจ้าเช็ค สุภโชค สารชาติ ที่ถูกขายขาดให้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ ส่วนในตลาดการซื้อขาย ตัวไทยเน้นซื้อเข้ามาเป็นอะไหล่ หรือดันตัวเด็กขึ้นมา ขณะที่โควตาต่างชาติไม่โละทิ้งแบบยกชุด แต่ใช้วิธีเติมเข้ามา อาทิ โกรัน เคาซิส  อย่างไรก็ดีในเกมไทยแลนด์แชมป์เปี้ยนส์คัพ พวกเขาประเดิมพ่ายต่อ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 3-2

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในช่วงเลกแรก ฟอร์มไม่ถึงขั้นเปรี้ยงปร้างนัก เพราะไม่ได้ยึดจ่าฝูงและทำได้เพียงเกาะกลุ่มหัวตาราง โดยวิธีการเล่นจะเน้นให้ อุ้ม ธีราทร วางบอลเป็นหลัก ขณะที่โควตาต่างชาติ ไม่ได้โชว์ให้เห็นว่าเหนือกว่านักเตะไทยเท่าไรนัก นอกจากนี้เกมรับก็มีปัญหา เพราะเสียประตูเกือบทุกนัดและต้องลุ้นเสียวอยู่ร่ำไป

สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23
สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23

ก่อนจบเลกแรก หลายทีมสะดุดขาตัวเอง แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เดินหน้าเก็บ 3 แต้ม ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้จบครึ่งทางด้วยการเป็นจ่าฝูง ขณะที่เลก 2 มีการเสริมตัวอาเซียนอย่าง ดิออน คูล ซึ่งมันช่วยให้เกมรับมีการแข่งขันเพื่อแย่งชิงโอกาสลงสนาม ขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูต้องหันเหไปใช้งาน นพพล ละครพล เพราะมือ 1 อย่าง ศิวรักษ์ มีอาการบาดเจ็บ โดยฟอร์มในช่วงแรกของโจนัส ก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่ไม่สามารถยืนระยะด้วยฟอร์มที่ดีได้ กระทั่งเกมเสมอกับ เมืองทอง 4-4 คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เจ้าแชมป์ ศิวรักษ์ กลับมาลงเฝ้าเสาในฐานะมือ 1 ตัวจริง

ในช่วงเลกที่ 2 บุรีรัมย์ เดินหน้าเก็บ 3 แต้ม ด้วยการใช้แท็กติกที่เน้นผลการแข่งขัน กล่าวคือนำแล้ว พยายามเล่นแบบระวัง กระทั่งท้ายเกมเน้นรับแน่นๆ อย่างไรเสียปราสาทสายฟ้ายิ่งมีแต้มทิ้งห่างมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทีมหัวตารางด้วยกันยังสะดุดแบบต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 8 ตั้งแต่นัดที่ 27 ของฤดูกาล

บุรีรัมย์ คว้าแชมป์ไทยลีกสำเร็จแล้ว แต่ก็พยายามจะสร้างสถิติแชมป์ไร้พ่าย ก่อนถูก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ดทำลายลง นั่นจึงทำให้ อิชิอิ เน้นเก็บตัวเพื่อไว้รอเล่นเกมนัดชิงบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ กระทั่งท้ายที่สุด สามารถคว้าถ้วยรีโว่ลีกคัพ กับช้างเอฟเอคัพ แบบไร้คู่ต่อกร พร้อมกับเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน  

สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23
สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปผลงาน หนองบัว พิชญ เอฟซี ฤดูกาล 2022/23 “ใหม่แทนเก่าไม่ได้”

สรุปผลงานหนองบัว พิชญ เอฟซี น้องใหม่จากไทยลีก 2 แต่สามารถจบฤดูกาลในอันดับที่ 6 ของไทยลีก 1 ได้

สรุปผลงานหนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ต่อตัวเอง ด้วยการเป็นน้องใหม่จากไทยลีก 2 แต่สามารถจบฤดูกาลในอันดับที่ 6 ของไทยลีก 1 ได้ กระนั้นหากใครเคยได้ยินเรื่อง second season syndrome ก็จะทราบดีว่ามันเป็นงานหินของทีมน้องใหม่ ที่จะทำผลงานในซีซั่นถัดมาให้ดีเหมือนซีซั่นแรก ซึ่งสุดท้ายมันก็ได้เกิดขึ้นกับพญาไก่ชน แถมเสียหายถึงขั้นตกชั้น เพราะพวกเขาเสียตัวต่างชาติที่เป็นเดอะแบกไป

ในช่วงปิดฤดูกาล แอร์ตอน กับ แฮร์มิลตัน ได้ถูก การท่าเรือ เอฟซี ตามจีบด้วยเม็ดเงินมหาศาล นั่นจึงทำให้นักเตะต่างชาติทั้ง 2 ราย เลือกโบกมือลา หนองบัว พิชญ เอฟซี ไป ซึ่งตรงนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของทีม เพราะในรายของ แอร์ตอน จัดเป็นปราการหลังที่ช่วยทีมให้รอดพ้นจากการเสียประตู ขณะที่ แฮร์มิลตัน ประตูที่เกิดขึ้นราว 80 % มาจากเจ้าตัว แถมช่วงที่ดาวโหม่งผู้นี้บาดเจ็บ ทีมก็มีผลงานที่ย่ำแย่ นั่นจึงทำให้ทีมเหลือตัวต่างชาติชื่อดังเพียงราวเดียว คือ ทาร์เดลี่

หนองบัว พิชญ เอฟซี มีผลงานที่ย่ำแย่ทันทีเมื่อฤดูกาลเปิดฉากขึ้น ไล่ตั้งแต่การบุกไปพ่ายทีมน้องใหม่อย่าง ลำปาง และใช้เวลาอยู่หลายนัดกว่าจะคว้าชัยชนะได้สำเร็จ ซึ่งชัยชนะนัดแรกเหนือ บีจี ปทุม เกิดขึ้นด้วยพลังแฝง หลังจากมีเหตุการณ์กราดยิงในพื้นที่ แต่หลังจากนั้นผลงานก็กลับมาลูปเดิม จนสุดท้ายโค้ชวัง ธวัชชัย ขอแสดงสปิริตลาออก และมีการเอา เอเมอร์สัน จากเชียงราย มาคุมทีมแทน

สรุปผลงานหนองบัว พิชญ เอฟซี ฤดูกาล 2022/23
สรุปผลงานหนองบัว พิชญ เอฟซี ฤดูกาล 2022/23

หนองบัว พิชญ เอฟซี เก็บแต้มในเลกแรกได้น้อย ทำให้ เอเมอร์สัน มีความกดดันพอสมควร แต่เลก 2 เล่นไปได้ไม่นาน เฮดโค้ชชาวบราซิลก็ได้ขอลาออก เพราะคุมทีมแล้วไม่ชนะใคร นั่นจึงทำให้บอร์ดบริหารเหมือนจะน้อมรับชะตากรรมว่าต้องตกชั้นในปีนี้ แล้วไปดึงโค้ชผู้ช่วยอย่าง ธีระเวคิน ขึ้นมาคุมทีม โดยผลงานที่ดูจะเป็นชิ้นโบว์แดงที่สุด คงหนีไม่พ้นการบุกไปชนะ บีจี ปทุม 1-3 แต่หลังจากนั้นก็พุ่งชนต่อความพ่ายแพ้ 5 นัดรวด จนต้องตกชั้นอย่างเป็นทางการในเกมที่ 27 เมื่อบุกไปพ่าย เมืองทอง 3-1

การตกชั้นในครั้งนี้ของ หนองบัว พิชญ เอฟซี ไม่ได้มีปัจจัยอะไรที่มากมาย นอกเสียจากการเสียตัวต่างชาติอย่าง แอร์ตอน และ แฮร์มิลตัน ไป แล้วไม่สามารถหาตัวต่างชาติคนใหม่มาทดแทนได้ เพราะจากรูปแบบการเล่นในฤดูกาลที่พึ่งจบลงไป ก็ไม่ได้ต่างจากฤดูกาลที่จบอันดับ 6 โดยเฉพาะการวางบอลจากด้านข้างให้ แฮร์มิลตัน ที่โหม่งเมื่อไร มีเปอร์เซ็นต์เป็นประตูสูงมาก กลับกันในฤดูกาลนี้ เมื่อโยนบอลแบบเดิมแล้วไม่มีใครโหม่งเข้า ประตูจึงไม่ได้ แต้มก็ไม่มี สุดท้ายจมโซนแดงแบบม้วนเดียวจนจบฤดูกาล

สรุปผลงานหนองบัว พิชญ เอฟซี ฤดูกาล 2022/23
สรุปผลงานหนองบัวพิชญ เอฟซี ฤดูกาล 2022/23

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปบทสัมภาษณ์บอสปวิณ ครั้งที่ 2 ปี 2023 (ตอนที่3)

สัมภาษณ์บอสปวิณ ประเด็นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย

สัมภาษณ์บอสปวิณ ราว 1 ชั่วโมงเศษ ในช่วงท้ายของรายการ ได้มีการพูดถึงประเด็นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย ที่ในตอนนี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่และไม่มีทางออกที่ชัดเจน ซึ่งการเป็นทีมใหญ่ของ บีจี ปทุม จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นกระบอกเสียงแก่เพื่อนสมาชิก ส่วนเรื่องปิดท้ายของการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ได้พูดถึงการนำ Rabbit girl กลับมาสร้างสีสันในสนามอีกครั้ง

ลิขสิทธิ์บอลไทย

วันที่มีการเรียกทั้ง 16 ทีม จากไทยลีก 1 เข้าประชุมเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอล ซึ่ง 3 ทีมยักษ์ใหญ่เป็นหัวโต๊ะ คือ การท่าเรือ บุรีรัมย์ และ บีจี ปทุม ที่ได้กล่าวในทางเดียวกันว่าไม่มีปัญหา ไม่ว่าทางออกจะจบด้วยการแยกตัวจากสมาคม เพื่อไปตั้งบริษัทบริหารกันเอง, การให้ 16 ทีม เป็นส่วนหนึ่งของหุ้นส่วนบริหารสมาคม หรือยอมรับเงื่อนไขจากผู้ที่ประมูลมา 50 ล้านบาท โดยบอสปวิณ ได้มีการกล่าวว่าทาง บีจี ปทุม ก็ได้นำประเด็นเหล่านี้กลับมาศึกษาถึงข้อดี-ข้อเสีย เพื่อนำไปแสดงความเห็นในการประชุมครั้งต่อไป แต่หากเป็นความคิดของบอสปวิณ เพียงคนเดียว ก็มองว่าทั้ง 16 ทีม จะต้องจับมือกันไว้ให้แน่นและนำความเป็นกลุ่มก้อนไปขายลิขสิทธิ์ ซึ่งมันจะเป็นการช่วยทีมขนาดเล็ก ให้มีกำลังพอที่จะสู้ทีมใหญ่ เพราะหากปล่อยให้ต่างคนต่างทำ ต่างไปออกไปหาช่องทางถ่ายทอดสดกันเอง ทีมใหญ่จะยิ่งทิ้งห่าง และทีมเล็กจะอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ กระนั้น บีจี ปทุม ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการถ่ายทอดสดในช่องของตัวเอง ถ้าสุดท้ายการเจรจาไม่บรรลุผล

สัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3
สัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3

reunion Rabbit girl

ในช่วงที่ฟุตบอลเริ่มบูมเมื่อราว 10 ปีก่อน บีจี ปทุม ถือว่าเป็นทีมแรกๆที่นำสาวสวยใส่หูกระต่ายมายืนเชียร์ทีมในทุกนัด กระทั่งกลายเป็นสัญลักษณ์ในชื่อ Rabbit girl และในช่วงหลังก็ได้มีการคัดเลือกเข้ามา แต่ในช่วง 2-3 ปีหลัง กลับไม่มี Rabbit girl เหมือนดังที่เป็นมา นั่นจึงทำให้แฟนบอลเข้ามาถาม และบอสปวิณ ได้ตอบกลับมาว่า สโมสรได้เล็งเห็นถึงประเด็นนี้ ทำให้ปีหน้าจะมีการ Reunion Rabbit girl โดยจะเรียก Rabbit girl ทุกชุด ตั้งแต่รุ่นแรกเมื่อปี 2009 เพื่อเข้ามาช่วยกันเชียร์บริเวณ south stand ฉะนั้นหากใครอยากเจอ Rabbit girl ในยุคบุกเบิก ก็สามารถมาเจอได้ที่สนามในฤดูกาลหน้า

ส่วน BG Man อาจจะเหลือเพียงตำนาน เพราะ 2 คน ที่เคยทำหน้าที่ ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในท้องที่จังหวัดปทุมธานีแล้ว ขณะที่มาสคอร์ต กฎการแข่งขันแจ้งว่าไม่สามารถลงมาในสนามได้ นั่นจึงทำให้บอสปวิณ ไม่มีความคิดจะนำกลับมาอีก

สัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3
สัมภาษณ์ บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปบทสัมภาษณ์บอสปวิณ ครั้งที่ 2 ปี 2023 (ตอนที่2)

บทสัมภาษณ์บอสปวิณ การคว้าตัวเจ ชนาธิป อัพเดทเรื่องสนามแข่ง

ในช่วงครึ่งแรกของรายการ บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ได้อัพเดทถึงเรื่องสนามแข่ง สนามซ้อม ตั๋วปี และเสื้อแข่งขัน ส่วนในครึ่งหลังของรายการ ก็ได้พูดถึงการเสริมทัพของ บีจี ปทุม ว่ามีเป้าหมายอย่างไรสำหรับฤดูกาลที่มาถึง ขณะที่การเสริมทัพนักเตะก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการคว้าตัว เจ ชนาธิป กลับมาเล่นในไทย นอกจากนี้ยังพูดถึงนักเตะที่ต้องเก็บกระเป๋าออกจากทีม ว่ามีเหตุอะไรที่ต้องแยกทางกัน ซึ่งทั้งหมดได้สรุปไว้แล้วด้านล่างนี้

การเสริมทัพนักเตะ และ เป้าหมายในฤดูกาลหน้า

การปลด แมตต์ สมิธ เป็นการจากกันด้วยดีตามวิถีทางฟุตบอล และในตอนนี้ก็ได้กลับไปเรียนโค้ชที่ประเทศออสเตรเลียบ้านเกิด ส่วนการดึงโค้ชธง ธงชัย สุขโกกี เข้ามาเป็นเฮดโค้ช ก็เพราะเล็งเห็นถึงฝีมือและแนวคิดจาการทำช่อง Youtube อีกทั้งความสัมพันธ์กับโค้ชธง ก็มีมาอย่างยาวนานและใกล้ชิดยิ่งขึ้นเมื่อมาคุมทีม นครปฐม ยูไนเต็ด สุดท้ายจึงไว้วางใจให้เข้ามาคุม บีจี ปทุม โดยไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องถึงแชมป์ เพราะเมื่อไรที่ตั้งเป้าหมาย ก็มักจะผิดหวังเสมอ แต่จากการประเมินวัตถุดิบนักเตะ บอสปวิณ มองว่าอย่างน้อยก็ควรจบท็อปโฟร์ ขณะที่การดึง เนติพงษ์ ศรีทองอิน เข้ามาเป็นโค้ชกองหน้าของทีมชุดเยาวชน ก็ได้พ่วงงานชุดใหญ่ไปด้วย เพราะตัวโค้ชมีความสนุกกับงาน เช่นเดียวกับนักเตะที่อยากเรียนรู้วิชา โดยเฉพาะการปั้น กุดต๊าฟสัน ที่อันเฟรดตั้งใจจะถ่ายทอดวิชาให้เป็นศูนย์หน้าตัวท็อปให้ได้   

บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2
บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2

 การซื้อตัว ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ถือเป็นดีลใหญ่สุดของตลาดซื้อขายรอบนี้ โดย บีจี ปทุม ได้ยื่นซื้อและแสดงความสนใจอย่างจริงจัง ซึ่งทางฝั่งนักเตะเอง ก็มีความต้องการให้ดีลนี้จบลงก่อนจะไปเล่นให้ทีมชาติไทย ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ทำให้การคุยกับ ฟอนตาเล่ ต้องรีบคุยให้จบใน 3 วัน สุดท้ายจบด้วยการจ่ายเงินซื้อขาด 70 ล้านบาท ขณะที่ในรายอื่น บอสปวิณได้อัพเดทแบบรายตัว ไล่ตั้งแต่ ธีรศิลป์ มีสัญญาถึงอายุ 37 ปี ถ้าไหวก็พร้อมต่อ, การดึง วิคเตอร์ กลับมา ก็เพื่อเป็นพี่เลี้ยงนักเตะต่างชาติและผู้นำทีมในห้องแต่งตัว สุดท้าย ชาตรี ฉิมทะเล ได้ส่งเจ้าตัวไปฝึกหัดเป็นโค้ชชุดเยาวชน หลังจากแขวนสตั๊ดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

ฝั่งขาออก วรชิต ต้องการโชว์ฟอร์มเก่งต่อเนื่องที่การท่าเรือ จึงต้องจำยอมขายขาด, ปฐมพล ไม่ลงตัวกับระบบใหม่ จึงปล่อยออกจากทีมถาวร,  ศิวกร เตียนตระกูล ตกลงค่าตัวกับ เชียงราย แล้ว แต่นักเตะไม่อยากย้าย ดีลนี้จึงพับเก็บลงลิ้นชัก สุดท้ายนักเตะที่ถูกปล่อยไปอยู่กับทีมพันธมิตร โดยเฉพาะ เชียงใหม่ เอฟซี ก็ได้มีปล่อยตัวเพื่อลดค่าใช้จ่าย

บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2
บทสัมภาษณ์ บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

วิเคราะห์-ฟันธงแชมป์ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2023/24

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์แบบตัวเต็

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 จะเริ่มต้นออกสตาร์ทในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งในช่วงปิดฤดูกาลราว 2 เดือน ทุกทีมต่างเตรียมความพร้อมเพื่อให้เป้าหมายประสบความสำเร็จ และในส่วนของทีมลุ้นแชมป์ ถือว่าดุเดือดตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เพราะทุกทีมต่างเสริมนักเตะแบบไม่มีใครน้อยหน้า ฉะนั้นในบทความนี้ เราจะมาวิเคราะห์ถึงทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์แบบตัวเต็ง ไปจนถึงม้านอกสายตาที่อาจสร้างปรากฏการณ์ให้ต้องตะลึ่ง  

เต็งแชมป์ กับ ผู้ท้าชิง

 เต็งแชมป์ยังไงก็ต้องให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่แม้จะพลาดท่าในถ้วยไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ  แต่ด้วยทรงบอลในบางช่วงก็ยังดูน่ากลัวอยู่ อีกทั้งตัวต่างชาติที่เสริมเข้ามาใหม่ หากเข้าที่เข้าทางเมื่อไร เชื่อยังไงก็น่ากลัว ส่วนผู้ท้าชิงคนสำคัญขอยกให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เริ่มเตรียมทีมตั้งแต่ปลายฤดูกาลที่แล้ว ด้วยการดึงโค้ชธง มาคุมทีม พร้อมกับทำบิ๊กดีลด้วยการพา ชนาธิป กลับบ้าน ทำให้แผงกองกลางจัดว่าแข็งปานหิน เพราะอุดมไปด้วยตัวทีมชาติทั้งสิ้น แต่จะได้มากหน่อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับแผนงานของโค้ชธง กลับกันหากหลุดโค้งแบบไม่มีลุ้นแชมป์ นี่จะเป็นความล้มเหลวของทีมและตัวโค้ชธง

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 วิเคราะห์-ฟันธงแชมป์ 2023/24
ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 วิเคราะห์-ฟันธงแชมป์ 2023/24

ตัวสอดแทรก

 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ถูกจัดให้เป็นเต็งลุ้นแชมป์ทุกปี แต่ไม่น่าเชื่อว่าทีมใหญ่อย่างแข้งเทพ จะหลุดโค้งในช่วงปลายเลกแรกถึงต้นเลกสองเป็นประจำทุกปี กระทั่งท้ายจบฤดูกาลด้วยบทบาทพระรองมาตลอด ฉะนั้นก็ยังเชื่อว่า บียู จะต้องอกหักไปอีกปี แม้จะพึ่งคว้าแชมป์แรกมาได้หมาดๆ ขณะที่ตัวสอดแทรกอีกทีมคือ การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งเป็นทีมใหญ่ มีเงินหนา และเคยคว้าแชมป์บอลถ้วย แต่ยังไม่เคยไปถึงการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด เพราะการบริหารทีมยังไม่มืออาชีพพอ ฉะนั้นการทำผลงานให้ดีอย่างสม่ำเสมอ อันดับอยู่หัวตาราง หรือมีลุ้นแชมป์แบบห่างๆ คงเป็นที่น่าพอใจสำหรับบอร์ดสิงห์เจ้าท่า   

ม้ามืด-ตัวละครลับ 

 ชลบุรี เอฟซี ปรับโครงสร้างทีมด้วยการดึงโค้ชเทกุซัง มาทำทีมตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้เชื่อได้ว่าฉลามชลจะต่อกรกับทีมใหญ่ได้อย่างแน่นอน แต่ปัญหาของทีมคงหนีไม่พ้นเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะ ที่มักเดี้ยงระนาวเมื่อถึงช่วงกลางฤดูกาล ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้ ชลบุรี ต้องหมดลุ้นแชมป์มาหลายปีแล้ว ฉะนั้นหากแก้ตรงจุดนี้ได้ ก็เชื่อว่าพวกเขาพร้อมจะเป็นตัวสอดแทรกอีกทีม

เมืองทอง ยูไนเต็ด อาจจะไม่เหลือสภาพของความเป็นทีมใหญ่ แต่จากผลงานที่ผ่าน 2 ฤดูกาล ก็จะเห็นได้ว่าพวกเขาสามารถโกยแต้มจนขึ้นมาจบอันดับ 4 ได้ ฉะนั้นหากพวกเขามีความผิดพลาดน้อยลงกว่านี้ การคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 5 อาจจะพอมีหวังอยู่บ้าง

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 วิเคราะห์-ฟันธงแชมป์ 2023/24
ศึกฟุตบอลไทยลีก1 วิเคราะห์-ฟันธงแชมป์ 2023/24

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“โป้งเดียว 3 แต้ม” เมืองทอง ยิงนับครั้งไม่ถ้วน พ่าย เชียงราย ยิงโป้งเดียว 0-1

นัดเปิดฤดูกาล ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เมืองทอง vs เชียงราย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดเปิดฤดูกาล ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนาธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่คว้าอันดับ 4 เมื่อฤดูกาลก่อน เปิดบ้านรับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่จบอันดับ 5 ซึ่งการพบกันของทั้ง 2 ทีมในช่วงหลัง เป็นกว่างโซ้งมหาภัยที่มักทำแสบใส่ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-1-4-1 และทีมเยือนในผัง 4-4-2

เมืองทอง ดูจะมีรูปเกมที่ดีกว่า กับการครองบอล เคาะบอล และอาศัยการโจมตีทางริมเส้นเมื่อถึงแดน 3เพื่อป้อนเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่การเสียบอลกลางทางในนาทีที่ 21 และแนวรับกิเลนผยองยืนตำแหน่งผิดพลาด ก็ได้ถูก เชียงราย ลงโทษหนักด้วยการยิงประตูนำ 0-1 ซึ่งต้องชมคนยิงอย่าง เศรษฐสิทธิ์ ที่เลือกยิงทันที เพราะหากช้ากว่านี้อาจติดบ็อคได้ จากนั้น เมืองทอง พยายามเดินหน้าต่อและมีโอกาสแบบเหน่งๆ แต่ดันยิงไม่เข้าเอง ทำให้ 45 นาทีแรก ยังตามทีมเยือนอยู่ 0-1

นัดเปิดฤดูกาล ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เมืองทอง พ่าย เชียงราย 0-1
นัดเปิดฤดูกาล ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เมืองทอง พ่าย เชียงราย 0-1

ครึ่งหลัง เชียงราย เล่นเกมรับตามแท็กติกถนัด แต่จากที่เห็นในวันนี้ แนวรับกว่างโซ้งไม่ได้เหนียวแน่นและมีรูรั่วให้คู่แข่งโจมตี ไม่ต่างจากเกมรุกที่นับตั้งแต่ยิงได้ ก็ไม่มีโอกาสได้เข้าทำหรือยิงแบบเสียวๆอีกเลย ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง พอเจอแท็กติกเกมรับก็ยิ่งเจาะยาก แต่ก็ยังพอมีโอกาสอยู่บ้าง กระนั้นพวกเขาดันไม่คมเอง ทำให้ยิงตีเสมอไม่ได้และต้องพ่ายคาถิ่นตั้งแต่นัดแรก

 บทสรุปจากเกม เมืองทอง ยูไนเต็ด เริ่มต้นเกมด้วยความคึกคักว่าจะค่อยๆเจาะจนยิงประตูได้ แต่ความผิดพลาดที่เสียบอลกลางทางจนเสียประตู ก็ได้กลายเป็นตัวเร่งให้พวกเขาต้องยิงประตูให้ได้ อย่างไรเสียก็ต้องโทษแนวรุกที่ยิงไม่คมเอง เพราะโอกาสมีอยู่เรื่อยๆและเกมรับของคู่แข่งไม่ได้เหนียวแน่นอะไรขนาดนั้น

ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด สภาพทีมดูเป็นรองเจ้าบ้าน ทั้งตอนที่เสมอกัน หรือตอนที่ตัวเองยิงนำแล้ว เพราะแท็กติกเกมรับเหนียวๆแน่นๆที่มักใช้เมื่อขึ้นนำคู่แข่ง วันนี้ไม่ได้เหนียวแน่นและมีรูรั่วให้คู่แข่งโจมตี ซึ่งโชคดีมากที่คู่แข่งยิงไม่เฉียบคมเอง นอกจากนี้เกมโต้กลับยังดูขาดไอเดีย ดังจะเห็นได้จากสถิติที่ออกมาว่าพวกเขาไม่มีโอกาสยิงอีกเลยหลังจากยิงประตูได้ ฉะนั้นเกมรับต้องปรับให้กลับมาเหนียวแน่นดังเดิม และเกมรุกต้องมีไอเดียการสวนกลับ หรือเก็บบอลเพื่อถ่วงเวลามาบ้าง มิใช่ปล่อยให้เกมรับเล่นตลอด 45 นาทีในครึ่งหลัง  

นัดเปิดฤดูกาล ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เมืองทอง พ่าย เชียงราย 0-1
นัดเปิดฤดูกาลศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เมืองทอง พ่าย เชียงราย 0-1

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แชมป์แรกที่รอคอย” บียู พลิกล็อค ฝัง บุรีรัมย์ 0-2

ศึกฟุตบอลไดกิ้น ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ 2023 บียูปลดล็อคแชมป์แรก

ศึกฟุตบอลไดกิ้น ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ 2023 อันเป็นสัญญาณว่าฟุตบอลไทยลีก 1 กำลังจะเริ่มต้นในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า โดยคู่ชิงในปีนี้เป็นการพบกันระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ 3 ถ้วย กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด รองแชมป์ไทยลีก 1 ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ปราสาทสายฟ้ามาในระบบ 4-4-2 ขณะที่แข้งเทพใช้ผัง 4-3-3

ทรู แบงค็อก พยายามต่อบอลสั้น ทำชิ่ง 1-2 และขยับไปข้างหน้า แล้วเพียงแค่ 8 นาที ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 0-1 จากการแย่งบอลทุ่ม แล้ว รุ่งรัฐ จ่ายแทงตรงๆให้ โมต้า ได้หลุดเข้ายิง ซึ่งจังหวะนี้ คู่แนวรับบุรีรัมย์พลาดเต็มๆที่เปิดพื้นที่กว้างไว้ จากนั้น บุรีรัมย์ เป็นฝ่ายทำบุกใส่บ้าง ด้วยการโจมตีจากด้านข้าง แต่ไม่ประสบผล เมื่อเจอแนวรับที่เหนียวแน่นของ บียู แม้จะพยายามวางบอลข้ามฟากเพื่อเปิดพื้นที่ หรือลากตัดเข้าในเพื่อยิงเร็ว

ศึกฟุตบอลไดกิ้น ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ 2023 บียู ชนะ บุรีรัมย์ 0-2
ศึกฟุตบอลไดกิ้น ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ 2023 บียู ชนะ บุรีรัมย์ 0-2

 ครึ่งหลังเริ่มมา 4 นาที บียู หนีห่างเป็น 0-2 จากการวางบอลยาวทางด้านข้างให้ นิติพงษ์ หักหลบ ศศลักษณ์ จนก้นกระแทรกพื้น ก่อนจะเปิดให้ ม๊าดมู๊ด กระโดดแปรเข้าไป ซี่งตัวประกบที่อยู่ใกล้ๆอย่าง นฤบดินทร์ ประมาทที่ปล่อยให้วิ่งผ่านหน้า ทำให้ตามไปประกบไม่ทัน และจากนี้จนจบเกม บุรีรัมย์ เหมือนคนถอดใจ เพราะแม้ว่าจะครองบอลและบุกใส่ตลอด แต่มันได้แค่จ่ายขวางไปมาและยิงไกลจากนอกกรอบ กลับกัน บียู ที่ตั้งรับแบบไม่กดัน พวกเขามีโอกาสสวนกลับหลายครั้ง แต่เหมือนว่าตรงจุดนี้จะยังไม่ลงตัว เพราะไลน์การวิ่งยังดูสับสนจนจังหวะเสียไป สุดท้ายต้องยิงจากระยะที่ไม่อันตรายเท่าที่ควร

บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พลาดก่อนด้วยการเสียประตูตั้งแต่ 8 นาทีแรก ทำให้ต้องเร่งเกมบุกและไปเข้าทางคู่แข่งที่มาตั้งรับได้เหนียวแน่น แต่เกมยิ่งเลวร้ายลงเมื่อเสียประตูที่ 2 ตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ซึ่งเกมรับมีความผิดพลาดซ้ำ จนในช่วงเวลาที่เหลือ เหมือนคนที่ขาดความมั่นใจว่าจะทำเกมบุกอย่างไร เพราะภาพที่เห็นในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย คือการยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษเพียงอย่างเดียว ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด การเข้าทำด้วยการเล่นไม่กี่จังหวะและไม่กี่คน คือตัวแปรที่ทำให้พวกเขาได้ประตู เช่นเดียวกับเกมรับที่เหนียวแน่นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน คือตัวแปรที่สองที่ทำให้พวกเขาเล่นอย่างสบายใจและชนะไปในท้ายที่สุด แต่เกมสวนกลับเหมือนจะยังไม่ลงตัวและต้องไปปรับแก้ เพราะหากมีความลงตัวมากกว่านี้ สกอร์สามารถไหลไปได้มากกว่า 2 ลูก  

ศึกฟุตบอลไดกิ้น ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ 2023 บียู ชนะ บุรีรัมย์ 0-2
ศึกฟุตบอลไดกิ้นไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ 2023 บียู ชนะ บุรีรัมย์ 0-2

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปผลงานนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ฤดูกาล 2022/23 “ร่วงเพราะเปลี่ยนเยอะ”

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี สรุปผลงาน ฤดูกาล 2022/23

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งผู้บริหารมาตั้งแต่ปลายฤดูกาลก่อน นั่นจึงทำให้โครงสร้างของทีมเปลี่ยนไป ไล่ตั้งแต่โค้ชที่ใช้ของนอกจากอังกฤษ รวมถึงนักเตะต่างชาติที่มีการเปลี่ยนเกือบยกแผง กระนั้นผลงานกลับไม่เป็นไปตามที่วางไว้ แถมช่วงกลางฤดูกาลมีการเปลี่ยนขั้วบอร์ดบริหารมาเป็นชุดเดิม ซึ่งการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ได้มีผลต่อการเตรียมทีม สุดท้ายโคราชกลายเป็นทีมท้ายสุดที่ต้องตกชั้นในรอบ 9 ปี ของสโมสร

บอร์ดบริหารของนครราชสีมา มาสด้า ยังเลือกที่จะใช้บริการ แบ็คเวลล์ พร้อมกับมีนโยบายโละนักเตะต่างชาติเกือบยกเซต ยกเว้น ชาร์ลี คลัฟ ปราการหลังที่มีสัญชาติอังกฤษเหมือนกัน ส่วนฝั่งนักเตะไทยเน้นยืมและเซ้งของเลหลังจากทีมอื่น นั่นจึงทำให้เลกแรกของโคราช มีผลงานในลูปเดิมๆ คือวนเวียนอยู่บริเวณท้ายตาราง แต่เมื่อผ่านไปราว 10 นัด สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่ แถมบอร์ดบริหารและโค้ชอย่าง แบ็คเวลล์ เหมือนจะรู้ชะตากรรมว่ายังไงก็ต้องโดนเชือด จึงไม่มาคุมทีมข้างสนาม พร้อมกับปล่อยให้นักเตะเล่นไปตามยถากรรม

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กับผลงานในฤดูกาล 2022/23
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กับผลงานในฤดูกาล 2022/23

สภาพทีมโคราชก่อนจบเลกแรก ถือว่าเละแบบไม่มีชิ้นดี ซึ่งกว่าทีมจะมีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหารกลับมาเป็นชุดเดิม เลกที่ 2 ก็ผ่านไปแล้ว 3-4 นัด นั่นจึงทำให้โค้ชใหม่หน้าเดิมอย่าง ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น ไม่มีเวลาได้เตรียมและเสริมนักเตะใหม่ อีกทั้งต้องใช้นักเตะที่มีอยู่เพื่อหนีตายแบบเต็มตัว ซึ่งการเข้ามาทำทีมต้องรอถึง 5 นัด กว่าจะคว้าชัยชนะนัดแรก กระนั้นมันก็มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่สวาทแคทฟอร์มแรงจนเก็บชัยชนะแบบติดต่อกันได้ ทำให้โอกาสรอดตกชั้นดูเปิดกว้างขึ้นทันที

การบุกไปพ่าย บีจี ปทุม 5-2 ได้กลายเป็นเป็นจุดหักเหในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล เพราะหลังจากนั้นอีก 5 เกม โคราชไม่ชนะใครอีกเลย ทำให้อันดับที่เคยขึ้นไปถึงที่ 10 ของตาราง ค่อยๆถอยลงมาจมโซนแดง จนเกมที่เปิดบ้านพบ โปลิศ เทโร เอฟซี กลายเป็นเกมแห่งฤดูกาล เพราะต้องชนะเพื่ออยู่รอด แต่สุดท้ายพวกเขาพ่ายคาบ้าน กระทั่งต้องไปลุ้นปาฏิหาริย์ในเกมสุดท้าย กระนั้นมันก็ไม่เกิดขึ้น เมื่อสวาทแคทบุกไปพ่ายบุรีรัมย์แบบเละเทะถึง 4-0        

การตกชั้นของ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ถือเป็นสิ่งที่คู่ควร เพราะการเสริมทัพก่อนเปิดฤดูกาล ไม่สามารถทดแทนตัวที่ออกไปได้ โดยเฉพาะตำแหน่งหน้าเป้าที่ไม่ได้แม้แต่ครึ่งของ คาริคารี่ หรือ มูริลโล่ แถมการเปลี่ยนขั้วบอร์ดบริหารก็มาเกิดขึ้นหลังจากการเลกที่ 2 เตะไปแล้ว นั่นจึงทำให้การเตรียมความพร้อมเป็นรองทีมอื่น แม้โค้ชโจจะพยายามใช้ระบบทีเวิร์คเข้าสู่แล้วก็ตาม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยืนระยะได้และต้องตกชั้นไปเล่นไทยลีก 2 หลังจากเคยเล่นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2014

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี กับผลงานในฤดูกาล 2022/23
นครราชสีมามาสด้า เอฟซี กับผลงานในฤดูกาล 2022/23

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ย้อนรอยลิขสิทธิ์บอลไทย จากติดลบสู่พันล้าน และจากพันล้านสู่ศูนย์บาท  

ลิขสิทธิ์บอลไทย ก่อนจะมีมูลค่าสูงส่งและกลับคืนสู่สามัญ

ถือเป็นกระแสที่ร้อนระอุและน่าตกใจในเวลาเดียวกัน สำหรับลิขสิทธิ์ถ่ายสดฟุตบอลไทยที่เคยสูงถึงพันล้านบาท แต่การบริหารของสมาคมฟุตบอลชุดนี้ มีแต่สาละวันเตี้ยลง กระทั่งมีการเรียกสโมสรสมาชิกไทยลีก 1 มาประชุมกันและแจ้งว่ามีผู้ประมูลเพียง 1 เจ้า โดยให้ราคาเพียง 50 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งนับจากนี้ต้องไปตามกันต่อว่าจะมีการแยกตัวออกมาตั้งบริษัทและบริหารกันเองหรือไม่ รวมถึงข่าวที่บอกว่าจริงๆแล้วมีการยื่นมา 300 ล้านบวกๆ แต่ที่เสนอไป 50 ล้านบาท ก็เพราะเกมการเมืองนั่นเอง กระนั้นในบทความนี้จะพาไปดูถึงวิวัฒนาการของ ลิขสิทธิ์บอลไทย ที่หลายคนยังไม่รู้ว่าเคยติดลบ ก่อนจะมีมูลค่าสูงส่งและกลับคืนสู่สามัญเฉกเช่นวันนี้

ปี 2539 – 2545 เป็นยุคเริ่มแรกของฟุตบอลไทยลีก ซึ่งตอนนั้นไม่มีมูลค่าทางการตลาด นั่นจึงทำให้สมาคมฟุตบอล ต้องออกเงินเพื่อซื้อเวลาของสถานีโทรทัศน์ในช่วง 4 โมงเย็น – 6 โมงเย็น สำหรับการถ่ายทอดสด กระทั่งปี 2545 ทรูวิชั่น อาสาเข้ามาช่วยถ่ายทอดสดแบบฟรีๆ เพื่อเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ของช่องทางดาวเทียม และหลังจากนั้นก็มีช่อง 11 เข้ามาช่วยถ่ายในบางคู่

กระแสบอลไทยเริ่มเฟื่องฟูอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะไม่ว่าจะทีมใหญ่หรือทีมตามต่างจังหวัด แฟนบอลต่างเข้ามาชมเกมจนเต็มความจุของสนาม ทำให้การขายลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีก เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2552 โดยสยามกีฬาจ่ายเงินให้สมาคมฟุตบอลเป็นมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท / ปี กระทั่งปี 2554 ฟุตบอลไทยเติบโตต่อเนื่องแบบฉุดไม่อยู่ นั่นจึงทำให้ทรูวิชั่น เข้ามาประมูลและคว้าลิขสิทธิ์ด้วยวงเงินถึง 200 ล้านบาท / ปี ซึ่งมากกว่าเดิมถึง 5 เท่า

ลิขสิทธิ์บอลไทย ย้อนรอยจากติดลบสู่พันล้าน และกลับคืนสู่สามัญ
ลิขสิทธิ์บอลไทย ย้อนรอยจากติดลบสู่พันล้าน และกลับคืนสู่สามัญ

ปี 2557 ทรูวิชั่นที่เสียลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปให้กับ CTH จำเป็นต้องเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อคว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีกให้อยู่มือ นั่นจึงทำให้บริษัทยื่นซองประมูลให้กับสมาคมฟุตบอล เป็นมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท / ปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 3 เท่า จากนั้น 3 ปีให้หลัง ก็ยังคงเป็น ทรูวิชั่น ที่คว้าลิขสิทธิ์ไปด้วยราคา 1,050 ล้าน / ปี ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากๆ

ปี 2564 ทั่วโลกเผชิญต่อวิกฤตโควิด-19 ทำให้ฟุตบอลต้องเลื่อนเตะ แฟนบอลเข้าไปชมในสนามไม่ได้ นั่นจึงทำให้ ทรูวิชั่น ขอลดมูลค่าที่จะประมูล ตรงข้ามกับ เซนส์ที่กล้าทุ่ม 1200 ล้านบาท / ปี และนั่นทำให้สมาคมฟุตบอลเลือกผู้ถือลิขสิทธิ์เจ้านี้ แต่เมื่อผ่านไปสักพักก็ขอถอนตัว เพราะรู้ชะตากรรมว่าจะต้องขาดทุน สุดท้าย AIS ได้ส้มหล่นในมูลค่า 300 ล้านบาท / ปี เท่านั้น

จากที่ไล่เรียงมาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าสมาคมฟุตบอลชุดก่อนๆต้องใช้เวลาอยู่นาน กว่าจะขายลิขสิทธิ์จนเกิดมูลค่าขึ้นมา ขณะที่ตัวแปรอย่างทรูวิชั่น ถือเป็นการสำคัญที่ทำให้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทย มีมูลค่าสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดทุกครั้งเมื่อมียื่นซองประมูล แต่การฉีกซองและหันเหไปเลือกบริษัทน้อยใหม่อย่างเซนส์ ถือเป็นจุดหักเหที่ทำให้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทย มีมูลค่าต่ำลงแบบน่าใจหาย และที่น่าใจหายกว่า คือมูลค่าในตอนนี้มันเทียบเท่ากับช่วงที่ฟุตบอลไทยขายลิขสิทธิ์ครั้งแรก  

ลิขสิทธิ์บอลไทย ย้อนรอยจากติดลบสู่พันล้าน และกลับคืนสู่สามัญ
ลิขสิทธิ์บอลไทยย้อนรอยจากติดลบสู่พันล้าน และกลับคืนสู่สามัญ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“รูดไม่หยุด ฉุดไม่ขึ้น” ชลบุรี บู่จนชิน โดน เชียงราย สอยถึงถิ่น 1-3  

นัดที่ 26 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ชลบุรีพบเชียงราย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 เกมในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ผลงานในตอนนี้ย่ำแย่สุดๆ เพราะไม่ชนะใครมา 7 เกมติดต่อกันแล้ว จะต้องพบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ไม่ชนะใครมาหลายเกมแล้วเหมือนกัน ฉะนั้นหากใครเก็บ 3 แต้มได้ ก็จะถือเป็นการปลดล็อคจากความกดดัน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนมาแผนเดิมอย่าง 4-4-2

ในช่วงต้นเกมทั้ง 2 ทีม ยังตั้งเกมกันไม่ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 14 ลีโอ เชียงราย ได้ประตูออกนำไปก่อน 0-1 จากจังหวะเตะมุม โดยเป็น วิคเตอร์ วิ่งโฉบตัดหน้า เคลิช และขึ้นโหม่ง ซึ่งในจังหวะนี้ ชนินทร์ ควรเซฟได้ ทั้งๆที่บอลไม่ห่างจากตัวเลย อย่างไรเสีย ชลบุรี ตามไม่นาน ก็มาตามตีเสมอ 1-1 จากจุดโทษที่ แลนดิส ไปดึง มูริลโญ่ ซึ่งการตัดสินใจทำแบบนั้น อาจมองได้ว่าเหลี่ยมของ มูริลโญ่ ดีกว่าและมีโอกาสที่จะจบสกอร์ได้

รูปเกมของทั้ง 2 ทีม ไม่ได้แตกต่างจากช่วงที่เสมอกัน 0-0 แต่ เชียงราย มาได้จุดโทษและประตูนำ 1-2 ในนาทีที่ 33 ซึ่งจังหวะนี้ต้องโทษ ฟาอิค ที่ไม่ควรเสียบ เพราะมีเพื่อนยืนประคองอยู่อีกหลายคน นั่นจึงทำให้ ชลบุรี พยายามเปิดเกมบุก แต่การเสียบอลมาแต่ละครั้ง ก็เกือบจะโดนยิงเพิ่มมากกว่า

นัดที่ 26 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เชียงราย สอยถึงถิ่น 1-3
นัดที่ 26 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เชียงราย สอยถึงถิ่น 1-3

 ครึ่งหลัง ชลบุรี ปรับการทำเกมรุกด้วยการจ่ายขวางหาพื้นที่ แล้วเมื่อริมเส้นมีช่องก็จะจ่าย จากนั้นตัวริมเส้นจะแปะบอลเข้าพื้นที่ตรงกลาง ซึ่งมันสร้างโอกาสได้พอสสมควร แต่มันไม่ใกล้ปากประตูและไม่สามรถทำอย่างต่อเนื่องได้ จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เชียงราย กลายเป็นฝ่ายได้ประตูทิ้งห่าง 1-3 จากการจ่ายเฉียงไปจากด้านซ้าย แล้วกลับมาหน้าประตู โดยจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นเปิดพื้นที่ไว้มากกมาย อย่างไรเสียช่วงท้ายเกม ฉลามชล พยายามจะเร่งเกมชุดสุดท้าย แล้วมันมีโอกาสเหน่งๆจาก ยู บยอง-ซู แต่เจ้าตัวทิ้งขว้างโอกาสทองไป

บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี พ่ายแพ้เพราะความผิดพลาดของผู้เล่นหลายคนประกอบกัน ไล่ตั้งแต่ ผู้รักษาประตู เซฟบอลไม่ได้ กองหลัง-กองกลาง เปิดพื้นที่ให้คู่แข่ง ปีกเสียบคู่แข่งจนเสียจุดโทษ และกองหน้าที่ยิงประตูจากจังหวะเหน่งๆไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดผสมผสานกัน จนกลายเป็นความพ่ายแพ้ ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด วันนี้อาจจะไม่ได้เล่นเกมรุกอย่างที่ตัวเองถนัด แต่ก็ยังพยายามจะเล่นเร็วเพื่อหลีกหนีตัวรับที่ยืนขวางเต็มพื้นที่ รวมถึงมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ นั่นจึงทำให้กว่างโซ้งมหาภัย มี 3 แต้ม ในเกมนี้ อย่างไรก็ดี เกมรับมีอาการแกว่งในช่วยท้ายเกม ซึ่งยังดีที่คู่แข่งทำไม่ได้เอง มิเช่นนั้นอาจเป็นฝันร้ายซ้ำสองของพวกเขาก็เป็นได้

นัดที่ 26 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เชียงราย สอยถึงถิ่น 1-3
นัดที่26 ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เชียงราย สอยถึงถิ่น 1-3

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover