Categories
Sport

“สาลี่ติดคอ”

สุพรรณบุรี กุมความได้เปรียบ เชือด การท่าเรือ 2-1 ประเดิมเก็บ 3 แต้ม

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 4 ในส่วนของคู่วันอาทิตย์ ลงสนามพร้อมกัน 3 คู่ แต่ในส่วนนี้ขอพาไปดูเกมที่ สุพรรณบุรี เอฟซี ต้องเปิดบ้านรับศึกหนัก กับ การท่าเรือ เอฟซี โดยสถานการณ์ก่อนเขี่ยบอล ทั้ง 2 ทีม ต่างต้องการ 3 แต้ม เพราะอย่างงทางฝั่งเจ้าบ้าน พวกเขายังไม่ชนะใครเลย ขณะที่ทีมเยือนต้องการแต้มเพื่อ กลับไปสู่หัวตาราง อันเป็นเป้าหมายสูงสุด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ช้างศึกยุทธหัตถี มาในระบบ 4-3-3 ส่วนทาวฝั่งสิงห์เจ้าท่าใช้ 4-2-3-1

เกมการแข่งเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ฝ่าย พยายามเปิดเกมบุกใส่กัน แต่ไม่ทันไร สุพรรณบุรี ดันเปิดแผลในเกมรับด้วยการยืนตำแหน่งที่หละหลวม จนปล่อยให้ บดินทร์ ได้ยิง แล้วผู้รักษาประตูดันปัดบอลมาด้านหน้าตัวเอง จนโดน โบนีญ่า ยิงซ้ำเข้าไป จากนั้นให้หลังไม่กี่นาที  จุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้นกับการยืนคุมเส้นของ จตุภัทร แล้วมาโดนแขน ซึ่งการตัดสินไม่ต่างจากเคสของ รีส เจมส์ ที่ให้ใบแดงและจุดโทษ จนสุพรรณบุรี ตีเสมอ 1-1

หลังจาก สุพรรณบุรี ตีเสมอได้ พวกเขาก็มีช่วงเวลาที่ครองเกมและขึงบุกใส่เป็นระลอก แต่ด้วยไอเดียการเข้าที่มีเพียงโยนจากริมเส้นและยิงไกล ทำให้โอกาสที่จะยิงแซงยังห่างไกล ส่วนทางฝั่งการท่าเรือ หลังจากเสียประตู สมาธิของผู้เล่นขาดหายไปราว 5-10 นาที แต่เมื่อตั้งสติกลับมาได้ ก็จะใช้การโต้กลับด้วยการสาดบอลไปบริเวณริมเส้น เพื่อให้แนวรุกเก็บและเลี้ยงฝ่าก่อนเข้าทำ อีกทั่งยังมีบางช่วงที่ขึงได้ แต่เมื่อใดที่เสียบอล ก็มักถูกคู่แข่งโต้กลับแบบหวาดเสียวตลอด

ครึ่งหลัง สุพรรณบุรี กำลังจะขึงเพื่อบุก แต่ไม่นานก็มาได้ฟรีคลิก แล้วยิงได้ดีจนขึ้นนำ 2-1 จากนั้นกลายเป็นว่าทั้ง 2 ทีม เปิดแลกใส่กัน โดยทางฝั่ง การท่าเรือ สถานการณ์บังคับว่าต้องบุก เพราะสกอร์ตามหลัง แม้ว่าตัวผู้เล่นจะน้อยกว่า แต่ที่น่าแปลกใจ คือ สุพรรณบุรี เมื่อมีโอกาสและได้บอลก็ยังคงพยายามบุกต่อ โดยไม่อุดประตู

ในช่วง 20 นาที สุดท้าย การท่าเรือ ปรับแผนด้วยการเล่นหลัง 3 และเติมกองหน้าเป็น 2 ตัว พร้อมกับใช้แท็กติกสาดบอลยาวให้แดนหน้าเก็บ ซึ่งมันช่วยลดเวลาในการเซตจากแดนกลาง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาพวกเขาสาดบอลไม่แม่น ทำให้ สุพรรณบุรี ได้เก็บตกบอลเอามาโต้กลับ กระทั่งท้ายเกม สิงห์เจ้าท่า เริ่มออกอาการหมดแรง เพราะโหมบุกทั้งที่ตัวน้อยกว่ามาตลอดเกม แต่การโต้กลับของช้างศึกยุทธหัตถี ไม่สามารถยิงฝังได้ อีกทั้งยังมีจังหวะพลาดเกือบเสียประตู แต่โชคดีที่คู่แข่งพลาดเอง ทำให้จบเกมด้วยการเฉือนไป 2-1 เท่านั้น

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี เป็นรองและสกอร์ตามหลังเร็ว แต่โชคดีที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นและตีเสมอได้ อีกทั้งยังยิงประตูได้จากฟรีคลิก กระนั้นในจังหวะ Open play พวกเขาไม่สามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นประตู ฉะนั้นหากวันนี้ไม่มีโชค เต็มที่อาจได้แค่เสมอ ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี รูปเกมกำลังได้เปรียบและเป็นใจ แต่พอโดนใบแดง สถานการณ์กลับแย่ลง โดยเฉพาะในเรื่องจิตวิทยา ที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะตั้งสติได้ อีกทั้งการเล่น 10 ตัว ก็ไม่ได้เป็นรองคู่แข่ง หากแต่พลพรรคสิงห์เจ้าท่าเล่นพลาดมากเกินไป กระทั่งเป็นมูลเหตุที่ทำให้พ่ายแพ้วันนี้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“หลังรั่วเป็นเหตุ” การท่าเรือ ประเดิมสนาม เจ๊าเทโร 3-3

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก สัปดาห์แรก ในส่วนของวันอาทิตย์ เปิดหัวด้วยดาร์บี้แมตช์แห่ง กทม.

ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี ของโค้ชโอ่ง กับ โปลิศ เทโร เอฟซี ของโค้ชอ้น ผู้เป็นรุ่นน้อง ส่วนผังการเล่นที่ขึ้นมา เจ้าบ้านปรับมายืน 3-4-2-1 ขณะที่ทีมเยือนรับเต็มสูบในระบบ 5-4-1

ช่วงต้นเกม การท่าเรือ ดูเหนือกว่านิดๆ เพราะสามารถต่อบอลสั้น วางยาวทะลุช่องและเปลี่ยนแกนเร็ว แต่พอต้องเล่นเกมรับ กลางรับดันตามไม่สุด ขณะที่เกมรับก็มัวแต่ถอย ทำให้ เปาลิสต้า ของเทโร ยิงไกลเสียบสามเหลี่ยม จากนั้นเจ้าบ้านพยามโหมบุกต่อ ซึ่งการโจมตีทางฝั่งขวาก็นำพามาสู่ประตูตีเสมอ 1-1 แต่แนวรับของมังกรโล่เงิน ก็ผิดพลาดที่ยืนป้องกันผิดพลาดกันหมด 

        แนวรับของการท่าเรือ จัดว่าเป็นปัญหาในเกมนี้ เพราะเมื่อไรที่ถูกเลี้ยงผ่าน กลางรับไม่ตามต่อ หรือเมื่อไรที่ถูกเลี้ยงจี้ แนวรับทั้ง 3 เลือกจะถอยไปเรื่อยๆ ซึ่งมันกลายเป็นช่องให้ เปาลิสต้า คนเดิมยิงไกลเป็น 1-2 ส่วนลูก 1-3 แนวรับยืนประกบหลวม แล้วผู้รักษาประตูดันชกบอลพลาดอีก แต่กระนั้นยังดีที่ เทโร ทำแฮนด์บอลและเสียจุดโทษ จนสามารถยิงตีตื้น 2-3 ทำให้การเล่นในครึ่งหลังเป็นงานที่เบาลง

ครึ่งหลัง การท่าเรือ พยายามจะต่อบอลให้เร็วและเหนียวแน่น เพื่อให้แนวรับคู่แข่งถอยไปรับในแดนสุดท้าย โดยการถ่ายบอลไปมาทำให้เชฟเกมรับของเทโร ปั่นป่วนจนถูกตีเสมอ 3-3 จากนั้นทั้ง 2 ทีม ต่างเปิดแลกใส่กัน แบบไม่มีการเพรสซิ่งใดๆทั้งสิ้น ซึ่งมันก็ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย มีโอกาสได้ประตู แต่ดันยิงไปชนเสา ชนเสา ติดเซฟ หรือยิงออกไปเอง   

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี ภายใต้การดูแลของโค้ชโอ่ง รูปแบบเกมรุกมีมิติขึ้นกว่าเดิม ทำให้นับจากนี้ขอแค่ปรับนิดอีก ก็น่าจะโหดเหี้ยมได้ไม่ยาก แต่สำหรับเกมรับจัดว่าน่าเป็นห่วงสุดๆ เพราะแค่คู่แข่งไม่กี่คนพาบอลเข้ามาในแดน ก็แสดงอาการให้เห็นถึงการป้องกันที่หละหลวม ซึ่งถ้าเกิดวันนี้เจอทีมที่เกมบุกจัดจ้าน วันนี้จะเสียมากกว่า 3 ลูก แน่นอน ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร เอฟซี เกมรับยืนได้ดี แต่พอโดนขึงนานๆหรือต่อเนื่อง มักจะรวนจนเสียประตู ถัดมาที่การขึ้นบอล จัดว่าไหลลื่นและดีกว่าปีที่ผ่านมามากโข ขณะที่เกมรุก การเจาะเข้าไปในแดนอันตรายไม่ค่อยมี แต่ดันมีการยิงไกลมาช่วย ผสมกับการชิงจังหวะที่คู่แข่งผิดพลาด ทำให้วันนี้สามารถเก็บ 1 แต้ม กลับออกมาได้ 

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่  tarutaofc.com

FB : Sport lover