นัดที่ 14 (โปรแกรมวันเสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เดินทางมาถึง แมตช์การแข่งขัน นัดรองสุดท้ายของเลกแรกแล้ว ซึ่งในสัปดาห์ที่ 14 นี้ ลงแข่งขันในวันเสาร์ 4 คู่ แบบเวลาไม่ชนกัน โดยคู่เปิดหัวจะเป็นทีมใหญ่เจอกับโค้ชโอ่งที่พึ่งได้งานใหม่สดๆร้อนๆ จากนั้นต่อด้วยการขึ้นเหนือ 2 คู่ และปิดท้ายที่บิ๊กแมตช์ใน กทม. กระนั้นผลการแข่งขันที่คาดจะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราจะมารีวิวกัน

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี (18.00 น.)

          การบุกไปพ่าย เทโร เมื่อสัปดาห์ ส่งผลเสียหาต่อ แบงค็อก อย่างแรง เพราะมันทำให้ทีมจ่าฝูงมีคะแนนทิ้งห่างออกไป ส่วนทางฝั่ง ประจวบ การพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ที่ขาดลอยอีกครั้ง มันก็ได้กลายเป็นการแยกทางกันระหว่างโค้ชโจกับทีม ซึ่งการบุกไปเยือนถิ่นแข้งเทพ เจ้าบ้านต้อคว้าชัยชนะสถานเดียว มิเช่นนั้นจะเข้าลูปเดิมที่มักฟอร์มหลุดช่วงกลางฤดูกาล

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด (18.30 น.)

          เชียงราย บุกไปพ่าย บุรีรัมย์ มาแบบหมดสภาพ แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังมีสถิติที่ดียามเล่นในบ้าน เพราะสามารถตบคู่แข่งได้และไม่ยังไม่แพ้ใคร ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง หลังจากยิงถล่มทลายมา 2 นัด ก็ได้สะดุดเสมอ 2 นัดติด พร้อมกับเล่นฟอร์มที่กลับมาเหี่ยวเฉาอีกครั้ง นั่นจึงทำให้มองว่ากว่างโซ้งมหาภัย น่าจะไม่ยากต่อการเก็บ 3 แต้ม ในนัดนี้  

สุโขทัย เอฟซี พบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี (19.00 น.)  

          ผลงานการคว้าชัยชนะ 2 นัดติด แถมนัดล่าสุดเป็นบุกเก็บ 3 แต้ม เหนือ บีจี ปทุม แบบคาถิ่น มันก็ได้เป็นผลให้ สุโขทัย เกาะพื้นที่กลางตารางแบบเหนียวแน่น ส่วนทางฝั่ง หนองบัว ยังจมอยู่ในพื้นที่ตกชั้น อีกทั้งอาการยังไม่ดีขึ้นแม้จะเปลี่ยนตำแหน่งเฮดโค้ชแล้วก็ตาม อีกทั้งการบุกไปเยือนทุ่งทะเลหลวง ก็นับเป็นงานที่ยากยิ่งและน่าจะเสร็จค้างคาวไฟ ที่อย่างแย่สุดคงไม่แพ้คาถิ่น

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (19.30 น.)

          ก่อนเกมบิ๊กแมตช์จะเริ่มขึ้น การท่าเรือ ที่ผลงานยังลุ่มๆดอนๆ ได้ทำการปลด คูเปอร์ ออกจากตำแหน่งเฮดโค้ชแล้ว ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปจะมีการแต่งตั้งใครเข้ามารับงานต่อ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ตอนนี้ติดลมบนไปแล้ว กับการเดินหน้าเก็บ 3 แต้ม แต่ก็มีบางที่หลุดเสมอ กระนั้นการบุกเยือนแพท สเตเดี้ยม ก็ยังเชื่อว่าปราสาทสายฟ้าจะไม่แพ้เป็นเบื้องต้น จากนี้เหลือลุ้นว่าจะ 1 หรือ 3 แต้ม เท่านั้น

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีวิวก่อนเกมรีโว่ไทยลีก (วันศุกร์-เสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก แมตซ์การแข่งขัน นัดที่ 10 ลงเตะกันพร้อมหน้าเช่นเคย โดยในคู่เปิดหัววันศุกร์ เป็นเกมที่เจ้าบ้านต้องการ 3 แต้ม ส่วนในวันเสาร์ 3 คู่ ล้วนเป็นเกมของทีมหนีตาย ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาต่างต้องการแต้ม มิเช่นนั้นสถานการณ์จะย่ำแย่ไปมากกว่านี้ สุดท้ายนี้ใครจะมีโอกาสได้แต้มเข้ากระเป๋ากันบ้าง นับจากนี้เราจะไปวิเคราะห์กัน

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (วันศุกร์, 19.00 น.)

     การออกไปเล่นนอกบ้านของ ลีโอ เชียงราย ในซีซั่นนี้ พวกเขาทำแต้มหล่นกระจาย ไม่ว่าทีมนั้นจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ทำให้อันดับในตารางไม่สามารถขึ้นไปเกาะกลุ่มผู้นำได้ ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา เกมล่าสุดเกือบเอาตัวไม่รอด เพราะต้องเหลือตัวผผู้เล่น 10 คน ตั้งแต่ 21 นาทีแรก แถมโดนยิงนำไปก่อน แต่สุดท้ายพวกเขายิงตีเสมอ สุโขทัย  และแบ่งแต้มในบ้านได้ สำหรับสถิติการพบกันของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมีความเหนือกว่าทุกครั้ง แต่มักออกผลเสมอเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นเกมนัดนี้คาดว่าเจ้าบ้านยังไม่แพ้ ขณะที่โอกาสเบียดชนะผู้มาเยือนพอมีบ้างเล็กๆ   

หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ ลำพูน วอริเออร์ (วันเสาร์, 18.00 น.)

     จากหลังเก็บชัยนัดแรกได้สำเร็จ หนองบัว ก็กลับสู่ฟอร์มเดิมด้วยการพ่ายแพ้ บุรีรัมย์  ทำให้สถานการณ์ยังอยู่ในโซนสีแดงเช่นเดิม ไม่ต่างกับ ลำพูน ที่ผ่านไปแล้ว 9 นัด ยังไม่ชนะใคร ทำให้นอนจมบ๊วยด้านล่างสุดของตาราง ฉะนั้นเกมนัดนี้จัดว่าสำคัญยิ่งต่อทั้ง 2 ทีม เพราะหากใครพ่ายแพ้ มันจะส่งผลต่อความมั่นใจอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วยังมองว่าพญาไก่ชนจะไม่แพ้

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 18.30 น.)

     แมตซ์การแข่งขัน ขอนแก่น กำลังเผชิญต่อผลงานที่ดำดิ่งสุดกู่ เพราะ 3 นัดหลังสุด นอกจากจะแพ้รวดแล้ว พวกเขายังยิงใครไม่ได้เลยสักประตู ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่วิกฤตอย่างยิ่งของจงอางผยอง ต่างจากบุรีรัมย์ ที่สามารถยึดตำแหน่งจ่าฝูงกลับมาได้แล้ว ทำให้เกมนี้มองว่าปราสาทสายฟ้าจะสานต่อผลงานที่ดีด้วยการเก็บ 3 แต้ม สำหรับการออกไปเยือนในครั้งนี้

ลำปาง เอฟซี พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี (วันเสาร์, 19.00 น.)

การออกไปเยือนของแมตซ์การแข่งขัน ลำปาง ถือว่าสม่ำเสมอตรงที่แพ้รวด หลังจากทำได้ดีที่สุด คือ การบุกเจ๊าเมืองทอง 2-2 ทำให้สถานการณ์ตอนนี้อยู่เหนือโซนแดงด้วยการมีแต้มมากกว่า 2 คะแนน ส่วนทางฝั่งโปลิศ เทโร การเก็บ 6 แต้ม จาก 3 เกมหลัง ทำให้สถานการณ์ดูปลอดโปร่งมากขึ้นเป็นกอง แล้วต้องจุดนี้อาจมีผลให้พวกเขาบุกโค่นหรือแบ่งแต้มจากรถม้ามรกตได้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีวิวก่อนเกมรีโว่ไทยลีก นัดที่ 6 (วันศุกร์-เสาร์)

แมตช์การแข่งขันศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 6 ลงสนามกันอย่างพร้อมหน้าเช่นเคย โดยในวันศุกร์ 1 คู่ นับเป็นงานที่กดดันของเจ้าบ้านที่ต้องการแต้ม ส่วนในเกมวันเสาร์จัดเต็ม 3 คู่ พร้อมกับบิ๊กแมตช์ ซึ่งผลที่คาดจะเป็นอย่างไร นับจากนี้จะมารีวิวใหได้ทราบกัน

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด (วันศุกร์, 19.00 น.)

    จากภาวะฟอร์มตกของ เมโล่ ถือว่าสร้างความสะเทือนต่อจำนวนประตูและผลการแข่งขันของ ขอนแก่น ทำให้ในฤดูกาลนี้ การออกสตาร์ทค่อนข้างย่ำแย่และสุมเสี่ยงจะต้องหนีตาย ส่วนทางฝั่งผู้มาเยือนอย่าง ลีโอ เชียงราย ที่เน้นยิงน้อยแต่ชนะ กระนั้นเมื่อนัดที่แล้ว พวกเขาจัดการกะซวกน้องใหม่แบบไม่ไว้หน้าถึง 5-1 ซึ่งนี่ถือเป็นสกอร์มโหฬารที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ ทำให้เกมนี้วิเคราะห์ไม่ยากว่ากว่างโซ้งมหาภัย จะบุกมาคว้า 3 ออกไปได้  

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ ลำพูน วอริเออร์ (วันเสาร์, 18.00 น.)

    ผลงานการเล่นในบ้านของนครราชสีมา ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะล้วนแต่เจอทีมใหญ่หรือขนาดเท่ากัน แล้วมักจะแพ้ยาก ต่างจากลำพูน ที่สถานการณ์เริ่มเข้าขั้นวิกฤต เพราะออกสตาร์ทมาแล้ว 5 ยังไม่ชนะใครและมีเพียงแต้มเดียวเท่านั้น ทำให้เกมนี้มองว่าสวาทแคทจะเฉือนชนะได้

โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 18.30 น.)

    สภาพทีมของเทโร ที่มีผู้เล่นแบบตามมีตามเกิด จึงไม่แปลกนักที่ผลงานจะเป็นในลักษณะนี้ คือ ลุ่มๆดอนๆและอยู่ในแถบกลางค่อนล่างของตาราง ส่วนทางฝั่งผู้มาเยือนอย่างบุรีรัมย์ เกม 2 นัดในบ้าน แล้วได้เพียง 2 แต้ม ถือเป็นความเสียหายพอสมควร ฉะนั้นเกมนี้พวกเขามุ่งมั่นเต็มที่ แล้วถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ปราสาทสายฟ้าน่าจะบุกมาคว้า 3 แต้มได้

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ ชลบุรี เอฟซี  (วันเสาร์, 19.00 น.)

    แมตช์การแข่งขันเกมคู่ส่งท้ายของวันเสาร์ อาจจะเรียกศึกเอลกลาซิโก้ได้ไม่เต็มปาก เพราะในปัจจุบันทั้ง 2 ทีมต่างไม่ใช่มหาอำนาจของลีกไทย แต่เป็นทีมที่ให้โอกาสเด็กในสายเลือดได้ขึ้นมาแจ้งเกิด โดยทางฝั่งเมืองทอง ฟอร์มการเล่นยังแกว่งๆ กระนั้นเมื่อนัดที่แล้ว พวกเขาสามารถบุกไปคว้า 1 แต้มใหญ่มาจากบุรีรัมย์ได้ ขณะที่ชลบุรี หากไม่นับเกมที่แพ้บุรีรัมย์ พวกเขาจัดเป็นทีมที่มีฟอร์มดีมาก ฉะนั้นการบุกมาเยือนถิ่นธันเดอร์โดม ฉลามชลไม่น่าแพ้ เหลือแค่จะ 1 หรือ 3 แต้มเท่านั้น

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีกฤดูกาล 2022/23 นัดที่ 5

ฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2022/23 นัดที่ 5 ในโปรแกรมวันศุกร์ ประเดิมสนาม 1 คู่ ซึ่งไม่น่าจะมีอะไรพลิกโผ ส่วนอีก 3 คู่ในวันเสาร์ อาจจะไม่มีบิ๊กแมตช์ แต่ในแง่ของความกดดันจะเป็นตัวแปรให้เกมการแข่งขันมีความเข้มข้น ฉะนั้นอย่ารอช้าและลงไปไล่ดูรีวิวด้านล่างนี้

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบกับ ลำพูน วอริเออร์ (วันศุกร์, 19.00 น.)

      การออกสตาร์ทของ บีจี ปทุม อาจดูไม่สวยงาม แต่ในนัดที่แล้วถือว่าน่าเสียดายที่อุตส่าห์นำ 0-2 แต่ดันโดนบุรีรัมย์ ตีเสมอ 2-2 แถมมีใบเหลืองว่อนถึง 10 ใบ ส่วนทางฝั่ง ลำพูน การขึ้นมาสู่ลีกสูงสุด คงได้ลิ้มลองแล้วว่าไม่ใช่งานง่าย ซึ่งในนัดนี้ก็เช่นกันที่น่าจะไม่รอดพ้นความพ่ายแพ้ต่อเจ้าบ้าน เพราะเมื่อมองเหลี่ยมไหนราชันโคขาวก็เป็นรองทั้งหมด  

ชลบุรี เอฟซี พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี (วันเสาร์, 18.00 น.)

      การออกสตาร์ทของ ชลบุรี ทีแรกดูเหมือนจะน่ากังวล แต่เมื่อผ่านไปแล้ว 4 นัด พวกเขาทำผลงานได้ดีทีเดียว ต่างกับ พีที ประจวบ เล็กน้อยที่การแพ้ 2 นัดติด ทำให้โค้ชโจดูเป็นกังวล แต่เมื่อนัดล่าสุดจัดการโค่น เชียงราย ได้ สถานการณ์ที่ดูกดดันก็คลายลง กระนั้นด้วยการบุกไปเยือนฉลามชล ลูกทีมของโค้ชเตี้ยน่าจะไม่แพ้ในถิ่นของตัวเอง

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี (วันเสาร์, 18.30 น.)

      โคราช เมื่อจะเป็นทีมที่มีการเล่นที่ดีเมื่อผ่าน 3 เกมแรก แต่พอเกมล่าสุดที่บุกไปพ่าย บียู 3-0 มันก็ต้องกลับมาตั้งคำถามว่าสิ่งที่เห็นมาเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า ขณะที่หนองบัว สถานการณ์ย่ำแย่กว่า โดยเฉพาะศึกฟุตบอลรีโว่เกมรุกที่จนถึงตอนนี้ก็ยังยิงใครไม่ได้เลยสักประตู ทำให้สถานการณ์ล่อแหลมที่จะต้องหนีตายแบบสุดๆ ฉะนั้นการเล่นในรังของสวาทแคท พวกเขาน่าได้ 3 แต้มแบบไม่ยากเย็น

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 19.00 น.)

      หากเกมล่าสุดไม่ถูกระงับและสกอร์คงค้างตามที่เห็นล่าสุด เชื่อว่าสถานการณ์ของการท่าเรือ จะกดดันว่านี้เป็นเท่าตัว เพราะด้วยการลงทุนที่สูงลิบ แต่ผลงานยังลุ่มดอนๆและไม่เห็นลู่ทางที่ดีขึ้นเท่าไร ส่วนทาฝั่งขอนแก่น การเจอทีมใหญ่พวกเขาเก็บแต้มไม่ได้ กลับกันเมื่อเจอทีมขนาดเท่ากันหรือด้อยกว่า พวกเขาสามารถสอยได้ ฉะนั้นการบุกมาเยือนที่แพท สเตเดี้ยม สิงห์เจ้าท่าน่าจะเบียดชนะได้แบบไม่ยากเย็น

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

การแข่งขันมังกรฟ้าไทยลีก 3 ฤดูกาล รอบแชมป์เปี้ยนส์ลีกสายล่าง ประจำฤดูกาล 2021/22

ศึกฟุตบอลมังกรฟ้าไทยลีก 3 ประจำฤดูกาล 2021/22 ในรอบแชมป์เปี้ยนส์ลีกของโซนล่าง จัดว่าเบากว่าโซนบน หากเทียบในเรื่องของขุมกำลังนักเตะ อีกทั้งอัตราการแข่งขันก็ดูจะเบากว่า หากดูจากผลการแข่งขันและจำนวนแต้มที่ทำได้ ฉะนั้นหากมองมุมหนึ่งอาจโชคดีที่ไม่ต้องเจอทีมแข็งๆ แต่ข้อเสีย คือ การไปเล่นรอบระดับประเทศที่อาจเป็นรองทีมโซนบน

กระบี่ เอฟซี

      แชมป์จากโซนภาคใต้ สร้างเซอร์ไพรส์มาในรอบปกติ ก่อนจะสร้างเซอร์ไพรส์รอบที่ 2 ด้วยการเลื่อนแบบอัตโนมัติ พร้อมกับเป็นการกลับคืนสู่ลีกรองอีกครั้ง หลังจากร่วงตกชั้นลงมาหลายปี กระนั้นหากเจาะลึกลงไปในผลงาน กระบี่ ต้องเจอกับเกมที่ยาก แล้วกว่าจะคว้าชัยชนะมาได้ก็หืดจับทุกเกม ซึ่งการมี 10 คะแนน สำหรับโซนล่าง อาจได้เลื่อนชั้นอัตโนมัติก็จริง แต่หากเทียบกับโซนบนแล้ว คะแนนเพียงเท่านี้ คือ ไม่ได้ลุ้นแม้แต่เพลย์ออฟ

นครศรี ยูไนเต็ด

      รองแชมป์ของโซนภาคใต้ หมายมั่นปั้นมือว่าจะขอมีลุ้นเลื่อนชั้นให้ได้ ซึ่งการเล่นเกมในบ้าน 2 นัด นครศรี จัดการเผด็จศึกและเก็บ 3 แต้ม เหนือคู่แข่งได้ ส่วนเกมนอกบ้านก็บุกไปยันเสมอได้หมดแบบไม่แพ้ออกมา นั่นจึงทำให้พวกเขาเข้าป้ายและไปลุ้นเลื่อนชั้นผ่านการเพลย์ออฟ

มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ

      นี่เป็นอีกฤดูกาลที่แชมป์โซนกรุงเทพและปริมณฑล ผ่านเข้าสู่รอบแชมป์เปี้ยนส์ลีกและตกม้าตายที่รอบนี้ โดยในปีนี้ นอร์ทกรุงเทพ พยายามแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการจนสามารถเก็บแต้มได้มากขึ้น แต่การเก็บมาได้เพียง 8 แต้ม มันน้อยและไม่เพียงพอต่อการได้เลื่อนชั้น

สระบุรี ยูไนเต็ด

      เป็นปีแรกที่สระบุรี สามารถเข้ามาสู่รอบนี้ได้ด้วยดีกรีแชมป์โซนภาคตะวันตก กระนั้นพวกเขาก็โชว์ให้ถึง ศักยภาพที่มีอยู่พอสมควร แต่การมี 8 คะแนนในมือ มันไม่เพียงพอที่จะลุ้นเลื่อนชั้นได้

มหาวิทยาลัยปทุมธานี

      การใช้เด็กเป็นแกนหลัก แล้วสามารถทำผลงานด้วยการเป็นรองแชมป์ของโซนภาคตะวันตก มันก็ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่พอตัว แต่การต้องมาเจอกับทีมที่กระดูกแข็งๆ มันก็เป็นผลให้ มหาวิทยาลัยปทุม ต้องพ่ายแพ้รวด 4 นัด ก่อนที่ในนัดสุดท้ายจะถล่ม บางกอก 0-4 เป็นรางวัลปลอบใจ

บางกอก เอฟซี

      ในทันทีที่รองแชมป์จากโซนกรุงเทพและปริมณฑลได้ลงสนามนัดแรก ก็ได้สร้างเรื่องฉาวจนโด่งดังไปทั่วโลก จากการใช้ศอกฟันหน้าคู่แข่งของ อิศเรศ ส่วนในเรื่องของผลงาน พวกเขาคว้าชัยเหนือ กระบี่ ได้เพียงนัดเดียว ขณะที่ 4 นัดที่เหลือพ่ายแพ้ ซึ่งในบางนัดก็แพ้แบบหมดรูปเลยทีเดียว  

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีโว่ไทยลีก นัดตกค้าง (พุธที่ 2 กุมภาพันธ์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก กลางสัปดาห์นี้มีเกมตกค้าง 3 คู่ ที่ถูกเลื่อนออกมาจากเหตุโควิด-19 โดยทั้งเกมทั้ง 3 คู่ จะมีแมตช์แข่งขันกันหนีตาย แมตช์หาจุดเปลี่ยน และแมตช์ที่ต้องการทำแต้มทิ้งห่าง ซึ่งความพร้อมของแต่ละทีมจะเป็นอย่างไร และผลที่ออกมาจะเป็นแบบไหน นับจากนี้เราจะได้ทราบกัน

เชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี (18.00 น.)

      เกมแมตช์นี้ คือ นัดที่ 16 ของฤดูกาล โดยในฤดูกาลนี้ทั้ง 2 ทีม ได้พบกันแล้ว 2 ครั้ง คือ เสมอในลีก 2-2 และ สุพรรณบุรี บุกไปชนะ 2-3 ในเกมฟุตบอลถ้วย โดยทางฝั่ง เชียงใหม่ การเสริมทัพในเลกที่ 2 มีผลให้แนวรุกมีความอันตรายขึ้น แต่พอหันกลับไปมองเกมรับ มันยังมีอาการรั่วไหลเหมือนเดิม แล้วสุดท้ายก็เป็นเหตุให้เสียประตูและยังไม่ชนะใคร พร้อมกับโอกาสตกชั้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ สุพรรณบุรี ก่อนจบเลกแรก โกยคะแนนมาได้ 6 แต้ม ทำให้สถานการณ์คลายความกดดัน แต่พอลงเล่นในเลกที่ 2 แล้วมีอาการสะดุด มันก็เริ่มส่งผลให้เห็นว่าสถานการณ์ยังไม่สู้ดีนัก สำหรับเกมคู่นี้ทั้งคู่ต่างมีจุดอ่อนในเกมรับ พร้อมทั้งเชื่อว่าจะมีประตูเยอะ แต่ลึกๆแล้วยังเชื่อว่าช้างเผือก จะไม่แพ้ในบ้าน  

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ สุมทรปราการ ซิตี้ (18.00 น.)

      เกมแมตช์นี้ คือ นัดที่ 17 ของฤดูกาล โดยในเลกแรกที่เจอกัน สมุทรปราการ ทำแสบด้วยการชนะ 3-1 แต่สถานการณ์ในวันนี้เปลี่ยนไป กับการเปลี่ยนโค้ชและนักเตะตัวหลักบาดเจ็บ โดยทางฝั่ง บียู ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน เพราะไม่ชนะใครและยิงไม่ได้มาหลายนัด ทั้งๆที่ตัวหลักยังอยู่ครบ ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ ทำไปทำมามีสิทธิ์ลงไปอยู่โซนแดงเสียจริงๆ ซึ่งการออกสตาร์ทแบบไม่แพ้ใครเหมือนดูดี แต่หากเป็นทีมตกชั้นแล้วได้ทีละแต้ม ย่อมไม่ใช่เรื่องดี กระนั้นด้วยศักยภาพและสถานการณ์ มันถึงเวลาที่แข้งเทพต้องชนะ เพราะถ้าผลออกมาเป็นอื่น ก็คงต้องตัวใครตัวมัน

โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (18.30 น.)

เกมแมตช์นี้ คือ นัดที่ 16 ของฤดูกาล ซึ่งการพบกันในเลกแรก บุรีรัมย์ ตบสบายๆ 3-1 โดยทางฝั่ง เทโร การออกสตาร์ทเลก 2 อาจจะยังไม่ชนะใคร แต่สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นเลวร้าย ส่วนทางฟาก บุรีรัมย์ นำโด่งๆแบบไม่ต้องแคร์ใคร อีกทั้งผลงานยังไฉไลเสียด้วย ฉะนั้นเกมคู่นี้ไม่ต้องวิเคราะห์ เพราะยังไงเสียปราสาทสายฟ้าก็ต้องการ 3 แต้ม  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ช้างเอฟเอ คัพ นัดตกค้างรอบ 16 ทีมสุดท้าย (พุธที่ 2 กุมภาพันธ์)

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ถือเป็นวันกลางสัปดาห์ที่มีฟุตบอลนัดตกค้างหลายคู่ โดยมีทั้งโปรแกรมลีกและในส่วนนี้ที่จะพาไปดูฟุตบอลถ้วยช้างเอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย จำนวน 2 คู่ ซึ่งคู่แรกอาจดูห่างชั้น ขณะที่อีกคู่จัดว่าสูสี เพราะเป็นทีมในระดับศีลเสมอกัน   

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ อุทัยธานี เอฟซี (18.00 น.)

      เกมคู่นี้ถูกเลื่อนเนื่องจากนักเตะของเจ้าบ้านติดเชื้อโควิด-19 เกินกว่าครึ่งทีม อีกทั้งการพบกันของทั้งคู่ เคยวาสนาสมพงษ์และเจอกันในฟุตบอลถ้วยรีโว่ลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย แล้วดันเกิดการพลิกล็อคและเป็น อุทัยธานี ที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป ด้วยสกอร์ 1-0  โดยความพร้อมก่อนเกมนี้ เมืองทอง เริ่มจะกลับมาซ้อมแบบฟูลทีม ซึ่งในแมตช์ล่าสุดอาจแพ้ บุรีรัมย์ แต่มันก็เข้าใจได้ เพราะศักยภาพนักเตะห่างกัน ส่วนทางฝั่ง อุทัยธานี กลายเป็นทีมแรกของไทยลีก 3 ที่การันตีแชมป์โซนภาคเหนือ กระนั้นด้วยการบุกมาเยือนธันเดอร์โดม แล้วเคยมีประวัติทำให้เจ้าบ้านต้องเจ็บช้ำมาก่อน มันจึงเป็นโอกาสที่กิเลนผยองจะเอาคืนและเข้ารอบต่อไป   

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (19.00 น.)

      เกมคู่นี้ถูกเลื่อนเนื่องจากนักเตะทีมเยือนติดโควิด-19 โดยการพบกันในลีกเลกแรก การท่าเรือ เป็นฝ่ายเฉือนชนะ 1-0 แต่รูปเกมไม่ได้ดีเด่นอะไรเลย โดยความพร้อมของ บีจี ปทุม ตัวผู้เล่นหลักกลับมาครบทุกคน ขณะที่โค้ชใหม่ก็มาถึงแล้ว ขณะที่ผลงานนัดล่าสุดอาจจะชนะ เชียงใหม่ ขาดลอย 4-1 แต่หากดูเนื้อใน เกมรับมีความผิดพลาดง่ายๆและบุญโขแล้วที่โดนยิงลูกเดียว

ส่วนทางฟาก การท่าเรือ สถานการณ์ในลีกค่อนข้างกดดัน เพราะยังไม่ชนะใคร จนคะแนนเริ่มห่างจากจ่าฝูง แล้วฟุตบอลถ้วยรีโว่ลีกคัพ ดันชิงตัวตกรอบด้วยน้ำมือของ เมืองเลย ที่เป็นทีมรองบ่อนจากไทยลีก 3 ทำให้เกมนัดนี้แทบจะเป็นเกมสำคัญของฤดูกาล เพราะหากแพ้ในนัดนี้มันก็มีโอกาสมากกว่า 95% ที่สิงห์เจ้าท่าจะไม่มีถ้วยติดมือในปีนี้และการไปลุยถ้วยเอเชียจะลำบาก สำหรับเกมนัดนี้ ทั้ง 2 ทีม

จะใส่กันอย่างดุเดือด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการไปถึงแชมป์เพื่อถ้วยเอเชีย อย่างไรเสียหากเทียบฟอร์มกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ เกมรับมีจุดอ่อนทั้งคู่ แต่เกมรุก บีจี ปทุม ดีกว่า ฉะนั้นขอชี้ว่ากระต่ายแก้วจะเป็นฝ่ายเฉือนและเข้ารอบต่อไป

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 (คู่วันเสาร์-อาทิตย์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 ในส่วนของคู่สุดท้ายของวันเสาร์และอีก 3 คู่ ของวันอาทิตย์ ยังมีเกมมันส์ๆที่รอกระแทรกสายตาท่านผู้ชมอยู่ อีกทั้งการพบกันของหลายคู่ ก็ล้วนแต่มีความถึงการอยู่รอด ส่วนคู่ไหนจะน่าติดตามกันบ้าง เราไปลองดูและค่อยๆพิจารณาเลือกกัน 

หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 19.00 น.)

ผลงานนอกบ้านของ หนองบัว อาจตอบไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าเมื่อไรได้ลงเล่นที่ พิชญ สเตเดี้ยม สถิติและฟอร์มการเล่นมันก็ฟ้องอยู่ให้เห็นว่าไม่มีใครจะบุกมาโค่นได้ง่ายๆ ส่วนทางฝั่ง บียู ในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงสะดุด จนโดนจ่าฝูงทำแต้มทิ้งห่าง อีกทั้งยังชิงตัวตกรอบบอลถ้วยไปเสียอีก ทำให้การบุกไปเยือนในหนนี้ พญาไก่ชนจะไม่แพ้อย่างแน่นอน    

ชลบุรี เอฟซี พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (วันอาทิตย์, 18.00 น.)

ชลบุรี อาจมีผลงานที่ไม่ได้ดีเลิศ แต่ก็ยังอยูในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ตรงข้ามกับ การท่าเรือ ที่ผลงานไม่ดีและเสียงวิจารณ์ของแฟนบอลต่างสาดไปยังโค้ชกับนักเตะบางราย อีกทั้งยังโดนโควิด-19 เล่นงานในแคมป์ จนต้องขอหยุดเตะ ฉะนั้นหากดูจากความพร้อมและฟอร์มการเล่น ฉลามชลมีโอกาสเก็บ 3 แต้ม สูงอย่างยิ่ง

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี (วันอาทิตย์, 18.00 น.)

โคราช ถือเป็นอีกทีมที่น่าจะลอยลำและไม่ต้องกังวลกับการหนีตาย เพราะแนวรับที่เสริมมาใหม่กำลังปรับตัวได้ดี กองกลางโควตาเอเชียก็ฟอร์มใช้ได้ ขณะที่แนวรุกก็เริ่มจะติดลมบนกับการถล่มประตู ตรงข้ามกับ ประจวบ ที่ดูอับเฉา มืดมน และไร้หนทางสำหรับจุดเปลี่ยน แม้ว่ารูปแบบการเล่นและทรงบอลจะไม่ขี้แหล่ก็ตาม กระนั้นหากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ สวาททแคทดูดีกว่าและมีโอกาสถึงขั้นเป็นผู้ชนะ  

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ (วันอาทิตย์, 19.30 น.)

ตามชื่อชั้น ราชบุรี อาจเป็นทีมกลางไปถึงใหญ่ แต่จากผลงานและฟอร์มการเล่นในปีนี้ หากประมาทก็มีสิทธิ์ลงไปคั่วโซนตกชั้นได้เลย เพราะเมื่อมองไปทางไหน ก็มีแต่จุดอ่อนและความไม่เพียบพร้อม ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ ศักยภาพของนักเตะเป็นรองเกือบทุกทีมในลีกสูงสุด แต่เพราะด้วยมันสมองของโค้ช มันก็ช่วยประคองให้ทีมแข็งแกร่งด้วยทีมเวิรค์ กระนั้นด้วยปัญหาในเกมรับที่เสียประตูง่าย มันก็มีผลให้การฟันธงต้องลงว่าเจ้าบ้านไม่น่าแพ้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ช้างเอฟเอ คัพ 2021/22 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ศึกฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2021/22 เดินทางมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นที่เรียบร้อย โดย 4 คู่แรกที่จะนำมาสรุปนี้ ก็ได้มีเหตุการณ์ล้มยักษ์ จนถึงเลื่อนการแข่งขัน ซึ่งบทสรุปของทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ไปดูกันต่อที่ด้านล่างนี้

สงขลา เอฟซี 10-9 สมุทรปราการ ซิตี้ (เสมอในเวลา 120 นาที 1-1)

      ผลงานในไทยลีก 3 โซนภาคใต้ ของ สงขลา กลับมาดีและมีลุ้นไปรอบซุปเปอร์ลีกอีกครั้ง หลังจากมีอาการหลุดๆไป ส่วนเส้นทางในถ้วยใบนี้ ถล่มคู่แข่งขาดลอยมาตลอดทาง แต่ในวันนี้ต้องเจอศึกหนัก เพราะทีมที่มาเยือนมีดีกรีไทยลีกค้ำคอ กระนั้นเมื่อลงเล่นครบ 90 นาที ยังเสมอ 0-0 จากนั้นเมื่อต่อเวลาพิเศษถึงนาทีที่ 115 เหมือนโมเมตัมจะเหวี่ยงหาทีมเยือน กับประตูขึ้นนำ 0-1 แต่พอเอาบอลกลับไปเขี่ย เจ้าถิ่นก็ตีเสมอ 1-1 ได้แบบทันควัน ทำให้เกมต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ โดยการดวลเป้าตรงนี้ยิงกันเกือบครบและวนรอบอยู่แล้ว แต่คนที่ 10 ของสมุทรปราการ ดันยิงติดเซฟเต็มๆ นั่นจึงเป็นผลให้เงือกสมิหลาเข้าสู่รอบ 8 สุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร  

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4-1 ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด

      ถูกจับตามว่าเป็นเกมคู่ใหญ่ของรอบนี้ เพราะทีมหนึ่งต้องการกวาดแชมป์ ขณะที่อีกทีมเป็นสิงห์บอลถ้วย แต่เมื่อลงสนามไปได้ไม่นาน บุรีรัมย์ ก็มาได้ประตูนำจากจุดโทษ และลูกยิง 2-0 ของ ชูลาก้า จากนั้น เชียงราย ดูจะมีฮึดกับประตูไล่มา 2-1 แต่สุดท้ายก็มาเสียจุดโทษ 3-1 พร้อมกับประตูปิดกล่องท้ายเกม 4-1 ทำให้แชมป์เก่าต้องหยุดเส้นทางไว้แค่รอบนี้    

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-1 ลำปาง เอฟซี

      โคราช ได้เล่นบ้านและเจอทีมต่ำชั้นกว่า ทำให้เป็นต่อค่อนข้างเยอะ แล้วเพียง 5 นาที ก็ขึ้นนำไปก่อน จากนั้นก็มายิงเพิ่มเป็น 2-0 พร้อมกับการไล่ผู้เล่นลำปางออก ทำให้กลายเป็นเกมที่ง่ายของเจ้าถิ่น กระทั่งยิงเพิ่มเป็น 3-0 และประตูตีไข่แตก 3-1 ของรถม้ามรกต แต่สุดท้ายก็ไม่ทันและเป็นสวาทแคทที่เข้ารอบต่อไป ซึ่งมันเป็นรอบที่ลึกมากที่สุด ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาเลยทีเดียว  

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ อุทัยธานี เอฟซี (เลื่อนการแข่งขัน)

      หลังจากเกมกับ บีจี ปทุม มีการแจ้งว่านักเตะเมืองทอง ติดเชื้อโควิด-19  แล้วก่อนแข่งเกมนี้ก็ได้มีการขอเลื่อนจากฝ่ายเจ้าบ้าน เพราะมีผู้ติดเชื้อกว่า 18 ราย ฉะนั้นเกมนัดนี้จะเลื่อนไปเตะในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แทน กระนั้นจากฝ่ายอุทัยธานี ก็ได้มีการออกมาทวงถาม เนื่องจากเป็นทีมเล็กและต้องออกค่าจ่ายต่างๆในการมาแข่งเป็นเยือน อีกทั้งการประกาศก็กระชั้นชิดเกินไป   

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover