Categories
Sport

ฉลาดเตี้ยอาการหนัก

ชลบุรี โคม่าหนัก บุกพ่าย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 23 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามทรู สเตเดี้ยม รังเหย้าของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ผลงานกลับมาดีอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้ามีอาการเมาหมัดเล็กน้อย

ซึ่งวันนี้ต้องเจอทีมที่เมาหมัดกว่าอย่าง ชลบุรี เอฟซี ที่ตอนนี้ตามหาชัยชนะไม่เจอมา 4 เกมติดแล้ว ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-2-3-1 ทั้งคู่

      ในช่วง 10 นาทีแรก ทั้ง 2 ทีมเน้นการต่อบอลเข้าไปในแดนคู่แข่ง  แต่ทางฝั่งทีมเยือนจ่ายพลาดก่อน แล้วโดน ทรู แบงค็อก ตัดได้ สุดท้ายจบที่ เฮแบร์ตี้ ซัดมุมแคบชนเสา แล้วมาเข้าทาง มาห์มู๊ด จิ้มเข้าประตูให้ทีมนำ 1-0 จากนั้นกลายเป็นบียู ที่ดูดีกว่า

เพราะสามารถต่อบอลจากหลังบ้านไปจนถึงการจบสกอร์ได้หลายหน แต่ขาดความเฉียบคม ตรงข้ามกับ ชลบุรี ที่ได้แต่ต่อบอล ไม่มีจังหวะจบสกอร์ กระนั้นช่วงทดเวลา 45+1 การวางบอลยาวให้ ชาญณรงค์ กลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นพลาดตั้งแต่แดนกลางที่เปิดพื้นที่ให้ได้วางบอลแบบสะดวก รวมถึงคู่กองหลังที่ยืนห่างจากตัวรุก ทั้งๆที่มีแค่คนเดียว 

ครึ่งหลัง ชลบุรี พยายามแก้ในเรื่องการเก็บบอลไว้กับตัว โดยจะปล่อยให้ก็ต่อเมื่อเพื่อนหาช่องดีและมีทางที่บอลจะไปข้างหน้า ซึ่งมันช่วยให้ทีมมีโอกาสจบสกอร์มากขึ้น แต่ในนาทีที 61 พวกเขาป้องกันไม่ดีพอ ทำให้โดน เฮแบร์ตี้ ยิงนำ 2-1 แล้วทางฝั่งฉลามชล สมาธิหลุดอย่างชัดเจน สุดท้ายการออกบอลที่ไม่รอบครอบของ เฉลิมพงษ์ ก็ได้ส่งให้ บียู ขึ้นนำ 3-1 และจบเกมด้วยสกอร์นี้  

      บทสรุปจากเกม ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทเกมนี้ได้ดีแถมได้ระตูนำไปก่อน นอกจากนี้ยังสร้างโอกาสได้แบบต่อเนื่อง แต่พอไม่ได้ประตู เกมรับดันมาเสียง่ายๆ

ซึ่งยังดีที่มีจุดเปลี่ยนเมื่อได้ประตูนำ 2-1 ทำให้ได้ 3 แต้ม ในวันนี้ ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี เอฟซี วันนี้ตั้งใจเล่นต่อบอลกับพื้นเพื่อสู้กับเจ้าบ้าน แต่การจ่ายบอลพลาดทำให้พวกเขาถูกลงโทษ

กระนั้นโมเมนตัมก่อนเข้าห้องแต่งตัว พวกเขาได้สกอร์ตีเสมอ 1-1 ทำให้ในครึ่งหลัง ฉลามชลแก้เกมด้วยการหาวิธีออกบอลให้ชัวร์ ซึ่งมันได้ผลและน่าจะสู้กับเจ้าถิ่นได้สนุก แต่พอเสียประตูอีกครั้ง สมาธินักเตะก็หลุดจากเกมไปเลย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แพ้ตั้งแต่นัดแรก”

บีจี ปทุม ประเดิมซีซั่น พ่าย ชลบุรี 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดตกค้างกลางสัปดาห์ ณ สนามชลบุรี UTA สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานการสตาร์ทอาจจะมีติดขัด จะต้องพบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่พึ่งกลับมาจากการทำศึก ACL ทำให้ต้องมาเล่นเกมตกค้างนัดแรกของฤดูกาลในในวันนี้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนวาง 4-4-2 มาต่อกร

      ช่วงต้นเกม บีจี ปทุม พยายามตั้งบอลจากแดนหลัง แล้วต่อเข้าไปในแดนคู่แข่ง แต่เมื่อถูกเพรสซิ่งตั้งแต่ในแดนตัวเอง พวกเขาก็เสียบอลจนโดนจู่โจม หรือเมื่อพาไปถึงแดน 1-2 ก็จะถูกดักบอลและสวนกลับหลายครั้ง กระทั่งแนวรับพยายามจะหยุดด้วยการฟาวล์ แต่สุดท้าย ชลบุรี ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการโต้กลับแล้ว ดานีโล่ พลิกบอลและยิงเข้าทางเสาแรก จากนั้น บีจี ปทุม รูปเกมยังไม่ดีขึ้น ไล่ตั้งแต่การเคาะบอลแล้วโยนให้ อิคซาน โหม่งในกรอบเขตโทษเพียงหน้าเดียว ขณะเดียวกันยังเสียบอลกลางทางจนเกือบโดนยิงลูกที่ 2 หลายหน

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม พยายามจะเดินเพื่อทวงประตู แต่รูปเกมก็ยังไม่ดีขึ้น มิหนำซ้ำยังจ่ายเสียจนโดนโต้หลายต่อหลายครั้ง แต่ยังดีที่ กิตติภูมิ ช่วยเซฟไว้ได้หลายหน มิเช่นนั้นอาจโดนยิงไปแล้ว 2-3 กระทั่งกระต่ายแก้วต้องเริ่มใช้บอลโยน หรือจ่ายยัดให้ อิคซาน แต่ก็หาโอกาสได้น้อยมาก ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี ตั้งรับและโต้กลับแบบได้ลุ้น แต่ก็ต้องตำหนิบ้างที่มีโอกาสทองแล้วยิงทิ้งห่างเพื่อปิดเกมไม่ได้

      บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี วางแท็กติกมาได้เหมาะสมและนักเตะก็เล่นได้ตามแผน โดยเฉพาะการเพรสซิ่งและดักบอลในแดนคู่แข่งและในแดน 1-2 ของตัวเอง จากนั้นเมื่อได้บอลก็โต้กลับ จนได้ประตูประตูตามแผน แต่ที่ต้องตำหนิ คือ การจบสกอร์ที่ควรเฉียบคมกว่านี้ ขณะที่เกมรับก็ยืนได้ดีและไม่มีความผิดพลาดแบบชัดเจนให้เห็น

ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หากจะกล่าวว่าเป็นความเหนื่อยล้า มันอาจจะไม่สมเหตุผล เพราะจากภาพที่เห็นในวันนี้ พวกเขาจ่ายบอลเสียมากเกินไป แล้วมันทำให้พวกเขาต้องถอยมาตั้งรับอยู่ตลอด ขณะที่เกมรุก แทบจะไม่มิติอะไรเลย นอกเสียจากโยนหรือจ่ายยัดใหแนวรุก กระนั้นการเล่นเร็วแบบจังหวะเดียว ดูจะเป็นหนทางที่ทำให้พวกเขาเจาะเจ้าบ้านได้ แต่ดันทำได้แบบนานๆครั้ง สุดท้ายจึงยิงประตูไม่ได้และต้องพ่ายแพ้ไป   

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

มรสุมนอกฤดู ฉลามชล

ในวันที่ฉลามชลต้องฝ่ามรสุมนอกฤดู

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาของฟุตบอลไทย คงไม่มีข่าวไหนจะดังไปกว่ากรณีที่ วรวุฒิ สุขุนา เมาแล้วขับรถยนต์ส่วนตัวไปพุ่งชนผู้ที่มาออกกำลังกาย กระทั่งมีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีแถลงการณ์ 2 ฉบับ การประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของ นาย ศศิศ สิงห์โตทอง การออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อผู้สูญเสีย และการประกาศยกเลิกสัญญากับ วรวุฒิ สุขุนา ซึ่งจากที่กล่าวมานี้ คงเป็นเพียงแค่มรสุมช่วงเริ่มต้นเท่านั้น เพราะนับจากนี้คงมีมรสุมอีกหลายลูกที่ ชลบุรี จะต้องเจอและฝ่ามันไปให้ได้

เสียเด็กปั้นไปมือดีไปหนึ่งราย

การประกาศยกเลิกสัญญากับ วรวุฒิ สุขุนา ถูกมองว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม หากดูจากกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับนักกีฬาระดับโลก แต่ในอีกแง่หนึ่งก็นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับ ชลบุรี เอฟซี ที่เป็นผู้นำเจ้าแบงค์มาปลุกปั้น กระทั่งมีฝีมือจนติดทีมชาติชุดเยาวชน อีกทั้งยังได้ถูกส่งไปเก็บเลเวลกับสโมสรต่างๆ แล้วในฤดูกาล 2022/23 นี้ เจ้าตัวได้ถูกวางเป็นมือ 2 แต่ดันโชคดีมือ 1 บาดเจ็บ ทำให้ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงมาตลอด 6 นัด พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้ดีจนถูกมองว่าจะเป็นทายาทรุ่นต่อไปของฉลามชล แต่สุดท้ายดันมาเกิดเรื่องเสียก่อน และนับจากนี้อนาคตคงดับวูบหากคดีถูกตัดสินว่ามีความผิด  

แค่หางบทำทีมก็เหนื่อยแล้ว

ชลบุรี ไม่ใช่ทีมที่มีเงินมากมายก่ายกองเหมือนเมื่อแต่ก่อน เพราะได้เปลี่ยนโครงสร้างทีมด้วยการพึ่งพาตัวเยาวชนและขายออกเพื่อทำกำไร แต่ในบางเวลาเมื่อหมุนเงินไม่พอ ผู้บริการก็ต้องควักเนื้อจนถึงขั้นนำที่ดินไปเร่ขาย กระทั่งการเกิดกรณีของ วรวุฒิ ทำให้สิ่งที่ตามมาเป็นอย่างแรก คือ การใช้จ่ายเงินต้องแบ่งไปเยียวยาให้ผู้สูญเสีย ขณะเดียวกันระบบอะคาเดมี่ของชลบุรี ก็จะถูกตั้งคำถามถึงเรื่องระเบียบวินัยของนักเตะ ว่าจะสามารถควบคุมดูแล พัฒนา หรือคุ้มค่าที่จะทุ่มเงินมาซื้อตัวหรือไม่สำหรับสโมสรที่จะมาซื้อ  

ผลงานกำลังดี โมเมนตัมอาจเสียไป

     ผลงานของ ชลบุรี ในฤดูกาลนี้ เคยก้าวขึ้นไปยืนในตำแหน่งจ่าฝูง แต่ถึงแม้จะยืนระยะบนอันดับ 1 ไม่ได้ อย่างน้อยๆก็ยังเกาะกลุ่มหัวตาราง แต่การอุบัติขึ้นของเหตุการณ์ที่กล่าวมานี้ แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลต่อสภาพจิตใจของนักเตะ ดังจะเห็นได้จากเกมที่ลงเตะไป 2 นัด ซึ่งโดนทีมที่อ่อนกว่ายิ่งนาทีบาป แถมเกมล่าสุดต้องตกรอบ ช้างเอฟเอ คัพ อย่างรวดเร็ว ฉะนั้นตรงจุดนี้ก็ต้องเยียวยาจิตใจและพูดคุยกันให้มากขึ้น

      บทเรียนจากเหตุการณ์นี้ แน่นอนว่าผู้ก่อเหตุนั้นได้รับไปเต็มๆ กระนั้นมันได้ส่งสัญญาณเตือนให้นักฟุตบอลทุกนได้พึงระลึกว่าหน้าที่ที่สำคัญที่สุดคืออะไร เพราะเมื่อมันผิดพลาดไปแล้วคนรอบข้างก็ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงต้นสังกัดที่ต้องมาติดร่างแหด้วย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ผลัดกันดี ผลัดกันเด่น”

ชลบุรี 10 ตัวไม่หวั่น ตามเจ๊า ราชบุรี 2-2 เก็บ 1 แต้มกลับบ้าน

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 29 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามมิตรผล สเตเดี้ยม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่รอดพ้นจากการหนีตายแล้ว จะต้องพบกับ ชลบุรี เอฟซี ที่เหลือแค่ทำอันดับให้ดีที่สุดเท่านั้น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านและทีมเยือนต่างมาในระบบเดียวกัน คือ 4-2-3-1

      ในช่วง 15 นาทีแรก การบุกของทั้ง 2 ทีมพอมีให้เห็น แต่ไม่หวาดเสียวและอันตราย เพราะการยิงมักห่างจากปากประตู แต่พอเข้าสู่นาทีที่ 16 ราชบุรี มิตรผล ได้ประตูนำก่อน 1-0 โดยในจังหวะนั้นทีมเยือนกำลังเซตบอลอยู่ดีๆ แล้วจ่ายเสียจนโดนฉก จากนั้น ล็องจิล ได้มีพื้นที่แบบมหาศาลในการลากบอล ก่อนจะจ่ายแบบเกือบเบาไปให้ แดร์เลร์ ยิง

      หลังจากเสียประตู ชลบุรี ยังโจมตีทางริมเส้นไม่ค่อยได้ แต่ก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการชิบบอลข้ามกองหลังเจ้าบ้านให้ คานยุบ พักและยิง โดยจังหวะนี้แนวรับเจ้าบ้านพลาดที่ดักล้ำไม่ดีพอ ส่วน กัมพล ก็พลาดที่เลือกยืนป้องกันและไม่ออกมาปิดมุม ทั้งๆที่คนยิงยืนระยะเผาขนเช่นนั้น จากนั้นสถานการณ์ของ ราชบุรี ย่ำแย่ลงกับการเสียตัวผู้เล่นไป 1 คน ซึ่งเป็นเข้าฟาวล์ที่ไม่มีความจำเป็น     

ครึ่งหลังเริ่มไปได้แค่ 3 นาที ล็องจิล ลากเลี้ยงบอลทางริมเส้น พอเห็น กษิตเดช ว่างหน้ากรอบเขตโทษ ก็จัดการจ่ายและยิงเข้าไปเป็น 2-1 ให้ ราชบุรี  ซึ่งจากการนำเร็วและตัวผู้เล่นน้อยกว่า ถือว่าเป็นการออกสตาร์ท 45 นาทีหลังที่สวยหรู อย่างไรเสียทางฝั่ง ชลบุรี ก็ไม่ยอมและพยายามแก้เกมด้วยการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งของผู้เล่น จนมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการ pass and move ระหว่าง มูริลโล่ กับ กฤษดา แล้วจบที่การยิงด้านแคบเข้าไป จากนั้น ฉลามชล ยังคงบุกต่อเนื่อง เพราะตัวผู้เล่นมากกว่า แต่ดันเข้าแดนสุดท้ายไม่ค่อยได้ กลับกันทางฝั่งราชันมังกร ตั้งรับและมีการโต้กลับที่น่ากลัว แต่น็อคไม่สำเร็จเพราะจังหวะสุดท้ายไม่พอดี   

      บทสรุปจากเกม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี มีช่วงเวลาที่ดีและแย่สลับกันไป ซึ่งในช่วงเวลาที่แย่มักมีความผิดพลาดส่วนบุคคลเข้ามา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องไปติวเป็นรายบุคคล ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี เอฟซี พยายามจะตั้งเกมของตัวเองขึ้นมา แต่มีความผิดพลาดจนเสียประตูและต้องตามตีเสมอ ซึ่งหลังจากตีเสมอ 2-2 พวกเขาถึงได้รุกเต็มสูบ แต่ดันเจอรถบัวขวางจนทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายจึงได้แต่แต้มเดียว

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“โคราชรอดใสๆ”

โคราช ทำแสบ บุกเชือด ชลบุรี ถึงถิ่น 1-2 ขยับหนีโซนแดง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่แทบจะไม่มีอะไรต้องลุ้นอีกแล้ว จะต้องพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่พึ่งคว้าชัยนัดสำคัญ ฉะนั้นหากพวกเขาคว้า 3 แต้มได้อีก ประตูสู่ไทยลีก 2 ก็จะปิดตายทันที สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านวาง 4-4-2 ส่วนทีมเยือนใช้ 4-2-3-1

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ชลบุรี ทำอะไรก็ดูติดขัดไปหมด โดยเฉพาะการจ่ายบอลเสียกลางสนาม ซึ่งมันทำให้ทีมเยือนได้โต้กลับและจู่โจมหลายหน แต่ยังดีที่ไม่เสียประตู ส่วนการเล่นลูกฉาบฉวยของฉลามชล มักลงเอยด้วยการแต่งบอลหลายจังหวะ กระทั่งไม่มีจังหวะยิงแบบเหน่งๆ จนในนาทีที่ 40 นครราขสีมา มาได้ประตูนำ 0-1 จากการเปิดยาวของผู้รักษาประตู แล้วแนวรับเจ้าบ้านอ่านจังหวะบอลตกไม่ดี แถมยังยืนจดๆจ้องๆในจังหวะถัดมา นั่นจึงทำให้ นฤพล วิ่งแซงไปรับบอล ก่อนจะยิงไปเสาไกลแบบไม่ยากเย็น

ครึ่งหลังเริ่มไปได้แค่ 3 นาที ชลบุรี ตีเสมอ 1-1 โดยคราวนี้เป็นแบ็คขวาของทีมเยือนมัวแต่จ้องและไม่ประกบชิด ฟาอิค ทำให้มีเวลาเล็งก่อนเปิดไปเข้าหัวของ ยู บยอง ซู แบบพอดิบพอดี แม้จะมีตัวขวางถึง 2 คน อย่างไรเสียไล่หลังเพียง 5 นาทีกว่าๆ โคราช มาได้ประตูนำ 1-2 อีกครั้งจากลูกฟรีคลิก ซึ่งได้ฉวยโอกาสเล่นเร็วด้วยการจ่ายแทงตรงๆให้ อานิเยียร์ หลุดไปยิงเสาไกล จากนั้นการเปิดบอลยาวจากผู้รักษาประตูของทัพสวาทแคท หรือการเซตบอลโต้กลับขึ้นมา ก็เกือบนำพาให้พวเขายิงทิ้งห่างแต่ดันทำไม่ได้ ส่วนฉลามชลเจ้าถิ่น การโยนบอลจากริมเส้นเข้าไปดูจะได้ผลที่สุด แต่ก็ไม่ได้ เช่นเดียวกับการเจาะพื้นที่ว่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้หรือฟรีคลิกท้ายเกม พวกเขาดันเอาโอกาสทองเหล่านี้ไปเททิ้ง ทำให้ตีเสมอไม่ได้และต้องพ่ายแพ้ในที่สุด   

      บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี ออกสตาร์ทด้วยฟอร์มการเล่นที่ติดๆขัดและมีความผิดพลาด สุดท้ายจึงโดนลงโทษ แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง สถานการณ์เริ่มเข้าทางจากลูกตีเสมอเร็ว แต่ไล่หลังไม่นานก็มาเสียประตูจากการเผลอเพียงเสี้ยววินาที กระนั้นพวกเขาเดินหน้าบุกได้ดี แต่เพราะความไม่เฉียบคมจึงทำให้พ่ายแพ้ ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ครึ่งแรกฟอร์มดีกว่าเจ้าบ้าน

แล้วอาศัยจี้จุดอ่อนของคู่แข่งจนได้ประตูนำ อีกทั้งยังมีไหวพริบในการชิงเล่นเร็ว กระทั่งนำมาสู่ประตูที่ 2 ถึงกระนั้นก็ดี แนวรับยังมีความผิดพลาดในเรื่องของความละเอียดและสมาธิ ซึ่งนำมาสู่การถูกยิงตีเสมอ 1-1 และเกือบโดนยิงตีเสมอ 2-2 หลายครั้ง ฉะนั้นการคว้า 3 แต้มในเกม ถือว่าทั้งเก่งและเฮงในคราวเดียวกัน

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ชลบุรี เอฟซี ในเลกที่ 2

สรุปผลงาน ชลบุรี เอฟซี ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22 “ผลงานไม่ปัง เพราะฉลามพิการ”

การจบเลกแรกในอันดับที่ 3 ถือเป็นผลงานที่น่าพึงพอใจสำหรับ ชลบุรี เอฟซี เพราะโครงสร้างทีมเน้นใช้ตัวเยาวชนเป็นแกนหลัก ผสมกับต่างชาติที่ผ่านการคัดเกรดเพื่อเข้ามาประคองเด็กๆ นั่นจึงเป็นผลให้ทัพฉลามชลมีส่วนผสมที่ลงตัว และไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเสริมทัพในเลกที่ 2 เพราะมั่นใจในศักยภาพทีม

การเสริมทัพของ ชลบุรี เอฟซี ฮือฮาที่สุดคงหนีไม่พ้น ฟาอิค โบเกียห์ ซึ่งเป็นทายาทของราชวงษ์แห่งบรูไนที่มีสินทรัพย์ร่ำรวยติดอันดับโลก มาเสริมเกมทางริมเส้น ส่วนการปล่อยตัวผู้เล่นออกก็ได้ทำการขาย วรชิต ที่ปลุกปั้นมาตั้งแต่ 10 ขวบ ให้ บีจี ปทุม ด้วยราคา 36 ล้านบาท ส่วนการแข่งขันในเลกที่ 2 ผลงานเหมือนจะดีต่อเนื่อง แต่ทำไปทำมาดันออกอาการแบบช่วงต้นเลกแรก กล่าวคือ ผลงานดรอปไปดื้อๆ มิหนำซ้ำตัวผู้เล่นต่างชาติดันทยอยเจ็บแบบครบทีม จนถึงนัดที่ออกไปเยือน สุพรรณบุรี ที่ทั้งเสียตัวผู้เล่นเพราะโดนใบแดงและเสียตัวผู้เล่นระหว่างเกมเพราะอาการบาดเจ็บ ทำให้ในเลกที่ 2 โค้ชเตี้ยไม่สามารถจัดทีมแบบเต็มอัตราศึกได้เลย

การขาดหายไปของ วรชิต ดูจะไม่มีผลกระทบกับ ชลบุรี เพราะก่อนที่เจ้ายิมจะย้ายออกไป เจ้าตัวก็โดดเด่นเป็นบางนัดเท่านั้น ขณะที่การเข้ามาของ ฟาอิค โบเกียห์ ดูจะเป็นดีลที่คุ้มค่าไม่น้อย เพราะด้วยลีลาการกระชากบอลทางริมเส้น มันมักไปถึงเพื่อนที่รออยู่หน้าประตู กระนั้นแนวรุกชาวเกาหลีใต้อย่าง ยู บยอง ซู อยู่ๆได้เกิดอาการสากเข้าสิงห์และใช้โอกาสเปลื้อง อย่างไรเสียด้วยความที่แนวรุกประสบอาการบาดเจ็บกันหมด ทำให้ ยู ที่แม้จะโดนวิจารณ์อยู่เรื่อยๆ ได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องและยังดีที่สามารถยิงประตูสำคัญให้ทีมได้ตลอด

การที่ ชลบุรี เอฟซี จบอันดับที่ 7 ของตาราง ดูเหมือนจะน่าผิดหวัง เพราะด้วยการเสริมตัวต่างชาติแบบจัดเต็ม แต่หากมองจากสภาพขุมกำลังที่ไม่เคยอยู่ในสภาพสมบูรณ์ให้โค้ชเตี้ยได้จัดเลย มันก็พอจะเข้าใจได้ กระนั้นตัวที่เป็นดั่งความหวังสุดท้ายอย่าง ยู บยอง ซู ดันฟอร์มตก จนไม่สามารถช่วยฉุดโมเมนตัมของทีมให้ขึ้นมาได้ ส่วนในฤดูกาลถัดไป ฉลามชลต้องเผชิญต่อความท้าทายอีกครั้งกับการหานักเตะต่างชาติ โควต้าเอเชีย และอาเซียน เข้ามาแทนตัวที่ออกไป โดยหากหามาและทดแทนได้ ผลงานที่ดีก็สามารถหวังได้ แต่หากหามาแล้วไม่รุ่ง ผลงานของทีมก็อาจจะวนๆเวียนๆเหมือนในปีที่พึ่งผ่านพ้นไป

ติดตาม ความSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

โปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 (วันศุกร์-เสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เดินหน้าซัดความมันส์อย่างต่อเนื่องในนัดที่ 3 โดยในสุดสัปดาห์นี้จะมีการแข่งขันเพียง 7 คู่ เพราะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ต้องเดินทางไปที่ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อทำศึก ACL รอบ 16 ทีมสุดท้าย กับ ชนบุค ฮุนไดมอเตอร์ ขณะที่ในส่วนนี้เราจะหยิบยกเกมการแข่งขัน 1 คู่ ในวันศุกร์ และ 3 คู่ ของวันเสาร์ ในเวลา 18.00 น. มาวิเคราะห์วิจารณ์กัน      

สมุทรปราการ ซิตี้ พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          เขี้ยวสมุทร ออกสตาร์ท 2 นัดแรก ด้วยการออกไปเยือนแล้วสามารถเก็บได้ 4 คะแนน ซึ่งนี้ถือว่าเป็นผลงานที่ใช้ได้ หากดูจากสภาพทีมที่หลากคนเป็นห่วง ส่วนทางฝั่งแข้งเทพของโค้ชแบน ฟอร์มการเล่นจาก 2 นัดที่ผ่านมา ถือว่าโชว์ฟอร์มได้สมกับทีมเต็งจริงๆ แต่มันก็น่าเสียดายที่นัดล่าสุดทำได้แค่เสมอ ทั้งที่มีโอกาสทองจะคว้า 3 แต้มได้ สำหรับเกมการแข่งขันคู่นี้มองว่าจะเป็นเกมคุณภาพอีกคู่ ขณะที่ผลการแข่งขันเชื่อว่าทีมเยือนจะไม่แพ้ออกไปเป็นแน่

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด

          สิงห์เจ้าท่า เก็บได้ 2 คะแนน จาก 2 นัด ซึ่งมันอาจเป็นผลงานที่ไม่ค่อยดีเท่าไรหากมองจากตรงนี้ แต่ถ้าแหวกให้ลึกลงไปจะพบว่าลูกทีมของโค้ชโอ่งมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเกมล่าสุดกับ บียู

ส่วนทางด้านจงอางผยอง ไม่ต้องรอนานกับการคว้า 3 แต้มแรกในลีกสูงสุด เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถโค่น ประจวบลงได้ แต่สำหรับเกมที่จะบุกมาเยือน แพท สเตเดี้ยม มันอาจเป็นงานยากของทีมจากเมืองหมอแคนที่มาแบ่งแต้ม เพราะด้วยศักยภาพและเป้าหมาย การท่าเรือ ต้องหวัง 3 แต้ม สถานเดียว   

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ชลบุรี เอฟซี พบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี          

ฉลามชล ออกสตาร์ทปีนี้ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดูดีมีทรงและน่าติดตามกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา กระนั้น 2 นัดที่ผ่านมา ดันเก็บได้เพียง 2 แต้ม อีกทังนัดล่าสุดกับ เมืองทอง ถือว่าเสียดายสุดๆ เพราะอุตสาห์นำไปไกลถึง 0-3 แต่การถอนคันเร่งเกินพิกัดแล้วดวงซวยผสม

ทำให้ถูกตีเสมอ 3-3 แบบช็อคตาตั้ง ส่วนทางฝั่งพญาไก่ชน การเจอกับทีมระดับกลางๆในบ้าน 2 นัด แล้วเก็บได้ 3 แต้ม ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่การออกไปเยือนถิ่นชลบุรี สเตเดี้ยม มองมุมไหนก็น่าจะเสร็จเจ้าบ้านที่หิวกระหายกับ 3 แต้ม 

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

ชลบุรี เอฟซี (ฉลามชล)

“หลังยวบ แต่ยังยันอยู่” ชลบุรี ได้โทษตามเจ๊า บีจี สุดมันส์ 1-1   

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 นัดเปิดฤดูกาล เกมบิ๊กแมตช์อยู่ในส่วนของวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง ชลบุรี เอฟซี ในฐานะเจ้าบ้านและรองแชมป์ช้างเอฟเอ คัพ กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ลงสนามในฐานะแชมป์เก่าและสดๆร้อนๆ กับแชมป์ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์ คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างเลือกเอาระบบ 3-5-2

มาชนกัน การแข่งขันใน 45 นาทีแรก เป็นไปอย่างสูสี โดยทางฝั่ง บีจี ปทุม เพรสซิ่งสุดซอย แต่มันไม่ได้บอล นอกเสียจากถอยมาดักในแดนของตัวเอง ส่วนจังหวะการเข้าทำไม่มีปรากฏให้เห็นแบบเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็มาได้ประตูจากความเฉียบคมของ ดิโอโก้ ที่ถอยตัวมายิงเสาแรก ทางฝั่งของชลบุรี เกมรับทำหน้าที่ได้ดี

แต่ดันเสียประตูแบบคาดไม่ถึง ขณะที่เกมบุกแกะเพรสซิ่งและโต้กลับได้ดี แต่บอลมักไปตายในแดน 3-4 ของคู่แข่ง ทำให้ในช่วงท้ายครึ่งแรกมีการดันตัวผู้เล่นขึ้นไปค้ำแดนบน เพื่อดักบอลและโจมตีแบบสายฟ้าแลบ กระนั้นแนวรับของทีมเยือนก็ไม่มีผิดพลาดให้   

ชลบุรี เอฟซี
ชลบุรี เอฟซี

ช่วงครึ่งแรก บีจี เสียกองหลังตัวหลักอย่าง วิคเตอร์ ไป เช่นกันกับครึ่งหลังที่เสีย ชาตรี ไปอีกคน แต่นั้นกลับไม่ใช่ปัญหา เพราะตัวที่ลงมาสามารถทดแทนได้เป็นอย่างดี กระทั่ง เฮอร์เนสโต้ ที่ลงมาในฐานะตัวสำรองไปเข้าพรวดจนเสียจุดโทษและถูกตีเสมอ 1-1 แถม ยอดรัก ยังมาสมาธิแตกกับการชักศอกใส่คู่แข่งจนโดนแดง ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นเวลาที่วิกฤต แต่ความนิ่งของแนวรับกระต่ายแก้ว ก็ช่วยประคองให้ทีมไม่ถูกยิงแซง

อีกทั้งแนวรุกยังหาโอกาสที่จะบวกประตูเพิ่ม แต่มันก็ห่างไกลจากจุดนั้น เพราะแดนกลางของ บีจี ไม่มีตัวประเภทสร้างสรรค์เกม ส่วนทางด้านชลบุรี ครึ่งหลังพยายามเข้าบีบเร็ว แต่เมื่อได้บอลต้องชะลอจังหวะ เพราะยิ่งเร่งยิ่งเสีย ซึ่งการชะลอจังหวะทำให้เจาะประตูยาก เพราะแนวรับคู่แข่งถอยไปแพ็คแน่นแล้ว อย่างไรเสียด้วยผิดพลาดของคู่แข่ง ก็ได้มอบโอกาสยิงตีเสมอให้ 

          สิ่งที่น่าเสียดายของ ชลบุรี ในเกมนี้ คือ โมเมนตัมกำลังเหวี่ยงมาหากับการได้ประตูตีเสมอและได้เปรียบตัวผู้เล่น 1 คน ซึ่งตรงนี้ควรหาทางยิงแซง แต่ดันถอยไปรับและไม่เพรสซิ่งอย่างดุเดือดเหมือนก่อนที่จะตีเสมอ ทำให้รูปเกมที่ปรากฏกลายเป็น บีจี ได้บุก ส่วน ชลบุรี ได้แต่บุกขึ้นไปแล้วเปิดบอลจากริมเส้นซ้าย-ขวา จนจบเกม          

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี มีเกมรับที่ดี แต่ดันโชคร้ายกับการเสียประตู ส่วนเกมบุก ความอันตรายลดลงทันทีเมื่อถึงแดนสุดท้ายของคู่แข่ง เพราะตัวเองสปีดบอลช้า จนโดยคู่แข่งแพ็คเกมรับแน่น พลางจะแทงทะลุช่องก็มีเพียง มูริลโล่ ที่เป็นเป้าเดี่ยว ซึ่งยังโชคดีที่ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามพลาดให้ มิเช่นนั้นวันนี้มีสิทธิ์แพ้สูง

ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เกมรับแน่นขึ้น พร้อมกับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมเก็บแต้มกลับมา ขณะที่การเซตเกมก็ไหลลื่น แต่เกมบุก คือ ปัญหา เพราะไม่ค่อยมีไอเดียที่ชัดเจนเลย ซึ่งถ้าวันนี้ไม่ได้ความเฉียบคมของ ดิโอโก้ วันนี้มีสิทธิ์ถึงแพ้         

ชลบุรี เอฟซี
ชลบุรี เอฟซี

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960

Categories
Sport

อนาคตของ ชัปปุยส์ จะเป็นอย่างไรนับจากนี้

ในยุคโควิด-19 แบบนี้ สโมสรฟุตบอลในไทย ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า เพราะไม่มีรายได้เข้ามาเลยราว 1 ปีกว่าๆแล้ว นั่นจึงทำให้นักเตะไทยราคาแพงที่ต้องต่อสัญญาในช่วงระยะนับจากนี้ จะไม่มีทางได้ค่าเหนื่อยที่มากไปกว่าเดิม รวมไปถึงแข้งที่โชว์ฟอร์มตก ที่คงจะยากยิ่งกับการได้เงินเดือนเท่าเดิม ซึ่งตรงจุดนี้กำลังโยงไปถึง ชาริล ชัปปุยส์ ที่อนาคตนับจากนี้ คงไม่มีสิทธิ์จะมารับค่าเหนื่อยแพงระยับได้อีก

          จริงๆแล้ว ชาริล ชัปปุยส์ ก็ไม่ได้มีฟอร์มการเล่นที่ดีมาตั้งแต่สมัยอยู่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แล้ว แต่การย้ายมาสู่ถิ่นกิเลนผยอง มันได้ช่วยสร้างมูลค่าทางการตลาดและรายได้ที่เพิ่มขึ้น ผ่านการขายของที่ระลึก กระทั่งปี 2020 ก็ได้ย้ายข้ามฝากมาอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี ด้วยความหวังว่าจะสามารถยกระดับทีม เพิ่มมีมูลค่าทางการตลาด รายได้ และฐานแฟนคลับให้กว้างไกลออกไป ซึ่งราคาที่มาดามแป้งต้องจ่ายเป็นค่าเหนื่อยสำหรับการดึงตัวในครั้งนี้ ตกเดือนละ 7 แสนบาท แต่จากที่เห็นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก็จะเห็นได้ว่า ชัปปุยส์ ใช้เวลาส่วนใหญ่บนม้านั่งสำรอง ส่วนการลงสนามจะเป็นในฐานะตัวสำรองช่วง 10-15 นาทีท้าย หรือถ้าหากการลงเต็มเกม ก็จะมีเพียงในทัวร์นาเมนต์บอลถ้วยรอบแรกๆ ฉะนั้นการจ่ายเงินเดือนมากขนาดนี้ แต่เล่นได้แค่นี้ มันจัดว่าขาดทุนบรรลัยสำหรับคนจ่าย  

อนาคตของ ชัปปุยส์ จะเป็นอย่างไรนับจากนี้
อนาคตของ ชัปปุยส์ จะเป็นอย่างไรนับจากนี้

ทีนี่หากถามว่าถ้า ชัปปุยส์ ต้องย้ายทีม มันมีเงื่อนไขส่วนตัวอะไรบ้าง อย่างแรก คือ นักเตะต้องการอยู่อาศัยในกรุงเทพ หรือปริมณฑล อีกทั้งไม่ต้องการย้ายออกไปต่างจังหวัด นั่นจึงทำให้ตัวเลือกน้อยลง แต่เมื่อกวาดสายตาดู ก็จะพบว่าไม่มีทีมไหนจะยอมจ่ายค่าตัวแพงระยับกับผู้เล่นที่ฟอร์มตกแบบนี้ เพราะขนาดบ้านเก่าอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ให้ได้เต็มที่ คือ 3 แสนบาทต่อเดือน หรืออีกตัวเลือกที่นักเตะอาจจะไม่สนใจ แต่อาจเป็นผลดีกับเจ้าตัว คือ ชลบุรี เอฟซี ที่ลือๆกันว่าเคยคิดยื่นข้อเสนอขอยืมตัวและช่วยจ่าย 10-20% ของเงินเดือน โดยหากย้ายมาอยู่ที่นี่จะไม่ใช่การมากอบโกยเงิน หากแต่เป็นการบำบัดฟื้นฟูฟอร์มการเล่นที่ตกลงมานานหลายปี ให้ฟื้นคืนเหมือนเมื่อ 5-6 ปีก่อน 

อนาคตของ ชัปปุยส์ จะเป็นอย่างไรนับจากนี้
อนาคตของ ชัปปุยส์ จะเป็นอย่างไรนับจากนี้

          ฉะนั้นจากที่เล่ามาทั้งหมดนี้ จึงเป็นทางเลือกที่ ชัปปุยส์ ต้องพิจารณาอย่างจงหนัก เพราะถ้าหากมองเรื่องสถานที่และเงิน การค้าแข้งอยู่ในไทยจะลำบากมากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะฟอร์มการเล่นสวนทางกับเงินเดือนที่สูง แต่ถ้าหากเลือกจะพัฒนาตัวเองเป็นอันดับแรก การค้าแข้งในไทยก็จะยังคงเปิดกว้างต่อไปสำหรับมาดฟิลด์รูปหล่อผู้นี้

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

เปิดโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1 (2)

ฟุตบอลลีกอาชีพของไทย อาจยังไม่มีกำหนดในการออกสตาร์ทที่แน่นอน รวมถึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะแข่งขันกันด้วยรูปแบบไหน แต่กระนั้นโปรแกรมเตะก็ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในส่วนนี้เรานะไปดูในอีก 4 คู่ที่เหลือ

เชียงใหม่ ยูไนเต็ด –  ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ช้างศึกล้านนา น้องใหม่สดๆซิงค์ๆของไทยลีก 1 ตัวผู้เล่นหลายรายชื่อคุ้นหูเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการเสริมทัพที่เอาเรื่องเหมือนกัน ส่วนแข้งเทพ นับตั้งแต่โค้ชแบนเข้ามา แล้วมีโอกาสได้เสริมนักเตะ ทีมก็ลงตัวมาตั้งแต่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว ฉะนั้นจึงเชื่อว่าการพบกันของทั้ง 2 ทีม จะสนุกสูสี แต่อย่างไรเสียก็เชื่อว่าแข้งเทพไม่แพ้แน่

เปิดโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1 (2)
เปิดโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1 (2)

พีที ประจวบ เอฟซี –  เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ดูเหมือนจะแย่ แต่ก็เอาตัวรอดมาได้ อย่างไรเสียความเปลี่ยนก็ได้เกิดขึ้น เมื่อ โค้ชวัง ที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่เลื่อนชั้นใหม่ๆ ได้ลงจากตำแหน่ง ทำให้ต่อพิฆาตต้องไปดึง มาซามิ ทากิ มาคุมแทน ซึ่งจากชื่อชั้นของกุนซือชาวญี่ปุ่นผู้นี้ เชื่อจะทำให้ประจวบ ไม่ต้องกังวลกับการหนีตายอีก ส่วนกิเลนผยอง การนำทัพโดย มาริโอ ยูรอฟกี้ ได้ช่วยแปรเปลี่ยนให้ทีมกลับมาเล่นแบบมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทำให้การพบกันของทั้ง 2 ทีม จะเป็นการวัดมันสมองกุนซือ เพราะศักยภาพนักเตะไม่ต่างกันมาก แต่สุดท้ายยังเชื่อว่าลูกทีมของมาริโอ จะไม่แพ้

เปิดโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1 (2)
เปิดโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1 (2)

ชลบุรี เอฟซี – บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ฉลามชล เสริมตัวต่างชาติน่ากลัวเหลือเกินในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้เมื่อมาผสมกับตัวเด็กไทยที่มีอยู่ คงจะจิ๊ดไม่เบา ส่วนกระต่ายน้ำเงินครามแชมป์เก่า สภาพทีมสมบูรณ์อยู่แล้ว แต่ก็มีการเสริมตัวไทยเข้ามา สำหรับการพบกันของทั้งคู่คงจะสนุกสูสีสมกับบิ๊กแมตช์ แต่สุดท้ายเชื่อว่าอย่างแย่สุด คือ บีจี ปทุม เจ๊า

เปิดโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1 (2)
เปิดโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1 (2)

สมุทรปราการ ซิตี้ –  สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด การเสียผู้เล่นตัวหลักหลายราย จึงถูกตั้งคำถามว่าเขี้ยวสมุทรจะไหวหรือไม่ เพราะการเสริมทัพเข้ามาดูไม่สมน้ำสมเนื้อ แต่กระนั้นพวกเขาก็ยืนยันหนักแน่นว่า อิชิอิ เอาอยู่และให้รอดูเซอร์ไพรส์ ส่วนทางฝั่ง

กว่างโซ้งมหาภัย พึ่งไปโชว์ความยอดเยี่ยมใน ACL แม้ว่าท้ายที่สุดจะตกรอบ สำหรับการโคจรมาพบกันของทั้ง 2 ทีม เชื่อว่าจะมาเล่นแบบชวนทะเลาะและมีโอกาสเจ๊าสูง แต่หากถามถึงผู้ชนะ โอกาสน่าจะพอๆกัน

เปิดโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1 (2)
เปิดโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1 (2)

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com