Categories
Sport

ขนาดบ๊วยยังคาบ้าน

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กู่ไม่กลับ เปิดบ้านพ่ายบ๊วย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ผลงานย่ำแย่แบบสุดๆ จนแฟนบอลรวมตัวขับไล่ แมตต์ สมิธ ให้พ้นจากตำแหน่ง

วันนี้จะต้องพบทีมอันดับสุดท้ายอย่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ยังคงจมอยู่ในโซนตกชั้นแบบไม่มีวี่แววว่าจะขยับตัวเองขึ้นมาได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนวางผัง 4-3-3

      บีจี ปทุม เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าชัดเจนก็จริง แต่เหมือนไม่รู้ว่าจะเข้าทำในแดน 3-4 อย่างไร ซึ่งจากที่เห็นคือ การให้บอลแบบไดเรคแก่กองหน้า หรือขึ้นทางริมเส้นแล้วให้กันไปมา จนเมื่อไรที่พอจะมีช่องว่างก็จะเปิดบอลเข้าไป กระนั้นในนาทีที่ 28 บีจี ปทุม ได้จุดโทษขึ้นนำ 1-0 เพราะแนวรับทีมเยือนไปทำฟาวล์ในเขตโทษ

แต่ไล่หลังไม่นาน หนองบัว พิชญ ก็มาได้จุดโทษตีเสมอ 1-1 จากการถูกทำฟาวล์ในนาทีที่ 36 ไม่เพียงเท่านั้น พญาไก่ชน มาได้ประตูแซงนำ 1-2 จากการไหลบอลให้กันด้านข้าง ก่อนจะลากไปมุมแคบและยิงเสาแรก ซึ่งแนวรับและผู้รักษาประตูของเจ้าบ้าน ต้องรับความผิดพลาดนี้แบบเต็มๆ

ครึ่งหลังเริ่มไม่ได้ไม่ถึงนาที หนองบัว พิชญ ทิ้งห่าง 1-3  ซึ่งแนวรับเจ้าถิ่นยืนมองแต่ไม่เข้าประกบ ทั้งตัวเปิดและคนโหม่งอย่าง ทาเดร์ลี่ จากนั้น บีจี ปทุม โหมบุก แล้วมันก็เห็นถึงรูปแบบที่ไม่มีความชัดเจน เพราะเน้นทักษะเฉพาะตัวของผู้เล่นเป็นหลัก ไม่เพียงเท่านั้น การสวนกลับของทีมเยือน ยังมีโอกาสที่หวาดเสียวและน่าได้ประตูทิ้งห่างมากกว่าเสียอีก

      บทสรุปจากเกม บีจีปทุม ยูไนเต็ด คงต้องตัดสินใจอย่างจริงจังว่าจะปลด หรือยอมทนเห็นผลงานที่ย่ำแย่นี้จนจบฤดูกาล เพราะการคุมทีมของ แมตต์ สมิธ ไม่สามารถโค้ชชิ่งนักฟุตบอลหรือวางระบบให้ชัดเจนว่าจะเล่นอะไร โดยอย่างเกมรุกเน้นให้บอลแบบไดเรค

ขณะที่เกมรับแค่ลงไปยืน แต่ไม่รู้ว่าใครต้องทำหน้าอะไรเพื่อให้คู่แข่งมีพื้นที่น้อยที่สุด ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี จริงๆวันนี้มาเน้นเกมรับเพื่อเอาแต้ม แต่วันนี้ดันได้ 3 แต้มออกไป เพราะการตั้งรับของเจ้าบ้านหละหลวม รวมถึงเปิดพื้นที่ให้เล่นอย่างสะดวก ฉะนั้นขอแค่ให้บอลแม่นๆ วางแม่นๆ จบสกอร์คมๆหน่อย สุดท้าย 3 แต้มนี้ถือเหมาะสมและไม่ใช่เพราะโชคเข้ามาช่วยแต่อย่างใด

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ชัยชนะที่ไร้ความตื่นเต้น

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปาดเหงื่อ ก่อนเฉือน ประจวบ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในโปรแกรมวันเสาร์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่นับตั้งแต่เลก 2 ยังไม่ชนะใคร จะต้องเปิดรังปทุมธานี สเตเดี้ยม รับ พีที ประจวบ เอฟซี ทีมโซนแดงที่ผลงานอยู่ในเกณฑ์ดีและอยู่เหนือโซนตกชั้น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมาใช้ 3-4-3 ขณะที่ทีมเยือนใช้ระบบเดิมอย่าง 4-4-2

      เกมการแข่งขันเริ่มต้นมาได้ 2 นาที บีจี ปทุม ขึ้นนำก่อน 1-0 จากการยิงไกลบริเวณเส้นเขตโทษของ อภิสิทธิ์ ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนประมาท เพราะเลือกจะยืนประคองไว้โดยไม่เข้าบีบกดดัน จากนั้นกลายเป็น กระต่ายแก้วถอยลงไปตั้งรับในระบบ 5-4-1 เพื่อปิดพื้นที่ไม่ให้ พีที ประจวบ สามารถพาบอลเข้ามาในแดน 3-4 ได้ อย่างไรเสีย

ต่อพิฆาตก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 30 จากการฉีกตัวมาโหม่งเสาแรกและบอลพุ่งเสียบเสาไกล และช่วงเวลาที่เหลือราว 15 นาที กลายเป็นทีมเยือนที่เล่นดีกว่าและมีโอกาสจบสกอร์ ตรงข้ามกับเจ้าถิ่นที่หลังจากได้ประตู ก็ไม่สามารถขึ้นเกมบุกได้อีกเลย

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม ปรับเกมด้วยการต่อบอลบริเวณริมเส้น แต่จังหวะที่ต้องเข้าทำไม่ลงตัวเพราะนักเตะไม่รู้ตำแหน่งที่ต้องยืน ทำให้โอกาสยังไม่ค่อยมี กระนั้นการเปิดบอลของ สันติภาพ ไปหา ธีรศิลป์ ก็ยังดีพอที่จะเป็นประตูขึ้นนำ 2-1 จากนั้น บีจี ปทุม เล่นตามสเต็ปเดิมคือ ถอยไปตั้งรับและโดน พีที ประจวบ โจมตีด้านข้าง บอลแทงทะลุช่อง แต่สุดท้ายยังดีที่รอดตัวมาได้   

      บทสรุปจากเกม การคว้า 3 แต้ม ในเกมนี้ของ บีจีปทุม ยูไนเต็ด มันไม่ได้เห็นถึงพัฒนาที่แตกต่างไปจากเดิม อีกทั้ง 2 ประตู ก็ได้มาจากความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น โดยสิ่งที่เห็นหลักๆคือ การฝึกซ้อมที่ไม่เห็นผลลัพธ์ทั้งเกมรุกและรับ นอกจากนี้การวางแผนและแก้เกมก็ปอดแหกตาขาว เพราะเมื่อไรที่ได้ประตูนำ

ก็จะถอยไปตั้งรับประหนึ่งเป็นทีมรอง ทั้งๆที่ศักยภาพผู้เล่นเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี ความประมาทเป็นสาเหตุหลักให้พ่ายแพ้ในวันนี้ โดยเกมรับมักยืนประคองและไม่เข้าบีบ ทำให้แนวรุกคู่แข่งมีช่อง ส่วนเกมรุกมีโอกาสเรื่อยๆ แต่มันน่าเสียดายที่ความนิ่ง ความเฉียบคม มีไม่มากพอ ทำให้เกมนี้อดคว้าแต้มออกมาแบบน่าเสียดาย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Uncategorized

บทบาทเฮดโค้ช

แมตต์ สมิธ “ถูกที่ แต่(อาจ)ผิดเวลา”

ผลงานของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ว่าการเปลี่ยนจาก เทกุระโมริ มาเป็น แมตต์ สมิธ คือ การตัดสินใจที่ถูกต้องหรือเปล่า เพราะในยุคของกุนซือชาวญี่ปุ่น ทีมอยู่กลุ่มหัวตาราง

มีจุดเด่นตรงการเล่นในบ้าน แม้ผลงานนอกบ้านจะไม่ดี กลับกันในยุคของกุนซือชาวออสเตรเลีย แค่เอาชนะยังเป็นเรื่องยาก กระนั้นการโทษที่ตัวโค้ชอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกนัก เพราะมันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เป็นเช่นนี้ รวมถึงประสบการณ์ของเจ้าตัว

นักเตะบาดเจ็บ

อย่างแรกต้องว่ากันตามตรง คือ นักเตะตัวหลักเจ็บ ซึ่งมันมีมากถึง 10 กว่าราย นั่นจึงเท่ากับว่าตัวจริงจะหลงเหลือเพียงไม่กี่คน รูปแบบการเล่น หรือการวางแท็กติก ต้องเปลี่ยนไป และท้ายที่สุด คือ ศักยภาพของทีมย่อมลดลงไป ฉะนั้นมันจึงเป็นงานที่ยากมากๆของ แมตต์ สมิธ ในการใช้นักเตะที่ศักยภาพด้อยลง แล้วคาดหวังว่าผลงานจะต้องอยู่ในระดับเดิม เพราะแม้แต่กุนซือที่มีประสบการณ์ ก็มีทั้งแก้ได้ หรือล้มเหลวไปเลยก็มี

ขนาดทีม กับ ศักยภาพโค้ช ไม่สอดคล้องกัน

บีจี ปทุม ยูไนเต็ดเป็นทีมใหญ่ในลีกไทยอย่างไม่มีใครต้องสงสัย อีกทั้งตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา พวกเขาได้ยกระดับตัวเองขึ้นมาทัดเทียม บุรีรัมย์ ด้วยการเสริมนักเตะตัวท็อปเข้ามา ซึ่งการเอา แมตต์ สมิธ เข้ามา บอร์ดบริหารอาจมองถึงโมเดลเมื่อปี 2020 ที่เอาโค้ชโอ่ง มาคุมทีมด้วยแท็กติกที่ไม่ซับซ้อน แล้วเสริมนักเตะดีๆให้

กระนั้นการเอา แมตต์ สมิธ มาคุมทีม มันเป็นโมเมนตที่ต่างออกไป เพราะขุมกำลังนักเตะบาดเจ็บ 10 กว่าราย แถมนักเตะนักตัวหลักก็มีอายุ และการเสริมเข้ามาใหม่ก็มีคุณภาพที่ต่ำลง ขณะที่เดียวกัน แมตต์ สมิธ เป็นโค้ชที่พึ่งเลิกเล่นฟุตบอลได้ไม่นาน ประสบการณ์น้อย ไม่เคยคุมทีมใหญ่ และถึงแม้ว่าผู้บริหารจะบอกว่าสามารถรอ แมตต์ สร้างทีมขึ้นมาใหม่ได้ แต่ในเมื่อตัวเองย้ำแล้วย้ำอีกว่าแนวทาง คือ ธุรกิจฟุตบอล การปล่อยให้ทีมผลงานแย่ แฟนบอลลดลง ของขายไม่ได้ บอร์ดบริหารย่อมไม่ปล่อยให้ไปถึงจุดนั้นอีกแน่ๆ สุดท้ายถ้าผลงานไม่ดี ยังไงกระต่ายแก้วต้องเปลี่ยนโค้ชแน่นอน

แมตต์ สมิธ ยังมือไม่ถึง

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีวัฒนธรรมในการใช้โค้ชแบบระยะสั้นเหมือนเชลซี ฉะนั้นหากต้องการสร้างทีมด้วยตัวผู้เล่นที่เป็นเด็ก ก็จำเป็นจะต้องหาโค้ชที่พอมีประสบการณ์ในระดับหนึ่งและต้องการพิสูจน์ตัวเองในระดับสูง มิใช่เลือกโค้ชมือใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านงาน

เพราะสุดท้ายสโมสรเสียหาย ผลงานไม่ดี ขณะที่โค้ชก็เสียความมั่นใจและประวัติการทำงาน กลับกันหาก แมตต์ ทำงานโค้ชมาแล้วกับทีมอื่น และผลงานดี การเข้ามาคุมทีมอาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ชนะเพราะพลาดน้อยกว่า”

ฟอร์มไม่ดี เฉือน บีจี ปทุม

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 16 คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์อยู่ที่สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานก่อนปิดเลกแรกยังไม่ดี จะต้องพบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่การเข้ามาของ โค้ชแมตต์ สมิธ ยังเป็นคำถามว่าจะพาทีมไปสู่จุดที่เคยยืนได้หรือไม่ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-2 ขณะที่ทีมเยือนกลับมาใช้ระบบ 3-5-2 อีกครั้ง

การท่าเรือ พยายามใช้ปีกโจมตีด้วยจ่ายบอลไปตรงริมเส้นบริเวณแดน 3-4 เพราะในระบบหลัง 3 ของทีมเยือนเปิดพื้นที่ตรงนี้และปีกถอยมาช่วยไม่ทัน กระนั้นจังหวะเข้าทำยังไม่เด่นชัด เพราะโดนแนวรับฝั่งตรงข้ามสกัด กระนั้นแม้ว่า สิงห์เจ้าท่าจะเสียบอลไม่บ่อย

แต่พอเสียแล้วลงไม่ทัน ทำให้แนวรับต้องตัดฟาวล์เสียใบเหลืองและมาโดนใบแดงเหลือ 10 คน อย่างไรก็ดี การท่าเรือ มาได้ประตูนำ 1-0 จากความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือนที่จ่ายบอลไม่ดี สกัดพลาด ทำให้ แฮร์มิลตัน ที่ยืนอยู่ด้านใน ได้โขกแบบเต็มศีรษะ

รูปเกมของ บีจี ปทุม ในครึ่งแรก ไม่มีการเชื่อมบอล หรือต่อบอล จะมีเพียงการลากทางริมเส้นแบบฉายเดี่ยว หรือลากบอลแล้วรีบจบด้วยการยิง ทำให้ในช่วงต้นครึ่งหลัง ปีกขยับขึ้นมาสูงขึ้นเพื่อเปิดบอล กองกลางมีการประสานงานกับตำแหน่งรอบข้างเพื่อทำชิ่ง

จนในนาทีที่ 62 บีจี ปทุม มาได้ประตูตีเสมอ1-1 จากจุดโทษ แต่ให้หลังเพียง 5 นาที แนวรับกระต่ายแก้วผิดพลาดและสื่อสารกันไม่ดี ทำให้แฮร์มิลตันที่วิ่งตามมา ได้ยิงให้เจ้าบ้านนำ 2-1จากนั้น สิงห์เจ้าท่า มีโอกาสโจมตีริมเสิน แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ กระทั่ง 10 นาทีสุดท้าย บีจี ปทุม เร่งเกมได้ดี มีลูกเปิดด้านข้าง และเตะมุม จนเกือบได้ประตู แต่น่าเสียดายที่ยิงตีเสมอไม่ได้

บทสรุปจากเกม ทั้ง 2 ทีมต่างมีฟอร์มที่ไม่ดีทั้งคู่ โดยทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี การขึ้นบอลไปถึงแดนหน้าน้อย อีกทั้งการเสียบอลกลางทาง ถอยไปตั้งรับช้าจนทำให้แนวรับต้องสกัดฟาวล์และเสียใบแดง ขณะเดียวกันเกมรับมีแกว่งเมื่อโดนโหม ซึ่งยังโชคดีที่ไม่ยิง

นอกจากนี้การได้ 2 ประตู ก็ต้องบอกตามตรงว่ามันเป็นเพราะความผิดพลาดของทีมเยือน แล้ว แฮร์มิลตัน ฉกฉวยมันไว้ได้ ส่วน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เกมรับผิดพลาดกันง่ายๆแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้น และตรงจุดนี้ทำให้ทีมพ่ายแพ้ ขณะที่เกมรุก มีช่วงเวลาที่มีการประสานและทำชิ่ง แต่มันเป็นเพียงเวลาสั้นๆ ฉะนั้น แมตต์ สมิธ มีงานที่ต้องแก้อีกมากมายก่อนถึงสัปดาห์หน้า

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แพ้ตั้งแต่นัดแรก”

บีจี ปทุม ประเดิมซีซั่น พ่าย ชลบุรี 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดตกค้างกลางสัปดาห์ ณ สนามชลบุรี UTA สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานการสตาร์ทอาจจะมีติดขัด จะต้องพบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่พึ่งกลับมาจากการทำศึก ACL ทำให้ต้องมาเล่นเกมตกค้างนัดแรกของฤดูกาลในในวันนี้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนวาง 4-4-2 มาต่อกร

      ช่วงต้นเกม บีจี ปทุม พยายามตั้งบอลจากแดนหลัง แล้วต่อเข้าไปในแดนคู่แข่ง แต่เมื่อถูกเพรสซิ่งตั้งแต่ในแดนตัวเอง พวกเขาก็เสียบอลจนโดนจู่โจม หรือเมื่อพาไปถึงแดน 1-2 ก็จะถูกดักบอลและสวนกลับหลายครั้ง กระทั่งแนวรับพยายามจะหยุดด้วยการฟาวล์ แต่สุดท้าย ชลบุรี ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการโต้กลับแล้ว ดานีโล่ พลิกบอลและยิงเข้าทางเสาแรก จากนั้น บีจี ปทุม รูปเกมยังไม่ดีขึ้น ไล่ตั้งแต่การเคาะบอลแล้วโยนให้ อิคซาน โหม่งในกรอบเขตโทษเพียงหน้าเดียว ขณะเดียวกันยังเสียบอลกลางทางจนเกือบโดนยิงลูกที่ 2 หลายหน

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม พยายามจะเดินเพื่อทวงประตู แต่รูปเกมก็ยังไม่ดีขึ้น มิหนำซ้ำยังจ่ายเสียจนโดนโต้หลายต่อหลายครั้ง แต่ยังดีที่ กิตติภูมิ ช่วยเซฟไว้ได้หลายหน มิเช่นนั้นอาจโดนยิงไปแล้ว 2-3 กระทั่งกระต่ายแก้วต้องเริ่มใช้บอลโยน หรือจ่ายยัดให้ อิคซาน แต่ก็หาโอกาสได้น้อยมาก ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี ตั้งรับและโต้กลับแบบได้ลุ้น แต่ก็ต้องตำหนิบ้างที่มีโอกาสทองแล้วยิงทิ้งห่างเพื่อปิดเกมไม่ได้

      บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี วางแท็กติกมาได้เหมาะสมและนักเตะก็เล่นได้ตามแผน โดยเฉพาะการเพรสซิ่งและดักบอลในแดนคู่แข่งและในแดน 1-2 ของตัวเอง จากนั้นเมื่อได้บอลก็โต้กลับ จนได้ประตูประตูตามแผน แต่ที่ต้องตำหนิ คือ การจบสกอร์ที่ควรเฉียบคมกว่านี้ ขณะที่เกมรับก็ยืนได้ดีและไม่มีความผิดพลาดแบบชัดเจนให้เห็น

ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หากจะกล่าวว่าเป็นความเหนื่อยล้า มันอาจจะไม่สมเหตุผล เพราะจากภาพที่เห็นในวันนี้ พวกเขาจ่ายบอลเสียมากเกินไป แล้วมันทำให้พวกเขาต้องถอยมาตั้งรับอยู่ตลอด ขณะที่เกมรุก แทบจะไม่มิติอะไรเลย นอกเสียจากโยนหรือจ่ายยัดใหแนวรุก กระนั้นการเล่นเร็วแบบจังหวะเดียว ดูจะเป็นหนทางที่ทำให้พวกเขาเจาะเจ้าบ้านได้ แต่ดันทำได้แบบนานๆครั้ง สุดท้ายจึงยิงประตูไม่ได้และต้องพ่ายแพ้ไป   

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ทำดีที่สุดแล้ว”

บีจี หมดลุ้นแชมป์ แต่โชว์สปิริตเก็บชัยเหนือ โคราช  3-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมคืนวันอาทิตย์ คู่สุดท้ายของสัปดาห์นี้ ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่รั้งรองจ่าฝูงของตาราง จะต้องพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่สถานการณ์ยังสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น ฉะนั้นในวันนี้จำเป็นอย่างที่จะต้องเก็บแต้มออกไปให้ได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ทั้งเจ้าบ้านและทีมเยือนต่างในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน

      บีจี ปทุม ออกสตาร์ทเกมนี้ไม่ค่อยวูบวาบเท่าไร เพราะการครองบอลและจบสกอร์ไปไม่ถึงแดนสุดท้าย จะมีลุ้นก็จากฟรีคลิก นอกจากนี้การจ่ายบอลในแดนตัวเองยังเสียให้คู่แข่งเอาไปจู่โจม กระนั้นยังดีที่แนวรุกนครราชสีมา ไม่สามารถพาบอลเข้าพื้นที่กรอบเขตโทษได้ กระทั่งการยิงไม่มีความอันตราย จากนั้นเมื่อเกมผ่าน 25 นาที บีจี ปทุม เริ่มต่อบอลและพาเข้าพื้นที่อันตรายได้มากขึ้น ซึ่งนิยมขึ้นทางฝั่งขวาด้วยกาจ่ายทแยงหรือวางเข้าไป แต่สุดท้ายก็ยังติด พิศาล ที่ยืนตำแหน่งดีและบินเซฟได้อยู่

ครึ่งหลัง โคราช แก้เกมโต้กลับได้ดีกับการวางบอลไปทางด้านข้างเพื่อให้แนวรุกได้เก็บ ก่อนจ่ายเข้าแดนอันตราย ขาดเสียเพียงการจบสกอร์ที่ยังไม่เหน่งเท่าไร กลับกันทางฝั่ง บีจี ปทุม พอมีโอกาสก็ขึ้นนำ 1-0 ทันที โดยจังหวะนี้เป็นการยิงนอกกรอบ แนวรับยืนปิดได้ดีแล้ว แต่ พิศาล กะจังหวะบอลกระดอนไม่ดี ทำให้เมื่อปัดไม่โดนก็เข้าประตูไป จากนั้น บีจี ปทุม พยายามประคองตัวแล้วมาได้ประตู 2-0 จาการโต้กลับ ซึ่งการเอาบอลลงของ วรชิต นับเป็นที่น่าชื่นชม เพราะมันทำให้จังหวะต่อมาเล่นง่าย ก่อนจะประสานกับ ธีรศิลป์ และจัดการส่งบอลเจ้าสู่ก้นตาข่าย ส่วนประตู 3-0 มาติดๆ จากการตัดบอลและจ่าย 3 จังหวะ แล้วยิงโล่งๆ

      บทสรุปจากเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เริ่มต้นเกมแบบไม่วูบวาบเท่าไร อีกทั้งยังมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ แต่พอเวลาผ่านไป พวกเขาเร่งระดับของเกมรุกได้ กระทั่งมาได้ประตูในครึ่งหลัง อีกทั้งการโต้กลับและฉกบอลจากคู่แข่ง ก็ได้ช่วยให้พวกเขายิงทิ้งห่าง ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับทีมที่มีมิติหลากหลาย ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ครึ่งแรกเล่นเกมรับได้ดีพอควร ส่วนเกมรุกมีโอกาสแต่ไม่อันตรายพ กลับกันในครึ่งหลัง เกมรุกแก้ทางมาดีและเกือบนำก่อน อย่างไรเสียพอโดนยิงไปก่อน เกมรุกเกมโต้กลับก็หายไป มิหนำเกมรับได้เปิดรูรั่วอีก ทำให้สุดท้ายกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ยิงโหดเหมือนโกรธกันมา”

อิคซาน ดับเบิ้ล 4  พา บีจี ถล่ม ประจวบ 7-2 การันตีจบรองแชมป์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 29 ซึ่งเป็นการแข่งแบบล่วงหน้า ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ยังมีลุ้นแชมป์แบบห่างๆ จะต้องพบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ผลงานดีใช้ได้และไม่น่าจะเดือดร้อนต่อการหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนเป็น 3-5-2

ในช่วง 10 นาทีแรก บีจี ปทุม ต่อบอลได้ดีขึ้นกว่านัดที่ผ่านมา แต่ยังพาบอลไปไม่ถึงแดน 3-4 กลับกันพอเป็น พีที ประจวบ สวนกลับครั้งแรก ดันได้ประตูนำ 0-1 จากการเข้าพรวดของ อภิสิทธิ์ จนเสียจุดโทษ อย่างไรเสียแม้จะโดนนำแบบสุดช็อค แต่ บีจี ปทุม ก็ได้ประตูตีเสมอเร็ว จากการจ่ายแบบข้ามหลอกและมีช่องได้ยิง ซึ่งยิงไม่ดีมาก แต่ ขวัญชัย ดันรับบอลพลาดจนลอดขาเข้าประตู

หลังจาก บีจี ปทุม ตีเสมอ 1-1 ก็เหมือนกับเสือกระหายเหยื่อ เพราะได้ทำการปูพรมบุกใส่ ขณะเดียวกัน พีที ประจวบ เหมือนคนสติแตก นั่นจึงทำให้ประตู 2-1 เกิดขึ้น และสกอร์ไหลเป็น 3-1, 4-1 และ 5-1 พร้อมกับเป็นแฮตทริกของ อิคซาน ที่ยิงคนเดียว 4 ลูก

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม เริ่มประคองตัว ตรงข้ามกับ พีที ประจวบ ที่แม้จะโดนยิงห่าง แต่ก็พยายามจะบุกเพื่อทวงประตูตีตื้น จนมาได้ประตู 5-2 จากจุดโทษอีกหน ซึ่งในรอบนี้เป็น สันติภาพ ที่เข้าพรวด จากนั้น ประจวบ ยังบุกต่อ แต่มีจังหวะจ่ายพลาดและโดน ดิโอโก้ ลากไปจ่ายให้ ธีรศิลป์ ยิงเป็น 6-2 และประตู 7-2 ปิดท้าย มาจากจุดโทษบ้าง

      บทสรุปจากเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เล่นเริ่มด้วยฟอร์มการเล่นที่ดี แต่การโดนยิงนำแบบสุดช็อคตั้งแต่ต้นเกมไม่ได้มีผลให้รูปเกมเสีย พร้อมกันนั้นยังเล่นแบบเดิม จนมายิงประตูแบบกระหน่ำถึง 5 ลูกรวดในครึ่งแรก กระนั้นเกมรับต้องมีสมาธิต่อการเข้าสกัดที่ต้องแม่นยำกว่านี้ ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี โชคดีและคว้าโอกาสขึ้นนำได้ก่อน ซึ่งมันน่าจะเป็นความได้เปรียบที่ทำให้พวกเขาเล่นง่าย กระนั้นพอโดนยิงตีเสมอ เกมรับดันเกิดอาการสมาธิหลุดและมีช่องว่างมากมาย ทำให้โดนเจาะและยิงแบบรัวๆถึง 5 ประตูในครึ่งแรก และ 2 ประตู ในครึ่งหลัง โดยตรงจุดนี้ถือเป็นปัญหาที่โค้ชหระต้องแก้เป็นการด่วน มิเช่นนั้นจะเกิดความลำบากในนัดที่เหลือของฤดูกาล

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“สองพี่น้องคนละตุง”

พี่-น้องฟานดี้ยิงคนละลูก พา บีจี ปทุม เฉือน ท่าเรือ 2-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 นัดแข่งล่วงหน้า ลงฟาดแข้งกันในวันเสาร์ ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปุทม ยูไนเต็ด ที่รั้งอันดับ 2 ของตาราง จะต้องพบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานหลุดวงโคจรแบบสุดกู่แล้ว ทำให้แมตช์ที่เหลือคงขอแค่ประคองและจบในอันดับที่ดีที่สุด ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ในวันนี้ เจ้าบ้านใช้ 4-2-3-1 ขณะที่ทีมเยือนเป็น 4-4-2 

บีจี ปทุม พยายามต่อบอลจากข้างหลังขึ้นไป แต่การให้บอลขาดๆเกินๆตั้งแต่กลางสนาม จนต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับและไล่บอล ส่วนทางฝั่งการท่าเรือ ดักบอลได้ดี แต่พอจะเปลี่ยนเป็นจังหวะเข้าทำแบบรวดเร็ว ดันลงโทษไม่สำเร็จเพราะการให้บอลไกลกัน การจบสกอร์ไม่เข้าจุด และการโจมตีเดาง่ายเพราะขึ้นทางขวาเป็นหลัก

กระนั้นแม้เจ้าถิ่นจะบุกได้น้อย แต่การขึ้นมาแต่ละครั้งมีความอันตราย กระทั่งมาได้ประตูนำ 1-0 จาก อิรฟาน ที่โหม่งในจังหวะ 2 จากเตะมุม อย่างไรก็ตาม วิลเลียมก็ผิดพลาดที่ไม่ตามให้สุด และ วรุฒ ก็ผิดพลาด เพราะน้ำหนักยังอยู่ในวิสัยที่ป้องกันได้ แม้จะมีกระดอนก็ตามที จากนั้นไล่หลังไม่กี่นาที บีจี ปทุม ได้ประตูขึ้น 2-0 จาก อิคซาน โดยจังหวะนี้ถือว่ามีโชคตรงที่มุมแทบไม่มี แต่พอยิงแล้วแฉลบบอลดันพุ่งเสียบเสาแรก ขณะที่เวลาที่เหลือราว 15 นาที สิงห์เจ้าท่าลดดีกรีความอันตรายลงไปเยอะ 

ครึ่งหลัง  การท่าเรือ ได้ประตูตีตื้น 2-1 จากความผิดพลาดของ อิรฟาน ที่คิดว่ามีคนประกบ โรเชล่า แต่พอไม่มี ปราการหลังชาวสเปนจึงได้วิ่งมายิงจ่อๆ กระนั้นสิ่งที่น่าแปลกใจ คือ สิงห์เจ้าท่า ไม่เร่งเกม โมเมนตัมจึงไม่เหวี่ยงมาหา ภาพที่เห็นจึงเป็นเกมทรงเดิมๆ กลับกัน บีจี ปทุม ก็ยังจ่ายเสียง่ายๆ อีกทั้งเมื่อมีโอกาสก็ได้แค่เกือบยิงทิ้งห่าง

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีปัญหาในการขึ้นบอลบริเวณกลางสนาม ซึ่งหากจะยึดแนวทางนี้ ต้องกลับไปปรับเป็นการด่วน ส่วนเกมรับก็ต้องปรับเช่นกัน หากดูจากจังหวะเซฟของ กิตติภูมิ เช่นเดียวกับแนวรุกที่วันนี้ยิงได้จริง แต่ถ้าเทียบจากโอกาสช่วงท้ายเกม มันควรได้เพิ่ม ฉะนั้นแม้ว่าจะชนะ แต่ก็ยังเห็นแผลตามจุดต่างๆ ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี เล่นได้ดีในระดับหนึ่ง อย่างไรเสียสิ่งที่เห็น คือ สภาวะจิตใจและสปิริตทีมไม่แกร่งพอ เพราะเมื่อเสียประตูไป รูปเกมก็ดูทรงๆ มิหนำในครึ่งหลัง ตัวเองมีโอกาสที่จะกลับสู่เกมได้ แต่ก็ไม่เร่งไม่ทำ สุดท้ายจึงต้องพ่ายแพ้ไป 

ติดตาม Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“กว่างได้ไปต่อ”

“กว่างได้ไปต่อ” เชียงราย สวนโหด รัว บีจีปทุม 4-2 เข้ารอบรอง

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ ฤดูกาล 2021/22 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เกมบิ๊กแมตช์อยู่ที่ ณ สนามลีโอเชียงราย สเตเดี้ยม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด อดีตแชมป์รายการนี้ 1 สมัย จับสลากมาเจอกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งคู่เคยเจอกันในรอบชิงปี 2018 แล้วเป็นทางกว่างโซ้งที่เฉือนชนะไป 1-0 สำหรับผังการเล่นในวันนี้ เจ้าถิ่นใช้ 4-4-2 ส่วนทางฟากทีมเยือนเป็น 4-2-3-1

เกมการแข่งขันเริ่มต้น บีจี ปทุม ต่อบอลและจ่ายลัดเลาะจากริมเส้นได้ดีจนมีโอกาสน่าได้ประตูนำก่อนแต่จังหวะชาร์ตจ่อๆดันไม่เป็นประตูกลับกันพอ ลีโอ เชียงราย โต้กลับครั้งแรกๆ ดันได้ประตูนำ 1-0 ซึ่งในจังหวะนี้ เลี้ยงหลบเข้ามาและตัดสินใจรวดเร็วที่จะยิงเสาแรก กระนั้นแนวรับทีมเยือนก็ผิดพลาด เพราะเมื่อหลุดจากการประกบของสันติภาพ ก็ไม่มีแนวรับคนไหนเข้าซ้อนแบบทันท่วงที จากนั้นทีมเยือนพยายามจะเร่งเกมเพื่อทวงประตูคืน แล้วใช้เวลาไม่นานก็สามารถตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จจาก อิคซาน ที่กระโดดโขกแบบไร้การรบกวน อย่างไรก็ดีหลังจากสกอร์กลับมาเท่ากันรูปเกมก็ไม่ตื่นเต้นอีกเลย

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม พยายามจะขึงใส่ด้วยการต่อบอลเข้าไป แต่ก็มักเสียบอลกลางทาง ซึ่งมันกลายเป็นทางถนัดของ เชียงราย ที่ส่งสัญญาณเตือนเป็นระยะจนมาได้ประตูนำ 2-1 อีกครั้ง จากการยิงของ เก็ทเดอร์สัน กระนั้นจังหวะนี้ก็เป็นใจ เพราะมันติดขา กิตติภูมิ และแฉลบ ตูเญช เข้าไป จากนั้นสถานการณ์เหมือนจะเป็นใจให้ เชียงราย มากขึ้นไปอีก เพราะการสวนขึ้นมาครั้งนี้มีตัวผู้เล่นมากกว่าแนวรับของทีมเยือน ทำให้การลากและจบที่ เก็ทเดอร์สัน ยิง กลายเป็นประตูทิ้งห่าง 3-1

      บีจี ปทุม ยังคงเดินหน้าต่อ จนมาได้ประตูตีตื้น 3-2 จากการวางบอลข้ามฟากเป็นจุดเริ่มต้น แล้วมีการโขกชงให้ อิคซาน แตะหลบและยิง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นพลาดเต็ม กระนั้นโมเมนตัมที่น่าจะเหวี่ยงมาหาทีมเยือนบ้าง ก็ไม่เกิดขึ้นเพราะประตูทิ้งห่าง 4-2 ของ เชียงราย ที่ค่อนข้างมีดวงด้วยการแฉลบขา ตูเญช จนบอลพุ่งเสียบมุม  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เจอแท็กติกที่เข้าทาง คือ มากางตำราบุกใส่ แล้วตัวเองอาศัยการโต้กลับจนได้สกอร์ที่ต้องการ ทำให้เกมนี้เล่นง่าย กระนั้นมันมีโชคเข้ามาช่วยด้วย ขณะเดียวกันเกมรับก็ยังต้องปรับปรุง เพราะทั้ง 2 ประตูที่เสีย มาจากความผิดพลาดของตัวเอง ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด การเสียบอลกลางทางกลายเป็นหายนะให้เสียประตู ซึ่งทางแก้ที่ต้องทำหากจะเล่นแนวทางนี้ คือ ต้องครองบอลให้เหนียวแน่น เพื่อต่อบอลและสร้างโอกาสอย่างเนื่อง  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

โปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 (วันศุกร์-เสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เดินหน้าซัดความมันส์อย่างต่อเนื่องในนัดที่ 3 โดยในสุดสัปดาห์นี้จะมีการแข่งขันเพียง 7 คู่ เพราะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ต้องเดินทางไปที่ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อทำศึก ACL รอบ 16 ทีมสุดท้าย กับ ชนบุค ฮุนไดมอเตอร์ ขณะที่ในส่วนนี้เราจะหยิบยกเกมการแข่งขัน 1 คู่ ในวันศุกร์ และ 3 คู่ ของวันเสาร์ ในเวลา 18.00 น. มาวิเคราะห์วิจารณ์กัน      

สมุทรปราการ ซิตี้ พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          เขี้ยวสมุทร ออกสตาร์ท 2 นัดแรก ด้วยการออกไปเยือนแล้วสามารถเก็บได้ 4 คะแนน ซึ่งนี้ถือว่าเป็นผลงานที่ใช้ได้ หากดูจากสภาพทีมที่หลากคนเป็นห่วง ส่วนทางฝั่งแข้งเทพของโค้ชแบน ฟอร์มการเล่นจาก 2 นัดที่ผ่านมา ถือว่าโชว์ฟอร์มได้สมกับทีมเต็งจริงๆ แต่มันก็น่าเสียดายที่นัดล่าสุดทำได้แค่เสมอ ทั้งที่มีโอกาสทองจะคว้า 3 แต้มได้ สำหรับเกมการแข่งขันคู่นี้มองว่าจะเป็นเกมคุณภาพอีกคู่ ขณะที่ผลการแข่งขันเชื่อว่าทีมเยือนจะไม่แพ้ออกไปเป็นแน่

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด

          สิงห์เจ้าท่า เก็บได้ 2 คะแนน จาก 2 นัด ซึ่งมันอาจเป็นผลงานที่ไม่ค่อยดีเท่าไรหากมองจากตรงนี้ แต่ถ้าแหวกให้ลึกลงไปจะพบว่าลูกทีมของโค้ชโอ่งมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเกมล่าสุดกับ บียู

ส่วนทางด้านจงอางผยอง ไม่ต้องรอนานกับการคว้า 3 แต้มแรกในลีกสูงสุด เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถโค่น ประจวบลงได้ แต่สำหรับเกมที่จะบุกมาเยือน แพท สเตเดี้ยม มันอาจเป็นงานยากของทีมจากเมืองหมอแคนที่มาแบ่งแต้ม เพราะด้วยศักยภาพและเป้าหมาย การท่าเรือ ต้องหวัง 3 แต้ม สถานเดียว   

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ชลบุรี เอฟซี พบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี          

ฉลามชล ออกสตาร์ทปีนี้ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดูดีมีทรงและน่าติดตามกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา กระนั้น 2 นัดที่ผ่านมา ดันเก็บได้เพียง 2 แต้ม อีกทังนัดล่าสุดกับ เมืองทอง ถือว่าเสียดายสุดๆ เพราะอุตสาห์นำไปไกลถึง 0-3 แต่การถอนคันเร่งเกินพิกัดแล้วดวงซวยผสม

ทำให้ถูกตีเสมอ 3-3 แบบช็อคตาตั้ง ส่วนทางฝั่งพญาไก่ชน การเจอกับทีมระดับกลางๆในบ้าน 2 นัด แล้วเก็บได้ 3 แต้ม ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่การออกไปเยือนถิ่นชลบุรี สเตเดี้ยม มองมุมไหนก็น่าจะเสร็จเจ้าบ้านที่หิวกระหายกับ 3 แต้ม 

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com