Categories
Sport

กระโดดกลางตาราง

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี แรงไม่หยุด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 24 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ตอนนี้เก็บชัยมา 2 นัด จะต้องพบกับทีมที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงอย่าง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด

ซึ่งสถิติการมาเยือนสนามแห่งนี้ ก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาใช้ระบบที่เคยชิน โดยเจ้าบ้านใช้ 4-2-3-1  และทีมเยือนวางผัง 4-4-2

      เชียงราย พยายามเล่นบอลแทง บอลไดเรค และรีบจบสกอร์แบบไม่ครองบอลไปมา แม้ว่าแนวรับเจ้าบ้านจะสปีดตามไม่ค่อยทัน แต่ก็ยังเอาอยู่ จนการแข่งขันดำเนินไปถึงนาทีที่ 34 นครราชสีมา

จัดการแผงฤทธิ์ใส่ด้วยประตูนำ 1-0 จากการลากบอลของ สิโรจน์ แล้วเปิดมาหน้าประตู ก่อนจะจบด้วยการซัดวอลเลย์ของ มูสตาโว่ กระนั้นก็ต้องโทษ อภิรักษ์ ที่วิถีบอลและการตำแหน่งพร้อมสำหรับการป้องกัน แต่ไม่ล้มตัวปัดบอล อย่างไรเสียในนาทีที่ 39 เชียงราย มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการแทงบอลขึ้นมา ซึ่ง โบนีญ่า กระชากหนี ชาร์ลี คลัฟ แล้วเปิดหักกลับมาให้ คิม จี มิน ยิงเข้าไป โดยจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นผิดพลาดเต็มๆที่ยืนตำแหน่งป้องกันไม่ดี

ครึ่งหลังเปิดฉากขึ้นมา ก็โจมตีใส่กันทันที แล้วเป็นโคราช ที่ได้ประตูจากเตะมุมของ ชาร์ลี คลัฟ ที่ยืนเป็นตัวสุดท้ายแบบไม่มีใครประกบ แล้วนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ต้องโทษอภิรักษ์ เพราะบอลยังยู่ในวิถีที่บินปัดได้ แต่ดันยืนเฉย

จากนั้นกลายเป็นเข้าทางเจ้าถิ่น เมื่อพวเขาลงไปตั้งรับลึก ซึ่งมันเป็นเวย์ลำบากของทีมเยือน ที่ชอบเล่นเกมรุกแบบสวนกลับ ทำให้กว่าจะเจาะเข้าไปถึงแดนสุดท้าย ก็ยากลำบากพอสมควร สุดท้ายเมื่อพวกเขาดันเกมบุกแบบเต็มสูบ ก็มาโดนลูกปิดกล่อง 3-1 ในนาทีที่ 90+4  

      บทสรุปจากเกม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เกมรับมีความผิดพลาดเกิดขึ้น แล้วมีผลถึงการเสียประตู แต่พอได้ประตูที่ 2 เกมรับเล่นได้ดีจนคู่แข่งเจาะไม่เข้า ส่วนเกมรุก เห็นถึงความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีริมเส้น ทีเด็ดลูกเตะมุม และการโต้กลับ

ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจที่พวกเขาจะคว้าชัยชนะแบบต่อเนื่อง ขณะที่ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด พยายามเล่นบอลไดเรคตามสไตล์ แต่เกมรับและความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้เสียประตูจนไม่สามารถเล่นตามแผนได้ โดยสิ่งที่พวกเขาต้องพัฒนา คือการเจาะคู่แข่งที่รับลึกๆให้ได้ มิเช่นนั้นวันไหนถูกนำไปก่อน ประตูสู่ความพ่ายแพ้จะเปิดกว้างทันที

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“กว่าจะยิงได้ ก็สายเกินไป”

สมุทรปราการไล่ไม่ทัน พ่าย เชียงราย 1-2 ร่วงตกชั้นทีมสุดท้าย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 หรือเกมนัดปิดฤดูกาล ณ สนาม กกท บางพลี สมุทรปราการ ซิตี้ ที่คว้าชัยชนะนัดสำคัญมา 2 เกมรวด ทำให้เกมนัดนี้มีความหมาย เพราะหากพวกเขาชนะ แล้วประจวบแพ้ เขี้ยวสมุทรจะรอดตกชั้นทันที แต่แน่นอนว่าวันนี้ไม่ง่ายแน่ เนื่องจากคู่ต่อกร คือ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ก็ต้องการจบอันดับให้สูงที่สุด เผื่อมีลุ้นส้มหล่นจากโควตา ACL สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนเป็น 3-5-2

      ทันทีที่การแข่งขันเริ่มขึ้น สมุทรปราการ วิ่งเข้าหาบอลทุกจังหวะ แต่ปัญหามันติดตรงที่เมื่อพวกเขาได้ครองบอล มันเป็นการเคาะบอลไปเรื่อยๆแบบไม่รู้จะเข้าทำเมื่อไร แล้วเมื่อเสียบอลก็ไปวิ่งไล่เพรสจนได้คืนมา แล้วก็เล่นในลักษณะซ้ำๆไปเรื่อย กลับกันทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย พอเจอการเพรสซิ่งและเข้าหาบอลเร็ว พวกเขาก็มีอาการเต้น โดยเฉพาะเมื่อถึงแดน 3 ที่เน้นยิงไกลทันที กระนั้นพวกเขาได้งัดทีเด็ดลูกฟรีคลิกขึ้นมาใช้ แล้วได้ประตูนำ 0-1 จากเปิดของ เก็ทเดอร์สัน แบบมีแฉลบนิดๆ

ครึ่งหลัง สมุทรปราการ พยายามจะโหมบุกให้หนักขึ้น แต่การเล่นลูก open play มันต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวถึงจะมีโอกาส แถมมีโอกาสแต่ยิงวืดไป ตรงข้ามจากลูกฟรีคลิก ที่ดูจะเน้นจนโอกาสชัดเจนกว่า แต่ก็ยังติดเซฟ ซึ่งการโหมตรงนี้พอทางฝั่ง เชียงราย สวนกลับ ก็ได้ยิงทิ้งห่าง 0-2 จาก อัครวินท์ ที่ยิงแบบไม่ต้องเซฟ กระนั้นทางฝั่งเขี้ยวสมุทรก็ยังเดินหน้าต่อ แต่กว่าจะมาได้ประตู 1-2 เวลาก็เหลือแค่หลักเศษวินาทีแล้ว  

      บทสรุปจากเกม สมุทรปราการ ซิตี้ ทำเต็มที่ตามที่ศักยภาพตัวเองจะทำได้แล้ว ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าขุมกำลังนักเตะไม่สอดคล้องกับวิธีการเล่น ดังจะเห็นได้เมื่อพวกเขาครองบอล แล้วไม่รู้จะสร้างจังหวะเข้าทำอย่างไรเมื่อมีแนวรับยืนเต็มพื้นที่อย่างนี้ นอกจากนี้ในความซวยขั้นสุด พวกเขาต้องมาเสียประตูแบบโชคร้ายและหมดปัญญาจะเซฟอีก ทำให้สุดท้ายต้องพ่ายแพ้และตกชั้นไป ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด มีอาการเลั่กลั่กบ้างเมื่อเจอการเพรสซิ่งและเข้าหาบอลเร็ว แต่พอได้ประตูนำ ทุกอย่างก็คลายความกดดันและได้เล่นเกมตามที่ตัวเองถนัด คือ ตั้งรับและโต้กลับ แล้วสุดท้ายก็ปิดจ็อบได้สำเร็จ แม้จะมาเสียประตูในนาทีสุดท้ายของเกม

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ไปไม่สุด เพราะทีมเล็กไป”

สรุปผลงาน ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2021/22 มีการปรับนโยบายเรื่องขนาดทีม ด้วยจำกัดจำนวนผู้เล่นให้เหลือราว 20-25 คน โดยในจำนวนนี้จะเน้นเก็บตัวไทยและไม่เปลี่ยนโควต้าต่างชาติ ซึ่งในช่วงเริ่มต้นเหมือนจะไม่กระทบต่อทีม แต่เมื่อการแข่งขันผ่านไปเรื่อยๆ กว่างโซ้งมหาภัยเริ่มยืนระยะไม่ไหวและเผชิญกับผลงานอันย่ำแย่ โดยเฉพาะเกมในบ้านที่เก็บชัยได้น้อยนิด กลับกันพอเป็นเกมนอกบ้าน ผลงานดันไฉไลกว่าอย่างเห็นได้ชัด

จากผลงานที่หลุดจากเป้าหมายไปเยอะในเลกแรก ที่ปรึกษาอย่างบิ๊กฮั่น จึงไม่รอช้าที่จะต้องเสริมทัพแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการเสริมทัพตัวไทยได้ขอยืม สิโรจน์ มาจาก บีจี ปทุม, ยืม นิติพงษ์ จาก การท่าเรือ และโควต้าต่างชาติได้ดึง เก็ทเดอร์สัน เข้ามาแทน บิลล์ โรซิมาร์ ที่ปล่อยยืมตัวไปอยู่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ขณะที่โควต้าเอเชียได้ดึง คาโตะ มาแทน โช จีฮุน ที่กลับเกาหลีใต้ โดยการเสริมนักเตะของเชียงราย ในครั้งนี้ แน่นอนว่าพวกเขาหวังถึงแชมป์บอลถ้วย รวมถึงอันดับในลีกที่อย่างน้อยต้องท็อปโฟร์

การเสริมตัวนักเตะข้ามาใหม่ ดูไม่สร้างความแตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะในรายของ เก็ทเดอร์สัน ที่ดูจะไม่ตอบโจทย์และไม่สามารถทดแทนคนเดิมอย่าง บิลล์ ได้ เพราะนักเตะรายนี้เป็นนักเตะประเภทรอยิงในเขตโทษอย่างเดียว ต่างจาก บิลล์ ที่แม้จะเชื่องช้าเหมือนกัน แต่สามารถเชื่อมบอลและจบสกอร์ได้เฉียบคมกว่า เช่นเดียวกับ คาโตะ ที่เล่นไม่โดดเด่นเหมือน โช จีฮุน หรือ อียอง แล ที่เป็นโควต้าเอเชียก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเตะไทยอย่าง นิติพงษ์ ยังคืนฟอร์มเก่งแบบวันวานไม่ได้ และที่ดูจะล้มเหลวที่สุดคงหนีไม่พ้น สิโรจน์ ที่ยังโชว์ฟอร์มไม่ออกอีกครั้ง และน่าจะเป็นนักเตะรายแรกๆที่ต้องปล่อยออก

ผลงานแบบภาพรวมของ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด กับการจบอันดับที่ 6 ถือว่าเป็นไปตามเนื้อผ้า ถ้าดูจากจำนวนขุมกำลังที่มีอยู่ แต่หากมองจากเป้าหมายของผู้บริหาร ที่ต้องการมีลุ้นแชมป์และคว้าถ้วยใดถ้วยหนึ่งแบบต่อเนื่องมันก็เป็นไปได้ยาก เพราะขุมกำลังนักเตะไทยมีน้อย ตัวต่างชาติที่เคยปังเริ่มโรยราตามอายุ และที่สำคัญคือการเสริมทัพช่วงพักเลกที่ไม่ปังอย่างที่คาด ผลงานจึงดูน่าผิดหวังสำหรับผู้บริหารที่ตั้งเป้าสูง ฉะนั้นในฤดูกาลหน้า การเสริมทัพที่ตรงจุดและจัดสรรคงบให้เพียงพอ คือ การบ้านใหญ่ที่จะต้องให้สำคัญ เพราะหากมีระบบจัดการทีมที่ดี แล้วมีวัตถุดิบที่ดีตามไปด้วย ผลงานที่ดีก็ย่อมหวังได้

ติดตาม ความSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“กว่างได้ไปต่อ”

“กว่างได้ไปต่อ” เชียงราย สวนโหด รัว บีจีปทุม 4-2 เข้ารอบรอง

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ ฤดูกาล 2021/22 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เกมบิ๊กแมตช์อยู่ที่ ณ สนามลีโอเชียงราย สเตเดี้ยม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด อดีตแชมป์รายการนี้ 1 สมัย จับสลากมาเจอกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งคู่เคยเจอกันในรอบชิงปี 2018 แล้วเป็นทางกว่างโซ้งที่เฉือนชนะไป 1-0 สำหรับผังการเล่นในวันนี้ เจ้าถิ่นใช้ 4-4-2 ส่วนทางฟากทีมเยือนเป็น 4-2-3-1

เกมการแข่งขันเริ่มต้น บีจี ปทุม ต่อบอลและจ่ายลัดเลาะจากริมเส้นได้ดีจนมีโอกาสน่าได้ประตูนำก่อนแต่จังหวะชาร์ตจ่อๆดันไม่เป็นประตูกลับกันพอ ลีโอ เชียงราย โต้กลับครั้งแรกๆ ดันได้ประตูนำ 1-0 ซึ่งในจังหวะนี้ เลี้ยงหลบเข้ามาและตัดสินใจรวดเร็วที่จะยิงเสาแรก กระนั้นแนวรับทีมเยือนก็ผิดพลาด เพราะเมื่อหลุดจากการประกบของสันติภาพ ก็ไม่มีแนวรับคนไหนเข้าซ้อนแบบทันท่วงที จากนั้นทีมเยือนพยายามจะเร่งเกมเพื่อทวงประตูคืน แล้วใช้เวลาไม่นานก็สามารถตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จจาก อิคซาน ที่กระโดดโขกแบบไร้การรบกวน อย่างไรก็ดีหลังจากสกอร์กลับมาเท่ากันรูปเกมก็ไม่ตื่นเต้นอีกเลย

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม พยายามจะขึงใส่ด้วยการต่อบอลเข้าไป แต่ก็มักเสียบอลกลางทาง ซึ่งมันกลายเป็นทางถนัดของ เชียงราย ที่ส่งสัญญาณเตือนเป็นระยะจนมาได้ประตูนำ 2-1 อีกครั้ง จากการยิงของ เก็ทเดอร์สัน กระนั้นจังหวะนี้ก็เป็นใจ เพราะมันติดขา กิตติภูมิ และแฉลบ ตูเญช เข้าไป จากนั้นสถานการณ์เหมือนจะเป็นใจให้ เชียงราย มากขึ้นไปอีก เพราะการสวนขึ้นมาครั้งนี้มีตัวผู้เล่นมากกว่าแนวรับของทีมเยือน ทำให้การลากและจบที่ เก็ทเดอร์สัน ยิง กลายเป็นประตูทิ้งห่าง 3-1

      บีจี ปทุม ยังคงเดินหน้าต่อ จนมาได้ประตูตีตื้น 3-2 จากการวางบอลข้ามฟากเป็นจุดเริ่มต้น แล้วมีการโขกชงให้ อิคซาน แตะหลบและยิง ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นพลาดเต็ม กระนั้นโมเมนตัมที่น่าจะเหวี่ยงมาหาทีมเยือนบ้าง ก็ไม่เกิดขึ้นเพราะประตูทิ้งห่าง 4-2 ของ เชียงราย ที่ค่อนข้างมีดวงด้วยการแฉลบขา ตูเญช จนบอลพุ่งเสียบมุม  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เจอแท็กติกที่เข้าทาง คือ มากางตำราบุกใส่ แล้วตัวเองอาศัยการโต้กลับจนได้สกอร์ที่ต้องการ ทำให้เกมนี้เล่นง่าย กระนั้นมันมีโชคเข้ามาช่วยด้วย ขณะเดียวกันเกมรับก็ยังต้องปรับปรุง เพราะทั้ง 2 ประตูที่เสีย มาจากความผิดพลาดของตัวเอง ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด การเสียบอลกลางทางกลายเป็นหายนะให้เสียประตู ซึ่งทางแก้ที่ต้องทำหากจะเล่นแนวทางนี้ คือ ต้องครองบอลให้เหนียวแน่น เพื่อต่อบอลและสร้างโอกาสอย่างเนื่อง  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“นอกบ้านไว้ใจกว่าง”

เชียงราย นอกบ้านไว้ใจได้ บุกเฉือน เชียงใหม่ ในล้านนาดาร์บี้แมตช์ 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 14 ของฤดูกาล ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้กำลังรั้งบ๊วยและต้องการแต้ม จะทำดาร์บี้แมตช์ล้านนา กับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ผลงานเกมเยือนดันดีกว่าในบ้าน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนยังเป็น 3-4-3

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เชียงราย ครองบอลได้เหนือกว่าชัดเจน แต่มันก็ตามที่คาด คือ ได้แต่ถ่ายบอลไปมาและไม่มีการแทงบอลจากแนวลึก ทำให้เข้าแดนสุดท้ายไม่ได้และไม่มีจังหวะจบสกอร์ ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ รู้ว่าเป็นรองจึงตั้งรับเพื่อซื้อเวลา เพื่อหวังอย่างน้อย 1 แต้ม ซึ่งมันดูเหมือนจะดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าแนวรุกฝ่ายตรงข้ามไม่มีประสิทธิภาพเองมากกว่า         การขึงเกมบุกของ เชียงราย มีเวลาและโอกาสค่อนข้างเยอะ เพราะแนวรับคู่แข่งไม่ได้บีบกดดันอะไร ทำให้การต่อบอลไหลลื่นขึ้น กระทั่งมีจังหวะจบสกอร์ แต่การยิงเกือบทุกครั้งมันไม่อยู่ในระยะที่อันตรายพอ อีกทั้งการวางเท้ายิงก็ไม่ดี กระนั้นก่อนจบครึ่งแรก กว่างโซ้งมหาภัยมาได้ประตูขึ้นนำ 0-1 จากการโขกลูกเตะมุม ซึ่งมันเป็นการโหม่งที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะมันเป็นการย้อนตัวมาโหม่งเสาแรก แล้วได้ทั้งทิศทางและน้ำหนักจนเสียบสามเหลี่ยมมุมบน

การเสียประตูของ เชียงใหม่ ทำให้ครึ่งหลังต้องพยายามทำเกมบุกเพื่อตีเสมอ ซึ่งพวกเขาพยายามเล่นให้น้อยจังหวะ แล้วแทงหรือโยนไปให้ โบลี่ กับ เดอลูว์ ที่อยู่แดนหน้าอย่างเร็วที่สุด กระนั้นด้วยศักยภาพการต่อบอลที่ด้อยกว่า มันก็มีผลให้พวกเขาต้องเสียบอลกลางทางให้กับทีมเยือนแบบถี่ๆ กระทั่งเวลาผ่านไป เชียงราย กลายเป็นฝ่ายที่มีโอกาสได้ประตูมากกว่า อีกทั้งยังมีพื้นที่และโอกาสจบสกอร์แบบเหน่งๆกว่าครึ่งแรก แต่ดันยิงทิ้งยิงขวางกันไปเอง ทำให้สกอร์ค้างอยู่ที่ 0-1 จนจบเกม  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เลือกวางหมากแรกด้วยการเล่นเกมรับ ซึ่งผลลัพธ์ในครึ่งแรกเหมือนจะดี แต่ก็ถูกเจาะอยู่เนื่องๆจนเสียประตู จากนั้นพอเข้าสู่ครึ่งหลัง สถานการณ์บังคับว่าต้องยิงประตู แต่สุดท้ายด้วยศักยภาพทุกอย่างที่เป็นรอง มันจึงมีผลให้ช้างเผือกไม่สามารถทำอะไรได้ดีไปกว่าการไม่เสียประตูเพิ่มและไม่พ่ายแพ้แบบเละเทะไปมากกว่านี้ ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เกมรุกยังคงเป็นปัญหา ยามต้องขึงบุกใส่ทีมที่มาตั้งรับ ซึ่งการเจอกับทีมที่แนวรับหละหลวมแล้วยังทำอะไรไม่ได้แบบนี้ มันก็สื่อให้เห็นชัดเจนแล้วว่าพวกเขาต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง มิเช่นนั้นเลกที่ 2 จะเหนื่อยหนัก

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover