Categories
Sport

“มียวบแต่ยังดุ”

เมืองทอง ทำเสียว แต่ยังโชว์โหด ถล่ม สมุทรปราการ จมโซนแดง 5-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้ลุ้นทำอันดับให้สูงที่สุด จะต้องพบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่จำเป็นต้องเก็บชัยชนะแบบด่วนๆ มิเช่นนั้นการหนีตายจะลำบากขึ้นเป็นเท่าตัว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-1-4-1 เหมือนเคย ขณะที่ทีมเยือนเป็น 4-4-2 ตามเดิม

      การแข่งขันเริ่มไปเพียง 5 นาที เมืองทอง ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้น 1-0 จากการที่ พ็อพพ์ เลือกจะเลี้ยงตัดเข้าด้านหน้าและจ่ายให้ อานิเยร์ แต่งบอลและยิง ซึ่งในจังหวะนี้ต้องชมไหวพริบของ พ็อพพ์ ที่เห็นพื้นที่หน้าหัวกะโหลกว่างอยู่ แล้วเลือกเลี้ยงตัดเข้าไปจ่ายระยะเผาขน

ขณะเดียวกันก็ต้องกล่าวโทษแนวรับสมุทรปราการ ที่อ่านจังหวะบอลผิด กับการคิดว่าพ็อพพ์จะไหลบอลต่อและไปเปิดที่ริมเส้นหลังประตู จากนั้นนาทีที่ 12 กิเลนผยองมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากการลากจนสุดเส้นของ พ็อพพ์ และตบมาให้ อานิเยร์ ที่วิ่งเข้าพื้นที่ประจำการ ก่อนจะได้ยิงง่ายๆเพราะแนวรับทีมเยือนประกบไม่แนบและซ้อนไม่ทัน ส่วนช่วงท้ายครึ่งแรก แนวรับเขี้ยวสมุทรยืนป้องกันหลวม ทำให้ พ็อพพ์ เจ้าเก่าได้ยิงซ้ำที่เสาไกล  

ครึ่งหลัง แนวรับของเจ้าถิ่นมีความประมาทจนโดน สมุทรปราการ ตีตื้น 3-1  ซึ่งจากการเสียประตูตรงนี้มันได้กลายเป็นอาการตื่นจนโดนยิงไล่เป็น 3-2 จากการสกัดที่ไม่ดี เข้าถึงบอลช้า โรซ่า จึงได้ยิงแบบเด็ดขาด กระนั้นยังดีที่ครึ่งชั่วโมงหลัง แนวรับกิเลนผยองเรียกสติกลับมาได้ แล้วประคองเกมไปจนถึงช่วงท้ายเกม ก็มาได้ประตู 4-2 จากการเบิ้ลบอลเร็วของ ซาดอร์ แล้ว อริส สกัดไม่โดนบอล ทำให้ 2 ตัวที่รออยู่ ได้หลุดเข้าไปยิง จากนั้นไล่หลัง 2 นาที เมืองทองมาได้ประตูปิดกล่อง 5-2 จากการโหม่งโล่งๆและไร้ตัวประกบของ ซาดอร์

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด มีเกมรุกที่มีประสิทธิภาพพอสมควร อีกทั้งไม่ปรากฏให้เห็นปัญหาเมื่อเจอทีมเล็ก กระนั้นแนวรับ คือ สิ่งที่ต้องปรับปรุงต่อไป เพราะในช่วงต้นครึ่งหลังพอเสียประตู อาการรวนออกทันที ขณะที่ สมุทรปราการ ซิตี้ เกมในครึ่งแรกถือว่าสู้ไม่ได้ อีกทั้งยังโดนยิงทิ้งห่างแบบขาดลอย อย่างไรก็ตามในช่วงต้นครึ่งหลัง พวกเขามาตีตื้นได้ 3-2 ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นโอกาสดีที่โหมต่อเพื่อให้โมเมนตัมเหวี่ยงมาหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ยิ่งเล่นยิ่งแผ่ว แล้วสุดท้าย 2 ประตูที่ได้มา ก็ไร้ความหมายเพราะพวกเขาเสียประตูเพิ่มช่วงท้ายเกม

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ยิงโหดเหมือนโกรธกันมา”

อิคซาน ดับเบิ้ล 4  พา บีจี ถล่ม ประจวบ 7-2 การันตีจบรองแชมป์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 29 ซึ่งเป็นการแข่งแบบล่วงหน้า ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ยังมีลุ้นแชมป์แบบห่างๆ จะต้องพบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ผลงานดีใช้ได้และไม่น่าจะเดือดร้อนต่อการหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนเป็น 3-5-2

ในช่วง 10 นาทีแรก บีจี ปทุม ต่อบอลได้ดีขึ้นกว่านัดที่ผ่านมา แต่ยังพาบอลไปไม่ถึงแดน 3-4 กลับกันพอเป็น พีที ประจวบ สวนกลับครั้งแรก ดันได้ประตูนำ 0-1 จากการเข้าพรวดของ อภิสิทธิ์ จนเสียจุดโทษ อย่างไรเสียแม้จะโดนนำแบบสุดช็อค แต่ บีจี ปทุม ก็ได้ประตูตีเสมอเร็ว จากการจ่ายแบบข้ามหลอกและมีช่องได้ยิง ซึ่งยิงไม่ดีมาก แต่ ขวัญชัย ดันรับบอลพลาดจนลอดขาเข้าประตู

หลังจาก บีจี ปทุม ตีเสมอ 1-1 ก็เหมือนกับเสือกระหายเหยื่อ เพราะได้ทำการปูพรมบุกใส่ ขณะเดียวกัน พีที ประจวบ เหมือนคนสติแตก นั่นจึงทำให้ประตู 2-1 เกิดขึ้น และสกอร์ไหลเป็น 3-1, 4-1 และ 5-1 พร้อมกับเป็นแฮตทริกของ อิคซาน ที่ยิงคนเดียว 4 ลูก

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม เริ่มประคองตัว ตรงข้ามกับ พีที ประจวบ ที่แม้จะโดนยิงห่าง แต่ก็พยายามจะบุกเพื่อทวงประตูตีตื้น จนมาได้ประตู 5-2 จากจุดโทษอีกหน ซึ่งในรอบนี้เป็น สันติภาพ ที่เข้าพรวด จากนั้น ประจวบ ยังบุกต่อ แต่มีจังหวะจ่ายพลาดและโดน ดิโอโก้ ลากไปจ่ายให้ ธีรศิลป์ ยิงเป็น 6-2 และประตู 7-2 ปิดท้าย มาจากจุดโทษบ้าง

      บทสรุปจากเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เล่นเริ่มด้วยฟอร์มการเล่นที่ดี แต่การโดนยิงนำแบบสุดช็อคตั้งแต่ต้นเกมไม่ได้มีผลให้รูปเกมเสีย พร้อมกันนั้นยังเล่นแบบเดิม จนมายิงประตูแบบกระหน่ำถึง 5 ลูกรวดในครึ่งแรก กระนั้นเกมรับต้องมีสมาธิต่อการเข้าสกัดที่ต้องแม่นยำกว่านี้ ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี โชคดีและคว้าโอกาสขึ้นนำได้ก่อน ซึ่งมันน่าจะเป็นความได้เปรียบที่ทำให้พวกเขาเล่นง่าย กระนั้นพอโดนยิงตีเสมอ เกมรับดันเกิดอาการสมาธิหลุดและมีช่องว่างมากมาย ทำให้โดนเจาะและยิงแบบรัวๆถึง 5 ประตูในครึ่งแรก และ 2 ประตู ในครึ่งหลัง โดยตรงจุดนี้ถือเป็นปัญหาที่โค้ชหระต้องแก้เป็นการด่วน มิเช่นนั้นจะเกิดความลำบากในนัดที่เหลือของฤดูกาล

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“สิงห์พลิกนรก”

ท่าเรือ ไม่ยอมตาย รัวแซง โคราช 3-2 เก็บ 3 แต้ม

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ในโปรแกรมของวันอาทิตย์ ณ สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่กลับมาจากเกาหลีใต้ หลังจากบุกไปแพ้ อุลซาน ใน ACL 2022 รอบเพลย์ออฟ จะต้องเปิดบ้านพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ผลงานดำดิ่งสุดๆ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนของของกุนซือรุ่นดึกอย่าง แบล็คเวลส์ ยังยืนระบบ 4-2-3-1 ตามเดิมไปก่อน

      ในช่วงต้นเกมเกือบมีจุดเปลี่ยนจากประตูนำของ นครราชสีมา แต่สุดท้ายถูก VAR ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นการช่วยชีวิต การท่าเรือ เพราะรูปเกมยังไม่มีความต่อเนื่อง กระนั้นเกมของสิงห์เจ้าท่าก็ยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะการขึ้นบอลผ่านกลางสนาม ที่ต้องอาศัยการวางบอลจากหลังสู่หน้าเป็นหลัก นั่นจึงทำให้โอกาสเข้าทำถูกตัดทอนและมีลุ้นน้อย ส่วนทางฝั่งโคราช มีลุ้นแบบสุดๆก็แค่จังหวะที่ยิงได้และถูกริบคืน เพราะที่ไม่สามารถต่อบอลทำเกมรุกเพื่อกดดันเจ้าบ้านได้

ครึ่งหลังรูปเกมของ การท่าเรือ ยังไม่ดีขึ้น แล้วมาพลาดจาก สตูเบิ้ล ที่ไม่ขยับดันไลน์ขึ้นมา ทำให้ไม่ล้ำหน้าและ อ็อคตาร่า เข้าไปยิงให้ โคราช นำ 0-1 ไม่เพียงเท่านั้น สวาทแคทมาได้ประตูเพิ่ม 0-2 จากการเก็บบอลกลางสนามของ อ็อคตาร่า ก่อนจะลากและจ่ายให้ ชินทาโร่ เข้าไปชิบ ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นแสดงความผิดพลาดอีกแล้ว อีกทั้งการโดนยิงทิ้งห่างในรูปเกมแบบนี้ การกลับมานับว่ายากยิ่ง ถึงกระนั้น การท่าเรือ จังหวะดีที่มาได้ประตูตีตื้น 1-2 เร็ว จาก โรเชล่า ที่วิ่งมาดีดบอลเข้าเสาแรก แล้ว พิศาล ประมาทไปหน่อย จากนั้นกลายเป็นทีมเยือนเสียเองที่เริ่มจะตื่นตระหนกและมีความผิดพลาด จนโดนยิงตีเสมอ 2-2 สุดท้ายความดราม่าขั้นสุด คือ ทีมเยือนเริ่มตั้งสติได้ แต่ดันมาโดนลูกยิงไกลของ บดินทร์ เป็น 3-2     

      บทสรุปจากเกม การท่าเรือ เอฟซี ออกสตาร์ทด้วยการเฉื่อยชาและมีความผิดพลาด แต่ด้วยความโชคดีที่ประตูตีตื้นมาเร็ว แถมคู่แข่งพลาดและมีดวง ทำให้ทั้งหมดได้ผสมกันจนกลายเป็น 3 แต้ม แบบเฮงๆ ซึ่งในมุมหนึ่งก็น่าดีใจ แต่ในอีกมุมก็ไม่ควรปล่อยผ่าน เพราะนี่คือปัญหาที่ทำให้ทีมต้องล้มเหลวมาตลอด ส่วน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เล่นดีกว่าเล็กน้อย แล้วต้องอยู่นานกว่าจะได้ประตูนำ กระนั้นด้วยความประมาทส่วนบุคคลและในแผงเกมรับ มันก็มีผลให้พวกเขาต้องโดนยิงตีเสมอ แถมมาโดนยิงแบบสุดปัญญาจะป้องกัน ซึ่งหากจะว่าไปแล้ว การกลับบ้านมือเปล่าถือเป็นโชคร้ายของสวาทแคท เพราะจากรูปเกมที่ปรากฏ การเสมอกันนับว่ายุติธรรมที่สุด

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“สนามไม่ดี ผู้ตัดสินก็เช่นกัน”

เมืองทอง 10 คน เจอกรรมการห่วยจนพ่าย ขอนแก่น 2-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 คู่ส่งท้ายของสัปดาห์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ผลงานในบ้านดี จนทำให้ไม่ต้องลงไปลุ้นหนีตาย จะต้องพบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ทำไปทำมา จะมีลุ้นเอี่ยวโควตาถ้วยเอเชีย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนยึด 4-1-4-1 ตามเดิม

ในช่วงที่มีการอบอุ่นร่างกาย ฝนตกได้ตกลงมาอย่างหนักจนมีน้ำท่วมขังหลายจุดบนพื้นสนาม ซึ่งจากสภาพสนามควรเลื่อนเวลาแข่ง แต่ผู้ควบคุมการแข่งขันดันอนุญาตให้แข่งต่อ แล้วมันก็ได้กลายเป็นปัญหาต่อ เมืองทอง ที่ไม่สามารถต่อบนพื้นอย่างที่ตัวเองถนัด ส่วนทาง ขอนแก่น อาจจะกระทบไม่มาก เพราสไตล์ของพวกเขา คือ สาดบอลให้กับ 2 แนวรุกที่เป็นต่างชาติอยู่แล้ว แต่ทีนี่ปัญหาของเกมมันมาเกิดจาดตัวผู้ตัดสิน ที่ตัดสินใจให้จุดโทษกับเจ้าบ้านถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกยังพอเข้าใจได้ แต่ครั้งที่ 2 ถือว่าเบาเกินไป และครั้งที่ 3 ตัดสินถูกตรงกลับลำไม่ให้จุดโทษ แต่การให้ใบแดง โรช่า ถือเป็นการตัดสินที่ดูค้านสายตา แล้วจากจุดนี้ทำให้ทีมเยือนเป็นรองและเสียประตู 0-1

ครึ่งหลัง เมืองทอง ต้องปรับวิธีการเล่น เพื่อให้เข้ากับสภาพสนาม แล้วสุดท้ายก็สามารถตีเสมอ 1-1 จากการวางยาวให้ อานิเยร์ หลุดเข้าไปชิพข้ามหัว ยศพล จากนั้นแทนที่ทีมเยือนจะหาทางยิงแซง มันกลับกลายเป็น ขอนแก่น เก็บบอลและได้เปิดอยู่เรื่อยๆ แถมการเปิดหลายครั้งก็เข้าหัว สุดท้ายเจ้าถิ่นยิงนำ 2-1 อีกครั้ง จากนั้นแม้ว่ากิเลนผยอง จะพยายามเร่งเครื่องเพื่อเอาคืน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

สิ่งที่ต้องตำหนิเป็นอย่างแรก คือ ความหละหลวมของผู้ควบคุมการแข่ง ที่ปล่อยให้เกมลงท่ามกลางพื้นสนามที่มีน้ำขัง รวมถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่ไม่แม่นกติกาเอาเสียเลย ส่วนภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด มีความคุ้นชินสนามมากกว่า ทำให้ตรงจุดนี้ดีกว่าคู่แข่ง แต่การยิงจุดโทษต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วน มิเช่นนั้นในเกมที่มีความหมาย พวกเขาจะฉวยโอกาสตรงนี้ไม่ได้ เช่นกันกับแผงเกมรับ ที่ยังมีจังหวะพลาดง่าย ทั้งๆที่แนวรุกคู่แข่งทำอะไรไม่ถนัดแล้ว ขณะที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด สภาพสนามทำลายเกมบอลบนพื้นแบบหมดสิ้น อีกทั้งยังมาเจอผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ผิดพลาด จนทำให้ทีมเสียเปรียบ อย่างไรก็ดีพวกเขาก็มีส่วนที่พลาดจนเสียประตูเหมือนกัน โดยเฉพาะลูก 2-1

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ช้างเผือกเตรียมเก็บกระเป๋า”

เชียงใหม่ ยังรั่ว พ่าย หนองบัว 1-3 ส่อแววตกชั้นเป็นทีมแรก   

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ต้องลงสนามด้วยความกดดัน เพราะหากยังไม่ชนะอีก โอกาสร่วงสู่ไทยลีก 2 จะมีมากถึง 99% ซึ่งทีมที่จะต้องเจอเป็น หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่พึ่งทำสถิติชนะนอกบ้านเป็นนัดแรกมา อีกทั้งยังต้องการ 3 แต้ม เพื่อเอี่ยวลุ้นตั๋ว ACL สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-2-3-1 ตามเดิม

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ทีม พยายามจะบุกเข้าใส่กันทันที ซึ่งไม่นานนักก็เป็นทาง หนองบัว พิชญ ที่ขึ้นนำ 0-1 จาก แฮร์มิลตัน เจ้าเก่า โดยจังหวะนี้เป็นการเปิดเข้ามาแล้ว ศิริศักดิ์ โขกสกัดไม่โดน ทำให้ดาวซัลโวไทยลีกที่ยืนอยู่ได้หลัง ได้โหม่งจ่อแบบไม่เหลือซาก จากนั้นทีมเยือนถอยไปตั้งรับตามสูตร ทำให้การบุกของเจ้าบ้านเริ่มไม่มีพื้นที่ กระทั่งต้องใช้การยิงไกลหรือวางบอลยาวข้ามฟากเพื่อเปิดพื้นที่ ไม่เพียงเท่านั้นการจ่ายบอลที่ผิดพลาดกลางสนาม หนองบัว ตัดได้แล้วจบด้วยการยิงไกลเป็น 0-2 ของ แฮร์มิลตัน คนเดิม   

ครึ่งหลังเหมือน เชียงใหม่ ถอดใจ เพราะไม่ปรากฏให้เห็นถึงความต้องการที่จะทวงประตูตีไข่แตก ในทางกลับกัน หนองบัว กลายเป็นฝ่ายที่ต่อบอลเข้าใส่ แล้วสุดท้ายมาได้ประตูทิ้งห่าง 0-3 โดยในจังหวะนี้ ลัดเลาะบอลมาจากทางริมเส้น ก่อนจะจบที่ จิรพันธ์ เป็นผู้ทำประตู แบบมีพื้นที่ว่างมากมายในกรอบเขตโทษ จากนั้นทีมเยือนผ่อนเกมลงไปเพื่อถนอมแรงไม่ให้ล้า ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ ก็เล่นไปเรื่อยๆ แล้วมาได้ประตูตีตื้น 1-3 จากฟรีคลิกของ สหรัฐ  

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ในช่วงต้นเกมพยายามจะสู้ แต่พอโดนยิงทิ้งห่างไป 2 ประตู จากความผิดพลาดซ้ำๆซากๆของแนวรับ ทำให้การเล่นในครึ่งหลังเหมือนถอดใจและรู้ชะตากรรมว่ายังไงก็ต้องตกชั้น นั่นจึงเป็นผลให้ในช่วงเวลาที่เหลือเหมือนเล่นประคองให้หมดเวลา ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี พอเจอคู่แข่งมาขอวัดคม พวกเขาก็พร้อมสู้และได้โชว์ถึงความเฉียบคมด้วยการใช้โอกาสที่ไม่เปลื้อง จากนั้นก็เริ่มจะเล่นในแท็กติกของตัวเอง คือ แพ็คเกมรับแล้วรอโต้กลับ ซึ่งก็ทำได้ตามแผน จนในครึ่งหลังเหมือนเล่นโชว์และมาได้ประตูเพิ่ม ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือ เน้นเซฟสภาพร่างกายนักเตะเพื่อไว้ใช้บดในเกมถัดไป

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“งานกร่อยเพราะโดนคาบ้าน “

บุรีรัมย์ อดฉลอง เพราะคาบ้านให้ บีจี ปทุม 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 คู่บิ๊กแมตช์ของวันอาทิตย์และสัปดาห์นี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่พึ่งพ่ายเจ็บใจต่อ แดกู ใน ACL รอบเพลย์ออฟ จะเปิดรังรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เป็นรองจ่าฝูง ซึ่งในเกมนี้เจ้าถิ่นหมายมั่นที่จะคว้าชัยเพื่อการันตีแชมป์ กระนั้นทางฝั่งทีมเยือนก็ต้องการแต้ม เพื่อเกาะตำแหน่งรองแชมป์ไปเล่นถ้วย ACL สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ปราสาทสายฟ้าใช้ 4-4-2 ส่วนกระต่ายแก้วเป็น 4-1-2-3 หรือ 4-3-3

ด้วยความที่โค้ชของทั้ง 2 ทีม เป็นญี่ปุ่น ทำให้สไตล์บอลคล้ายๆกัน คือ เมื่อฝ่ายใดเล่นเกมรุก ก็จะเคาะและผ่องถ่ายบอลให้เร็ว ส่วนเกมรับก็จะต้องบีบเร็วเพื่อแย่งบอลคืน จากนั้นเพียงแค่นาทีที่ 12 บีจี ปทุม ชิงจังหวะออกนำไปก่อนจากลูกเตะมุมที่จ่ายเลียดมาให้ สารัช ยิงบริเวณหัวกะโหลกแบบสุดสวย กระนั้นแนวรับเจ้าบ้านก็ผิดพลาดที่ถอยไปยืนอัดแน่นบริเวณหน้าประตู จนปล่อยให้พื้นที่หน้ากรอบเขตโทษว่างเกิน โดยการโดนนำอย่างรวดเร็วนี้ บุรีรัมย์ ต้องเร่งหนักขึ้น แต่ดูเหมือนว่าการขาด มาซิก้า เกมทางฝั่งซ้ายไม่ไหลลื่นและทะลุทะลวงเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งการต่อบอลก็เชื่องช้าจนโดนดัก กระทั่งเปลี่ยนมาโยนหรือวางบอลข้ามฟากเมื่อถึงแดน 3

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ พยายามบุกแบบสารพัดวิธี ไล่ตั้งแต่เคาะบอลทำชิ่ง เปิดจากด้านข้าง และวางบอลข้ามแดนรับ โดยที่กล่าวมานี้สร้างโอกาสได้หวาดเสียว แต่ก็มีที่ ศุภชัย ยิงไม่ได้เองและถูกริบประตูคืนจาก VAR ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม เน้นตั้งรับและรอสวนกลับ ซึ่งก็มีโอกาสจะยิงทิ้งห่าง แต่ อิคซาน ดันโหม่งออกไปแบบ จากนั้นกลายเป็นทีมเยือนไม่เอาและเจ้าบ้านพยายามโหมบุก โดยการรุกคืบอย่างหนักไม่ค่อยมีความอันตราย เพราะเน้นเปิดจากข้างและยิงไกลแบบรีบร้อน

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีอาการล้าและภาวะเสียกำลังใจจาก ACL ให้เห็น ซึ่งการเสียประตูแบบนี้ถือตัวเองผิดพลาดแบบเต็ม ทำให้หลังจากนั้นพยายามจะบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่ด้วยความรีบเร่งและไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดี มีผลให้การต่อบอลไม่ค่อยแม่นยำและสม่ำเสมอ แล้วยิ่งใช้บอลยาวมากเท่าไร ก็ยิ่งเสียและบั่นทอนความมั่นใจ สุดท้ายจึงต้องพ่ายคาบ้าน ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด การเล่นลูกสูตรกลายเป็นตัวแปรให้คว้า 3 แต้ม ซึ่งก็ต้องชม สารัช ที่วางเท้ายิงได้ดีเยี่ยม ส่วนอีก 80 นาทีกว่าๆ เกมรับเหมือนจะเอาไม่ค่อยอยู่เป็นบางช่วง แต่ในภาพรวมก็ไม่ได้เสียหายอะไร

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

โปรแกรมวิเคราะห์

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์ รีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 (วันเสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 เดินทางเข้าสู่โค้งสุดท้ายของฤดูกาลเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการแข่งขันยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้นและมีความหมาย แม้จะมีผู้ต้องจากลาไปแล้ว 1 ราย คือ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ในทางตรงข้ามการลุ้นอันดับหัวตารางก็ยังไม่รู้หัว-ก้อย ฉะนั้นการแข่งขันในวันเสาร์นี้ น่าจะช่วยให้สถานการณ์ตรงนี้ชัดเจนขึ้น  

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด (18.00 น.)

      ขอนแก่น มีผลงานในบ้านที่เอาเรื่องพอควร โดนเฉพาะในเกมล่าสุดที่เบรก บุรีรัมย์ ไม่ให้คว้าแชมป์ที่บ้านของตัวเอง ทำให้ตอนนี้สามารถลุ้นทำอันดับให้ดีที่สุดได้ โดยไม่ต้องหนีตาย ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ เกมรุกพอใช้ แต่กองหลังไม่เอาอ่าว ทำให้เข็นไม่ไหวและต้องตกชั้นไปตามระเบียบ ฉะนั้นเกมนัดนี้อาจไม่มีความเมามันแบบเต็มสูบ แต่สุดท้ายมองว่าจงอาองผยองจะเก็บชัยได้

โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (18.00 น.)

      สถานการณ์ของ เทโร จะออกแนวๆดี-แย่ แบบเป็นชุด ซึ่งในตอนนี้กำลังอยู่ในโมเมนตัมที่ไม่ชนะใครมา 4 เกม ทำให้การหนีตายไม่สามารถวางใจได้ ส่วนทางฝั่ง บียู การออกทะเลไปนาน ทำให้ไล่จี้อันดับ 2 เพื่อไปเล่นถ้วยเอเชีย ค่อนข้างยาก อย่างไรเสียก็เชื่อว่าเกมนี้ยังมีความหมายและจะใส่กันแบบเต็มที่ ขณะที่ผลการแข่งขันน่าจะออกมาที่เจ๊า หรือแข้งเทพเฉือน

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ (18.30 น.)

      ผลงานของ เมืองทอง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้ว่าเกมล่าสุดจะน่าผิดหวังที่ไม่ชนะ สุพรรณบุรี ทั้งๆที่เล่นดีกว่าชัดเจน กระนั้นเกมนี้น่าจะเป็นโอกาสดีในการเรียกความมั่นใจ เพราะผู้มาเยือนอย่าง สมุทรปราการ ไม่สามารถหาโมเมนตัมที่เป็นจุดเปลี่ยนได้ อีกทั้งสถานการณ์ตอนนี้ก็เหมือนจะดำดิ่ง เร่งไม่ขึ้น และอาจเป็นทีมที่ 2 ที่ต้องตกชั้นลงไปในเร็ววันนี้ ฉะนั้นเกมคู่นี้ กิเลนผยองน่าจะชิวชัย   

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (19.00 น.)

      การเปลี่ยนโค้ชของ ราชบุรี เหมือนจะได้ผลดีเพียงชั่วครู่ เพราะตอนนี้เริ่มจะกลับเข้าสู่ฟอร์มแบบเดิมๆ ตรงข้ามกับ การท่าเรือ ที่ผลงานเหมือนจะยังไม่ค่อยดี และพึ่งพ่ายแพ้ต่อ บีจี ปทุม ในนัดล่าสุด แต่การคุมทีมของ จเด็จ ในหนนี้ ก็ได้เห็นถึงทรงบอลที่ดุดันขึ้นกว่าเดิม ฉะนั้นหากราชันมังกรยังเซื่องซึมเหมือนที่ผ่านมา สิงห์เจ้าท่ามีลุ้นที่จะไปหยิบ 3 แต้ม แต่กระนั้นก็ต้องเฉียบคมเองด้วย มิใช่ใช้โอกาสจบสกอร์อย่างสิ้นเปลื้อง  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เจ๊าเพราะตีงูไม่ตาย”

เทโร ตีงูไม่ตาย สุดท้ายเจ๊า ขอนแก่น 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี ที่สถานการณ์ลอยลำ แต่ยังไม่น่าไว้วางใจ จะต้องพบกับทีมที่อันดับใกล้ๆกันอย่าง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ถึงตอนนี้ขอแค่ทำอันดับให้ดีที่สุดเท่านั้น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 3-5-2 ตามเดิม

      ด้วยความที่ทีมหนึ่งรุกไม่มันส์ อีกทีมหนึ่งเน้นรับรอโต้ ทำให้เกมในช่วง 20 นาทีแรก ชวนให้แฟนบอลง่วงนอนอยู่ไม่น้อย โดยทาง โปลิศ เทโร บุกไปไม่ถึงแดนสุดท้าย เพราะตัวเองต่อบอลได้ไม่แยบยลและรวดเร็วพอ อีกทั้งยังเจอการตั้งรับตามสไตล์ของทีมเยือน ทำให้การยิงไกลต้องถูกงัดนำมาใช้อย่างถี่ยิบ อย่างไรเสียการบุกโต้กลับที่เป็นจุดเด่นของ ขอนแก่น ยังไม่แผงฤทธิ์ให้เห็น กระทั่งเกมผ่านเกินครึ่งชั่วโมง มังกรโล่เงินมาได้ประตูนำ 1-0 จากการเปิดริมเส้น แล้ว ทินกร โหม่งผิดเหลี่ยมเข้าประตูไป

ครึ่งหลัง เทโร เหมือนจะแบ่งรับแบ่งสู้ กล่าวคือ ไม่ได้เน้นตั้งรับ แต่เมื่อมีโอกาสก็ยังบุกเพื่อยิงประตูเพิ่ม อย่างไรเสียปัญหามันติดตรงที่ยังต่อบอลให้รวดเร็วไม่ได้ หรือต่อให้ฉกบอลได้ ก็แต่งบอลนานจนไม่มีช่องและมุมให้ยิง ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น เกมรับยืนป้องกันได้ดี แม้จะมีผิดพลาดบ้าง ขณะที่เกมรุกแทบยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออก กระนั้นพอมีจังหวะสวน การต่อบอลไม่กี่ครั้งจากแดนตัวเอง เมโล่ ได้บอลและเลี้ยงจี้ใส่แนวรับเจ้าบ้าน ก่อนจะยิงตีเสมอ 1-1 ทำให้มังกรโล่เงิน ที่เหมือนจะสบาย ต้องกลับมาเร่งอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ซึ่งก็มีโอกาสเหน่งๆช่วงท้ายเกม แต่ดันโหม่งไม่ดีไปเสียเอง

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม โปลิศ เทโร เอฟซี ไม่ได้มีอะไรที่เหนือกว่าคู่แข่งนัก ซึ่งมันไม่ใช่ความสูสี แต่มันเป็นเพราะศักยภาพที่ได้เท่านี้ เพราะในบางช่วงบางตอนมีโอกาสทอง แล้วดันฉวยไว้ไม่ได้ ฉะนั้นการได้เพียง 1 แต้ม ถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมและยุติธรรม ขณะที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด การเล่นเกมรับทำได้ดีพอสมควร แต่วันนี้มีจังหวะที่ผิดพลาดจากส่วนบุคคลและทั้งแผง ซึ่งยังดีที่โดนยิงแค่ 1 ประตู ส่วนเกมโต้กลับที่เป็นของถนัด วันนี้โชว์ฟอร์ต่ำกว่ามาตรฐาน กระนั้นยังดีที่พอมีโอกาส สามารถยิงตีเสมอแล้วแบ่งแต้มออกมาได้ ซึ่งในทางกลับกันหากเกมรุกไหลลื่นตามฟอร์ม จงอางผยองมีสิทธิ์หยิบ 3 แต้ม ออกไปได้เหมือนกัน   

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เกร็งจนเจ๊า”

สมุทรปราการ ก็เกร็ง ประจวบ ก็เกร็ง สุดท้ายจบจืดที่ 0-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนาม กกท.บางพลี สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ผลงานยังดำดิ่งและไม่ชนะใครสักทีในเลกที่ 2 จะต้องพบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่เริ่มจะรัวหมัดชุดด้วย 3 คะแนน จนมีแสงสว่างต่อหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-2-3-1

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ฝ่ายต่างเปิดฉากแลกใส่กัน โดย สมุทรปราการ จะขึ้นทางริมเส้น หรือกลางสนาม ซึ่งหากมีช่องจบจะรีบยิงทันที ส่วน พีที ประจวบ จะมาในลักษณะโต้กลับหรือขึ้นบอลจากแดนหลัง แล้วมีการต่อบอลที่ดีกว่าเจ้าบ้าน แต่จังหวะจบมักรีบยิงและไม่หวาดเสียวพอ จากนั้นพอเกมผ่าน 15 นาที ดีกรีความเมามันส์ลดลง เพราะทั้ง 2 เน้นระวังตัวกันมากขึ้น แต่มันมากเกินไปจนเกิดเป็นความเกร็ง ดังจากจะเห็นได้จากเจ้าบ้านที่เน้นยิง ไม่เน้นจ่าย เพราะกลัวไม่ได้ยิงและเสียบอลกลาง ขณะที่ทีมเยือน เคาะบอลจนมีช่อง แต่ดันยิงไม่ได้เอง

ครึ่งหลัง สมุทรปราการ เพิ่มมิติการวางบอลยาวให้กองหน้า แต่ก็ยังห่างไกลประตู ส่วน ประจวบ พยายามเล่นในแนวทางเดิม ซึ่งมันมีโอกาสน็อคเจ้าถิ่นได้ แต่ดันยิงไม่คมเสียเอง กระนั้นสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย ต่างผัดกันเสียบอลกลางสนาม แล้วไม่มีใครลงโทษซึ่งกันและกันได้ เพราะเวลาที่เดินไปเรื่อยๆ ต่างคนต่างเกร็งจนทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด กระทั่งกลายเป็นเกมที่ออกไปในทางน่าเบื่อและเกิดความรู้สึกง่วงนอนต่อผู้รับชม  

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ พยายามเปิดหน้าใส่คู่แข่ง แต่หลังจากเกมผ่าน 15 นาที ฟอร์มการเล่นเริ่มทรงตัวและดูเป็นรองคู่แข่ง ไล่ตั้งแต่แนวรุกที่เน้นพาบอลอยู่ในแดนลึก แล้วรีบจบสกอร์ ซึ่งมันเป็นการยิงประตูที่ไม่มีประสิทธิภาพและหวังผลอะไรแทบไม่ได้ ส่วนเกมรับไม่แน่นหนาพอ แถมเกือบโดนยิงด้วย ฉะนั้นการได้ 1 แต้ม ถือว่าเป็นบุญโขแล้ว ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี การต่อบอลและการขึ้นเกมรุก ทำได้ดีจนเห็นถึงทีมเวิร์คที่ลงตัวขึ้นเรื่อยๆ แต่ดันยิงไม่คมและฉวยโอกาสไว้ไม่ได้ รวมถึงมีอาการเกร็งให้เห็น ส่วนเกมรับไม่มีปัญหาหรือความผิดพลาดง่ายๆ ฉะนั้นการได้เพียงแต้มเดียวในเกม นับเป็นเรื่องน่าเสียดายเล็กๆ เพราะหากจบเกมด้วย 3 แต้ม ต่อพิฆาตจะสร้างสะเทือนในพื้นที่สีแดงได้แรงกว่านี้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เกร็งจนเจ๊า”

สมุทรปราการ ก็เกร็ง ประจวบ ก็เกร็ง สุดท้ายจบจืดที่ 0-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนาม กกท.บางพลี สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ผลงานยังดำดิ่งและไม่ชนะใครสักทีในเลกที่ 2 จะต้องพบกับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่เริ่มจะรัวหมัดชุดด้วย 3 คะแนน จนมีแสงสว่างต่อหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-2-3-1

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ฝ่ายต่างเปิดฉากแลกใส่กัน โดย สมุทรปราการ จะขึ้นทางริมเส้น หรือกลางสนาม ซึ่งหากมีช่องจบจะรีบยิงทันที ส่วน พีที ประจวบ จะมาในลักษณะโต้กลับหรือขึ้นบอลจากแดนหลัง แล้วมีการต่อบอลที่ดีกว่าเจ้าบ้าน แต่จังหวะจบมักรีบยิงและไม่หวาดเสียวพอ จากนั้นพอเกมผ่าน 15 นาที ดีกรีความเมามันส์ลดลง เพราะทั้ง 2 เน้นระวังตัวกันมากขึ้น แต่มันมากเกินไปจนเกิดเป็นความเกร็ง ดังจากจะเห็นได้จากเจ้าบ้านที่เน้นยิง ไม่เน้นจ่าย เพราะกลัวไม่ได้ยิงและเสียบอลกลาง ขณะที่ทีมเยือน เคาะบอลจนมีช่อง แต่ดันยิงไม่ได้เอง

ครึ่งหลัง สมุทรปราการ เพิ่มมิติการวางบอลยาวให้กองหน้า แต่ก็ยังห่างไกลประตู ส่วน ประจวบ พยายามเล่นในแนวทางเดิม ซึ่งมันมีโอกาสน็อคเจ้าถิ่นได้ แต่ดันยิงไม่คมเสียเอง กระนั้นสำหรับทั้ง 2 ฝ่าย ต่างผัดกันเสียบอลกลางสนาม แล้วไม่มีใครลงโทษซึ่งกันและกันได้ เพราะเวลาที่เดินไปเรื่อยๆ ต่างคนต่างเกร็งจนทำอะไรก็ไม่ดีไปหมด กระทั่งกลายเป็นเกมที่ออกไปในทางน่าเบื่อและเกิดความรู้สึกง่วงนอนต่อผู้รับชม  

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ พยายามเปิดหน้าใส่คู่แข่ง แต่หลังจากเกมผ่าน 15 นาที ฟอร์มการเล่นเริ่มทรงตัวและดูเป็นรองคู่แข่ง ไล่ตั้งแต่แนวรุกที่เน้นพาบอลอยู่ในแดนลึก แล้วรีบจบสกอร์ ซึ่งมันเป็นการยิงประตูที่ไม่มีประสิทธิภาพและหวังผลอะไรแทบไม่ได้ ส่วนเกมรับไม่แน่นหนาพอ แถมเกือบโดนยิงด้วย ฉะนั้นการได้ 1 แต้ม ถือว่าเป็นบุญโขแล้ว ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี การต่อบอลและการขึ้นเกมรุก ทำได้ดีจนเห็นถึงทีมเวิร์คที่ลงตัวขึ้นเรื่อยๆ แต่ดันยิงไม่คมและฉวยโอกาสไว้ไม่ได้ รวมถึงมีอาการเกร็งให้เห็น ส่วนเกมรับไม่มีปัญหาหรือความผิดพลาดง่ายๆ ฉะนั้นการได้เพียงแต้มเดียวในเกม นับเป็นเรื่องน่าเสียดายเล็กๆ เพราะหากจบเกมด้วย 3 แต้ม ต่อพิฆาตจะสร้างสะเทือนในพื้นที่สีแดงได้แรงกว่านี้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover