Categories
Sport

“สิงห์พลิกนรก”

ท่าเรือ ไม่ยอมตาย รัวแซง โคราช 3-2 เก็บ 3 แต้ม

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 ในโปรแกรมของวันอาทิตย์ ณ สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่กลับมาจากเกาหลีใต้ หลังจากบุกไปแพ้ อุลซาน ใน ACL 2022 รอบเพลย์ออฟ จะต้องเปิดบ้านพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ผลงานดำดิ่งสุดๆ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนของของกุนซือรุ่นดึกอย่าง แบล็คเวลส์ ยังยืนระบบ 4-2-3-1 ตามเดิมไปก่อน

      ในช่วงต้นเกมเกือบมีจุดเปลี่ยนจากประตูนำของ นครราชสีมา แต่สุดท้ายถูก VAR ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นการช่วยชีวิต การท่าเรือ เพราะรูปเกมยังไม่มีความต่อเนื่อง กระนั้นเกมของสิงห์เจ้าท่าก็ยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะการขึ้นบอลผ่านกลางสนาม ที่ต้องอาศัยการวางบอลจากหลังสู่หน้าเป็นหลัก นั่นจึงทำให้โอกาสเข้าทำถูกตัดทอนและมีลุ้นน้อย ส่วนทางฝั่งโคราช มีลุ้นแบบสุดๆก็แค่จังหวะที่ยิงได้และถูกริบคืน เพราะที่ไม่สามารถต่อบอลทำเกมรุกเพื่อกดดันเจ้าบ้านได้

ครึ่งหลังรูปเกมของ การท่าเรือ ยังไม่ดีขึ้น แล้วมาพลาดจาก สตูเบิ้ล ที่ไม่ขยับดันไลน์ขึ้นมา ทำให้ไม่ล้ำหน้าและ อ็อคตาร่า เข้าไปยิงให้ โคราช นำ 0-1 ไม่เพียงเท่านั้น สวาทแคทมาได้ประตูเพิ่ม 0-2 จากการเก็บบอลกลางสนามของ อ็อคตาร่า ก่อนจะลากและจ่ายให้ ชินทาโร่ เข้าไปชิบ ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นแสดงความผิดพลาดอีกแล้ว อีกทั้งการโดนยิงทิ้งห่างในรูปเกมแบบนี้ การกลับมานับว่ายากยิ่ง ถึงกระนั้น การท่าเรือ จังหวะดีที่มาได้ประตูตีตื้น 1-2 เร็ว จาก โรเชล่า ที่วิ่งมาดีดบอลเข้าเสาแรก แล้ว พิศาล ประมาทไปหน่อย จากนั้นกลายเป็นทีมเยือนเสียเองที่เริ่มจะตื่นตระหนกและมีความผิดพลาด จนโดนยิงตีเสมอ 2-2 สุดท้ายความดราม่าขั้นสุด คือ ทีมเยือนเริ่มตั้งสติได้ แต่ดันมาโดนลูกยิงไกลของ บดินทร์ เป็น 3-2     

      บทสรุปจากเกม การท่าเรือ เอฟซี ออกสตาร์ทด้วยการเฉื่อยชาและมีความผิดพลาด แต่ด้วยความโชคดีที่ประตูตีตื้นมาเร็ว แถมคู่แข่งพลาดและมีดวง ทำให้ทั้งหมดได้ผสมกันจนกลายเป็น 3 แต้ม แบบเฮงๆ ซึ่งในมุมหนึ่งก็น่าดีใจ แต่ในอีกมุมก็ไม่ควรปล่อยผ่าน เพราะนี่คือปัญหาที่ทำให้ทีมต้องล้มเหลวมาตลอด ส่วน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เล่นดีกว่าเล็กน้อย แล้วต้องอยู่นานกว่าจะได้ประตูนำ กระนั้นด้วยความประมาทส่วนบุคคลและในแผงเกมรับ มันก็มีผลให้พวกเขาต้องโดนยิงตีเสมอ แถมมาโดนยิงแบบสุดปัญญาจะป้องกัน ซึ่งหากจะว่าไปแล้ว การกลับบ้านมือเปล่าถือเป็นโชคร้ายของสวาทแคท เพราะจากรูปเกมที่ปรากฏ การเสมอกันนับว่ายุติธรรมที่สุด

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“อู๊ดเจ็บเพราะบ๊วยติดคอ”

ท่าเรือ อาการหนัก เปิดรังพ่ายบ๊วย เชียงใหม่ นอนจมกลางตาราง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 คู่ส่งท้ายของวันอาทิตย์ ณ สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่ปลดล็อคชัยในเกมตกค้างเมื่อกลางสัปดาห์ จะต้องพบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ก็ปลดล็อคชัยชนะนัดสำคัญมาเหมือนกัน ทำให้โอกาสหนีตายยังพอมีอยู่บ้าง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-1-2-3 ส่วนทีมเยือนปรับเป็น 4-3-3

เกมเริ่มไปได้แค่ 40 วินาที การบุกชุดแรกของ เชียงใหม่ ก็ได้ประตูนำ 0-1 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าบ้านไปเปิดพื้นที่ให้ บิลล์ ได้ยิง แต่ติดบ็อคและไปเข้าทาง ถวิล ได้ซ้ำจ่อๆ ทำให้ตั้งแต่นาทีแรก การท่าเรือ ต้องเร่งเกมบุก ผ่านการเคาะบอลตามช่องและโยกเปลี่ยนแกนเร็ว ซึ่งก็มีโอกาสอยู่บ้าง แต่ดันยิงทิ้งขว้างไปเอง ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ พอขึ้นนำเร็ว ก็ถอยมาบีบบอลในแดนกลาง อย่างไรเสียเมื่อฝ่ายตัวเองได้บอลและถูกบีบ พวกเขามักใช้การโยนไปข้างหน้า แล้วเสียบอลคืนกลับไปอย่างรวเร็ว จนต้องถอยกลับมาตั้งรับใหม่

ครึ่งหลังเริ่มต้นได้ไม่นาน ก็ฉายภาพซ้ำกับการขึ้นบอลชุดแรกของ เชียงใหม่ ที่มี บิลล์ ดึงจังหวะบอลแล้วงัดให้ เอกนิษฐ์ ตะบันเสียบคานเสาแรก ขึ้นนำ 0-2 จากนั้นทีมเยือนยังครองบอลได้ แถมทำได้ดีเสียด้วย เพราะการต่อบอลจากหลัง มีตัวรุกขยับลงมารับบอล จนไม่ต้องสาดยาวและเสียเหมือนครึ่งแรก ส่วนทางฝั่งผู้ตามอย่าง การท่าเรือ มีเพียงการขึ้นบอลทางริมเส้น แล้วเปิดไปหน้าประตู ซึ่งมันอาจไม่แยบยล แต่ก็ได้ผลดี ขาดเพียงตัวจบสกอร์ที่มักยืนผิดที่ผิดเวลาและพลาดไปเอง โดยกว่าประตูตีตื้น 1-2 จะมา เวลาก็เข้าสู่ช่วงเกมท้ายเกม ซึ่งประตูของ เควิน ลูกนี้ คือ รูปแบบการเข้าทำที่พวกเขาควรทำได้ แต่ทั้งเกมก็มีเพียงจังหวะนี้แค่ครั้งเดียว กระทั่งช่วงท้ายเกม สิงห์เจ้าท่าพยายามเร่งด้วยการวางบอลยาว แต่มันทำได้ไม่ต่อเนื่อง เพราะเสียบอลให้ทีมเยือนเอาไปครองอยู่เรื่อยๆ

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี เสียประตูเร็วทั้งในครึ่งแรกและหลัง ซึ่งสาเหตุอาจมาจากสมาธิที่ขาดหายไป ทำให้เกมรุกต้องทำงานหนัก เพราะแต่ดั้งเดิมก็ไม่มีไอเดียการเข้าที่หลากหลายอะไร หรือหากมีก็จะเห็นไม่บ่อย อาทิ จังหวะทำชิ่ง 1-2 แล้วยิงตีตื้นเป็น 1-2 ฉะนั้นหากมีรูปแบบการเข้าทำแบบนี้บ่อยๆ เชื่อว่าอย่างแย่ไม่น่าแพ้ ขณะที่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เกมรุกมีการประสานงานที่ลงตัวและจบสกอร์คมกริบ ทำให้เกมนี้เล่นสบาย แต่อาจมีกดดันเป็นบางช่วง เนื่องจากเกมรับยังมีข้อผิดพลาดอยู่ อาทิ ประตูที่เสียไป 1 ลูก ที่ควรตามประกบและยืนตำแหน่งในแม่นกว่านี้อีก เพราะบอลที่เปิดยัดเข้ามาหลายครั้ง ยังดูหวาดเสียวสำหรับการโดนขาใครสักคนเข้าประตู

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ฉลามทะยานรองจ่าฝูง”

ชลบุรี เกือบแย่ แต่ฮึดยิงเฉือน การท่าเรือ 3-2 กระโดดรั้งรองจ่าฝูง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ จะเปิดบ้านรับ การท่าเรือ เอฟซี ที่หากเกมนี้ยังไม่ชนะอีก ก็คงต้องยกธงขาวอย่างจริงจังเสียแล้ว  สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-2 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-5-1

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ชลบุรี ดูเหนือกว่าในช่วง 10 นาทีแรก เพราะมีการต่อบอลทางริมเส้น ทั้งแบบสั้นและยาว จากนั้น การท่าเรือ เริ่มจะต่อบอลติด แต่ความแม่นยำและความรวดเร็วยังเป็นรอง ถัดมาไม่นาน เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการต่อบอลและเปิดโยกไปเสาไกลให้ ยู บยอง-ซู โขก ไม่เพียงเท่านั้น การตัดบอล โต้กลับ และจ่ายถวายพานให้ดาวเตะสัญชาติเกาหลีแปรง่ายๆเป็นประตูทิ้งห่าง 2-0

การท่าเรือ โดนนำไป 2-0 แต่รูปเกมยังไม่เสียทรง เพราะยังสามารถบุกได้ต่อ ซึ่งการถ่ายบอลจากริมเส้น กลางสนาม และด้านไกล สามารถทำได้รวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วไม่นานนักก็ได้ประตูตีตื้น 2-1 จากความผิดพลาดของ เคลิช ที่โหม่งสกัดไปเข้าทาง นูรูล ได้ยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาด จากนั้นแทนที่สิงห์เจ้าท่าจะโหม มันกลายเป็นผ่อนจนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ตามหลัง 1 ลูก

ครึ่งหลัง ชลบุรี กลับมาเล่นบุกเหมือนช่วงก่อนได้ประตู ซึ่งมันเกือบได้ประตูทิ้งห่าง แต่ดันไม่ได้เพิ่ม ทำให้ช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย โค้ชเตี้ยเลือกจะตั้งรับ แล้วมันเหมือนจะดี กระนั้นพอโดนกดนานๆ และมีการลากเลื้อยบอลกับใช้ความเร็วเล่นงาน มันก็เริ่มจะแกะเกมรับของเจ้าถิ่นได้ กระทั่ง การท่าเรือ มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 อย่างไรเสียไล่หลังไม่กี่นาที ฉลามชลก็มาได้ประตูนำ 3-2 โดยในจังหวะนี้ เจ้าถิ่นใช้การวางยาวไปที่ริมเส้นและมีการจับบอลที่ไม่ดีแล้ว แต่แนวรับทีมเยือนเกิดการประมาทและไม่ไล่บอล ทำให้ ยู จัดการจ่ายให้ มูริลโล่ เอาไปยิงล่อเป้า ส่วนช่วงเวลาที่เหลือ สิงห์เจ้าท่าไม่สามารถเดินเกมให้ดุดันได้อีก

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี ไม่ต่อบอลมากจังหวะ แต่มีการมิติการเข้าทำที่ดีและรู้ใจกัน ทำให้การทำประตูทั้ง 3 ลูก เกิดความลงตัวและสวยงาม ส่วนเกมรับ ความผิดพลาดส่วนบุคคลส่งผลให้เสียประตู ต่างจากประตูที่ 2 ที่ทีมเลือกจะเล่นเกมรับเพียงไม่กี่นาที แล้วดันโดนยิง ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี กว่าจะตั้งเกมจนสูสีได้ ก็เสียประตูไปแล้ว 2 ลูก ซึ่งยังดีที่เร่งเกมบุกจนกลับมาตีเสมอได้ พร้อมกับรูปแบบการบุกที่ดูดีที่เดียว แต่เพราะความไม่ละเอียด สุดท้ายก็มาโดนยิง 3-2 ทำให้หลังจากนั้น ทุกอย่างแทบจะเก็บฉากทันที

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปภาพรวม ศึกรีโว่ไทยลีก

การท่าเรือ เอฟซี ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

ศึกรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ในเลกแรก ของ การท่าเรือ เอฟซี ถือว่าเป็นอีกครั้งที่ผลงานน่าผิดหวัง เพราะเมื่อช่วงต้นฤดูกาล พวกเขาได้จัดการเปลี่ยนเฮดโค้ชมาเป็น ดุสิต เฉลิมแสน เพื่อหวังให้โค้ชดีกรีแชมป์ไทยลีกผู้นี้ รีดศักยภาพของนักเตะที่มีคุณภาพอยู่แล้วออกมาให้ได้ แต่สุดท้ายก็ทำทีมได้เพียง 4 เดือน ก่อนจะลาออกเพื่อรับผิดชอบผลงานที่บู่สุดขีด   

      การท่าเรือ เอฟซี มีผลงานที่ล้มเหลวในลีกฤดูกาลก่อน แล้วตามด้วยการตกรอบแบ่งกลุ่ม ACL แบบไม่น่าประดับทับใจ นั่นจึงเป็นผลให้ มาดามแป้ง จัดการขยับโค้ชอู๊ด ลงไปเป็นผู้ช่วย พร้อมกับติดต่อไปยัง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เพื่อขอยืมโค้ชโอ่ง มาคุมทีม ซึ่งการได้กุนซือดีกรีแชมป์ไทยลีก มาดูแลนักเตะที่มีคุณภาพคับแก้วล้นทีม มันก็ได้ก่อเกิดความหวังครั้งใหม่ สำหรับการคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยแรกในปีนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าโค้ชโอ่งไม่ได้มีฝีมือมากขนาดนั้น รวมถึงแนวทางการทำทีมและเสริมนักเตะของสิงห์เจ้าท่า “ที่คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ”

เมื่อการแข่งขันออกสตาร์ท การท่าเรือ เอฟซี เผชิญกับอาการสะดุดและยังไม่มีระบบการเล่นที่ลงตัว ซึ่งในเกมนัดที่ 3 กับ ขอนแก่น ดูเหมือนว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น แต่พอนัดต่อๆมา มันก็เป็นในลักษณะวงจรอุบาทก์ กล่าวคือ แพ้ ชนะ เสมอ สลับๆกันไป กระทั่งถึงนัดที่บุกไปพ่าย นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-1 ที่สิงห์เจ้าท่าหมดรูปและสู้ไม่ได้อย่างสิ้นเชิง สุดท้ายโค้ชโอ่งประกาศลาออก ทั้งๆที่ทำงานได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น จากนั้นโค้ชอู๊ด สระราวุฒิ ตรีพันธุ์ ก็ได้กลับมารับตำแหน่งเฮดโค้ชคำรบ 2 พร้อมกับพาทีมเก็บชัย 3 รวดเร็ว เป็นครั้งแรก ก่อนจะมาสะดุดแพ้ หนองบัว พิชญ เอฟซี โดยหากดูผลงานอย่างละเอียดของโค้ชอู๊ด อาจจะพาทีมชนะก็จริง แต่ในแง่ของทรงบอลก็ไม่ได้ต่างจากที่คุมรอบแรก

      การจบเลกแรกด้วยอันดับ 4 และมีแต้มห่างจ่าฝูง 5 คะแนน อาจมีผลให้บอร์ดพอใจที่จะใช้บริการโค้ชอู๊ดต่อไปในเลกที่ 2 แต่อย่างที่กล่าวไปในย่อหน้าที่แล้วว่าทรงบอลของโค้ชอู๊ด ไม่ได้แตกต่างจากที่คุมรอบแรก แล้วในเมื่อมันไม่ดี มันก็มีความเสี่ยงที่ในอีกครึ่งทางที่เหลือ จะไม่สามารถไล่บี้แต้มได้ทัน มิหนำซ้ำอาจมีระยะแต้มห่างมากกว่านี้ และท้ายที่สุด การท่าเรือ เอฟซี อาจต้องรอคอยแชมป์ไทยลีกไปอีก 1 ปี เพราะยังจมปลักกับการใช้โค้ชที่ไม่มีศักยภาพเพียงพอ และการนโยบายซื้อนักเตะ ที่เสริมไม่ตรงกับความต้องการของทีม  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“สิงห์น้ำตาตก”

ท่าเรือนำก่อน แต่ไ”สิงห์น้ำตาตก”ปหยุดเล่นจน บียู โดนตีเสมอ 1 -1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 16 ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามแพทสเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซีที่เป็นสิงห์แรงปลายเมื่อช่วงท้ายเลกแรก จะเปิดรังรับรองจ่าฝูงอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องชอกช้ำกับการพลาดเป็นรองแชมป์เลกแรก สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านและทีมเยือนต่างพร้อมใจกันวางระบบ 4-3-3

ช่วงต้นเกม ทรู แบงค็อก พยายามครองบอลและบุกใส่ โดยหากเป็นการขึงบุกจะทำอะไรไม่ได้มาก นอกเสียจากยิงไกลจากนอกกรอบ แต่ถ้าเป็นการสวนกลับ หรือขึ้นบอลเร็ว ความหวาดเสียวในการจบสกอร์จะมีมากกว่า ซึ่งมันน่าเสียดายที่ บียู ไม่สามารถคว้าโอกาสตรงนี้ให้เป็นประตูได้

ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ ช่วงต้นเกมต้องตั้งรับเยอะ แล้วเมื่อไรที่ได้สวนกลับ จะอาศัยการวางบอลจากริมเส้นในแดนตัวเอง ไปยังที่ว่างระหว่างกองหลังกับผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้แนวรุกวิ่งโฉบหรืออาศัยการเลี้ยงฝ่าพาบอลขึ้นไป จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป 25 นาที สิงห์เจ้าท่า เริ่มจะตั้งเกมของตัวเองได้ แล้วมีความพยายามจะต่อบอลตามช่อง กระทั่งมาได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่39 ซึ่งในจังหวะนี้ต้องชม ซัวเรส ที่หาพื้นที่ดีและพาบอลไปมุมอับ จนดึงตัวประกบให้หน้าประตูโล่ง แล้วจัดการปาดมาให้ อดิศักดิ์ ยิงง่ายๆ

ครึ่งหลัง บียู พยายามจะทำเกมบุก แต่มันไม่รวดเร็วพอจะเจาะแนวรับเจ้าบ้านได้ กระนั้นมันก็มีจังหวะเป็นใจให้ แต่ก็ดันตั้งเท้ายิงไม่ดีอีก ส่วนทางฝั่งการท่าเรือ เล่นอย่างผ่อนคลายด้วยการรอจังหวะโต้กลับ แต่ดันบวกประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้เมื่อเหลือ 25นาทีสุดท้าย โค้ชอู๊ดเลือกจะเน้นเกมรับเพื่อรักษาสกอร์ ตรงข้ามกับ บียู ที่ต้องส่งตัวรุกลงมา แม้จะไม่สมบูรณ์ โดยการลงมาของเหล่าตัวสำรอง มันก็มีโอกาสบ้าง แต่ดันโชคร้ายชนเสาด้านนอกกระทั่งช่วงทดเวลา บียู มาได้ประตูตีเสมอ1-1จากความพยายามแทงบอลตัดหลังและปาดบอลมาหน้าประตู ซึ่งในจังหวะนี้ ผู้เล่นเจ้าบ้านไปหยุดเล่น เพราะเห็นไลน์แมนยกธงแต่พอเช็ค VAR ปรากฏว่าไม่ล้ำหน้า

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี เล่นได้ตามมาตรฐาน โดยเกมรับยืนป้องกันได้ดีเมื่อถูกขึงใส่ แต่พอเจอเกมสวนกลับก็มีช่องให้คู่แข่งโจมตี รวมถึงช่วงที่เน้นตั้งรับ ซึ่งก็มีสัญญาณเตือนแล้ว สุดท้ายก็ไม่รอดกับการเสียประตู ส่วนเกมรุกมีแค่การเปิดบอลจากริมเส้นและอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะเป็นหลัก ขณะที่ ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด ถ้าเกมรุกเฉียบคม มันสามารถปิดจ็อบตั้งแต่ครึ่งแรกได้ แต่พอทำไม่ได้แล้วยังมาผิดพลาดจนเสียประตูอีก มันจึงเป็นผลให้ครึ่งหลังต้องเล่นอย่างลำบาก จนเกือบต้องยอมแพ้อยู่แล้ว ยังดีที่มาได้ประตูตีเสมอเก็บแต้ม ซึ่งอย่างน้อยมันยังดีกว่าไม่ได้เลย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“โอ่งมา ชนะไม่เป็น”

การท่าเรือ เปิดบ้านเฉือน บีจี 1-0 ส่งโค้ชโอ่งไร้ชัย 2 เกมรวด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 14 ในส่วนของโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานเริ่มแจ่ม หลังจากโค้ชอู๊ดขึ้นมาขัดตาทัพ จะต้องพบกับทีมที่มีอดีตกุนซืออย่าง โค้ชโอ่ง นำ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด บุกมาเยือนทันที หลังจากพึ่งแยกทางกันไปได้เพียงอาทิตย์กว่าๆเท่านั้น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-1-1 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนมาแปลกในระบบ 5-4-1 พร้อมกับตัวผู้เล่นที่ดรอปตัวจริงกว่าค่อนทีม

       การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เป็นฝั่ง การท่าเรือ ที่บุกใส่และโจมตีคู่แข่งทางริมเส้น ซึ่งการยืนหลัง 5 ของ บีจี ปทุม ดูจะปรับตัวไม่ได้ ดังจะเห็นได้จากการยืนที่ยังสับสน อีกทั้งเกมรุกก็แทบจะขึ้นไม่ได้และไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ทำให้เกมที่ปรากฏจะเป็นเจ้าบ้านโหมบุกใส่ทีมเยือน แต่ยังไม่มีจังหวะเหน่งๆในการจบสกอร์ กระทั่งกลายเป็น วิคเตอร์ ที่สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองแบบโหดเหี้ยม

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม ค่อยๆดีขึ้นทีละน้อย เริ่มจากลูกโด่งที่เริ่มมีโอกาสได้เปิดมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เข้าเป้า หรือต่อให้ถึงเป้าก็โหม่งไม่ดีไปเสียอีก ส่วนการเซตบอลด้วยเท้า มีช่วงเวลาสั้นๆที่ขึงบุกได้ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถป้อนบอลให้ไปถึงกองหน้าได้ ขณะที่ การท่าเรือ รูปเกมก็คล้ายๆกับครึ่งแรก คือ มีโอกาสบุก จะไปทางริมเส้นและผ่านแบ็คเข้ามา โดยการต้องยิงด้วยตัวเองยิงไม่ตรงกรอบและไม่อันตราย ทำให้สกอร์ค้างและจบที่ 1-0

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี เกมรับแทบไม่ถูกทดสอบอันใด เพราะประสิทธิภาพของคู่แข่ง  ดรอปลงไปเยอะมาก ส่วนเกมรุก มีแค่มุกเดียวและไม่มีจังหวะจบสกอร์ ฉะนั้น 3 แต้มในวันนี้ ต้องบอกว่าโชคดีมากกว่า ที่คู่แข่งถวายมาให้ ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด การเปลี่ยนระบบและตัวผู้เล่น มีผลชัดเจนให้รูปเกมดรอปลง โดยเฉพาะเกมรุก ที่ไร้ซึ่งมิติใดๆและไม่มีทางจะยิงคู่แข่งได้ หากฝ่ายตรงข้ามไม่พลาดให้ ขณะที่เดียวเกมรับ มี 3 กองหลัง และมีแบ็ค 2 ข้าง ถอยลงมา มันไม่ได้ช่วยให้เกิดความหนาแน่ แต่มันกลายเป็นปัญหา เพราะการยืนของแบ็ค กับ กองหลัง ไม่สัมพันธ์กัน กระนั้นการทำงานของ 3 กองหลัง ยังดีอยู่และน่าจะเป็นแสงสุดท้ายให้ทีมเอาแต้มกลับบ้าน แต่สุดท้ายดันมาพลาดสกัดเข้าประตูตัวเอง ทำให้ต้องพ่ายแพ้ไป อีกทั้งมันสามารถกล่าวในภาพรวมได้ว่าเกมนี้เป็นเกมหนึ่งที่ย่ำแย่ที่สุดของทีม  

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เม็ดเดียวก็เพียงพอ”

ท่าเรือ ฟอร์มไม่สวยหรู แต่ยังเฉือน ราชบุรี 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 12 ลงเตะกันวันกลางสัปดาห์ โดยในส่วนของคู่สุดท้ายวันพฤหัสบดี การท่าเรือ เอฟซี ที่ก่อนเกมมีข่าวใหญ่กับการประกาศลาออกของ โค้ชโอ่ง จะต้องเปิดบ้านรับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ตอนนี้สถานการณ์ย่ำแย่จนใกล้เคียงกับการหนีตายแล้ว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-31 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-5-1

      การแข่งขันในช่วง 5 นาทีแรก ยังไม่ค่อยปะติดปะต่อทั้ง 2 ทีม แต่หลังจากนั้น การท่าเรือ เริ่มใช้การวางบอลจากกลางสนามไปยังไลน์ระหว่างกองหลังของคู่แข่ง แต่มันยังไม่สามารถสร้างโอกาสที่จะเป็นประตูได้ จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ก็เริ่มจะมีการต่อบอลและทำชิ่งตรงกลางสนาม แต่พอจะเข้าพื้นที่อันตราย ต้องตบออกซ้าย-ขวา แล้วเปิดบอลเข้าไปแทน ขณะที่ ราชบุรี ความเชื่องช้าในการขยับตัวไปข้างหน้า มีผลให้การต่อบอลมากจังหวะจนไม่ได้บุก หรือการแก้ไขด้วยการวางยาวไปให้กองหน้า มันก็ถูกเก็บกินง่ายๆ เพราะคนเปิดกับคนรอบอล ยืนห่างกันมาก

ครึ่งหลัง การท่าเรือ เร่งจังหวะการต่อบอลให้รวดเร็ว แต่เมื่อไปถึงแดนอันตรายของคู่ก็มักจะตกม้าตาย กับการเลี้ยงวนไปมาแล้วจบด้วยการยิงไกล นอกจากนี้โค้ชอู๊ด ยังได้สั่งการให้นักเตะวิ่งไล่เพรสซิ่งแดนบน เพราะแนวรับคู่แข่งไม่ค่อยนิ่ง ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี การขึ้นบอลค่อนข้างมีปัญหา เพราะเมื่อถึงแดน 3 ก็จะตัน จนต้องพึ่งการวางบอลยาวของ สรรวัชญ์ เป็นหลัก แต่สุดท้ายแดนหน้าก็เก็บไม่ค่อยได้

      ประตูนำ 1-0 ของ การท่าเรือ มาจากการที่แนวรับทีมเยือนถอยไปเรื่อย ๆ แล้วไม่มีตัวเข้ามาขวางทาง ทำให้ บดินทร์ มีพื้นที่และเวลาได้ส่องไกล แล้วมันเข้าเป้าด้วยการไซร์เสียบเสาไกล จากนั้น ราชบุรี ก็พยายามบุก แต่ด้วยปัญหาเดิม ๆ ทำให้บอลไปไม่ถึงแดนสุดท้าย อีกทั้งการเสียบอลง่ายๆกลางทาง ก็ยิ่งเสียเวลาให้เจ้าถิ่นเอาบอลไปบุกจนหมดเวลา

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี เปลี่ยนโค้ชแบบฉับพลัน ทำให้ยังไม่ค่อยเห็นไอเดียอะไรจากโค้ชอู๊ดมากนัก แต่สำหรับเกมนี้ เกมรับเกมรุจัดว่าเรียบ ๆ ไม่มีข้อผิดพลาด แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่น ส่วนประตูที่ได้และ 3 แต้ม ในวันนี้ มาจากการฉวยโอกาสยิงแล้วดันแม่นพอดี ขณะที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เกมรับไม่นิ่ง จนสุดท้ายถูกลงโทษด้วยการเสียประตู ส่วนเกมรุกก็ไม่ต่างกัน เพราะไม่สามารถขึ้นบอลจากหลังสู่หน้าได้ ทั้ง ๆ ที่คู่แข่งไม่ได้เพรสซิ่งอะไรที่ดุเดือดเลย  

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“น้องแมวโหดเต็มระบบ”

โคราช ฟอร์มโหด ถล่ม การท่าเรือ ในถิ่น 3-1

ศึกฟุตบอลรีโวไทยลีก นัดที่ 11 ในส่วนของคู่เปิดหัววันอาทิตย์ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ผลงานเริ่มจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จะได้เปิดรังเหย้าของตัวเอง พบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่วันนี้ต้องเต็มที่เพื่อเก็บ 3 แต้ม ให้ได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านในใช้ 4-4-2 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนปรับมาเป็น 4-4-1-1

        การท่าเรือ ออกสตาร์ทได้ดูดีกว่า เพราะสามารถต่อบอลและทำชิ่งบริเวณริมเส้นได้ แต่การเจาะพื้นที่กรอบเขตโทษและยิงประตูยังไม่มี อย่างไรเสียพอเกมผ่านไปเรื่อย ๆ เกมรุกดันดรอปลงจนต้องลุ้นประตูจากการยิงไกลนอกกรอบแทน ขณะที่ นครราชสีมา เกมรับต้านทานได้สบาย ส่วนเกมรุกเริ่มตั้งตัวเมื่อ 10 นาทีผ่าน แต่การพาบอลไปข้างหน้าจะรู้สึกว่าการครองบอลไม่เหนียวและมักเสียเองก่อนเข้าพื้นที่อันตราย กระนั้นด้วยความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือน ก็ได้มีผลให้เจ้าถิ่นได้จุดโทษและประตูนำ 1-0

      การท่าเรือ พยายามจะบุกต่อเพื่อคุมเกมและประตูตีเสมอ แต่การเสียบอลกลางทางก็ได้เป็นการเติมเชื้อไฟให้แนวรุกเจ้าถิ่นมีความมั่นใจที่จะบุกทะลุทะลวง รวมถึงเจาะพื้นที่ที่แบ็คของทีมเยือนเติมขึ้นไปและลงไม่ทัน สุดท้ายบอลยาวจากหลังก็ถูก คาริคาลี่ ดูดลงและเลี้ยงเข้าไปยิงเป็น 2-0

การท่าเรือ เปลี่ยนแนวรุกลงมาเพิ่มในครึ่งหลัง แต่มันยังไม่ค่อยเห็นผล เพราะบอลไปไม่ถึงแดนสุดท้าย มิหนำซ้ำยังมาเสียสมาธิจากลูกเตะมุม จนถูกฉวยโอกาสเล่นเร็วและกลายเป็นประตู 3-0 ทำให้หลังจากนั้น เกมขึงบุกของสิงห์เจ้าท่า แทบจะเก็บฉากกลับบ้าน อีกทั้งการครองบอลในแดนกลาง ก็ถูกฉกถี่ๆจนเกือบโดนยิงเพิ่มหลายครั้ง กระนั้นในช่วงท้ายเกม ลูกทีมของโค้ชโอ่งมาได้ประตูปลอบใจ 3-1 จากจากจังหวะที่เจ้าถิ่นประมาทแล้วเปิดพื้นที่ให้เลี้ยงจี้และยิงนอกกรอบเสียบสามเหลี่ยม

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เกมนี้สถานการณ์เป็นใจตั้งแต่ขึ้นนำ 1-0 ทำให้หลังจากนั้นสามารถเล่นเกมสวนกลับที่ตัวเองถนัดได้เต็มที่ แต่การสวนกลับที่ไม่ค่อยแม่ยำและทำเสียเองระหว่างทางเกือบทุกครั้ง คือ สิ่งที่ต้องนำไปปรับ เพราะหากเกมสวนกลับมีคุณภาพ จำนวนประตูจะต้องมากว่า 3 ลูก ที่ยิงได้ ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี การพ่ายแพ้แบบนี้เสียท่าทีมใหญ่ เพราะประตูที่เกิดขึ้นล้วนมาจากความผิดพลาดทั้งหมด ขณะที่เกมรุกก็ไร้น้ำยาที่จะเจาะเข้าไปในแดนคู่แข่ง ซึ่งถึงตรงนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงจริงๆสำหรับสิงห์เจ้าท่า เพราะไม่ว่าจะเกมรับหรือรุกก็ล้วนแต่มีปัญหา

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เชียงใหม่ อาการยังแย่”

เชียงใหม่ พ่าย การท่าเรือ ตามคาด 0-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 6 ลงแข่งขันกันในวันกลางสัปดาห์ โดยในส่วนนี้จะเป็นคู่ส่งท้ายจากเมืองเหนือ ระหว่าง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่พึ่งคว้าชัยชนะนัดแรกของซีซั่นได้สำเร็จ กับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ต้องการ 3 แต้ม อย่างยิ่งเพื่อเกาะกลุ่มหัวตาราง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 4-2-1-3

       เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นเป็น การท่าเรือ ที่ดูเหนือกว่า เพราะสามารถโจมตีใส่เจ้าบ้านได้อยู่ตลอด แต่ความเฉียบคมไม่มี กระนั้นส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะแนวรับของ เชียงใหม่ ที่ไม่ดีเอง เพราะการยืนตำแหน่งป้องกันในหลายๆจังหวะเกิดความผิดพลาดและหละหลวม แต่ที่ยังไม่เสียประตูก็เป็นเพราะทีมเยือนจบไม่คมเอง ขณะที่เกมโต้กลับก็มีนานๆครั้ง อีกทั้งมันไม่มีประสิทธิภาพเลย เพราะการต่อบอลเชื่องช้า หรือต่อให้พาไปถึงแดน 3 ก็จะหมดไอเดีย แล้วใช้การวางบอลที่ไม่มีความแม่นยำ หรือยิงไกลที่หลุดออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

ครึ่งหลัง เชียงใหม่ แก้เกมออกมาได้ดี เพราะสามารถต่อบอลด้วยสปีดที่เร็วขึ้น แต่จังหวะเข้าทำยังขาดๆเกินๆ ทำให้ไม่มีโอกาสจบสกอร์แบบเหน่งๆ อย่างไรก็ตามแนวรับของเจ้าบ้านที่หละหลวมมาตั้งแต่ครึ่งแรก ก็มาโดนยิงขึ้นนำ 0-1 จนได้ ซึ่งในจังหวะนั้นเป็นการโจมตีทางขวา แล้วเปิดไปเสาไกลให้ โบนีญ่า ที่ยืนโล่งๆอยู่นานสองนานได้โหม่งระยะประชิด จากนั้นลูก 0-2 แนวรับช้างศึกล้านนา ผิดพลาดอีกครั้ง เพราะปล่อยให้ตัวในกรอบเขตโทษได้ยืนอย่างมีอิสระ ทำให้ทันทีที่บอลมาถึง โก ซุน กิ จึงได้ยิงแบบสบายๆ ส่วนในช่วงท้ายเกม ลุกทีมของโค้ชอั๋นยังคงเดินหน้าบุกต่อ แต่ไม่มีน้ำยาทำสกอร์เพิ่ม    

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ลงเล่นด้วยฟอร์มที่แตกต่างจากเกมที่ชนะเมื่อนัดล่าสุด โดยเกมรับมีปัญหาและพร้อมจะเสียประตูตลอดเวลา ซึ่งวันนี้ยังดีที่คู่แข่งไม่คม ไม่อย่างนั้นวันนี้โดนมากกว่า 2 เม็ด แน่นอน ขณะที่เกมรุกไร้ซึ่งไอเดียในการเล่น open play ฉะนั้นอาการของช้างศึกล้านนา นับว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี ชนะและเก็บ 3 ก็จริง แต่คุณภาพไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเลย โดยเกมรุกจบไม่คม แต่ก็ยังดีที่ยิงได้ 2 ลูก ขณะที่เกมรับวันนี้ไม่เสียประตู แต่มันก็เห็นๆอยู่ว่าคู่แข่งไม่มีอาวุธเด็ดอะไร ฉะนั้นมันไม่มีเหตุใดเลยที่จะปล่อยให้แนวรุกคู่แข่งเข้ามาป่วนหน้าบ้านง่ายๆแบบนี้     

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เม็ดเดียวก็เพียงพอ”

ท่าเรือ เปิดรีงเชือด เมืองทอง แบบมีเสียว 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 5 ในส่วนของค่ำคืนวันเสาร์ มีเกมบิ๊กแมตช์ที่สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่ออกไปพ่ายสุพรรณบุรีมาแบบเจ็บช้ำ จะเปิดบ้านล้างตาความแค้นกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เก็บ 3 แต้มมาแบบลุ้นระทึก สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-3-1 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้แผน 4-1-4-1 เหมือนเดิม

ก่อนเกมและระหว่างเกมมีฝนตกสะสมลงมาหลายวัน ทำให้สภาพพื้นสนามเปียกแฉะจนมีผลต่อทิศทางและการไหลของลูกฟุตบอล

ครึ่งแรก

โดยเมื่อเกมเริ่มขึ้น เมืองทอง สามารถโหมบุกจนมีโอกาสได้จบ แต่เมื่อเกมผ่านไป 5 นาที การท่าเรือ สามารถตัดบอลเอาไปโต้กลับได้อยู่เนืองๆ กระทั่งได้ประตูนำ 1-0 จากการโต้กลับ แล้วผู้รักษาประตูอย่าง สมพร ยศ ดันรับหลุดมือจนได้ยิงง่ายๆ หลังจากนั้น เมืองทอง พยายามจะทำเกมบุกต่อ แต่จนถึงบัดนี้มันก็เริ่มเห็นได้ชัดว่าสภาพสนามมีผลให้การต่อบอลบนพื้นช้าลง อีกด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว จึงทำให้การพาบอลเข้าไปในแดน 3-4 มีน้อยมาก

ครึ่งหลัง

เมืองทอง ปรับตำแหน่งการยืน การให้บอล จนสามารถต่อบอลและโจมตีที่ว่างของเจ้าบ้านได้อย่างน้ำได้เนื้อ ขาดเพียงประตูที่บอลดันไปชนเสาและคายเสียหมด แต่อย่างไรเสียเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ แนวรับของการท่าเรือ ที่โดนเจาะจนแกว่งก็เริ่มนิ่งขึ้นจนสามารถหยุดการบุกของ กิเลนผยองได้ กระทั่งจบเกมด้วยสกอร์ 1-0 ตามเดิม

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี เริ่มต้นเกมด้วยสถานการณ์ที่เป็นรอง แต่โชคดีที่คู่แข่งมีความผิดพลาด แล้วตัวเองสามารถลงโทษได้สำเร็จ กระนั้นหากมองแบบองค์รวม เกมรับก็ยังมีอาการแกว่งในบางช่วงของเกม ซึ่งก็โชคดีชั้น 2 ที่ไม่โดนยิงคืน ขณะที่เกมรุกก็เป็นอีกครั้งที่ไม่สามารถขึงคู่แข่งให้อยู่หมัดได้ ฉะนั้นการคว้า 3 แต้มในวันนี้ โค้ชโอ่งยังมีการบ้านที่แก้ไม่ตกรออยู่ ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ยูไนเต็ด วันนี้เหมือนจะออกสตาร์ทได้ดี แต่เมื่อยิ่งเล่นยิ่งมีความผิดพลาดกับการเสียบอลให้คู่แข่งได้โต้กลับ อีกทั้งยังมาโดนยิงประตูนำ อย่างไรเสียในครึ่งหลัง โค้ชโอ้สามารถแก้เกมจนดูเหนือกว่าและควรได้ประตูตีเสมอ แต่พอบุกหนักๆแล้วไม่ได้ ก็เริ่มออกอาการแผ่วจนจบเกม

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover