Categories
Sport

“ในบ้านยังแสบถึงทรวง”

หนองบัว ไม่กลัวใครในถิ่น จัดการตบ บียู นิ่มๆ 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามพิชญ สเตเดี้ยม หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่การลงเล่นในบ้านกลายเป็นหมัดเด็ด จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สถานการณ์การลุ้นแชมป์เริ่มยากไปทุกขณะ แล้วมันจะแย่ยิ่งกว่าหากวันนี้ไม่ชนะ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-3-1 ส่วนทีมเยือนปรับมาเป็น 4-3-3 ตามเดิม

      การแข่งขันในครึ่งแรก ทรู แบงค็อก ดูดีกว่า เพราะสามารถบีบและเพรสซิ่งไม่ให้คู่แข่งเล่นง่าย จนได้บอลมาครอง แต่ถึงจะได้บอลมาและพยายามจะโต้กลับเร็ว แนวรับเจ้าถิ่นก็ถอยและยืนป้องกันได้ดี โดยเฉพาะในพื้นที่กรอบเขตโทษ ซึ่งแทบไม่มีช่องให้ฉวยโอกาสยิง นั่นจึงทำให้แนวรุกบียู ต้องทำเกมจากริมเส้นค่อนเยอะ แล้วผลสุดท้าย คือ การจบสกอร์ไม่ใกล้เคียงและอันตรายใดๆ ส่วนทางฝั่ง หนองบัว ดูเป็นรองเพราะขึ้นเกมบุกไม่ค่อยได้ ซึ่งจะมีจังหวะได้ลุ้น คือ ลูกเตะมุม   

ครึ่งหลัง บียู ยังเล่นในแนวทางเดิม อีกทั้งได้เพิ่มความเร็วในการบอลให้มากขึ้น กระนั้นด้วยระเบียบวินัยในเกมรับของเจ้าถิ่น มันก็มีผลให้เกิดความยากลำบากจนเจาะไม่ได้เสียที ส่วนทางฝั่ง หนองบัว มีการปรับเกมให้โจมตีจากทางริมเส้น ซึ่งมันมีลุ้นกว่าครึ่งแรก แต่ก็ไม่ถึงขั้นใกล้เคียงกับประตู กระทั่งช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่นพยายามโหมใส่ แล้วมาได้จุดโทษและประตูนำ 1-0 จากนั้นกลายเป็นทีมเยือนที่ต้องระดมสาดบอล จนเกือบได้ตีเสมอ แต่ดันล้ำหน้าไปอย่างน่าเสียดาย  

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม หนองบัว พิชญ เอฟซี ครึ่งแรกเป็นรองชัดเจน แต่มันต้านทานได้ด้วยระเบียบวินัยในเกมรับ ทำให้ 45 นาทีแรก สามารถยันสกอร์ไว้ได้ จากนั้นในครึ่งหลังมีการปรับแก้เกมรุก แต่มันก็ไม่ได้ดุดันมาก กระนั้นยังดีที่วันนี้ได้จุดโทษและประตูขึ้นนำ ทำให้สามารถเก็บชัยชนะในบ้านได้อีกเกม ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะวิ่งเพรสซิ่งและทำเกมบุก แต่ด้วยความที่การสอดประสานไม่เร็วพอ ภาวะการขาดความมั่นใจ และการเจอกับแนวรับที่ยืนตำแหน่งไม่พลาดเลย มันก็มีผลให้การทำประตูเป็นไปอย่างยากลำบาก ซึ่งผลการแข่งขันแบบยุติธรรมในวันนี้ ควรจบด้วยการเสมอ แต่ความซวยดันมีผลให้บียูถึงขั้นพ่ายแพ้   

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“โดนจ่าฝูงทิ้งห่าง 5 แต้ม”

 บียู เหนือกว่าทุกเหลี่ยม แต่ได้แค่เจ๊า หนองบัว 1-1 ในบ้าน

ศึกฟุตบอลรีโวไทยลีก นัดที่ 10 ในส่วนของวันอาทิตย์ เกมคู่เล็กที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต เป็นการพบกันระหว่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่กำลังรั้งรองจ่าฝูงและต้องการ 3 แต้ม เพื่อจี้ตูดจ่าฝูง กับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่วันนี้ขอมีแต้มกลับบ้าน ก็เป็นบุญโขแล้ว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ส่วนทาฝั่งทีมเยือนปรับมาเป็น 4-2-3-1

      เกมการแข่งเริ่มขึ้น แบงค็อก เหนือกว่าและทำเกมบุกใส่ด้วยการต่อบอลเท้าสู่เท้า แล้วก็มีลูกเล่นอย่างที่เคยปรากฏ ไล่ตั้งแต่ การทำชิ่ง โยกบอลเปลี่ยนแกน วางบอล และเลี้ยงฝ่า กระนั้นแนวทีมเยือนมาดี เพราะสามารถยืนตำแหน่งได้ดีจนไม่มีช่องว่างขนาดใหญ่เลย อีกทั้งผู้รักษาประตูอย่าง กิตติคุณ ก็โชว์ซุปเปอร์เซฟ ส่วนเกมรุกของ หนองบัว ใน 45 นาทีแรก แทบจะไม่มีจังหวะได้บุกเลย โดยเฉพาะการโจมตีทางอากาศจากบอลริมเส้น ที่มีโอกาสได้เปิดและได้โหม่ง 1-2 ครั้ง เท่านั้น      

ครึ่งหลัง บียู แก้เกมด้วยการส่ง คาร์เตอร์ ลงมาในแนวรุก เพื่อโหมเกมบุกให้เข้มข้นกว่าเดิม กระทั่งประตูนำ 1-0 ก็มา จากการเปิดคัทแบ็คที่ยอดเยี่ยม แล้วแนวรับทีมเยือนสกัดเข้าประตูตัวเอง ซึ่งจังหวะนี้ต่อให้ไม่สกัดก็มีโอกาสสูงที่จะโดนยิง เพราะแนวรุกของเจ้าถิ่นง้างเท้ารอแล้ว จากนั้นดูเหมือนแข้งเทพจะสบายใจมากขึ้น เพราะได้สกอร์นำ แต่การเสียฟรีคลิก แล้วแนวรับผิดพลาดที่ไม่ประกบตัวอันตรายอย่าง แฮมิลตัน ก็มีผลให้ศูนย์หน้าชาวบราซิลได้โขกเต็มหัวแล้วโล่ง ตีเสมอเป็น 1-1 ทำให้ในช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นต้องกลับมาบุกใหม่ แต่กว่าจะตั้งหลักและบุกเพื่อเอาประตู เวลาก็หมดเสียก่อน

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรุกที่ขาด วานเดอร์ หลยุส์ มีผลให้ความหลากหลายหายไป แต่ก็ยังดีพอที่จะยิงได้ แม้จะมีความผิดพลาดของคู่แข่งเข้ามา กระนั้นเมื่อโดนยิงตีเสมอ เกมรุกดันช็อตไปเสียอย่างนั้น ขณะที่เกมรับ ยืนได้ดีมาตลอดเกม แต่มาพลาดครั้งถึงขั้นเสียประตูเลย ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี ต้องชื่นชมเกมรับที่มีวินัยจนสามารถต้านทานเกมบุกสุดแสนอันตรายของเจ้าถิ่นได้ แม้จะมีจังหวะโชคร้ายจากการสกัดเข้าปรูตัวเอง ขณะที่เกมรุก การมีไอเดียจำกัดส่งผลต่อการโอกาสที่จะทำเกมโต้กลับอยู่แล้ว แต่วันนี้โชคดีที่คู่แข่งพลาดให้ ทำให้สามารถตีเสมอและแบ่งแต้มออกมาได้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เกาะรองจ่าฝูงยาวไป”

บียู ยังแกร่ง เชือด ชลบุรี ในถิ่น 1-0 รั้งรองจ่าฝูงต่ออีกสัปดาห์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 คู่วันอาทิตย์เปิดหัวด้วยเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มกำลังดีวันดีคืนและต้องการ 3 แต้ม เพื่อเกาะกลุ่มหัวตาราง กับ ชลบุรี เอฟซี ที่แม้จะชนะมาเมื่อนัดที่แล้ว แต่ฟอร์มการเล่นยังไม่ดีเท่าที่ควร สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมายืน 4-5-1 เป็นหนแรก ส่วนทางฟากทีมเยือนมาแบบรัดกุมในระบบ 3-4-2-1

       เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น แบงค็อก เหนือกว่าตามศักยภาพ แต่ก็ไม่ได้เหนือกว่ามาก เพราะทีมเยือนมาแพ็คเกมรับแบบหนาแน่นและมีวินัย นั่นจึงทำให้เกมบุกของเจ้าถิ่นใน 45 นาทีแรก จะเป็นในลักษณะของการทำเกมแดนกลาง แล้วเมื่อไรที่เห็นช่องก็จะทำการแทง หรือต่อบอลไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีการสวิตช์บอลเปลี่ยนแกนเร็ว แล้วใช้การสอดประสานทีมเวิรค์ให้เห็นเป็นระยะ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้สร้างความอันตราได้ดีทีเดียว ขาดเสียเพียงประตูขึ้นนำเท่านั้น ส่วนเกมรุกของ ชลบุรี แทบจะไม่มีปรากฏให้เห็นเลย     

ครึ่งหลัง ชลบุรี พยายามปรับหมากเกมรุก ซึ่งก็สามารถต่อบอลขึ้นมาได้ แต่มันไม่ถึงแดนสุดท้ายของคู่แข่ง อีกทั้งการขึ้นบอลก็มักเสียกลางทางให้เจ้าบ้านเอาไปโต้กลับ กระทั่ง บียู มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการลากเลี้ยงกินตัวของ เฮแบร์ตี้ 9 ตั้งแต่กลางสนามจนถึงแดน 3 จากนั้นเลือกจ่ายให้ ทริสตอง โด เพื่อส่งต่อเข้าเขตโทษ ซึ่งจังหวะเปิดก็ได้มีการข้ามหลอกให้ วานเดอร์ หลยุส์ ได้ยิง

       หลังจากเสียประตูขึ้นนำ ชลบุรี พยายามเดินหน้าต่อ แต่การเสียบอลกลางทางอยู่ร่ำไป ก็ยิ่งเร่งเร้าให้ บียู ได้สวนกลับจนเกือบยิงเพิ่มได้หลายหน ซึ่งกว่าแนวรุกฉลามชลจะเครื่องติดแล้วทำเกมบุกได้ดี ก็ต้องรอถึง 15 นาทีสุดท้ายของเกม โดยเวลาที่รัดตัวแบบนี้ ทำให้พวกเขาไล่ไม่ทันและต้องกลับบ้านมือเปล่า

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เล่นได้ตามมาตรฐานและมีความอดทนต่อการเผชิญหน้ากับแผงเกมรับที่ยืนหนาแน่น แล้วสุดท้ายสามารถยิงได้ 1 ลูก ส่วนในแผงกองกลางต้องชื่นชมเป็นพิเศษ เพราะสามารถรบกวนคู่แข่งจนแผงหลังไม่ต้องทำงานหนัก ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี การวางหมากมาเล่นเกมรับในครึ่งแรก ถือว่าสอบผ่าน แต่ในครึ่งหลังเลือกจะเล่นเกมรุก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การตอบสนองต่อแท็กติกและฟอร์มการเล่นของนักเตะในแผงเกมรุก มันต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้ตรงจุดกลายเป็นหอกที่กลับมาทิ่มแทงตัวเองให้เสียประตูและต้องพ่ายแพ้ในเกมนี้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แบบนี้บังยีก็ช่วยไม่ไหว”

โคราช ทานไม่อยู่ พ่าย บียู คาถิ่นนิ่มๆ 0-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 คู่เปิดหัวในวันเสาร์ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ถือยึดถือสถิติไม่แพ้ใคร หากบังยีมานั่งชมเกม ซึ่งในวันนี้ต้องเดบ้านเจอศึกกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้เครื่องร้อนและพร้อมจะเก็บ 3 แต้มให้ได้ทุกนัด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านและทีมเยือนต่างมาในระบบ 4-3-3 เหมือนกัน

       ในช่วงต้นเกม นครราชสีมา ดูดีกับการโจมตีด้วยลูกตั้งเตะและการสวนกลับ ขณะที่ แบงค็อก ค่อยๆสตาร์ทเกมของตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ประสิทธิภาพยังดีเท่าที่ควร เพราะการเร่งจังหวะขึ้นบอลและรีบจบสกอร์ ทำให้จังหวะไม่อันตรายและไม่อยู่ในระยะที่เหมาะสม กระนั้นเมื่อเวลาผ่านไป การบุกของ บียู ก็ดีขึ้นจนได้ประตูนำ 0-1 จากการขึ้นบอลทางฝั่งขวา แล้วเปลี่ยนแกนมาฝั่งซ้ายให้ วานเดอร์ หลยุส์ เลี้ยงหลบแนวรับเข้าไปยิงประตู

ครึ่งหลัง บียู ปรับแท็กติกเกมรุกด้วยการวางบอลยาวข้ามไลน์กองหลังคู่แข่ง ซึ่งมันช่วยให้ประหยัดเวลาในการต่อบอลและแนวรุกสามารถนำบอลไปทำเกมรุกได้ แต่ประตู 0-2 ยังไม่มา จากนั้นในช่วง 20 นาทีสุดท้าย โคราช ยกระดับเกมรุกของตัวเองขึ้นมาแบบเต็มขั้นเพื่อเอาประตูเสมอ โดยภาพที่ปรากฏมันก็มีจังหวะที่หวาดเสียวแบบเนืองๆ จากตัวเองทำขึ้นมาและแนวรับคู่แข่งพลาดให้ กระนั้นการรุกเต็มสูบของสวาทแคท มันก็มาพร้อมกับการโดนตัดบอลให้ แข้งเทพ เอาไปโต้กลับแบบสุดทางและเกือบได้ประตูหลายหน ซึ่งกว่าจะได้ประตูปิดกล่อง 0-2 ก็ต้องรอถึงช่วงทดเวลา 90+5    

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เกมรับยังมีปัญหาในการรับมือแนวรุกที่มีความสามารถเฉพาะตัว โดยอย่างลูกแรกที่เสียก็เพราะสาเหตุนี้ เว้นเสียแต่ลูก 0-2 ที่พวกเขาดันสูงเพื่อทำเกมบุก ส่วนในแผงเกมรุก มาดีในช่วงต้นและท้ายเกมราว 20 นาทีสุดท้าย ซึ่งหากจบคมและเล่นละเอียดกว่านี้ มันก็พอมีโอกาสที่จะยิงตีเสมอได้ ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรับถูกทดสอบในช่วงท้ายแล้วมีจังหวะหลุดไปบ้าง ยังดีที่ไม่ถูลงโทษ ส่วนเกมรุกยิงได้ 2 ลูก ก็จริง แต่ต้องตำหนิตรงที่ท้ายเกมมีโอกาสสวนกลับเหน่งๆแล้วยิงเพิ่มไม่ได้ ซึ่งถ้าเกิดคมกว่านี้ แข้งเทพจะเล่นสบายราว 10-20 นาที เลยทีเดียว มิใช่ต้องรอถึงนาทีสุดท้ายของเกมเหมือนเช่นที่เห็น

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เชือกกล้วยพันคองูเหลือม”

บียู ปลดล็อคสถิติโค่น บุรีรัมย์ ในถิ่น 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 4 ในส่วนของเย็นวันเสาร์ เกมบิ๊กแมตช์ของสัปดาห์นี้อยู่ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่อยากจะล้างอาย หลังจากบุกไปโดนสมุทรปราการเผาเครื่องมา กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มดีในบ้าน แล้ววันนี้ต้องออกมาเยือนเป็นนัดแรก ส่วนระบบการเล่นของทั้ง 2 ทีม ใช้ 3-5-2 มาชนกัน

        ในช่วงต้นเกมยังไม่ค่อยออกอาวุธกันเท่าไร แต่เมื่อไรที่ บุรีรัมย์ ครองบอลบริเวณกลางสนามแล้วช้า ก็จะถูกแนวรุกของแบงค็อก รุมเพรสซิ่งจนเสียแล้ว มันมีจังหวะเหน่งๆที่น่าเป็นประตู แต่ไม่ได้ จากนั้นเมื่อเกมผ่าน 10 นาที บียู เริ่มต่อบอลกับพื้นได้ แต่เมื่อเข้าแดน 3-4 ของคู่แข่ง จะเน้นการเลี้ยงฝ่า การแทง หรือทำใดๆที่ให้เกิดความรวดเร็ว ซึ่งเวลายิ่งผ่านไปเท่าไร แข้งเทพ ก็เริ่มจะพาบอลเข้ามาได้ถี่ขึ้น ขาดเพียงการได้ประตู ขณะที่ทางฝั่งบุรีรัมย์ มีการสาดยาวและต่อบอลจากกลางสนามแล้วรีบจบสกอร์ แต่หากพูดโอกาสที่จะเป็นประตูจัดว่าน้อย เพราะมันเป็นการเปิดจากริมเส้นที่ไม่ค่อยเข้าหัวหรือเท้าของกองหน้าตัวเป้า    

ครึ่งหลัง บียู พยายามปรับวิธีการให้บอลที่แม่นยำเพื่อเพิ่มโอกาสบอลให้บอลถึงแดนอันตรายมากขึ้น ซึ่งมันก็ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ในระดับหนึ่ง กระทั่งประตูนำ 1-0 มาจากการชิงบอลกลางสนาม แล้วเป็นเจ้าบ้านที่เก็บได้ โดยจังหวะลากของ เฮแบร์ตี้ แนวรับของบุรีรัมย์ พลาดในการยืนประกบ และกองหลังตัวไกลก็ผิดพลาดที่ยืนไม่เท่าไลน์เพื่อน ทำให้ ปกเกล้า หลุดเดี่ยวไปดวลตัวต่อตัวกับ ศิวรักษ์ แล้วยิงบอลส่งก้นตาข่าย จากนั้นบุรีรัมย์ พยายามเติมแนวรุกและทำเกมบุกด้วยความรวดเร็ว เพื่อหนีการประกบแน่น แต่สุดท้ายก็ติดแนวรับเจ้าบ้าน นอกจากนี้การต่อบอลยังมีความผิดพลาดจนโดนโต้กลับ แล้วโดน เฮแบร์ตี้ ยิงหนีเป็น 2-0 ส่วน 20 นาทีที่เหลือ นักรบปราสาทสายฟ้าพยายามจะบุกต่อ แต่ไอเดียเดิมๆมุกเดิมๆ ก็ไม่ช่วยให้พวกเขายิงประตูตีตื้นได้

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ถือว่าออกสตาร์ทเกมนี้ได้ดี เพราะสามารถยืนเกมรับได้เหนียวแน่จนไม่ต้องกังวล ขณะที่เกมรุกสามารถใช้จังหวะฉาบฉวยเล่นงานได้ดี ขาดเพียงไม่มีประตู แต่พอครึ่งหลัง เมื่อมีโอกาสก็สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมรุกมามุกแบบเดิมๆ แล้ววันนี้เจอคู่แข่งที่ยืนเกมรับดี ทำให้เจาะยังไงก็ไม่เข้า เช่นกันกับเกมรับที่ยังผิดพลาดเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการยืนตำแหน่งและแบ่งหน้าที่กันประกบ ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะโดนยิง 2 ดอกเน้นๆ  

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เหลือ 10 ตัว ก็ต้านไม่อยู่” สุดท้ายไม่รอด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 ของฤดูกาล คู่เปิดหัวอยู่ที่สนาม กกท บางพลี สมุทรปราการ ซิตี้

ที่ผลงานการออกไปเยือนใช้ได้ กลับมาเปิดรังเหย้านัดแรกด้วยศึกหนัก กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องการ 3 แต้ม ในทุกเกมที่ลงแข่งขัน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-4-2 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนก็มาในระบบเก่ง 4-3-3

        ในช่วงต้นเกม แบงค็อก ดักและเก็บบอลได้ ทำให้มีเกมโต้กลับขึ้นมาแต่การเติมเกมไม่มี ทำให้กองหน้าทั้ง 2 ฝั่ง ต้องอาศัยการเลี้ยงฝ่าแล้วถูกตัดฟาวล์ จากนั้น บียู ก็เริ่มครองเกมได้เหนือกว่า แต่การเจอกับแนวรับที่ยืนได้อย่างมีวินัยจัด ทำให้การเจาะพื้นที่แดนสุดท้ายทำไม่ได้ พลางจะเลี้ยงฝ่าก็โดนซ้อนโดนรุม สุดท้ายต้องโยนบอลและยิงไกลแทน จากนั้นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้ คือ ใบแดงของ ทศวรรษ ที่เอาเท้าไปยันใส่โค่นขาหนีบของ เจริญศักดิ์ แบบไม่มีเหตุจำเป็น ทำให้หลังจากเหลือผู้เล่น 10 คน เกมรุกของแข้งเทพก็แทบจะดับวูบลงไปด้วย กระทั่งกลายเป็นเกมที่สูสีขึ้นมา   

ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นมา จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง กับการเลี้ยงจี้เข้าไปของเจริญศักดิ์ แล้วเปิดแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านแบบตรงๆไม่มีโค้ง แต่แนวรับของ แบงค็อก สกัดไม่โดนสักคน ทำให้ตัวที่อยู่เสาไกลยิงจ่อๆขึ้นนำ 1-0 จากนั้น บียู พยายามจะครองบอลบุก แต่ด้วยตัวที่น้อยกว่าและโดนเพรสซิ่งอย่างหนักหน่วง จึงยิ่งทำให้การเล่นยากลำบากขึ้นและครองบอลต่อจังหวะได้ไม่นาน กระทั่งต้องหันเหไปใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะในการเลี้ยงฝ่า แต่มันก็เท่านั้น เพราะสมุทรปราการ มีการซ้อนและบีบช่องให้แคบตลอดเวลา

        การยืนซ้อน การบีบเพรสซิ่ง ช่วยให้สมุทรปราการ สามารถตัดบอลและโต้กลับอยู่ตลอด แต่ทุกครั้งจะเล่นด้วยความรอบครอบ กล่าวคือ ถ้ามีช่องมีโอกาสก็จะเร่งจังหวะเพื่อเข้าทำ แต่ถ้าช่องเริ่มปิดก็จะเน้นการครองบอลเอาชัวร์ในแดนคู่แข่ง ซึ่งวิธีการแบบนี้ช่วยให้พวกเขาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 อย่างไรเสียเมื่อเขี้ยวสมุทร ยิงทิ้งห่าง ก็มีภาพของความหละหลวมให้เห็น จนกลายเป็นประตูตีไข่แตก 3-1 แต่สุดท้าย แข้งเทพ ก็ไล่ไม่ทันและพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์นี้ 

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ มีเกมที่เหนียวแน่นและมีระเบียบวินัย ทำให้ไม่เสียประตูในช่วงที่เกมยัง 0-0 ส่วนเกมรุก เมื่อมีโอกาสก็จะฉวยจังหวะจนเป็นประตูได้ ทำให้หลังจากนั้นเล่นสบาย เพราะได้โต้กลับแบบมีช่องเยอะ ส่วนทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไม่มีอะไรที่สู้เจ้าบ้านได้เลย เพราะตอนที่มี 11 ตัวเท่ากัน เกมรุกไร้ซึ่งไอเดียการเข้าทำ กระทั่งต้องพึ่งทักษะเฉพาะตัวของนักเตะเพียงอย่างเดียว อีกทั้งความผิดพลาดของกองหลัง ก็ยิ่งทำให้เกมนี้เล่นยากเข้าไปใหญ่ สุดท้ายจึงต้องพ่ายแพ้ไปตามระเบียบ       

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover