Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย

ในเกมถล่มอินโดนีเซีย 4-0 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก เหมือนจะได้บทสรุปของแชมป์เสียแล้ว เพราะเจ้าอาเซียน 5 สมัย อย่าง ทีมชาติไทย ได้ไล่ถล่ม อินโดนีเซีย ไปแบบขาดลอย 4-0 ซึ่งจากชัยชนะอันสวยหรูนี้ จงอย่าแปลกใจหากผู้เล่นส่วนใหญ่จะได้คะแนนสูงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  

ศิวรักษ์ (7 คะแนน)

      มีจังหวะได้เซฟแบบจริงๆจังๆ แต่ในขณะเดียวกันบางจังหวะก็ไม่ค่อยกล้าออกมาตัด ทำให้เกิดอาการเสียวเล็กน้อย

เอเลียต (6 คะแนน)

      อยู่ในสนามราวครึ่งชั่วโมง ก่อนถูกอาการบาดเจ็บลักพาตัวไป ซึ่งตอนที่อยู่ในสนามงานไม่หนัก แต่โชว์จังหวะปะทะหนักแบบไม่ควร   

กฤษดา (7 คะแนน)

      มีบางช่วงต้องทำงานหนัก แล้วเกือบพลาดเสียประตู แต่พอเกมขาด งานก็กลับมาเบาลงเหมือนช่วงต้นเกม

ฟิลิป (8 คะแนน)

      วันนี้เติมเกมได้แบบสุดทาง อีกทั้งยังสามารถเลี้ยงตัดเข้ามาจนได้แอสซิสต์ แต่เกมรับก็มีข้อมผิดพลาดให้เห็นเหมือนกัน

ทริสตองโด (7 คะแนน)

      การต้องเจอกับ อัสนาวี่ ทำให้เกมทางฝั่งซ้ายไม่โดดเด่นเท่าฝั่งขวา อีกทั้งบางจังหวะก็มีเหม่อลอยจนต้องตามไปฟาวล์ ซึ่งในช่วงท้ายก็มีเสียวๆจะโดนเหลือง 2 เป็นใบแดงเหมือนกัน

พิธิวัต (8 คะแนน)

      ช่วงต้นงานเบา ช่วงกลางเกมงานหนัก แต่พอสกอร์ขาดและเน้นการโต้กลับ เจ้าเต้ฟร์มเด่นจนเรียกคะแนนได้เยอะ

วีรเทพ (7 คะแนน)

      ต้องถอยไปเล่นกองหลังแบบจำเป็น โดยในช่วงต้นยังไม่แนบแน่น แต่พอปรับตัวได้ ก็ยืนได้ดีและไม่มีปัญหา

ชนาธิป (9 คะแนน)

      กลับมาโชว์ฟอร์มแบบสุดสะเด๋าอีกครั้ง กับการยิง 2 ประตู การวิ่งไล่เพรส และการแจกจ่ายบอลอย่างไหลลื่น ทำให้คะแนนสูงสุดต้องยกให้  

ศุภโชค (8 คะแนน)

      พอไม่เจอการปะทะหนักจากคู่แข่ง เจ้าเช็คสามารถต่อบอลและสอดประสานกับเพื่อนทางฝั่งขวาได้อย่างโดดเด่น อีกทั้งยังมีประตูมาฝาก

บดินทร์ (8 คะแนน)

      วันนี้ลากเลื้อยอย่างสนุกสนานและมีประตู ทำให้คะแนนวันนี้สูงสุดสำหรับเจ้าตัว

ธีรศิลป์ (6 คะแนน)

      ได้แต่ช่วยเชื่อมเกมและลงมาล้วงบอล แต่หน้าที่หลักในเรื่องการยิงประตูยังดรอปต่อเนื่อง  

ปกเกล้า (6 คะแนน)

      ลงมาตั้งแต่ครึ่งแรก แต่ไม่โดดเด่นนัก

ฐิติพันธ์ (7 คะแนน)

      ลงมาช่วยแพ็คเกมแดนกลางให้แน่น แล้วทำหน้าที่ได้ดี อีกทั้งการสวนกลับแต่ละครั้งก็มีบทบาทอยู่เนืองๆ

ศุภชัย (6 คะแนน)

      มีเวลาในสนามราวครึ่งชั่วโมง แต่ไม่ค่อยโดดเด่นและมีโอกาสยิงเท่าไรนัก

วรชิต และ กวินทร์ (ไม่มีคะแนน)

      ลงสนามในช่วงท้ายเกม ทำให้ไม่มีคะแนน แต่สำหรับเจ้าตอง ต้องคาราวะจิตใจที่แข็งแกร่งและพร้อมลงเล่น ทั้งๆที่ก่อนหน้าไม่มีกี่ชั่วโมง ต้องสูญเสียคุณพ่อผู้เป็นที่รักไป

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เหลือแค่ชูถ้วย”

อินโดนีเซีย ทั้งตื่นทั้งล้า พ่าย ไทย ขาดลอย 0-4 โอกาสคว้าแชมป์สดใส

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 นัดชิงชนะเลิศ นัดแรก ณ สนามเนชั่นเนล สเตเดี้ยม ออฟสิงคโปร์ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่หักด่านเจ้าภาพอย่าง สิงคโปร์ เข้ามาชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 6 จะต้องพบกับ ทีมชาติไทย ที่จะขอลุ้นแชมป์สมัยที่ 6 เป็นของขวัญปีใหม่ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เดอะการูด้าใช้ผัง 4-2-3-1 ขณะที่ทัพช้างศึกปรับมาใช้ 4-3-3

      การแข่งขันเริ่มต้นไปได้แค่นาทีกับอีกอีก 30 วินาที ทีมชาติไทย ขึ้นนำ 0-1 จากการเซตบอลขึ้นและจี้ใส่แนวรับที่ยังไม่เข้าที่ ก่อนจะจบลงด้วย ชนาธิป ยิงจังหวะแรกและเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกอย่างสวยงาม จากนั้น ไทย ยังคงเดินหน้าบุกต่อ เพราะสามารถเพรสซิ่งสูงและแย่งบอลได้ตลอด พร้อมกับการโจมตีทางฝั่งขวาแบบหนักหน่วง แต่ยังไม่ได้ประตูที่ 2 ส่วนทางฝั่ง อินโดนีเซีย แนวรับดูตื่นๆและสมาธิไม่นิ่ง ทำให้โดนเจาะจนตั้งเกมไม่ได้ กระทั่งเกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง เดอะการูด้าถึงเริ่มตั้งตัวได้ อีกทั้งการที่คู่แข่งต้องเปลี่ยนแนวรับที่บาดเจ็บและต้องใช้เวลาปรับตัว มันก็ได้กลายเป็นโอกาสทองที่พวกเขาจะจี้จุดอ่อนตรงนั้นเพื่อยิงตีเสมอ กระนั้นพวกเขาดันทิ้งโอกาสด้วยการยิงหลุดออกไปแบบไม่ตรงกรอบ      

ครึ่งหลัง อินโดนีเซีย เลือกที่จะเดินเกมบุกเต็มตัว ผ่านการต่อบอลให้ไปถึงแดน 3 แล้วจัดการแทง ปาด หรือทำชิ่ง ซึ่งก็มีโอกาสที่จะตีเสมอได้ แต่มันยังติดเซฟและโอกาสไม่ถี่มากพอ อย่างไรเสียการดันเกมบุกแบบขอแลก มันก็มีความเสี่ยงในยามเสียบอล เพราะการสวนกลับของ ไทย รวดเร็วและอันตราย ซึ่งสุดท้ายช้างศึกก็มาได้ประตูนำ 0-2 และ 0-3 กระทั่งเกมขาดลอย ส่วนลูก 0-4 แนวรับเดอะการูด้า สกัดบอลไม่ดี ทำให้ถูกลงโทษจนแทบหมดโอกาสกลับมาในเกมนัดที่ 2

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทีมชาติอินโดนีเซีย เริ่มต้นเกมด้วยสมาธิที่แตกตื่นจนเสียประตูและตั้งเกมไม่ได้ จากนั้นพอเข้าสู่ครึ่งหลังพวกเขาพยายามจะเร่งเกมบุก แต่มันก็เสี่ยงและสุดท้ายก็โดนยิงเพิ่ม ไม่เพียงเท่านั้นความอ่อนล้าที่สั่งสมมานานหลายนัด มันได้ผนวกกับอาการถอดใจ ทำให้เกมนี้ต้องพ่ายแพ้แบบสมบูรณ์แบบ ส่วนทางฝั่ง ทีมชาติไทย สามารถเล่นได้แบบเต็มศักยภาพตั้งแต่นาทีแรกและได้ประตูเร็ว จากนั้นยังคงเดินหน้าบุกต่อ แต่คล้ายๆเดิม คือ ครองเกมได้แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ เพราะเล่นหลายจังหวะและพยายามจะเน้นความชัวร์มากเกินไป อีกทั้งยังเกือบโดนยิงประตู กระนั้นยังดีที่คู่แข่งมาเปิดเกมบุกใส่ในครึ่งหลัง จนสามารถสวนกลับและยิงประตูเพิ่มได้ง่ายขึ้น ซึ่งจนถึงตอนนี้ โอกาสคว้าแชมป์มีมากกว่า 95 % แล้ว  

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย

ในเกมยันเสมอ เวียดนาม 0-0 ส่งแชมป์เก่ากลับบ้าน

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบรองชนะเลิศ คู่ที่ 2 ทีมชาติไทย ที่ตุนประตูไว้ 2 ลูก จากนัดแรก ลงเล่นนัดที่ 2 ด้วยการยันเสมอต่อ เวียดนาม 0-0 ทำให้ผลรวมเป็นเจ้าอาเซียน 5 สมัย ที่ได้ผ่านเข้าไปชิงกับ อินโดนีเซีย ซึ่งในเกมที่แสนกดดันนี้ เหล่าขุนพลช้างศึกจะได้คะแนนกันคนละเท่าไร ด้านล่างนี้มีมีคำตอบ

ฉัตรชัย (7 คะแนน)

ได้ลงเล่นราวครึ่งชั่วโมง ก่อนจะบาดเจ็บและต้องเปลี่ยนตัวออก โดยฟอร์มการเล่นในวันนี้ ออกมาตัดบอลได้เฉียบขาด

ทอม เบียรห์ (8 คะแนน)

การยืนป้องกันทำได้แนบแน่นและไม่มีข้อผิดพลาดเลย ทำให้คะแนนพุ่งขึ้นสูงที่สุดสำหรับเจ้าตัว  

กฤษดา (8 คะแนน)

ฟอร์มการเล่นดีสม่ำเสมอและในนัดนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น

ธีราทร (8 คะแนน)

ช่วงต้นกดเกมริมเส้นไม่ค่อยอยู่ แต่พอเวลาผ่านไปก็เริ่มจะเอาอยู่ กระนั้นก็มีจังหวะที่เข้าพรวดเหมือนกัน ส่วนเกมรุกมีโอกาสยิงแบบอันตรายเสียด้วย แต่มุมมันแคบไปหน่อย

นฤบดินทร์ (7คะแนน)

กดเกมริมเส้นของคู่แข่งได้อยู่หมัด ขณะที่ในครึ่งหลังมีโอกาสเติมเกมบุกมากขึ้น แต่ความโดดเด่น จะน้อยกว่าทางซ้าย

พิธิวัต (8 คะแนน)

เก็บกวาดเกมรุกของคู่แข่บริเวณหน้าบ้านตัวเองด้วยฟอร์มที่แจ่มสุดๆ

ธิติพันธ์ (6 คะแนน)

ถูกส่งลงมาเพื่อปะทะกับเกมหนักๆโดวเฉพาะ แต่วันนี้เหมือนจะไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีเท่าไร ทำให้จบครึ่งแรกก็ถูกถอดออก

สารัช (7 คะแนน)

เชื่อมบอลแดนกลางได้ดีเหมือนเคย อีกทั้งยังลงมาช่วยเกมรับอยู่ตลอด

ชนาธิป (6 คะแนน)

วิ่งเยอะก็จริง แต่มันไม่ใช่การครองบอลแบบแจกจ่ายเหมือนนัดแรก ทำให้วันนี้ดูไม่โดดเด่น

ธีรศิลป์ (5 คะแนน)

พอโดนปะทะหนักๆ ก็มีเป๋ไปพอสมควร กระนั้นมันก็มีโอกาสที่จะได้ยิงแบบเหน่งๆ แต่เจ้าตัวดันยิงไม่โดนบอล หรือยิงโดนบอลก็หลุดออกไปเสียอย่างนั้น ทำให้คะแนนต้องหักมากหน่อย

ปฐมพล (5 คะแนน)

ลงสนามเป็นตัวจริงนัดแรก ในตำแหน่งหน้าคู่ แต่ภาพที่ปรากฏ คือ เงียบเป็นเป่าสาก

ศิวรักษ์ (7 คะแนน)

ลงมาเป็นสำรองเพราะ ฉัตรชัย เจ็บ โดนการเฝ้าเสาตลอด 1 ชม กว่าๆ เซฟได้ดีและไม่มีข้อผิดพลาด

เอเลียส (7 คะแนน)

ลงมายืนเป็นกองหลังตัวที่ 3 แล้วทำหน้าที่สกัดไว้ได้หลายจังหวะ แต่มันก็มีที่พลาดบ้าง ทำให้ต้องหักคะแนนนิดหน่อย

ธนวัฒน์ (6 คะแนน)

ลงมาเพื่อหวังสวิตช์บอลไปข้างหน้า แต่พอเจอเกมหนักๆก็ดูไม่โดดเด่น

ปกเกล้า (5 คะแนน)

ลงมาเพื่อหวังให้กลางแน่นและลูกยิงไกลจากเจ้าตัว แต่วันนี้ไม่โดดเด่นและหายไปจากเกม

ศุภชัย (ไม่มีคะแนน)

ลงมาในช่วงเวลาจำกัดและไม่ค่อยโดนบอล ทำให้ไม่มีคะแนน

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แชมป์เก่ากลับบ้าน”

ไทย ยันเจ๊า เวียดนาม 0-0 รวมผลสองนัด ช้างศึก ลิ่วชิงดำกับ อิเหนา

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 คู่ที่ 2 นัดที่ 2 ทีมชาติไทย ที่มีสกอร์ตุนมาจากนัดแรก 2-0 จะต้องพบกับแชมป์เก่าอย่าง ทีมชาติเวียดนาม ที่วันนี้หลังพิงฝาและต้องยิงอย่างน้อย 2 ประตู เพื่อต่อลมหายใจตัวเอง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ไม่ต่างจากนั้นแรก โดยทางฝั่งทัพช้างศึกใช้ 4-4-2 ไดม่อน ส่วนทัพดาวทองใช้ 3-4-3

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทีมชาติเวียดนาม ใช้การเจาะจากริมเส้นแล้วจ่ายมาหน้าประตู กับการจ่ายแทงทะลุตามของถนัด ซึ่งทั้งหมดสร้างความอันตรายได้ดี แต่ยังติดแนวรับทีมชาติไทย ที่ยังยืนตำแหน่งป้องกันได้ดี จากนั้นพอผ่าน 15 นาทีแรก เวียดนาม เหลือเพียงแค่การโจมตีด้วยบอลแทงทะลุช่อง ซึ่งมันยังไม่มีโอกาสได้ยิงแบบเหน่งๆ ส่วนทางฝั่ง ไทย เน้นการตั้งรับ แต่เมื่อได้บอลก็จะเน้นความชัวร์ก่อน อย่างไรเสียหากมีช่องที่จะไปข้างหน้าได้ ก็จะไป นั่นจึงทำให้โอกาสจบสกอร์มีน้อย  

ครึ่งหลัง ทีมชาติเวียดนาม พยายามส่งตัวรุกลงมาเพิ่ม ตรงข้ามกับ ทีมชาติไทย ที่แก้เกมด้วยการส่งแนวรับลงไปเพื่อเล่นหลัง 3 พร้อมกับส่งตัวสวิตช์บอลและยิงไกลได้ดีลงสนาม ซึ่งการแก้เกมของ มาโน่ ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเกม เพราะมันเป็นการถอดปลั๊กเกมบุกของ เวียดนาม จนไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน กระทั่งเกิดภาพซ้ำๆในลักษณะการโยนยาวจากหลัง แล้วแนวรับของไทย สามารถเก็บกินได้สบาย ส่วนเกมรุกก็เริ่มมีการโจมตีจากทางริมเส้น แต่มันขาดๆเกินๆ ทำให้เกมนี้จบลงด้วยสกอร์ 0-0 ซึ่งสกอร์รวม 2 นัด ทัพช้างศึก ชนะไป 2-0 เข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย    

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทีมชาติไทย สามารถยืนป้องกันได้ดี แต่มันยิ่งดีและแน่นขึ้นในครึ่งหลัง ซึ่งตรงนี้ต้องให้เครดิต มาโน่ ที่มองขาด ส่วนเกมโต้กลับในวันนี้ ยังมีภาพของการจ่ายบอลขาดๆเกินๆ รวมถึงการทำหมูหกจากจังหวะที่ควรจะได้ยิงเหน่งๆ ขณะที่ ทีมชาติเวียดนาม ต้องเน้นเกมรุกแบบเต็มอัตราเพื่อทวงประตูคืน แต่รูปแบบการเข้าทำที่ปรากฏ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงและยังคงเล่นในแนวทางเดิม นั่นจึงทำให้คู่แข่งแก้เกมมารับมือได้สบาย กระทั่งเกมรุกตื้อตันไปในครึ่งหลัง โดยนับจากนี้ต่อไป ต้องมีการเปลี่ยนแปลงสักอย่าง ระหว่าง นักเตะ กับ แท็กติก เพราะหากยังดื้อดึงในแนวทางเดิม ผลลัพธ์ก็จะเป็นแบบนี้

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ความกดดันเทไปที่ลุงพาร์ค”

เวียดนาม ประเดิมการเสียประตู สุดท้ายพ่าย ไทย 0-2 ในนัดแรก

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก คู่ที่ 2 ทีมชาติเวียดนาม ที่เข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่ม B จะต้องพบกับ ทีมชาติไทย ที่เป็นแชมป์กลุ่ม A โดยสถิติที่น่าสนใจก่อนเกม คือ พาร์ค ฮัง- ซอ ไม่เคยคุมทีมแพ้ไทย อีกทั้งทัวร์นาเมนต์นี้ยังไม่เสียประตูเลย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ขุนพลดาวทองมาในระบบ 3-4-2-1 หรือจะมองเป็น 3-4-3 ก็ได้ ส่วนทางฝั่งทัพช้างศึกใช้ 4-4-2 ไดม่อน

      การแข่งขันในช่วงต้นเกม ทีมชาติเวียดนาม ไม่ได้มารับต่ำ แต่ใช้วิธีการตั้งโซนตั้งแต่แดน 1 ซึ่งเมื่อใดที่ฝ่ายตรงข้ามพาบอลเข้ามา ก็จะเข้าถึงบอลและปะทะแบบหนักหน่วง อย่างไรเสียพอได้บอลเอาไปทำเกมรุก พวกเขาก็ได้เพียงแต่ต่อบอลไม่กี่จังหวะแล้วเสีย เพราะรูปแบบการเข้าทำไม่ชัดเจน ส่วนทางฝั่ง ทีมชาติไทย ในช่วง 10 นาทีแรก พยายามจะถ่ายบอลและเจาะเข้าไป แต่ก็ได้แค่บริเวณริมเส้น กระนั้นประตูนำ 0-1 ก็มาอย่างรวดเร็ว จากการโต้กลับ ซึ่งจังหวะจ่ายบอล ธนวัฒน์ เหมือนจะเสียแล้ว แต่แนวรับดันลื่นจนบอลเลยไปถึง ชนาธิป ได้ปั้มบอลกับผู้รักษาประตู แล้วบอลเป็นใจไหลเข้าประตู ไม่เพียงเท่านั้น ประตู 0-2 นับเป็นการต่อบอลและเข้าทำที่เข้าขั้นเวิรด์คลาส เพราะมันเป็นการให้และเคลื่อนที่แล้วจบลงด้วย ชนาธิป ซัดปิดบัญชี  

      การโดนยิง 0-2 ตั้งแต่ 25 นาทีแรก ทำให้เวียดนามต้องเปิดเกมบุก แต่การเจาะพื้นที่แดนสุดท้ายไม่สามารถทำได้เลย เพราะการเข้าทำไม่หลากหลายและแยบยลพอ ทำให้การยิงไกลต้องงัดออกมาใช้ อีกทั้งการเร่งโหมในช่วงท้าย ก็มีหลายครั้งที่เสียบอลไป แต่ไทยดันไปเร่งจ่ายเหมือนกัน ทำให้ต้องตั้งรับจนจบครึ่งแรก

ครึ่งหลัง เวียดนาม เปลี่ยนตัวรุกลงมาเพิ่มและโหมบุก ซึ่งการโยนหรือแทงแบบโต้งๆ มักถูกสกัด แต่การจ่ายที่แม่นยำของ กวง ไฮ่ ก็ทำให้เพื่อนได้หลุดข้าไปยิง แต่ไม่เฉียบคมเอง กระทั่งช่วงท้าย การรีบเร่งทำให้พวกเขาเสียบอลและบุกได้ไม่ต่อเนื่อง ส่วนทางฝั่ง ไทย มีการเปลี่ยนตัวเพื่อรองรับการปะทะหนักและเติมความสด ซึ่งมันดีในแง่ของเกมรับ แต่เกมรุกได้แต่สาดยาวและไม่ค่อยมีความแม่นยำ พลางจะต่อบอลขึ้นมาก็ทำได้ แต่สุดท้ายก็ต้องเจอการปะทะที่หนักหน่วง  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทีมชาติเวียดนาม เลือกที่จะมาแบบแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ดันเสียประตูไปก่อน ทำให้สถานการณ์ที่เตรียมมาต้องเปลี่ยนและไม่ได้เล่นในเกมที่ตัวเองถนัด ส่วนทางฝั่ง ทีมชาติไทย ประตูแรกถือว่าจังหวะเป็นใจ แล้วมาได้เพิ่มจากจังหวะฝีมือ กระนั้นมันน่าเสียดายเล็กๆที่มีโอกาสยิงทิ้งห่าง 0-3 แต่ดันพลาดไป ขณะที่เกมรับ ทำได้ดียอดเยี่ยม โดยถ้าเกมนัดหน้ามีการปรับปรุงเกมโต้กลับให้แหลมคมกว่านี้ เชื่อว่าช้างศึกจะเช็คบิลคู่แข่งได้ไม่ได้ยาก   

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย

ในเกมเปิดซิงค์พ่าย เวียดนาม 0-2 นัดแรก

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก คู่ที่ 2 ดาร์บี้แมตช์แห่งภูมิภาคอาเซียนหนนี้ จบลงด้วยชัยชนะของทีมชาติไทย 2-0 ซึ่งชัยชนะในยกแรกนี้ ถือว่าเป็นเป็นการสร้างความได้เปรียบก่อนจะลงฟาดแข้งอีกยกในวันอาทิตย์ โดยชัยชนะอันสวยงามนี้ เหล่านักเตะของทัพช้างศึกจะได้คะแนนเท่าไรกันบ้าง ด้านล่างนี้มีคำตอบรอทุกท่านอยู่แล้ว

ฉัตรชัย บุตรพรม (6 คะแนน)  

      จังหวะทั่วไปทำหน้าหน้าที่ได้ดี แต่มันมีจังหวะที่อยู่ๆก็ออกมาและไม่ถึงบอล ซึ่งมันไม่ควรจะออกมาเพราะกองหลังยังยืนประคองอยู่ ฉะนั้นต้องจำใจหักคะแนนให้ยับกับความมั่นใจที่มากเกินเหตุ

นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (7 คะแนน)

       กดเกมริมเส้นของคู่แข่งได้อยู่หมัด ส่วนเกมรุกไม่ได้มีการเปิดสวยๆให้เห็น ซึ่งมันก็น่าจะเป็นแท็กติกของโค้ช ที่ไม่ต้องการเสียบอลง่ายๆ

มานูเอล ทอม เบียร์ห (7 คะแนน)

      ยืนป้องกันได้ดีและไม่มีจังหวะผิดพลาดแบบชัดแจ้ง แต่มันก็ดูเสียวๆบ้าง

กฤษดา กาแมน (8 คะแนน)

      โดนโจมตีอย่างหนักหน่วง แต่เจ้าตัวสามารถสกัดไว้ได้แบบเรียบวุฒิ

ธีราทร บุญมาทัน (8 คะแนน)

      กดปีกฝั่งตรงข้ามแบบไม่ได้เกิด ส่วนการเติมเกมก็คล้ายๆกับฝั่งขวา คือ ไม่มีการเปิดบอลสวยๆให้เห็นนัก

พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (8 คะแนน)

      งานค่อนข้างหนัก แต่ก็สามารถหยุดเกมรุกของคู่แข่งได้เยอะมาก ทำให้วันนี้โดดเด่นและคะแนนเยอะ

สารัช อยู่เย็น (8 คะแนน)

      คลาสบอลของเจ้าตัวยอดเยี่ยมสุดๆ เพราะสามาถหลบหลีกการเพรสซิ่งได้ดี กระทั่งเกมแดนกลางไหลลื่น

ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร (6 คะแนน)

      จังหวะจ่ายเกือบเสีย แต่คู่แข่งดันลื่นและกลายเป็นคนจ่ายให้เพื่อนได้ยิงประตู ส่วนที่เหลือดูเงียบๆ เพราะหลังจากนั้นทีมต้องเน้นตั้งรับ ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงต้นครึ่งหลัง

ชนาธิป สรงกระสินธ์ (8 คะแนน)

      วิ่งเยอะ เชื่อมมาก และหลอกล่อคู่แข่งได้ดี อีกทั้งยังยิงได้ถึง 2 ประตู แต่มันน่าเสียดายที่ยิงจุดโทษไม่ดีเท่าไร ทำให้อดแฮตทริกและจำต้องหักคะแนนเล็กน้อย

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (6 คะแนน)

      ลงมาแพ็คเกมแดนกลางเพื่อปะทะกับความหนักหน่วงของคู่แข่ง ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดี

ศุภชัย ใจเด็ด (6 คะแนน)  

      ลงมาในช่วงกลางครึ่งหลังและเน้นรอบอลในแดนบน แต่ไม่ค่อยมีทักษะในการเลี้ยวหลบคู่แข่ง

วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (6 คะแนน)

ถูกส่งลงมาเติมความสดในแดนกลาง แต่พอเจอบอลหนัก เจ้าตัวก็ฉายแววไม่ค่อยออก

วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (6 คะแนน)

      ลงมาแล้วได้แต่ช่วยเกมรับ ซึ่งแม้จะไม่งานถนัด แต่เจ้าตัวก็ช่วยได้ดี

ทริสตอง โด (6 คะแนน)

      ลงมาในช่วงท้ายเกม ซึ่งมันไม่ควรมีคะแนนให้ แต่การเปิดบอลล้นและเกินให้เห็น มันก็จำเป็นต้องให้คะแนนเพื่อสะท้อนฟอร์มที่ยังมีจุดด้อย

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย

ชุดสำรอง โชว์ฟอร์มแจ่ม อัด สิงคโปร์ คาบ้าน 2-0

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบแบ่งกลุ่มของทีมชาติไทย จบลงแบบสวยงาม พร้อมกับการเข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์กลุ่ม ซึ่งการตบ สิงคโปร์ ด้วยตัวผู้เล่นชุดสำรอง 2-0 ใครโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นบ้าง วันนี้เราจะไปให้คะแนน

ศิวรักษ์ (7 คะแนน)

ความนิ่งและวามเก๋ายังเหลือๆ เริ่มจากช่วง 15 นาทีแรก ได้โชว์เซฟ ส่วนในครึ่งหลังมีจังหวะออกมาปิดมุมเซฟอีกหน

เอเลียต (8 คะแนน)

ผลงานเก่าๆ อาจเป็นภาพหลอกหลอนแฟนบอล แต่แมตช์นี้เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างเด็ดดวง อีกทั้งยังเติมขึ้นมายิงประตูแบบนิ่งๆ

ปวีร์ (8 คะแนน)

แนวรับที่ถูกเรียกเข้ามาเป็นอะไหล่สำรอง แต่พอได้ลงเล่นตัวจริงนัดแรก ดันโชว์ฟอร์มได้อย่างไฉไล แม้จะมีตื่นๆบ้างในช่วงต้นเกมกับท้ายครึ่งหลัง

ทริสตอง โด (5 คะแนน)

ออกสตาร์ทครึ่งแรกในตำแหน่งแบ็คขวา แล้วขยับมายืนแบ็คซ้ายในครึ่งหลัง แต่การเปิดบอลวันนี้ล้นตลอด ซึ่งมันทำให้ทีมเสียโอกาสไป

สุริยา (7 คะแนน)

ได้ลงสนามเป็นนัดแรก แล้วทำผลงานได้ดี ซึ่งสำหรับทีมแล้ว มันนับเป็นเรื่องที่ดีกับการมีอะไหล่ที่มีคุณภาพ

วีระเทพ (7 คะแนน)

ครึ่งแรกอาจจะไม่โดดเด่นมาก แต่ครึ่งหลังจัดว่าท็อปฟอร์มสุดๆ กับการจับและจ่ายให้กับเพื่อนอย่างทั่วถึง กระนั้นมันน่าเสียดายที่การจ่ายของเจ้าตัว ไม่นำพาไปสู่ประตูที่ 3

ฐิติพันธ์ (6 คะแนน)

ลงสนามเพื่อประคองน้องๆ ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดีและไม่มีความผิดพลาดอะไร

วรชิต (7 คะแนน)

มีจังหวะจ่ายให้ ศุภชัย แบบเฉียบขาด รวมถึงมีการเชื่อมบอลที่ดี แต่การเคลื่อนที่เพื่อรอและเชื่อมบอล ยังเป็นสิ่งที่เจ้าตัวต้องปรับปรุง

บดินทร์ (7 คะแนน)

ไม่ค่อยโดดเด่น เว้นเสียแต่จังหวะที่ปั่นฟรีคลิกและเป็นที่มาของประตูนำ 1-0

ปฐมพล (6 คะแนน)

ลงประจำการในตำแหน่งหน้าฝั่งขวา แต่ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไร

ศุภชัย (8 คะแนน)

บอลมาไม่ค่อยถึงตัว แต่พอมีโอกาสก็สามารถจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม ด้วยการยิงไปทางเสาแรกบริเวณข้างขาของผู้รักษาประตู

ปกเกล้า (6 คะแนน)

ลงสนามในช่วงครึ่งหลัง แต่ไม่โดดเด่นนัก เพราะการจ่ายเป็นในลักษณะขวางไปมา

 โรเลอร์ (6 คะแนน)

      ได้วิ่งเติมเกมแบบรัวๆ แต่สุดท้ายมาตายตอนจบทุกที

 อดิศักดิ์ (6 คะแนน)

      ดูยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกและยังไม่เหมือนเดิมกับปีที่ผ่านมา

พิชา (5 คะแนน)

      ลงมาในช่วงครึ่งหลัง แต่ดูไม่โดดเด่นและหายไปจากเกม   

ศิวกร (5 คะแนน)

      เป็นอีกราย ที่ลงมาแล้วเงียบและไม่โดดเด่น จนเสมือนว่าแค่ลงมาให้ตัวครบ 11 คน  

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover