Categories
Sport

“เหลือ 10 ตัว แต่เหนือกว่า”

บุรีรัมย์ 10 ตัวไม่หวั่น ไล่ตี โคราช นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 คู่ส่งท้ายของสัปดาห์เป็นศึกดาร์บี้แมตช์อีสานใต้ ณ สนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะเจ้าถิ่นและจ่าฝูงของตาราง พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ฟอร์การเล่นยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไร สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฟากทีมเยือนใช้ 4-3-3

       ในช่วง 10 นาทีแรก จังหวะของเกมรวดเร็วและออกไปในลักษณะดักบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว อีกทั้งจังหวะที่รวดเร็วนี้ทำให้ไม่ปรากฏการขึงหรือต่อบอลไปมาให้เสียเวลา สุดท้ายการเล่นที่วัดกันจังหวะต่อจังหวะ บุรีรัมย์ กลายเป็นฝ่ายพลาดไปก่อน กับการเลือกตัดฟาวล์เป็นตัวสุดท้ายของ รัตนากร นั่นจึงทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือก นอกเสียจากให้เป็นใบแดงโดยตรง

       นครราชสีมา กลายเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบทันที แต่ความได้เปรียบนี้ไม่สามารถกดหัวเจ้าบ้านได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะศักยภาพการต่อบอลและขึงบุกไม่ใช่สิ่งที่ถนัด นั่นจึงทำให้รูปเกมที่ปรากฏจะเป็นในลักษณะที่ว่า บุรีรัมย์ ดูตื้อไปพักใหญ่ ก่อนจะตั้งตัวได้ในช่วงท้ายครึ่งแรก กับการโต้กลับขึ้นมาไม่กี่คน แล้วอาศัยการทำชิ่งและเลี้ยงฝ่าเข้าไปยิง

ครึ่งหลัง โคราช พยายามจะเปิดเกมบุก แต่ภาพก็ยังฉายซ้ำ เพราะศักยภาพไม่เทียบเคียงกับเจ้าบ้าน อีกทั้งยังเสียบอลง่ายๆมากขึ้น ซึ่งการเล่นที่ผิดพลาดนี้สวนทางกับฟอร์มการเล่นของแนวรุกบุรีรัมย์ ที่เมื่อได้บอลก็จะขึ้นเกมและมีการจ่ายแทงให้แนวรุกอยู่เนืองๆ กระทั่งได้ประตูขึ้นนำ 1-0 แม้ว่าจังหวะนี้จะมีความผิดพลาดของ ธวัชชัย ที่ถึงบอลก่อนแต่เท้าลั่น แล้วจังหวะถัดมาเป็นใจให้กับ ปิยะพล จิ้มเข้าไป จากนั้นกลายเป็นเจ้าบ้านที่เล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ขณะที่โคราช ยิ่งเล่นยิ่งบันทอนความมั่นใจ แล้วมันนำมาสู่การเสียประตู 2-0 จากความพยายามจะบังบอลให้ออกหลัง แต่ โรซ่า ฉกมาได้แล้วเอาไปล่อเป้า   

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีความผิดพลาดและเล่นไม่ได้ท็อปฟอร์ม แต่วันนี้สามารถเก็บ 3 แต้มได้เพราะ “จิตใจ” กล่าวคือ เมื่อเจอสถานการณ์ที่ย่ำแย่ แต่ก็สามารถประคองตัวให้ผ่านไปได้ กระทั่งความมั่นใจเริ่มมา ก็ได้แปรเปลี่ยนพลังตรงนี้ด้วยการเช็คบิลคู่แข่ง ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี หากมองแค่ตัวเองในการเล่นตลอด 8 นัด รวมเกมนี้ โคราชไม่เคยเล่นได้เต็มขีดความสามารถของตัวเองเลย ทำให้การเจอสถานการณ์ที่ได้เปรียบแล้วตัวเองไม่สามารถครองเกมให้เหนือกว่าได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดขึ้นกับสวาทแคท      

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แบบนี้บังยีก็ช่วยไม่ไหว”

โคราช ทานไม่อยู่ พ่าย บียู คาถิ่นนิ่มๆ 0-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 คู่เปิดหัวในวันเสาร์ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ถือยึดถือสถิติไม่แพ้ใคร หากบังยีมานั่งชมเกม ซึ่งในวันนี้ต้องเดบ้านเจอศึกกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้เครื่องร้อนและพร้อมจะเก็บ 3 แต้มให้ได้ทุกนัด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านและทีมเยือนต่างมาในระบบ 4-3-3 เหมือนกัน

       ในช่วงต้นเกม นครราชสีมา ดูดีกับการโจมตีด้วยลูกตั้งเตะและการสวนกลับ ขณะที่ แบงค็อก ค่อยๆสตาร์ทเกมของตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ประสิทธิภาพยังดีเท่าที่ควร เพราะการเร่งจังหวะขึ้นบอลและรีบจบสกอร์ ทำให้จังหวะไม่อันตรายและไม่อยู่ในระยะที่เหมาะสม กระนั้นเมื่อเวลาผ่านไป การบุกของ บียู ก็ดีขึ้นจนได้ประตูนำ 0-1 จากการขึ้นบอลทางฝั่งขวา แล้วเปลี่ยนแกนมาฝั่งซ้ายให้ วานเดอร์ หลยุส์ เลี้ยงหลบแนวรับเข้าไปยิงประตู

ครึ่งหลัง บียู ปรับแท็กติกเกมรุกด้วยการวางบอลยาวข้ามไลน์กองหลังคู่แข่ง ซึ่งมันช่วยให้ประหยัดเวลาในการต่อบอลและแนวรุกสามารถนำบอลไปทำเกมรุกได้ แต่ประตู 0-2 ยังไม่มา จากนั้นในช่วง 20 นาทีสุดท้าย โคราช ยกระดับเกมรุกของตัวเองขึ้นมาแบบเต็มขั้นเพื่อเอาประตูเสมอ โดยภาพที่ปรากฏมันก็มีจังหวะที่หวาดเสียวแบบเนืองๆ จากตัวเองทำขึ้นมาและแนวรับคู่แข่งพลาดให้ กระนั้นการรุกเต็มสูบของสวาทแคท มันก็มาพร้อมกับการโดนตัดบอลให้ แข้งเทพ เอาไปโต้กลับแบบสุดทางและเกือบได้ประตูหลายหน ซึ่งกว่าจะได้ประตูปิดกล่อง 0-2 ก็ต้องรอถึงช่วงทดเวลา 90+5    

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เกมรับยังมีปัญหาในการรับมือแนวรุกที่มีความสามารถเฉพาะตัว โดยอย่างลูกแรกที่เสียก็เพราะสาเหตุนี้ เว้นเสียแต่ลูก 0-2 ที่พวกเขาดันสูงเพื่อทำเกมบุก ส่วนในแผงเกมรุก มาดีในช่วงต้นและท้ายเกมราว 20 นาทีสุดท้าย ซึ่งหากจบคมและเล่นละเอียดกว่านี้ มันก็พอมีโอกาสที่จะยิงตีเสมอได้ ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรับถูกทดสอบในช่วงท้ายแล้วมีจังหวะหลุดไปบ้าง ยังดีที่ไม่ถูลงโทษ ส่วนเกมรุกยิงได้ 2 ลูก ก็จริง แต่ต้องตำหนิตรงที่ท้ายเกมมีโอกาสสวนกลับเหน่งๆแล้วยิงเพิ่มไม่ได้ ซึ่งถ้าเกิดคมกว่านี้ แข้งเทพจะเล่นสบายราว 10-20 นาที เลยทีเดียว มิใช่ต้องรอถึงนาทีสุดท้ายของเกมเหมือนเช่นที่เห็น

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“พลาดกันคนละที”

เชียงใหม่ เปิดบ้านท่ามกลางสายฝน เจ๊า นครราชสีมา 1-1  

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 4 ในส่วนของคู่เย็นวันอาทิตย์ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่กำลังโหยหาชัยชนะนัดแรกของฤดูกาล เปิดบ้านรับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่อย่างน้อยๆอยากจะมาเก็บสักแต้มออกไป ส่วนในเรื่องของผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบเดิม คือ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-2-1-3  

        เปิดเกมมาเป็น เชียงใหม่ ที่ดูดีกว่านิดๆ กับการเปิดจากริมเส้นมายังหน้าประตู ซึ่งการเปิดซ้ำๆถี่ๆนับเป็นการจี้จุดอ่อนของคู่กองหลัง นครราชสีมา ได้เป็นอย่างดี แต่การเปิดเข้ามาหลายครั้งจังหวะยังไม่พอดี ทำให้การโหม่งเข้ากรอบและลุ้นประตูยังไม่มี จากนั้นฝนได้เทลงมาอย่างหนัก แต่สภาพสนามยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยม กระนั้นด้วยสภาวะที่มีน้ำอยู่ตามลายหญ้า ทำให้การส่งบอลมีโอกาสที่น้ำหนักจะขาด กระทั่งปัญหาที่ว่านี้ได้กลายเป็นประตูนำ 1-0 ของเจ้าบ้าน เพราะแนวรับทีมเยือนส่งบอลน้ำหนักขาด จน โบลี่ ได้ฉกบอลไปยิง

        หลังจากได้ประตูขึ้นนำ เชียงใหม่ ได้ใจและพยายามจะเปิดเกมบุก แต่การเสียบอลจนโดนโต้กลับ แล้วแนวรับยังยืนไม่เข้าที่ มันก็เป็นการเปิดช่องให้ โคราช มีช่องได้จบสกอร์ แต่ อัปเปียห์ ดันจบสกอร์ในระยะที่ไม่ดีและยิงไม่ละเอียดเลย     

ครึ่งหลัง โคราช พยายามจะเปิดบุกด้วยการโยนและเจาะตามช่อง ซึ่งก็มีจังหวะได้เข้าทำ แต่ยังไม่คมพอ กระนั้นด้วยความผิดพลาดของ นนท์ ที่ดูจะรับบอลไม่ค่อยอยู่มือหลายจังหวะตั้งแต่ครึ่งแรก ก็ดันมาก่อความผิดพลาดด้วยคว้าบอลหลุดมือ จน เฉลิมพงษ์ ยิงซ้ำซ่อๆ ตีเสมอ 1-1 จากนั้นกลายเป็น สวาทแคท ได้บุกต่อเนื่อง ตรงข้ามกับ เชียงใหม่ ที่ได้เพียงรอโต้กลับเท่านั้น แต่อย่างไรเสียทั้ง 2 ทีม ต่างยิงเพิ่มกันไม่ได้ ทำให้จบเกมด้วยการแบ่งแต้ม

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ก่อนหน้านี้มีผลงานที่ไม่ดี แล้วจะมองว่าเพราะเจอกับทีมใหญ่ ก็คงไม่ผิดนัก แต่ในนัดนี้ถือว่าน่าผิดหวังที่ไม่สามารถทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันและเหนือกว่าผู้มาเยือนได้เลย โดยประตูที่ได้ก็มาจากความผิดพลาดของคู่แข่ง ส่วนประตูที่เสียก็เพราะตัวเองผิดพลาดเหมือนกัน ทำให้นับจากนี้น่าเป็นห่วงเหลือเกิน สำหรับช้างศึกล้านนา ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี หากไม่นับความผิดพลาดในแนวรับที่จ่ายบอลคืนหลังพลาด กับโชคที่ได้จาการยิงตีเสมอ พวกเขายังมีรายละเอียดที่ต้องปรับ เริ่มจากแนวรับที่ออกอาการแกว่งเมื่อโดนกดหัวนานๆ ขณะที่เกมรุกมีโอกาสพอสมควร แต่การจบสกอร์ย่ำแย่จนต้องไปปรับมาอีกเยอะ มิเช่นนั้นฤดูกาลนี้จะเหนื่อย   

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover