Categories
Sport

สรุปภาพรวม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23 “หยิบแชมป์ เหมือนดีดนิ้ว”  

สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน

สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างผลงานคว้าทริปเปิ้ลแชมป์อีกครั้งเมื่อฤดูกาล 2021/22 นั่นจึงทำให้พวกเขาคาดหวังว่าจะรักษาแชมป์ไว้ให้ได้ แล้วสุดท้ายฤดูกาลที่พึ่งจบลงไป ทัพปราสาทสายฟ้าได้สร้างสถิติคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน ซึ่งน่าจะเป็นทีมแรกและทีมเดียวในไทยลีกที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ดีในระหว่างที่พวกเขาลงแข่งขัน มันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะนำมาสรุปดังต่อไปนี้

มาซาทาดะ อิชิอิ ได้รับโอกาสคุมทีมต่อเนื่อง ซึ่งสภาพทีมถือว่าลงตัวและมีความพร้อม แม้จะเสียเจ้าเช็ค สุภโชค สารชาติ ที่ถูกขายขาดให้ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ ส่วนในตลาดการซื้อขาย ตัวไทยเน้นซื้อเข้ามาเป็นอะไหล่ หรือดันตัวเด็กขึ้นมา ขณะที่โควตาต่างชาติไม่โละทิ้งแบบยกชุด แต่ใช้วิธีเติมเข้ามา อาทิ โกรัน เคาซิส  อย่างไรก็ดีในเกมไทยแลนด์แชมป์เปี้ยนส์คัพ พวกเขาประเดิมพ่ายต่อ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 3-2

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในช่วงเลกแรก ฟอร์มไม่ถึงขั้นเปรี้ยงปร้างนัก เพราะไม่ได้ยึดจ่าฝูงและทำได้เพียงเกาะกลุ่มหัวตาราง โดยวิธีการเล่นจะเน้นให้ อุ้ม ธีราทร วางบอลเป็นหลัก ขณะที่โควตาต่างชาติ ไม่ได้โชว์ให้เห็นว่าเหนือกว่านักเตะไทยเท่าไรนัก นอกจากนี้เกมรับก็มีปัญหา เพราะเสียประตูเกือบทุกนัดและต้องลุ้นเสียวอยู่ร่ำไป

สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23
สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23

ก่อนจบเลกแรก หลายทีมสะดุดขาตัวเอง แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เดินหน้าเก็บ 3 แต้ม ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้จบครึ่งทางด้วยการเป็นจ่าฝูง ขณะที่เลก 2 มีการเสริมตัวอาเซียนอย่าง ดิออน คูล ซึ่งมันช่วยให้เกมรับมีการแข่งขันเพื่อแย่งชิงโอกาสลงสนาม ขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูต้องหันเหไปใช้งาน นพพล ละครพล เพราะมือ 1 อย่าง ศิวรักษ์ มีอาการบาดเจ็บ โดยฟอร์มในช่วงแรกของโจนัส ก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่ไม่สามารถยืนระยะด้วยฟอร์มที่ดีได้ กระทั่งเกมเสมอกับ เมืองทอง 4-4 คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เจ้าแชมป์ ศิวรักษ์ กลับมาลงเฝ้าเสาในฐานะมือ 1 ตัวจริง

ในช่วงเลกที่ 2 บุรีรัมย์ เดินหน้าเก็บ 3 แต้ม ด้วยการใช้แท็กติกที่เน้นผลการแข่งขัน กล่าวคือนำแล้ว พยายามเล่นแบบระวัง กระทั่งท้ายเกมเน้นรับแน่นๆ อย่างไรเสียปราสาทสายฟ้ายิ่งมีแต้มทิ้งห่างมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทีมหัวตารางด้วยกันยังสะดุดแบบต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 8 ตั้งแต่นัดที่ 27 ของฤดูกาล

บุรีรัมย์ คว้าแชมป์ไทยลีกสำเร็จแล้ว แต่ก็พยายามจะสร้างสถิติแชมป์ไร้พ่าย ก่อนถูก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ดทำลายลง นั่นจึงทำให้ อิชิอิ เน้นเก็บตัวเพื่อไว้รอเล่นเกมนัดชิงบอลถ้วยทั้ง 2 รายการ กระทั่งท้ายที่สุด สามารถคว้าถ้วยรีโว่ลีกคัพ กับช้างเอฟเอคัพ แบบไร้คู่ต่อกร พร้อมกับเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ 2 ปีติดต่อกัน  

สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23
สรุปภาพรวมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปบทสัมภาษณ์บอสปวิณ ครั้งที่ 2 ปี 2023 (ตอนที่3)

สัมภาษณ์บอสปวิณ ประเด็นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย

สัมภาษณ์บอสปวิณ ราว 1 ชั่วโมงเศษ ในช่วงท้ายของรายการ ได้มีการพูดถึงประเด็นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย ที่ในตอนนี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่และไม่มีทางออกที่ชัดเจน ซึ่งการเป็นทีมใหญ่ของ บีจี ปทุม จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นกระบอกเสียงแก่เพื่อนสมาชิก ส่วนเรื่องปิดท้ายของการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ได้พูดถึงการนำ Rabbit girl กลับมาสร้างสีสันในสนามอีกครั้ง

ลิขสิทธิ์บอลไทย

วันที่มีการเรียกทั้ง 16 ทีม จากไทยลีก 1 เข้าประชุมเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอล ซึ่ง 3 ทีมยักษ์ใหญ่เป็นหัวโต๊ะ คือ การท่าเรือ บุรีรัมย์ และ บีจี ปทุม ที่ได้กล่าวในทางเดียวกันว่าไม่มีปัญหา ไม่ว่าทางออกจะจบด้วยการแยกตัวจากสมาคม เพื่อไปตั้งบริษัทบริหารกันเอง, การให้ 16 ทีม เป็นส่วนหนึ่งของหุ้นส่วนบริหารสมาคม หรือยอมรับเงื่อนไขจากผู้ที่ประมูลมา 50 ล้านบาท โดยบอสปวิณ ได้มีการกล่าวว่าทาง บีจี ปทุม ก็ได้นำประเด็นเหล่านี้กลับมาศึกษาถึงข้อดี-ข้อเสีย เพื่อนำไปแสดงความเห็นในการประชุมครั้งต่อไป แต่หากเป็นความคิดของบอสปวิณ เพียงคนเดียว ก็มองว่าทั้ง 16 ทีม จะต้องจับมือกันไว้ให้แน่นและนำความเป็นกลุ่มก้อนไปขายลิขสิทธิ์ ซึ่งมันจะเป็นการช่วยทีมขนาดเล็ก ให้มีกำลังพอที่จะสู้ทีมใหญ่ เพราะหากปล่อยให้ต่างคนต่างทำ ต่างไปออกไปหาช่องทางถ่ายทอดสดกันเอง ทีมใหญ่จะยิ่งทิ้งห่าง และทีมเล็กจะอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ กระนั้น บีจี ปทุม ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการถ่ายทอดสดในช่องของตัวเอง ถ้าสุดท้ายการเจรจาไม่บรรลุผล

สัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3
สัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3

reunion Rabbit girl

ในช่วงที่ฟุตบอลเริ่มบูมเมื่อราว 10 ปีก่อน บีจี ปทุม ถือว่าเป็นทีมแรกๆที่นำสาวสวยใส่หูกระต่ายมายืนเชียร์ทีมในทุกนัด กระทั่งกลายเป็นสัญลักษณ์ในชื่อ Rabbit girl และในช่วงหลังก็ได้มีการคัดเลือกเข้ามา แต่ในช่วง 2-3 ปีหลัง กลับไม่มี Rabbit girl เหมือนดังที่เป็นมา นั่นจึงทำให้แฟนบอลเข้ามาถาม และบอสปวิณ ได้ตอบกลับมาว่า สโมสรได้เล็งเห็นถึงประเด็นนี้ ทำให้ปีหน้าจะมีการ Reunion Rabbit girl โดยจะเรียก Rabbit girl ทุกชุด ตั้งแต่รุ่นแรกเมื่อปี 2009 เพื่อเข้ามาช่วยกันเชียร์บริเวณ south stand ฉะนั้นหากใครอยากเจอ Rabbit girl ในยุคบุกเบิก ก็สามารถมาเจอได้ที่สนามในฤดูกาลหน้า

ส่วน BG Man อาจจะเหลือเพียงตำนาน เพราะ 2 คน ที่เคยทำหน้าที่ ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในท้องที่จังหวัดปทุมธานีแล้ว ขณะที่มาสคอร์ต กฎการแข่งขันแจ้งว่าไม่สามารถลงมาในสนามได้ นั่นจึงทำให้บอสปวิณ ไม่มีความคิดจะนำกลับมาอีก

สัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3
สัมภาษณ์ บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปบทสัมภาษณ์บอสปวิณ ครั้งที่ 2 ปี 2023 (ตอนที่2)

บทสัมภาษณ์บอสปวิณ การคว้าตัวเจ ชนาธิป อัพเดทเรื่องสนามแข่ง

ในช่วงครึ่งแรกของรายการ บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ได้อัพเดทถึงเรื่องสนามแข่ง สนามซ้อม ตั๋วปี และเสื้อแข่งขัน ส่วนในครึ่งหลังของรายการ ก็ได้พูดถึงการเสริมทัพของ บีจี ปทุม ว่ามีเป้าหมายอย่างไรสำหรับฤดูกาลที่มาถึง ขณะที่การเสริมทัพนักเตะก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการคว้าตัว เจ ชนาธิป กลับมาเล่นในไทย นอกจากนี้ยังพูดถึงนักเตะที่ต้องเก็บกระเป๋าออกจากทีม ว่ามีเหตุอะไรที่ต้องแยกทางกัน ซึ่งทั้งหมดได้สรุปไว้แล้วด้านล่างนี้

การเสริมทัพนักเตะ และ เป้าหมายในฤดูกาลหน้า

การปลด แมตต์ สมิธ เป็นการจากกันด้วยดีตามวิถีทางฟุตบอล และในตอนนี้ก็ได้กลับไปเรียนโค้ชที่ประเทศออสเตรเลียบ้านเกิด ส่วนการดึงโค้ชธง ธงชัย สุขโกกี เข้ามาเป็นเฮดโค้ช ก็เพราะเล็งเห็นถึงฝีมือและแนวคิดจาการทำช่อง Youtube อีกทั้งความสัมพันธ์กับโค้ชธง ก็มีมาอย่างยาวนานและใกล้ชิดยิ่งขึ้นเมื่อมาคุมทีม นครปฐม ยูไนเต็ด สุดท้ายจึงไว้วางใจให้เข้ามาคุม บีจี ปทุม โดยไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องถึงแชมป์ เพราะเมื่อไรที่ตั้งเป้าหมาย ก็มักจะผิดหวังเสมอ แต่จากการประเมินวัตถุดิบนักเตะ บอสปวิณ มองว่าอย่างน้อยก็ควรจบท็อปโฟร์ ขณะที่การดึง เนติพงษ์ ศรีทองอิน เข้ามาเป็นโค้ชกองหน้าของทีมชุดเยาวชน ก็ได้พ่วงงานชุดใหญ่ไปด้วย เพราะตัวโค้ชมีความสนุกกับงาน เช่นเดียวกับนักเตะที่อยากเรียนรู้วิชา โดยเฉพาะการปั้น กุดต๊าฟสัน ที่อันเฟรดตั้งใจจะถ่ายทอดวิชาให้เป็นศูนย์หน้าตัวท็อปให้ได้   

บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2
บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2

 การซื้อตัว ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ถือเป็นดีลใหญ่สุดของตลาดซื้อขายรอบนี้ โดย บีจี ปทุม ได้ยื่นซื้อและแสดงความสนใจอย่างจริงจัง ซึ่งทางฝั่งนักเตะเอง ก็มีความต้องการให้ดีลนี้จบลงก่อนจะไปเล่นให้ทีมชาติไทย ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ทำให้การคุยกับ ฟอนตาเล่ ต้องรีบคุยให้จบใน 3 วัน สุดท้ายจบด้วยการจ่ายเงินซื้อขาด 70 ล้านบาท ขณะที่ในรายอื่น บอสปวิณได้อัพเดทแบบรายตัว ไล่ตั้งแต่ ธีรศิลป์ มีสัญญาถึงอายุ 37 ปี ถ้าไหวก็พร้อมต่อ, การดึง วิคเตอร์ กลับมา ก็เพื่อเป็นพี่เลี้ยงนักเตะต่างชาติและผู้นำทีมในห้องแต่งตัว สุดท้าย ชาตรี ฉิมทะเล ได้ส่งเจ้าตัวไปฝึกหัดเป็นโค้ชชุดเยาวชน หลังจากแขวนสตั๊ดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

ฝั่งขาออก วรชิต ต้องการโชว์ฟอร์มเก่งต่อเนื่องที่การท่าเรือ จึงต้องจำยอมขายขาด, ปฐมพล ไม่ลงตัวกับระบบใหม่ จึงปล่อยออกจากทีมถาวร,  ศิวกร เตียนตระกูล ตกลงค่าตัวกับ เชียงราย แล้ว แต่นักเตะไม่อยากย้าย ดีลนี้จึงพับเก็บลงลิ้นชัก สุดท้ายนักเตะที่ถูกปล่อยไปอยู่กับทีมพันธมิตร โดยเฉพาะ เชียงใหม่ เอฟซี ก็ได้มีปล่อยตัวเพื่อลดค่าใช้จ่าย

บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2
บทสัมภาษณ์ บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ย้อนรอยลิขสิทธิ์บอลไทย จากติดลบสู่พันล้าน และจากพันล้านสู่ศูนย์บาท  

ลิขสิทธิ์บอลไทย ก่อนจะมีมูลค่าสูงส่งและกลับคืนสู่สามัญ

ถือเป็นกระแสที่ร้อนระอุและน่าตกใจในเวลาเดียวกัน สำหรับลิขสิทธิ์ถ่ายสดฟุตบอลไทยที่เคยสูงถึงพันล้านบาท แต่การบริหารของสมาคมฟุตบอลชุดนี้ มีแต่สาละวันเตี้ยลง กระทั่งมีการเรียกสโมสรสมาชิกไทยลีก 1 มาประชุมกันและแจ้งว่ามีผู้ประมูลเพียง 1 เจ้า โดยให้ราคาเพียง 50 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งนับจากนี้ต้องไปตามกันต่อว่าจะมีการแยกตัวออกมาตั้งบริษัทและบริหารกันเองหรือไม่ รวมถึงข่าวที่บอกว่าจริงๆแล้วมีการยื่นมา 300 ล้านบวกๆ แต่ที่เสนอไป 50 ล้านบาท ก็เพราะเกมการเมืองนั่นเอง กระนั้นในบทความนี้จะพาไปดูถึงวิวัฒนาการของ ลิขสิทธิ์บอลไทย ที่หลายคนยังไม่รู้ว่าเคยติดลบ ก่อนจะมีมูลค่าสูงส่งและกลับคืนสู่สามัญเฉกเช่นวันนี้

ปี 2539 – 2545 เป็นยุคเริ่มแรกของฟุตบอลไทยลีก ซึ่งตอนนั้นไม่มีมูลค่าทางการตลาด นั่นจึงทำให้สมาคมฟุตบอล ต้องออกเงินเพื่อซื้อเวลาของสถานีโทรทัศน์ในช่วง 4 โมงเย็น – 6 โมงเย็น สำหรับการถ่ายทอดสด กระทั่งปี 2545 ทรูวิชั่น อาสาเข้ามาช่วยถ่ายทอดสดแบบฟรีๆ เพื่อเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ของช่องทางดาวเทียม และหลังจากนั้นก็มีช่อง 11 เข้ามาช่วยถ่ายในบางคู่

กระแสบอลไทยเริ่มเฟื่องฟูอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะไม่ว่าจะทีมใหญ่หรือทีมตามต่างจังหวัด แฟนบอลต่างเข้ามาชมเกมจนเต็มความจุของสนาม ทำให้การขายลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีก เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2552 โดยสยามกีฬาจ่ายเงินให้สมาคมฟุตบอลเป็นมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท / ปี กระทั่งปี 2554 ฟุตบอลไทยเติบโตต่อเนื่องแบบฉุดไม่อยู่ นั่นจึงทำให้ทรูวิชั่น เข้ามาประมูลและคว้าลิขสิทธิ์ด้วยวงเงินถึง 200 ล้านบาท / ปี ซึ่งมากกว่าเดิมถึง 5 เท่า

ลิขสิทธิ์บอลไทย ย้อนรอยจากติดลบสู่พันล้าน และกลับคืนสู่สามัญ
ลิขสิทธิ์บอลไทย ย้อนรอยจากติดลบสู่พันล้าน และกลับคืนสู่สามัญ

ปี 2557 ทรูวิชั่นที่เสียลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปให้กับ CTH จำเป็นต้องเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อคว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีกให้อยู่มือ นั่นจึงทำให้บริษัทยื่นซองประมูลให้กับสมาคมฟุตบอล เป็นมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท / ปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 3 เท่า จากนั้น 3 ปีให้หลัง ก็ยังคงเป็น ทรูวิชั่น ที่คว้าลิขสิทธิ์ไปด้วยราคา 1,050 ล้าน / ปี ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากๆ

ปี 2564 ทั่วโลกเผชิญต่อวิกฤตโควิด-19 ทำให้ฟุตบอลต้องเลื่อนเตะ แฟนบอลเข้าไปชมในสนามไม่ได้ นั่นจึงทำให้ ทรูวิชั่น ขอลดมูลค่าที่จะประมูล ตรงข้ามกับ เซนส์ที่กล้าทุ่ม 1200 ล้านบาท / ปี และนั่นทำให้สมาคมฟุตบอลเลือกผู้ถือลิขสิทธิ์เจ้านี้ แต่เมื่อผ่านไปสักพักก็ขอถอนตัว เพราะรู้ชะตากรรมว่าจะต้องขาดทุน สุดท้าย AIS ได้ส้มหล่นในมูลค่า 300 ล้านบาท / ปี เท่านั้น

จากที่ไล่เรียงมาทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าสมาคมฟุตบอลชุดก่อนๆต้องใช้เวลาอยู่นาน กว่าจะขายลิขสิทธิ์จนเกิดมูลค่าขึ้นมา ขณะที่ตัวแปรอย่างทรูวิชั่น ถือเป็นการสำคัญที่ทำให้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทย มีมูลค่าสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดทุกครั้งเมื่อมียื่นซองประมูล แต่การฉีกซองและหันเหไปเลือกบริษัทน้อยใหม่อย่างเซนส์ ถือเป็นจุดหักเหที่ทำให้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทย มีมูลค่าต่ำลงแบบน่าใจหาย และที่น่าใจหายกว่า คือมูลค่าในตอนนี้มันเทียบเท่ากับช่วงที่ฟุตบอลไทยขายลิขสิทธิ์ครั้งแรก  

ลิขสิทธิ์บอลไทย ย้อนรอยจากติดลบสู่พันล้าน และกลับคืนสู่สามัญ
ลิขสิทธิ์บอลไทยย้อนรอยจากติดลบสู่พันล้าน และกลับคืนสู่สามัญ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สโมสร การท่าเรือ เอฟซี

เสือคืนป่าดั่งการท่าเรือ กลับคือสู่ แพทสเตเดี้ยม รังเหย้าสุดสะท้านของเหล่าทีมเยือน

หลังจากที่แพท สเตเดี้ยมโดนมรสุม จากโควิด 19 เข้าเล่นงานแบบจัง ๆ จนทำให้ สนามเหย้าอันน่าเกรงขามนี้ ได้รับผลกระทบมาระยะหนึ่ง แต่จนในนาทีนี้แล้ว หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะทุกอย่างได้กลับมาแล้วในฤดูกาล ฟาดแข้ง 2021- 22

 เนื่องจากการที่ศบค ได้มีการประกาศให้ที่นี่เป็นพื้นที่ สีแดงเข้มทั่วทั้งกทม ซึ่งแน่นอนว่าต้องกระทบกับสนามแพทสเตเดี้ยมอย่างเลี่ยงไม่ได้  การซ้อม และการแข่งขันจึงต้องย้ายไปใช้ สนามช้างอารีน่า เป็นหลักในการแข่งชั่วคราว ในนัดเปิดสนาม ที่มีการจัดปะทะกับ โปลิศ เทโร เอฟซี กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว​ ก็ได้มีการเฝ้ารอดูสถานการณ์ให้ดีขึ้นอยู่มาตลอด เพราะเสมือนหนึ่งเสือไม่ได้อยู่ป่า การคว้าชัยก็อาจทำได้ยากขึ้น

สโมสร การท่าเรือ เอฟซี
สโมสร การท่าเรือ เอฟซี

 จังหวะมา เกมเปลี่ยน เสือคืนถิ่น ฟื้นชีวิต แพทสเตเดี้ยม

ฝันที่เป็นจริงนั้น เริ่มต้นวันที่ 1 กันยายน 60 แทบจะทันทีที่บริษัทไทยลีกจำกัด ได้มีการอนุญาตอย่างเป็นทางการ ให้แพท สเตเดี้ยม เป็นรังเหย้าได้อีกครั้ง หลังจากที่ปิดมาระยะหนึ่ง แต่ทั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ยังอยู่ในมาตรการป้องกันโรค covid-19 ขั้นตอนเข้มงวดสูงสุด แต่นับว่านั่นเป็นที่สุดของความยินดีแห่งสโมสร อันเป็นที่รักของแฟนบอลแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้กลับคืนถิ่น บ้านเดิมเขตคลองเตย ที่เคยยืนอยู่ด้วยความสง่างาม และสุดแข็งแกร่งมาก่อน จากนี้ไปอะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อขวัญ และกำลังใจเต็มร้อยอีกครั้ง

สโมสร การท่าเรือ เอฟซี
สโมสร การท่าเรือ เอฟซี

ความมั่นใจกลับมา เมืองไทยประกันชีวิต CEO คอนเฟิร์ม

มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะประธานของสโมสร ที่มีเกมการเล่นอันสุดดุดันแห่งนี้ ได้เปิดเผยกับนักข่าวด้วยรอยยิ้มว่า นับว่าเป็นผลดี และความยินดียิ่ง เพราะทางด้านทีมงาน มีความคุ้นเคยกับสนามเหย้าแห่งนี้เป็นที่สุด สำหรับการเปิดให้ได้มีการฟาดแข้งในถิ่นของตนทำให้ทุกศึก ที่กำลังจะได้เจอในอนาคต นักเตะทุกคนต่างมีกำลังใจเต็มร้อย มีความคืบหน้าเป็นอย่างยิ่งแม้ว่า จะเป็นการแข่งขันที่ยังไม่มีการอนุญาตให้แฟนบอล นำกำลังใจเข้ามาเติมเต็มก็ตามที แต่การวางมาตรการต่าง ๆ ตามที่ ศบค​ กำหนดกฎเกณฑ์ไว้อย่างเข้มงวด ทางทีมงาน สโมสร การท่าเรือ เอฟซี ก็ยังหวังไว้ว่า จะสามารถนำร่องให้ทีมแฟนบอลได้เข้ามาชม และเชียร์ได้อย่างล้นสนามเหมือนเคย ในอนาคตอันใกล้

สโมสร การท่าเรือ เอฟซี
สโมสร การท่าเรือ เอฟซี

สรุป

แม้ว่าโควิด 19 จะเป็นอุปสรรคต่อเกมกีฬาเกือบทุกประเภท และสโมสรหลายแห่งต่างก็ได้รับผลกระทบกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่สำหรับเกมกีฬา และศึกในลีกที่จะปะทะกันในแต่ละครั้งนั้น ความมันส์ และความสะใจจะไม่มีวันลดน้อยลงไปอย่างแน่นอน ขุนพล เมืองไทยประกันภัย กล่าวสำทับไว้อย่างหนักแน่น

และเราก็เชื่ออย่างนั้นเช่นกัน จริงไหม ?

Cr.Pic : matichon

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960

Categories
Sport

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 (วันเสาร์-อาทิตย์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 ของฤดูกาล ได้ผ่านการวิเคราะห์วิจารณ์ไปแล้ว 4 จาก 7 คู่ ที่จะลงสนามในสัปดาห์นี้ ทำให้ในส่วนนี้จะมาพูดถึงเกมอีก 3 คู่ ในคู่สุดท้ายของวันเสาร์ 1 คู่ และวันอาทิตย์ 2 คู่ ในเวลา 18.00 น.  ซึ่งใครจะพบกับใครและผลที่คาดจะเป็นอย่าง ติดตามกันต่อได้นับจากบรรทัดนี้ 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

          ปราสาทสายฟ้า ออกสตาร์ท 2 แมตช์ในบ้าน ด้วย 4 แต้ม โดยถ้าดูจากตรงนี้อาจไม่แย่แต่ไม่ถึงกับดี แต่หากดูจากชื่อชั้นของคู่แข่งและฟอร์มการเล่น มันยังไม่ถึงขั้นประทับใจสักเท่าไร เพราะอย่างนัดล่าสุดต้องใช้เวลาอยู่นานสองนานกว่ากว่าจะทำประตูขึ้นนำและแซงขาดได้ ทั้งที่ฝ่ายตรงข้ามเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน

ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก ส่วนทางฝั่งช้างศึกล้านนา 2 นัด 1 แต้ม ถือว่าบุญโขแล้ว เพราะอย่างนัดล่าสุดกับสุพรรณบุรี ขนาดคู่แข่งเหลือ 10 คน ยังต้องตามตีเสมอแบบเลือดตาแทบกระเด็น ฉะนั้นเกมคู่สุดท้ายของวันเสาร์ที่ช้างอารีน่า คงไม่พลิกโผสำหรับเจ้าบ้านในการเก็บ 3 แต้ม    

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

สุพรรณบุรี เอฟซี พบกับ ประจวบ เอฟซี

          ก่อนเริ่มซีซั่น ช้างศึกยุทธหัตถีถูกยกให้เป็นเต็งลำดับต้นๆในการหนีตาย แต่จากผลงานที่ปรากฏ 2 นัด จะเห็นได้ว่าพวกเขายังพอมีอนาคตสำหรับการยืนหยัดบนเวทีลีกสูงสุด โดยในนัดแรกกับบุรีรัมย์ ออกไปยันมหาอุดจนได้ 1 แต้ม ส่วนนัดล่าสุดเกือบเก็บ 3 แต้ม ได้อยู่แล้ว

แต่การเหลือ 10 ตัว กับเวลาที่เหลืออีก 20 นาที มันหนักหนาและสาหัสเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือไหว ทำให้ท้ายที่สุดพวกเขาเก็บได้เพียงแต้มเดียว ขณะที่ต่อพิฆาต รูปแบบและทรงการเล่นจัดว่าดี แต่ข้อเสีย คือ ไม่สามารถรักษาฟอร์มที่ดีไว้ได้ตลอดเกม ทำให้ 2 นัด ที่ผ่านมา ไร้แต้มเสียอย่างนั้น สำหรับการพบกันของทั้ง 2 ทีม ศักยภาพมีความเท่าเทียมกันจนยากที่คาดเดาถึงผล แต่หากต้อชี้ฝั่ง คงต้องบอกว่าเจ้าบ้านจะไม่แพ้ในเกมนี้

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี          

สวาทแคท เป็นทีมดีเซลเครื่องร้อนช้าอย่างที่โค้ชโจกล่าวไว้จริงๆ เพราะในนัดแรกฟอร์มจัดว่าแย่ไปสักหน่อย แต่พอนัดล่าสุดสามารถเล่นได้ดีขึ้นมาทันตาเห็น กระนั้นก็นับว่าน่าเสียดายที่การผ่อนเกมมากไปดันมีผลให้คู่แข่งยิงแซงในนาทีสุดท้าย ส่วนทางฝั่งมังกรโล่เงิน

การได้นักเตะใหม่เข้ามาผสม มีผลให้สภาพทีมดูแข็งแกร่งขึ้น แต่จุดอ่อนที่เห็นได้ชัด คือ เกมรับที่พร้อมจะเสียประตูในนาทีที่โดนกดหัว ทำให้เกมที่จะพบกันเป็นคู่สุดท้ายของสัปดาห์นี้ เจ้าบ้านมีสิทธิ์จะคว้าชัยได้

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

โปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 (วันศุกร์-เสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เดินหน้าซัดความมันส์อย่างต่อเนื่องในนัดที่ 3 โดยในสุดสัปดาห์นี้จะมีการแข่งขันเพียง 7 คู่ เพราะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ต้องเดินทางไปที่ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อทำศึก ACL รอบ 16 ทีมสุดท้าย กับ ชนบุค ฮุนไดมอเตอร์ ขณะที่ในส่วนนี้เราจะหยิบยกเกมการแข่งขัน 1 คู่ ในวันศุกร์ และ 3 คู่ ของวันเสาร์ ในเวลา 18.00 น. มาวิเคราะห์วิจารณ์กัน      

สมุทรปราการ ซิตี้ พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          เขี้ยวสมุทร ออกสตาร์ท 2 นัดแรก ด้วยการออกไปเยือนแล้วสามารถเก็บได้ 4 คะแนน ซึ่งนี้ถือว่าเป็นผลงานที่ใช้ได้ หากดูจากสภาพทีมที่หลากคนเป็นห่วง ส่วนทางฝั่งแข้งเทพของโค้ชแบน ฟอร์มการเล่นจาก 2 นัดที่ผ่านมา ถือว่าโชว์ฟอร์มได้สมกับทีมเต็งจริงๆ แต่มันก็น่าเสียดายที่นัดล่าสุดทำได้แค่เสมอ ทั้งที่มีโอกาสทองจะคว้า 3 แต้มได้ สำหรับเกมการแข่งขันคู่นี้มองว่าจะเป็นเกมคุณภาพอีกคู่ ขณะที่ผลการแข่งขันเชื่อว่าทีมเยือนจะไม่แพ้ออกไปเป็นแน่

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด

          สิงห์เจ้าท่า เก็บได้ 2 คะแนน จาก 2 นัด ซึ่งมันอาจเป็นผลงานที่ไม่ค่อยดีเท่าไรหากมองจากตรงนี้ แต่ถ้าแหวกให้ลึกลงไปจะพบว่าลูกทีมของโค้ชโอ่งมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเกมล่าสุดกับ บียู

ส่วนทางด้านจงอางผยอง ไม่ต้องรอนานกับการคว้า 3 แต้มแรกในลีกสูงสุด เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถโค่น ประจวบลงได้ แต่สำหรับเกมที่จะบุกมาเยือน แพท สเตเดี้ยม มันอาจเป็นงานยากของทีมจากเมืองหมอแคนที่มาแบ่งแต้ม เพราะด้วยศักยภาพและเป้าหมาย การท่าเรือ ต้องหวัง 3 แต้ม สถานเดียว   

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ชลบุรี เอฟซี พบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี          

ฉลามชล ออกสตาร์ทปีนี้ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดูดีมีทรงและน่าติดตามกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา กระนั้น 2 นัดที่ผ่านมา ดันเก็บได้เพียง 2 แต้ม อีกทังนัดล่าสุดกับ เมืองทอง ถือว่าเสียดายสุดๆ เพราะอุตสาห์นำไปไกลถึง 0-3 แต่การถอนคันเร่งเกินพิกัดแล้วดวงซวยผสม

ทำให้ถูกตีเสมอ 3-3 แบบช็อคตาตั้ง ส่วนทางฝั่งพญาไก่ชน การเจอกับทีมระดับกลางๆในบ้าน 2 นัด แล้วเก็บได้ 3 แต้ม ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่การออกไปเยือนถิ่นชลบุรี สเตเดี้ยม มองมุมไหนก็น่าจะเสร็จเจ้าบ้านที่หิวกระหายกับ 3 แต้ม 

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

“ผลัดกันนำคนละครั้ง” เชียงราย(กว่างโซ้งมหาภัย)นำก่อน แต่ต้องตามเจ๊าสมุทรปราการ 2-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดเปิดฤดูกาล คู่ปิดท้ายอยู่ที่สิงห์ สเตเดี้ยม ซึ่งการเป็นการพบกันระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ช้างเอฟเอ คัพ กับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ถูกตั้งคำถามอย่างหนักว่าจะไหวไหมสำหรับปีนี้ เพราะช่วงปิดฤดูกาลเสียตัวผู้เล่นหลักไปเยอะเหลือเกิน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 อีกครั้ง ส่วนทีมเยือนใช้ 4-4-2

ครึ่งแรก เชียงราย ถือว่าสอบตกอย่างสิ้นเชิงในเกมรุก เพราะแค่การขึ้นเกมก็เสียบอลตั้งแต่กลางสนามและแดน 1-2 ของคู่แข่งแล้ว ทำให้โอกาสแบบจะแจ้งไม่มีเลย ส่วนเกมรับยังทำให้หน้าที่ได้ดีกับการป้องกันลูกคอร์สด้านข้างที่เป็นของอันตรายจากขุนพลเขี้ยวสมุทร ขณะที่สมุทรปราการ เกมแดนกลางถือว่าทำได้ดีกว่า แต่การต่อบอลที่ไม่แม่นยำมากนัก จึงทำให้มีจังหวะพาบอลมาถึงแดนสุดท้ายไม่บ่อยนัก แต่โอกาสที่ไม่แม้จะไม่มาก มันก็ชวนให้ผู้ชมทางบ้านหวาดเสียวได้ 

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ในช่วงพักครึ่ง เชียงราย แก้เกมขนานใหญ่ ด้วยการปรับตำแหน่งการยืนและพื้นที่ให้บอลมาอย่างแน่นอน เพราะทันที่ออกมาเล่นในครึ่งหลัง พวกเขาสามารถต่อบอลจนมาถึงแดนสุดท้ายของคู่แข่งได้ถี่ยิ่งขึ้น กระทั่งการขึ้นมาของ พิธิวัฒน์ แล้วเห็น เอกนิษฐ์ ยืนว่างอยู่ จึงจัดการจ่ายให้เจ้าบุ๊คยิงจังหวะแรกเข้าไป ซึ่งจังหวะนี้นับเป็นการยิงที่ฉลาด เพราะถ้าจับก่อนมีสิทธิ์ไม่ได้ยิงแน่ จากนั้น สมุทรปราการ พยายามจะโหมบุกบ้าง แต่ก็ต้องเจอการแพ็คโซนรับแน่น ทำให้เด็กเก่าของเชียงรายอย่าง ชัยวัฒน์ บุราณ วิ่งมากดบอลพุ่งชน 2 เสา เป็นประตูตีเสมอ

          เกมบุกของ สมุทรปราการ ไม่นิยมเปิดจากด้านข้างอีกแล้ว แต่การเจาะด้วยบอลตามช่องก็ติดๆขัดๆ อย่างไรเสียด้วยจังหวะที่ลงล็อคแล้วเลือกยิงไกลอีกครั้ง มันได้กลายเป็นประตูนำ 1-2 เสียอย่างนั้น ทำให้ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เจ้าบ้านต้องอยู่ในสภาวะกดดัน แต่ก็ไม่นาน เพราะไม่กี่นาทีให้หลังก็มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกเตะมุมที่จังหวะลงล็อค แต่แนวรับของเขี้ยวสมุทรก็เหม่อลอยไปหน่อย จากนั้นกลายเป็นเจ้าบ้านที่โหมบุกใส่จนเกือบได้ประตูชัย แต่เพราะความไม่คมจึงทำให้จบด้วยผลเสมอ

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ออกสตตาร์ทด้วยความไม่ครบเครื่อง เพราะเกมบุกแทบจะเป็นอัมพาตตลอด 45 นาทีแรก ซึ่งมันเปรียบกับการเสียเวลาไปฟรีๆ ขณะที่ในครึ่งหลัง เกมบุกแก้ลำมาดีและทำได้ แต่ดันมาดวงซวยด้วยการเจอลูกยิงไกล 2 ลูกซ้อน ส่วนทางฟากสมุทรปราการ ซิตี้ เกมบุกพอใช้ แต่ต่อยไม่ค่อยหนัก ซึ่งยังดีที่วันนี้มีลูกยิงไกลช่วยนำพาแต้มกลับบ้าน ตรงข้ามกับเกมรับที่ในช่วงครึ่งหลังมีความผิดพลาด แล้วกลายเป็นสมาธิแกว่ง โดยเฉพาะหลังจากถูกตีเสมอ 2-2     

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (กระต่ายแก้ว)

“ตัวสำรอง พาคว้าชัย” บีจี ไม่ฟูลทีม เฉือนราชบุรี นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 2  ในค่ำคืนวันศุกร์มี 1 คู่ ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มีตัวบาดเจ็บมามายเหลือเกิน กับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่มาพร้อมแบบฟูลทีม ส่วนในเรื่องของผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนก็ใช้แผนเดิม คือ 4-5-1

          ในช่วงต้นเกม ราชบุรี ครองเกมได้เหนือกว่า เพราะสามารถครองบอลไว้กับตัวได้ แต่พอถึงแดน 2 ก็ต้องถ่ายคืนหลัง แล้วโดนคู่แข่งตัดไป กระทั่งผ่านไปสัก 10 นาที ก็เริ่มมีความพยายามจะเจาะทางริมเส้นที่เป็นของถนัด แต่กาทำเข้าทำแบบนี้จะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมาจากเกมโต้กลับ ซึ่งมันเกือบได้ผล แต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสา

ส่วนทางฝั่งบีจี ตั้งรับด้วยการยืนแพ็คแน่น ขณะที่กองกลางและกองหน้าช่วยกันวิ่งไล่บีบในแดน 1-2 แล้วมันสามารถตัดบอลเอาไปโต้ได้ แต่ความเฉียบของผู้เล่นกระต่ายแก้วยังมีไม่มากพอ กระทั่งเกมผ่านไปราว 30 นาที บีจีเริ่มจะครองเกมได้เหนือกว่า เพราะสามารถต่อบอลในแดน 1-3 ได้อย่างไหลลื่น รวมถึงมีการเปิดบอลจากริมเส้นที่เข้าเป้าอยู่เนืองๆ ขาดเพียงการเข้าทำและจบสกอร์ในพื้นที่แดนสุดท้ายที่ยังขาดๆเกินๆ  

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง บีจี เลือกจะเล่นเหมือนในช่วงท้ายครึ่งแรก กระทั่งการเปิดบอลจากลูกเตะเป็นที่มาของประตูนำ 1-0 จากนั้นแนวรับราชบุรี ก็ดันเปิดแผลด้วยการเล่นแบบเสียสมาธิ ทำให้บอลที่เคลียร์ไม่ขาดย้อนกลับมาลงโทษด้วยการเสียประตู 2-0 กระนั้นจังหวะฟุตบอลก็เป็นใช้ให้เจ้าบ้านด้วย

จากนั้นราชันมังกรพยายามจะต่อบอลสู้ แต่ก็เหมือนฉายภาพซ้ำ เพราะการพาบอลเข้าไปในแดน 1-2 ของคู่แข่ง ก็ถูกบีบกดดันจนต้องจ่ายย้อนคืนหลัง หรือการจะใช้ปีกที่มีความเร็ววิ่งกระชากริมเส้น ก็มักมีตัวประกบเข้ามาช่วยกันซ้อน พลางจะเปิดไปลุ้นดู

ก็เสมือนกับเปิดบอลให้ ฉัตรชัย รับ กระทั่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ บีจี เริ่มจะตัดบอลและต่อกันได้อย่างไหลรื่น จนในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลูกทีมของวิดมาร์ สามารถครองบอลและคุมจังหวะเกมไว้ได้หมด 

  ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เริ่มต้นด้วยความรัดกุมและสามารถป้องกันได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งหากจะหาจังหวะที่การป้องกันผิดพลาด คงจะมีเพียงจังหวะที่ แดร์เลย์ ยิงชนเสาเท่านั้น ขณะที่เกมรุก วันนี้สามารถยกระดับตัวเองได้ดี โดยเฉพาะการจ่ายบอลจากหลังสู่หน้า

จากซ้ายสู่ขวา ที่จัดว่ารวดเร็วพอตัว กระนั้นสิ่งที่ต้องไปเก็บงาน คือ การเข้าทำในจังหวะสุดท้ายที่ต้องลดความผิดพลาดง่ายๆลงบ้าง ส่วนทางด้าน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ช่วงต้นเกมเหมือนจะเหนือกว่า

แต่การครองบอลแบบนั้นไม่มีประโยชน์ เพราะสปีดของบอลช้าเกินไป ทำให้ถูกดักง่าย ขณะที่เกมรับยังปรากฏให้เห็นถึงช่องว่างและการยืนป้องกันที่หละหลวม กระทั่งสิ่งเหล่านี้ลงโทษให้เสียประตู อีกทั้งยังมาเสียสมาธิอีก ทำให้วันนี้สมควรแล้วที่ต้องเป็นผู้แพ้

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

“VAR ใช้คุ้ม แต่จบเจ๊า” บุรีรัมย์ สาดลูกโด่งทั้งเกม แต่ได้แค่เสมอกับสุพรรณบุรี 0-0

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 นัดเปิดสนาม ในค่ำคืนของวันเสาร์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังช้างอารีนา พร้อมกับผู้ชม 25 % ของความจุ พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมดวงแข็งแห่งการหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาเป็น 3-4-3

          เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นมาเป็น บุรีรัมย์ ที่โหมบุกใส่ตลอด 45 นาทีแรก ด้วยการโยนยาว ได้แก่ โยนเพื่อให้กองหน้าโหม่ง โยนเพื่อให้แนวรุกเก็บบอลลงแล้วทำชิ่ง หรือยิงไกล ซึ่งจังหวะทั้งหลายเหล่านี้มีทั้งที่พลาดเอง จังหวะไม่ลงล็อค รวมถึงแนวรับของสุพรรณบุรี ช่วยกันบีบและรุมสกัดเอาไว้ได้ ส่วนทางฝั่งของช้างศึกยุทธหัตถี ได้แต่ตั้งรับในแดน โดยในช่วงครึ่งแรกสามารถยืนตำแหน่งและช่วยซ้อนได้ดี แต่ก็มีบางจังหวะที่หลวมไปบ้าง ตรงข้ามกับเกมบุกที่ไม่มีโอกาสได้ทำเกมโต้กลับเลย   

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ พยายามจะเร่งจังหวะเพื่อให้แนวรับของคู่แข่งปั่นป่วนและเสียประตู แต่ภาพที่ปรากฏหลับกลายเป็นปราสาทสายฟ้าเสียเอง ที่ยิ่งเร่งยิ่งพลาดแล้วเสียทั้งโอกาสและเวลา ขณะที่เกมโต้กลับของสุพรรณบุรี ครึ่งหลังสามารถดักบอลและโต้กลับได้ดี พร้อมกับมีการสอดประสานและทำชิ่ง จนมีโอกาสได้ยิงและลุ้นเสียว

แต่น่าเสียดายที่การครองบอลบุกแต่ละหน ไม่เหนียวและยาวนานพอที่ทำให้เกมบุกของเจ้าบ้านเป็นอัมพาตได้ อย่างไรก็ดีช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ ลดความเร็วและกลับมาเน้นการออกบอลในทุกจังหวะ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยากยิ่ง เพราะแนวรับช้างศึกยุทธหัตถี ยืนต้านทานไว้จนเกิดความมั่นใจไปเรียบร้อยแล้ว

          เกมนี้มีการใช้ VAR ค่อนข้างบ่อย โดยการเช็คจุดโทษในครึ่งแรกกับการเช็คจังหวะฟาวล์ก่อนได้ประตูช่วงท้ายเกม ทุกอย่างเคลียร์ แต่จังหวะการเช็คจังหวะแฮนด์บอลในครึ่งหลัง แล้วตัดสินว่าไม่เป็นจุดโทษ ดูจะเป็นประเด็นที่ถกเถียงพอสมควร เพราะจากภาพ ผู้เล่นของบุรีรัมย์เอามือไขว้หลัง แต่เมื่อบอลทำท่าจะผ่านตัวไป

จึงกางแขนออกมา แล้วบอลโดนเสื้อที่เป็นบริเวณแขนเสื้อด้านบน ซึ่งการตัดสินในกรณีแบบนี้มันเคยปรากฏออกมาว่าถ้าบอลโดนส่วนแขนตั้งแต่ข้อพับลงมา ถึงจะนับเป็นแฮนด์บอล ฉะนั้นเคสนี้ ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ถูกต้อง

          บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการไอเดียการเข้าทำเพียงแค่การโยนบอลยาวเท่านั้น ซึ่งมันอาจเป็นทรงบอลที่ไม่สวยต่อสายตาท่านผู้ชม แต่ผลลัพธ์ของมันก็ออกมาดี เพียงแค่ว่าวันนี้ทำไม่ได้เพราะตัวเองและคู่แข่งที่ป้องกันได้ดี ส่วนทางฝั่งสุพรรณบุรี เอฟซี ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใด เกมรับยิ่งแน่น อีกทั้งยังมีตัวช่วยซ้อนทุกจังหวะ

ขณะที่เกมรุกวันนี้ไม่ค่อยแผงฤทธิ์เท่าใด ฉะนั้นการคว้า 1 แต้ม ถือว่าสุดยอดแล้ว เพราะถ้าหากวันนี้โดนเจ้าบ้านยิงเมื่อใด เชื่อว่าช้างศึกยุทธหัตถี มีโอกาสแพ้มากถึง 90% เลยทีเดียว    

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com