Categories
Sport

สรุปบทสัมภาษณ์บอสปวิณ ครั้งที่ 2 ปี 2023 (ตอนที่3)

สัมภาษณ์บอสปวิณ ประเด็นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย

สัมภาษณ์บอสปวิณ ราว 1 ชั่วโมงเศษ ในช่วงท้ายของรายการ ได้มีการพูดถึงประเด็นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย ที่ในตอนนี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่และไม่มีทางออกที่ชัดเจน ซึ่งการเป็นทีมใหญ่ของ บีจี ปทุม จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นกระบอกเสียงแก่เพื่อนสมาชิก ส่วนเรื่องปิดท้ายของการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ได้พูดถึงการนำ Rabbit girl กลับมาสร้างสีสันในสนามอีกครั้ง

ลิขสิทธิ์บอลไทย

วันที่มีการเรียกทั้ง 16 ทีม จากไทยลีก 1 เข้าประชุมเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอล ซึ่ง 3 ทีมยักษ์ใหญ่เป็นหัวโต๊ะ คือ การท่าเรือ บุรีรัมย์ และ บีจี ปทุม ที่ได้กล่าวในทางเดียวกันว่าไม่มีปัญหา ไม่ว่าทางออกจะจบด้วยการแยกตัวจากสมาคม เพื่อไปตั้งบริษัทบริหารกันเอง, การให้ 16 ทีม เป็นส่วนหนึ่งของหุ้นส่วนบริหารสมาคม หรือยอมรับเงื่อนไขจากผู้ที่ประมูลมา 50 ล้านบาท โดยบอสปวิณ ได้มีการกล่าวว่าทาง บีจี ปทุม ก็ได้นำประเด็นเหล่านี้กลับมาศึกษาถึงข้อดี-ข้อเสีย เพื่อนำไปแสดงความเห็นในการประชุมครั้งต่อไป แต่หากเป็นความคิดของบอสปวิณ เพียงคนเดียว ก็มองว่าทั้ง 16 ทีม จะต้องจับมือกันไว้ให้แน่นและนำความเป็นกลุ่มก้อนไปขายลิขสิทธิ์ ซึ่งมันจะเป็นการช่วยทีมขนาดเล็ก ให้มีกำลังพอที่จะสู้ทีมใหญ่ เพราะหากปล่อยให้ต่างคนต่างทำ ต่างไปออกไปหาช่องทางถ่ายทอดสดกันเอง ทีมใหญ่จะยิ่งทิ้งห่าง และทีมเล็กจะอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ กระนั้น บีจี ปทุม ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการถ่ายทอดสดในช่องของตัวเอง ถ้าสุดท้ายการเจรจาไม่บรรลุผล

สัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3
สัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3

reunion Rabbit girl

ในช่วงที่ฟุตบอลเริ่มบูมเมื่อราว 10 ปีก่อน บีจี ปทุม ถือว่าเป็นทีมแรกๆที่นำสาวสวยใส่หูกระต่ายมายืนเชียร์ทีมในทุกนัด กระทั่งกลายเป็นสัญลักษณ์ในชื่อ Rabbit girl และในช่วงหลังก็ได้มีการคัดเลือกเข้ามา แต่ในช่วง 2-3 ปีหลัง กลับไม่มี Rabbit girl เหมือนดังที่เป็นมา นั่นจึงทำให้แฟนบอลเข้ามาถาม และบอสปวิณ ได้ตอบกลับมาว่า สโมสรได้เล็งเห็นถึงประเด็นนี้ ทำให้ปีหน้าจะมีการ Reunion Rabbit girl โดยจะเรียก Rabbit girl ทุกชุด ตั้งแต่รุ่นแรกเมื่อปี 2009 เพื่อเข้ามาช่วยกันเชียร์บริเวณ south stand ฉะนั้นหากใครอยากเจอ Rabbit girl ในยุคบุกเบิก ก็สามารถมาเจอได้ที่สนามในฤดูกาลหน้า

ส่วน BG Man อาจจะเหลือเพียงตำนาน เพราะ 2 คน ที่เคยทำหน้าที่ ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในท้องที่จังหวัดปทุมธานีแล้ว ขณะที่มาสคอร์ต กฎการแข่งขันแจ้งว่าไม่สามารถลงมาในสนามได้ นั่นจึงทำให้บอสปวิณ ไม่มีความคิดจะนำกลับมาอีก

สัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3
สัมภาษณ์ บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 3

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปบทสัมภาษณ์บอสปวิณ ครั้งที่ 2 ปี 2023 (ตอนที่2)

บทสัมภาษณ์บอสปวิณ การคว้าตัวเจ ชนาธิป อัพเดทเรื่องสนามแข่ง

ในช่วงครึ่งแรกของรายการ บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ได้อัพเดทถึงเรื่องสนามแข่ง สนามซ้อม ตั๋วปี และเสื้อแข่งขัน ส่วนในครึ่งหลังของรายการ ก็ได้พูดถึงการเสริมทัพของ บีจี ปทุม ว่ามีเป้าหมายอย่างไรสำหรับฤดูกาลที่มาถึง ขณะที่การเสริมทัพนักเตะก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการคว้าตัว เจ ชนาธิป กลับมาเล่นในไทย นอกจากนี้ยังพูดถึงนักเตะที่ต้องเก็บกระเป๋าออกจากทีม ว่ามีเหตุอะไรที่ต้องแยกทางกัน ซึ่งทั้งหมดได้สรุปไว้แล้วด้านล่างนี้

การเสริมทัพนักเตะ และ เป้าหมายในฤดูกาลหน้า

การปลด แมตต์ สมิธ เป็นการจากกันด้วยดีตามวิถีทางฟุตบอล และในตอนนี้ก็ได้กลับไปเรียนโค้ชที่ประเทศออสเตรเลียบ้านเกิด ส่วนการดึงโค้ชธง ธงชัย สุขโกกี เข้ามาเป็นเฮดโค้ช ก็เพราะเล็งเห็นถึงฝีมือและแนวคิดจาการทำช่อง Youtube อีกทั้งความสัมพันธ์กับโค้ชธง ก็มีมาอย่างยาวนานและใกล้ชิดยิ่งขึ้นเมื่อมาคุมทีม นครปฐม ยูไนเต็ด สุดท้ายจึงไว้วางใจให้เข้ามาคุม บีจี ปทุม โดยไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องถึงแชมป์ เพราะเมื่อไรที่ตั้งเป้าหมาย ก็มักจะผิดหวังเสมอ แต่จากการประเมินวัตถุดิบนักเตะ บอสปวิณ มองว่าอย่างน้อยก็ควรจบท็อปโฟร์ ขณะที่การดึง เนติพงษ์ ศรีทองอิน เข้ามาเป็นโค้ชกองหน้าของทีมชุดเยาวชน ก็ได้พ่วงงานชุดใหญ่ไปด้วย เพราะตัวโค้ชมีความสนุกกับงาน เช่นเดียวกับนักเตะที่อยากเรียนรู้วิชา โดยเฉพาะการปั้น กุดต๊าฟสัน ที่อันเฟรดตั้งใจจะถ่ายทอดวิชาให้เป็นศูนย์หน้าตัวท็อปให้ได้   

บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2
บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2

 การซื้อตัว ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ถือเป็นดีลใหญ่สุดของตลาดซื้อขายรอบนี้ โดย บีจี ปทุม ได้ยื่นซื้อและแสดงความสนใจอย่างจริงจัง ซึ่งทางฝั่งนักเตะเอง ก็มีความต้องการให้ดีลนี้จบลงก่อนจะไปเล่นให้ทีมชาติไทย ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ทำให้การคุยกับ ฟอนตาเล่ ต้องรีบคุยให้จบใน 3 วัน สุดท้ายจบด้วยการจ่ายเงินซื้อขาด 70 ล้านบาท ขณะที่ในรายอื่น บอสปวิณได้อัพเดทแบบรายตัว ไล่ตั้งแต่ ธีรศิลป์ มีสัญญาถึงอายุ 37 ปี ถ้าไหวก็พร้อมต่อ, การดึง วิคเตอร์ กลับมา ก็เพื่อเป็นพี่เลี้ยงนักเตะต่างชาติและผู้นำทีมในห้องแต่งตัว สุดท้าย ชาตรี ฉิมทะเล ได้ส่งเจ้าตัวไปฝึกหัดเป็นโค้ชชุดเยาวชน หลังจากแขวนสตั๊ดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

ฝั่งขาออก วรชิต ต้องการโชว์ฟอร์มเก่งต่อเนื่องที่การท่าเรือ จึงต้องจำยอมขายขาด, ปฐมพล ไม่ลงตัวกับระบบใหม่ จึงปล่อยออกจากทีมถาวร,  ศิวกร เตียนตระกูล ตกลงค่าตัวกับ เชียงราย แล้ว แต่นักเตะไม่อยากย้าย ดีลนี้จึงพับเก็บลงลิ้นชัก สุดท้ายนักเตะที่ถูกปล่อยไปอยู่กับทีมพันธมิตร โดยเฉพาะ เชียงใหม่ เอฟซี ก็ได้มีปล่อยตัวเพื่อลดค่าใช้จ่าย

บทสัมภาษณ์บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2
บทสัมภาษณ์ บอสปวิณ ภิรมณ์ภักดี ปี 2023 ตอนที่ 2

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

วิเคราะห์-ฟันธงแชมป์ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2023/24

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์แบบตัวเต็

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 จะเริ่มต้นออกสตาร์ทในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งในช่วงปิดฤดูกาลราว 2 เดือน ทุกทีมต่างเตรียมความพร้อมเพื่อให้เป้าหมายประสบความสำเร็จ และในส่วนของทีมลุ้นแชมป์ ถือว่าดุเดือดตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เพราะทุกทีมต่างเสริมนักเตะแบบไม่มีใครน้อยหน้า ฉะนั้นในบทความนี้ เราจะมาวิเคราะห์ถึงทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์แบบตัวเต็ง ไปจนถึงม้านอกสายตาที่อาจสร้างปรากฏการณ์ให้ต้องตะลึ่ง  

เต็งแชมป์ กับ ผู้ท้าชิง

 เต็งแชมป์ยังไงก็ต้องให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่แม้จะพลาดท่าในถ้วยไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ  แต่ด้วยทรงบอลในบางช่วงก็ยังดูน่ากลัวอยู่ อีกทั้งตัวต่างชาติที่เสริมเข้ามาใหม่ หากเข้าที่เข้าทางเมื่อไร เชื่อยังไงก็น่ากลัว ส่วนผู้ท้าชิงคนสำคัญขอยกให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เริ่มเตรียมทีมตั้งแต่ปลายฤดูกาลที่แล้ว ด้วยการดึงโค้ชธง มาคุมทีม พร้อมกับทำบิ๊กดีลด้วยการพา ชนาธิป กลับบ้าน ทำให้แผงกองกลางจัดว่าแข็งปานหิน เพราะอุดมไปด้วยตัวทีมชาติทั้งสิ้น แต่จะได้มากหน่อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับแผนงานของโค้ชธง กลับกันหากหลุดโค้งแบบไม่มีลุ้นแชมป์ นี่จะเป็นความล้มเหลวของทีมและตัวโค้ชธง

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 วิเคราะห์-ฟันธงแชมป์ 2023/24
ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 วิเคราะห์-ฟันธงแชมป์ 2023/24

ตัวสอดแทรก

 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ถูกจัดให้เป็นเต็งลุ้นแชมป์ทุกปี แต่ไม่น่าเชื่อว่าทีมใหญ่อย่างแข้งเทพ จะหลุดโค้งในช่วงปลายเลกแรกถึงต้นเลกสองเป็นประจำทุกปี กระทั่งท้ายจบฤดูกาลด้วยบทบาทพระรองมาตลอด ฉะนั้นก็ยังเชื่อว่า บียู จะต้องอกหักไปอีกปี แม้จะพึ่งคว้าแชมป์แรกมาได้หมาดๆ ขณะที่ตัวสอดแทรกอีกทีมคือ การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งเป็นทีมใหญ่ มีเงินหนา และเคยคว้าแชมป์บอลถ้วย แต่ยังไม่เคยไปถึงการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด เพราะการบริหารทีมยังไม่มืออาชีพพอ ฉะนั้นการทำผลงานให้ดีอย่างสม่ำเสมอ อันดับอยู่หัวตาราง หรือมีลุ้นแชมป์แบบห่างๆ คงเป็นที่น่าพอใจสำหรับบอร์ดสิงห์เจ้าท่า   

ม้ามืด-ตัวละครลับ 

 ชลบุรี เอฟซี ปรับโครงสร้างทีมด้วยการดึงโค้ชเทกุซัง มาทำทีมตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้เชื่อได้ว่าฉลามชลจะต่อกรกับทีมใหญ่ได้อย่างแน่นอน แต่ปัญหาของทีมคงหนีไม่พ้นเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะ ที่มักเดี้ยงระนาวเมื่อถึงช่วงกลางฤดูกาล ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้ ชลบุรี ต้องหมดลุ้นแชมป์มาหลายปีแล้ว ฉะนั้นหากแก้ตรงจุดนี้ได้ ก็เชื่อว่าพวกเขาพร้อมจะเป็นตัวสอดแทรกอีกทีม

เมืองทอง ยูไนเต็ด อาจจะไม่เหลือสภาพของความเป็นทีมใหญ่ แต่จากผลงานที่ผ่าน 2 ฤดูกาล ก็จะเห็นได้ว่าพวกเขาสามารถโกยแต้มจนขึ้นมาจบอันดับ 4 ได้ ฉะนั้นหากพวกเขามีความผิดพลาดน้อยลงกว่านี้ การคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 5 อาจจะพอมีหวังอยู่บ้าง

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 วิเคราะห์-ฟันธงแชมป์ 2023/24
ศึกฟุตบอลไทยลีก1 วิเคราะห์-ฟันธงแชมป์ 2023/24

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สถานการณ์บีบคั่น โค้ชไม่ใช้ สัญญากีดกัน การกลับไทยลีก จึงเป็นคำตอบ ?

การกลับไทยลีก ของ เจ ชนาธิป เพื่อหาโอกาสให้ตัวเองลงเล่น

การกลับมาเล่นไทยลีก ของ เจ ชนาธิป ในรอบกว่า 7 ปี ถูกมองว่าไวกว่าที่คิดไว้ เพราะด้วยอายุและฝีเท้าที่ยังเล่นเจลีกได้แบบสบาย อีกทั้งยังไม่เคยได้แชมป์จากแดนอาทิตย์อุทัยเลยสักหน กระนั้นหากดูจากสถานการณ์ที่โค้ชโอนิกิ ไม่ยอมส่งลงเล่น สัญญาที่กีดกันไม่ยอมปล่อยให้ทีมอื่นในเจลีก การกลับไทยลีก จึงเป็นทางเลือกที่ เจ เลือก เพื่อหาโอกาสให้ตัวเองลงเล่น

การย้ายจาก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ มาสู่ คาวาซากิ ฟอนตาเล่ มีค่าตัวสูงถึง 130 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าบอร์ดบริหารทัพโลมาฟ้าดำ มองเห็นถึงฝีเท้าว่าสามารถเล่นกับทีมได้ อีกทั้งคาดหวังว่าจะสร้างมูลค่าทางการตลาดให้ทีมได้ ส่วนโค้ชอย่างโอนิกิ ในช่วงแรกก็ส่งลงสนามและมักเปลี่ยนตัวออกเมื่อเกมครบ 1 ชั่วโมง กระทั่ง เจมีอาการบาดเจ็บบ่อย จนต้องไปต่อคิวเพื่อหาลงสนาม โดยตรงจุดนี้ถือว่าเข้าใจได้ แต่เมื่อ เจ ชนาธิป ไม่มีอาการบาดเจ็บ ซ้อมตามที่โค้ชบอก หรือเข้าไปถามอนาคตของตัวเอง โค้ชก็มักบอกว่ายังอยู่ในแผน มีทักษะที่ดีเยี่ยม แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือ ถ้าอยู่ในแผน ทำไมถึงไม่ให้ลง ?

การกลับไทยลีกของเจ ชนาธิป ในรอบกว่า 7 ปี
การกลับไทยลีกของเจ ชนาธิป ในรอบกว่า 7 ปี

เมื่อสถานการณ์ของ เจ ชนาธิป เกิดความอึดอัดและไม่มีโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมออีกแล้ว มันจึงมี 2 ทางเลือก คือรอให้ โอนีกิ โดนปลด ซึ่งมันมีโอกาสเป็นได้ เพราะผลงานย่ำแย่ แต่ก็ยากเพราะระบบของทีมไม่ได้ปลดโค้ชกันง่ายๆ กับอีกทางเลือก คือย้ายไปอยู่ทีมอื่น ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่า อย่างไรเสียเมื่อเอาสัญญามาเปิดอ่าน มันมีการระบุว่า ฟอนตาเล่ จะไม่ปล่อยยืมหรือขายขาดให้ทีมในเจลีกด้วยกัน เว้นเสียว่าเป็นทีมจากต่างประเทศ หรือประเทศบ้านเกิดอย่างไทยลีก ถึงจะยอมตั้งโต๊ะเจรจาด้วย

ทันทีที่ เจ ชนาธิป แสดงความจำนงว่าอยากย้ายทีม สโมสรจากไทยก็ได้ให้ความสนใจหลายทีม แต่มีเพียง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมเดียว ที่ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการ ด้วยการยื่นซื้อขาด 70 ล้านบาท และประเคนค่าเหนื่อย 2 ล้านบาท / เดือน ในระยะสัญญา 2 ปี นั่นจึงทำให้ดีลนี้จบอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเป็นการปิดฉาก 7 ปี ของ เจ ชนาธิป ที่มาค้าแข้งยังเจลีก แม้จะไม่ได้แชมป์ใดๆติดมือ แต่การเป็นตัวหลักให้กับ ซัปโปโร่ มันก็ได้สร้างให้ชนาคุง กลายเป็นหนึ่งในตำนานของทัพเค้าแมวไปแล้ว

การกลับไทยลีก ของเจ ชนาธิป ในรอบกว่า 7 ปี

การกลับไทยลีก ของเจ ชนาธิป ในรอบกว่า 7 ปี

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“3 แต้ม ประเดิมโค้ชธง” บีจี ปิดท้ายซีซั่นสุดว้าวุ่น เฉือน ชลบุรี 1-0  

เกมสุดท้าย ศึกรีโว่ไทยลีก บีจีเฉือนชลบุรี ประเดิมโค้ชธง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 ซึ่งเป็นเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้ บีจี ที่พึ่งได้โค้ชธง เข้ามาทำงาน วันนี้จะประเดิมคุมทัพรับ ชลบุรี เอฟซี ที่มีโค้ชดุลย์ รับหน้าที่กุนซือชั่วคราวเป็น เกมสุดท้าย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3 ส่วนทีมเยือนมาในแผนถนัดอย่าง 4-4-2

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น บีจี ปทุม ผ่านบอลกลางสนามได้ลำบากมาก แต่เมื่อขึ้นจากริมเส้นทั้ง 2 ข้าง มันช่วยสร้างโอกาสได้พอสมควร โดยทางฝั่งซ้ายจะจ่ายแทงริมเส้นให้ พิธิวัต เพื่อหาช่องจ่ายไปหน้ากรอบเขตโทษ ส่วนริมเส้นฝั่งขวา กุดสตาฟ์สัน จะกระชากลากบอลจนสุดเส้นแล้วเปิด แต่การจบสกอร์ค่อนข้างน่าผิดหวัง ขณะที่ ชลบุรี การยืนป้องกันในแดน 1-2 ทำได้ดี แต่เมื่อต้องลงไปรับในแดน 3-4 การป้องกันค่อนข้างหละหลวม ไม่ต่างจากเกมสวนกลับที่แม้จะเน้นการสาดบอลยาว แต่มันก็มีจังหวะที่แนวรับเจ้าถิ่นพลาด กระนั้นแนวรุก 2 คน ก็ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยด้วยการยิงแบบไม่มีลุ้น

เกมสุดท้าย ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 บีจี เฉือนชนะชลบุรี 1-0

เกมสุดท้าย ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 บีจี เฉือนชนะชลบุรี 1-0

ครึ่งหลัง รูปเกมไม่ต่างจาก 45 นาทีแรก โดยทางฝั่ง บีจี ปทุม มีโอกาสจบสกอร์เรื่อยๆ ซึ่งดูดีขึ้นเพราะยิงเข้ากรอบ แต่ดันเข้ามือชนินทร์ ที่ยืนตำแหน่งถูกจนคว้าบอลได้สบายมือ กระทั่งท้ายเกม บีจี ปทุม ควรได้ประตู เพราะ สารัช ยิงข้ามเส้นไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินไม่เห็น นักเตะไม่ประท้วง และที่สำคัญคือเกมนี้ไม่มี VAR นั่นจึงทำให้ ชลบุรี พยายาม ส่งตัวรุกที่เก็บบอลไว้กับตัวได้ดี อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รอดเงื้อมมือขุนพลกระต่ายแก้ว ที่ยิงประตู 1-0 ในนาทีที่ 90+1 โดยจังหวะนี้ แนวรับฉลามชลป้องกันอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ต้องชม มารุฮาชิ ที่พาบอลหลบแนวรับ แล้วจ่ายใส่เท้า ธีรศิลป์ ที่ยิงแบบสะกิดไขว้

บทสรุปจากเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีรูปแบบการเล่นที่ดูชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะการขึ้นบอลจากริมเส้นทั้ง 2 ฝั่ง ที่มีการเคลื่อนที่และการเล่นร่วมกันที่ดูเข้าท่า ต่างจากก่อนหน้านี้ที่เน้นการกระชากแบบฉายเดี่ยว กระนั้นก็ยังต้องปรับปรุงเรื่องการจบสกอร์ที่ใช้โอกาสเปลื้อง และต้องรอนานเกือบจบเกมถึงจะได้ประตูชัย เช่นเดียวกับเกมรับที่ต้องไม่พลาดง่ายๆเมื่อเจอลูกสาดยาว ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี เอฟซี การยืนป้องกันแดนกลางได้สร้างความลำบากให้เจ้าบ้าน แต่เมื่อบอลทะลุไปถึงแดน 3-4  กลับมีช่องให้ถูกโจมตี ซึ่งการยืนตำแหน่งของแนวรับและผู้รักษาประตู อาจจะช่วยทีมได้ แต่เขื่อนดันมาแตกท้ายเกมเสียอย่างนั้น ขณะที่เกมรุกเน้นสาดบอลยาวและโอกาสน้อยก็จริง แต่มันน่าเสียดายที่คู่แข่งพลาด แล้วฉวยโอกาสทำประตูนำไม่ได้ มิเช่นนั้นเกมนี้อาจมีแต้มกลับบ้านก็เป็นได้

เกมสุดท้าย ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 บีจี เฉือนชนะชลบุรี 1-0

เกมสุดท้ายศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 บีจี เฉือนชนะชลบุรี 1-0

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

วิเคราะห์ก่อนเกมรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 (วันอาทิตย์)

รีโว่ไทยลีกนัดที่ 28 วิเคราะห์เกมโปรแกรมวันอาทิตย์

ศึกฟุตบอล รีโว่ไทยลีกนัดที่ 28 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ถือเป็นวันที่ทีมใหญ่ต่างลงสนามอย่างพร้อมเพรียง โดยการขับเคี่ยวอันดับที่ 3 เพื่อลุ้นไปเล่น ACL ถือเป็นโควตาที่หลายทีมยังมีลุ้น ฉะนั้นความพร้อมของทุกทีมจะเป็นอย่าไร และใครจะมีโอกาสเก็บแต้มตามเป้าหมาย นับจากนี้เราจะไปไล่เรียงกัน

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (17.30 น.)

          ทั้ง 2 ทีม พึ่งพบกันไปในรายการบอลถ้วย ทำให้เกมนี้จะเป็นนัดที่ 3 ในฤดูกาล ที่ทั้งคู่จะได้พบกัน โดยทางฝั่ง บุรีรัมย์ คว้าแชมป์ไทยลีกอย่างเป็นทางการแล้ว อีกทั้งการเจอกับ การท่าเรือ ก็ค่อนข้างผูกขาด เพราะนับตั้งแต่ปี 2015 ปราสาทสาฟ้าไม่เคยแพ้ต่อสิงห์เจ้าท่า โดยอย่างเก่งที่สุดคือยันเสมอ นั่นจึงทำให้นี่จะเป็นอีกเกมที่แชมป์ไทลีก 8 สมัย จะคว้า 3 แต้มนี้เข้ากระเป๋า  

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด (18.00 น.)

          เมืองทอง พึ่งสร้างสถิติด้วยการคว้าชัยชนะ 8 เกมติดต่อกัน ทำให้อันดับขยับขึ้นมาอยู่หัวตารางในอันดับ 3 ซึ่งมีล้นโควตา ACL แบบเต็มๆ ส่วนทางฝั่ง เชียงราย การเก็ยชัยชนะจัดว่ายากเย็น ทำให้สถิติการออกไปเล่นเป็นทีมเยือน มักไม่ได้ 3 แต้ม กลับมา กระนั้นเกมนี้ กว่างโซ้งมหาภัย มีสถิติการเล่นที่สนามนี้ไม่ค่อยเป็นใจและมักคว้า 1 แต้ม ฉะนั้น กิเลนพยอง น่าจะเก็บ 3 แต้ม ได้         

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบกับ ราชบุรี เอฟซี (18.30 น.)

          บีจี ปทุม ต้องติดตามว่าจะส่งผู้เล่นแบบเต็มศึกอันตราศึกหรือไม่ เพราะเกมกลางสัปดาห์นี้ พวกเขามีเกมสำคัญที่จะต้องลงเล่นในถ้วยลีกคัพ รอบรอชนะเลิศ ซึ่งคู่แข่งก็ไม่ใคร นั่นคือ ราชบุรี ทีมที่พวกเขาต้องเจอในศึกบอลถ้วยต่อทันที อย่างไรเสียหากดูจากฟอร์มการเล่น บีจี มีความแข็งแกร่งในบ้านพอสมควรและมีอาสทุบหม้อข้าว ฉะนั้นเกมนี้น่ะเป็นทางฝั่ง กระต่ายแก้ว ท่เฉือนชะออกปได้

พีที ประจวบ เอฟซี พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (19.00 น.)

           ประจวบ กับการเก็บ 6 แต้มจาก 3 นัด มันช่วยให้พวกเขากระโดดขึ้นมาอยู่โซนปลออภัย หลังจากช่วงเดือนที่แล้ว พวกเขาร่วงลงไปอยู่ในโซนแดง เนืองจากไม่ชนะใครมาหลายนัด แต่ก็มิอาจไววางใจใดๆได้เมื่อดูจากอันดับในตาราง ที่ยังไม่ห่างจากอันดับที่ 14 ส่วนทางฝั่งบียู ผลงานไม่ได้ย่ำแย่อะไร เพราะมีแต่ชนะ และเสมอในลำดับรองลงมา ฉะนั้นจึงมาองได้ว่า มองว่า แข้งเทพ จะเฉือนชนะไปได้

รีโว่ไทยลีกนัดที่ 28 วิเคราะห์-รีวิวก่อนเกม โปรแกรมวันอาทิตย์

รีโว่ไทยลีกนัดที่ 28 วิเคราะห์-รีวิวก่อนเกม โปรแกรมวันอาทิตย์

รีโว่ไทยลีกนัดที่ 28 วิเคราะห์-รีวิวก่อนเกม โปรแกรมวันอาทิตย์

รีโว่ไทยลีกนัดที่28 วิเคราะห์-รีวิวก่อนเกม โปรแกรมวันอาทิตย์

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

รีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 (วันเสาร์)

รีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 (โปรแกรมวันเสาร์) สรุปผลการแข่งขัน

รีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 (วันเสาร์) บทสรุปของแชมป์จบลงเป็นที่เรียบร้อย แม้จะต้องเจอกับพายุฝน จนเกมต้องหยุดพักเบรค ส่วนเกม ขอนแก่น เฉือนชนะ ลำพูน ความเดือดทะลุปรอท เมื่อประธานสโมสรออกมาโพสต์หลังเกม ขณะที่เกมอีก 2 คู่ จะมีอะไรบ้าง นับจากนี้เราจะไปไล่เรียงกัน

ราชบุรี เอฟซี 1-1 พีที ประจวบ เอฟซี

          เกมคู่นี้ พีที ประจวบ ต้องพยายามเก็บแต้มออกไปให้ได้ เพื่อให้การหนีตกชั้นไม่กดดันจนเกินไป ส่วน ราชบุรี ผลงานไม่ดี ชนะน้อย และอันดับค่อยๆถอยหลังลงคลอง แต่เกมในครึ่งแรก ราชบุรี นำไปก่อน 1-0 ในช่วงท้าย จากนั้นในครึ่งหลัง ต่อพิฆาตรอโอกาสอยู่นาน กระทั่งมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 และเก็บแต้มออกมาได้สำเร็จ ทำให้อันดับขยับขึ้นไปรั้งที่ 11 ของตาราง

สุโขทัย เอฟซี 2-0 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

          สุโขทัย น่าจะเป็นอีกทีมที่อยู่รอด แต่ถ้าให้ชัวร์ก็ต้องเก็บแต้ม หรือคว้าชัยชนะให้ได้ ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม เกมนี้เหมือนเล่นเพื่อสุขภาพ เพราะอันดับในลีกไม่มีอะไรลุ้น อีกทั้งยังมีเกมบอลถ้วยกลางสัปดาห์ ฉะนั้นพวกเขาจำเป็นต้องการเก็บความสดแบบเต็มถัง ทำให้เกมที่ออกมา ค้างคาวไฟจัดการยิงเบิ้ล 2 ประตู ตั้งแต่ครึ่งแรก ทำให้ 3 แต้มของเจ้าบ้าน ขยับห่างจากโซนตั้ง 6 คะแนน  

ขอนแก่น ยูไนเต็ด 1-0 ลำพูน วอริเออร์

          3 แต้ม ของเกมนี้ ชี้วัดถึงการอยู่รอดของทั้ง 2 ทีม เพราะสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัยทั้งคู่ แต่เกมเริ่มไปได้ 15 นาที ลำพูน ต้องเล่น 10 คน ก่อนที่ในครึ่งหลังจะยื้อไม่ไหวและโดน ขอนแก่น ยิงนำ 1-0 จากนั้นในช่วงท้ายเกม ราชันโคขาวเหลือ 9 คน แต่ไม่เสียประตูเพิ่ม อย่างไรเสียหลังจบเกม บอสตาลได้ออกมาโพสต์แบบดุเดือด ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ตัดสิน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการฟ้องร้องไปยังสมาคมหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อ ส่วนการคว้า 3 แต้ม ของจงอางผยอง ช่วยให้อันดับขยับขึ้นมาอยู่บนโซนปลอดภัย แต่สถานการณ์ยังไว้วางใจอะไรไม่ได้  

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

          หาก บุรีรัมย์ เก็บ 3 แต้ม ในเกมนี้ได้ พวกเขาจะการันตีการคว้าแชมป์สมัยที่ 8 ทันที แล้วเพียงแค่ 30 นาที พวกเขาก็บุกมาก่อน 0-1 จากนั้นในครึ่งหลัง เกมต้องหยุดชั่วคราวเพราะมีพายุฝน ก่อนจะกลับมาลงแข่งขันกันต่อ ปราสาทสายฟ้ายิงทิ้งห่างเป็น 0-2 และ เชียงราย ยิงตีตื้นแบบทันควัน 1-2 แต่ก็ไล่ไม่ทัน ทำให้ทีมเยือนเป็นแชมป์ไทยลีกสมัยที่ 8 ทันที  

สรุปผลการแข่งขัน ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัด 27 วันเสาร์


สรุปผลการแข่งขัน ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัด 27 วันเสาร์


สรุปผลการแข่งขัน ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัด 27 วันเสาร์

ผลการแข่งขัน ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัด 27 วันเสาร์

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ขนาดบ๊วยยังคาบ้าน

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กู่ไม่กลับ เปิดบ้านพ่ายบ๊วย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ผลงานย่ำแย่แบบสุดๆ จนแฟนบอลรวมตัวขับไล่ แมตต์ สมิธ ให้พ้นจากตำแหน่ง

วันนี้จะต้องพบทีมอันดับสุดท้ายอย่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ยังคงจมอยู่ในโซนตกชั้นแบบไม่มีวี่แววว่าจะขยับตัวเองขึ้นมาได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนวางผัง 4-3-3

      บีจี ปทุม เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าชัดเจนก็จริง แต่เหมือนไม่รู้ว่าจะเข้าทำในแดน 3-4 อย่างไร ซึ่งจากที่เห็นคือ การให้บอลแบบไดเรคแก่กองหน้า หรือขึ้นทางริมเส้นแล้วให้กันไปมา จนเมื่อไรที่พอจะมีช่องว่างก็จะเปิดบอลเข้าไป กระนั้นในนาทีที่ 28 บีจี ปทุม ได้จุดโทษขึ้นนำ 1-0 เพราะแนวรับทีมเยือนไปทำฟาวล์ในเขตโทษ

แต่ไล่หลังไม่นาน หนองบัว พิชญ ก็มาได้จุดโทษตีเสมอ 1-1 จากการถูกทำฟาวล์ในนาทีที่ 36 ไม่เพียงเท่านั้น พญาไก่ชน มาได้ประตูแซงนำ 1-2 จากการไหลบอลให้กันด้านข้าง ก่อนจะลากไปมุมแคบและยิงเสาแรก ซึ่งแนวรับและผู้รักษาประตูของเจ้าบ้าน ต้องรับความผิดพลาดนี้แบบเต็มๆ

ครึ่งหลังเริ่มไม่ได้ไม่ถึงนาที หนองบัว พิชญ ทิ้งห่าง 1-3  ซึ่งแนวรับเจ้าถิ่นยืนมองแต่ไม่เข้าประกบ ทั้งตัวเปิดและคนโหม่งอย่าง ทาเดร์ลี่ จากนั้น บีจี ปทุม โหมบุก แล้วมันก็เห็นถึงรูปแบบที่ไม่มีความชัดเจน เพราะเน้นทักษะเฉพาะตัวของผู้เล่นเป็นหลัก ไม่เพียงเท่านั้น การสวนกลับของทีมเยือน ยังมีโอกาสที่หวาดเสียวและน่าได้ประตูทิ้งห่างมากกว่าเสียอีก

      บทสรุปจากเกม บีจีปทุม ยูไนเต็ด คงต้องตัดสินใจอย่างจริงจังว่าจะปลด หรือยอมทนเห็นผลงานที่ย่ำแย่นี้จนจบฤดูกาล เพราะการคุมทีมของ แมตต์ สมิธ ไม่สามารถโค้ชชิ่งนักฟุตบอลหรือวางระบบให้ชัดเจนว่าจะเล่นอะไร โดยอย่างเกมรุกเน้นให้บอลแบบไดเรค

ขณะที่เกมรับแค่ลงไปยืน แต่ไม่รู้ว่าใครต้องทำหน้าอะไรเพื่อให้คู่แข่งมีพื้นที่น้อยที่สุด ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี จริงๆวันนี้มาเน้นเกมรับเพื่อเอาแต้ม แต่วันนี้ดันได้ 3 แต้มออกไป เพราะการตั้งรับของเจ้าบ้านหละหลวม รวมถึงเปิดพื้นที่ให้เล่นอย่างสะดวก ฉะนั้นขอแค่ให้บอลแม่นๆ วางแม่นๆ จบสกอร์คมๆหน่อย สุดท้าย 3 แต้มนี้ถือเหมาะสมและไม่ใช่เพราะโชคเข้ามาช่วยแต่อย่างใด

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ชัยชนะที่ไร้ความตื่นเต้น

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปาดเหงื่อ ก่อนเฉือน ประจวบ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในโปรแกรมวันเสาร์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่นับตั้งแต่เลก 2 ยังไม่ชนะใคร จะต้องเปิดรังปทุมธานี สเตเดี้ยม รับ พีที ประจวบ เอฟซี ทีมโซนแดงที่ผลงานอยู่ในเกณฑ์ดีและอยู่เหนือโซนตกชั้น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมาใช้ 3-4-3 ขณะที่ทีมเยือนใช้ระบบเดิมอย่าง 4-4-2

      เกมการแข่งขันเริ่มต้นมาได้ 2 นาที บีจี ปทุม ขึ้นนำก่อน 1-0 จากการยิงไกลบริเวณเส้นเขตโทษของ อภิสิทธิ์ ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนประมาท เพราะเลือกจะยืนประคองไว้โดยไม่เข้าบีบกดดัน จากนั้นกลายเป็น กระต่ายแก้วถอยลงไปตั้งรับในระบบ 5-4-1 เพื่อปิดพื้นที่ไม่ให้ พีที ประจวบ สามารถพาบอลเข้ามาในแดน 3-4 ได้ อย่างไรเสีย

ต่อพิฆาตก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 30 จากการฉีกตัวมาโหม่งเสาแรกและบอลพุ่งเสียบเสาไกล และช่วงเวลาที่เหลือราว 15 นาที กลายเป็นทีมเยือนที่เล่นดีกว่าและมีโอกาสจบสกอร์ ตรงข้ามกับเจ้าถิ่นที่หลังจากได้ประตู ก็ไม่สามารถขึ้นเกมบุกได้อีกเลย

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม ปรับเกมด้วยการต่อบอลบริเวณริมเส้น แต่จังหวะที่ต้องเข้าทำไม่ลงตัวเพราะนักเตะไม่รู้ตำแหน่งที่ต้องยืน ทำให้โอกาสยังไม่ค่อยมี กระนั้นการเปิดบอลของ สันติภาพ ไปหา ธีรศิลป์ ก็ยังดีพอที่จะเป็นประตูขึ้นนำ 2-1 จากนั้น บีจี ปทุม เล่นตามสเต็ปเดิมคือ ถอยไปตั้งรับและโดน พีที ประจวบ โจมตีด้านข้าง บอลแทงทะลุช่อง แต่สุดท้ายยังดีที่รอดตัวมาได้   

      บทสรุปจากเกม การคว้า 3 แต้ม ในเกมนี้ของ บีจีปทุม ยูไนเต็ด มันไม่ได้เห็นถึงพัฒนาที่แตกต่างไปจากเดิม อีกทั้ง 2 ประตู ก็ได้มาจากความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น โดยสิ่งที่เห็นหลักๆคือ การฝึกซ้อมที่ไม่เห็นผลลัพธ์ทั้งเกมรุกและรับ นอกจากนี้การวางแผนและแก้เกมก็ปอดแหกตาขาว เพราะเมื่อไรที่ได้ประตูนำ

ก็จะถอยไปตั้งรับประหนึ่งเป็นทีมรอง ทั้งๆที่ศักยภาพผู้เล่นเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี ความประมาทเป็นสาเหตุหลักให้พ่ายแพ้ในวันนี้ โดยเกมรับมักยืนประคองและไม่เข้าบีบ ทำให้แนวรุกคู่แข่งมีช่อง ส่วนเกมรุกมีโอกาสเรื่อยๆ แต่มันน่าเสียดายที่ความนิ่ง ความเฉียบคม มีไม่มากพอ ทำให้เกมนี้อดคว้าแต้มออกมาแบบน่าเสียดาย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Uncategorized

บทบาทเฮดโค้ช

แมตต์ สมิธ “ถูกที่ แต่(อาจ)ผิดเวลา”

ผลงานของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง ว่าการเปลี่ยนจาก เทกุระโมริ มาเป็น แมตต์ สมิธ คือ การตัดสินใจที่ถูกต้องหรือเปล่า เพราะในยุคของกุนซือชาวญี่ปุ่น ทีมอยู่กลุ่มหัวตาราง

มีจุดเด่นตรงการเล่นในบ้าน แม้ผลงานนอกบ้านจะไม่ดี กลับกันในยุคของกุนซือชาวออสเตรเลีย แค่เอาชนะยังเป็นเรื่องยาก กระนั้นการโทษที่ตัวโค้ชอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกนัก เพราะมันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เป็นเช่นนี้ รวมถึงประสบการณ์ของเจ้าตัว

นักเตะบาดเจ็บ

อย่างแรกต้องว่ากันตามตรง คือ นักเตะตัวหลักเจ็บ ซึ่งมันมีมากถึง 10 กว่าราย นั่นจึงเท่ากับว่าตัวจริงจะหลงเหลือเพียงไม่กี่คน รูปแบบการเล่น หรือการวางแท็กติก ต้องเปลี่ยนไป และท้ายที่สุด คือ ศักยภาพของทีมย่อมลดลงไป ฉะนั้นมันจึงเป็นงานที่ยากมากๆของ แมตต์ สมิธ ในการใช้นักเตะที่ศักยภาพด้อยลง แล้วคาดหวังว่าผลงานจะต้องอยู่ในระดับเดิม เพราะแม้แต่กุนซือที่มีประสบการณ์ ก็มีทั้งแก้ได้ หรือล้มเหลวไปเลยก็มี

ขนาดทีม กับ ศักยภาพโค้ช ไม่สอดคล้องกัน

บีจี ปทุม ยูไนเต็ดเป็นทีมใหญ่ในลีกไทยอย่างไม่มีใครต้องสงสัย อีกทั้งตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา พวกเขาได้ยกระดับตัวเองขึ้นมาทัดเทียม บุรีรัมย์ ด้วยการเสริมนักเตะตัวท็อปเข้ามา ซึ่งการเอา แมตต์ สมิธ เข้ามา บอร์ดบริหารอาจมองถึงโมเดลเมื่อปี 2020 ที่เอาโค้ชโอ่ง มาคุมทีมด้วยแท็กติกที่ไม่ซับซ้อน แล้วเสริมนักเตะดีๆให้

กระนั้นการเอา แมตต์ สมิธ มาคุมทีม มันเป็นโมเมนตที่ต่างออกไป เพราะขุมกำลังนักเตะบาดเจ็บ 10 กว่าราย แถมนักเตะนักตัวหลักก็มีอายุ และการเสริมเข้ามาใหม่ก็มีคุณภาพที่ต่ำลง ขณะที่เดียวกัน แมตต์ สมิธ เป็นโค้ชที่พึ่งเลิกเล่นฟุตบอลได้ไม่นาน ประสบการณ์น้อย ไม่เคยคุมทีมใหญ่ และถึงแม้ว่าผู้บริหารจะบอกว่าสามารถรอ แมตต์ สร้างทีมขึ้นมาใหม่ได้ แต่ในเมื่อตัวเองย้ำแล้วย้ำอีกว่าแนวทาง คือ ธุรกิจฟุตบอล การปล่อยให้ทีมผลงานแย่ แฟนบอลลดลง ของขายไม่ได้ บอร์ดบริหารย่อมไม่ปล่อยให้ไปถึงจุดนั้นอีกแน่ๆ สุดท้ายถ้าผลงานไม่ดี ยังไงกระต่ายแก้วต้องเปลี่ยนโค้ชแน่นอน

แมตต์ สมิธ ยังมือไม่ถึง

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีวัฒนธรรมในการใช้โค้ชแบบระยะสั้นเหมือนเชลซี ฉะนั้นหากต้องการสร้างทีมด้วยตัวผู้เล่นที่เป็นเด็ก ก็จำเป็นจะต้องหาโค้ชที่พอมีประสบการณ์ในระดับหนึ่งและต้องการพิสูจน์ตัวเองในระดับสูง มิใช่เลือกโค้ชมือใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านงาน

เพราะสุดท้ายสโมสรเสียหาย ผลงานไม่ดี ขณะที่โค้ชก็เสียความมั่นใจและประวัติการทำงาน กลับกันหาก แมตต์ ทำงานโค้ชมาแล้วกับทีมอื่น และผลงานดี การเข้ามาคุมทีมอาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover