Categories
Sport

“พ่อย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก”  

บุรีรัมย์ปล่อย ศุภโชค “พ่อย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก”  

นับตั้งแต่ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ จบลงเมื่อต้นปี ข่าวลือว่า ศุภโชค สารชาติ จะย้ายไปเล่นในเจลีกก็ลือหึ่งขึ้นมาทันที กระทั่งในท้ายที่สุด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทีมเก่าของ ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ได้กระชากเจ้าเช็คไปจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน ซึ่งในดีลนี้ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์เล็กๆที่พ่อเนวินยอมปล่อย เพราะตัวนักเตะถือเป็นตัวหลักคนสำคัญของทีม

หากย้อนกลับไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน สโมสรจากไทยเริ่มส่งออกนักฟุตบอลไปยังเจลีกแบบเหมาเข่ง เพาะด้วยโควต้าอาเซียนที่เจเอฟเออนุมัติขึ้น แต่สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ลั่นวาจาไว้อย่างชัดเจนว่า “ถ้าจะปล่อยนักเตะไปเล่นต่างประเทศ ต้องเป็นยุโรปเท่านั้น” การปล่อยไปเล่นลีกอื่นเอเชียไม่ขอปล่อย เพราะอยู่ที่บุรีรัมย์ก็เป็นระดับเอเชียได้ ซึ่งจากการลั่นวาจาแบบนี้ มันสื่อให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของทีม แต่จากภาพจริงที่ปรากฏในช่วง 3-4 ปีหลัง บุรีรัมย์ ได้ถูกคู่แข่งในลีกเบียดแย่งความสำเร็จไป กระทั่งการไปลุย ACL รอบแบ่งกลุ่ม เริ่มจะเหินห่างไป แล้วแน่นอนว่าความหวังที่จะส่งนักเตะไปเล่นในลีกยุโรป ย่อมเลือนลางจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ 

เมื่อปีที่แล้วหากใครยังจำกันได้ บุรีรัมย์  ได้ยอมกลืนน้ำลายตัวเองด้วยการปล่อย ศศลักษณ์ ไหประโคน ไปอยู่กับ ชนบุค ฮุนไดมอเตอร์ ในเคลีก เกาหลีใต้ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งการปล่อยตัวในครั้งนั้น ดูจะไม่กระทบต่อทีม เพราะด้วยระบบทีมที่ใช้หลัง 3 อย่างไรเสียการไปอยู่กับยอดทีมแห่งแดนโสม เจ้าพี ต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บและดูเหมือนจะไม่เข้ากับสไตล์บอลที่เน้นพละกำลังเท่าไร ต่างจากกรณีของ ศุภโชค ที่เป็นตัวหลักและไม่มีใครทดแทนได้ ฉะนั้นการปล่อยตัวออกไป ถือว่าสะเทือนต่อแนวรุกของ บุรีรัมย์ พอสมควร

ถึงตรงนี้หลายคนจึงมีคำถามว่า ทำไมพ่อเนวินถึงเลือกปล่อยเจ้าเช็คไป คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ ที่เป็นทีมกลางตารางของเจลีก คำตอบที่อาจจะบอกได้ คือ ลุงเนได้เห็นถึงพัฒนาการของนักเตะไทยที่ได้ไปเล่นในลีกญี่ปุ่น ไล่ตั้งแต่ ชนาธิป ที่สเต็ปการเล่นทุกกระบวนท่า

รวดเร็วกว่านักเตะในไทยลีก หรือเจ้าอุ้ม ธีราทร ที่พึ่งย้ายกลับมา ก็ได้เห็นถึงความฉมังของลูกฟุตบอลที่ออกจากเท้า แล้วเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมทีม ฉะนั้นเมื่อลุงเนเห็นเช่นนี้แล้ว การส่งลูกในไส้ของตัวเองไปพัฒนาฝีเท้าที่นั่น ย่อมเป็นผลดีต่อตัวนักเตะและทีมชาติ หรือหากในอนาคตถูกซื้อขาดไป ก็ไม่ใช่เรื่องที่ บุรีรัมย์ จะต้องเสียใจ

เพราะถ้านักเตะจะกลับไทยในอนาคต ปราสาทสายฟ้าย่อมได้เปรียบตรงสายสัมพันธ์อันแนบแน่นและเม็ดเงินที่พร้อมจ่าย มิหนำการได้ลูกหม้อของตัวเองคืนถิ่น มันยังมาพร้อมกับฝีเท้าที่ก้าวไปอีกขั้นด้วย ฉะนั้นหากมองดีๆ บุรีรัมย์ ไม่เสียหาย แถมได้เงิน (กรณีถูกซื้อขาด) และเป็นการซื้ออนาคตแบบทางอ้อม

สุดท้ายการปล่อยตัว ศุภโชค ในครั้งนี้ อาจเป็นแผนงานส่วนหนึ่งที่ อิชิอิ และทีมงาน มีส่วนในการตัดสินใจ มีคอนเน็คชั่นกับเจ้าของทีมในเจลีก จนทำให้ดีลนี้เกิดขึ้นเร็ว แล้วมีความสบายต่อลุงเน ศุภโชค และ คอนซาโด่เล่ ในแง่ที่ว่าจะได้รับการดูแลและพัฒนาฝีเท้าแบบคนคุ้นเคย ซึ่งแน่นอนว่ามันมีผลให้ตัวนักเตะไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนานอีกด้วย

ติดตาม Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“งานกร่อยเพราะโดนคาบ้าน “

บุรีรัมย์ อดฉลอง เพราะคาบ้านให้ บีจี ปทุม 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 25 คู่บิ๊กแมตช์ของวันอาทิตย์และสัปดาห์นี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่พึ่งพ่ายเจ็บใจต่อ แดกู ใน ACL รอบเพลย์ออฟ จะเปิดรังรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เป็นรองจ่าฝูง ซึ่งในเกมนี้เจ้าถิ่นหมายมั่นที่จะคว้าชัยเพื่อการันตีแชมป์ กระนั้นทางฝั่งทีมเยือนก็ต้องการแต้ม เพื่อเกาะตำแหน่งรองแชมป์ไปเล่นถ้วย ACL สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ปราสาทสายฟ้าใช้ 4-4-2 ส่วนกระต่ายแก้วเป็น 4-1-2-3 หรือ 4-3-3

ด้วยความที่โค้ชของทั้ง 2 ทีม เป็นญี่ปุ่น ทำให้สไตล์บอลคล้ายๆกัน คือ เมื่อฝ่ายใดเล่นเกมรุก ก็จะเคาะและผ่องถ่ายบอลให้เร็ว ส่วนเกมรับก็จะต้องบีบเร็วเพื่อแย่งบอลคืน จากนั้นเพียงแค่นาทีที่ 12 บีจี ปทุม ชิงจังหวะออกนำไปก่อนจากลูกเตะมุมที่จ่ายเลียดมาให้ สารัช ยิงบริเวณหัวกะโหลกแบบสุดสวย กระนั้นแนวรับเจ้าบ้านก็ผิดพลาดที่ถอยไปยืนอัดแน่นบริเวณหน้าประตู จนปล่อยให้พื้นที่หน้ากรอบเขตโทษว่างเกิน โดยการโดนนำอย่างรวดเร็วนี้ บุรีรัมย์ ต้องเร่งหนักขึ้น แต่ดูเหมือนว่าการขาด มาซิก้า เกมทางฝั่งซ้ายไม่ไหลลื่นและทะลุทะลวงเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งการต่อบอลก็เชื่องช้าจนโดนดัก กระทั่งเปลี่ยนมาโยนหรือวางบอลข้ามฟากเมื่อถึงแดน 3

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ พยายามบุกแบบสารพัดวิธี ไล่ตั้งแต่เคาะบอลทำชิ่ง เปิดจากด้านข้าง และวางบอลข้ามแดนรับ โดยที่กล่าวมานี้สร้างโอกาสได้หวาดเสียว แต่ก็มีที่ ศุภชัย ยิงไม่ได้เองและถูกริบประตูคืนจาก VAR ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม เน้นตั้งรับและรอสวนกลับ ซึ่งก็มีโอกาสจะยิงทิ้งห่าง แต่ อิคซาน ดันโหม่งออกไปแบบ จากนั้นกลายเป็นทีมเยือนไม่เอาและเจ้าบ้านพยายามโหมบุก โดยการรุกคืบอย่างหนักไม่ค่อยมีความอันตราย เพราะเน้นเปิดจากข้างและยิงไกลแบบรีบร้อน

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีอาการล้าและภาวะเสียกำลังใจจาก ACL ให้เห็น ซึ่งการเสียประตูแบบนี้ถือตัวเองผิดพลาดแบบเต็ม ทำให้หลังจากนั้นพยายามจะบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่ด้วยความรีบเร่งและไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดี มีผลให้การต่อบอลไม่ค่อยแม่นยำและสม่ำเสมอ แล้วยิ่งใช้บอลยาวมากเท่าไร ก็ยิ่งเสียและบั่นทอนความมั่นใจ สุดท้ายจึงต้องพ่ายคาบ้าน ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด การเล่นลูกสูตรกลายเป็นตัวแปรให้คว้า 3 แต้ม ซึ่งก็ต้องชม สารัช ที่วางเท้ายิงได้ดีเยี่ยม ส่วนอีก 80 นาทีกว่าๆ เกมรับเหมือนจะเอาไม่ค่อยอยู่เป็นบางช่วง แต่ในภาพรวมก็ไม่ได้เสียหายอะไร

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“3 แต้มนี้ จ่าฝูงยาวๆ”

บุรีรัมย์ นำเร็วและปิดเกมด้วยการเฉือน เมืองทอง 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่19 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่พึ่งกลับมารวมทีมซ้อม หลังจากต้องกักตัวและพักการแข่งขันเนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในทีม จะต้องพบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่กำลังเดินหน้าเก็บ 3 แต้มแบบรัวๆ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช่ 4-1-4-1 ตามเดิม ส่วนทีมเยือนใช้ 4-4-2

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เมืองทอง เซตบอลไม่พ้นแดนตัวเองและยังมีจังหวะจ่ายคืนพลาดจนต้องตัดฟาวล์ แล้วตรงจุดนี้ก็ได้เป็นประตูขึ้นนำ 0-1 ของบุรีรัมย์ ซึ่งยิงฟรีคลิกไม่ได้ดีหรือรุนแรงอะไรแต่ พีระพงษ์ สั่งกำแพงไม่ดีและยืนเปิดเสาแรกเยอะ ทำให้พุ่งกลับมาปัดไม่ทัน จากนั้นรูปเกมก็ยังเป็น เมืองทอง ที่ยังตั้งเกมไม่ได้ ซึ่งกว่าจะเซตบอลและขึ้นเกมบุกได้ ก็ต้องรอเกือบครึ่งชั่วโมง กระนั้นการเข้าทำในพื้นที่อันตรายเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะมันได้แต่เปิดจากริมเส้นและถูกสกัดออกมาทุกครั้ง ส่วน บุรีรัมย์ หลังจากขึ้นนำก็ไม่ดันเกมบุกดังจะเห็นได้จากแบ็ค 2 ข้างไม่เติม และปล่อยให้ปีกเล่นกันไป

ครึ่งหลัง เมืองทอง พยายามเล่นบอลด้านในและออกบอลไปยังที่ว่าง พร้อมกับลดการโยนจากริมเส้น ที่มันไม่ค่อยได้ผล แต่มันไม่ค่อยมีจังหวะจบ เพราะแนวรับทีมเยือนประกบชิดและบ็อคพื้นที่กรอบเขตโทษแน่น พลางจะยิงจากนอกกรอบก็ยังไม่ผ่านบ็อค ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ รับแล้วโต้กลับแบบต่อเนื่อง ซึ่งกลายเป็นว่าพวกเขามีโอกาสใกล้เคียงกว่า แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ ทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์เดิม

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด มีความผิดพลาดส่วนบุคคลจากผู้รักษาประตู จนทำให้เสียประตูแรก จากนั้นต้องใช้เวลานานกว่าจะตั้งเกมได้ ซึ่งหลังจากตั้งเกมได้ ศักยภาพของตัวเองก็ไม่หนักพอที่กดหัวคู่แข่ง กระนั้นก็ถือว่าพวกเขาทำได้ดีและเต็มที่ที่สุดแล้ว ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด การได้ประตูเร็ว ทำให้พวกเขาผ่อนเกมและเน้นการประคองตัว เพราะจะเห็นจากเกมรุกที่ไม่แบ็คดันสูงทุกจังหวะ แต่การโต้กลับขึ้นบอลได้ ยกเว้นจังหวะเข้าทำที่ยังดูขาดๆเกินๆ ส่วนเกมรับยืนตำแหน่งได้ดีเยี่ยมจนคู่แข่งแทบจะหมดปัญญา

โดยการเล่นแบบสบายๆกว่า 80 นาที มันมีผลให้พวกเขาไม่เหนื่อยและมีพลังเหลือล้นที่จะบดใส่คู่แข่งในเกมกลางสัปดาห์

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ไม่เร้าใจแต่มีผู้ชนะ”

บุรีรัมย์ ฟอร์มไม่ไฉไล แต่ตบ เมืองทอง เวอร์ชั่นเด็กนิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 10 ในส่วนทางค่ำคืนวันอาทิตย์ มีเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ที่ทุกคนรอคอยอยู่ นั่นคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่อยู่ในฐานะจ่าฝูงและต้องเปิดรังช้างอารีน่า รับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่อยู่ในสภาพเด็กค่อนทีม แต่ก็พร้อมจะสู้สุดใจเหมือนกัน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 4-1-4-1 เหมือนเดิม 

      เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เมืองทอง ดูกครองบอลมากกว่า เพราะพวกใช้การต่อบอลจากหลังสู่หน้าเหมือนดังที่เราเคยเห็น และถึงแม้ว่าเจ้าบ้านจะวิ่งขึ้นมาบีบ แต่ก็ไม่มีความกดดันเสียบอลหรือต้องสาดยาว โดยการต่อบอลของกิเลนผยอง สามารถต่อขึ้นมาและออกไปทางริมเส้นฝั่ง แล้วใช้การโยนไปที่หน้าประตูเป็นการโจมตี ซึ่งก็มีโอกาสให้เห็น แต่ยังไม่เหน่งพอที่จะเป็นประตู ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ เกมในครึ่งแรกดูเป็นรอง เพราะการเติม การยืนตำแหน่งในเกมรุกห่างกันและไม่สอดรับกัน ทำให้ต้องพึ่งพาการเลี้ยงฝ่า โยน หรือเปิดจากริมเส้นที่ไม่มีความแม่นยำ

ครึ่งหลัง เกมรุกของบุรีรัมย์ ยังไม่ดีขึ้น แม้ว่าจะต่อบอลมาถึงแดน 3-4 ได้มากขึ้น แต่เมื่อเข้ามาในแดนอันตรายตรงนี้ ศุภโชค ต้องเลี้ยงวนหาช่องอยู่นานสองนานตลอด ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ยังเล่นสไตล์เดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิม คือ มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ซึ่งในจังหวะที่เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 มีการจ่ายบอลเสียกลางทาง แล้วการยืนป้องกันของ ชาติชาย ก็ผิดพลาดที่ไปเสียเหลี่ยม กับ แนวรับปล่อยให้มีตัวสอดเข้ามายิงโล่งๆ

      หลังจาก เมืองทอง เสียท่าไปก่อน จึงพยายามจะทำเกมบุกสู้ แต่ก็ต้องเจอความยากลำบาก เพราะเจ้าบ้านก็ถอยมารับแน่นขึ้น ทำให้การบุกไม่ทะลุทลวงเหมือนตอนเสมอกัน นอกจากนี้ท้ายเกมยังมีความผิดพลาดในการป้องกันทั้งจากกองหลังและผู้รักษาประตู จนเสียลูก 2-0

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันนี้มาตรฐานตกไปเล็กน้อย โดยเฉพาะในครึ่งแรก ส่วนในครึ่งหลังดูดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่เกมรุกก็ยังคงเชื่อมไม่ติด กระนั้นยังดีว่าแนวรับคู่แข่งพลาดให้ แล้วตัวเองฉวยโอกาสจนคว้า 3 แต้มมาได้ ขณะที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ครึ่งแรกเล่นได้ดีกว่าเจ้าบ้าน เพราะเกมรับไม่มีข้อผิดพลาด และเกมรุกก็บุกได้ แม้จะไม่ได้ประตู กระทั่งเข้าสู่ครึ่งหลัง เกมรับดันเปิดแผลให้เจ้าบ้าน ทำให้การทวงประตูคืนลำบาก มิหนำซ้ำยังมาโดนลูก 2 ทำให้เวลาที่เหลือกลับสู่เกมลำบาก สุดท้ายจึงไม่รอดพ้นความพ่ายแพ้   

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เหลือ 10 ตัว แต่เหนือกว่า”

บุรีรัมย์ 10 ตัวไม่หวั่น ไล่ตี โคราช นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 คู่ส่งท้ายของสัปดาห์เป็นศึกดาร์บี้แมตช์อีสานใต้ ณ สนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะเจ้าถิ่นและจ่าฝูงของตาราง พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ฟอร์การเล่นยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไร สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฟากทีมเยือนใช้ 4-3-3

       ในช่วง 10 นาทีแรก จังหวะของเกมรวดเร็วและออกไปในลักษณะดักบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว อีกทั้งจังหวะที่รวดเร็วนี้ทำให้ไม่ปรากฏการขึงหรือต่อบอลไปมาให้เสียเวลา สุดท้ายการเล่นที่วัดกันจังหวะต่อจังหวะ บุรีรัมย์ กลายเป็นฝ่ายพลาดไปก่อน กับการเลือกตัดฟาวล์เป็นตัวสุดท้ายของ รัตนากร นั่นจึงทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือก นอกเสียจากให้เป็นใบแดงโดยตรง

       นครราชสีมา กลายเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบทันที แต่ความได้เปรียบนี้ไม่สามารถกดหัวเจ้าบ้านได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะศักยภาพการต่อบอลและขึงบุกไม่ใช่สิ่งที่ถนัด นั่นจึงทำให้รูปเกมที่ปรากฏจะเป็นในลักษณะที่ว่า บุรีรัมย์ ดูตื้อไปพักใหญ่ ก่อนจะตั้งตัวได้ในช่วงท้ายครึ่งแรก กับการโต้กลับขึ้นมาไม่กี่คน แล้วอาศัยการทำชิ่งและเลี้ยงฝ่าเข้าไปยิง

ครึ่งหลัง โคราช พยายามจะเปิดเกมบุก แต่ภาพก็ยังฉายซ้ำ เพราะศักยภาพไม่เทียบเคียงกับเจ้าบ้าน อีกทั้งยังเสียบอลง่ายๆมากขึ้น ซึ่งการเล่นที่ผิดพลาดนี้สวนทางกับฟอร์มการเล่นของแนวรุกบุรีรัมย์ ที่เมื่อได้บอลก็จะขึ้นเกมและมีการจ่ายแทงให้แนวรุกอยู่เนืองๆ กระทั่งได้ประตูขึ้นนำ 1-0 แม้ว่าจังหวะนี้จะมีความผิดพลาดของ ธวัชชัย ที่ถึงบอลก่อนแต่เท้าลั่น แล้วจังหวะถัดมาเป็นใจให้กับ ปิยะพล จิ้มเข้าไป จากนั้นกลายเป็นเจ้าบ้านที่เล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ขณะที่โคราช ยิ่งเล่นยิ่งบันทอนความมั่นใจ แล้วมันนำมาสู่การเสียประตู 2-0 จากความพยายามจะบังบอลให้ออกหลัง แต่ โรซ่า ฉกมาได้แล้วเอาไปล่อเป้า   

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีความผิดพลาดและเล่นไม่ได้ท็อปฟอร์ม แต่วันนี้สามารถเก็บ 3 แต้มได้เพราะ “จิตใจ” กล่าวคือ เมื่อเจอสถานการณ์ที่ย่ำแย่ แต่ก็สามารถประคองตัวให้ผ่านไปได้ กระทั่งความมั่นใจเริ่มมา ก็ได้แปรเปลี่ยนพลังตรงนี้ด้วยการเช็คบิลคู่แข่ง ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี หากมองแค่ตัวเองในการเล่นตลอด 8 นัด รวมเกมนี้ โคราชไม่เคยเล่นได้เต็มขีดความสามารถของตัวเองเลย ทำให้การเจอสถานการณ์ที่ได้เปรียบแล้วตัวเองไม่สามารถครองเกมให้เหนือกว่าได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดขึ้นกับสวาทแคท      

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เชือกกล้วยพันคองูเหลือม”

บียู ปลดล็อคสถิติโค่น บุรีรัมย์ ในถิ่น 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 4 ในส่วนของเย็นวันเสาร์ เกมบิ๊กแมตช์ของสัปดาห์นี้อยู่ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่อยากจะล้างอาย หลังจากบุกไปโดนสมุทรปราการเผาเครื่องมา กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มดีในบ้าน แล้ววันนี้ต้องออกมาเยือนเป็นนัดแรก ส่วนระบบการเล่นของทั้ง 2 ทีม ใช้ 3-5-2 มาชนกัน

        ในช่วงต้นเกมยังไม่ค่อยออกอาวุธกันเท่าไร แต่เมื่อไรที่ บุรีรัมย์ ครองบอลบริเวณกลางสนามแล้วช้า ก็จะถูกแนวรุกของแบงค็อก รุมเพรสซิ่งจนเสียแล้ว มันมีจังหวะเหน่งๆที่น่าเป็นประตู แต่ไม่ได้ จากนั้นเมื่อเกมผ่าน 10 นาที บียู เริ่มต่อบอลกับพื้นได้ แต่เมื่อเข้าแดน 3-4 ของคู่แข่ง จะเน้นการเลี้ยงฝ่า การแทง หรือทำใดๆที่ให้เกิดความรวดเร็ว ซึ่งเวลายิ่งผ่านไปเท่าไร แข้งเทพ ก็เริ่มจะพาบอลเข้ามาได้ถี่ขึ้น ขาดเพียงการได้ประตู ขณะที่ทางฝั่งบุรีรัมย์ มีการสาดยาวและต่อบอลจากกลางสนามแล้วรีบจบสกอร์ แต่หากพูดโอกาสที่จะเป็นประตูจัดว่าน้อย เพราะมันเป็นการเปิดจากริมเส้นที่ไม่ค่อยเข้าหัวหรือเท้าของกองหน้าตัวเป้า    

ครึ่งหลัง บียู พยายามปรับวิธีการให้บอลที่แม่นยำเพื่อเพิ่มโอกาสบอลให้บอลถึงแดนอันตรายมากขึ้น ซึ่งมันก็ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ในระดับหนึ่ง กระทั่งประตูนำ 1-0 มาจากการชิงบอลกลางสนาม แล้วเป็นเจ้าบ้านที่เก็บได้ โดยจังหวะลากของ เฮแบร์ตี้ แนวรับของบุรีรัมย์ พลาดในการยืนประกบ และกองหลังตัวไกลก็ผิดพลาดที่ยืนไม่เท่าไลน์เพื่อน ทำให้ ปกเกล้า หลุดเดี่ยวไปดวลตัวต่อตัวกับ ศิวรักษ์ แล้วยิงบอลส่งก้นตาข่าย จากนั้นบุรีรัมย์ พยายามเติมแนวรุกและทำเกมบุกด้วยความรวดเร็ว เพื่อหนีการประกบแน่น แต่สุดท้ายก็ติดแนวรับเจ้าบ้าน นอกจากนี้การต่อบอลยังมีความผิดพลาดจนโดนโต้กลับ แล้วโดน เฮแบร์ตี้ ยิงหนีเป็น 2-0 ส่วน 20 นาทีที่เหลือ นักรบปราสาทสายฟ้าพยายามจะบุกต่อ แต่ไอเดียเดิมๆมุกเดิมๆ ก็ไม่ช่วยให้พวกเขายิงประตูตีตื้นได้

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ถือว่าออกสตาร์ทเกมนี้ได้ดี เพราะสามารถยืนเกมรับได้เหนียวแน่จนไม่ต้องกังวล ขณะที่เกมรุกสามารถใช้จังหวะฉาบฉวยเล่นงานได้ดี ขาดเพียงไม่มีประตู แต่พอครึ่งหลัง เมื่อมีโอกาสก็สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมรุกมามุกแบบเดิมๆ แล้ววันนี้เจอคู่แข่งที่ยืนเกมรับดี ทำให้เจาะยังไงก็ไม่เข้า เช่นกันกับเกมรับที่ยังผิดพลาดเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการยืนตำแหน่งและแบ่งหน้าที่กันประกบ ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะโดนยิง 2 ดอกเน้นๆ  

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover