Categories
Sport

ตัดเกรดแบ็คซ้าย-ขวา

ทีมไทย ชุดแชมป์ AFF 2022

การประกาศเรียกนักเตะในตำแหน่งแบ็ค ทีมชาติไทย ทางฝั่งซ้ายถือว่าได้ตัวหลักมาจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทั้ง 2 คน แต่สำหรับฝั่งขวา ค่อนข้างดรอปหากทียบกับฝั่งซ้าย เพราะตัวที่ได้มาเป็นในลักษณะมวยแทน ส่วนฟอร์มจะดีหรือไม่ นับจากนี้เราจะไปให้คะแนนกัน  

ธีราทร บุญมาทัน (10)

      ดาวเตะคนสำคัญจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตำแหน่งธรรมชาติ คือ แบ็คซ้าย แต่สโมสรเลือกจะดันให้ขึ้นไปเล่นเป็นกองกลาง นั่นจึงทำให้ มาโน่ จับไปเล่นตำแหน่งดังกล่าวเช่นกัน โดยทุกนัดที่กัปตันอุ้มได้ลงสนาม เจ้าตัวได้โชว์ให้เห็นถึงมาตรฐานที่สูงส่ง เพราะไม่ว่าจะเล่นตำแหน่งกลางรุก กลางตัวจ่ายบอล หรือแบ็คซ้าย ก็ไม่มีเกมไหนที่เล่นได้น่าผิดหวัง อีกทั้งต้องชมในเรื่องของภาวะผู้นำทั้งในสนามและห้องแต่งตัว

ศศลักษณ์ ไหประโคน (6)

      นับตั้งแต่ไปเล่นกับ ชนบุค ฮุนไดมอเตอร์ส ความมั่นใจดูจะหดหายไปพอสมควร แต่ที่ได้ติดทีมชาติไทยชุดนี้ ก็เป็นเพราะตัวหลักคนอื่นไม่ถูกปล่อยตัวมา ซึ่งการที่ ธีราทร ถูกขยับให้ขึ้นไปเล่นกองกลาง มันจึงเป็นโอกาสที่เจ้าต้องลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย

อย่างไรเสียก็ต้องเรียนตามตรงว่าเจ้าพี ยังมีฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในเกมที่พบกับ กัมพูชา ที่ต้องเปลี่ยนตัวออกแล้วถอย ธีราทร ให้ลงไปเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายแทน ขณะที่นัดอื่นๆ การเติมเกมรุกดี เปิดบอลแม่นใช้ได้ แต่เกมรับมักเป็นฝั่งที่ถูกเจาะ รวมถึงมีความผิดพลาดในการป้องกันให้เห็น

ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (6)

      ดาวเตะคนใหม่ของ การท่าเรือ เอฟซี ถูกเรียกมาติดทีมชาติไทย ชุดนี้ เพราะตัวหลักในลำดับแรกๆไม่ถูกปล่อยตัวมาเล่น ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์อย่างยิ่ง เพราะในตำแหน่งนี้มีตัวเก่งๆค่อนข้างเยอะ อย่างไรเสียก็ต้องเรียนตามตรงว่าเจ้าตัวยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้ เพราะเกมรับไม่โดดเด่น เกมรุกเปิดบอลไม่แม่น และหากตัวหลักๆกลับมาครบ เจ้าตัวคงไม่มีโอกาสได้ติดทีมชาติอีกเป็นแน่

ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (ไม่มีคะแนน)

      ดาวเตะจาก ชลบุรี เอฟซี มีฟอร์มการเล่นอยู่ในเกณฑ์พอใช้ แต่ก็ได้รับโอกาสให้มาติด ทีมชาติไทย ชุดนี้ แต่ในการฝึกซ้อมกับแคมป์ทีมชาติ เจ้าตัวเกิดประสบอุบัติจนจมูกหัก ทำให้สุดท้ายต้องถอนตัวและไม่ได้ร่วมเล่นกับทีมอย่างน่าเสียดาย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นกองหลัง

ทีมชาติไทย ชุดแชมป์ AFF

กองหลังทีมชาติไทย ที่ มาโน่ เรียกมาติดในทีมชุดนี้ ถือว่าได้ตัวที่ต้องการมาเกือบครบ อีกทั้งยังได้โยกผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางให้มาเล่นกองหลัง ซึ่งในรอบแรกจนถึงรอบรองชนะเลิศ ได้วางระบบหลัง 4 แต่เมื่อถึงเกมชิงชนะเลิศก็ได้ปรับมาเล่นหลัง 3 ก่อนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมไปถึงแชมป์

พรรษา เหมวิบูลย์ (8)

          หากไม่เจ็บไม่ป่วยจนต้องหามขึ้นเปล เจ้าโย่งถือเป็นตัวหลักของทีมชาติไทย ที่ตะต้องลงสนามช่วยทีม ซึ่งจุดเด่นเรื่องกลางอากาศถือว่าไว้ใจได้ โดยในนัดที่ออกไปเยือนมาเลเซีย นัดแรก มีบาดแผลที่ปลายคิ้วแบบไม่ต้องเย็บ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหากับการลงสนามจนถึงรอบชิงชนะเลิศนัดที่ 2 

กฤษดา กาแมน (7)

        เป็นนักเตะที่เล่นกองกลางเมื่ออยู่กับสโมสร แต่สำหรับทีมชาติไทย เจ้าตัวถูกจับมาเล่นกองหลังแบบถาวรเสียแล้ว โดยจากฟอร์มการเล่นทั้งทัวร์นาเมนต์ การอ่านทางที่เฉียบขาดช่วยให้ดักทางคู่แข่งและตัดการขึ้นเกมบุกของคู่แข่งได้ดี แต่ข้อเสียที่เป็นปัญหาใหญ่ คือ การสกัดลูกกลางอากาศ ที่ยังเป็นรองและไม่สามารถทำได้เหมือนกองหลังพันธุ์แท้

จักพัน ไพรสุวรรณ (6)  

          มีบทบาทเป็นกองหลังตัวสำรองของทีม โดยมักถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรอง ซึ่งในนัดที่พบกับ มาเลเซีย การถูกแซงตรงมุมแคบเกือบมีผลให้ทีมเสียประตู ส่วนในด้านที่น่าจำคงเป็นการสกัดบอลและการยิงฟรีคลิกที่ทเอาผู้รักษาฝ่ายตรงข้ามต้องออกแรงเซฟอยู่เหมือนกัน

เฉลิมศักดิ์ อักขี (6)

          โชว์ฟอร์มได้ดีกับสโมสรและด้วยตัวผู้เล่นรายอื่นบาดเจ็บ นั่นจึงให้เจ้าตัวได้มีชื่อหลุดเข้ามาในรอบ 23 คนสุดท้าย โดยบทบาทที่มักได้รับ คือ การลงมาเป็นตัวสำรองเพื่ออุดประตูและปิดเกมให้กับทีม กระนั้นการได้คะแนนก็ไม่ได้หมายความว่านักเตะเล่นไม่ดี หากแต่เรื่องของความโด่ดเด่นและเวลาที่ได้อยู่ในสนามมันค่อนข้างน้อยนิด

วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (6)

          ในรายการนี้เมื่อครั้งที่แล้ว วีรเทพ แจ้งเกิดแบบเต็มตัวในฐานะอะไหล่กองกลาง พร้อมกับโชว์ทักษะด้วยการลงไปเล่นเป็นกองหลัง แต่ในฤดูกาลนี้ ผลงานกับสโมสรถือว่าดรอปลงไปแบบน่าใจหาย อย่างไรเสียด้วยความที่นักเตะรายอื่นไม่ถูกปล่อยตัวมา

นั่นจึงทำให้เจ้าตัวยังมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดนี้ แม้จะถูกวางไว้ข้างสนามเป็นหลัก จนในเกมนัดชิงชนะกับ เวียดนาม ก็ได้รับมอบหมายให้ลงเล่นกองหลังทีมชาติไทย ในระบบ 3-5-2 ซึ่งฟอร์มโดยรวม 2 นัด ไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย

ในเกมซัด มาเลเซีย แบบเกลี้ยงชาม 3-0

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 ในรอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ทัพชาติไทย ที่แบกความกดดันไว้เต็มบ่า ก็ได้ถูกยกออกไปด้วยชัยชนะเหนือมาเลเซีย 3-0 พร้อมกับพลิกเป็นฝ่ายเข้าไปชิงชนะเลิศกับ เวียดนาม ซึ่งในแมตช์ที่ชนะได้แบบสวยหรูนี้ ใครจะคะแนนกันคนละเท่าไรบ้าง นับจากนี้เราจะไปให้คะแนนกัน

กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล

(6) : แมตช์แรกของเจ้าไอซ์ มีเซฟแบบไม่ยากให้ได้ออกแรง แต่มีจังหวะจ่ายบอลพลาด 1 จังหวะ จึงจำเป็นต้องตัดคะแนน

ศศลักษณ์ ไหประโคน

(7) : ไม่มีความผิดพลาดง่ายๆ การยืนตำแหน่งดี ทำให้การประสานงานกับรุ่นพี่สอดรับกัน             

พรรษา เหมวิบูลย์

(8) : ไม่เปิดพื้นที่ให้กองหน้าทีมเยือนได้เล่น และการสกัดก็เอาอยู่ในจังหวะเดียว

กฤษดา กาแมน

(8) : เคลียร์บอลดี บิ้วบอลจากหลังบ้านได้

ศุภนันท์ บุรีรัตน์

(7) : วันนี้ไม่พลาดง่ายๆในเกมรับ ส่วนเกมรุกเติมได้สูงและเปิดบอลมีลุ้น  

ธีราทร บุญมาทัน

(7) : แอสซิสต์ให้ ธีรศิลป์ โหม่งประตูนำ พร้อมกับคุมเกมแดนกลางได้เยี่ยม แต่มีจังหวะออกบอลพลาดง่ายไปสักหน่อย จึงต้องหักออก 1 คะแนน

พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี

(7) : คุมเกมแดนกลางได้ดี มีจังหวะยิงไกล ไม่มีอะไรต้องตำหนิ

สารัช อยู่เย็น

(8) : เป็นตัวคุมเกมแดนกลางของไทย และคุมไว้ได้แบบอยู่หมัด กระทั่งคู่แข่งไม่สามารถทำอะไรได้

เอกนิษฐ์ ปัญญา

(7) : โดนตำหนิมาเยอะ แต่ในวันนี้เล่นดีกว่าหลายนัดที่ผ่านมา โดยเฉพาะการยืนตำแหน่งที่ทำให้เจ้าตัวสามารถจ่ายแอสซิสต์จนเป็นประตู 2-0

 ธีรศิลป์ แดงดา

(7)  : วันนี้เล่นได้ 45 นาที เพราะมีอาการบาดเจ็บ แต่ก็สามารถทำได้ 1 ประตู

บดินทร์ ผาลา

(7) : เหมือนเล่นบอลชายเดี่ยว ไม่ค่อยประสานกับเพื่อนร่วมทีมเท่าที่ควร การเลี้ยงตัดเข้าในมักเสียของเสมอ แต่ในเมื่อวันนี้ยิงได้ 1 ลูก ซึ่งเป็นประตูสำคัญ มันก็สมควรที่จะได้รับคะแนนเพิ่ม   

อดิศักดิ์ ไกรษร

(6) : เป็นสำรองที่ถูกส่งลงมาใน 45 นาทีหลัง แล้วยิงได้ 1 ประตู แต่มันมีอีกหลายจังหวะที่ควรยิงลูกสองได้ แต่ดันยิงไม่เข้า หรือเลี้ยงล็อคหลบไปมาจนเสียโอกาส

วีรเทพ ป้อมพันธุ์

(6) : ลงมาเล่นกองกลาง แล้วไม่มีอะไรผิดพลาด

สุมัญญา ปุริสาย

(6) : เติมตัวเองเข้ากรอบเขตโทษ มีจ่ายให้เพื่อน แต่ไม่นำพาไปสู่ประตู  

จักพัน ไพรสุวรรณ และ เฉลิมศักดิ์ อักขี

(ไม่มีคะแนน) : ลงมาช่วยท้าย ไม่ค่อยมีจังหวะโดนบอลนัก จึงไม่มีคะแนน

และนี่คือผมคะแนน ของ ทัพชาติไทย ก็ซัดแบบเกลี้ยชาม

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“บุกพ่ายมาเลเซีย 1-0”

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย ศึก AFF mitsubishi electric cup 2022

ศึกฟุตบอล AFF mitsubishi electric cup 2022 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ทีมชาติไทย บุกพ่ายมาเลเซีย 1-0 นั่นจึงทำให้อาถรรพ์บูกิตจาริลยังไม่ถูกทำลาย แต่ในส่วนของฟอร์มการเล่นนั่นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ให้พ่ายแพ้ออกมา ซึ่งในวันนี้มีเกินครึ่งที่จะได้คะแนนแค่ครึ่งเดียว รายชื่อผู้เล่น จะเป็นใครบ้างและเพราะเหตุผลอะไร นับจากนี้เราจะไปไล่เรียงกัน

 กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (4)

      แทบจะไม่มีงานหนักอะไร แต่การตัดสินใจออกมาชกมักไม่ถึงบอลและมีความผิดพลาดเกือบทุกครั้ง

พรรษา เหมวิบูลย์ (5)

      ประตูที่เสียมีส่วนผิดพลาด ขณะที่การเติมเกมบุกมีโอกาสได้โหม่งแล้วกดไม่ลง สุดท้ายด้วยอาการบาดเจ็บที่ศีรษะทำให้ถูกเปลี่ยนออกในช่วง 20 นาทีสุดท้าย

กฤษดา กาแมน (5)

      มาโน่ อาจมีความต้องการให้นักเตะรายนี้ช่วยบิ้วเกมจากแดนหลัง แต่อาจลืมไปว่าธรรมชาติของนักเตะ คือ กองกลางและไม่ได้เก่งกาจการรับมือลูกกลางอากาศ กระนั้น 1 ประตูที่เสียไป ดาวเตะจากชลบุรี เอฟซี มีส่วนผิดพลาดในเรื่องการยืนตำแหน่งป้องกัน

ศศลักษณ์ ไหประโคน (6)

      ไม่โดดเด่น กระนั้นการเติมเกมบุกมีลูกเปิดที่เข้าจุด แต่น่าเสียดายที่เพื่อนไม่สามารถทำประตูได้

ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (5)

      เกมรับมีความผิดพลาดให้เห็นเรื่อยๆ แต่การเติมเกมรุกถือแก้ตัวได้บ้าง เพราะการเปิดบอลเข้าจุดกับเพื่อนที่ยืนรออยู่

ธีราทร บุญมาทัน (7)

      การขยับเจ้าอุ้มให้ขึ้นไปเล่นเสมือนกองหน้าตัวต่ำ เหมือนเป็นการฝืนธรรมชาติของนักเตะไปสักหน่อย แต่เจ้าตัวก็เล่นได้ดี แถมมีลูกจ่ายสวยๆหลายครั้ง

สารัช อยู่เย็น (6)

      อาจจะไม่โดเด่น แต่การคุมเกมแดนกลางไม่มีดีไปกว่าเจ้าตังอีกแล้ว 

 บดินทร์ ผาลา (4)  

      เล่นไม่ดีมาหลายนัด รวมถึงนัดนี้ที่เหมือนเล่นคนเดียวมากกว่า อีกทั้งยังน่าแปลกใจที่ได้อยู่ในสนามจนเกือบจบเกมอีกแล้ว  

เอกนิษฐ์ ปัญญา (4)

      หากยืนริมเส้นจะวูบวาบกว่า แต่เมื่อต้องขยับมาเล่นในกรอบเจตโทษ มันจะเห็นได้ว่าเจ้าตัวไม่ถนัดและโค้ชผิดพลาดที่เปลี่ยนตัวออกได้ช้ามากๆ

พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (6)

ไม่โดดเด่น แต่การคุมเกมแดนกลางไม่มีความผิดพลาดอะไร  

  ธีรศิลป์ แดงดา (6)

      โดดเดี่ยวเกินไป แต่ก็พยายามจะช่วยทีม ซึ่งมีจังหวะได้โฉบโหม่งแล้วบอลไปชนเสา

จักพัน ไพรสุวรรณ (5)

      ถูกส่งลงมาเพื่อเล่นกองหลังแทน พรรษา แล้วถูกเลี้ยงผ่านตรงมุมแคบไป 1 ครั้ง ซึ่งยังดีที่ไม่ส่งผลเสียหายถึงการโดนลูก 2  

อดิศักดิ์ ไกรษร (5)

ถูกส่งลงมาเพื่อปรับระบบกองหน้า แต่บทบาทน้อยและไม่ได้ช่วยพลิกเกมเท่าไร            

 ปรเมศย์ อาจวิไล (5)

      ลงมาแล้วก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆทันที

เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (ไม่มีคะแนน)

      มีเวลาอยู่ในสนามราว 8 นาที แถมไม่ค่อยโดนบอล จึงไม่มีคะแนนสำหรับ 2 คนนี้

      และนี้คือ รายชื่อผู้เล่น ทั้งหมดที่ถูกตัดเกรด

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปผลงาน กองหน้า

ทีมชาติไทย ในศึก AFF SUZUKI CUP 2020

เป็นเวลานับกว่าทศวรรษที่ ทีมชาติไทย มีปัญหาในเรื่องของผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้า ซึ่งในทัวร์นาเมนต์ AFF SUZUKI CUP 2020 หนนี้ ถือว่าโชคดีที่ตัวหลักไม่ถอนตัวและอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดี โดยทั้ง 4 ราย ที่เรียกมาจะมีฟอร์มอย่างไรบ้าง เราจะมาสรุปกันด้านล่างนี้

ธีรศิลป์ แดงดา

หากไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ลาและไม่ถอนตัว ยังไงเจ้ามุ้ยก็ต้องถูกเรียกติดทีม ซึ่งการที่อายุอานามมากขึ้น มันก็มีผลให้ความเร็วลดน้อยถอยลงไป กระนั้นด้วยประสบการณ์บวกความเก๋า คือ สิ่งที่เจ้าตัวมีและนำมาช่วยทีม ทำให้เรายังคงเห็นการยิงประตูที่เฉียบคมและประคองทีมให้ได้ผลการแข่งขันที่ดี แม้จะเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดัน อาทิ เกมกับ ฟิลิปปินส์

ศุภชัย ใจเด็ด

ศูนย์หน้าจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจนได้ติดทีมชาติทุกชุด แต่ในรอบปีที่ผ่านมาดันเผชิญกับอาการฟอร์มตกและยิงประตูไม่ได้เลย กระทั่งในเลกแรกของศึกไทยลีกฤดูกาลนี้ ฟอร์มที่เคยไฉไลเมื่อวันวานได้หวนมาอีกครั้ง ฉะนั้นมันจึงไม่แปลกที่ มาโน่ จะเลือกบังอารม์มาติดทีมชุดนี้ ส่วนเรื่องฟอร์มการเล่น เจ้าตัวได้จัดการล่าตาข่ายมาได้ 1 ลูก จากเกมกับ สิงคโปร์ ส่วนบทบาทการลงสนามจะเน้นไปที่การเป็นตัวสำรอง และเปลี่ยนลงมา

อดิศักดิ์ ไกรษร

การย้ายกลับสู่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นสังกัดแม่ จัดว่ามีผลให้เจ้ากอล์ฟฟอร์มตก หากอ้างอิงจากจำนวนกประตูที่สวนทางกับตอนปล่อยยืมไปอยู่ การท่าเรือ เอฟซี กระนั้นด้วยประสบการณ์และบุญเก่าที่สะสมไว้มาก มันก็ได้หนุนนำให้ มาโน่ ยังคงไว้ใจและเรียกมาติดทีม แต่โอกาสการลงสนามก็จัดว่าน้อยนิด อย่างไรเสียเจ้าตัวก็ยังคงช่วยทีม ด้วยการยิง 1 ประตู ใส่อินโดนีเซีย

อดิศักดิ์ ไกรษร

การย้ายกลับสู่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นสังกัดแม่ จัดว่ามีผลให้เจ้ากอล์ฟฟอร์มตก หากอ้างอิงจากจำนวนกประตูที่สวนทางกับตอนปล่อยยืมไปอยู่ การท่าเรือ เอฟซี กระนั้นด้วยประสบการณ์และบุญเก่าที่สะสมไว้มาก มันก็ได้หนุนนำให้ มาโน่ ยังคงไว้ใจและเรียกมาติดทีม แต่โอกาสการลงสนามก็จัดว่าน้อยนิด อย่างไรเสียเจ้าตัวก็ยังคงช่วยทีม ด้วยการยิง 1 ประตู ใส่อินโดนีเซีย

เจนภพ โพธิ์ขี

ก่อนเริ่มฤดูกาลเกือบโดน โปลิศเทโร เอฟซี โละทิ้ง แต่พอได้รับโอกาส เจ้าตัวก็ได้ตอบแทนด้วยการยิงประตูแบบรัวๆ กระทั่งมีชื่อติดโผแต่ไม่ใช่ 30 คนสุดท้าย อย่างไรเสียในเมื่อฟ้ามันลิขิตว่าต้องติดทีมชาติ มันก็ได้เกิดเหตุตัวจริงขอถอนตัว ทำให้ท้ายที่สุด มาโน่ ได้เลือกดาวเตะผู้นี้มาติดทีมเป็นรายสุดท้าย และได้มีโอกาสลงสัมผัสเกมราว 10 นาที ในนัดที่ 2 กับ อินโดนีเซีย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นไทย

ในเกมเจ๊า อินโดนีเซีย คว้าแชมป์เจ้าอาเซียนสมัยที่ 6

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ทีมชาติไทย ถูก อินโดนีเซีย ตามตีเสมอ 2-2 แต่ผลรวม 2 นัด ไทย ชนะ 6-2 ทำให้คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 6 กระนั้นหากดูฟอร์มการเล่นในเกมนี้ ไม่ทราบว่าเป็นเหตุผลใด เพราะเหล่าขุนพลช้างศึกต่างร่วมใจกันโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน อีกทั้งมันต่ำตมจนมีน้อยรายที่ได้คะแนนดี

ศิวรักษ์ (4 คะแนน)

      ประตูแรกเสียแบบง่ายๆ จากนั้นก็เล่นแบบไร้ความมั่นใจ โดยเฉพาะจังหวะออกมารับและตัดบอล กระทั่งท้ายเกมเสียอีกลูก ซึ่งหากมองให้ดี มันยังไม่มุมและยังอยู่ในวิสัยที่จะปัดได้ 

นฤบดินทร์ (6 คะแนน)  

      ไม่มีความโดดเด่นนัก อีกทั้งได้แต่ช่วยเกมและไม่ค่อยได้เติมเกมบุก

ปวีร์ (5 คะแนน)

      ฟอร์มที่เคยโดดเด่น ถูกทิ้งลงแม่น้ำและกลับคืนสู่ฟอร์มเดิม ทำให้ในทันทีที่หมดครึ่งแรก มาโน่ จึงเลือกจะเปลี่ยนออกและเอากองกลางมายืนกองหลังแทน 

กฤษดา (7 คะแนน)

      เป็นอีกนัดที่ยังทำหน้าที่ได้ดีและไม่ความผิดพลาดแบบติดตา   

ธีราทร (6 คะแนน)

       ขึ้นเกมไม่ค่อยได้และลูกเปิดไม่ฉมังนัก ทำให้งานหลักต้องอยู่ในแผงเกมรับเป็นหลัก

สารัช (7 คะแนน)

      ครึ่งแรกงานหนัก ขณะที่ในครึ่งหลังงานเริ่มเบาและเดินเกมรุกได้บ้าง กระทั่งได้โอกาสยิงประตู 2-1 จากจังหวะที่บอลมาตกตรงหน้าพอดี ซึ่งมันเป็นการยิงที่ค่อนข้างดีทีเดียว    

ธนวัฒน์ (5 คะแนน)

      ไม่มีบทบาทกับเกม ซึ่งนับเป็นอีกเกมที่เจ้ากันเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้ครึ่งหลังถูกเปลี่ยนตัวออกอย่างรวดเร็ว

 สุภโชค (7 คะแนน)

      ครึ่งแรกได้บอลน้อย จนเมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง ก็พอจะมีจังหวะได้ลากเลื้อยจนมีส่วนสำคัญกับประตูที่ได้มา   

ชนาธิป (6 คะแนน)

       วันนี้ไม่โดดเด่นนัก แต่ด้วยบุญเก่าที่สะสมมา มันก็นำไปพารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมและดาวซัลโวร่วม

 บดินทร์ (7 คะแนน)

      การลากเลื้อยบอลสร้างความอันตรายได้ดี และเป็นจุดเริ่มต้นของประตูทั้ง 2 ลูก

 ธีรศิลป์ (5 คะแนน)

      พอพลังหมด ก็ไร้พิษสงที่จะขยับไปไหน ทำให้ทันทีที่หมดครึ่งแรก มาโน่ จึงเลือกที่จะเปลี่ยนออก

 อดิศักดิ์ ไกรษร (6 คะแนน)

      ได้บอลไม่เยอะ แต่ยังไว้ลายเรื่องความคมอยู่บ้าง ซึ่งในวันนี้จัดการยิงประตูตีเสมอแบบเลือดเย็น  

วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (6 คะแนน)

      ได้รับความไว้วางใจให้ลงมายืนเป็นกองหลัง ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่อาจจะไม่แนบสนิทนัก

พิธิวัตต์ (6 คะแนน)

      ลงมาในครึ่งหลัง แล้วสามารถช่วยให้เกมแดนกลางนิ่งขึ้น

ฟิลิป (7 คะแนน)

      ลงมาเล่นเป็นปีกขวา แล้วจัดการกระชากลากเลื้อยตามสไตล์

เจนภพ (ไม่มีคะแนน)

      เป็นรายสุดท้ายที่ถูกส่งลงมาช่วงท้ายเกม ทำให้ไม่มีคะแนนให้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย

ชุดสำรอง โชว์ฟอร์มแจ่ม อัด สิงคโปร์ คาบ้าน 2-0

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบแบ่งกลุ่มของทีมชาติไทย จบลงแบบสวยงาม พร้อมกับการเข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์กลุ่ม ซึ่งการตบ สิงคโปร์ ด้วยตัวผู้เล่นชุดสำรอง 2-0 ใครโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นบ้าง วันนี้เราจะไปให้คะแนน

ศิวรักษ์ (7 คะแนน)

ความนิ่งและวามเก๋ายังเหลือๆ เริ่มจากช่วง 15 นาทีแรก ได้โชว์เซฟ ส่วนในครึ่งหลังมีจังหวะออกมาปิดมุมเซฟอีกหน

เอเลียต (8 คะแนน)

ผลงานเก่าๆ อาจเป็นภาพหลอกหลอนแฟนบอล แต่แมตช์นี้เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างเด็ดดวง อีกทั้งยังเติมขึ้นมายิงประตูแบบนิ่งๆ

ปวีร์ (8 คะแนน)

แนวรับที่ถูกเรียกเข้ามาเป็นอะไหล่สำรอง แต่พอได้ลงเล่นตัวจริงนัดแรก ดันโชว์ฟอร์มได้อย่างไฉไล แม้จะมีตื่นๆบ้างในช่วงต้นเกมกับท้ายครึ่งหลัง

ทริสตอง โด (5 คะแนน)

ออกสตาร์ทครึ่งแรกในตำแหน่งแบ็คขวา แล้วขยับมายืนแบ็คซ้ายในครึ่งหลัง แต่การเปิดบอลวันนี้ล้นตลอด ซึ่งมันทำให้ทีมเสียโอกาสไป

สุริยา (7 คะแนน)

ได้ลงสนามเป็นนัดแรก แล้วทำผลงานได้ดี ซึ่งสำหรับทีมแล้ว มันนับเป็นเรื่องที่ดีกับการมีอะไหล่ที่มีคุณภาพ

วีระเทพ (7 คะแนน)

ครึ่งแรกอาจจะไม่โดดเด่นมาก แต่ครึ่งหลังจัดว่าท็อปฟอร์มสุดๆ กับการจับและจ่ายให้กับเพื่อนอย่างทั่วถึง กระนั้นมันน่าเสียดายที่การจ่ายของเจ้าตัว ไม่นำพาไปสู่ประตูที่ 3

ฐิติพันธ์ (6 คะแนน)

ลงสนามเพื่อประคองน้องๆ ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดีและไม่มีความผิดพลาดอะไร

วรชิต (7 คะแนน)

มีจังหวะจ่ายให้ ศุภชัย แบบเฉียบขาด รวมถึงมีการเชื่อมบอลที่ดี แต่การเคลื่อนที่เพื่อรอและเชื่อมบอล ยังเป็นสิ่งที่เจ้าตัวต้องปรับปรุง

บดินทร์ (7 คะแนน)

ไม่ค่อยโดดเด่น เว้นเสียแต่จังหวะที่ปั่นฟรีคลิกและเป็นที่มาของประตูนำ 1-0

ปฐมพล (6 คะแนน)

ลงประจำการในตำแหน่งหน้าฝั่งขวา แต่ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไร

ศุภชัย (8 คะแนน)

บอลมาไม่ค่อยถึงตัว แต่พอมีโอกาสก็สามารถจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม ด้วยการยิงไปทางเสาแรกบริเวณข้างขาของผู้รักษาประตู

ปกเกล้า (6 คะแนน)

ลงสนามในช่วงครึ่งหลัง แต่ไม่โดดเด่นนัก เพราะการจ่ายเป็นในลักษณะขวางไปมา

 โรเลอร์ (6 คะแนน)

      ได้วิ่งเติมเกมแบบรัวๆ แต่สุดท้ายมาตายตอนจบทุกที

 อดิศักดิ์ (6 คะแนน)

      ดูยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกและยังไม่เหมือนเดิมกับปีที่ผ่านมา

พิชา (5 คะแนน)

      ลงมาในช่วงครึ่งหลัง แต่ดูไม่โดดเด่นและหายไปจากเกม   

ศิวกร (5 คะแนน)

      เป็นอีกราย ที่ลงมาแล้วเงียบและไม่โดดเด่น จนเสมือนว่าแค่ลงมาให้ตัวครบ 11 คน  

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย ในเกมถล่ม พม่า 4-0

      ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 นัดที่ 2 สาย A ทีมชาติไทย ลงสนามและถล่มคู่แข่งอย่าง ทีมชาติเมียนมาร์ ไปขาดลอย 4-0 ซึ่งภายใต้สกอร์ที่มากขนาดนี้ ผู้เล่นที่ลงสนามไปจะคะแนนกันคนละเท่าไร นับจากนี้เราไปลุ้นพร้อมๆกัน  

ฉัตรชัย (5)  

      ไม่มีงานหนักให้ต้องเซฟยากๆ แต่การเล่นท่ายากมาเกินไปมันเกือบส่งผลให้ทีมเสียประตู

ทอม เบียรห์ (6)

      มีจังหวะต้องตามประกบคู่แข่งไม่กี่ครั้ง แต่การจ่ายบอลพลาดหน้าบ้านตัวเองมันติดตาจนต้องหักคะแนน

กฤษดา (7)

      น่าจะเป็นกองหลังตัวจริงในทัวร์นาเมนต์นี้ เพราะการอ่านเกมที่มองขาด อีกทั้งยังเติมเกมบุกได้ด้วย

ธีราทร (7)

      การเปิดบอลน่ากลัวเหมือนเคย แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ประตูจากการเปิดของโก๋อุ้ม

นฤบดินทร์ (8)

      เติมเกมได้สนุกสุดมันส์ อีกทั้งการเปิดบอลของเจ้าต้นฉมังสุดๆ แล้ววันนี้ได้เพิ่มอีกแอสซิสต์

พิธิวัฒน์ (6)

      ยืนคุมกลางรับ ทำให้บทบาทน้อย อีกทั้งยังมีจังหวะจ่ายบอลกลางสนามพลาด ทำให้มีอันต้องหักคะแนน

สารัช (6)

      มีบทบาทในการเชื่อมเกมกลางสนาม แต่ไม่ค่อยมีจังหวะจ่ายคิลเลอร์พาส ทำให้คะแนนไม่ค่อยขึ้น

ธนวัตน์ (7)

      การเชื่อมและสวิตช์บอลยังมีให้เห็นเหมือนเคย อีกทั้งวันนี้ยังได้เห็นลูกยิงไกลค่อนข้างบ่อย ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ประตู แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของประตูที่ 2

ชนาธิป (6)

      การมีเมสซี่เจ ทำให้เกมแดนกลางไหลลื่น แต่ที่คะแนนน้อยเพราะมีโอกาสทองที่จะเป็นประตู แล้วเจ้าตัวดันชิพไปติดหัวกองหลังเสียอย่างนั้น

ธีรศิลป์ (6)

      ยิงได้ 2 ประตู ก็จริง แต่โอกาสทองที่มีมากมายก่ายกอง ดันยิงทิ้งยิงขว้างไปเสียอย่างนั้น

ศุภชัย (6)

      ถ่างตัวออกไปเก็บบอลด้านข้างเยอะ ทำให้ห่างจากประตูจนแทบไม่มีโอกาสได้ยิงนัก  

ศุภโชค (7)

      ลงมาในช่วงท้าย ซึ่งการเล่นง่ายๆและไม่มากจังหวะ มันก็ส่งผลให้ยิงประตูได้ 2 เกมติด

ฐิติพันธ์ (6)

      ลงมาช่วงท้าย แต่ดูเฉื่อยๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะร่างกายไม่สมบูรณ์ หรือต้องการถนอมตัว

ปฐมพล (6)

      ไม่ค่อยมีบทบาทนัก เพราะเมื่อไรที่บอลมาถึงตัว ก็จะถูกรายล้อมด้วยแนวรับคู่แข่ง

วรชิต (7)

      ลงมาแปบเดียวก็ยิงประตูได้ทันที ซึ่งการยิงลูก 3-0 แบบไม่จับ มันสื่อให้เห็นถึงความมั่นใจที่มีอยู่เต็มอก

ทริสตอง โด (7)

      ลงมาไม่นาน แต่ความโดดเด่นมีเทียบเท่า นฤบดินทร์ ซึ่งหากมองผ่านๆอาจเผอคิดว่าเป็นคนคนเดียวกัน

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover