Categories
Sport

“ยีมาโจไป สวาทแคทรอดหวุดหวิด”  

สรุปผลงาน โคราช ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

การทำงานของโค้ชโจ ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้นนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ดูเหมือนจะมั่นคงและไม่มีอะไรมาหักเก้าอี้ตัวนี้ได้ง่ายๆ แต่เมื่อบอร์ดบริหารเปลี่ยนมือมาเป็น วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลผู้ฉาวโฉ่ สถานการณ์ในแคมป์สวาทแคทก็เปลี่ยนไป กระนั้นทางฝั่งผู้บริหารก็ไม่ได้คิดจะขับไล่โค้ชโจออกไปในทันที แต่อาศัยช่วงที่ผลงานแพ้ติดต่อกันอันเชิญให้ออกในยามวิกฤต สุดท้ายยังดีที่โคราชยังไว้ลายและอยู่รอดในลีกสูงสุด

      ผลงานในเลกแรกของ นครราชสีมา ไม่ย่ำแย่ แต่ก็มีการเสริมทัพเข้ามา โดยเฉพาะในโควต้าต่างชาติอย่าง ชาร์ลี คลัฟ ที่เข้ามายืนคู่กับ เฉลิมพงษ์ ในตำแหน่งกองหลัง และ ชินทาโร่ ที่เข้ามาช่วยเกมแดนกลางของทีม แล้วในทันทีที่เลก 2 เริ่มขึ้น การเสริมตัวต่างชาติดังกล่าว ก็ช่วยเสริมสร้างให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น กระทั่งผลงานของทีมดูจะไม่ปัญหากับการหนีตาย แต่อย่างไรเสีย เกมที่เปิดบ้านพบกับ พีที ประจวบ แล้วแพ้เพราะพิษกรรมการ 2-3 ก็ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้โคราช กลายเป็นอีกทีมที่พร้อมจะแพ้คู่แข่งทุกนัด

การไม่ชนะใคร 7 นัดติดต่อกัน ได้ทำให้บอร์ดบริหารเรียกโค้ชโจ เข้าไปพบ แล้วได้มีการประกาศลาออกในช่วงเย็น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาแบบนี้นับเป็นอะไรที่เสี่ยงอย่างยิ่ง แล้วมันก็ยิ่งเสี่ยงขึ้นไปอีกกับการเอากุนซือชาวอังกฤษที่ร้างการทำงานไปนานอย่าง เควิน แบ็คเวลล์ เข้ามาแทน อีกทั้งกุนซือวัยเฒ่าผู้นี้ก็ไม่เคยมีประสบการณ์กับฟุตบอลไทยมาก่อน ทำให้ไม่แปลกนักที่สวาทแคทจะต้องหนีตกชั้นแบบเต็มตัว กระทั่งเกมนัดสำคัญที่ชนะ ราชบุรี 1-0 กับบุกไปตบ ชลบุรี 1-2 ก็ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้พวกเรารอดตายแบบทันเวลา

      การจบอันดับที่ 11 ด้วยการมีคะแนนห่างจากโซนแดง 7 แต้ม อาจมองได้ว่าผลงานเป็นไปตามเป้าหมาย กระนั้นหากเจาะลึกลงไป นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ควรไปลุ้นอันดับกลางตารางเสียด้วยซ้ำ หากแต่พวกเขาไปเจอเกมสุดช็อตกับ ประจวบ แล้วจากนั้นเหมือนมรสุมรุมเร้าจนไม่ชนะใครถึง 7 เกม แถมบอร์ดบริหารก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยการดึงโค้ชที่ไม่ได้ทำงานมานานและไม่เคยมีประสบการณ์กับฟุตบอลไทยมาคุมทีมเสียอย่างนั้น อย่างไรเสียมันยังดีที่พวกเขารวมพลังฮึดสุดท้าย แล้วสามารถคว้าชัยในเกมแห่งฤดูกาลจาก ราชบุรี และ ชลบุรี มาได้ ทำให้สุดท้ายยังได้อยู่ในลีกสูงสุดต่อ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ท็อปโฟร์เริ่มไม่แน่”

เมืองทอง ผิดฟอร์ม พ่ายโคราช 2-0 เปิดช่องลุ้นท็อปโฟร์นัดสุดท้าย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 29 ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เล่นในรังเหย้านัดสุดท้ายแบบไม่มีความกดดัน จะต้องพบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่กำลังมีลุ้นอันดับ 4 เพื่อหวังโควตา ACL ที่อาจส้มหล่นมาถึง ฉะนั้นกิเลนผยองจึงจำเป็นที่ต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-1-4-1

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เมืองทอง คุมเกมได้ดีกว่า เพราะสามารถบีบแย่งบอลมาครองได้เรื่อยๆ แต่การโจมตีในแดน 3-4 ทำได้ไม่ถนัดเพราะเจอแนวรับยืนปิดพื้นที่อย่างแน่นหนา กระทั่งการยิงไกลต้องถูกงัดมาใช้ ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา เสียบอลและครองบอลนานๆไม่ได้ ทำให้การโต้กลับมักรีบยิงทันที เพราะกลัวจะเสียและไม่ได้ยิง ขณะที่เกมรับถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่ช่วยให้สถานการณ์ไม่เป็นรอง เพราะด้วยการยืนที่หนาแน่นและไม่หลุดตำแหน่งง่ายๆ  

ครึ่งหลัง โคราช กล้าเลี้ยงกล้าลุย และกล้าที่จะวางบอลเพื่อวัด ซึ่งนั่นได้เป็นผลให้พวกเขาได้ประตูนำ 1-0 จากการวางบอลยาวในแดนตัวเองไปให้ ชินทาโร่ แล้วตัวที่ประกบอยู่อย่าง ชาติชาย เสียเหลี่ยมและตัดสินใจเตะให้ล้ม ก่อนที่ คาริคารี่ จะยิงเข้าไป ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง พอเจอการรับต่ำและยืนแน่นๆ พวกเขาต้องถ่างบอลออกข้างอยู่ตลอด กลับกันพอ โคราช ได้ทำเกมบุกขึ้นมา ก็ได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนยืนดักล้ำหน้าพลาด ทำให้ลูกจ่ายทแยงของ ประลอง หลุดทั้งแผง ก่อนที่ อับดุลราฟิค จะเปิดให้ ชินทาโร่ โขกแบบจ่อๆ ขณะที่ 10 นาทีสุดท้าย เมืองทอง ได้บุกแบบจริงจัง ด้วยการแทงและวางบอลไปยังที่ว่างในเขตโทษ แต่พอเข้าแดนสุดท้ายมักตะกุตะกะและไม่ได้ยิง   

      บทสรุปจากเกม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เป็นรองในช่วงครึ่งแรก พอเข้าสู้ครึ่งหลังพวกเขาเล่นได้ดีขึ้น แล้วมาได้โชคจากความผิดพลาดของคู่แข่ง ทำให้เล่นง่ายและมีความมั่นใจ จนมาได้ประตูทิ้งห่างทุกอย่างก็เข้าล็อคจนคว้า 3 แต้มเป็นผลสำเร็จ กระนั้นก็ต้องไม่ลืมที่จะชื่นชมแนวรับที่ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ยูไนเต็ด คู่แข่งไม่เปิดพื้นที่ให้ทำเกมโต้กลับเลย ทำให้อาวุธเด็ดที่เป็นจุดแข็งของตัว ไม่สามารถหยิบออกมาใช้ได้ จนกระทั่งความผิดพลาดส่วนบุคคล ซึ่งเป็นคนหน้าเดิมๆและผิดพลาดแบบเดิมๆ มันก็ส่งผลให้พวกเขาเสียประตู สถานการณ์ของพวกเขาก็ยิ่งบาก สุดท้ายพอต้องแลกก็โดนเพิ่มพร้อมกับการบุกที่อ่อนกำลังไปเอง ซึ่งการพ่ายแพ้แบบนี้ถือว่าเสียหาย เพราะการลุ้นท็อปโฟร์ควรปิดจ็อบตั้งแต่เกมนี้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“โคราชรอดใสๆ”

โคราช ทำแสบ บุกเชือด ชลบุรี ถึงถิ่น 1-2 ขยับหนีโซนแดง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่แทบจะไม่มีอะไรต้องลุ้นอีกแล้ว จะต้องพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่พึ่งคว้าชัยนัดสำคัญ ฉะนั้นหากพวกเขาคว้า 3 แต้มได้อีก ประตูสู่ไทยลีก 2 ก็จะปิดตายทันที สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านวาง 4-4-2 ส่วนทีมเยือนใช้ 4-2-3-1

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ชลบุรี ทำอะไรก็ดูติดขัดไปหมด โดยเฉพาะการจ่ายบอลเสียกลางสนาม ซึ่งมันทำให้ทีมเยือนได้โต้กลับและจู่โจมหลายหน แต่ยังดีที่ไม่เสียประตู ส่วนการเล่นลูกฉาบฉวยของฉลามชล มักลงเอยด้วยการแต่งบอลหลายจังหวะ กระทั่งไม่มีจังหวะยิงแบบเหน่งๆ จนในนาทีที่ 40 นครราขสีมา มาได้ประตูนำ 0-1 จากการเปิดยาวของผู้รักษาประตู แล้วแนวรับเจ้าบ้านอ่านจังหวะบอลตกไม่ดี แถมยังยืนจดๆจ้องๆในจังหวะถัดมา นั่นจึงทำให้ นฤพล วิ่งแซงไปรับบอล ก่อนจะยิงไปเสาไกลแบบไม่ยากเย็น

ครึ่งหลังเริ่มไปได้แค่ 3 นาที ชลบุรี ตีเสมอ 1-1 โดยคราวนี้เป็นแบ็คขวาของทีมเยือนมัวแต่จ้องและไม่ประกบชิด ฟาอิค ทำให้มีเวลาเล็งก่อนเปิดไปเข้าหัวของ ยู บยอง ซู แบบพอดิบพอดี แม้จะมีตัวขวางถึง 2 คน อย่างไรเสียไล่หลังเพียง 5 นาทีกว่าๆ โคราช มาได้ประตูนำ 1-2 อีกครั้งจากลูกฟรีคลิก ซึ่งได้ฉวยโอกาสเล่นเร็วด้วยการจ่ายแทงตรงๆให้ อานิเยียร์ หลุดไปยิงเสาไกล จากนั้นการเปิดบอลยาวจากผู้รักษาประตูของทัพสวาทแคท หรือการเซตบอลโต้กลับขึ้นมา ก็เกือบนำพาให้พวเขายิงทิ้งห่างแต่ดันทำไม่ได้ ส่วนฉลามชลเจ้าถิ่น การโยนบอลจากริมเส้นเข้าไปดูจะได้ผลที่สุด แต่ก็ไม่ได้ เช่นเดียวกับการเจาะพื้นที่ว่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้หรือฟรีคลิกท้ายเกม พวกเขาดันเอาโอกาสทองเหล่านี้ไปเททิ้ง ทำให้ตีเสมอไม่ได้และต้องพ่ายแพ้ในที่สุด   

      บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี ออกสตาร์ทด้วยฟอร์มการเล่นที่ติดๆขัดและมีความผิดพลาด สุดท้ายจึงโดนลงโทษ แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง สถานการณ์เริ่มเข้าทางจากลูกตีเสมอเร็ว แต่ไล่หลังไม่นานก็มาเสียประตูจากการเผลอเพียงเสี้ยววินาที กระนั้นพวกเขาเดินหน้าบุกได้ดี แต่เพราะความไม่เฉียบคมจึงทำให้พ่ายแพ้ ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ครึ่งแรกฟอร์มดีกว่าเจ้าบ้าน

แล้วอาศัยจี้จุดอ่อนของคู่แข่งจนได้ประตูนำ อีกทั้งยังมีไหวพริบในการชิงเล่นเร็ว กระทั่งนำมาสู่ประตูที่ 2 ถึงกระนั้นก็ดี แนวรับยังมีความผิดพลาดในเรื่องของความละเอียดและสมาธิ ซึ่งนำมาสู่การถูกยิงตีเสมอ 1-1 และเกือบโดนยิงตีเสมอ 2-2 หลายครั้ง ฉะนั้นการคว้า 3 แต้มในเกม ถือว่าทั้งเก่งและเฮงในคราวเดียวกัน

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ทำดีที่สุดแล้ว”

บีจี หมดลุ้นแชมป์ แต่โชว์สปิริตเก็บชัยเหนือ โคราช  3-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 26 ในโปรแกรมคืนวันอาทิตย์ คู่สุดท้ายของสัปดาห์นี้ ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่รั้งรองจ่าฝูงของตาราง จะต้องพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่สถานการณ์ยังสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น ฉะนั้นในวันนี้จำเป็นอย่างที่จะต้องเก็บแต้มออกไปให้ได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ทั้งเจ้าบ้านและทีมเยือนต่างในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน

      บีจี ปทุม ออกสตาร์ทเกมนี้ไม่ค่อยวูบวาบเท่าไร เพราะการครองบอลและจบสกอร์ไปไม่ถึงแดนสุดท้าย จะมีลุ้นก็จากฟรีคลิก นอกจากนี้การจ่ายบอลในแดนตัวเองยังเสียให้คู่แข่งเอาไปจู่โจม กระนั้นยังดีที่แนวรุกนครราชสีมา ไม่สามารถพาบอลเข้าพื้นที่กรอบเขตโทษได้ กระทั่งการยิงไม่มีความอันตราย จากนั้นเมื่อเกมผ่าน 25 นาที บีจี ปทุม เริ่มต่อบอลและพาเข้าพื้นที่อันตรายได้มากขึ้น ซึ่งนิยมขึ้นทางฝั่งขวาด้วยกาจ่ายทแยงหรือวางเข้าไป แต่สุดท้ายก็ยังติด พิศาล ที่ยืนตำแหน่งดีและบินเซฟได้อยู่

ครึ่งหลัง โคราช แก้เกมโต้กลับได้ดีกับการวางบอลไปทางด้านข้างเพื่อให้แนวรุกได้เก็บ ก่อนจ่ายเข้าแดนอันตราย ขาดเสียเพียงการจบสกอร์ที่ยังไม่เหน่งเท่าไร กลับกันทางฝั่ง บีจี ปทุม พอมีโอกาสก็ขึ้นนำ 1-0 ทันที โดยจังหวะนี้เป็นการยิงนอกกรอบ แนวรับยืนปิดได้ดีแล้ว แต่ พิศาล กะจังหวะบอลกระดอนไม่ดี ทำให้เมื่อปัดไม่โดนก็เข้าประตูไป จากนั้น บีจี ปทุม พยายามประคองตัวแล้วมาได้ประตู 2-0 จาการโต้กลับ ซึ่งการเอาบอลลงของ วรชิต นับเป็นที่น่าชื่นชม เพราะมันทำให้จังหวะต่อมาเล่นง่าย ก่อนจะประสานกับ ธีรศิลป์ และจัดการส่งบอลเจ้าสู่ก้นตาข่าย ส่วนประตู 3-0 มาติดๆ จากการตัดบอลและจ่าย 3 จังหวะ แล้วยิงโล่งๆ

      บทสรุปจากเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เริ่มต้นเกมแบบไม่วูบวาบเท่าไร อีกทั้งยังมีความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ แต่พอเวลาผ่านไป พวกเขาเร่งระดับของเกมรุกได้ กระทั่งมาได้ประตูในครึ่งหลัง อีกทั้งการโต้กลับและฉกบอลจากคู่แข่ง ก็ได้ช่วยให้พวกเขายิงทิ้งห่าง ซึ่งมันเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับทีมที่มีมิติหลากหลาย ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ครึ่งแรกเล่นเกมรับได้ดีพอควร ส่วนเกมรุกมีโอกาสแต่ไม่อันตรายพ กลับกันในครึ่งหลัง เกมรุกแก้ทางมาดีและเกือบนำก่อน อย่างไรเสียพอโดนยิงไปก่อน เกมรุกเกมโต้กลับก็หายไป มิหนำเกมรับได้เปิดรูรั่วอีก ทำให้สุดท้ายกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แมวข่วนโอ่ง”

นครราชสีมา Fได้ชาร์ลี โขกเฉือน ราชบุรี 1-0 โอกาสรอดตายเปิดกว้าง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 27 ในโปรแกรมเย็นวันเสาร์ ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ตอนนี้ต้องหนีตกชั้นแบบสุดชีวิต จะต้องพบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่สถานการณ์ไม่อันตราย แต่ก็ไม่ควรพ่ายแพ้ออกไป ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-2-3-1 ส่วนทีมปรับเป็น 4-4-2

      ในช่วงต้นเกม ราชบุรี ดูดีกว่าชัดเจนจากโจมตีทางริมเส้นและลูกเตะมุม ซึ่งมันสร้างโอกาสได้ดีและน่าเป็นประตูหลายหน กระนั้นเมื่อมีโอกาสเท่าไรแล้วทำไม่ได้เสียที เกมรุกก็เริ่มหายไปเมื่อผ่านครึ่งทางของ 45 นาทีแรก ส่วนทางฝั่ง โคราช ต้นเกมเป็นรอง จนได้แค่ตั้งรับและรอสาดบอลยาวไปข้างหน้า แล้วเป็นเรื่องดีที่เอาตัวรอดมาได้แบบไม่เสียประตู ทำให้เมื่อเกมผ่านไปเรื่อยๆ พวกเขาสามารถตั้งเกมของตัวเอง พร้อมกับต่อบอลจากด้านข้างเข้าไปหาหน้าประตู กระทั่งช่วงท้ายครึ่งแรก สวาทแคทมาได้ประตูนำ 1-0 จากการโหม่งของ ชาร์ลี ซึ่งการโขกลูกนี้อาจจะมีทิศทางที่ไม่ดี แต่มันได้เรื่องความแรง นอกจากนี้ต้องกล่าวโทษ ปวีร์ ที่ไปเสียเหลี่ยมให้คู่แข่งอยู่ด้านหน้าตัวเองแบบไม่เข้าไปเบียดรบกวน   

ครึ่งหลัง ราชบุรี พยายามจะบุกเข้าใส่ แต่เจ้าบ้านรับเหนียวและยืนตำแหน่งได้ดี ทำให้การพาบอลเข้าไปป่วนในแดนสุดท้าย ไม่ค่อยมีปรากฏให้เห็น กลับกันทางฝั่ง โคราช ได้โต้กลับอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งการโต้กลับหรือทำเกมบุก ก็ได้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนเมื่อถึงแดน 3 ซึ่งจะใช้การโยกหาช่องแล้วจ่ายหรือเปิดแทนการโจมตีทางริมเส้น ซึ่งมันสร้างโอกาสได้เรื่อยๆ แต่สวาทแคททำไม่ได้เอง  

บทสรุปจากเกม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ออกสตาร์ทเกมนี้ด้วยการโดนถล่มใส่ แต่เมื่อรักษาสกอร์ได้ ตรงนี้จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนแรกของเกม จากนั้นจุดเปลี่ยนที่ 2 คือ การได้ประตูนำก่อนหมดครึ่งแรก ซึ่งมันทำให้พวกเขาเล่นง่ายในครึ่งหลัง แต่มันก็น่าเสียดายที่มีโอกาสยิงเพิ่มแล้วทำไม่ได้ กระนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คงหนีไม่พ้น 3 แต้ม ที่ช่วยให้การหนีเปิดกว้างแบบสุดๆ ขณะที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เล่นดีเพียง 20 นาทีแรกของเกม แต่พอยิงนำไม่ได้รูปเกมเริ่มเริ่มดรอป แล้วยิ่งซ้ำร้ายกว่านั้น คือ การเสียประตูก่อนจบครึ่งแรก อย่างไรเสียพวกเขามีเวลามากมายใน 45 นาทีหลัง แต่เพราะตัวเองไม่มีน้ำยา ทำให้ไม่สามารถทวงคืนประตูกลับมาและเอาแต้มออกไปได้  

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover