Categories
Sport

“อะเดมา แพ้ทันที”

สุพรรณบุรี ได้อะเดกลับมาคุมทีม แต่ดันบุกไปพ่าย ขอนแก่น 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 คู่ประเดิมสนามในวันศุกร์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่สถานการณ์ไม่กดดันนักกับการหนีตาย จะต้องพบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ได้ อะเดบาโย่ หายจากโควิด-19 กลับมาคุมทีมข้างสนาม สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านยังเล่น 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนเป็น 4-2-3-1

      เกมในครึ่งแรก ไม่มีฝ่ายไหนครองเกมแบบเบ็ดเสร็จ โดยทางฝั่ง สุพรรณบุรี พอต่อบอลขึ้นมาถึงแดน 2-3 ก็จะไม่ไปต่อ แล้วเลือกจ่ายขวางไปมาก่อนโยนเข้าไป ซึ่งมันก็ไม่แปลกนักเพราะทีมนี้ไม่ค่อยมีทีมเวิรค์ อีกทั้งการได้ตัวใหม่มาเสริม ทีมเวิรค์ก็ยิ่งลดลง หรือการฝ่าไปของแนวรุกต่างชาติ มันก็เป็นงานสบายของแนวรับเจ้าถิ่น ขณะที่ ขอนแก่น ใช้การลำเลียงบอลทางริมเส้น แล้วพุ่งตรงไปถึงกองหน้า 2 ตัว กระนั้นการเล่นลูกตั้งเตะ กลับมีผลต่อความหวาดเสียวมากกว่า แต่ดันกดไม่ลงทั้งๆที่แนวรับทีมเยือนป้องกันหละหลวมหลายหน   

ครึ่งหลัง รูปเกมมีลักษณะคล้ายๆกับครึ่งแรก แต่มันมาเกิดจุดเปลี่ยนตรงที่ทีมเยือนเสียจุดโทษ จนขอนแก่น ได้ประตูนำ 1-0 แล้วทีมเยือนมีอาการช็อคและเสียสมาธิ จนมาโดนยิงทิ้งห่าง 2-0 จาก เมโล่ จากนั้น สุพรรณบุรี พยายามลำเลียงบอลขึ้นมา แล้วก็มีลักษณะเดิมๆ คือ ขึ้นมาถึงแดน 2-3 แล้วจ่ายขวางไปมา ก่อนเปิดหรือเลี้ยงฝ่าเข้าไป กระนั้นการบุกกดซ้ำ มันก็มีบ้างที่แนวรับเจ้าบ้านผิดพลาดจนเกือบเสียประตู แต่ยังดี ยศพล ช่วยเซฟไว้ กระทั่งท้ายเกม จงอางผยองประคองตัวและปิดเกมได้สำเร็จ      

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในสภาพฟูลทีม ถือว่าทำผลงานได้ตามมาตรฐาน โดยเกมรุกขึ้นบอลน้อยจังหวะและถึง 2 กองหน้าอย่างรวดเร็ว แต่มันก็น่าเสียดายที่ลูกตั้งน่าจะคมกว่านี้ เพราะไม่อย่างนั้นจะสบายตั้งแต่ครึ่งแรกและยิงได้มากกว่าที่เห็น ส่วนเกมรับไม่ผิดพลาดอะไร แต่พอเข้าสู่ 45 นาทีหลัง พร้อมกับโดนกดนานๆ ก็เริ่มมีความหละหลวม ขณะที่ สุพรรณบุรี เอฟซี เป็นทีมที่พึ่งพาทักษะเฉพาะบุคคล ทำให้พอขาด วิลเลี่ยม ความอันตรายก็หายตามไปด้วย ซึ่งภาพในวันนี้ค่อนข้างโดดเดี่ยวสำหรับ ดานีโล่ ส่วนเกมรับมีภาพของการยืนประกบที่หละหลวม โดยเฉพาะลูกตั้งเตะ แล้วในครึ่งหลังมีความผิดพลาดทั้งแบบส่วนบุคคลและแบบทั้งแผง จนสุดท้ายเป็นที่มาของการเสียประตูและต้องพ่ายแพ้      

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แพ้ปั๊บร่วงปุ๊บ”

สุพรรณบุรี ทำแสบ เปิดบ้านเชือด บียู 2-0 ฉุดแข้งเทพร่วงจ่าฝูงส่งท้ายเลกแรก

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี สุพรรณบุรี เอฟซี ที่พึ่งปลดล็อคตัวเองด้วยชัยชนะ จะต้องเปิดรังทำศึกหนักกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องการ 3 แต้ม เพื่อปิดเลกด้วยการเป็นจ่าฝูง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 5-4-1 ขณะที่ทีมเยือนเป็นไปตามโผกับระบบ 4-3-3

ทันทีที่เกมเริ่มต้นขึ้น ทรู แบงค็อก พยายามครองบอลและบุกใส่ตามสไตล์ทันที แต่ผ่านไปได้แค่ 6 นาที สุพรรณบุรี กลายเป็นฝ่ายที่ขึ้นนำก่อน 1-0 ซึ่งในจังหวะนี้ ทีมเยือนต้องโทษตัวเองที่ปล่อยให้เจ้าบ้านครองบอลง่ายและแนวรับอย่าง ทอม เบียรห์ กับ เอฟเวอร์ตัน ดันพลาด จน ดานีโล่ ที่ยืนตรงนั้นพอดี ได้ยิงแบบไม่ยากเย็น หลังจากได้ประตูนำ สุพรรณบุรี ถอยรับเต็มพิกัดและยืนป้องกันได้ดีแบบไม่มีข้อผิดพาด พร้อมกันนั้นก็ปล่อยให้ บียู ต่อบอลไปเรื่อยๆ ซึ่งการต่อบอลมันก็ทำได้แค่ในแดน 1-3 และเปิดโด่งเข้ามา     

ครึ่งหลัง บียู ยังคงเดินหน้าบุก ซึ่งการเปิดบอลโด่งจากริมเส้น จริงๆมันก็เริ่มมีโอกาสให้ได้ลุ้น แต่กองหน้าตัวเป้าอย่าง คาร์เตอร์ โหม่งไม่ดีเอาเสีย ไม่ต่างกันกับกองหลัง ที่เปิดพื้นที่จนโดนคู่แข่งโหม่งเข้าไปเป็น 2-0 จากนั้น ทีมเยือน พยายามจะบุกต่อ แต่เจ้าบ้านก็เริ่มจะมั่นใจและเข้าถึงบอลเร็วจนทีมเยือนเล่นลำบาก กระทั่งหลายจังหวะต้องสูญเสียการครองบอลให้ช้างศึกยุทธหัตถี เอาไปเผาเวลาได้หลายจังหวะ ซึ่งกว่าแข้งเทพจะมีโอกาสลุ้นแบบเนื้อๆ เวลาก็ล่วงเลยถึงช่วงท้าย อีกทั้งจังหวะต่างๆก็ไม่เป็นใจ เพราะบอลที่ยิงออกไป ชนเสา ชนคาน และติดเซฟทั้งหมด

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี แนวรุกฉกฉวยโอกาสและแปรเปลี่ยนเป็นประตูได้ดี ทำให้เกมนี้เล่นสบาย ส่วนเกมรับก็ยืนได้ดีแบบไร้ที่ติในครึ่งแรก แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง ก็เริ่มมีรอยรั่ว แต่โชคดีที่ไม่โดนยิงประตู ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด คู่กองหลังต้องรับผิดชอบกับประตูที่เสียทั้ง 2 ลูก ซึ่งการเสียประตูเร็วทั้งในช่วงต้นครึ่งแรกและครึ่งหลัง มันก็มีผลให้สมาธิและสภาพจิตใจถดทอย จนไม่สามารถขึงเกมบุกแบบเบ็ดเสร็จได้ หรือต่อให้มีโอกาส ก็ดันทำได้ไม่ดีพอ ฉะนั้นสำหรับแข้งเทพ ถือว่าเสียหายอย่างยิ่งกับการไร้แต้มในเกมนี้  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“อเดคนดวงแข็ง”

สุพรรณบุรี ทำช็อก บุกไปเชือด สมุทรปราการ ถึงถิ่น 1-2 หยุดสถิติแพ้ 7 นัดรวด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 14 ในส่วนของโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนาม กกท. บางพลี สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ฟอร์มรูดลงต่อเนื่อง จะต้องพบกับทีมที่ฟอร์มย่ำแย่ยิ่งกว่าอย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี ซึ่งแพ้รวดถึง 7 นัดติด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาเป็น 4-3-3

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น สมุทรปราการ ต่อบอลและเคลื่อนที่ตามสไตล์ อีกทั้งยังได้เห็นการตัดเข้าในของปีกทั้ง 2 ข้าง แต่ยังไม่มีจังหวะจบที่อันตราย กระนั้นระหว่างที่กำลังทำเกมอยู่ แดนกลางและหลังดันยืนตำแหน่งผิด ทำให้บอลแทงทะลุของ สุพรรณบุรี กลายเป็นประตูนำ 0-1 เสียอย่างนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่มีจังหวะบุก หรือต่อให้ครองบอลได้ ก็จะทำได้เพียงเลี้ยงวนเพื่อหลีกหนีการเพรสซิ่ง          

      หลังจากโดนยิงนำไปก่อน สมุทรปราการ พยายามจะเดินหน้าบุกต่อ แต่มันก็เป็นงานที่ยากขึ้น เพราะแนวรับทีมเยือนถอยไปรับแบบเต็มพิกัด ทำให้การใช้ลูกโยนต้องถูกงัดออกมา กระนั้นมันไม่มีทีเด็ดและไม่มีจังหวะอันตราย ตรงกันข้าม สุพรรณบุรี นานๆทีจะได้บอลขึ้นมาบุก ซึ่งการเคาะบอลในแดน 3 แล้วยิงไกลติดไซล์ก้อย ก็ได้กลายเป็นประตูทิ้งห่าง 0-2

ครึ่งหลังเริ่มต้นไปได้ไม่กี่นาที เนโต้ แจกโชคด้วยการจ่ายไปเข้าทาง ซากาอิ ให้ยิงสวนข้ามหัวเข้าประตูเป็น 1-2 ซึ่งในสถานการณ์ตรงนั้น สมุทรปราการ ได้โชคเล็กๆตรงที่ช่องว่างเหลือแค่ลูกเดียว แต่พวกเขาดันกดทีมเยือนไม่อยู่ อีกทั้ง สุพรรณบุรี ยังได้โต้กลับแบบมีความมั่นใจและไม่ตั้งรับแบบเต็มพิกัดเหมือนที่ผ่านมา โดยกว่าที่ลูกทีมของอิชิอิ จะขึงบุกได้ เวลาก็ใกล้จะหมดแล้ว นั่นจึงทำให้เวลาไม่พอที่ยิงตีเสมอ แล้วสุดท้ายต้องพ่ายแพ้ไป  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ เกมรุกยังมีปัญหาในเรื่องของไอเดียการเข้าทำที่ค่อนข้างจำกัด แล้วในขณะเดียวกัน แนวรับดันเสียประตูง่าย อีกทั้งยังมาโดนลูกยิงแบบสุดปัญญาอีก นั่นจึงทำให้สถานการณ์หลังจากนั้นค่อนข้างอึดอัด ซึ่งกว่าจะรวบรวมสติและขึงบุกได้ เวลามันก็ไม่เพียงพอ ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี เกมรับเหมือนจะแน่นหนา แต่มันก็มีความผิดพลาดส่วนบุคคลจนเสียประตู อีกทั้งช่วงท้ายเกมก็มีอาการแกว่งให้เห็น กระนั้นยังดีที่เกมรุกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แล้วมายิงประตูที่ 2 จากระยะไกลได้อีก ฉะนั้น 3 แต้มในวันนี้ ปัจจัยหลักมาจากจังหวะของฟุตบอลที่เข้าข้าง ขณะที่ฝีมือเป็นปัจจัยรอง

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ไล่ยากพอๆกับลุงแถวบ้าน”

สุพรรณบุรี ยังไม่ฟื้น พ่าย เชียงราย คาบ้าน 0-1 สร้างสถิติแพ้ 6 นัดรวด

ศึกฟุตบอลรึโว่ไทยลีก นัดที่ 12 ลงเตะกันในวันกลางสัปดาห์ โดยในส่วนของโปรแกรมวันพุธ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่พ่ายมาแล้ว 5 เกมติด จะต้องเปิดบ้านพบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่พึ่งพ่ายแพ้มาแบบย่อยยับและต้องการแก้ตัวในวันนี้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ตามเดิม ส่วนทางฝั่งทีมเยือนยึด 3-4-3

เชียงราย เหนือกว่าตามชื่อชั้น อีกทั้งในเกมนี้มองถึง 3 แต้ม นั่นจึงทำให้พวกเขาพยายามจะครองบอลและขึงบุก แต่การที่ตัวรุกมีน้อย มีผลให้การเจาะแดนอันตรายในกรอบเขตเป็นไปอย่างยากลำบาก จนการลุ้นทำประตูต้องมาลุ้นจากลูกเตะมุม ซึ่งก็มีโอกาสได้โขกเน้นๆ แต่กดไม่ลงเอง ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี วันนี้มาเน้นรับและสวนกลับด้วยการเลี้ยงฝ่าของผู้เล่นในแนวรุก โดยเฉพาะ ดานิโล่ กระนั้นการตะลุยแบบข้ามาคนเดียวอย่างนี้ มันก็ไม่ผิดแปลกที่จะไม่มีโอกาสได้ลุ้น เพราะแนวรับทีมเยือนตั้งโซนรอและรุมดักคืนได้

ครึ่งหลังเริ่มต้นไปได้ไม่กี่นาที ทีมเยือนต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เพราะ เฟลิเป้ ไปยกเท้าสูงและเล่นอันตราย จนผู้ตัดสินต้องให้ใบแดง ซึ่งจุดเปลี่ยนตรงนี้มีผลให้เกมรุกของ เชียงราย ไม่สามารถใช้อาวุธเด็ดทางริมเส้นฝั่งซ้ายได้ แต่กระนั้น กว่างโซ้งมหาภัยก็ยังเหนือและมีรูปเกมที่ดีกว่า เพราะพวกเขาเลือกที่จะขึงและพาบอลไปริมเส้น โดยต่อให้ไม่ได้เปิด ก็ได้เตะมุม แล้วการเตะมุมถี่ ๆ แบบนี้ พวกเขาก็อาศัยจุดนี้จี้แนวรับเจ้าถิ่น กระทั่ง 10 นาทีท้าย มาได้ประตูนำ 0-1

สุพรรณบุรี ในครึ่งหลัง กลายเป็นฝ่ายรับเกือบจะตลอดทั้งครึ่ง แม้จะได้เปรียบตัวผู้เล่นตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง กระทั่งโดนนำ 0-1 ถึงจะบุก ซึ่งเวลาราว 10 นาที รวมทดเวลา มันไม่เพียงพอสำหรับพวกเขา เนื่องจากการต้องเจอแนวรับทีมเยือนที่เชี่ยวชาญเกมรับอย่างยิ่งยวด อีกทั้งตัวเองก็มีดีแค่การเลี้ยงฝ่า สุดท้ายการบุกก็ไร้ทั้งผลและประตู

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี มีเกมรับที่ไม่ค่อยดียามเจอกับบอลโด่ง ขณะที่เกมรุกไม่มีการต่อบอลระหว่างผู้เล่น แต่ในวันนี้พวกเขามีโอกาสและความได้เปรียบแล้ว เนื่องจากคู่แข่งมาในสภาพที่ดาวน์ อีกทั้งยังเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า แต่ อเดบาโย่ เลือกที่จะรับและเอาผลเสมอ จนสุดท้ายเมื่อโดนยิงก็แทบจะแพ้ในทันที

เพราะแท็กติกและแนวคิดไม่สร้างสรรค์ ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด พยายามจะเล่นให้เหนือกว่า แต่ไม่มีประสิทธิภาพ ส่วนครึ่งหลังโชคร้ายที่เสียตัวผู้เล่นไป อย่างไรก็ตาม ด้วยแท็กติกของเจ้าบ้านที่ไม่มาสู้ จึงทำให้พวกเขากล้าที่จะเสี่ยงเพื่อเอา 3 แต้ม แล้วสุดท้ายก็ได้มาครองสมใจ แม้ฟอร์มจะไม่สวยหรู

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ไม่มีโอ้ ไม่มีผลต่อ 3 แต้ม”

เมืองทอง ไม่มีโค้ชโอ้ แต่ยังเจ๋งพอจะคว่ำ สุพรรณบุรี 2-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 11 ในส่วนของวันอาทิตย์ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ผลงานไปตามเรื่องตามราว จะเปิดรังธันเดอร์โดม รับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่แพ้ติดต่อกัน 4 นัดติดต่อกัน จนกระแสต่อต้านตัวโค้ชก็เริ่มหนักขึ้น ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบเดิมอย่าง 4-1-4-1 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-3-3 

      เกมยังไม่ทันได้ออกรสออกชาติ ประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นกับทางฝั่ง สุพรรณบุรี โดยในจังหวะนั้นเป็นฟรีคลิกที่เปิดมาหน้าประตู แล้ว พีรพงษ์ ชะงักจนล้มตัวช้า กระนั้นให้หลังแค่ 3 นาที ซาดอร์ มาตีเสมอ 1-1 จากลูกฟรีคลิกที่แฉลบกำแพง จากนั้นเมื่อสกอร์กลับมาเท่ากัน ดันกลายเป็นทั้งคู่เลือกจะแลกใส่กัน ซึ่งทางฝั่ง กิเลนผยอง โจมตีจากทางริมเส้น แต่การเปิดเข้ากรอบดูไกลและไม่แม่นยำกับตัวที่อยู่ในกรอบ ขณะที่ช้างศึกยุทธหัตถี ใช้การโจมตีริมเส้นเหมือนกัน แต่เน้นการเลี้ยงฝ่าและจี้ใส่แนวรับเจ้าบ้าน กระทั่งเกิดช่องและมีโอกาสที่ชัดเจนกว่า ขาดเสียเพียงความเฉียบคม

ครึ่งหลัง เมืองทอง ติวแท็กติกเกมรุกให้หาพื้นที่ว่าง เพื่อให้ตัวจ่ายสามารถมีทางเลือกในการออกบอล ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ช่วยให้เกมบุกไหลลื่นจนมาได้ประตูนำ 2-1 จากการเปิดให้ ซาร์ดอน วิ่งตัดหน้าแนวรับแล้วขึ้นโหม่ง ส่วนแผงเกมรับของ เมืองทอง มีการกำชับให้ยืนประคองตำแหน่งและคอยจับตายตัวจ่าย ซึ่งก็ทำได้ดีจนแนวรุกของทีมเยือนดูไร้พิษสง กระนั้นในช่วงท้ายเกม สุพรรณบุรี โหมบุกเต็มอัตรา ซึ่งตัวเองก็มีโอกาสจะได้ประตูตีเสมอ แต่การจ่ายเสียระหว่างทาง ก็ทำให้ เมืองทอง ที่แนวรับดูจะยวบไป มีโอกาสได้สวนและยิงฝัง แต่สุดท้ายไม่มีฝ่ายไหนทำประตูเพิ่มได้

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด มีฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะในครึ่งแรก ส่วนในครึ่งหลัง การแก้เกมมีผลต่อประตูนำ 2-1 แต่หลังจากนั้นเกมรับถูกขย่มจนเกือบจะโดนตีเสมอเหมือนกัน กระนั้นยังเดชะบุญสุดๆที่คู่แข่งมีทำหมูหกระหว่างทาง ทำให้มีเวลาได้หายใจหายคอบ้าง

ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี ทรงบอลไม่ถึงขั้นห่วยแตกและย่ำแย่แบบสุดๆ แต่ภาพที่ออกมามันเหมือนกับเป็ด ที่ไปไม่สุดสักทางและอะไรไม่ดีสักอย่าง โดยเกมรุกมีการเลี้ยงฝ่าที่ดี แม้จะต่อบอลไม่ดี แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม ขณะที่เกมรับเหมือนจะเอาอยู่ แต่สุดท้ายก็เสียประตู ทำให้ทั้งหมดทั้งมวล ช้างศึกยุทธหัตถีต้องเผชิญต่อแรงต้านในเรื่องทรงบอลที่ไม่มีรูปแบบนัก และผลการแข่งขันก็ไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“สูสีจัดจนต้องแบ่งแต้ม”

สุพรรณบุรี ฟอร์มดี แต่ราชบุรี ก็ดีไม่แพ้กัน สุดท้ายจบเจ๊าที่ 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 ซึ่งลงเตะกันในวันกลางสัปดาห์ สุพรรณบุรี เอฟซี ได้โอกาสกลับมาเฝ้ารังเหย้าอีกครั้ง รับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ได้พักมากกว่าเล็กน้อย เพราะเจอพายุฝนจนต้องเลื่อนเกม สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3  ส่วนทางด้านทีมเยือนใช้ 4-5-1

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองทีมไม่รู้คำว่ารัดกุมหรือความระมัดระวัง เพราะต่างฝ่ายต่างพาบอล สาดบอล หรือแทงไปข้างหน้า ไม่มีการถ่ายบอลใดๆให้ชักช้าเสียเวลา ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ทำให้ประตูแรกของเกมเกิดอย่างรวดเร็ว เพียง 15 นาทีแรกเท่านั้น โดยจังหวะดังกล่าวเป็น สุพรรณบุรี ที่ได้โต้มาทางริมเส้นและเปิดไม่ดีแล้ว เพราะเพื่อนไม่ถึงบอล แต่จังหวะมันดันพอดีกับ สีหนาท ที่วิ่งมาตรงนั้น อีกทั้งการตะบันเต็มข้อแบบเต็มแรง จึงทำให้บอลเสียบมุมจน กัมพล แทบจะไม่ต้องเซฟ

หลังจากเสียประตูให้เจ้าบ้าน ราชบุรี จำเป็นต้องบุกใส่แบบจริงจังมากขึ้น แต่อุปสรรคที่เพิ่มขึ้นมา คือ คู่แข่งถอยมารับมากขึ้น ทำให้การเจาะยากลำบากขึ้น อีกทั้งตัวเองก็ไม่มีกองกลางที่เก็บและจ่ายบอลดีไปให้แนวรุก ทำให้ราชันมังกร ต้องทำเกมบุกจากการขึ้นทางริมเส้นแล้วเปิด หรือชิงเล่นบอลเก็บตกจังหวะ 2 เพื่อหวังนำบอลไปโต้กลับแบบสายฟ้าฟาด

ในช่วงต้นครึ่งหลัง สุพรรณบุรี มีโอกาสเหน่งๆที่จะบวกเพิ่มเป็น 2-0 แต่พลาดไป ทำให้หลังจากนั้นโมเมนตัมเหวี่ยงมาทาง ราชบุรี แล้วได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการขึ้นทางริมเส้น แล้วค่อยๆตัดเข้ามา ซึ่งจังหวะจ่ายถวายพานเหมือนจะไม่ดี เพราะกำลังจะโดนสกัด แต่แนวรับเจ้าบ้านดันสกัดพลาด ทำให้บอลเลยไปถึงเสา 2 แล้วได้ยิงเข้าไป

หลังจากสกอร์กลับมาเท่ากัน ทั้ง 2 ทีม ต่างไม่พอใจในผลเสมอ เพราะจากรูปเกมที่แลกกันคนละหมัด มันสื่อให้เห็นว่าต่างฝ่ายต่างต้องการ 3 แต้ม แต่จากจังหวะการเข้าทำที่ปรากฏ สุพรรณบุรี มีโอกาสเหน่งๆมากกว่า แต่ดันถูก กัมพล เซฟปฏิเสธทั้งหมด ทำให้จบเกมด้วยการแบ่งกันไปแบบสุดมันส์ระดับ 6 ดาว

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี เล่นได้ดีมากในครึ่งแรก เพราะสามารถยืนป้องกัน ทำเกมสวนกลับและยิงประตูได้ อย่างไรเสียในครึ่งหลัง ความผิดส่วนบุคคลนิดเดียวส่งผลเสียถึงการเสียประตู ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี หลังจากเสียประตูไปก่อน มันก็เริ่มเห็นได้ชัดว่าเกมรุกไม่มีไอเดีย เพราะขาดกองกลางตัวสร้างสรรค์ กระนั้นยังโชคดีที่แนวรับคู่แข่งผิดพลาดให้ แล้วตัวเองสามารถฉวยโอกาสเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ได้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“สาลี่ติดคอ”

สุพรรณบุรี กุมความได้เปรียบ เชือด การท่าเรือ 2-1 ประเดิมเก็บ 3 แต้ม

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 4 ในส่วนของคู่วันอาทิตย์ ลงสนามพร้อมกัน 3 คู่ แต่ในส่วนนี้ขอพาไปดูเกมที่ สุพรรณบุรี เอฟซี ต้องเปิดบ้านรับศึกหนัก กับ การท่าเรือ เอฟซี โดยสถานการณ์ก่อนเขี่ยบอล ทั้ง 2 ทีม ต่างต้องการ 3 แต้ม เพราะอย่างงทางฝั่งเจ้าบ้าน พวกเขายังไม่ชนะใครเลย ขณะที่ทีมเยือนต้องการแต้มเพื่อ กลับไปสู่หัวตาราง อันเป็นเป้าหมายสูงสุด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ช้างศึกยุทธหัตถี มาในระบบ 4-3-3 ส่วนทาวฝั่งสิงห์เจ้าท่าใช้ 4-2-3-1

เกมการแข่งเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ฝ่าย พยายามเปิดเกมบุกใส่กัน แต่ไม่ทันไร สุพรรณบุรี ดันเปิดแผลในเกมรับด้วยการยืนตำแหน่งที่หละหลวม จนปล่อยให้ บดินทร์ ได้ยิง แล้วผู้รักษาประตูดันปัดบอลมาด้านหน้าตัวเอง จนโดน โบนีญ่า ยิงซ้ำเข้าไป จากนั้นให้หลังไม่กี่นาที  จุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้นกับการยืนคุมเส้นของ จตุภัทร แล้วมาโดนแขน ซึ่งการตัดสินไม่ต่างจากเคสของ รีส เจมส์ ที่ให้ใบแดงและจุดโทษ จนสุพรรณบุรี ตีเสมอ 1-1

หลังจาก สุพรรณบุรี ตีเสมอได้ พวกเขาก็มีช่วงเวลาที่ครองเกมและขึงบุกใส่เป็นระลอก แต่ด้วยไอเดียการเข้าที่มีเพียงโยนจากริมเส้นและยิงไกล ทำให้โอกาสที่จะยิงแซงยังห่างไกล ส่วนทางฝั่งการท่าเรือ หลังจากเสียประตู สมาธิของผู้เล่นขาดหายไปราว 5-10 นาที แต่เมื่อตั้งสติกลับมาได้ ก็จะใช้การโต้กลับด้วยการสาดบอลไปบริเวณริมเส้น เพื่อให้แนวรุกเก็บและเลี้ยงฝ่าก่อนเข้าทำ อีกทั่งยังมีบางช่วงที่ขึงได้ แต่เมื่อใดที่เสียบอล ก็มักถูกคู่แข่งโต้กลับแบบหวาดเสียวตลอด

ครึ่งหลัง สุพรรณบุรี กำลังจะขึงเพื่อบุก แต่ไม่นานก็มาได้ฟรีคลิก แล้วยิงได้ดีจนขึ้นนำ 2-1 จากนั้นกลายเป็นว่าทั้ง 2 ทีม เปิดแลกใส่กัน โดยทางฝั่ง การท่าเรือ สถานการณ์บังคับว่าต้องบุก เพราะสกอร์ตามหลัง แม้ว่าตัวผู้เล่นจะน้อยกว่า แต่ที่น่าแปลกใจ คือ สุพรรณบุรี เมื่อมีโอกาสและได้บอลก็ยังคงพยายามบุกต่อ โดยไม่อุดประตู

ในช่วง 20 นาที สุดท้าย การท่าเรือ ปรับแผนด้วยการเล่นหลัง 3 และเติมกองหน้าเป็น 2 ตัว พร้อมกับใช้แท็กติกสาดบอลยาวให้แดนหน้าเก็บ ซึ่งมันช่วยลดเวลาในการเซตจากแดนกลาง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาพวกเขาสาดบอลไม่แม่น ทำให้ สุพรรณบุรี ได้เก็บตกบอลเอามาโต้กลับ กระทั่งท้ายเกม สิงห์เจ้าท่า เริ่มออกอาการหมดแรง เพราะโหมบุกทั้งที่ตัวน้อยกว่ามาตลอดเกม แต่การโต้กลับของช้างศึกยุทธหัตถี ไม่สามารถยิงฝังได้ อีกทั้งยังมีจังหวะพลาดเกือบเสียประตู แต่โชคดีที่คู่แข่งพลาดเอง ทำให้จบเกมด้วยการเฉือนไป 2-1 เท่านั้น

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี เป็นรองและสกอร์ตามหลังเร็ว แต่โชคดีที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นและตีเสมอได้ อีกทั้งยังยิงประตูได้จากฟรีคลิก กระนั้นในจังหวะ Open play พวกเขาไม่สามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นประตู ฉะนั้นหากวันนี้ไม่มีโชค เต็มที่อาจได้แค่เสมอ ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี รูปเกมกำลังได้เปรียบและเป็นใจ แต่พอโดนใบแดง สถานการณ์กลับแย่ลง โดยเฉพาะในเรื่องจิตวิทยา ที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะตั้งสติได้ อีกทั้งการเล่น 10 ตัว ก็ไม่ได้เป็นรองคู่แข่ง หากแต่พลพรรคสิงห์เจ้าท่าเล่นพลาดมากเกินไป กระทั่งเป็นมูลเหตุที่ทำให้พ่ายแพ้วันนี้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover