Categories
Sport

กาแมน แม่นเสา

หนองบัว พิชญ เอฟซี ปลิดชีพช่วงทดเวลา 2-1  

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 ณ สนามพิชญ สเตเดี้ยม หนองบัว พิชญ เอฟซี ทีมท้ายตารางที่กำลังอยู่ในอาการโคม่า จะต้องพบกับ ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานออกทะเลและต้องการหาจุดเปลี่ยน

ซึ่งการบุกมาเยือนในครั้งนี้ โค้ชเตี้ยได้เปรียบเหมือนกับสุนัขจนตรอกเลยทีเดียว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2  ขณะที่ทีมเยือนเป็น 4-2-3-1

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ทีมดูไม่นิ่งเพราะจับบอลลั่นและรับส่งขาดๆเกินๆ แต่เพียง 7 นาทีเท่านั้น หนองบัว ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ตัดบอลในแดนตัวเองแล้วโต้ขึ้นมา

โดยทางฝั่งทีมเยือนถือว่าพลาดตั้งแต่ไม่บีบเมื่อเสียบอล ไม่รู้ตำแหน่งป้องกันกลางสนามและในแดน 3-4 รวมถึงผู้รักษาประตู ที่ท่าทางในการออกมาป้องกันดูไม่มั่นใจเอาเสียเลย อย่างไรเสียในนาทีที่ 17 ชลบุรี มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการทำชิ่งและจ่ายให้ ฟาอิค ที่อยู่เสาไกลตัวสุดท้าย ได้ยิงจ่อๆ ซึ่งในจังหวะนี้ถ้ายืนตำแหน่งดี แนวรับจะต้องสกัดได้ จากนั้นดูเหมือนฉลามชล จะตั้งเกมของตัวเองได้ กระทั่งมามีโอกาสทองจากจุดโทษ แต่ กฤษดา ดันยิงแม่นเสาไปเสียอย่างนั้น

ครึ่งหลัง หนองบัว พยายามเล่นเกมบุกมาขึ้น แต่การเสียบอลและโดนโต้กลับมักเอาคู่แข่งไม่ค่อยอยู่ กระนั้นการเหลือผู้เล่น 10 คน มันก็มีผลให้พวกเขาเล่นยาก มิหนำคู่แข่งยังสามารถปิดเกมริมเส้นของพวกเขาได้ ทำให้เกมบุกแทบจะไปไม่เป็น

ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี รูปเกมดูดรอปกว่าครึ่งแรก แต่การตั้งรับและรอโต้กลับก็เกือบได้ประตูแซงนำ โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมจาก กฤษดา ที่ดันยิงไปชนเสาเป็นครั้งที่ 2 แล้วในจังหวะต่อเนื่องนาทีที่ 90+6เหมือนแนวรับฉลามชล ยังช็อคและประมาทเปิดพื้นที่ ทำให้พญาไก่ชน ลากบอลเข้าไปยิงประตูชัย 2-1

      บทสรุปจากเกม ทั้ง 2 ทีมอาจมีอันดับในตารางที่ต่างกัน แต่เมื่อลงไปเล่นก็จะพบว่าฟอร์มไม่ได้ต่างกัน โดยทางฝั่ง หนองบัวพิชญ เอฟซี ดักบอลและโต้กลับจนได้ประตูก็จริง แต่เมื่อเกมช่วงหนึ่งโดนปิดเกมริมเส้น พวกเขาก็แทบจะไปไม่เป็น ไม่ต่างจากเกมรับที่ต้านทานคู่แข่งไม่อยู่และมันโดนสวนแบบสุดทางตลอด

อย่างไรเสียก็ต้องกล่าวว่าประตูนำ 2-1 มันเป็นเพราะคู่แข่งยิงไม่ได้ จนจังหวะต่อมาเปิดพื้นที่ให้อย่างมหาศาล แล้วพญาไก่ชนคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี ระบบและรูปแบบการเล่นดูไม่ชัดเจน กระทั่งเมื่อได้ประตูตีเสมอ พวกเขาเหมือนจะตั้งหลักได้และน่าประตูอย่างยิ่ง แต่ก็พลาดไป ส่วนครึ่งหลังดูเป็นรองในบางช่วง แต่ก็มีโอกาสทองแล้วยิงไปชนเสาอีก ฉะนั้นการยิงบอลของ กฤษดา แล้วชนเสา 2 ครั้ง ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้   

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สถานการณ์โซนแดง

ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2022/23 ก่อนเข้าโค้งสุดท้าย

ศึก รีโว่ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2022/23 ผ่านครึ่งทางของเลกที่ 2 และเหลือการแข่งขันอีกเพียง 8 นัด เท่านั้นก็จะจบฤดูกาล ซึ่งสถานการณ์ในโซนตกชั้นถือว่าเข้มข้นมาก เพราะโควตาที่ต้องตกชั้นลงไปสู่ไทยลีก 2 มีจำนวน 3 ทีม แต่มีถึง 6 ทีม

ที่ต้องต่อสู้เพื่อการอยู่รอดบนลีกสูงสุดแห่งนี้ ฉะนั้นในบทความนี้จะมาวิเคราะห์รายทีม ว่าใครมีโอกาสรอด รวมถึงใครควรทำใจแล้วไปเริ่มต้นในลีกรองปีหน้า  

กลุ่มทีมเหนือโซนตกชั้น

      ขอนแก่น ยูไนเต็ด มีผลงานในเลกแรกที่ค่อนข้างย่ำแย่และดูสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น แต่เมื่อเลก 2 หันกลับมาใช้โค้ชลูกหม้อ ผลงานก็ดีขึ้นจนหลุดพ้นโซนแดง ซึ่งการมีแต้มอยู่มือ 25 คะแนน และห่างจากโซนตกชั้น 5 คะแนน ในทางทฤษฎีอาจจะยังไม่ปลอดภัย

แต่เชื่อว่าด้วยฟอร์มแบบนี้ จงอางผยองจะผ่านไป ถัดมาที่ พีที ประจวบ เอฟซี พวกเขาเอาจริงเอาจังกับการเสริมทัพในเลกที่ 2 จนทำให้ช่วงออกสตาร์ทดี แต่ในช่วงนี้อาจแพ้มากไปหน่อย ฉะนั้นหากประคองตัวไว้แบบนี้ ก็อาจจะเป็นอีกทีมที่รอดตาย

      นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตและมีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหารกลางครรภ์ ก่อนจะกลับมาใช้บริการโค้ชโจอีกครั้ง แต่กว่าจะคว้าชัยนัดแรกในเลกที่ 2 ได้ ก็ต้องรอถึงนัดที่ 22 ฉะนั้นสำหรับสวาทแคท สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ

กลุ่มทีมในโซนตกชั้น

      ลำพูน วอริเออร์ รู้ตัวว่าศักยภาพทีมยังเป็นรองคู่แข่งอยู่มาโข จึงจัดการเสริมทัพแบบจัดหนักทั้งนักเตะและโค้ช กระนั้นตัวเล่นที่ได้มาอาจเป็นเป็นบิ๊กดีลก็จริง แต่สังขารล้วนอยู่ในข่ายใกล้ปลดระวาง อีกทั้งความเสียเปรียบที่ไม่ได้เล่นในบ้านและเสมือนต้องไปเยือนทุกนัด ทำให้โอกาสรอดของราชันโคขาว อาจมีเพียง 40 % เท่านั้น

ขณะที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี ผลงานในปีที่จัดว่าเซอร์ไพรส์ แต่พอขาดต่างชาติตัวหลัก ผลงานก็ดำดิ่งอย่างที่เห็น ซึ่งการมี 17 แต้มในมือ และห่างจากโซนปลอดภัย 4 แต้ม อาจจะยังมีโอกาส แต่จากสภาพทีมแล้วมีโอกาสตกชั้นถึง 60% เลยทีเดียว ส่วน ลำปาง เอฟซี ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง

การเลื่อนชั้นขึ้นมาถือว่าเซอร์ไพรส์แล้ว ทำให้การมีชื่อยู่ในโซนแดง ไม่น่าแปลกใจอะไร อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงทีมเวิรค์ว่าสู้อย่างเต็มที่แล้ว ฉะนั้นการมี 15 แต้ม แล้วตามโซนปลอดภัยอยู่ 6 แต้ม โอกาสตกชั้นจึงมีมากถึง 70 %

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

วิเคราะห์ รีวิวก่อนเกม

รีโว่ไทยลีก นัดที่ 23 โปรแกรมวันอาทิตย์

ศึกฟุตบอล รีโว่ไทยลีก นัดที่ 23 ของฤดูกาล ในโปรแกรมวันอาทิตย์ มีเกมลงสนามให้ได้ชมกันอีก 4 คู่ โดยคู่บิ๊กแมตช์จะอยู่ที่สนามทรู สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นการพบกันของ บียู กับ ชลบุรี ส่วนอีก 2 คู่ เป็นทีมจากภาคอีสานที่จะได้เล่นในรังของตัวเอง

โดย 1 ในนั้นเป็นเกมอีสานดาร์บี้ ที่อาจจะไม่เมามันส์นัก เนื่องจากเจ้าบ้านมีฟอร์มการเล่นที่ดรอปลงไปในฤดูกาลนี้ โดยผลที่คาดของทุกคู่จะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราจะไปวิเคราะห์และรีวิวกัน  

ลำปาง เอฟซี พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (18.00 น.)  

      ผลงานของ ลำปาง ถือว่าดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็กลับไปจมบ๊วย เพราะทีมที่อยู่ในข่ายต่างเก็บแต้มได้เช่นกัน ขณะที่ การท่าเรือ ผลงานเหมือนกำลังจะเป็นไปในทางที่ดี แต่จากนัดล่าสุดที่นำไปก่อน 2-0 แล้วกลับมาแพ้ 2-3 ก็ถือว่าช็อคพอสมควร อย่างไรเสีย สิงห์เจ้าท่ามีสภาพทีมที่เหนือกว่า แต่ก็ไม่อาจการันตีว่าจะคว้า 1 หรือ 3 แต้ม ออกมา

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ ชลบุรี เอฟซี (18.00 น.)

      เกมคู่นี้น่าจะเป็นบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ โดยทางฝั่ง บียู กลับมาเก็บ 3 แต้มอีกหน หลังจากผลงานเหมือนจะหลุดโค้งไปเล็กน้อย ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี ไม่ต้องสืบว่าผลงานเป็นเช่นไร เพราะ 4 เกมหลัง แพ้ไป 3 และเก็บได้แค่แต้มเดียว ฉะนั้นเกมนี้มองว่า แข้งเทพจะเป็นฝ่ายเฉือนชนะ และทิ้งความกดดันใส่ฉลามชลให้ตึงเครียดต่อไป

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (18.30 น.)

      การเก็บแต้มได้เรื่อยๆของ ขอนแก่น ทำให้พวกเขามีคะแนนที่ห่างจากโซนแดง 5 แต้ม เข้าให้แล้ว กระนั้นยังมองว่าพวกเขายังไม่ประมาทและต้องเดินหน้าเก็บแต้มต่อไป ซึ่งทีมที่มาเยือนอย่าง บีจี ปทุม สภาพตอนนี้เหมือนเศษซากที่ถูกเหยียบซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับผลงานที่พุ่งชนความพ่ายแพ้ไปถึง 4 นัด จาก 5 เกมหลังสุด อย่างไรเสียแม้ผลงานจะย่ำแย่แค่ไหน แต่บอร์ดก็ยังไม่มีท่าทีจะเชือดกุนซือลูกหม้อผู้อ่อนประสบการณ์อย่าง แมตต์ สมิธ ฉะนั้นจึงเชื่อว่าการเล่นในบ้านของ ขอนแก่น และสภาพทีมที่เละเทะของทีมเยือน จะเป็นตัวแปรสำคัญให้ จงอางผยอง เก็บ 3 แต้ม ในเกมนี้

หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (19.00 น.)

      หนองบัว ชนะ บีจี ปทุม มาก็จริง แต่มันเป็นการชนะทีมที่เหลือแต่เศษซาก ขณะที่ บุรีรัมย์ เดินหน้าฆ่ามันเพื่อเก็บสถิติแชมป์ไร้พ่าย ฉะนั้นเกมนี้ ปราสาทสายฟ้าเอาชนะได้แบบสบายๆ อย่างแน่นอน 

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

รถม้าอดเฮ

ขอนแก่น ไม่ยอมตาย ตามเจ๊า ลำปาง เอฟซี 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 18 เกมคู่วันอาทิตย์ ลำปาง เอฟซี ที่ยังอยู่ในโซนแดงและยังไม่มีท่าทีจะฟื้น ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่การเก็บแต้มได้เรื่อยๆ ช่วยให้พวกเขาหายใจคล่องคอ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ใช้ระบบเดียวกันคือ 4-4-2

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างสาดบอลเข้าใส่แดนคู่แข่ง เพื่อรีบทำรีบจบ แต่การรีบร้อนเกินไปมันก็มีผลให้โอกาสจบสกอร์ไม่ใกล้เคียงกับการเป็นประตู เพราะมันยังห่างจากปากประตูเกินไป จนเกมผ่าน 5 นาที ขอนแก่น เริ่มต่อบอลในแดนของเจ้าบ้าน

แต่การพาบอลเข้าไปแดน 3-4 แทบจะไม่มี อีกทั้งยังเสียบอลและไม่มีกองกลางคอยชะลอเกมโต้กลับของคู่แข่ง นั่นจึงทำให้ ลำปาง ที่ตั้งรับอยู่ สามารถดักบอลและโต้กลับอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งนาทีที่ 35 ชาวิน ช่วยยิงให้รถม้ามรกตนำขึ้น 1-0 ซึ่งลูกนี้เป็นการวิ่งสวนไลน์กับดักล้ำหน้าของแนวรับทีมเยือนอีกด้วย     

ครึ่งหลัง ขอนแก่น พยายามเดินหน้าบุก แล้วเพียง 5 นาทีเท่านั้น พวกเขาได้จุดโทษ แต่ดันยิงไม่เข้า นั่นจึงทำให้แท็กติกของลำปาง ที่ตั้งใจมาเล่นเกมรับและรอโต้กลับ ยังคงใช้งานต่อไปได้ ซึ่งการวางเกมรับแบบ 2 ชั้น ของรถม้ามรกต

สร้างความลำบากให้ทีมเยือนเป็นอย่างมากในพาบอลเข้าสู่แดนสุดท้าย กระนั้นด้วยความพยายามและไม่ถอดใจของนักเตะจงอางผยอง พวกเขามาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 86 จากลูกเตะมุมที่บอลลงหัวพอดี โดยไม่ต้องโทษเกมรับของเจ้าถิ่นที่ป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว จากนั้นในช่วงเวลาที่เหลือ ทั้ง 2 ทีม ต่างระวังตัวเพื่อเก็บ 1 แต้ม ในเกมนี้

    บทสรุปจากเกม แม้ ลำปาง เอฟซี จะเล่นในบ้าน แต่ก็ยังใช้แท็กติกเกมรับเป็นเบื้องต้น แล้วอาศัยการดักบอลเพื่อโต้กลับ ซึ่งมีโอกาสค่อนข้างมากและได้มา 1 ประตู นั่นจึงทำให้เกมในครึ่งแรก ถือเป็นฟอร์มที่ดีของเหล่านักเตะรถม้ามรกต ส่วนครึ่งหลังโชคดีที่ไม่โดนยิงตีเสมอจากจุดโทษ ทำให้ยังเล่นตามแท็กติกที่ถนัดได้

อย่างไรเสียมันก็น่าเจ็บใจที่โดนตีเสมอ ทั้งๆที่ป้องกันอย่างดีที่สุดแล้ว ขณะที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ครึ่งแรกพยายามจะครองบอลและบุกใส่ แต่เสียบอลมากเกินไป ไม่เพียงเท่านั้น กลางรับหายจนบอลไปถึงหน้าประตูแบบรวดเร็ว ซึ่งโชคดีมากๆที่โดนยิงไปเพียง 1 ลูก ส่วนในครึ่งหลังเหมือนจะหมดไอเดียในการเจาะแนวรับที่แน่นหนา แต่สุดท้ายก็มาได้ลูกโหม่งตีเสมอ จนเซฟแต้มออกมาได้สำเร็จ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Uncategorized

รับเยอะจนโดนแบ่งแต้ม

การท่าเรือ เอฟซี เกือบแย่ ก่อนเร่งเครื่องครึ่งหลัง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 18 โปรแกรมวันศุกร์ 1 คู่ ณ สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานยังลุ่มๆดอนๆบริเวณกลางตาราง จะต้องพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ทีมกลางตารางที่ผลงานดี ซึ่งใครที่ได้เจอจะต้องระวังพิษสงของทีมนี้ไว้ให้ดี สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-3-1  ส่วนทีมใช้ผัง 4-4-2

ในช่วง 20 นาทีแรก จัดว่าเป็นเกมที่น่าอึดอัดของเจ้าบ้าน เพราะเมื่อเจอเกมรับลึกและมีวินัย พวกเขาไม่สามารถเจาะได้ กระนั้นจังหวะเหน่งๆ 2 ครั้งซ้อน ที่เจาะทางฝั่งขวา ก็ไม่สามารถยิงนำได้เพราะยิงไม่ดีเอง จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป การท่าเรือ ตื้อจนบุกไม่ขึ้น กลับกัน โปลิส เทโร ดูเหมือนจะเป็นรองที่เล่นเกมรับ

แต่สวนขึ้นมาแต่ละครั้งเป็นหมัดที่หนัก กระทั่งมาได้ประตูนำ 0-1 จากการยิงนอกกรอบ ซึ่งในจังหวะนี้แนวเจ้าถิ่นพลาดที่ถอยลงไปปิดพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ แต่เปิดพื้นที่หน้ากรอบให้ได้ส่องไกล แล้วดันแม่นพอดี ไม่เพียงเท่านั้น ลูก 0-2 เป็นลูกสูตรที่เตรียมมา ทำให้แนวรับสิงห์เจ้าท่าได้แต่ยืนมองและไม่ได้ขยับตาม

15 นาทีแรกของครึ่งหลัง การท่าเรือ ยังไม่มีวี่แววจะยิงประตูได้ เพราะแม้แต่การสร้างจังหวะเข้าทำยังยาก เนื่องจากแนวรับทีมเยือนถอยรับแบบเต็มพิกัด กระทั่งนาทีที่ 60 ไล่ตีตื้น 1-2 จากลูกฟรีคลิก กระนั้นเกมรุกของสิงห์เจ้าท่า

ก็ไม่ได้ทะลุทะลวงไปจากเดิมและยังคงต้องเน้นการจบสกอร์จากนอกกรอบ กระนั้นในนาทีที่ 77 การท่าเรือมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการสาดบอลหน้าบ้านตัวเอง แล้วมีการโหม่งชงและยิงเข้าไป โดยจังหวะนี้แนวรับเทโรยืนหลวม จากนั้นพวกเขากลับมาเล่นเกมรุก แต่หลังลอยจนเกือบโดนยิงแซงอยู่เหมือนกัน

บทสรุปจากเกม การท่าเรือ เอฟซี มีฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยดีในครึ่งแรก โดยเกมรุกเจาะไปถึงแดนสุดท้ายได้น้อย กระนั้นโอกาสเหน่งๆก็มี แต่ดันยิงไม่เฉียบคมเอง อีกทั้งเกมรับไปเปิดพื้นที่ให้ส่องไกล และมิวายยังมาโดนลูกสูตรจนเสียประตูที่ 2 อย่างไรเสียก็ต้องบอกว่าลูกฟรีคลิกที่ยิงไล่มา 1-2 ถือเป็นจุดเปลี่ยนโมเมนตัมให้สิงห์เจ้าท่าที่กำลังตื้อๆ

ได้มีฮึดกลับมาสู้และแบ่งแต้มได้สำเร็จ ขณะที่ โปลิส เทโร เอฟซี ครึ่งแรกวางเกมรับแน่นหนาและรอสวนกลับด้วยการวางลูกยิงไกลกับตั้งเตะไว้เป็นทีเด็ด ซึ่งผลที่ออกมาถือว่าเกินคาด กับการยิงได้ 2 ประตู อย่างไรเสียใน 45 นาทีหลัง พวกเขารับมากเกินไป ทำให้โดนนวดจนเสียประตู มิหนำยังเกือบโดนยิงแซง ซึ่งยังโชคดีที่คู่แข่งไม่คมเอง

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่น

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด บุกพ่าย การท่าเรือ

ศึกฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ถือว่าเจองานหนักกับการบุกมาเยือน การท่าเรือ เอฟซี เพราะด้วยทีมที่เจอนั้นใหญ่และตัวเองผลงานนอกบ้านไม่ดี นั่นจึงทำให้กว่างโซ้งมหาภัยเลือกมาเล่นเกมรับและสุดท้ายไม่รอดกับการโดนยิงช่วงท้าย ทำให้เป็นฝ่ายตกรอบไป ซึ่งในส่วนนี้จะมาชำแหละและให้คะแนนกันว่าจะได้กันคนละเท่าไรบ้าง

สรานนท์ อนุอินทร์ (6) : มีงานที่ต้องออกแรงเซฟ ซึ่งในหลายจังหวะช่วงทีมไว้ได้ แต่ลูกที่เสียต้องยอมว่ามันจ่อจริงๆ

วิคเตอร์ การ์โดโซ่ (7) : เป็นเสาหลักในเกมรับเช่นเคย อีกทั้งยังมือกับแนวรุกที่มีความเร็วได้แบบไม่เป็นรอง

ชินภัทร ลีเอาะ (5) : ไม่มีความผิดพลาดแบบเด่นชัด แต่ก็เล่นไม่ได้โดดเด่นอะไร  

ดิเอโก้ แลนดิส (6) : ไม่เป็นรอง วิคเตอร์ ในการตามสกัดบอลจากผู้เล่นที่มีความเร็ว แต่ประตูที่เสียก็ต้องโทษเจ้าตัวที่ตามประกบไม่แนบสนิทเท่าไร  

ศนุกรานต์ ถิ่นจอม (5) : เป็นฝั่งที่โดนเจาะ รวมถึงต้องเติมขึ้นไปทำเกมรุก ซึ่งสุดท้ายแล้วถูกเปลี่ยนตัวออก เพื่อให้ตัวที่สดกว่าลงไปเน้นเกมรุก  

เนลสัน โบนีญ่า (6) : พยายามจะเป็นตัวพักบอล หรือลากบอลไปข้างหน้า แต่วันนี้ค่อนข้างโดดเดี่ยวและไม่มีใครช่วย กระทั่งท้ายเกมมีอาการหัวร้อนและอารมณ์เสียตามเคย

เศรษฐสิทธิ์ สุวรรณเศรษฐ์ (5) : หลายจังหวะยืนมองจนทำให้เจ้าถิ่นต่อบอลผ่านแดนกลางไปอย่าง่ายดาย ส่วนเกมรุกแทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่าไร  

จอร์นาตา แวร์ซูรา (5) : ตลอลด 85 นาทีที่อยู่ในสนาม แทบจะไม่มความโดดเด่นให้เห็นนัก

อติคุณ มีท้วม (5) : เน้นวิ่งไล่และจ่ายบอลแปะ ทำให้ถูกเปลี่ยนตัวออกเมื่อครบ 1 ชั่วโมง

ธนะศักดิ์ ศรีใส (5) : เป็นอีกรายที่วิ่งไปมา จนสุดท้ายถูกเปลี่ยนตัวออก

มนตรี พรมสวัสดิ์  (4) : เหมือนลงไปให้ครบ 11 คนมากกว่า

โชติภัทร พุ่มแก้ว (4) : ถูกส่งลงมาในช่วงครึ่งหลัง แต่หายไปจากเกมจนถูกเปลี่ยนออกทั้งๆที่อยู่ในสนามได้เพียง 35 นาทีเท่านั้น  

คิม จีมิน (6) : พยายามวิ่งหาช่องตลอด เมื่อเพื่อนได้บอลและกำลังจะโต้กลับ แต่พอเจอฝ่ายตรงข้ามรุมล้อมมันโดดเดี่ยวไปหน่อย

ทักษ์ดนัย ใจหาญ (5 ) : มีเวลาลงเล่นประมาณ 10 นาที แล้วไม่ได้สร้างความแตกต่างให้กับทีม  

อัครวินท์ สวัสดี (ไม่มีคะแนน) : มีเวลาให้ลงไม่ถึง 10 นาที แต่ก็ไม่ได้ช่วยทีมเท่าไร

สุริยา สิงห์มุ้ย (ไม่มีคะแนน) : ลงมาในช่วงทดเวลาและแทบจะไม่ได้สัมผัส ฉะนั้นจึงไม่มีคะแนนให้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ชัยชนะที่ไร้ความตื่นเต้น

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ปาดเหงื่อ ก่อนเฉือน ประจวบ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในโปรแกรมวันเสาร์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่นับตั้งแต่เลก 2 ยังไม่ชนะใคร จะต้องเปิดรังปทุมธานี สเตเดี้ยม รับ พีที ประจวบ เอฟซี ทีมโซนแดงที่ผลงานอยู่ในเกณฑ์ดีและอยู่เหนือโซนตกชั้น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมาใช้ 3-4-3 ขณะที่ทีมเยือนใช้ระบบเดิมอย่าง 4-4-2

      เกมการแข่งขันเริ่มต้นมาได้ 2 นาที บีจี ปทุม ขึ้นนำก่อน 1-0 จากการยิงไกลบริเวณเส้นเขตโทษของ อภิสิทธิ์ ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนประมาท เพราะเลือกจะยืนประคองไว้โดยไม่เข้าบีบกดดัน จากนั้นกลายเป็น กระต่ายแก้วถอยลงไปตั้งรับในระบบ 5-4-1 เพื่อปิดพื้นที่ไม่ให้ พีที ประจวบ สามารถพาบอลเข้ามาในแดน 3-4 ได้ อย่างไรเสีย

ต่อพิฆาตก็มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 30 จากการฉีกตัวมาโหม่งเสาแรกและบอลพุ่งเสียบเสาไกล และช่วงเวลาที่เหลือราว 15 นาที กลายเป็นทีมเยือนที่เล่นดีกว่าและมีโอกาสจบสกอร์ ตรงข้ามกับเจ้าถิ่นที่หลังจากได้ประตู ก็ไม่สามารถขึ้นเกมบุกได้อีกเลย

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม ปรับเกมด้วยการต่อบอลบริเวณริมเส้น แต่จังหวะที่ต้องเข้าทำไม่ลงตัวเพราะนักเตะไม่รู้ตำแหน่งที่ต้องยืน ทำให้โอกาสยังไม่ค่อยมี กระนั้นการเปิดบอลของ สันติภาพ ไปหา ธีรศิลป์ ก็ยังดีพอที่จะเป็นประตูขึ้นนำ 2-1 จากนั้น บีจี ปทุม เล่นตามสเต็ปเดิมคือ ถอยไปตั้งรับและโดน พีที ประจวบ โจมตีด้านข้าง บอลแทงทะลุช่อง แต่สุดท้ายยังดีที่รอดตัวมาได้   

      บทสรุปจากเกม การคว้า 3 แต้ม ในเกมนี้ของ บีจีปทุม ยูไนเต็ด มันไม่ได้เห็นถึงพัฒนาที่แตกต่างไปจากเดิม อีกทั้ง 2 ประตู ก็ได้มาจากความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น โดยสิ่งที่เห็นหลักๆคือ การฝึกซ้อมที่ไม่เห็นผลลัพธ์ทั้งเกมรุกและรับ นอกจากนี้การวางแผนและแก้เกมก็ปอดแหกตาขาว เพราะเมื่อไรที่ได้ประตูนำ

ก็จะถอยไปตั้งรับประหนึ่งเป็นทีมรอง ทั้งๆที่ศักยภาพผู้เล่นเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี ความประมาทเป็นสาเหตุหลักให้พ่ายแพ้ในวันนี้ โดยเกมรับมักยืนประคองและไม่เข้าบีบ ทำให้แนวรุกคู่แข่งมีช่อง ส่วนเกมรุกมีโอกาสเรื่อยๆ แต่มันน่าเสียดายที่ความนิ่ง ความเฉียบคม มีไม่มากพอ ทำให้เกมนี้อดคว้าแต้มออกมาแบบน่าเสียดาย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

เข้าพรวดเป็นเหตุให้แพ้

ราชบุรี เอฟซี 10 คน พ่าย บียู นาทีท้าย 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 เกมคู่เปิดหัวในวันศุกร์ ณ สนามดราก้อนโซล่าปาร์ค ราชบุรี เอฟซี ที่ผลงานในเลกที่ 2 ยังไม่น่าประทับใจ จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่กำลังฟอร์มดีและเดินหน้าเก็บชัยเป็นว่าเล่น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3  ส่วนทีมเยือนยังยึดแผน 4-2-3-1 ตามเดิม

      เกมนี้เริ่มต้นด้วยความตื้อตันและไม่มีโอกาสที่จะแจ้งจากทั้ง 2 ฝ่าย จนในนาทีที่ 24 เกิดจุดเปลี่ยนของเกมเมื่อ จิราวัฒน์ ไปย่ำที่เท้าของคู่แข่งโดนใบแดงไล่ออก นั่นจึงทำให้ความได้เปรียบเทไปทางฝั่งทีมเยือน แต่เมื่อโดน ราชบุรี แพ็คเกมรับแน่นๆใส่ ก็ไปไม่เป็น มิหนำโอกาสที่ใกล้เคียงดันมาจากฝั่งราชันมังกรเสียด้วย

ครึ่งหลัง แบงค็อก พยายามจะครองบอลเพื่อหาช่องเจาะ แต่การเสียบอลให้ ราชบุรี มันก็เป็นผลให้เจ้าบ้านมีโอกาสสวนกลับและมีโอกาสที่สูสี กระทั่ง บียูเริ่มมีอาการเกร็งและรูปเกมตื้อไปสักพัก ก่อนที่ช่วงท้ายเกม แข้งเทพจะกลับมาโหมอีกชุดและดูเหมือนจะยากสำหรับการได้ประตูชัย กระนั้นการเข้าพรวดของ โจนาธาร ในนาทีสุดท้ายของการทดเวลา ก็ได้กลายเป็นจุดโทษและประชัยของ บียู 0-1 เสียอย่างนั้น

  บทสรุปจากเกม ราชบุรี เอฟซี อาจต้องไปพูดคุยกับผู้เล่น ถึงการหลีกเลี่ยงใบแดงที่ไม่ควรโดนง่ายๆแบบนี้ ซึ่งอย่างในเกมนี้ต้องเล่น 10 คน ราว 70 นาที นั่นจึงทำให้เกมนี้เล่นลำบากและมองถึง 1 แต้ม

เป็นสำคัญก่อน โดยแท็กติกการแพ็คเกมรับและรอโต้กลับ กำลังจะได้ผลที่ต้องการอยู่แล้ว หากแต่ความผิดพลาดส่วนบุคคลเพียงนิดเดียว ได้กลายเป็นจุดหักเหจนไม่มีแต้มเกมนี้ ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ความได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่น แทบจะไม่สร้างประโยชน์อันใดให้กับพวกเขา เพราะการขึ้นเกมรุกไม่สามารถไปถึงแดนสุดท้ายได้ ไม่เพียงเท่านั้น นักเตะบียูยังเสียบอลง่ายและถูกโต้กลับแบบมีเสียว  

ส่วนเกมในครึ่งหลัง มีตื้อและกลับมาโหมอีกครั้ง ซึ่งตามรูปเกมแล้วพวกเขาควรได้ 1 แต้ม แต่ความผิดพลาดส่วนบุคคลได้ยื่นโอกาสทองให้กับพวกเขา สุดท้ายจึงคว้า 3 แต้ม ออกมาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด นอกเหนือจากนั้น มันก็มองได้ว่าพวกเขาอาจไล่จ่าฝูงไม่ทันและน่าจะมีเกมที่ต้องสะดุดอย่างแน่นอน หากดูจากฟอร์มจากเกมนี้และที่ผ่านมา

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“3 เกมที่ยังไม่ชนะใคร”

บีจี ยังบู่ไม่เลิก พ่ายคาบ้านให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 18 ในโปแกรมวันเสาร์ เกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ผลงานไม่ฟื้นและยังไม่ชนะใคร จะต้องเปิดรังปทุมธานี สเตเดี้ยม พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงที่ต้องการรักษาสถิติไร้พ่าย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนใช้ 4-2-3-1

เกมรุกของ บีจี ปทุม เน้นการใช้ความสามารถเฉพาะตัวของปีกในการลากบอลขึ้นไปแล้วเปิดบอลไปหน้าประตู ซึ่งมันมีความอันตรายพอสมควรในช่วง 5 นาทีแรก กระนั้นการป้องกันตรงพื้นที่ระหว่างกองกลางกับกองหลัง เหมือนจะไม่ลงตัวว่าใครจะต้องเข้าประกบตรงไหน ทำให้การลากบอลตัดเข้า หรือการเปิดบอลไปยังพื้นที่ตรงนั้น เริ่มเห็นรูว่าง

แล้วเพียงแค่นาทีที่ 11 บุรีรัมย์ ขึ้นนำ 0-1 จากการเปิดบอลไปยังบริเวณเส้นกรอบเขตโทษ แล้วมีตัวพร้อมเข้าชาร์ตถึง 2 คน ซึ่งการวางเท้ายิงถือว่าดีมาก เพราะไม่แรงแต่ทิศทาง 100% โดยหลังจากเสียประตูไป บีจี ปทุม ยังเล่นเกมใบุกในลักษณะเดิม ขาดเพียงความเฉียบคมที่ไม่นำพาไปสู่ประตูตีเสมอ กลับกันมันก็เห็นได้ว่าแบ็คซ้ายของทีมเยือนค่อนข้างรั่วในระดับบ่อน้ำมัน

ครึ่งหลัง บีจี ปทุม เดินเกมรุกแบบเดิมและน่าได้ประตูตีเสมออย่างยิ่ง แต่ปัญหาเดิมๆ คือ กองหน้าจบสกอร์ไม่คม แม้แนวรับทีมเยือนจะพลาดให้แล้ว จากนั้นก็มีโอกาสอีก 2-3 ที่ได้พาบอลไปป่วนหน้าปากประตู แต่การตัดสินไม่ดีจนไม่มีโอกาสยิง กระทั่งราวนาทีที่ 55 เป็นต้นไป

เกมรุกของเจ้าบ้านก็ไม่สามารถบุกขึ้นไปได้อีกเลย ขณะที่ทางฝั่ง บุรีรัมย์ แก้ไขการป้องกันทางฝั่งซ้ายได้ดี แต่การป้องกันของคู่กองหลัง ยังมีความผิดพลาดและโชคดีที่ไม่โดนลงโทษ กลับกันเกมรุกที่เหมือนจะตื้อ ดันมาได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 จากการเคาะตามช่องและจบที่ ศุภณัฎฐ์ ลาก แตะหลบ และชิพเข้าไปแบบเหนือชั้น ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือแทบจะเป็นการปิดเกมของทีมเยือน

บทสรุปจากเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีมิติเกมรุกที่ค่อนข้างจำกัด โดยจะเน้นให้ปีกลากบอลและเปิดเท่านั้น แต่วันนี้ความเฉียบคมหาได้มีไม่ ขณะที่เกมรับยังเห็นถึงปัญหาในการแบ่งหน้าที่เพื่อป้องกัน โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ระหว่างกองกลางกับกองหลัง

ซึ่งนั่นเป็นต้นเหตุให้เสียประตูแรก ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมรับมีปัญหาค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นคู่กองหลัง หรือแบ็คซ้ายที่โดนเจาะอย่างหนักในครึ่งแรก อีกทั้งยังสมควรที่จะต้องเสียประตู  แต่คู่แข่งดันไม่คมเสียเอง ขณะที่เกมรุกถือว่าลงตัวและไม่มีปัญหาใดๆ เพราะขอแค่มีโอกาสก็พร้อมจะยิงได้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ค้างคาวกระหน่ำท้ายเกม”

สุโขทัย ฟอร์มดุ เปิดรังกระหน่ำ

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 ณ สนามทุ่งทะเลหลวง สุโขทัย เอฟซี ที่ผลงานในบ้านค่อนข้างดีและมีแววจะเป็นอีกทีมทีอยู่รอดในฤดูกาลนี้ จะต้องพบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ผลงานนอกบ้านไม่ดีไม่ดีเท่าไร แต่อันดับก็ยังเกาะกลุ่มหัวตาราง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-4-2 เหมือนกัน      

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น สุโขทัย ไม่รีรอและทำเกมบุกใส่ด้วยการโจมตีทางริมเส้น โดยเฉพาะทางฝั่งขวา แล้วเพียง 7 นาทีเท่านั้น พวกเขาได้จุดโทษ แต่ บาจโจ้ ดันยิงไม่เข้า แล้วรูปเกมเหมือนจะดรอปไป อย่างไรเสีย ค้างคาวไฟมาได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 32

ซึ่งจังหวะนี้มีทั้งฝีมือและจังหวะที่เป็นใจผสมกัน เพราะมีการต่อบอลขึ้นมาอย่างสวยงามและเหมือนจะยิงไม่ดี แต่ ออสมันโซ ยืนอยู่ตรงเสาไกลพอดี จึงจัดการจิ้มบอลเข้าประตูไป ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ทางด้านซ้ายโดนเจาะแบบผ่านตลอด ขณะที่เกมรุกต่อบอลช้าจนไปไม่ถึงแดน 3-4   

ครึ่งหลัง เชียงราย ปิดแผลทางฝั่งซ้ายได้ดี เช่นเดียวกับเกมรุกที่เน้นการแทงบอลแบบไดเรคให้กองหน้า ซึ่งมีโอกาสที่ใกล้เคียง แต่ โบนีญ่า จิ้มบอลไม่เข้า กระนั้นเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ กว่างโซ้งมหาภัยเริ่มบุกได้ไม่ต่อเนื่อง มิหนำซ้ำแนวรับยังมาลื่นล้ม จนโดนฉกบอลและเสียประตู 2-0 ให้ สุโขทัย ส่วนประตู 3-0 ถือว่าน่าตำหนิแบบสุดๆ เพราะเสียบอลกลางสนามแล้วไม่ตามไล่ ทำให้ บาจโจ้ ได้ลากบอลเข้าไปยิงง่ายๆ

บทสรุปจากเกม สุโขทัย เอฟซี เล่นได้ดีกว่าตั้งแต่ต้นเกม แม้จะมีช่วงเวลาที่ดูดรอปลงไปให้เห็น แต่เมื่อมีโอกาสก็สามารถยิงนำ 1-0 ได้ ส่วนในครึ่งหลังพวกเขาเน้นรับมากขึ้น จนมาได้ส้มหล่นและการฉกฉวยโอกาสในยามที่คู่แข่งถอดใจ ขณะที่ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด

การเสียบอลง่ายเป็นตัวแปรสำคัญให้พวกเขาเป็นรองคู่แข่ง เพราะเมื่อเสียบอลก็ต้องวิ่งไล่และถอยตั้งรับแบบนี้ซ้ำๆ ทำให้การพาบอลไปข้างหน้าและสร้างจังหวะเข้าทำแทบไม่มี แม้ในครึ่งหลังจะแก้เกมมาได้ดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้พวกเขาเสียประตูทิ้งห่าง กระนั้นสิ่งที่น่าเสียใจที่สุดคือ พวกเขาถอดใจและปล่อยให้คู่แข่งลากบอลเข้าไปยิงง่ายๆ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover