Categories
Sport

“เมามันส์แต่เป้าสะอาด”

สมุทรปราการ จับมือ เมืองทอง จบเจ๊าแบบโนสกอร์ 0-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 12 ลงเตะกันในวันกลางสัปดาห์ โดยโปรแกรมของวันพุธ คู่สุดท้าย สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ฟอร์มยังไม่ค่อยดี แถมนักเตะตัวหลักก็บาดเจ็บ ต้องพบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มจัดว่าดีและไม่ขี้เหร่เลย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ไม่ผิดจากที่คาดการณ์ คือ 4-4-2 ของเจ้าบ้าน และ 4-1-4-1 ของทีมเยือน

      เกมการแข่งขันเริ่มต้น เมืองทอง เป็นฝ่ายครองบอลและเซตจากหลังเพื่อบุกไปข้างหน้า โดยการเข้าไปในแดนของคู่แข่งจะคำนึงถึงความรวดเร็วเพื่อให้ได้จบสกอร์ หรือในบางจังหวะที่บอลคลุกคลิกก็จะพยายามดักเก็บจังหวะ 2 เพื่อจู่โจมเร็ว ซึ่งการเล่นลักษณะมีโอกาสที่จะได้ประตูนำ แต่ติดเซฟ ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ ได้แต่ตั้งเกมรับ โดยการยืนตั้งโซนรับแบบมีวินัย ทำได้ดีและเหนียวแน่น แต่พอแตกแถวและต้องดวลตัวต่อตัวกับแนวรุกคู่แข่ง จะสู้ไม่ค่อยได้ ขณะที่เกมรุกแทบจะขึ้นไม่ได้เลย  

ครึ่งหลัง สมุทรปราการ ปรับเกมขนานใหญ่เพื่อให้ตัวเองได้บุกบ้าง โดยการโยนและพาบอลไปข้างหน้า แล้วพยายามจี้บอลใส่กองหลังทีมเยือน ถือว่าเป็นการแก้เผ็ดที่ตรงจุด เพราะแนวรับของ เมืองทอง คือ จุดอ่อน อย่างไรเสียการให้บอลขาดๆเกินๆ มันเลยทำให้จังหวะสุดท้ายไม่ได้จบแบบเหน่งๆ ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ก็พยายามจะบุกเหมือนกัน แต่การต้องเจอแนวรับเจ้าถิ่นที่ขวางเต็มพื้นที่ ทำให้การเจาะเข้าไปเป็นงานลำบาก กระนั้นการจี้บอลใส่ถี่จนแนวรับถอยชิดประตู มันก็เกือบที่จะทำให้ กิเลนผยอง มี 3 แต้ม กลับบ้าน จากการยิงไกลและโยนไปหน้าประตู แต่ความเฉียบคมที่ขาดไปเล็กน้อย ทำให้ได้แค่ 1 แต้ม  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ การได้ 1 แต้ม ในวันนี้ ต้องชื่นชมแนวรับที่ยืนกันได้ดี แม้จะมีบ้างที่เกือบจะหลุด ซึ่งมันตรงข้ามกับเกมรุก ที่แทบจะทำอะไรคู่แข่งไม่ได้ หรือต่อให้แก้เกมแล้ว มันก็ไม่ดีขึ้น กระนั้นก็ต้องเข้าใจด้วยว่าการขาดตัวผู้เล่นหลัก มันส่งผลจริงๆ ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ยูไนเต็ด เกมรับถือว่ารอดตัวตรงที่คู่แข่งไม่สมบูรณ์ ไม่อย่างนั้นมีสิทธิ์โดนเจาะตาข่ายแน่ ขณะที่เกมรุก แม้จะเจอความยากลำบาก แต่ก็ค่อยๆงัดไปเรื่อย ๆ จนได้จบ อย่างไรเสียเพราะความเฉียบคมที่ไม่มากพอ จึงทำให้วันนี้ได้แค่แต้ม ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เม็ดเดียวก็เพียงพอ”

ท่าเรือ ฟอร์มไม่สวยหรู แต่ยังเฉือน ราชบุรี 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 12 ลงเตะกันวันกลางสัปดาห์ โดยในส่วนของคู่สุดท้ายวันพฤหัสบดี การท่าเรือ เอฟซี ที่ก่อนเกมมีข่าวใหญ่กับการประกาศลาออกของ โค้ชโอ่ง จะต้องเปิดบ้านรับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ตอนนี้สถานการณ์ย่ำแย่จนใกล้เคียงกับการหนีตายแล้ว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-31 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-5-1

      การแข่งขันในช่วง 5 นาทีแรก ยังไม่ค่อยปะติดปะต่อทั้ง 2 ทีม แต่หลังจากนั้น การท่าเรือ เริ่มใช้การวางบอลจากกลางสนามไปยังไลน์ระหว่างกองหลังของคู่แข่ง แต่มันยังไม่สามารถสร้างโอกาสที่จะเป็นประตูได้ จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ก็เริ่มจะมีการต่อบอลและทำชิ่งตรงกลางสนาม แต่พอจะเข้าพื้นที่อันตราย ต้องตบออกซ้าย-ขวา แล้วเปิดบอลเข้าไปแทน ขณะที่ ราชบุรี ความเชื่องช้าในการขยับตัวไปข้างหน้า มีผลให้การต่อบอลมากจังหวะจนไม่ได้บุก หรือการแก้ไขด้วยการวางยาวไปให้กองหน้า มันก็ถูกเก็บกินง่ายๆ เพราะคนเปิดกับคนรอบอล ยืนห่างกันมาก

ครึ่งหลัง การท่าเรือ เร่งจังหวะการต่อบอลให้รวดเร็ว แต่เมื่อไปถึงแดนอันตรายของคู่ก็มักจะตกม้าตาย กับการเลี้ยงวนไปมาแล้วจบด้วยการยิงไกล นอกจากนี้โค้ชอู๊ด ยังได้สั่งการให้นักเตะวิ่งไล่เพรสซิ่งแดนบน เพราะแนวรับคู่แข่งไม่ค่อยนิ่ง ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี การขึ้นบอลค่อนข้างมีปัญหา เพราะเมื่อถึงแดน 3 ก็จะตัน จนต้องพึ่งการวางบอลยาวของ สรรวัชญ์ เป็นหลัก แต่สุดท้ายแดนหน้าก็เก็บไม่ค่อยได้

      ประตูนำ 1-0 ของ การท่าเรือ มาจากการที่แนวรับทีมเยือนถอยไปเรื่อย ๆ แล้วไม่มีตัวเข้ามาขวางทาง ทำให้ บดินทร์ มีพื้นที่และเวลาได้ส่องไกล แล้วมันเข้าเป้าด้วยการไซร์เสียบเสาไกล จากนั้น ราชบุรี ก็พยายามบุก แต่ด้วยปัญหาเดิม ๆ ทำให้บอลไปไม่ถึงแดนสุดท้าย อีกทั้งการเสียบอลง่ายๆกลางทาง ก็ยิ่งเสียเวลาให้เจ้าถิ่นเอาบอลไปบุกจนหมดเวลา

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี เปลี่ยนโค้ชแบบฉับพลัน ทำให้ยังไม่ค่อยเห็นไอเดียอะไรจากโค้ชอู๊ดมากนัก แต่สำหรับเกมนี้ เกมรับเกมรุจัดว่าเรียบ ๆ ไม่มีข้อผิดพลาด แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่น ส่วนประตูที่ได้และ 3 แต้ม ในวันนี้ มาจากการฉวยโอกาสยิงแล้วดันแม่นพอดี ขณะที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เกมรับไม่นิ่ง จนสุดท้ายถูกลงโทษด้วยการเสียประตู ส่วนเกมรุกก็ไม่ต่างกัน เพราะไม่สามารถขึ้นบอลจากหลังสู่หน้าได้ ทั้ง ๆ ที่คู่แข่งไม่ได้เพรสซิ่งอะไรที่ดุเดือดเลย  

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปผลการแข่งขัน ไทยลีก 2 นัดที่ 12

ศึกฟุตบอลไทยลีก 2 นัดที่ 12 ของฤดูกาล ลงเตะในวันเสาร์จำนวน 4 คู่

ซึ่งเมื่อกวาดสายตาดูโปรแกรมและผลการแข่งขันแล้ว ทีมในกลุ่มท้ายตารางน่าจะมีเสียวและสะเทือนเหมือนกัน เพราะมีหลายทีมที่ชนะและทำแต้มขึ้นมาอยู่ในโซนปลอดภัย โดยจะมีใครที่เข้าวิน ด้านล่างนี้มีคำตอบแล้ว

เกษตรศาสตร์ เอฟซี 2-2 อุดรธานี เอฟซี

      เกษตรศาสตร์ มีผลงานลุ่มๆดอนๆตามสภาพ แล้ววันนี้ต้องพบกับศึกหนักอย่าง อุดรธานี ที่ตอนนี้กำลังมีลุ้นเต็มตัวกับการเพลย์ออฟและเลื่อนชั้น โดยเกมการแข่งขัน ทีมเยือนออกนำไปก่อนไป 2 ครั้ง 2 คราว แต่สุดท้ายนาคามรกตตามตีเสมอเซฟแต้มในถิ่นได้สำเร็จ ขณะที่ฝั่งยักษ์แสด ถือว่าน่าเจ็บใจอย่างยิ่ง เพราะการสะดุดในวันนี้ทำให้พลาดโอกาสทำแต้มทาบรองจ่าฝูงอย่าง สุโขทัย

ศัสตอม ลาดกระบัง ยูไนเต็ด 3-1 ราชประชา เอฟซี

      ศัสตอม ไม่ต้องกังวลกับสถานการณ์ของตัวเอง เพราะผลงานที่ไปเรื่อย ๆ ทำให้พวกเขาอยู่กลางตารางแบบไม่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น ส่วนทีมเยือนในฐานะน้องใหม่ ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดัน เพราะตอนนี้ทำอย่างไรก็ยังมีแค่เสมอกับแพ้ แล้วนัดนี้ก็ตามคาดกับการที่สิงห์นายด่าน ปูพรมบุกและไล่ยิง 3 ลูก ก่อนที่ในช่วงทดเวลา ตราชฎาจะยิงตีไข่แตก แต่สุดท้ายก็ไล่ไม่ทัน

อยุธยา ยูไนเต็ด 1-0 ระยอง เอฟซี

      อยุธยา ออกสตาร์ทฤดูกาลด้วยฟอร์มที่ไม่ค่อยดี จนออกอาการน่าเป็นห่วง แต่ในช่วงหลังผลงานเริ่มดีจนหลุดพ้นโซนแดง ขณะที่ทีมเยือนก็มีผลงานที่น่าผิดหวัง เพราะจากเดิมตั้งเป้าไว้ว่าอยากมีลุ้นเลื่อนชั้น แต่ในความเป็นจริงตอนนี้อยู่แค่กลางตาราง อีกทั้งวันนี้ยังพ่ายแพ้ต่อนักรบอโยธยา อีก ทำให้สถานการณ์ที่จะลุ้นเลื่อนชั้นเริ่มน่าเป็นห่วงขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าแต้มจะไม่ห่าง แต่อย่าลืมว่าตอนนี้ม้านิลมังกรแข่งมากกว่าใครพวก  

ชัยนาท ฮอร์นบิล 0-2 เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด

      ชัยนาท มีฟอร์มการเล่นแบบวนลูปยุงลาย เพราะในช่วง 5 นัดหลัง พ่ายไปถึง 3 ทำให้ทีมที่อยู่ข้างเคียงทำแต้มแซงขึ้นไป กระนั้นในวันนี้มีโอกาสดีที่จะกลับคืนสู่ฟอร์ม เพราะได้เปิดเขาพอง สเตเดี้ยม รับ เมืองกาญจน์ ที่แม้จะเปลี่ยนโค้ชแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดี

กระนั้นผลการแข่งขันที่ออกมาอาจเรียกได้ว่าพลิกล็อค เพราะการบุกหลายครั้งหลายหนก็ไม่นำมาซึ่งประตู กลับกันพอเป็นทีของค้างคาวมหากาฬ พวกเขาสามารถยิงขึ้นนำไปก่อนในช่วงครึ่งหลัง แล้วมาตอกย้ำประตูตอกฝาโลงอีกที ทำให้นี่กลายเป็นชัยชนะนัดที่ 2 ของฤดูกาล อีกทั้งยังถีบตัวเองหลุดพ้นจากโซนแดงอีกด้วย

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

” จักรกริช ฮอตต่อเนื่อง “

ขอนแก่น ได้จักรกริช ช่วยยิงแบ่งแต้มจาก เทโร 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 11 ในส่วนของค่ำคืนวันเสาร์ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่พึ่งทำแสบด้วยการบุกไปกระซวก สุพรรณบุรี จะได้กลับมาเล่นในบ้านของตัวเองด้วยการพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ก็พึ่งทำแสบด้วยด้วยการยัดเยียดความปราชัยใส่ เชียงราย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 และทีมเยือนใช้ 3-4-3

เกมการแข่งขันเริ่มต้นไปได้แค่ 8 นาที แนวรับของเจ้าบ้านพลาดก่อน จากการเข้าไปเบียดบริเวณริมเส้นแล้วโดนพลิกหนีจนเสียเหลี่ยม โดยการเปิดบอลเข้าเขตโทษเหมือนจะไม่มีดีแล้ว แต่การที่แนวรับ 2 คน ยืนห่างจากตัวรุกของ เทโร ทำให้ทั้งจังหวะยิงและซ้ำเป็น 0-1 ไม่มีโอกาสได้ยืนป้องกันเลย จากนั้น ขอนแก่น พยายามตั้งเกมบุกของตัวเองขึ้นมา แล้วใช้เวลาไม่นานก็ตามตีเสมอ 1-1 จาก จักรกริช โดยในจังหวะนี้แนวรุกของเจ้าถิ่นลากบอลเข้ามาบริเวณแดน 3 หน้ากรอบเขตโทษ แล้วจัดการแทงบอลให้กองหน้าดีกรีทีมชาตไทยชุดยู 23 วิ่งขึ้นมาจิ้มบอลเข้าเสาแรก ซึ่งการจะกล่าวโทษแนวรับทีมเยือนก็พอว่าได้ เพราะพวกเขาปล่อยให้ตัวรุกที่มีความเร็วมีพื้นที่และวิ่งสวนไปแบบไม่มีตัวประกบ ส่วนช่วงเวลาหลังจากนั้นจนจบครึ่งแรก ไม่มีฝ่ายไหนทำประตูได้

ครึ่งหลัง เทโร เลือกจะถอยไปรับให้ลึกขึ้น เพื่อปิดทางมิให้แนวรุกที่มีความเร็วของเจ้าถิ่นได้ขยับ กระนั้นการถอยรับแบบนี้มีความเสี่ยงจะแพ้สูงหากเสียประตู เพราะ มังกรโล่เงินถอยรับพร้อมกับถอนคันเร่งเกมบุกจนไม่มีโอกาสลากบอลไปในแดนคู่แข่งเลย ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น การเล่นในบ้านย่อมมองถึง 3 แต้ม แต่การเจอคู่แข็งที่ถอยไปรับลึก ก็ได้สร้างความลำบากให้กับพวกเขา กระทั่งจงอางผยองต้องใช้การโยนจากริมเส้นและเลี้ยงฝ่า แต่สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ จึงจบเกมด้วยการเสมอกัน 1-1

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด มีความผิดพลาดในเกมรับและเสียประตูทันที ส่วนเกมรุกเมื่อมีโอกาสก็ทำได้ แต่ปัญหาเดิม คือ เมื่อเจอคู่แข่งแพ็คเกมรับแน่น ตัวรุกของพวกเขามีไม่มากพอที่จะเจาะคู่แข่ง ขณะที่โปลิศ เทโร เอฟซี ก็คล้ายๆกับเจ้าบ้าน คือ แนวรับมีความผิดพลาดและแนวรุกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่งได้ แต่แท็กติกในครึ่งหลังถือว่าเสี่ยง เพราะสภาพทีมมีปัญหาในเกมรับ แต่สุดท้ายยังดีที่ได้ผลและเอาแต้มออกมาได้

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ไล่ยากพอๆกับลุงแถวบ้าน”

สุพรรณบุรี ยังไม่ฟื้น พ่าย เชียงราย คาบ้าน 0-1 สร้างสถิติแพ้ 6 นัดรวด

ศึกฟุตบอลรึโว่ไทยลีก นัดที่ 12 ลงเตะกันในวันกลางสัปดาห์ โดยในส่วนของโปรแกรมวันพุธ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่พ่ายมาแล้ว 5 เกมติด จะต้องเปิดบ้านพบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่พึ่งพ่ายแพ้มาแบบย่อยยับและต้องการแก้ตัวในวันนี้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-5-2 ตามเดิม ส่วนทางฝั่งทีมเยือนยึด 3-4-3

เชียงราย เหนือกว่าตามชื่อชั้น อีกทั้งในเกมนี้มองถึง 3 แต้ม นั่นจึงทำให้พวกเขาพยายามจะครองบอลและขึงบุก แต่การที่ตัวรุกมีน้อย มีผลให้การเจาะแดนอันตรายในกรอบเขตเป็นไปอย่างยากลำบาก จนการลุ้นทำประตูต้องมาลุ้นจากลูกเตะมุม ซึ่งก็มีโอกาสได้โขกเน้นๆ แต่กดไม่ลงเอง ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี วันนี้มาเน้นรับและสวนกลับด้วยการเลี้ยงฝ่าของผู้เล่นในแนวรุก โดยเฉพาะ ดานิโล่ กระนั้นการตะลุยแบบข้ามาคนเดียวอย่างนี้ มันก็ไม่ผิดแปลกที่จะไม่มีโอกาสได้ลุ้น เพราะแนวรับทีมเยือนตั้งโซนรอและรุมดักคืนได้

ครึ่งหลังเริ่มต้นไปได้ไม่กี่นาที ทีมเยือนต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เพราะ เฟลิเป้ ไปยกเท้าสูงและเล่นอันตราย จนผู้ตัดสินต้องให้ใบแดง ซึ่งจุดเปลี่ยนตรงนี้มีผลให้เกมรุกของ เชียงราย ไม่สามารถใช้อาวุธเด็ดทางริมเส้นฝั่งซ้ายได้ แต่กระนั้น กว่างโซ้งมหาภัยก็ยังเหนือและมีรูปเกมที่ดีกว่า เพราะพวกเขาเลือกที่จะขึงและพาบอลไปริมเส้น โดยต่อให้ไม่ได้เปิด ก็ได้เตะมุม แล้วการเตะมุมถี่ ๆ แบบนี้ พวกเขาก็อาศัยจุดนี้จี้แนวรับเจ้าถิ่น กระทั่ง 10 นาทีท้าย มาได้ประตูนำ 0-1

สุพรรณบุรี ในครึ่งหลัง กลายเป็นฝ่ายรับเกือบจะตลอดทั้งครึ่ง แม้จะได้เปรียบตัวผู้เล่นตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง กระทั่งโดนนำ 0-1 ถึงจะบุก ซึ่งเวลาราว 10 นาที รวมทดเวลา มันไม่เพียงพอสำหรับพวกเขา เนื่องจากการต้องเจอแนวรับทีมเยือนที่เชี่ยวชาญเกมรับอย่างยิ่งยวด อีกทั้งตัวเองก็มีดีแค่การเลี้ยงฝ่า สุดท้ายการบุกก็ไร้ทั้งผลและประตู

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี มีเกมรับที่ไม่ค่อยดียามเจอกับบอลโด่ง ขณะที่เกมรุกไม่มีการต่อบอลระหว่างผู้เล่น แต่ในวันนี้พวกเขามีโอกาสและความได้เปรียบแล้ว เนื่องจากคู่แข่งมาในสภาพที่ดาวน์ อีกทั้งยังเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า แต่ อเดบาโย่ เลือกที่จะรับและเอาผลเสมอ จนสุดท้ายเมื่อโดนยิงก็แทบจะแพ้ในทันที

เพราะแท็กติกและแนวคิดไม่สร้างสรรค์ ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด พยายามจะเล่นให้เหนือกว่า แต่ไม่มีประสิทธิภาพ ส่วนครึ่งหลังโชคร้ายที่เสียตัวผู้เล่นไป อย่างไรก็ตาม ด้วยแท็กติกของเจ้าบ้านที่ไม่มาสู้ จึงทำให้พวกเขากล้าที่จะเสี่ยงเพื่อเอา 3 แต้ม แล้วสุดท้ายก็ได้มาครองสมใจ แม้ฟอร์มจะไม่สวยหรู

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

วิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 13 คู่วันเสาร์

นัดที่ 13 ลงเตะกันต่อเนื่องในสุดสัปดาห์ โดยในส่วนของวันเสาร์ มีโปรแกรม 4 คู่ 4 สนาม

ซึ่งหากมองจากการประกบคู่อาจไม่ถึงขั้นบิ๊กแมตช์ แต่ด้วยสถานการณ์และความกดดันของแต่ละทีม คือ สิ่งที่เราต้องไปติดตามดูกัน

โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี (18.00 น.)

      เทโร ผลงานลุ่มๆดอนๆ แต่ในนัดที่ผ่านมาโดย บียู ยำใหญ่ไปแบบอิ่มอร่อยถึง 5-0 ขณะที่ สุพรรณบุรี แพ้มาแล้ว 6 นัดติด อีกทั้งความร้อนฉ่าของ อเดบาโย่ ก็น่าจะเป็นที่ชินชาของแฟนบอลแล้ว เพราะเสียงต่อต้านดังเท่าไร ก็ไปไม่ถึงบอร์ดบริหารสักที สำหรับการพบกันของทั้ง 2 ทีม มาเจอกันในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ทั้งคู่ แต่หากดูจากองค์รวมแล้ว มังกรโล่เงินน่าจะเก็บ 3 แต้ม ได้

หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี (18.00 น.)

      ผลงานในบ้านเก็บ 3 แต้ม ได้เนืองๆ ขณะที่นัดล่าสุดบุกไปเก็บแต้มใหญ่จาก บุรีรัมย์ อีก นั่นจึงทำให้สถานการณ์ของ หนองบัว สดใสกับการอยู่รอดจริงๆ ตรงข้ามกับ ประจวบ ที่นับวันจะมีแต่สาละวันเตี้ยลง อีกทั้งเก้าอี้ของ ทากิ ก็น่าจะมีไหวๆบางแล้ว แต่การต้องไปเยือนที่ พิชญ สเตเดี้ยม เราต่างรู้ว่าเจ้าบ้านเก่งแค่ไหน และทีมอย่างต่อพิฆาตคงไม่รอดที่จะถูกพญาไก่ชนเผด็จศึกเอา 3 แต้ม  

ชลบุรี เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (19.00 น.)  

      ชลบุรี ดูดรอปไปก่อนหน้านี้ แต่จาก 2 ใน 3 นัดหลังสุด พวกเขามักอาศัยช่วงเวลาในวินาทีสุดท้ายของเกมยิงประตูชัย กระทั่งตอนนี้กระโดดกลับเกาะหัวตารางอีกครั้ง ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ การสะดุด 2 เกมติด ส่งผลให้พวกเขาต้องร่วงจากจ่าฝูง ทำให้การโคจรมาพบกันของทั้ง 2 ทีม จะใส่กันยับ กระทั่งมีโอกาสแบ่งแต้มสูง ขณะที่การหาผู้ชนะน่าจะมีโอกาสพอๆกันทั้ง 2 ทีม   

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ (19.00 น.)

      บีจี กำลังร้อนแรงและมีโอกาสสูงที่ขึ้นเป็นจ่าฝูง แต่การสะดุดเสมอต่อ โคราช ทำให้ความหวังนั้นพังทลาย ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ การขาดนักเตะที่เป็นดั่งดวงใจของทีม อาจจะยังไม่เห็นผล แต่ในระยะยาวเชื่อว่าจะมีผลแน่ สำหรับการพบกันของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมีย่อมมีความหิวกระหายที่จะเอา 3 แต้ม แน่นอน เพราะหากนัดนี้พลาดอีก โอกาสจะมีลุ้นเทียบเคียงจ่าฝูงจะหลุดลอย

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

วิเคราะห์ รีโว่ไทยลีก นัดที่ 12

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 12 ของฤดูกาล ลงสนามกันในวันกลางสัปดาห์ครบทุกคู่

ซึ่งในส่วนนี้จะไปดูเกม 4 คู่ ในวันพุธ 2 และพฤหัสบดี 2 โดยจะมีใครพบกับใครและผลที่คาดจะเป็นอย่างไร ไปตามกันต่อได้ด้านล่างนี้   

สุพรรณบุรี เอฟซี พบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด (18.30 น.)

      เกมที่สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี ลงเตะกันในวันพุธ โดย สุพรรณบุรี ผลงานดิ่งลงเหวสุดๆ เพราะพ่ายมาแล้ว 5 นัดติด ทำให้อันดับขยับมาจมอยู่รองบ๊วย ขณะที่ เชียงราย ผลงานก็เริ่มดรอปกับการพ่าย 3 จาก 5 นัดหลัง ทำให้การลุ้นแชมป์เลือนรางทันที กระนั้นหากเทียบจากผลงานและสภาพทีม มันก็นับเป็นโอกาสดีที่กว่างโซ้งมหาภัยจะใช้เกมนี้กู้สถานการณ์ด้วยเอาแต้มกลับบ้านเป็นอย่างน้อย   

สมุทรปราการ ซิตี้ พบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด (19.00 น.)

      ผลงานของ สมุทรปราการ เริ่มลุ่มๆดอนๆมาตั้งนานแล้ว อีกทั้งยังมาเสียกำลังอย่าง เจริญศักดิ์ ไปอีก ทำให้นับจากนี้น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งสำหรับเขี้ยวสมุทร ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ผลงานดูดีใช้ได้ แต่ฟอร์มการเล่นยังไม่ค่อยน่าประทับใจ กระนั้นหากเทียบจากสภาพทีมในตอนนี้ กิเลนผยองมีโอกาสที่จะบุกไปคว้า 1 หรือ 3 แต้มได้ ถ้าตัวเองเล่นได้ตามมาตรฐาน   

เชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด (18.00 น.)

      ข้ามมาที่เกมในวันพฤหัสบดี เชียงใหม่ ในฐานะบ๊วยของตาราง จะได้เฝ้ารังสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี รับ ขอนแก่น ที่พึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาด้วยกัน แต่สถานการณ์ต่างกันตรงที่จงอางผยองอยู่ในโซนปลอดภัย อย่างไรเสียหากดูจากฟอร์มของช้างเผือก ภายใต้การทำทีมของไอรตัน มันยังดูไม่ปะติดปะต่อ ขณะที่ทีมเยือนก็ยังมีปัญหาเกมรับที่ยังคงมีรูรั่วอยู่ กระนั้นหากต้องฟันธงก็เชื่อว่า ขอนแก่น มีดีพอที่จะบุกมาแบ่งแต้มได้เป็นอย่างน้อย 

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี (19.00 น.)

      การพ่าย 3 จาก 5 นัดหลังสุด ส่งผลให้สถานการณ์ภายในทีมการท่าเรือ ร้อนฉ่าขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะหากมองดูตารางคะแนน ทีมในกลุ่มนำล้วนขยับห่างออกไปเรื่อย ๆ แล้ว ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี การคว้า 3 คะแนน ในเกมล่าสุด ถือว่าเป็นการกู้ชีวิตทีมไม่ให้ย่ำแย่ไกว่านี้ เพราะสถานการณ์ล่าสุดร่วงลงไปอยู่ท้ายตาราง นั่นจึงทำให้เกมที่แพทสเตเดี้ยม ล้วนมีความหมายกับทั้ง 2 ทีม แต่สำหรับฝั่งสิงห์เจ้าท่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีแต้ม มิเช่นนั้นสถานการณ์จะย่ำแย่และอนาคตของโค้ชโอ่ง จะถูกแขวนบนเส้นด้ายทันที  

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“น้องแมวโหดเต็มระบบ”

โคราช ฟอร์มโหด ถล่ม การท่าเรือ ในถิ่น 3-1

ศึกฟุตบอลรีโวไทยลีก นัดที่ 11 ในส่วนของคู่เปิดหัววันอาทิตย์ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ผลงานเริ่มจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จะได้เปิดรังเหย้าของตัวเอง พบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่วันนี้ต้องเต็มที่เพื่อเก็บ 3 แต้ม ให้ได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านในใช้ 4-4-2 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนปรับมาเป็น 4-4-1-1

        การท่าเรือ ออกสตาร์ทได้ดูดีกว่า เพราะสามารถต่อบอลและทำชิ่งบริเวณริมเส้นได้ แต่การเจาะพื้นที่กรอบเขตโทษและยิงประตูยังไม่มี อย่างไรเสียพอเกมผ่านไปเรื่อย ๆ เกมรุกดันดรอปลงจนต้องลุ้นประตูจากการยิงไกลนอกกรอบแทน ขณะที่ นครราชสีมา เกมรับต้านทานได้สบาย ส่วนเกมรุกเริ่มตั้งตัวเมื่อ 10 นาทีผ่าน แต่การพาบอลไปข้างหน้าจะรู้สึกว่าการครองบอลไม่เหนียวและมักเสียเองก่อนเข้าพื้นที่อันตราย กระนั้นด้วยความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือน ก็ได้มีผลให้เจ้าถิ่นได้จุดโทษและประตูนำ 1-0

      การท่าเรือ พยายามจะบุกต่อเพื่อคุมเกมและประตูตีเสมอ แต่การเสียบอลกลางทางก็ได้เป็นการเติมเชื้อไฟให้แนวรุกเจ้าถิ่นมีความมั่นใจที่จะบุกทะลุทะลวง รวมถึงเจาะพื้นที่ที่แบ็คของทีมเยือนเติมขึ้นไปและลงไม่ทัน สุดท้ายบอลยาวจากหลังก็ถูก คาริคาลี่ ดูดลงและเลี้ยงเข้าไปยิงเป็น 2-0

การท่าเรือ เปลี่ยนแนวรุกลงมาเพิ่มในครึ่งหลัง แต่มันยังไม่ค่อยเห็นผล เพราะบอลไปไม่ถึงแดนสุดท้าย มิหนำซ้ำยังมาเสียสมาธิจากลูกเตะมุม จนถูกฉวยโอกาสเล่นเร็วและกลายเป็นประตู 3-0 ทำให้หลังจากนั้น เกมขึงบุกของสิงห์เจ้าท่า แทบจะเก็บฉากกลับบ้าน อีกทั้งการครองบอลในแดนกลาง ก็ถูกฉกถี่ๆจนเกือบโดนยิงเพิ่มหลายครั้ง กระนั้นในช่วงท้ายเกม ลูกทีมของโค้ชโอ่งมาได้ประตูปลอบใจ 3-1 จากจากจังหวะที่เจ้าถิ่นประมาทแล้วเปิดพื้นที่ให้เลี้ยงจี้และยิงนอกกรอบเสียบสามเหลี่ยม

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เกมนี้สถานการณ์เป็นใจตั้งแต่ขึ้นนำ 1-0 ทำให้หลังจากนั้นสามารถเล่นเกมสวนกลับที่ตัวเองถนัดได้เต็มที่ แต่การสวนกลับที่ไม่ค่อยแม่ยำและทำเสียเองระหว่างทางเกือบทุกครั้ง คือ สิ่งที่ต้องนำไปปรับ เพราะหากเกมสวนกลับมีคุณภาพ จำนวนประตูจะต้องมากว่า 3 ลูก ที่ยิงได้ ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี การพ่ายแพ้แบบนี้เสียท่าทีมใหญ่ เพราะประตูที่เกิดขึ้นล้วนมาจากความผิดพลาดทั้งหมด ขณะที่เกมรุกก็ไร้น้ำยาที่จะเจาะเข้าไปในแดนคู่แข่ง ซึ่งถึงตรงนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงจริงๆสำหรับสิงห์เจ้าท่า เพราะไม่ว่าจะเกมรับหรือรุกก็ล้วนแต่มีปัญหา

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ไม่มีโอ้ ไม่มีผลต่อ 3 แต้ม”

เมืองทอง ไม่มีโค้ชโอ้ แต่ยังเจ๋งพอจะคว่ำ สุพรรณบุรี 2-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 11 ในส่วนของวันอาทิตย์ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ผลงานไปตามเรื่องตามราว จะเปิดรังธันเดอร์โดม รับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่แพ้ติดต่อกัน 4 นัดติดต่อกัน จนกระแสต่อต้านตัวโค้ชก็เริ่มหนักขึ้น ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบเดิมอย่าง 4-1-4-1 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-3-3 

      เกมยังไม่ทันได้ออกรสออกชาติ ประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นกับทางฝั่ง สุพรรณบุรี โดยในจังหวะนั้นเป็นฟรีคลิกที่เปิดมาหน้าประตู แล้ว พีรพงษ์ ชะงักจนล้มตัวช้า กระนั้นให้หลังแค่ 3 นาที ซาดอร์ มาตีเสมอ 1-1 จากลูกฟรีคลิกที่แฉลบกำแพง จากนั้นเมื่อสกอร์กลับมาเท่ากัน ดันกลายเป็นทั้งคู่เลือกจะแลกใส่กัน ซึ่งทางฝั่ง กิเลนผยอง โจมตีจากทางริมเส้น แต่การเปิดเข้ากรอบดูไกลและไม่แม่นยำกับตัวที่อยู่ในกรอบ ขณะที่ช้างศึกยุทธหัตถี ใช้การโจมตีริมเส้นเหมือนกัน แต่เน้นการเลี้ยงฝ่าและจี้ใส่แนวรับเจ้าบ้าน กระทั่งเกิดช่องและมีโอกาสที่ชัดเจนกว่า ขาดเสียเพียงความเฉียบคม

ครึ่งหลัง เมืองทอง ติวแท็กติกเกมรุกให้หาพื้นที่ว่าง เพื่อให้ตัวจ่ายสามารถมีทางเลือกในการออกบอล ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ช่วยให้เกมบุกไหลลื่นจนมาได้ประตูนำ 2-1 จากการเปิดให้ ซาร์ดอน วิ่งตัดหน้าแนวรับแล้วขึ้นโหม่ง ส่วนแผงเกมรับของ เมืองทอง มีการกำชับให้ยืนประคองตำแหน่งและคอยจับตายตัวจ่าย ซึ่งก็ทำได้ดีจนแนวรุกของทีมเยือนดูไร้พิษสง กระนั้นในช่วงท้ายเกม สุพรรณบุรี โหมบุกเต็มอัตรา ซึ่งตัวเองก็มีโอกาสจะได้ประตูตีเสมอ แต่การจ่ายเสียระหว่างทาง ก็ทำให้ เมืองทอง ที่แนวรับดูจะยวบไป มีโอกาสได้สวนและยิงฝัง แต่สุดท้ายไม่มีฝ่ายไหนทำประตูเพิ่มได้

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด มีฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะในครึ่งแรก ส่วนในครึ่งหลัง การแก้เกมมีผลต่อประตูนำ 2-1 แต่หลังจากนั้นเกมรับถูกขย่มจนเกือบจะโดนตีเสมอเหมือนกัน กระนั้นยังเดชะบุญสุดๆที่คู่แข่งมีทำหมูหกระหว่างทาง ทำให้มีเวลาได้หายใจหายคอบ้าง

ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี ทรงบอลไม่ถึงขั้นห่วยแตกและย่ำแย่แบบสุดๆ แต่ภาพที่ออกมามันเหมือนกับเป็ด ที่ไปไม่สุดสักทางและอะไรไม่ดีสักอย่าง โดยเกมรุกมีการเลี้ยงฝ่าที่ดี แม้จะต่อบอลไม่ดี แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม ขณะที่เกมรับเหมือนจะเอาอยู่ แต่สุดท้ายก็เสียประตู ทำให้ทั้งหมดทั้งมวล ช้างศึกยุทธหัตถีต้องเผชิญต่อแรงต้านในเรื่องทรงบอลที่ไม่มีรูปแบบนัก และผลการแข่งขันก็ไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“2 นัด 9 ประตู”

บียู สวมบทโหด กระซวกไส้ เทโร ไม่เหลือซาก 5-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 12 ลงเตะกันในวันกลางสัปดาห์ โดยคู่แรกของวันอังคาร เป็นการพบกันของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่แม้จะสะดุดเสมอในบ้าน แต่เกมที่ผ่านมาไปถล่ม เชียงราย แบบไม่ให้ได้เกิด กับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ผลงานลุ่มๆดอนๆไปตามเรื่องและไม่ต้องร้อนร้นกับการหนีตกชั้นมาก ส่วนผังการเล่นในวันนี้ เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ขณะที่ฝั่งทีมเยือนใช้ 3-4-3

      เกมการแข่งขันเริ่มขึ้น เทโร พยายามจะต่อบอลและบุกทางริมเส้น แต่ความเชื่องช้าของการรับส่งบอล ทำให้เมื่อเข้าแดน 2-3 ก็จะถูกดักเอาบอลคืน กระทั่งเวลาผ่านไปก็ไม่ได้บุก ส่วนทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ยามได้บอลกลับคืนมาก็พยายามจะเล่นเร็ว แต่จังหวะเข้าทำยังไม่แม่นและพอดีกัน พลางจะต่อบอลและขึงไปเรื่อย ๆ ก็เจาะพื้นที่แดนสุดท้ายไม่ได้ เพราะแนวรับทีมเยือนยืนป้องกันได้หนาแน่น แต่แล้วในนาทีที่ 28 บียู ก็มาขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมที่เปิดมาได้พอดีกับหัวคนโหม่ง นั่นจึงทำให้สถานการณ์คลายความกดดัน จากนั้นก็มาได้ประตู 2-0 ให้อุ่นใจมากขึ้น จากการเปิดฟรีคลิกแฉลบกำแพง

ครึ่งหลัง เทโร ออกมาเล่นด้วยการบุกแลก ซึ่งมันก็พอจะมีจังหวะให้ได้เสียวบาง แต่กระนั้นการได้ประตูทิ้งห่าง 3-0 จากลูกเตะมุมอีกครั้ง มันก็มีผลให้การขึงบุกของทีมเยือนล้มเลิกไป แม้จะยังคงเดินหน้าอยู่ แต่การเสียบอลกลางทางถี่ ๆ มันก็มีผลให้รูปเกมเข้าทาง บียู ในการเอาบอลไปโต้กลับและเปลี่ยนเป็นประตู 4-0 และ 5-0 เมื่อครบ 90 นาที

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เริ่มต้นเกมด้วยความกดดันเล็กน้อย เพราะไม่สามารถเจาะแนวรับที่หนาแน่นได้ แต่พอได้ประตูนำ สถานการณ์มันก็เปลี่ยนไปจนอะไรๆก็ง่ายขึ้น จากนั้นจนจบเกม พวกเขาก็แค่ตั้งเกมรับและรอโต้กลับตามของชอบ แล้วด้วยความเฉียบคม จึงทำให้ยิงได้ถึง 5 ลูก

ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร เอฟซี ศักยภาพการต่อบอลและขึ้นเกมบุกเป็นรอง กระนั้นยังทำดีเพราะเกมรับแพ็คได้แน่นหนา แต่พอโดนเจาะประตู แผนแตกทันที เพราะมันไม่สามรถอุดประตูได้อีกต่อไป แล้วสุดท้ายด้วยศักยภาพและไอเดียการทำเกมบุกที่เป็นรอง มันก็เข้าทางให้คู่แข่งเอาบอลมาโต้กลับจนต้องจำยอมรับ แม้ว่าสกอร์จะดูโหดร้ายไปสักหน่อย      

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover