Categories
Sport

ว่ากันด้วยเรื่องของสนามหญ้า

ทีมชาติไทยชุดยู-23

การแข่งขันฟุตบอลยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ทีมชาติไทย ได้เดินทางไปแข่งขันที่ประเทศมองโกเลีย แล้ว 2 นัด แบ่งเป็นชนะและเสมออย่างละนัด กระนั้นสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ สภาพสนามที่เป็นหญ้าเทียม ซึ่งกำลังเป็นจุดที่บ่อนทำลายให้นักเตะต้องบาดเจ็บแบบไม่จำเป็น

      ในเกมที่ทีมชาติไทย ทำได้แค่เสมอกับ มองโกเลีย วันชาติ ชูสงค์ คือ นักเตะที่โชคร้ายสุดๆ เพราะมีอาการกระดูกเท้าแตก ทำไมต้องปิดเทอมยาว 3-6 เดือน ขณะที่ เบนจามิน เดวิส และ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตรถาวร ก็ได้รับอาการบาดเจ็บ แต่ไม่รุนแรงนัก จากนั้นในเกมที่ชนะ ลาว 3-0 อันโธนิโอ แสนใจรักษ์ กับ โจนาธาน เข็มดี ก็ได้กลายเป็น 2 ผู้เล่นล่าสุด ที่โชคร้ายได้รับอาการบาดเจ็บ ซึ่งจาก 2 เกมที่กล่าวมานี้ มันก็พอจะเห็นได้ว่าแล้วหญ้าเทียมมีผลให้นักฟุตบอลได้รับอาการบาดเจ็บง่าย

หากพูดกันถึงหญ้าเทียม จริงๆแล้วมันก็มีหลายเกรด โดยอย่างฟุตบอลไทยก็เคยมีทีมที่ใช้หญ้าเทียม คือ ศรีราชา สเตเดี้ยม ของ ศรีราชา เอฟซี ลีโอ สเตเดี้ยม ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ สนามจุ๊บ ของ จามจุรี ยูไนเต็ด โดยศรีราชา มีการยุบทีมไป ส่วน บีจี ปทุม เล็งเห็นแล้วว่าหญ้าเทียมมันก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บต่อตัวนักฟุตบอล อีกทั้งยังต้องสลับไปซ้อมสนามซ้อมหญ้าจริงทุกครั้งที่ออกไปเยือน

สุดท้ายจึงเปลี่ยนมาใช้หญ้าจริง ขณะที่ จามจุรี ยังคงเป็นทีมเดียวในลีกอาชีพที่ใช้หญ้าเทียม ฉะนั้นสำหรับวงการฟุตบอลไทย เราตระหนักถึงเรื่องนี้มาได้สักพักใหญ่แล้ว หรือต่อให้ในระดับอาเซียน ชาติที่มีสนามหญ้าเทียมอย่าง กัมพูชา ก็ถูกตำหนิ จนไม่ค่อยได้รับหน้าสื่อให้เป็นเจ้าภาพ หรือ สิงคโปร์ ที่จะเป็นเจ้าภาพ AFF Suzuki cup ปลายปีนี้ ก็ยังไม่ใช้สนามจาลันเบซาร์ ที่เป็นหญ้าเทียม แม้จะมีมาตรฐานค่อนข้างสูง

ทีนี้มาพูดถึงหญ้าเทียมที่สนาของมองโกเลีย จากที่สื่อไทยได้เก็บภาพมาลงในสื่อโซเชียล จะเห็นได้ว่าสนามในเกมกับ มองโกเลีย หญ้าเทียมสั้นเตียนและมีเม็ดยางดำค่อนข้างมาก ซึ่งตรงจุดนี้มันสื่อให้เห็นว่าเกรดของหญ้าเทียมนั้นต่ำและเป็นอันตรายต่อนักเตะ ขณะที่ในเกมกับ ลาว สภาพหญ้าเทียมดีขึ้นมาเล็กน้อย ฉะนั้นตรงจุดนี้อาจต้องกล่าวโทษไปยัง AFC ว่าเหตุใดถึงให้สนามหญ้าเทียมแบบนี้ผ่านเกณฑ์ เพราะจากงานศึกษาวิจัยหลายชิ้นมันก็ปรากฎให้เห็นแล้วว่า หญ้าเทียม มีความฝืดเคือง ไม่ไหลลื่นเหมือนหญ้าจริง ทำให้กล้ามเนื้อของนักเตะที่ยึดหยุ่น เกิดความไม่เป็นธรรมชาติเมื่อต้องมาเล่นหญ้าเทียม สุดท้ายความเสี่ยงที่จะเกิดอาการบาดเจ็บก็เกิดขึ้น

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ต่อชอบเมืองเหนือ”

ประจวบ บุกเมืองเหนือ เฉือน เชียงใหม่ คาถิ่น 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 คู่สุดท้ายของค่ำคืนวันเสาร์ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่พึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเฮดโค้ช จะต้องเปิดบ้านรับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่วันนี้หวังลึกๆว่าจะมาเอา 3 แต้ม เพราะทีมที่เจอจัดเป็นทีมที่อ่อนที่สุดในลีก หากดูจากผลงานและชื่อชั้น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบเดียวกัน คือ 3-4-3

         เกมการแข่งขันในครึ่งแรก ประจวบ พยายามจะเปิดเกมบุก แต่การต้องเจอแนวรับที่ยืนซ้อนตั้งแต่แดน 1-2 ทำให้การเจาะเป็นไปอย่างยากลำบาก อีกทั้งการเสียบอลกลางทางก็ทำให้ เชียงใหม่ สามารถเอาบอลไปโต้กลับอยู่ตลอด โดยการบุกของเจ้าบ้านจะอาศัยการต่อบอลริมเส้น ทำชิ่ง และจบสกอร์เร็ว หรือโยนเปลี่ยนแกนไปยังที่ว่างแล้วจบสกอร์ ซึ่งจังหวะการยิงประตูที่ปรากฏ มันมีหลายครั้งที่น่าเป็นประตู แต่เพราะความไม่เฉียบคมเอง จึงทำให้สกอร์ไม่ขยับ และถึงแม้ว่าทีมเยือนจะรุมบีบและเข้าหาบอลเร็วขนาดไหน ขุนพลช้างเผือกก็จะแกะเพรสและสวนกลับได้ กระนั้นในช่วงท้าย ต่อพิฆาตเริ่มชะลอจังหวะการบุกได้ ทำให้ความอันตรายเหลือเพียงแค่การโยนบอลยาว  

ครึ่งหลัง เชียงใหม่ สามารถเดินเกมรุกได้เหมือนครึ่งแรก อีกทั้งแนวรับคู่แข่งก็ปรากฏความผิดพลาดให้เห็น แต่น่าเสียดายที่ทำประตูไม่ได้เสียที ส่วนทางฝั่ง ประจวบ พยายามปรับเกมบุกจนสามารถสร้างโอกาสเหน่งๆได้ แต่ก็มีอันต้องติดเซฟผู้รักษาประตู จากนั้นเมื่อเกมผ่านไปครบชั่วโมง ทีมเยือนก็เริ่มจะเหนือกว่า เพราะสามารถนำบอลขึ้นมาบุกได้ถี่ขึ้น อีกทั้งแนวรับเจ้าบ้านก็เริ่มแสดงความผิดพลาดกับการออกบอลเสียและสมาธิแกว่ง กระทั่งท้ายที่สุดมีอันต้องเสียประตู 0-1 ซึ่งในจังหวะนั้นจ่ายบอลเสียกลางทางแล้วโดนโต้ ขณะที่กองหลังมัวแต่ยืนมอง ทำให้แนวรุกคู่แข่งมีช่องว่างสำหรับการโจมตี ส่วนช่วงเวลาที่เหลือ ลูกทีมของทากิคุมเกมได้หมด แม้จะยิงเพิ่มไม่ได้

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ครึ่งแรกและ 15 นาที ในครึ่งหลัง ถือว่าเล่นได้ดีอย่างผิดหูผิดตาจนสมควรได้ประตูขึ้นนำ แต่เมื่อยิงเท่าไรแล้วยิงไม่ได้ สมาธิก็เริ่มแกว่งและความผิดพลาดก็ตามมาลงโทษตัวเอง สุดท้ายเกมนี้พ่ายแพ้แบบที่ไม่น่าแพ้ ส่วนทางฝั่ง พีที ประจวบ เอฟซี เกมนี้ไม่ได้เหนือกว่าคู่แข่ง เพราะก็มีความผิดพลาดให้เห็นเหมือนกัน แต่พอคู่แข่งยวบ ตัวเองไม่ยวบตาม ทำให้เส้นทางสู่ 3 แต้ม คือ เดินหน้าเอาประตูสักลูก แล้วสามารถทำได้สำเร็จ       

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เดือดยันข้างสนาม”

ขอนแก่น เจ๊าเดือด โคราช ในดาร์บี้แมตช์อีสาน 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 6 ลงแข่งขันกันในวันกลางสัปดาห์ โดยในส่วนนี้ขอพาไปดูดาร์บี้แมตช์อีสาน ระหว่าง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก กับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ผลงานในเกมเยือนไม่ค่อยดี  สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 4-2-3-1

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองทีมพยายามเล่นด้วยความระมัดระวัง จากนั้นเมื่อเวลาไปจนเริ่มจับจังหวะของเกมได้ นครราชสีมา เปิดฉากด้วยขึ้นบอลทางริมเส้นแล้วเปิด ซึ่งมันดูเข้าเป้ากับการได้จบสกอร์ แต่นั่นก็มีส่วนมาจากแนวรับของเจ้าบ้านที่ยังจัดระเบียบการป้องกันไม่ค่อยดี

หลังจาก ขอนแก่น ผ่านพ้นมรสุมในเกมรับด้วยการไม่เสียประตู  นั่นจึงทำให้แท็กติกที่วางมาสามารถดำเนินต่อไปได้ กระทั่งการเปิดเกมรุกเริ่มแสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่า แต่ไม่ใช่การขึง หากแต่เป็นการขึ้นบอลและฝากไปให้ เมโล่ พัก เก็บ และเลี้ยงฝ่ายิงเอง โดยอย่างหลังนี้แนวรับของโคราชเอาไม่ค่อยอยู่ จนสุดท้ายโดนแนวรุกชาวบราซิลยิงประตูให้ จงอางผยอง ขึ้นนำ 1-0

ครึ่งหลัง เป็นงานหยาบของ โคราช และโค้ชโจ เพราะต้องเปิดเกมรุกใส่ทีมที่รับลึกแบบสุดใจ กระนั้นจุดเปลี่ยนสำคัญก็มาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการเสียใบแดงของ ขอนแก่น แบบไม่มีความจำเป็นใดๆเลย ทำให้ในช่วงเวลาที่อีกค่อนข้างมาก โคราช จะได้เปรียบกว่าเล็กน้อย โดยการปูพรมบุกใส่แน่นอนว่าสวาทแคท ไม่ชำนาญการขึงและต่อบอลเท้าสู่เท้า แต่การเล่นแบบฉาบฉวยก็ช่วยให้พวกเขามีลุ้นอยู่เนืองๆ กระทั่งการเล่นในลักษณะนี้ช่วยให้พวกเขาตีเสมอ 1-1 ซึ่งการยิงจังหวะแรกถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะถ้าหากจับบอลสักจังหวะ ก็อาจจะไม่มีช่องให้ยิงแล้ว

ช่วงที่ ขอนแก่น เหลือ 10 คน และสกอร์ยังนำอยู่ พวกเขามีโอกาสได้สวนกลับเป็นพักๆ แต่การจับบอลลั่นและสัมผัสแรกที่ไม่ค่อยดี ทำให้ไม่สามารถนำบอลไปโต้กลับแบบสุดทางได้ ส่วนหลังจากโดนตีเสมอ แนวรับจงอางผยอง ออกอาการรวนจนเกือบโดนยิงแซง กระนั้นยังโชคดีที่บอลไปชนเสาชนคาน ทำให้จบเกมด้วยการแบ่งแต้ม 

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด มีปัญหาในเกมรับตรงที่ไม่สามารถเล่นให้ดีตลอดรอดฝั่งได้  โดยในช่วงต้นเกมกับท้ายเกม ออกอาการแกว่งชัดเจน ส่วนในแผงเกมรุกมีเพียงการฝากบอลไปให้กับกองหน้า  อีกทั้งเกมสวนกลับก็ยังไม่ใช่อาวุธเด็ด ทำให้นับจากนี้คงต้องลุ้นเหนื่อยไปอีกสักพัก ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ฟอร์มการเล่นยังคงมาตรฐานเดิม กล่าวคือ เกมรับมักมีข้อผิดพลาดเสมอยามเจอแนวรุกที่ความสามารถเฉพาะตัวจัด ส่วนเกมรุก มิติการเข้าทำยังไม่มีความหลากหลายที่ต่างไปจากเดิม อย่างไรเสียวันนี้ตัวต่างชาติยังมีทักษะที่ล้นเหลือพอจะยิงประตูตีเสมอ เพื่อเอาแต้มกลับบ้าน

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover