เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 24 (วันศุกร์-เสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 24 ของฤดูกาล มีเกมที่ลงเตะเปิดหัวในวันศุกร์ 1 คู่ ส่วนในวันเสาร์จะตามมาอีก 3 คู่ ซึ่งในแง่ของความมันส์และเป้าหมายของแต่ละทีม กำลังอยู่ในสภาวะตึงเครียด แต่สุดท้ายใครจะมีโอกาสสมหวังจากผลการแข่งขันบ้าง นับจากนี้เราจะไปวิเคราะห์กัน 

เชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบกับ ชลบุรี เอฟซี (วันศุกร์, 18.30 น.)

      หลังจากฟอร์มแรงและมีหมัดชุดด้วยการรัวชนะ 2 นัดติด เชียงใหม่ ก็เริ่มกลับคืนสู่สามัญด้วยความพ่ายแพ้เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น ก็ไม่มีอะไรต้องเสียดาย เพราะพวกเขาสู้อย่างถึงที่สุดแล้ว ส่วน ชลบุรี การมีผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บและอยู่ในช่วงฟอร์มรูดอีกครั้ง มันก็ส่งผลต่อความมั่นใจที่หดหายไปเหมือนกัน ทำให้การบุกเยือนเมืองเหนือ ฉลามชลอาจได้แค่ยันเสมอเป็นอย่างน้อย  

พีที ประจวบ เอฟซี พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (วันสาร์, 17.30 น.)

      ผลงานของ ประจวบ กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากยังรักษาฟอร์มเก่งแบบนี้ได้ โอกาสรอดตายก็มีสูง ตรงข้ามกับ การท่าเรือ ที่แม้จะอยู่กลางตารางและไม่ต้องหนีตาย แต่หากดูจากเม็ดเงินที่ลงทุนไป มันค่อนข้างน่าผิดหวังอย่างรุนแรง โดยเฉพาะการแพ้บ๊วยและรองบ๊วยคาบ้าน มันคือสิ่งที่ยากยิ่งจะยอมรับได้ ฉะนั้นการพบกันที่สามอ่าวสเตเดี้ยม หากต่อพิฆาตเล่นในมาตรฐานเดิม การคว้า 3 แต้ม เป็นไปได้แน่นอน

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 18.00 น.)

      ขอนแก่น สบายใจได้กับการหนีตาย หากดูจากระยะห่างของแต้มที่มากถึง 7 คะแนน กระนั้นด้วยเกมที่มีในมืออีก 6 นัด ก็จำเป็นต้องมีคะแนนติดมือบ้าง ส่วนทางฝั่ง เชียงราย ผลงานอาจจะไม่ดีมาก แต่ก็ไม่แพ้ใครง่ายๆ อีกทั้งทีมที่อยู่ด้านบนต่างฟอร์มรูดแบบรุนแรง ทำให้กว่างโซ้งมหาภัยมีลุ้นทำอันดับติด 1 ใน 3 เพื่อไปลุยถ้วยเอเชีย กระนั้นหากเทียบผลงานของทั้ง 2 ทีม ทีมเยือนอาจมองได้แค่ 1 แต้ม เป็นเบื้องต้นก่อน 

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 18.00 น.)

      นับตั้งแต่เปิดเลก 2 เป็นต้นมา แบงค็อก เล่นเสมือนทีมหนีตาย แต่ด้วยคะแนนที่ตุนไว้ในเลกแรก มันก็มีผลให้พวกเขายังอยู่หัวตาราง ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม การเปลี่ยนโค้ชใหม่มาเป็นเทกุซัง ดูมีทรงบอลที่แปลกใหม่จากเดิมเหมือนกัน ทำให้การมองเพียงเท่านี้ กระต่ายแก้วมีสิทธิ์บุกไปเก็บ 3 แต้ม ได้เลยทีเดียว 

ติดตาม ข่าวกีฬา ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

3 โซนภาคตะวันออก หลังผ่าน 19 นัด

ศึกฟุตบอลมังกรฟ้าไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออก กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล โดยการแข่งขันที่เหลืออีก 3 นัด บทสรุปของทีมหัวตารางใกล้จะชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันถ้าหันไปมองด้านล่าง จะพบความมันส์รออยู่เบื้องหน้า เพราะด้วยจำนวนทีมหนีตายและคะแนนที่ไม่ห่าง ทำให้นับจากนี้ยังคงต้องเดินหน้าโกยแต้มกันต่อไป

กลุ่มหัวตาราง

      พัทยา ดอลฟิน ยูไนเต็ด หรือ อีสาน พัทยา ในชื่อเดิม ซึ่งหลังจากเปลี่ยนเจ้าของใหม่ ก็ได้มีการยกเครื่องจากทีมระดับกลางๆ ให้กลายเป็นทีมขาใหญ่ของลีกภูมิภาค อีกทั้งยังได้โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ เข้ามาช่วย ทำให้สามารถโกยแต้มเป็นว่าเล่นจนน่าจะคว้าแชมป์ได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องไม่ประมาททีมที่ตามหลัง เพราะคะแนนยังไม่ขาด ถัดมาจะเป็น บ้านค่าย ยูไนเต็ด กับ ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี ซึ่งต้องขับเคี่ยวกันอย่างหนัก เพราะตั๋วสำหรับการไปรอบซุปเปอร์ลีก จะมีแค่ทีมเดียวที่สมหวัง ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับทีมที่จะต้องพลาดตั๋วใบสุดท้าย เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นทีมที่มีคุณภาพทั้งคู่ ขณะที่ ปลวกแดง ยูไนเต็ด ผลงานในปีนี้ดรอปลงมาเสียดื้อๆ อีกทั้งด้วยระยะห่างของแต้มจากพื้นที่โควตาอันดับ 2 ถึง 6 แต้ม มันก็เป็นผลให้พวกเขาไล่ไม่ทันและต้องล้มเหลวในปีนี้  

กลุ่มกลางตาราง

      สายมิตร กบินทร์ ยูไนเต็ด ผลงานพอๆกับเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมันอาจมองได้ว่าเป็นผลงานที่ไม่ล้มเหลว แต่มันก็น่าเสียดาย เพราะการตั้งเป้าหมายว่าอยากมีลุ้นโควตาซุปเปอร์ลีก ก็ไม่ได้แม้แต่เฉียด โดยการออกเสมอมากเกินไป ทำให้เสียแต้มไปเยอะ ถัดมา สอ.รฟ. เอฟซี อันดับดีและคะแนนมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว เช่นเดียวกับ อัศวิน เกาะขวาง เอฟซี ที่ขยับตัวเองขึ้นมาเป็นทีมกลางตารางแบบไม่ต้องลุ้นหนีตาย 

กลุ่มท้ายตาราง

      กลุ่มหนีตายของโซนภาคตะวันออก ถือว่าน่าติดตามและมีความมันส์รออยู่แน่ๆ เพราะมีถึง 5 ทีมที่อยู่ในข่าย ซึ่งจาก 5 จะมี 1 ผู้โชคร้ายที่ต้องลงไปเล่นลีกสมัครเล่นในปีหน้า เริ่มจาก จันทบุรี เอฟซี ที่ติดเสมอจนแต้มไม่ขยับและต้องมาอยู่ในข่ายหนีตาย ไม่ต่างกับ บ้านบึง ที่คะแนนเท่ากัน แต่ในรายของฉลามชลน้อยจะติดพ่ายเยอะ แต่ชดเชยด้วยชัยชนะ โดยทั้ง 2 ทีมนี้ ถ้าเก็บได้อีกสัก 1-2 คะแนน ก็คงไม่มีปัญหา ถัดมาจะเป็น กองเรือยุทธการ กับ สระแก้ว เอฟซี ที่ต้องพยายามคว้าชัยอีกสักนัด เพราะถ้าหาก 3 นัดจากนี้ ไม่มีแต้ม ก็ต้องลุ้นผลคู่อื่นเอา ส่วนที่อยู่ในข่ายโซนแดง คือ นาวิกโยธิน ยูเรก้า เอฟซี ที่ในปีนี้ผลงานดรอปลงแบบน่าใจหาย โดยถ้าใน 3 นัดนี้ ไม่มีชัยชนะ ทีมที่อยู่ด้านบนทั้งหมด ก็เตรียมเฮกันได้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

3 โซนกรุงเทพและปริมณฑล หลังผ่าน 22 นัด

ศึกฟุตบอลมังกรฟ้าไทยลีก 3 โซนกรุงเทพและปริมณฑล ถือเป็นโซนที่มีจำนวนแมตช์มากกว่าโซนอื่นๆ เนื่องจากมีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน 14 ทีม ซึ่งในตอนนี้เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายในนัดที่ 22 ขณะที่แมตช์การแข่งขันยังเหลืออีก 4 นัด แต่สถานการณ์การเลื่อนชั้นและหนีตาย ยังต้องลุ้นกันต่อแบบนัดต่อนัด

กลุ่มเลื่อนชั้น

      ในกลุ่มหัวตาราง ต่างมีผลงานที่สะดุดกันแบบรัวๆ ทำให้แต้มไม่ขาดและค่อยๆจูงมือกันไป โดยทางฝั่ง บางกอก เอฟซี ได้ก้าวขึ้นมานำจ่าฝูงและมีลุ้นแชมป์ แต่หากดูจากระยะห่างของแต้มก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะหากสะดุดสัก 1-2 นัด ก็มิสิทธิ์กระเด็นจากพื้นที่ซุปเปอร์ลีกได้เลย ส่วนทางด้าน นนทบุรี กับ นอร์ทกรุงเทพ แต้มบี้กันแบบหายใจรดต้นคอ ซึ่งนั่นเป็นผลให้ในอีก 4 นัดที่เหลือ จะพลาดง่ายๆไม่ได้เด็ดขาด กระนั้นก็ต้องไม่ลืม เกษมบัณฑิต ที่พร้อมจะสอดแทรกเสมอหากใครพลาด แม้ด้วยจำนวนแต้มจะมีโอกาสยากสักหน่อย ฉะนั้นโดยสรุป คือ กลุ่มเลื่อนชั้นมีลุ้น 4 ทีม และจะมีเพียง 2 ทีม ที่สมหวังกับการไปเล่นรอบระดับประเทศ  

กลุ่มกลางตาราง

      การเก็บผลเสมอมากเกินไป ทำให้ จามจุรี หมดลุ้นคั่วอันดับกับทีมด้านบน และต้องอยู่ในลีกภูมิภาคต่อไปอีกฤดูกาล เช่นกันกับ เมืองนนท์ ที่ผลงานค่อนข้างน่าผิดหวัง กับการลงมารั้งอันดับกลางตาราง ทั้งๆที่ต้นฤดูกาลนี่คือทีมเต็งที่จะขับเคี่ยวแชมป์ โดยผลงานที่แพ้ เสมอ ชนะ สลับกันไปเรื่อย นับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลงานล้มเหลว ตรงกันข้ามกับ พราม ที่ต้องชื่นชม เพราะจากทีมที่เคยหนีตายเมื่อฤดูกาลก่อน ตอนนี้ได้ยกระดับมาเป็นทีมกลางตาราง ส่วน สยาม ทหารบก ทหารอากาศ และธนบุรี ปลอดภัยและการันตีการอยู่รอดแบบแน่นอนแล้ว กับการมีคะแนนราว 20-28 คะแนน ณ ตอนนี้  

กลุ่มหนีตกชั้น  

      ในโซนตกชั้นยังต้องลุ้นกันอีก 3 ทีม เริ่มจาก อินเตอร์ แบงค็อก ซึ่งผลงานไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา โดยการมี 16 คะแนน และห่างโซนแดง 5 แต้ม ถือว่าใจตุ่มๆต่อมๆ แต่หากนับจากนี้เก็บได้อีกสัก 4-5 คะแนน ก็น่าจะอยู่รอดแบบไม่มีปัญหา ถัดมา เกร็กคู ลูกทัพฟ้า ที่ผลงานในปีนี้ดรอปไปหน่อย ทำให้ต้องมาหนีตายในรอบหลายฤดูกาล ซึ่งการมีแต้มห่างจากโซนแดงแค่ 2 แต้ม ถือว่าสุ่มเสี่ยงและต้องเร่งเครื่องเอาชัยชนะสักนัด สุดท้าย สมุทรปราการ ถือว่าเป็นขาประจำของการหนีตายและรอดมาหลายปี แต่สำหรับปีนี้คงไม่น่ารอดเสียแล้ว เพราะการชนะเพียงนัดเดียวและผลออกเสมอเยอะ มันทำให้แต้มไม่ค่อยขยับและไล่ทีมข้างบนยาก

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีโว่ไทยลีก นัดตกค้าง (พุธที่ 2 กุมภาพันธ์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก กลางสัปดาห์นี้มีเกมตกค้าง 3 คู่ ที่ถูกเลื่อนออกมาจากเหตุโควิด-19 โดยทั้งเกมทั้ง 3 คู่ จะมีแมตช์แข่งขันกันหนีตาย แมตช์หาจุดเปลี่ยน และแมตช์ที่ต้องการทำแต้มทิ้งห่าง ซึ่งความพร้อมของแต่ละทีมจะเป็นอย่างไร และผลที่ออกมาจะเป็นแบบไหน นับจากนี้เราจะได้ทราบกัน

เชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี (18.00 น.)

      เกมแมตช์นี้ คือ นัดที่ 16 ของฤดูกาล โดยในฤดูกาลนี้ทั้ง 2 ทีม ได้พบกันแล้ว 2 ครั้ง คือ เสมอในลีก 2-2 และ สุพรรณบุรี บุกไปชนะ 2-3 ในเกมฟุตบอลถ้วย โดยทางฝั่ง เชียงใหม่ การเสริมทัพในเลกที่ 2 มีผลให้แนวรุกมีความอันตรายขึ้น แต่พอหันกลับไปมองเกมรับ มันยังมีอาการรั่วไหลเหมือนเดิม แล้วสุดท้ายก็เป็นเหตุให้เสียประตูและยังไม่ชนะใคร พร้อมกับโอกาสตกชั้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ สุพรรณบุรี ก่อนจบเลกแรก โกยคะแนนมาได้ 6 แต้ม ทำให้สถานการณ์คลายความกดดัน แต่พอลงเล่นในเลกที่ 2 แล้วมีอาการสะดุด มันก็เริ่มส่งผลให้เห็นว่าสถานการณ์ยังไม่สู้ดีนัก สำหรับเกมคู่นี้ทั้งคู่ต่างมีจุดอ่อนในเกมรับ พร้อมทั้งเชื่อว่าจะมีประตูเยอะ แต่ลึกๆแล้วยังเชื่อว่าช้างเผือก จะไม่แพ้ในบ้าน  

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ สุมทรปราการ ซิตี้ (18.00 น.)

      เกมแมตช์นี้ คือ นัดที่ 17 ของฤดูกาล โดยในเลกแรกที่เจอกัน สมุทรปราการ ทำแสบด้วยการชนะ 3-1 แต่สถานการณ์ในวันนี้เปลี่ยนไป กับการเปลี่ยนโค้ชและนักเตะตัวหลักบาดเจ็บ โดยทางฝั่ง บียู ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่กดดัน เพราะไม่ชนะใครและยิงไม่ได้มาหลายนัด ทั้งๆที่ตัวหลักยังอยู่ครบ ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ ทำไปทำมามีสิทธิ์ลงไปอยู่โซนแดงเสียจริงๆ ซึ่งการออกสตาร์ทแบบไม่แพ้ใครเหมือนดูดี แต่หากเป็นทีมตกชั้นแล้วได้ทีละแต้ม ย่อมไม่ใช่เรื่องดี กระนั้นด้วยศักยภาพและสถานการณ์ มันถึงเวลาที่แข้งเทพต้องชนะ เพราะถ้าผลออกมาเป็นอื่น ก็คงต้องตัวใครตัวมัน

โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (18.30 น.)

เกมแมตช์นี้ คือ นัดที่ 16 ของฤดูกาล ซึ่งการพบกันในเลกแรก บุรีรัมย์ ตบสบายๆ 3-1 โดยทางฝั่ง เทโร การออกสตาร์ทเลก 2 อาจจะยังไม่ชนะใคร แต่สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นเลวร้าย ส่วนทางฟาก บุรีรัมย์ นำโด่งๆแบบไม่ต้องแคร์ใคร อีกทั้งผลงานยังไฉไลเสียด้วย ฉะนั้นเกมคู่นี้ไม่ต้องวิเคราะห์ เพราะยังไงเสียปราสาทสายฟ้าก็ต้องการ 3 แต้ม  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ช้างเอฟเอ คัพ นัดตกค้างรอบ 16 ทีมสุดท้าย (พุธที่ 2 กุมภาพันธ์)

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ถือเป็นวันกลางสัปดาห์ที่มีฟุตบอลนัดตกค้างหลายคู่ โดยมีทั้งโปรแกรมลีกและในส่วนนี้ที่จะพาไปดูฟุตบอลถ้วยช้างเอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย จำนวน 2 คู่ ซึ่งคู่แรกอาจดูห่างชั้น ขณะที่อีกคู่จัดว่าสูสี เพราะเป็นทีมในระดับศีลเสมอกัน   

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ อุทัยธานี เอฟซี (18.00 น.)

      เกมคู่นี้ถูกเลื่อนเนื่องจากนักเตะของเจ้าบ้านติดเชื้อโควิด-19 เกินกว่าครึ่งทีม อีกทั้งการพบกันของทั้งคู่ เคยวาสนาสมพงษ์และเจอกันในฟุตบอลถ้วยรีโว่ลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย แล้วดันเกิดการพลิกล็อคและเป็น อุทัยธานี ที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป ด้วยสกอร์ 1-0  โดยความพร้อมก่อนเกมนี้ เมืองทอง เริ่มจะกลับมาซ้อมแบบฟูลทีม ซึ่งในแมตช์ล่าสุดอาจแพ้ บุรีรัมย์ แต่มันก็เข้าใจได้ เพราะศักยภาพนักเตะห่างกัน ส่วนทางฝั่ง อุทัยธานี กลายเป็นทีมแรกของไทยลีก 3 ที่การันตีแชมป์โซนภาคเหนือ กระนั้นด้วยการบุกมาเยือนธันเดอร์โดม แล้วเคยมีประวัติทำให้เจ้าบ้านต้องเจ็บช้ำมาก่อน มันจึงเป็นโอกาสที่กิเลนผยองจะเอาคืนและเข้ารอบต่อไป   

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (19.00 น.)

      เกมคู่นี้ถูกเลื่อนเนื่องจากนักเตะทีมเยือนติดโควิด-19 โดยการพบกันในลีกเลกแรก การท่าเรือ เป็นฝ่ายเฉือนชนะ 1-0 แต่รูปเกมไม่ได้ดีเด่นอะไรเลย โดยความพร้อมของ บีจี ปทุม ตัวผู้เล่นหลักกลับมาครบทุกคน ขณะที่โค้ชใหม่ก็มาถึงแล้ว ขณะที่ผลงานนัดล่าสุดอาจจะชนะ เชียงใหม่ ขาดลอย 4-1 แต่หากดูเนื้อใน เกมรับมีความผิดพลาดง่ายๆและบุญโขแล้วที่โดนยิงลูกเดียว

ส่วนทางฟาก การท่าเรือ สถานการณ์ในลีกค่อนข้างกดดัน เพราะยังไม่ชนะใคร จนคะแนนเริ่มห่างจากจ่าฝูง แล้วฟุตบอลถ้วยรีโว่ลีกคัพ ดันชิงตัวตกรอบด้วยน้ำมือของ เมืองเลย ที่เป็นทีมรองบ่อนจากไทยลีก 3 ทำให้เกมนัดนี้แทบจะเป็นเกมสำคัญของฤดูกาล เพราะหากแพ้ในนัดนี้มันก็มีโอกาสมากกว่า 95% ที่สิงห์เจ้าท่าจะไม่มีถ้วยติดมือในปีนี้และการไปลุยถ้วยเอเชียจะลำบาก สำหรับเกมนัดนี้ ทั้ง 2 ทีม

จะใส่กันอย่างดุเดือด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการไปถึงแชมป์เพื่อถ้วยเอเชีย อย่างไรเสียหากเทียบฟอร์มกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ เกมรับมีจุดอ่อนทั้งคู่ แต่เกมรุก บีจี ปทุม ดีกว่า ฉะนั้นขอชี้ว่ากระต่ายแก้วจะเป็นฝ่ายเฉือนและเข้ารอบต่อไป

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ช้างเอฟเอ คัพ 2021/22 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ศึกฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2021/22 เดินทางมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นที่เรียบร้อย โดย 4 คู่แรกที่จะนำมาสรุปนี้ ก็ได้มีเหตุการณ์ล้มยักษ์ จนถึงเลื่อนการแข่งขัน ซึ่งบทสรุปของทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ไปดูกันต่อที่ด้านล่างนี้

สงขลา เอฟซี 10-9 สมุทรปราการ ซิตี้ (เสมอในเวลา 120 นาที 1-1)

      ผลงานในไทยลีก 3 โซนภาคใต้ ของ สงขลา กลับมาดีและมีลุ้นไปรอบซุปเปอร์ลีกอีกครั้ง หลังจากมีอาการหลุดๆไป ส่วนเส้นทางในถ้วยใบนี้ ถล่มคู่แข่งขาดลอยมาตลอดทาง แต่ในวันนี้ต้องเจอศึกหนัก เพราะทีมที่มาเยือนมีดีกรีไทยลีกค้ำคอ กระนั้นเมื่อลงเล่นครบ 90 นาที ยังเสมอ 0-0 จากนั้นเมื่อต่อเวลาพิเศษถึงนาทีที่ 115 เหมือนโมเมตัมจะเหวี่ยงหาทีมเยือน กับประตูขึ้นนำ 0-1 แต่พอเอาบอลกลับไปเขี่ย เจ้าถิ่นก็ตีเสมอ 1-1 ได้แบบทันควัน ทำให้เกมต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ โดยการดวลเป้าตรงนี้ยิงกันเกือบครบและวนรอบอยู่แล้ว แต่คนที่ 10 ของสมุทรปราการ ดันยิงติดเซฟเต็มๆ นั่นจึงเป็นผลให้เงือกสมิหลาเข้าสู่รอบ 8 สุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร  

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4-1 ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด

      ถูกจับตามว่าเป็นเกมคู่ใหญ่ของรอบนี้ เพราะทีมหนึ่งต้องการกวาดแชมป์ ขณะที่อีกทีมเป็นสิงห์บอลถ้วย แต่เมื่อลงสนามไปได้ไม่นาน บุรีรัมย์ ก็มาได้ประตูนำจากจุดโทษ และลูกยิง 2-0 ของ ชูลาก้า จากนั้น เชียงราย ดูจะมีฮึดกับประตูไล่มา 2-1 แต่สุดท้ายก็มาเสียจุดโทษ 3-1 พร้อมกับประตูปิดกล่องท้ายเกม 4-1 ทำให้แชมป์เก่าต้องหยุดเส้นทางไว้แค่รอบนี้    

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-1 ลำปาง เอฟซี

      โคราช ได้เล่นบ้านและเจอทีมต่ำชั้นกว่า ทำให้เป็นต่อค่อนข้างเยอะ แล้วเพียง 5 นาที ก็ขึ้นนำไปก่อน จากนั้นก็มายิงเพิ่มเป็น 2-0 พร้อมกับการไล่ผู้เล่นลำปางออก ทำให้กลายเป็นเกมที่ง่ายของเจ้าถิ่น กระทั่งยิงเพิ่มเป็น 3-0 และประตูตีไข่แตก 3-1 ของรถม้ามรกต แต่สุดท้ายก็ไม่ทันและเป็นสวาทแคทที่เข้ารอบต่อไป ซึ่งมันเป็นรอบที่ลึกมากที่สุด ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาเลยทีเดียว  

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ อุทัยธานี เอฟซี (เลื่อนการแข่งขัน)

      หลังจากเกมกับ บีจี ปทุม มีการแจ้งว่านักเตะเมืองทอง ติดเชื้อโควิด-19  แล้วก่อนแข่งเกมนี้ก็ได้มีการขอเลื่อนจากฝ่ายเจ้าบ้าน เพราะมีผู้ติดเชื้อกว่า 18 ราย ฉะนั้นเกมนัดนี้จะเลื่อนไปเตะในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แทน กระนั้นจากฝ่ายอุทัยธานี ก็ได้มีการออกมาทวงถาม เนื่องจากเป็นทีมเล็กและต้องออกค่าจ่ายต่างๆในการมาแข่งเป็นเยือน อีกทั้งการประกาศก็กระชั้นชิดเกินไป   

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 (คู่วันเสาร์-อาทิตย์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 19 ในส่วนของคู่สุดท้ายของวันเสาร์และอีก 3 คู่ ของวันอาทิตย์ ยังมีเกมมันส์ๆที่รอกระแทรกสายตาท่านผู้ชมอยู่ อีกทั้งการพบกันของหลายคู่ ก็ล้วนแต่มีความถึงการอยู่รอด ส่วนคู่ไหนจะน่าติดตามกันบ้าง เราไปลองดูและค่อยๆพิจารณาเลือกกัน 

หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 19.00 น.)

ผลงานนอกบ้านของ หนองบัว อาจตอบไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าเมื่อไรได้ลงเล่นที่ พิชญ สเตเดี้ยม สถิติและฟอร์มการเล่นมันก็ฟ้องอยู่ให้เห็นว่าไม่มีใครจะบุกมาโค่นได้ง่ายๆ ส่วนทางฝั่ง บียู ในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงสะดุด จนโดนจ่าฝูงทำแต้มทิ้งห่าง อีกทั้งยังชิงตัวตกรอบบอลถ้วยไปเสียอีก ทำให้การบุกไปเยือนในหนนี้ พญาไก่ชนจะไม่แพ้อย่างแน่นอน    

ชลบุรี เอฟซี พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (วันอาทิตย์, 18.00 น.)

ชลบุรี อาจมีผลงานที่ไม่ได้ดีเลิศ แต่ก็ยังอยูในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ตรงข้ามกับ การท่าเรือ ที่ผลงานไม่ดีและเสียงวิจารณ์ของแฟนบอลต่างสาดไปยังโค้ชกับนักเตะบางราย อีกทั้งยังโดนโควิด-19 เล่นงานในแคมป์ จนต้องขอหยุดเตะ ฉะนั้นหากดูจากความพร้อมและฟอร์มการเล่น ฉลามชลมีโอกาสเก็บ 3 แต้ม สูงอย่างยิ่ง

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี (วันอาทิตย์, 18.00 น.)

โคราช ถือเป็นอีกทีมที่น่าจะลอยลำและไม่ต้องกังวลกับการหนีตาย เพราะแนวรับที่เสริมมาใหม่กำลังปรับตัวได้ดี กองกลางโควตาเอเชียก็ฟอร์มใช้ได้ ขณะที่แนวรุกก็เริ่มจะติดลมบนกับการถล่มประตู ตรงข้ามกับ ประจวบ ที่ดูอับเฉา มืดมน และไร้หนทางสำหรับจุดเปลี่ยน แม้ว่ารูปแบบการเล่นและทรงบอลจะไม่ขี้แหล่ก็ตาม กระนั้นหากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ สวาททแคทดูดีกว่าและมีโอกาสถึงขั้นเป็นผู้ชนะ  

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ (วันอาทิตย์, 19.30 น.)

ตามชื่อชั้น ราชบุรี อาจเป็นทีมกลางไปถึงใหญ่ แต่จากผลงานและฟอร์มการเล่นในปีนี้ หากประมาทก็มีสิทธิ์ลงไปคั่วโซนตกชั้นได้เลย เพราะเมื่อมองไปทางไหน ก็มีแต่จุดอ่อนและความไม่เพียบพร้อม ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ ศักยภาพของนักเตะเป็นรองเกือบทุกทีมในลีกสูงสุด แต่เพราะด้วยมันสมองของโค้ช มันก็ช่วยประคองให้ทีมแข็งแกร่งด้วยทีมเวิรค์ กระนั้นด้วยปัญหาในเกมรับที่เสียประตูง่าย มันก็มีผลให้การฟันธงต้องลงว่าเจ้าบ้านไม่น่าแพ้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ช้างเอฟเอ คัพ 2021/22 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ศึกฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2021/22 เดินทางมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นที่เรียบร้อย โดย 4 คู่แรกที่จะนำมาสรุปนี้ ก็ได้มีเหตุการณ์ล้มยักษ์ จนถึงเลื่อนการแข่งขัน ซึ่งบทสรุปของทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ไปดูกันต่อที่ด้านล่างนี้

สงขลา เอฟซี 10-9 สมุทรปราการ ซิตี้ (เสมอในเวลา 120 นาที 1-1)

      ผลงานในไทยลีก 3 โซนภาคใต้ ของ สงขลา กลับมาดีและมีลุ้นไปรอบซุปเปอร์ลีกอีกครั้ง หลังจากมีอาการหลุดๆไป ส่วนเส้นทางในถ้วยใบนี้ ถล่มคู่แข่งขาดลอยมาตลอดทาง แต่ในวันนี้ต้องเจอศึกหนัก เพราะทีมที่มาเยือนมีดีกรีไทยลีกค้ำคอ กระนั้นเมื่อลงเล่นครบ 90 นาที ยังเสมอ 0-0 จากนั้นเมื่อต่อเวลาพิเศษถึงนาทีที่ 115 เหมือนโมเมตัมจะเหวี่ยงหาทีมเยือน กับประตูขึ้นนำ 0-1 แต่พอเอาบอลกลับไปเขี่ย เจ้าถิ่นก็ตีเสมอ 1-1 ได้แบบทันควัน ทำให้เกมต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ โดยการดวลเป้าตรงนี้ยิงกันเกือบครบและวนรอบอยู่แล้ว แต่คนที่ 10 ของสมุทรปราการ ดันยิงติดเซฟเต็มๆ นั่นจึงเป็นผลให้เงือกสมิหลาเข้าสู่รอบ 8 สุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร  

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4-1 ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด

      ถูกจับตามว่าเป็นเกมคู่ใหญ่ของรอบนี้ เพราะทีมหนึ่งต้องการกวาดแชมป์ ขณะที่อีกทีมเป็นสิงห์บอลถ้วย แต่เมื่อลงสนามไปได้ไม่นาน บุรีรัมย์ ก็มาได้ประตูนำจากจุดโทษ และลูกยิง 2-0 ของ ชูลาก้า จากนั้น เชียงราย ดูจะมีฮึดกับประตูไล่มา 2-1 แต่สุดท้ายก็มาเสียจุดโทษ 3-1 พร้อมกับประตูปิดกล่องท้ายเกม 4-1 ทำให้แชมป์เก่าต้องหยุดเส้นทางไว้แค่รอบนี้    

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-1 ลำปาง เอฟซี

      โคราช ได้เล่นบ้านและเจอทีมต่ำชั้นกว่า ทำให้เป็นต่อค่อนข้างเยอะ แล้วเพียง 5 นาที ก็ขึ้นนำไปก่อน จากนั้นก็มายิงเพิ่มเป็น 2-0 พร้อมกับการไล่ผู้เล่นลำปางออก ทำให้กลายเป็นเกมที่ง่ายของเจ้าถิ่น กระทั่งยิงเพิ่มเป็น 3-0 และประตูตีไข่แตก 3-1 ของรถม้ามรกต แต่สุดท้ายก็ไม่ทันและเป็นสวาทแคทที่เข้ารอบต่อไป ซึ่งมันเป็นรอบที่ลึกมากที่สุด ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาเลยทีเดียว  

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ อุทัยธานี เอฟซี (เลื่อนการแข่งขัน)

      หลังจากเกมกับ บีจี ปทุม มีการแจ้งว่านักเตะเมืองทอง ติดเชื้อโควิด-19  แล้วก่อนแข่งเกมนี้ก็ได้มีการขอเลื่อนจากฝ่ายเจ้าบ้าน เพราะมีผู้ติดเชื้อกว่า 18 ราย ฉะนั้นเกมนัดนี้จะเลื่อนไปเตะในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แทน กระนั้นจากฝ่ายอุทัยธานี ก็ได้มีการออกมาทวงถาม เนื่องจากเป็นทีมเล็กและต้องออกค่าจ่ายต่างๆในการมาแข่งเป็นเยือน อีกทั้งการประกาศก็กระชั้นชิดเกินไป   

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีโว่ไทยลีก นัดตกค้าง (พุธ 26 มค)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก วันพุธวันที่ 26 มกราคม มีเกมตกค้าง 2 คู่ ซึ่งถูกเลื่อนเนื่องจากคำประกาศของจังหวัดและปัญหาของทีมที่มีผู้เล่นติดเชื้อโควิด-19 โดยคำสั่งจากสมาคมฟุตบอล ก็ได้มีการกล่าวว่านับจากนี้จะไม่มีการเลื่อนโปรแกรมคู่ไหนอีก แล้วถ้าทีมไหนมีผู้ติดเชื้อก็จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ให้ แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็จะปรับแพ้ กระนั้นก็ต้องดูกันต่อไปว่าสุดท้ายจะเป็นเพียงเสือกระดาษหรือไม่ สำหรับการแข่งขันนักตกค้างของทั้ง 2 คู่ จะลงสนามพร้อมกันในเวลา 18.00 ส่วนใครจะพบกับใคร แล้วความพร้อมและผลการแข่งขันที่คาดจะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราจะมาไล่เรียงกัน  

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด

      ตามตารางเกมคู่นี้ คือ แมตช์ที่ 16 โดยการเลื่อนมาจากคำสั่งของจังหวัด ทำให้ทางสโมสรได้ส่งเรื่องไปยังสมาคม โดยทางฝั่ง นครราชสีมา ออกสตาร์ท 2 เกมแรกได้ดี กับการบุกไปคว้า 3 มาจาก เทโร แต่ดันมาเสียแต้มในบ้านด้วยการเจ๊า เชียงใหม่ ทีมบ๊วย 2-2 ส่วนทางฝั่ง เชียงราย เปิดหัวด้วยไปบุกไปชนะ ราชบุรี ก่อนจะต่อด้วยการล้างแค้น ประจวบ 1-3 ทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัด ว่าเกมนอกบ้านของกว่างโซ้งดูจะดีกว่าในบ้าน แล้วยิ่งต้องมาเยือนถิ่นเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีโอกาสที่ทีมดังจากเมืองเหนือจะมาเก็บอย่างน้อยๆ 1 แต้ม       

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด

      ตามตารางเกมนี้คู่นี้ คือ แมตช์ที่ 18 หรือต้องลงเตะเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เกมมีอันต้องเลื่อนเพราะ นัเตะและทีมงานของ เมืองทอง ยูไนเต็ด มีผลบวกว่าติดเชื้อถึง 18 ราย นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องขอเลื่อนเพื่อหยุดวงจรการระบาด โดยทางฝั่งของ ราชบุรี ลงเตะในบ้าน 2 นัด เก็บได้แต้มเดียวจาก บีจี ปทุม อีกทั้งกว่าจะได้แต้มนี้มา ก็เกือบโดนส่องไปหลายหน

ทำให้สภาพทีมของราชันมังกรดูไม่ดีและมีเสียวๆกับการหล่นประชิดโซนแดง ขณะที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ลงแข่งไป 2 นัด มี 2 คะแนน นับว่าเป็นผลงานที่ไม่เลว แต่หากเจาะลึกที่ฟอร์มการเล่น อาจจะยังไม่น่าประทับ กระนั้นการบุกมาเยือนถิ่นมิตร สเตเดี้ยม ก็คงต้องดูสภาพทีมของกิเลนผยองเป็นหลัก เพราะถ้าหากตัวจริงอยู่ครบ ยังไงก็ไม่แพ้ แต่ถ้าตัวหลักขาดไปหลายตัว เจ้าบ้านก็มีลุ้นเก็บแต้มทันที

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รอบ 32 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2021/22

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ ฤดูกาล 2021/22 รอบ 32 ทีมสุดท้าย เดินทางมาถึงโปรแกรมที่ลงเตะในช่วงหัวค่ำ ซึ่งใน 4 คู่สุดท้าย ไม่ค่อยพลิกโผกับการที่ทีมใหญ่จะเข้ารอบ แต่สุดท้ายก็มีทีมจากลีกสูงสุด ต้องกระเด็นหายไปอีก 1 ทีม  

เชียงใหม่ เอฟซี 0-1 ชลบุรี เอฟซี 

      เชียงใหม่ เอฟซี มีผลงานที่ขึ้นมาบ้าง หลังจากฟอร์มรูดจนแทบจะหลุดโคจรพื้นที่เพลย์ออฟไทยลีก 2 ส่วนเส้นทางของถ้วยใบนี้ในรอบที่แล้ว จัดการถล่มทีมจากไทยลีก 3 แบบไม่ใยดี ขณะที่ผู้มาเยือนต้องเน้นเต็มที่ เพราะการลุ้นแชมป์ฟุตบอลถ้วยเหลือเพียงถ้วยนี้ถ้วยเดียว ทำให้ตลอดทั้งเกม ชลบุรี พยายามบุกพรมใส่ กระทั่งสุดท้ายมาได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกม

นครปฐม ยูไนเต็ด 1-2  โปลิศ เทโร เอฟซี (เสมอกันในเวลา 90 นาที 0-0)

      นครปฐม มีผลงานที่ไม่มีดีนักในไทยลีก 2 เพราะด้วยสภาพทีมที่มีเด็กค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับฟุตบอลถ้วย พวกเขาไม่เป็นรองใคร แล้วในนัดนี้ได้ส่งชุดผสมลงสู้กับ เทโร ที่ได้พักมาเต็มๆเนื่องจากโปรแกรมเลื่อน นั่นจึงทำให้โค้ชอ้นจัดชุดใหญ่มาสู้ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเจ้าบ้านได้ในเวลาปกติ กระนั้นพอเข้าสู่ช่วงต่อเวลา เทโร มาขึ้นนำ 0-1 แต่ นครปฐม ก็ตามตีเสมอ 1-1 แบบทันควัน แล้วเกมเดินต่อไปเรื่อยๆจนเกือบจะหมดเวลาและไปสู้กันต่อในช่วงดวลจุดโทษ แต่สุดท้ายมังกรโล่เงินมายิงประตูนำ 1-2 ปิดท้ายและหมดเวลาไปเลย ทำให้เสือป่าราชาตกรอบหมดทุกถ้วยและต้องไปโฟกัสการหนีตายในลีกเพียงอย่างเดียว  

ชัยนาท ฮอร์นบิล 2-1 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

      ชัยนาท มีผลงานในลีกที่ค่อนข้างดี อีกทั้งในบอลถ้วยก็ยังอยู่ในเส้นทาง กระนั้นการต้องเจอกับ โคราช ก็เป็นงานหนักไม่น้อย อีกทั้งโค้ชโจยังเลือกที่จะส่งชุดตัวจริงลงสนาม แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลายเป็นเจ้าบ้านนำไปก่อน 1-0 แล้วทีมเยือนมาตามตีเสมอ 1-1 กระนั้นไม่นานนัก นกใหญ่พิฆาตก็มายิงนำ 2-1 อีกครั้ง พร้อมกับประคองตัวจนชนะและเขี่ยทีมที่ใหญ่กว่าตกรอบไป

ระยอง เอฟซี 0-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

      ระยอง เริ่มต้นเส้นทางในถ้วยใบนี้ด้วยการบุกไปเฉือน ฉะเชิงเทรา จากไทยลีก 3 แต่พอเข้าสู่รอบนี้ ต้องเจอกับงานที่หนักหนาสาหัส เพราะผู้มาเยือน คือ บุรีรัมย์ ที่มีโค้ชและนักเตะใหม่ ทำให้เกมที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ถูกแฟนบอลตั้งตารอคอยที่จะเห็น บุรีรัมย์ ลงเล่น ซึ่งสุดท้ายแล้ว ทัพปราสาทสายฟ้าก็จัดการตบม้านิลมังกรไป 0-2 พร้อมกับผ่านเข้ารอบไปแบบชิวๆ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover