Categories
Sport

“2 นาที 2 ประตู”

การท่าเรือ เอฟซี เฉือน หนองบัว 2-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ในยุคโค้ชคู่ ผลงานยังไม่เข้ารูปเข้ารอยนัก จะต้องพบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ทีมบ๊วยที่ผลงานยังไม่มีท่าทีจะดีขึ้นและยังไม่ชนะใครในเลกที่ 2 สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างมาในระบบ 4-3-3 เหมือนกัน  

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น การท่าเรือ ดูดีกว่าเพราะสามารถป้อนบอลจากด้านข้างขึ้นหน้าประตู หรือเมื่อต้องลงไปตั้งรับ พวกเขาก็จะลงไปดักและสวนกลับได้สุดทาง กระนั้นการจบสกอร์ยังไม่เฉียบคม ทำให้ยังไม่ได้ประตูนำ อย่างเสียเมื่อเวลาเดินไปเรื่อยๆ สิงห์เจ้าท่าเหมือนชะล่าใจว่าเดี๋ยวก็ทำได้ จนกลายเป็นบุกน้อยลงและมาเสียจุดโทษจากแฮนด์บอล ทำให้จบครึ่งแรก หนองบัว พิชญ เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 0-1  

ครึ่งหลัง หนองบัว ได้หลุดเดี๋ยวไปขึ้นยิง แต่ดันลงโทษ การท่าเรือ ไม่สำเร็จ ทั้งๆที่ช่วง 10 นาทีแรกของครึ่งหลัง เจ้าถิ่นยังตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะต่อบอลได้ไหลลื่นบอลและมีจังหวะเข้าทำ กระทั่งนาทีที่ 81 แนวรับทีมเยือนยืนขวาง แฮร์มิลตัน หน้าปากประตูก็จริง แต่ดันไม่เข้าบีบ ทำให้โดนงัดบอลข้ามหัวเข้าประตู จากนั้นไล่หลังเพียง 2 นาที สิงห์เจ้าท่ามาได้ประตูแซงนำ 2-1 จากการฉวยโอกาสเล่นลูกเตะมุมเร็ว แล้วเป็น ธีรศักดิ์ ที่ยืนจองพื้นที่เสาแรกและกระโดนโหม่งเข้าไป  

      บทสรุปจากเกม การท่าเรือ เอฟซี เริ่มต้นเกมด้วยความคึกคัก แต่เมื่อเล่นๆไปแล้วไม่ได้ประตู ดันฟอร์มดร็อปและโดนยิงนำไปก่อน ทำให้ครึ่งหลังต้องปรับจูนกันใหม่และต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร ซึ่งยังดีที่วันนี้เจอทีมไม่แข็งมาก ทำให้กลับมาได้ด้วยการยิง 2 ประตู ท้ายเกม ขณะที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี เกมรับไม่ได้แน่นหนาอะไร

แต่ที่ไม่โดนยิงก็เป็นเพราะเจ้าถิ่นลงโทษไม่สำเร็จเอง มิหนำยังโชคดีที่ได้จุดโทษและยิงนำไปก่อนได้ ส่วนในครึ่งหลัง หากยิงทิ้งห่างเป็น 0-2 จากโอกาสทองนั้นได้ ก็เชื่อว่ารูปเกมจะไม่ออกมาเป็นแบบนี้ กระนั้นหากพูดถึงรูปแบบของเกมรุก

ถือว่าน่าเป็นห่วงเพราะมีรูปแบบเพียงไม่กี่อย่าง แล้วท้ายเกมดันสมาธิไม่นิ่ง ทำให้เสียประตูจากการถูกเล่นเร็วและผู้เล่นไม่พร้อม เนื่องจากไปยืนอยู่ในด้านหลังของคนโหม่งและไม่มีใครเข้าไปยืนขวางตรงหน้า  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ส่องโซนแดง 22/23

M-150 ไทยลีก 2 ก่อนเข้าโค้งสุดท้าย

ศึกฟุตบอล M-150 ไทยลีก 2 กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย กับโปรแกรมที่เหลืออีก 3 นัดก่อนจบฤดูกาล ซึ่ง 1 ทีมที่โบกมือลาลีกรองไปแล้วคือ อุดรธานี เอฟซี ที่ปัญหาทางด้านการเงินเป็นตัวฉุดรั้งให้พวกเขาต้องกลับไปเริ่มใหม่ในไทยลีก 3 ส่วนตั๋วนรกอีก 2 ใบ มี 4 ทีม ที่ต้องขยับหนีให้ตัวเองรอด แต่ใครจะมีโอกาสมากหรือน้อย ในบทความนี้จะมาวิเคราะห์กัน

ราชประชา เอฟซี

          ในช่วงต้นฤดูกาล ถือว่าน่าเป็นห่วงอย่างมากสำหรับตราชฎา เพราะไม่ได้เป็นพันธมิตรกับ บีจี ปทุม และต้องออกมาทำทีมเองด้วยการใช้สนาม อบจ.นทบุรี ซึ่งในเลกที่ 2 ผลงานดีขึ้นด้วยการเก็บแต้มเรื่อยๆ ซึ่งการมี 36 แต้ม และห่างโซนตกชั้น 5 คะแนน ก็ขอแค่ไม่แพ้รวดในเกมที่เหลือ เท่านี้พวกเขาก็จะการันตีการอยู่รอดได้แน่นอน

สมุทรปราการ ซิตี้

          พึ่งตกชั้นลงมาแท้ๆ อีกทั้งยังได้การสนับสนุนจาก ชลบุรี เอฟซี ทำให้อย่างน้อยที่สุด เขี้ยวสมุทรน่าจะอยู่มีลุ้นเลื่อนชั้นอยู่บ้าง ไม่ก็มีอันดับแถวๆกลางตาราง แต่จากภาพที่ออกมา พวกเขาชนะน้อย แล้วเน้นเสมอกับแพ้เป็นส่วนใหญ่ นั่นจึงทำให้อันดับในตารางลงมาจ่อโซนตกชั้นและมีระยะห่างเพียง 3 คะแนน ไม่เพียงเท่านั้น ผลงานในตอนนี้ก็ไม่ชนะใครมา 5 เกมติดแล้ว ฉะนั้นจะอยู่หรือร่วง มีโอกาสเท่าเป็นตายเท่ากัน

เกษตรศาสตร์ เอฟซี

          การทำงานของโค้ชโย่ง พาทีมออกทะเลจนต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก ก่อนจะดึงโค้ชจุ้นเข้ากู้วิกฤตในครั้งนี้ แต่จากการทำงานไปแล้วกว่า 4 นัด สถานการณ์ของทีมยังไม่ดีขึ้น แถมอันดับก็ลงไปอยู่ในโซนตกชั้นและมีแต้มห่างจากโซนปลอดภัย 3 แต้ม ฉะนั้นในอีก 3 เกมที่เหลือ หากคว้าชัยชนะไม่ได้สักเกม นาคามรกตคงกลายเป็นอีกทีมที่ต้องร่วงตกชั้นไป

แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด

          ผลงานเมื่อปีที่แล้วยังดีอยู่หยกๆกับการเกาะอันดับกลางตาราง แต่ในปีนี้ไม่แกร่งในบ้าน การเก็บ 3 แต้มมีน้อย ทำให้อันดับอยู่ในกลุ่มตกชั้นมาตลอด กระทั่งตอนนี้มีเพียง 27 คะแนน และห่างโซนปลอดภัยถึง 7 แต้ม ซึ่งนับว่าโอกาสรอดของฉลามอันดามันค่อนข้างยากแล้ว อีกทั้งน่าจะตกชั้นอย่างเป็นทางการในนัดถัดไป

อุดรธานี เอฟซี

          อุดรธานี เป็นทีมที่แฟนบอลหนาแน่นและเคยอยู่ในข่ายจะได้เลื่อนชั้น แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าปัญหาทางด้านการเงิน มันเป็นผลให้สภาพทีมอ่อนลงเรื่อยๆ ซึ่งในตอนนี้พวกเขาตกชั้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่ไก่โห่ และนับจากนี้ต้องลุ้นว่าใครจะมารับหน้าที่ทำทีมต่อ ในการแข่งขันไทยลีก 3 ฤดูกาลหน้า

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

คาบ้าน 2 นัด ใน 1 สัปดาห์

เร่งเครื่องไม่ทัน พ่าย การท่าเรือ เอฟซี คาถิ่น 1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามทรู สเตเดี้ยม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ผลงานในลีกดี แต่ดันพลาดท่าตกรอบบอลถ้วยไปเมื่อกลางสัปดาห์ จะต้องพบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานในลีกยังลุ่มๆดอนๆ

ไม่เหมือนกับบอลถ้วยที่กรุยทางเข้าสู่รอบต่อไป สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-2-3-1 ขณะที่ทีมเยือนวางผัง 4-4-2

       การแข่งขันในช่วงต้นเกม ทรู แบงค็อก ครองบอลไว้ได้มากกว่า แต่หาจังหวะและช่องเพื่อเข้าไปทำประตูไม่ได้ กลับกันทางฝั่ง การท่าเรือ ได้ทุ่มบอล ต่อบอลจนมาถึง วรชิต จับ แต่ง และยิงไกลเสียบสามเหลี่ยมให้ทีมขึ้นนำ 0-1 ในนาทีที่ 12 ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าบ้านพลาดที่เปิดพื้นที่ให้คู่แข่งส่องไกล จากนั้นยังคงเป็น บียู ที่ได้ครองเกมผ่านการโจมตีทางข้าง กระนั้นการป้อนบอลเข้าสู่แดนอันตราย ไม่สามารถทำได้เลย

ครึ่งหลังรูปเกมของ บียู ยังไม่ดีขึ้นกับการเจาะพื้นที่แดนสุดท้าย อีกทั้งยังมาเสียประตู 0-2 จากลูกเตะมุม โดยจังหวะนี้แนวรับเจ้าถิ่นพลาดอย่างมากที่ไม่มีตัวสูงๆขึ้นเบียดกับ ดอร์เลาะ

จากนั้นก็ยังคงเป็นแข้งเทพเช่นเดิม ที่ได้ครองบอลอย่างต่อเนื่อง กระทั่งนาทีที่ 78 ได้ประตูตีตื้น 1-2 จากการต่อบอลไปมาหลายจังหวะ แต่แนวรับ การท่าเรือพลาดที่ปล่อยให้ตัวว่างแถว 2 ได้วิ่งเข้ามาโหม่งแบบไร้การรบกวน อย่างไรเสียในช่วงเวลาที่เหลือ บียู ไม่มีจังหวะจบสกอร์อีกเลย ทำให้สกอร์คงค้างที่ 1-2     

      บทสรุปจากเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ครองบอลเยอะก็จริง แต่มันเป็นการครองบอลที่ไม่เกิดประโยชน์ เพราะไม่สามารถต่อบอลเข้าไปในพื้นที่แดนสุดท้าย ทำให้โอกาสจบสกอร์มีน้อย สุดท้ายเมื่อตัวรุกต่างชาติไม่ฉายฟอร์มเทพออกมา เกมก็ยิ่งตื้อไปกันใหญ่ มิหนำเกมรับยังมาพลาดเสียประตู

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่แข้งเทพเผชิญมานานหลายปีแล้ว ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี ดูเหมือนจะเจองานที่หนักเมื่อต้องแพ็คเกมรับ แต่การบุกขึ้นมาและจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคมในช่วงต้นเกม มันกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเขาเล่นง่ายขึ้น กับการถอยไปตั้งรับแบบไม่ต้องหนักใจ ซึ่งต้องชื่นชมที่ยืนตำแหน่งได้ดีเกือบตลอดเกม แม้จะมีพลาดลูกเสียประตู 1-2 แต่สุดท้ายพวกเขาก็ปิดเกมได้แบบไร้ปัญหา

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

เมโล่เบิ้ลพาเฮ

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พลิกนรกดับ โคราช

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ผลงานในบ้านดีจนพ้นโซนตกชั้น จะต้องเปิดรัง อบจ. ขอนแก่น ทำศึกอีสานดาร์บี้กับเพื่อนข้างรั้วอย่าง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

ที่นับตั้งแต่โค้ชโจกลับมารับงาน ก็ยังไม่พบชัยชนะ ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3  ขณะที่ทีมเยือนวางผัง 4-2-3-1

การแข่งเริ่มต้นได้เพียง 3 นาที ประตูแรกเป็นของ ขอนแก่น โดยจังหวะนี้แนวรับทีมเยือนทุ่มบอลแล้วเสีย ทำให้เจ้าบ้านได้ลากบอลเข้าไปส่งก้นตาข่ายขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นยังคงเป็นจงอางผยอง ที่สามารถต่อบอลและมีจังหวะจบเนืองๆ กลับกันทางฝั่งโคราช การเสียประตูเร็วไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้พวกเขารีบเร่งเพื่อยิงตีเสมอ เพราะการต่อบอลไม่เหนียวและมักไปถึงแค่แดน 2 ของคู่แข่ง

ครึ่งหลัง โคราช แก้เกมขนานใหญ่ จนในนาทีที่ 55 ตีเสมอ 1-1 จากการเปิดด้านข้างให้ คริสแลง โฉบและดีดเข้าเสาแรก โดยแนวรับเจ้าบ้านตามประกบช้าไปนิดเดียว เว้นเสียแต่ จิระวัฒน์ ที่รับบอลพลาด จากนั้น ขอนแก่นพยายามเดินหน้าบุก แต่โคราชป้องกันพื้นที่กรอบเขตโทษได้เหนียวแน่น

และสามารถโต้กลับจนได้ประตูแซง 1-2 พร้อมกับทำให้สวาทแคทมีรูปเกมที่ดีและเหมือนทุกอย่างจะเข้าทางพวกเขา กระทั่งนาทีที่ 88 ขอนแก่น มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกเตะมุมที่ทีมเยือนเคลียร์ไม่ขาด เมโล่ ที่ยืนอยู่จึงซัดเข้าไป และจากนั้นไล่หลัง 3 นาที ขอนแก่น ได้ประตูแซงนำ 3-2 จากบอลที่ลัดเลาะเข้ามาทางริมเส้นและเปิดไปที่เสาไกลให้ เมโล่ คนเดิมโหม่งแบบมีแฉลบเข้าไป

บทสรุปจากเกม ขอนแก่น ยูไนเต็ด ไม่ได้มีรูปเกมที่เหนือกว่าคู่แข่ง แต่สามารถฉกฉวยความผิดพลาดของคู่แข่ง จนเปลี่ยนเป็นประตูนำเร็วได้ กลับกันในครึ่งหลัง รูปเกมของพวกเขาเป็นรองทีมเยือนและดูเหมือนจะหาทางกลับมาไม่ได้เมื่อเสีย 2 ประตู กระทั่ง 3 นาทีช่วงท้ายเกม ถือเป็นช่วงเวลาทองที่จงอางผยองฉกฉวยโอกาสพลิกเกม

สุดท้ายกลายเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะแแบหน้าตาเฉย ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เริ่มต้นเกมด้วยการเสียประตูจากความผิดพลาดของแนวรับ พร้อมทั้งรูปเกมที่ตั้งตัวไม่ได้เลยในครึ่งแรก กระนั้นเมื่อเข้าสู่ 45 นาทีหลัง กลับ กลายเป็นหนังคนละม้วน เมื่อการต่อบอลแน่นอนและรวดเร็ว จนดูเหมือนว่าสวาทแคท จะเป็นฝ่ายเก็บ 3 แต้ม แต่การเสียสมาธิและมีความผิดพลาดเพียงนิดเดียว ได้กลายเป็นช่องว่างให้คู่แข่งกลับสู่เกมและยิงแซงแบบน่าเจ็บใจ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัวมากกว่า แต่ทำไรไม่ได้

ตัวมากกว่า ได้แค่เจ๊า ลีโอ เชียราย ยูไนเต็ด 0-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 ในโปรแกรมวันเสาร์ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด กำลังมีผลงานที่ไม่สู้ดี เพราะ 3 นัดรวมทุกรายการ พวกเขาแพ้รวด ซึ่งต้องพบกับ ราชบุรี เอฟซี ที่เกมนอกบ้านไม่ดี

แถมผลงานในลีกช่วงหลัง ไม่ชนะใครมา 4 เกมติดแล้ว ฉะนั้นการพบกันของทั้ง 2 ทีม อาจเป็นจุดเปลี่ยนหากเก็บชัยชนะได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาเล่น 3-5-2

       ในช่วงต้นเกม เชียงราย ต่อบอลได้ดีและเน้นการว่างบอล จ่ายบอล แล้วรีบจบสกอร์โดยไม่เน้นขึงบุก ซึ่งการมีตัวบุกน้อยกว่า มันเป็นผลให้โอกาสลุ้นประตูยังไม่ใกล้เคียง

ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี เน้นตั้งรับและรอสวนกลับด้วยการแทงบอลไดเรค แต่จังหวะยังไม่พอดี จนไม่มีโอกาสได้ลุ้นระตู กระทั่งโอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดมาจากเจ้าถิ่นฉกบอลได้ แต่ ศนุกานต์ ยิงไม่ผ่าน กัมพล

ครึ่งหลัง เชียงรายปรับเกมขนานใหญ่ โดยยามมีบอลจะเน้นการเข้าทำน้อยจังหวะ อาศัยการลากบอลของแนวรุกขึ้นไป หรือโจมตีจากด้านข้างเมื่อพื้นที่กลางสนามไม่ว่าง ขณะที่ในยามไม่มีบอล พวกเขาจะยืนค้ำสูงเพื่อกดดันคู่แข่ง แต่การเข้าถึงบอลช้าของ เฟลิเป้ ก็ได้กลายเป็นใบเหลืองที่ 2 และใบแดง กระนั้นแม้ว่าตัวผู้เล่นจะน้อยกว่า

แต่รูปเกมยังไม่เสียและยังคงใช้ความสามารถของผู้เล่นในลากบอลเข้าไปในแดนคู่แข่ง แล้วการยิงไกลเป็นหลัก กระทั่งช่วงท้ายเกม กว่างโซ้งมหาภัยเน้นการเล่นแบบปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่ามันยากสำหรับ ราชบุรี ในการเจาะทีมที่เล่นเกมรับได้อย่างชำนาญอย่างงี้  ทำให้สกอร์สุดท้ายจบที่ 0-0

บทสรุปจากเกม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ไม่ได้มาเน้นตั้งรับ แต่เน้นการขึ้นบอลรวดเร็ว น้อยจังหวะ และมีจังหวะจบสกอร์ แต่มันก็เห็นได้ว่าโอกาสที่เกิดขึ้น มันไม่หวาดเสียวเท่าไรนัก ส่วนการเหลือผู้เล่น 10 คน แทบบจะไม่ผลกระทบต่อกว่างโซ้งมหาภัย ยกเว้นช่วงท้ายที่พวกเขาต้องถอยไปรับเพื่อการันตี 1 แต้ม

ขณะที่ ราชบุรี เอฟซี เกมรับแทบไม่เจองานหนักเพราะแนวรุกขึ้นมาไม่กี่คน ซึ่งโอกาสที่เฉียดโดนยิง ก็มาจากพวกเขาที่ผิดพลาดให้เจ้าถิ่น ส่วนเกมสวนกลับวันนี้แทบจะไม่ได้ฉายฟอร์ม เพาะครองบอลไม่กี่ครั้งก็ถูกดักคืนไป ฉะนั้นหากราชันมังกรโดนยิงประตู ก็เชื่อว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ในเกมนี้อย่างแน่นอน

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

กดสูตรไกลคว้า 3 แต้ม

เมืองทอง ยูไนเต็ด ยิงไกล ชนะเหนือ ชลบุรี

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 20 ณ สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี กำลังเผชิญต่อผลงานที่ย่ำแย่เมื่อพ่ายแพ้มา 3 เกมติดต่อกันแล้ว จะต้องพบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ผลงานกำลังย่ำแย่และโค้ชอย่าง

มาริโอ้ ก็ได้เดิมพันเก้าอี้ของตัวเองพ่ายแพ้ในเกมนี้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-3-3  ขณะที่ทีมเยือนยึดระบบ 4-1-4-1 ตามเดิม  

      ในช่วง 5 นาทีแรก เกมยังไม่นิ่งและไม่มีฝ่ายไหนครองบอลได้ชัดเจน จนเมื่อเกมเริ่มนิ่ง เมืองทอง สามารถต่อบอลเร็วจนถึงแดน 3 แล้วโจมตีจากด้านข้าง หรือแทงบอลถึงกองหน้า

กระนั้นการจบสกอร์ยังไม่ดี ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี ทำได้เพียงบีบพื้นที่ป้องกันแดน 1-2 เท่านั้น อย่างไรเสียเมื่อโดนเจาะผ่านแดน 3-4 จะมีพื้นที่ว่าง ซึ่งยังโชคดีที่คู่แข่งยังลงโทษไม่สำเร็จ ขณะที่เกมรุกแทบจะพาบอลไปไม่ถึงแดนสุดท้าย

ครึ่งหลัง เมืองทอง เล่นในลักษณะเดิม แต่ปรับวิธีการเข้าทำที่ต้องพาบอลเข้าไปในแดนสุดท้าย แล้วค่อยโจมตี ซึ่งการวางบอลไปยังพื้นที่หลังไลน์ ช่วยสร้างจังหวะเข้าทำให้ใกล้เคียงและอันตราย

กระนั้นรูปเกมที่กำลังดี ดันมาเหลือผู้เล่น 10 คน ในนาทีที่ 67 เมื่อ พ็อพพ์ โดนใบแดง อย่างไรเสียไล่หลังเพียง 5 นาที เมืองทอง มาได้ประตูนำ 0-1 จากการยิงไกลฝั่งขวา โดยจังหวะนี้ยิงดี แต่ก็ต้องตำหนิแล้วรับเจ้าบ้านที่ถอยหลังจน สุพร มีพื้นที่ยิงไกลแบบนั้น จากนั้นกลายเป็นกิเลนผยอง ลงไปแพ็คเกมรับจน ชลบุรี ไม่สามารถทำอะไรได้  

      บทสรุปจากเกม ชลบุรี เอฟซี ใช้แท็กติกแรกในเกมนี้ ด้วยการยืนบีบพื้นที่แดน 1-2 ของตัวเองเพื่อแย่งบอลแล้วจู่โจมเร็ว แต่จากภาพที่ออกมากลายเป็นดักบอลไม่ได้และไม่มีจังหวะเข้าทำ ขณะที่การต่อบอลจากหลังบ้านก็ค่อนข้างช้าจนไม่ทันต่อคู่แข่ง

นอกจากนี้จังหวะเสียประตู ถือเป็นความผิดพลาดของแนวรับที่ถอยเยอะเกินไปและไม่รู้หน้าที่ว่าใครต้องเข้าไปประกบ ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ยูไนเต็ด การขึ้นบอลเร็วในวันนี้ค่อนข้างประสบความสำเร็จ แต่จังหวะจบสกอร์ไม่พอดีกัน ซึ่งตรงจุดนี้ยังเป็นปัญหาที่ต้องแก้ต่อไป

ขณะที่การได้ประตูนำ 0-1 ต้องชม สุพร ที่ตัดสินใจดีและวางเท้าเยี่ยม นอกจากนี้ต้องชื่นชมเรื่องแท็กติกของโค้ช เพราะหลังจากขึ้นนำก็ถอยไปเล่นรับอย่างมีวินัย กระทั่งเกมรุกของเจ้าบ้านแทบจะพิการไปเลย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ขนาดบ๊วยยังคาบ้าน

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กู่ไม่กลับ เปิดบ้านพ่ายบ๊วย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 22 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ผลงานย่ำแย่แบบสุดๆ จนแฟนบอลรวมตัวขับไล่ แมตต์ สมิธ ให้พ้นจากตำแหน่ง

วันนี้จะต้องพบทีมอันดับสุดท้ายอย่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ยังคงจมอยู่ในโซนตกชั้นแบบไม่มีวี่แววว่าจะขยับตัวเองขึ้นมาได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนวางผัง 4-3-3

      บีจี ปทุม เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าชัดเจนก็จริง แต่เหมือนไม่รู้ว่าจะเข้าทำในแดน 3-4 อย่างไร ซึ่งจากที่เห็นคือ การให้บอลแบบไดเรคแก่กองหน้า หรือขึ้นทางริมเส้นแล้วให้กันไปมา จนเมื่อไรที่พอจะมีช่องว่างก็จะเปิดบอลเข้าไป กระนั้นในนาทีที่ 28 บีจี ปทุม ได้จุดโทษขึ้นนำ 1-0 เพราะแนวรับทีมเยือนไปทำฟาวล์ในเขตโทษ

แต่ไล่หลังไม่นาน หนองบัว พิชญ ก็มาได้จุดโทษตีเสมอ 1-1 จากการถูกทำฟาวล์ในนาทีที่ 36 ไม่เพียงเท่านั้น พญาไก่ชน มาได้ประตูแซงนำ 1-2 จากการไหลบอลให้กันด้านข้าง ก่อนจะลากไปมุมแคบและยิงเสาแรก ซึ่งแนวรับและผู้รักษาประตูของเจ้าบ้าน ต้องรับความผิดพลาดนี้แบบเต็มๆ

ครึ่งหลังเริ่มไม่ได้ไม่ถึงนาที หนองบัว พิชญ ทิ้งห่าง 1-3  ซึ่งแนวรับเจ้าถิ่นยืนมองแต่ไม่เข้าประกบ ทั้งตัวเปิดและคนโหม่งอย่าง ทาเดร์ลี่ จากนั้น บีจี ปทุม โหมบุก แล้วมันก็เห็นถึงรูปแบบที่ไม่มีความชัดเจน เพราะเน้นทักษะเฉพาะตัวของผู้เล่นเป็นหลัก ไม่เพียงเท่านั้น การสวนกลับของทีมเยือน ยังมีโอกาสที่หวาดเสียวและน่าได้ประตูทิ้งห่างมากกว่าเสียอีก

      บทสรุปจากเกม บีจีปทุม ยูไนเต็ด คงต้องตัดสินใจอย่างจริงจังว่าจะปลด หรือยอมทนเห็นผลงานที่ย่ำแย่นี้จนจบฤดูกาล เพราะการคุมทีมของ แมตต์ สมิธ ไม่สามารถโค้ชชิ่งนักฟุตบอลหรือวางระบบให้ชัดเจนว่าจะเล่นอะไร โดยอย่างเกมรุกเน้นให้บอลแบบไดเรค

ขณะที่เกมรับแค่ลงไปยืน แต่ไม่รู้ว่าใครต้องทำหน้าอะไรเพื่อให้คู่แข่งมีพื้นที่น้อยที่สุด ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี จริงๆวันนี้มาเน้นเกมรับเพื่อเอาแต้ม แต่วันนี้ดันได้ 3 แต้มออกไป เพราะการตั้งรับของเจ้าบ้านหละหลวม รวมถึงเปิดพื้นที่ให้เล่นอย่างสะดวก ฉะนั้นขอแค่ให้บอลแม่นๆ วางแม่นๆ จบสกอร์คมๆหน่อย สุดท้าย 3 แต้มนี้ถือเหมาะสมและไม่ใช่เพราะโชคเข้ามาช่วยแต่อย่างใด

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ผลการแข่งขัน

รีโว่ไทยลีก นัดที่ 23 โปรแกรมวันอาทิตย์

ศึกฟุตบอล รีโว่ไทยลีก ในโปรแกรมวันอาทิตย์ การลงสนามของเหล่าทีมใหญ่ต่างเก็บ 3 แต้ม ได้ตามเป้าหมาย เริ่มจาก การท่าเรือ ที่กลับมาคว้าชัยอีกครั้งด้วยการยิง 3 เม็ด เช่นเดียวกับ บียู ที่กดใส่ ชลบุรี แบบอยู่หมัด ขณะที่ บีจี ปทุม ยังไม่ฟื้น และ บุรีรัมย์ เก็บชัยด้วยการยิงเฉือนๆ ซึ่งบทสรุปของทุกคู่จะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราจะมาเล่าให้ได้ฟังกัน  

ลำปาง เอฟซี 1-3 การท่าเรือ เอฟซี

      เกมคู่แรก ลำปาง เปิดบ้านเจอทีมใหญ่ แต่พวกเขาก็สู้สุดใจ หากดูจากจังหวะและโอกาสจบสกอร์ แต่ในครึ่งแรกยังยิงไม่ได้ จนเกมในครึ่งหลังเริ่มขึ้น การท่าเรือ ชิงออกนำไปก่อน 0-2 นั่นจึงทำให้ รถม้ามรกตต้องเดินเกมรุกเต็มตัว แต่สุดท้ายยิงมาได้ลูกเดียวและเสียเพิ่มอีก ทำให้เกมจบลงด้วยชัยชนะของสิงห์เจ้าท่า 1-3 และกระโดดขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ของตาราง

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 3-1 ชลบุรี เอฟซี

      โยกมาที่เกมบิ๊กแมตช์ของวันนี้ ทรู แบงค็อก เปิดรังพบ ชลบุรี โดยเกมเริ่มไปได้เพียง 12 นาที บียู นำก่อน 1-0 จากนั้นเหมือนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ แต่ ชาญณรงค์ มายิงประตูตีเสมอ 1-1 ในช่วงทดเวลา ขณะที่ครึ่งหลัง ฉลามชลดูเหมือนจะยวบไปเสียดื้อๆ นั่นจึงทำให้ แข้งเทพมาเร่งเครื่องและยิงเพิ่มอีก 2 ประตู จนคว้าชัยชนะไปด้วยสกอร์ 3-1 พร้อมกับเกาะอันดับที่ 2 ของตารางอย่างเดียวแน่น กลับกันสถานการณ์ของทีมเยือน ผลงานรูดยาวและยังหากทางกลับฝั่งไม่เจอเสียที

ขอนแก่น ยูไนเต็ด 0-0 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

      ขอนแก่น ฟอร์มการเล่นในบ้านดีและแพ้ยาก วันนี้เจอ บีจี ปทุม ที่พร้อมจะแพ้ทุกเมื่อและทุกเวลา กระนั้นในเวลา 90 นาที ที่ลงฟาดแข้งกัน ทั้ง 2 ทีม ไม่สามารถส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ อีกทั้งการยิงตรงกรอบก็น้อยมากๆเช่นกัน ทำให้จบเกมด้วยสกอร์ 0-0 แบบไม่มีใครช้ำ

หนองบัว พิชญ เอฟซี 0-1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

      หนองบัว พึ่งไปเก็บ 3 แต้ม จากทีมใหญ่ และวันนี้ต้องเจอศึกใหญ่แบบต่อเนื่อง ซึ่งในเกมการแข่งขัน ทัพพญาไก่ชนพยายามต้านทานเกมรุกของ บุรีรัมย์ แบบสุดกำลัง แต่ดันมาโดนยิงนำ 0-1 ตั้งแต่นาทีที่ 23 อย่างไรเสียในช่วงเวลาที่เหลือ ปราสาทสายฟ้าไม่สามารถยิงเพิ่มได้ ทำให้จบเกมด้วยชัยชนะแบบเฉือนๆ 0-1 นั่นจึงทำให้เจ้าบ้านยังอยู่ในโซนแดงตามเดิม ขณะที่ทีมเยือนยังรักษาสถิติไร้พ่ายต่อไป

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

กาแมน แม่นเสา

หนองบัว พิชญ เอฟซี ปลิดชีพช่วงทดเวลา 2-1  

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 21 ณ สนามพิชญ สเตเดี้ยม หนองบัว พิชญ เอฟซี ทีมท้ายตารางที่กำลังอยู่ในอาการโคม่า จะต้องพบกับ ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานออกทะเลและต้องการหาจุดเปลี่ยน

ซึ่งการบุกมาเยือนในครั้งนี้ โค้ชเตี้ยได้เปรียบเหมือนกับสุนัขจนตรอกเลยทีเดียว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2  ขณะที่ทีมเยือนเป็น 4-2-3-1

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ทีมดูไม่นิ่งเพราะจับบอลลั่นและรับส่งขาดๆเกินๆ แต่เพียง 7 นาทีเท่านั้น หนองบัว ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ตัดบอลในแดนตัวเองแล้วโต้ขึ้นมา

โดยทางฝั่งทีมเยือนถือว่าพลาดตั้งแต่ไม่บีบเมื่อเสียบอล ไม่รู้ตำแหน่งป้องกันกลางสนามและในแดน 3-4 รวมถึงผู้รักษาประตู ที่ท่าทางในการออกมาป้องกันดูไม่มั่นใจเอาเสียเลย อย่างไรเสียในนาทีที่ 17 ชลบุรี มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการทำชิ่งและจ่ายให้ ฟาอิค ที่อยู่เสาไกลตัวสุดท้าย ได้ยิงจ่อๆ ซึ่งในจังหวะนี้ถ้ายืนตำแหน่งดี แนวรับจะต้องสกัดได้ จากนั้นดูเหมือนฉลามชล จะตั้งเกมของตัวเองได้ กระทั่งมามีโอกาสทองจากจุดโทษ แต่ กฤษดา ดันยิงแม่นเสาไปเสียอย่างนั้น

ครึ่งหลัง หนองบัว พยายามเล่นเกมบุกมาขึ้น แต่การเสียบอลและโดนโต้กลับมักเอาคู่แข่งไม่ค่อยอยู่ กระนั้นการเหลือผู้เล่น 10 คน มันก็มีผลให้พวกเขาเล่นยาก มิหนำคู่แข่งยังสามารถปิดเกมริมเส้นของพวกเขาได้ ทำให้เกมบุกแทบจะไปไม่เป็น

ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี รูปเกมดูดรอปกว่าครึ่งแรก แต่การตั้งรับและรอโต้กลับก็เกือบได้ประตูแซงนำ โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมจาก กฤษดา ที่ดันยิงไปชนเสาเป็นครั้งที่ 2 แล้วในจังหวะต่อเนื่องนาทีที่ 90+6เหมือนแนวรับฉลามชล ยังช็อคและประมาทเปิดพื้นที่ ทำให้พญาไก่ชน ลากบอลเข้าไปยิงประตูชัย 2-1

      บทสรุปจากเกม ทั้ง 2 ทีมอาจมีอันดับในตารางที่ต่างกัน แต่เมื่อลงไปเล่นก็จะพบว่าฟอร์มไม่ได้ต่างกัน โดยทางฝั่ง หนองบัวพิชญ เอฟซี ดักบอลและโต้กลับจนได้ประตูก็จริง แต่เมื่อเกมช่วงหนึ่งโดนปิดเกมริมเส้น พวกเขาก็แทบจะไปไม่เป็น ไม่ต่างจากเกมรับที่ต้านทานคู่แข่งไม่อยู่และมันโดนสวนแบบสุดทางตลอด

อย่างไรเสียก็ต้องกล่าวว่าประตูนำ 2-1 มันเป็นเพราะคู่แข่งยิงไม่ได้ จนจังหวะต่อมาเปิดพื้นที่ให้อย่างมหาศาล แล้วพญาไก่ชนคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี ระบบและรูปแบบการเล่นดูไม่ชัดเจน กระทั่งเมื่อได้ประตูตีเสมอ พวกเขาเหมือนจะตั้งหลักได้และน่าประตูอย่างยิ่ง แต่ก็พลาดไป ส่วนครึ่งหลังดูเป็นรองในบางช่วง แต่ก็มีโอกาสทองแล้วยิงไปชนเสาอีก ฉะนั้นการยิงบอลของ กฤษดา แล้วชนเสา 2 ครั้ง ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้   

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สถานการณ์โซนแดง

ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2022/23 ก่อนเข้าโค้งสุดท้าย

ศึก รีโว่ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2022/23 ผ่านครึ่งทางของเลกที่ 2 และเหลือการแข่งขันอีกเพียง 8 นัด เท่านั้นก็จะจบฤดูกาล ซึ่งสถานการณ์ในโซนตกชั้นถือว่าเข้มข้นมาก เพราะโควตาที่ต้องตกชั้นลงไปสู่ไทยลีก 2 มีจำนวน 3 ทีม แต่มีถึง 6 ทีม

ที่ต้องต่อสู้เพื่อการอยู่รอดบนลีกสูงสุดแห่งนี้ ฉะนั้นในบทความนี้จะมาวิเคราะห์รายทีม ว่าใครมีโอกาสรอด รวมถึงใครควรทำใจแล้วไปเริ่มต้นในลีกรองปีหน้า  

กลุ่มทีมเหนือโซนตกชั้น

      ขอนแก่น ยูไนเต็ด มีผลงานในเลกแรกที่ค่อนข้างย่ำแย่และดูสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น แต่เมื่อเลก 2 หันกลับมาใช้โค้ชลูกหม้อ ผลงานก็ดีขึ้นจนหลุดพ้นโซนแดง ซึ่งการมีแต้มอยู่มือ 25 คะแนน และห่างจากโซนตกชั้น 5 คะแนน ในทางทฤษฎีอาจจะยังไม่ปลอดภัย

แต่เชื่อว่าด้วยฟอร์มแบบนี้ จงอางผยองจะผ่านไป ถัดมาที่ พีที ประจวบ เอฟซี พวกเขาเอาจริงเอาจังกับการเสริมทัพในเลกที่ 2 จนทำให้ช่วงออกสตาร์ทดี แต่ในช่วงนี้อาจแพ้มากไปหน่อย ฉะนั้นหากประคองตัวไว้แบบนี้ ก็อาจจะเป็นอีกทีมที่รอดตาย

      นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตและมีการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหารกลางครรภ์ ก่อนจะกลับมาใช้บริการโค้ชโจอีกครั้ง แต่กว่าจะคว้าชัยนัดแรกในเลกที่ 2 ได้ ก็ต้องรอถึงนัดที่ 22 ฉะนั้นสำหรับสวาทแคท สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ

กลุ่มทีมในโซนตกชั้น

      ลำพูน วอริเออร์ รู้ตัวว่าศักยภาพทีมยังเป็นรองคู่แข่งอยู่มาโข จึงจัดการเสริมทัพแบบจัดหนักทั้งนักเตะและโค้ช กระนั้นตัวเล่นที่ได้มาอาจเป็นเป็นบิ๊กดีลก็จริง แต่สังขารล้วนอยู่ในข่ายใกล้ปลดระวาง อีกทั้งความเสียเปรียบที่ไม่ได้เล่นในบ้านและเสมือนต้องไปเยือนทุกนัด ทำให้โอกาสรอดของราชันโคขาว อาจมีเพียง 40 % เท่านั้น

ขณะที่ หนองบัว พิชญ เอฟซี ผลงานในปีที่จัดว่าเซอร์ไพรส์ แต่พอขาดต่างชาติตัวหลัก ผลงานก็ดำดิ่งอย่างที่เห็น ซึ่งการมี 17 แต้มในมือ และห่างจากโซนปลอดภัย 4 แต้ม อาจจะยังมีโอกาส แต่จากสภาพทีมแล้วมีโอกาสตกชั้นถึง 60% เลยทีเดียว ส่วน ลำปาง เอฟซี ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง

การเลื่อนชั้นขึ้นมาถือว่าเซอร์ไพรส์แล้ว ทำให้การมีชื่อยู่ในโซนแดง ไม่น่าแปลกใจอะไร อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงทีมเวิรค์ว่าสู้อย่างเต็มที่แล้ว ฉะนั้นการมี 15 แต้ม แล้วตามโซนปลอดภัยอยู่ 6 แต้ม โอกาสตกชั้นจึงมีมากถึง 70 %

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover