Categories
Sport

วิเคราะห์-ฟันธง รีโว่ไทยลีก นัดที่ 5 (วันศุกร์-เสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก สัปดาห์ที่ 5 ลงแข่งขันอย่างต่อเนื่องแบบไม่หยุดหย่อน จะกลับมาเล่น 8 คู่

เหมือนเดิม เพราะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พ้นขอบข่ายการกักตัว 14 วัน เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของวันศุกร์และเสาร์ มีเกมการแข่งขันระดับบิ๊กแมตช์ถึง 2 คู่ ซึ่งใครจะพบกับใครและผลที่คาดจะออกมาอย่างไร นับจากนี้เราจะได้ทราบกัน

ชลบุรี เอฟซี  พบกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

        ในค่ำคืนวันศุกร์ เวลา 6 โมงเย็น จ่าฝูงอย่างชลบุรี จะกลับมาเปิดบ้านรับ เชียงราย ที่ออกมาเยือนเป็นนัดแรกของฤดูกาล โดยทางฝั่งของฉลามชล ผลงานกำลังพีคสุดๆ เพราะอย่างเกมที่ผ่านมา ก็จัดการสอนน้องใหม่อย่าง ขอนแก่น ไปถึง 0-7 ส่วนทางฝั่งกว่างโซ้งมหาภัย ตลอด 4 นัด ที่ลงเล่นในบ้าน เก็บได้เพียง 5 คะแนน เท่านั้น อีกทั้งการออกมาเยือนนัดแรกก็เจองานหนักทันที ทำให้เกมนี้มองว่าเจ้าบ้านน่าจะเฉือนชนะได้ 

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด

        ข้ามมาที่โปรแกรมในวันเสาร์ ซึ่งคู่นี้จะลงเตะเป็นคู่แรกในเวลา 5 โมงเย็น โดยทางฝั่งการท่าเรือ ผลงานไม่ค่อยดี แต่นัดที่ผ่านมาเข้าขั้นโชคร้าย เพราะอุตสาห์นำไปก่อน แต่การโดนใบแดงเร็วทำให้เป็นรองและพ่ายแพ้ สุพรรณบุรี ส่วนทางด้าน เมืองทอง ยูไนเต็ด ล้มลุกคลุกคลานมาหลายนัด แต่ก็ยังไม่ถึงคราวแพ้ กระนั้นการออกมาเยือนแล้วเจ้าบ้านต้องการชัยชนะ มันก็อาจเป็นคราวที่กิเลนผยอง ต้องพ่ายและมอบ 3 แต้ม ให้สิงห์เจ้าท่า    

พีที ประจวบ เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

        ถัดมาเป็นเกมที่สามอ่าว สเตเดี้ยม ซึ่งจะลงเตะในเวลา 6 โมงเย็น โดยทางฝั่งประจวบ ออกไปเล่นเป็นทีมเยือนมา 4 นัด แล้วเก็บได้ 5 แต้ม นับว่าเป็นผลงานที่ไม่เลว ส่วนทางด้านบุรีรัมย์ ออกมาเยือนเป็นนัดแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ก็โดน บียู เชือดไป 2-0 ทำให้การออกมาเยือนเป็นนัดที่ 2 ไม่ใช่งานง่าย อีกทั้งยังเชื่อว่าต่อพิฆาตไม่น่าแพ้ในถิ่น    

สมุทรปราการ ซิตี้ พบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

        เกมคู่สุดท้ายที่จะลงเล่นในเวลา 6 โมงเย็น สมุทรปราการ ที่เหมือนจะฟอร์มดี แต่ก็ดันสะดุดหมูอย่าง เทโร เสียอย่างนั้น ทำให้ความหวังที่จะเห็นเขี้ยวสมุทร อยู่หัวตาราง คงไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นในเร็ววัน ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ ยังหาชัยชนะนัดแรกเจอ อีกทั้งยังห่างไกลหากดูจากฟอร์มการเล่น ฉะนั้นเกมคู่นี้เดาไม่ยากว่าเจ้าบ้านน่าจะเก็บ 3 แต้ม ได้สบายๆ 

   ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

วิเคราะห์-ฟันธง รีโว่ไทยลีก นัดที่ 5 (วันเสาร์-อาทิตย์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 5 ของฤดูกาล ลงเตะกันไปอย่างดุเดือดในวันศุกร์และเสาร์

ทำให้ในส่วนนี้จะมาพูดถึงเกมคู่สุดท้ายของวันเสาร์ และอีก 3 คู่ ในวันอาทิตย์ ซึ่งมีเกมบิ๊กแมตช์เป็นนัดส่งท้ายของสัปดาห์อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเป็นอย่างไร นับจากบรรทัดนี้จะได้ทราบกันทั้งหมด

หนอบัว พิชญ เอฟซี พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี

        คู่สุดท้ายของวันเสาร์ ลงเตะในเวลา 1 ทุ่มตรง หนองบัว ในฐานะเจ้าบ้าน ได้หยุดพักมาเต็มๆ 2 สัปดาห์ เนื่องจากคู่แข่งอย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงการกักตัว แต่หากย้อนผลงานดูตลอด 3 นัด ก็จะพบว่ามันไม่ได้สวยหรูสักเท่าไร ส่วนทางฝั่งเทโร เป็น 1 ใน 2 ทีม ที่ยังไม่ชนะใคร ทำให้สถานการณ์เข้าขั้นน่าเป็นห่วงเสียแล้ว ซึ่งจากผลงานที่ไม่ค่อยดีทั้ง 2 ทีม ทำให้เกมนี้มีความสำคัญ แต่หากจะให้ฟันธง คงให้พญาไก่ชนไม่แพ้ในถิ่น  

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี

        ข้ามมาที่เกมในวันอาทิตย์ ซึ่งคู่นี้และอีก 2 คู่ด้านล่าง จะลงเตะในเวลา 6 โมงเย็นพร้อมกัน โดยทางฝั่งของ โคราช การออกไปเยือนมักได้ผลดีที่สุด คือ เสมอ ส่วนเกมในบ้านลงเล่นไปแล้ว 1 นัด และสามารถคว้า 3 แต้ม ส่วนทางด้านสุพรรณบุรี ลงเล่นในบ้าน 3 นัด แล้วเก็บ 5 แต้ม ถือว่าเป็นผลงานที่ใช้ได้ แต่การออกไปเยือนถิ่นสวาทแคท อาจต้องจำยอมว่าอย่างเก่งคงได้แค่ 1 แต้ม    

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด

        บีจี ปทุม ผ่านพ้นการกักตัวออกมา พร้อมลงเล่นก็จริง แต่เชื่อว่าสภาพความฟิตต้องมีถดถอยกันไปบ้าง ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น ผลงานเหมือนกำลังจะดี แต่การโดน ชลบุรี รัวหมัดขนาดนั้น ก็ไม่ทราบว่าจงอางผยองจะเมาหมัดค้างหรือไม่ อย่างไรเสียการพบกันที่ ลีโอสเตเดี้ยม เชื่อว่ากระต่ายแก้วจะไม่พลาดในการเก็บ 3 แต้ม

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

        เกมคู่ส่งท้ายของสัปดาห์นี้ จัดว่าเป็นบิ๊กแมตช์อีกคู่ โดยทางฝั่งราชบุรี ได้กลับมาเล่นในบ้านเป็นนัดแรก หลังจากออกไปเยือนแล้วชนะแค่เกมเดียวในนัดเปิดฤดูกาล กับ ขอนแก่น ส่วนทางฝั่งบียู ผลงานนัดล่าสุดจัดว่าไฉไลอย่างยิ่ง กับการโค่นบุรีรัมย์ คาถิ่นได้สำเร็จ ทำให้การออกไปเยือนถิ่นราชันมังกร เชื่อว่าแข้งเทพจะเก็บได้อย่างน้อย 1 แต้ม

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ปลดล็อคชัยแบบมีเสียว” เมืองทอง ยิงประตูชัย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 4 ในวันศุกร์ ที่สนามธันเดอร์ สเตเดี้ยม เมืองทอง ยูไนเต็ด

ที่ได้พักเกือบ 2 สัปดาห์ และได้ลงเล่นในบ้าน 2 นัดติด พบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ต้องออกมาเยือนเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันแล้ว สำหรับผังการเล่นการเล่นของทั้ง 2 ทีม มาในระบบ 4-1-4-1

        ช่วงต้นเกมเป็นทางฝั่ง เมืองทอง ที่ได้บุกเพียงแค่บริเวณริมเส้น แล้วค่อยๆเจาะพื้นที่แดนกลางได้ แต่ยังไม่ทันจะมีจังหวะหวาดเสียว กิเลนผยอง ก็มาได้จุดโทษจากการเช็ค VAR แล้วขึ้นนำ 1-0 ทำให้หลังจากนั้น ราชบุรี ต้องพยายามเข้าหาบอลเร็ว เพื่อชิงบอลกลับมาบุก อีกทั้งเมื่อไรที่เจ้าบ้านออกบอลสั้นจากหน้าบ้าน นักเตะของราชันมังกรก็จะดันสูงและเพรสซิ่งใส่ แล้วมันก็ได้ผลกับการฉกบอลกลับมาบุก  

        การวิ่งสู้ฟัด เข้าหาบอลเร็ว และความพยายามจะต่อบอลเพื่อให้มีจังหวะจบสกอร์ เมื่อนานหลายนาทีเข้า มันก็เริ่มเห็นได้ว่า ราชบุรี สามารถกดหัวเจ้าบ้านอยู่หมัด กระทั่งมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการเปิดที่แม่นและเข้าชาร์ตแบบเหนือๆ อย่างไรเสียแนวรับของเมืองทอง ก็ยืนตำแหน่งป้องกันผิดพลาด อีกทั้งผู้รักษาประตูอย่าง สมพร ยศ เหมือนสองจิตสองใจว่าจะออก หรือยืนเซฟหน้าประตู

ครึ่งหลัง ราชบุรี เริ่มต้นได้ดีกว่า เพราะสามารถต่อบอลบริเวณแดน 2-3 ได้ไหลลื่น แต่การเข้าทำในแดนสุดท้ายยังไม่ค่อยปรากฏ แต่เมื่อเกมเดินทางผ่าน 15 นาที เมืองทอง สามารถยกระดับตัวเองด้วยการตัดบอลและโต้กลับ กระทั่งกลายเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า กับการบุกที่ไอเดียการเข้าทำอันหลากหลาย แต่มันไม่ถี่พอที่จี้แผลคู่แข่งได้

        การส่ง เคอร์แรน ลงมา ช่วยเพิ่มมิติการเปิดบอลจากริมเส้นให้ดูน่ากลัว กระทั่งกลายเป็นประตู 2-1 ซึ่งในจังหวะนี้ต้องโทษแนวรับราชบุรี ที่ปล่อยให้เลี้ยงจี้เข้ามาเปิดและไม่กระโดดเบียดกับ ป็อปป์ ทั้งๆที่ยืนประกบอยู่ 2 คน ทำให้ในอีก 10 นาทีที่เหลือ ราชันมังกรต้องกลับมาโหมบุกใหม่ ซึ่งการค่อยๆนวด ช่วยให้โอกาสเริ่มชัดเจนขึ้น แต่มันไม่ทันเสียงนกหวีดหมดเวลา     

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังมีฟอร์มการเล่นที่ไม่สมบูรณ์ เพราะตลอดเกม 90 นาที มีช่วงที่เล่นดีและสมาธิแกว่ง โดยเกมรับจะมีปัญหาเมื่อโดนคู่แข่งกดหัวนานๆ ส่วนเกมรุกมีไอเดียการเข้าทำ แต่เมื่อลงไปเล่นแล้ว เหมือนลืมสิ่งดีๆที่ได้ซ้อมมา ส่วนทางฝั่งราชบุรี มิตรผล เอฟซี เกมรับยังมีปัญหาไม่เสื่อมคลายไปจากนัดที่ผ่านๆมา ขณะที่เกมรุกไร้น้ำยายามเจอเกมรับถอยลึก ทำให้ต้องพึงการโยน แล้วโชคดีได้ประตูเพราะคู่แข่งพลาดให้ แต่ก็น่าเสียดายที่ตัวเองพลาดมากกว่าคู่แข่ง ทำให้ท้ายที่สุดต้องพ่ายไป

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ดีคนละครึ่ง” ประจวบนำก่อน ตีเสมอ เมืองทอง ท้ายเกม

        ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 นัดแรกของฤดูกาล ในส่วนของคู่วันเสาร์ เวลา 18.00 น. ณ.สนามบุรีรัมย์ ซิตี้ (เขากระโดง)

พีที ประจวบ เอฟซี ลงเล่นในฐานะเจ้าบ้าน พบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่อพิฆาตมาในระบบ 3-4-3 ส่วนกิเลนผยอง ปรับมายืน 4-1-4-1

        เพียง 3 นาทีแรกของเกม เมืองทอง เหม่อลอยแล้วเปิดแผลทำให้ ประจวบ ฉวยโอกาสนำไปก่อน 1-0 ซึ่งนอกจากสกอร์จะได้เปรียบ ทรงบอลและวิธีการก็ดูเหนือกว่าตลอด 45 นาทีแรก กล่าวคือ ลูกทีมของ มาซามิ ทากิ มีการเพรสซิ่งสูงไม่ให้คู่แข่งเซตเกมขึ้นมา แต่ถ้าดักไม่ได้ ก็จะถอยไปตั้งโซนรับแน่น ขณะที่เกมบุกจัดว่าไหลลื่น เพราะเซตบอลจากหลังสู่หน้าแบบไม่มากจังหวะ อีกทั้งยังมีการเปิดเปลี่ยนแกนที่รวดเร็ว ซึ่งมันค่อนข้างตรงกันข้ามกับ เมืองทอง ที่ได้แต่ขึ้นบอลทางริมเส้นทั้ง 2 ข้าง แล้วเปิดไม่ค่อยเข้าเป้า ส่วนการทะลุทะลวงแดนกลางแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะแค่คิดช้าทำช้า ก็ถูกรุมบีบจนเสียบอลแล้ว

ครึ่งหลังต้องชื่นชม มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ เพราะมีการแก้เกมและปรับวิธีการบุก ด้วยการเจาะพื้นที่กลางสนามกับวางยาวทะลุช่อง ผสมกับการเปิดจากริมเส้น ซึ่งมันกลายเป็นความหลากหลายที่มากพอต่อการโหมบุกคู่แข่ง กระทั่งมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการโยนด้านข้าง ส่วนลูก 1-2 มาจากการเพรสซิ่งแล้วฉกบอลมายิง ขณะที่ประจวบ ครึ่งหลังเลือกจะผ่อนคันเร่ง

ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะมันเป็นวิถีปฏิบัติทั่วไปของทีมนำ แต่สิ่งที่ถือว่าผิดพลาด คือ การไม่เพรสซิ่งคู่แข่งเหมือนในครึ่งแรก เพราะนั่นทำให้คู่แข่งสามารถเซตบอลเข้ามาในแดนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับขึงบุกในแดนอันตรายได้ยาวนาน กระทั่งโดนเจาะตาข่าย 2 ประตู อย่างที่กล่าวไป แต่กระนั้นในช่วงท้ายเกม ความผิดพลาดส่วนบุคคลของคู่แข่ง ช่วยหนุนนำให้ต่อพิฆาตได้จุดโทษ แล้วตีเสมอเป็น 2-2      

        ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม พีที ประจวบ เอฟซี ได้เปรียบเรื่องสกอร์ที่ขึ้นนำตั้งแต่ช่วงต้นเกม อีกทั้งวิธีการเล่นในครึ่งแรก ก็จัดว่าเหนือกว่าคู่แข่งทุกอย่าง แต่ในครึ่งหลัง ความผิดพลาดทางแท็กติกถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมเกือบแพ้ เพราะดันถอนคันเร่งมากเกินไป ในขณะที่คู่แข่งแก้เกมมาดีและถูกจุด ซึ่งการตีเสมอได้ท้ายเกม

ถือว่ามีดวงและโชคเข้ามาช่วยไว้ ส่วนทางฝั่ง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ครึ่งแรกมีความผิดพลาดและถูกลงโทษทันที ขณะที่เกมรุกมีมิติเพียงด้านเดียว แต่พอลงมาในครึ่งหลัง การแก้เกมช่วยพลิกฟื้นทีมให้กลับมานำ แต่น่าเสียดายที่ผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้กิเลนผยองต้องชวด 3 แต้ม ในวันนี้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover