Categories
Sport

โค้ชเกาหลี

เหมาะกับฟุตบอลอาเซียน ?

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI 2020 เป็นที่ทราบกันดีกว่า ทีมชาติไทย คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 6 แบบนอนมา กระนั้นหากดูถึงชาติอื่นๆ จะพบเห็นถึงความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เพื่อให้ตัวเองมีลุ้น ซึ่งการหันเหมาใช้บริการกุนซือชาติ คือ สิ่งที่เหล่าชาติอาเซียนนิยมทำ และโดยเฉพาะโค้ชจากเกาหลีใต้ ถือว่าเป็นสัญชาติที่เริ่มมาแรง หากดูจากผลงานของทีมชาติที่เข้าไปคุม   

หากย้อนกลับไปในศึก AFF SUZUKI 2016 ทีมชาติกัมพูชา เคยใช้บริการโค้ชชาวเกาหลีใต้อย่าง อี แต ฮุน ซึ่งแม้ว่าตามศักยภาพนักเตะจะเป็นรอง แต่กุนซือผู้นี้ก็ยกระดับให้ขุนพลอังกอร์วอริเออร์ ไม่ใช่ไม้ประทับที่จะให้ใครมาถล่ม 7-8 ลูกอีกต่อไป จากนั้น ทีมชาติเวียดนาม ที่ไม่ได้แชมป์ หรือประสบความสำเร็จใดๆมานานนับทศวรรษ คือ ชาติต่อมาที่ใช้บริการกุนซือแดนโสมขาว โดยการเข้ามาของ ปาร์ค ฮัง ซอ ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ของวงการฟุตขอลเวียดนาม เพราะกุนซือผู้นี้ได้พาทีมบินสูงในระดับเอเชีย ด้วยการคว้ารองแชมป์ U-23 กับการพาทีมชุดใหญ่เข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย เป็นครั้งแรก และที่ขาดไม่ได้ คือ การกวาดแชมป์ระดับอาเซียนทั้ง ซีเกมส์ และ AFF SUZUKI CUP แบบเรียบวุฒิ ขณะที่ชาติล่าสุดอย่าง อินโดนีเซีย เมื่อเห็นว่า ชิน แต ยัง วางมือจากการคุมทีมชาติเกาหลีใต้ จึงรีบไปสอยมาคุมทีมแบบทันทีทันใด แล้วก็อย่างที่ทราบกันว่า น้าชิน สามารถแปลงโฉมจากการูด้าที่ถอยหลังลงคลอง ให้กลายเป็นทีมรองแชมป์ AFF SUZUKI CUP 2020 แบบสุดเซอร์ไพรส์

จากที่กล่าวไปเช่นนี้ มันจึงเกิดคำว่าถามว่ากุนซือชาวเกาหลีใต้ เหมาะสมกับฟุตบอลอาเซียนใช่หรือไม่ มันก็คงตอบได้เต็มปากว่าใช่ เพราะฟุตบอลสไตล์เกาหลีใต้ จะเน้นกำลังและความมีระเบียบวินัย อีกทั้งแท็กติกก็ไม่ซับซ้อน ส่วนนักเตะในระดับอาเซียน ศักยภาพไม่สูงส่งมากนัก ทำให้หลายครั้งเกิดความล้มเหลว หากนำกุนซือต่างชาติ หรือญี่ปุ่นเข้ามา กลับกันพอเป็นโค้ชจากเกาหลีใต้ เพียงแค่พวกเขาเพิ่มกำลัง เพิ่มความเข้มข้นการในการฝึกซ้อมให้ยืนระยะในเกมได้ และใส่ทีมเวิรค์เข้าไป มันจึงใช้เวลาไม่นานก็จูนทีมติด อีกทั้งนักเตะก็สามารถตอบสนองความต้องการได้ สุดท้ายผลงานจึงออกมาดี แม้ทรงการเล่นจะไม่สวยงาม

อย่างไรเสีย แม้ว่ากุนซือชาวเกาหลีใต้จะทำผลงานได้ดี กับการมารับงานคุมทีมชาติในแถบอาเซียน แต่หากชาติใดต้องการผลงานแบบนี้ในระยะยาว มันก็จำเป็นต้องมีการพัฒนาลีก เพื่อให้โค้ชทีมชาติมีวัตถุดิบที่เพียงพอและเลือกใช้ได้สะดวกมือ ตรงกันข้ามหากลีกยังต้องหยุดยาวแรมปีเหมือน เวียดนาม หรือฟุตบอลลีกเตะคู่ขนานกับทีมชาติแบบ อินโดนีเซีย สุดท้ายการนำกุนซือเกาหลีใต้เข้ามาก็อาจเป็นเพียงการสร้างทีมแบบชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น 

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปผลงาน กองหน้า

ทีมชาติไทย ในศึก AFF SUZUKI CUP 2020

เป็นเวลานับกว่าทศวรรษที่ ทีมชาติไทย มีปัญหาในเรื่องของผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้า ซึ่งในทัวร์นาเมนต์ AFF SUZUKI CUP 2020 หนนี้ ถือว่าโชคดีที่ตัวหลักไม่ถอนตัวและอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดี โดยทั้ง 4 ราย ที่เรียกมาจะมีฟอร์มอย่างไรบ้าง เราจะมาสรุปกันด้านล่างนี้

ธีรศิลป์ แดงดา

หากไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ลาและไม่ถอนตัว ยังไงเจ้ามุ้ยก็ต้องถูกเรียกติดทีม ซึ่งการที่อายุอานามมากขึ้น มันก็มีผลให้ความเร็วลดน้อยถอยลงไป กระนั้นด้วยประสบการณ์บวกความเก๋า คือ สิ่งที่เจ้าตัวมีและนำมาช่วยทีม ทำให้เรายังคงเห็นการยิงประตูที่เฉียบคมและประคองทีมให้ได้ผลการแข่งขันที่ดี แม้จะเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดัน อาทิ เกมกับ ฟิลิปปินส์

ศุภชัย ใจเด็ด

ศูนย์หน้าจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจนได้ติดทีมชาติทุกชุด แต่ในรอบปีที่ผ่านมาดันเผชิญกับอาการฟอร์มตกและยิงประตูไม่ได้เลย กระทั่งในเลกแรกของศึกไทยลีกฤดูกาลนี้ ฟอร์มที่เคยไฉไลเมื่อวันวานได้หวนมาอีกครั้ง ฉะนั้นมันจึงไม่แปลกที่ มาโน่ จะเลือกบังอารม์มาติดทีมชุดนี้ ส่วนเรื่องฟอร์มการเล่น เจ้าตัวได้จัดการล่าตาข่ายมาได้ 1 ลูก จากเกมกับ สิงคโปร์ ส่วนบทบาทการลงสนามจะเน้นไปที่การเป็นตัวสำรอง และเปลี่ยนลงมา

อดิศักดิ์ ไกรษร

การย้ายกลับสู่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นสังกัดแม่ จัดว่ามีผลให้เจ้ากอล์ฟฟอร์มตก หากอ้างอิงจากจำนวนกประตูที่สวนทางกับตอนปล่อยยืมไปอยู่ การท่าเรือ เอฟซี กระนั้นด้วยประสบการณ์และบุญเก่าที่สะสมไว้มาก มันก็ได้หนุนนำให้ มาโน่ ยังคงไว้ใจและเรียกมาติดทีม แต่โอกาสการลงสนามก็จัดว่าน้อยนิด อย่างไรเสียเจ้าตัวก็ยังคงช่วยทีม ด้วยการยิง 1 ประตู ใส่อินโดนีเซีย

อดิศักดิ์ ไกรษร

การย้ายกลับสู่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นสังกัดแม่ จัดว่ามีผลให้เจ้ากอล์ฟฟอร์มตก หากอ้างอิงจากจำนวนกประตูที่สวนทางกับตอนปล่อยยืมไปอยู่ การท่าเรือ เอฟซี กระนั้นด้วยประสบการณ์และบุญเก่าที่สะสมไว้มาก มันก็ได้หนุนนำให้ มาโน่ ยังคงไว้ใจและเรียกมาติดทีม แต่โอกาสการลงสนามก็จัดว่าน้อยนิด อย่างไรเสียเจ้าตัวก็ยังคงช่วยทีม ด้วยการยิง 1 ประตู ใส่อินโดนีเซีย

เจนภพ โพธิ์ขี

ก่อนเริ่มฤดูกาลเกือบโดน โปลิศเทโร เอฟซี โละทิ้ง แต่พอได้รับโอกาส เจ้าตัวก็ได้ตอบแทนด้วยการยิงประตูแบบรัวๆ กระทั่งมีชื่อติดโผแต่ไม่ใช่ 30 คนสุดท้าย อย่างไรเสียในเมื่อฟ้ามันลิขิตว่าต้องติดทีมชาติ มันก็ได้เกิดเหตุตัวจริงขอถอนตัว ทำให้ท้ายที่สุด มาโน่ ได้เลือกดาวเตะผู้นี้มาติดทีมเป็นรายสุดท้าย และได้มีโอกาสลงสัมผัสเกมราว 10 นาที ในนัดที่ 2 กับ อินโดนีเซีย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ฉลามแรงปลาย”

ชลบุรี ฮอตต่อเนื่อง เปิดรังถล่ม ราชบุรี 3-0 กระโดดรั้งที่ 3 ปิดท้ายเลกแรก

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ของฤดูกาล ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานกลับมาไฉไลอีกครั้ง จะต้องเปิดรังรับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ถีบตัวเองออกจากโซนแดงได้แบบหวุดหวิด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-1-2 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-3-3

      ในช่วงต้นเกม ทั้ง 2 ฝ่าย เริ่มต้นด้วยเจาะพื้นที่ทางริมเส้น แต่มันก็ไม่ไปถึงแดนลึก กระทั่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ชลบุรี ตั้งหลักได้ก่อน แล้วพยายามจะขึงและยิงเมื่อมีโอกาส จนมาได้ประตูนำ 1-0 จากการประสานงานทางริมเส้นและในกรอบเขตโทษ ซึ่งหากไปย้อนดูภาพช้า จังหวะนี้ต้องอาศัยความเข้าใจล้วนๆ มิเช่นนั้นจะไม่ลงล็อคแบบนนี้ หลังจากนั้น ราชบุรี เป็นฝ่ายที่ต้องโหมเกมบุกใส่ แล้วมันก็กดดันคู่แข่ง จนถึงขั้นที่แนวรับฉลามชลมีสมาธิแกว่งๆไป กระนั้นการบุกเพลินๆ ลูกทีมของโค้ชเตี้ยก็มีโอกาสสวนกลับและเกือบจะได้ประตู แต่แนวรับของราชมังกรยังสกัดไว้ได้แบบทันควัน  

ครึ่งหลัง เกมค่อนข้างเปิดมากขึ้น โดยทางฝั่ง ราชบุรี พยายามจะเอาประตูตีเสมอให้ได้ ซึ่งมันก็มีจังหวะหวาดเสียวและใกล้เคียงที่จะเป็นประตู แต่มันก็ปรากฏให้เห็นถึงการขึ้นบอลจากแดนกลาง ที่ป้อนไปไม่ถึงแดนหน้า อีกทั้งหลายหนยังเสียบอลให้ ชลบุรี โต้กลับและฉีกแนวรับของทีมเยือนที่ยืนตำแหน่งผิดพลาด จนมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 และ 3-0 อีกทั้งยังเกือบได้เพิ่มอยู่เรื่อยๆ แต่เจ้าถิ่นดันไม่คมเสียเอง

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี เล่นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและไม่ได้มีฟอร์มที่สุดยอดอะไร โดยเกมรับพอเจอการกดดันหนักๆ ก็มีภาพของการยืนซ้อนป้องกันที่ผิดพลาดเหมือนกัน ซึ่งยังดีที่คู่แข่งลงโทษไม่ได้ มิเช่นนั้นมีหงายหลังเหมือนกัน ส่วนเกมรุก มีการขึ้นบอล ประสานงาน และจบสกอร์ที่เฉียบคมขึ้น แต่หากดูจากจำนวนของโอกาส มันสามารถยิงได้มากกว่านี้ หากเฉียบคมเข้าขั้นมือสังหาร

ขณะที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี รูปเกมเฉื่อยชา จนต้องรอให้เสียประตูก่อน ถึงจะกระตือรือร้นขึ้นมา ซึ่งการลุกขึ้นมาทำเกมบุก มันก็ปรากฏให้เห็นถึงความไม่ลงตัว จนกลายว่าตัวเองไม่มีอาวุธที่หนักพอจะโจมตีคู่แข่ง มิหนำซ้ำการเสียบอลและแนวรับยืนหละหลวม มันก็เป็นผลให้ประตูของพวกเขา กลายเป็นประตูน้ำที่พร้อมจะเสียประตูตลอดเวลา  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นไทย

ในเกมเจ๊า อินโดนีเซีย คว้าแชมป์เจ้าอาเซียนสมัยที่ 6

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ทีมชาติไทย ถูก อินโดนีเซีย ตามตีเสมอ 2-2 แต่ผลรวม 2 นัด ไทย ชนะ 6-2 ทำให้คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 6 กระนั้นหากดูฟอร์มการเล่นในเกมนี้ ไม่ทราบว่าเป็นเหตุผลใด เพราะเหล่าขุนพลช้างศึกต่างร่วมใจกันโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน อีกทั้งมันต่ำตมจนมีน้อยรายที่ได้คะแนนดี

ศิวรักษ์ (4 คะแนน)

      ประตูแรกเสียแบบง่ายๆ จากนั้นก็เล่นแบบไร้ความมั่นใจ โดยเฉพาะจังหวะออกมารับและตัดบอล กระทั่งท้ายเกมเสียอีกลูก ซึ่งหากมองให้ดี มันยังไม่มุมและยังอยู่ในวิสัยที่จะปัดได้ 

นฤบดินทร์ (6 คะแนน)  

      ไม่มีความโดดเด่นนัก อีกทั้งได้แต่ช่วยเกมและไม่ค่อยได้เติมเกมบุก

ปวีร์ (5 คะแนน)

      ฟอร์มที่เคยโดดเด่น ถูกทิ้งลงแม่น้ำและกลับคืนสู่ฟอร์มเดิม ทำให้ในทันทีที่หมดครึ่งแรก มาโน่ จึงเลือกจะเปลี่ยนออกและเอากองกลางมายืนกองหลังแทน 

กฤษดา (7 คะแนน)

      เป็นอีกนัดที่ยังทำหน้าที่ได้ดีและไม่ความผิดพลาดแบบติดตา   

ธีราทร (6 คะแนน)

       ขึ้นเกมไม่ค่อยได้และลูกเปิดไม่ฉมังนัก ทำให้งานหลักต้องอยู่ในแผงเกมรับเป็นหลัก

สารัช (7 คะแนน)

      ครึ่งแรกงานหนัก ขณะที่ในครึ่งหลังงานเริ่มเบาและเดินเกมรุกได้บ้าง กระทั่งได้โอกาสยิงประตู 2-1 จากจังหวะที่บอลมาตกตรงหน้าพอดี ซึ่งมันเป็นการยิงที่ค่อนข้างดีทีเดียว    

ธนวัฒน์ (5 คะแนน)

      ไม่มีบทบาทกับเกม ซึ่งนับเป็นอีกเกมที่เจ้ากันเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้ครึ่งหลังถูกเปลี่ยนตัวออกอย่างรวดเร็ว

 สุภโชค (7 คะแนน)

      ครึ่งแรกได้บอลน้อย จนเมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง ก็พอจะมีจังหวะได้ลากเลื้อยจนมีส่วนสำคัญกับประตูที่ได้มา   

ชนาธิป (6 คะแนน)

       วันนี้ไม่โดดเด่นนัก แต่ด้วยบุญเก่าที่สะสมมา มันก็นำไปพารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมและดาวซัลโวร่วม

 บดินทร์ (7 คะแนน)

      การลากเลื้อยบอลสร้างความอันตรายได้ดี และเป็นจุดเริ่มต้นของประตูทั้ง 2 ลูก

 ธีรศิลป์ (5 คะแนน)

      พอพลังหมด ก็ไร้พิษสงที่จะขยับไปไหน ทำให้ทันทีที่หมดครึ่งแรก มาโน่ จึงเลือกที่จะเปลี่ยนออก

 อดิศักดิ์ ไกรษร (6 คะแนน)

      ได้บอลไม่เยอะ แต่ยังไว้ลายเรื่องความคมอยู่บ้าง ซึ่งในวันนี้จัดการยิงประตูตีเสมอแบบเลือดเย็น  

วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (6 คะแนน)

      ได้รับความไว้วางใจให้ลงมายืนเป็นกองหลัง ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่อาจจะไม่แนบสนิทนัก

พิธิวัตต์ (6 คะแนน)

      ลงมาในครึ่งหลัง แล้วสามารถช่วยให้เกมแดนกลางนิ่งขึ้น

ฟิลิป (7 คะแนน)

      ลงมาเล่นเป็นปีกขวา แล้วจัดการกระชากลากเลื้อยตามสไตล์

เจนภพ (ไม่มีคะแนน)

      เป็นรายสุดท้ายที่ถูกส่งลงมาช่วงท้ายเกม ทำให้ไม่มีคะแนนให้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แพ้ปั๊บร่วงปุ๊บ”

สุพรรณบุรี ทำแสบ เปิดบ้านเชือด บียู 2-0 ฉุดแข้งเทพร่วงจ่าฝูงส่งท้ายเลกแรก

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี สุพรรณบุรี เอฟซี ที่พึ่งปลดล็อคตัวเองด้วยชัยชนะ จะต้องเปิดรังทำศึกหนักกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องการ 3 แต้ม เพื่อปิดเลกด้วยการเป็นจ่าฝูง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 5-4-1 ขณะที่ทีมเยือนเป็นไปตามโผกับระบบ 4-3-3

ทันทีที่เกมเริ่มต้นขึ้น ทรู แบงค็อก พยายามครองบอลและบุกใส่ตามสไตล์ทันที แต่ผ่านไปได้แค่ 6 นาที สุพรรณบุรี กลายเป็นฝ่ายที่ขึ้นนำก่อน 1-0 ซึ่งในจังหวะนี้ ทีมเยือนต้องโทษตัวเองที่ปล่อยให้เจ้าบ้านครองบอลง่ายและแนวรับอย่าง ทอม เบียรห์ กับ เอฟเวอร์ตัน ดันพลาด จน ดานีโล่ ที่ยืนตรงนั้นพอดี ได้ยิงแบบไม่ยากเย็น หลังจากได้ประตูนำ สุพรรณบุรี ถอยรับเต็มพิกัดและยืนป้องกันได้ดีแบบไม่มีข้อผิดพาด พร้อมกันนั้นก็ปล่อยให้ บียู ต่อบอลไปเรื่อยๆ ซึ่งการต่อบอลมันก็ทำได้แค่ในแดน 1-3 และเปิดโด่งเข้ามา     

ครึ่งหลัง บียู ยังคงเดินหน้าบุก ซึ่งการเปิดบอลโด่งจากริมเส้น จริงๆมันก็เริ่มมีโอกาสให้ได้ลุ้น แต่กองหน้าตัวเป้าอย่าง คาร์เตอร์ โหม่งไม่ดีเอาเสีย ไม่ต่างกันกับกองหลัง ที่เปิดพื้นที่จนโดนคู่แข่งโหม่งเข้าไปเป็น 2-0 จากนั้น ทีมเยือน พยายามจะบุกต่อ แต่เจ้าบ้านก็เริ่มจะมั่นใจและเข้าถึงบอลเร็วจนทีมเยือนเล่นลำบาก กระทั่งหลายจังหวะต้องสูญเสียการครองบอลให้ช้างศึกยุทธหัตถี เอาไปเผาเวลาได้หลายจังหวะ ซึ่งกว่าแข้งเทพจะมีโอกาสลุ้นแบบเนื้อๆ เวลาก็ล่วงเลยถึงช่วงท้าย อีกทั้งจังหวะต่างๆก็ไม่เป็นใจ เพราะบอลที่ยิงออกไป ชนเสา ชนคาน และติดเซฟทั้งหมด

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี แนวรุกฉกฉวยโอกาสและแปรเปลี่ยนเป็นประตูได้ดี ทำให้เกมนี้เล่นสบาย ส่วนเกมรับก็ยืนได้ดีแบบไร้ที่ติในครึ่งแรก แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง ก็เริ่มมีรอยรั่ว แต่โชคดีที่ไม่โดนยิงประตู ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด คู่กองหลังต้องรับผิดชอบกับประตูที่เสียทั้ง 2 ลูก ซึ่งการเสียประตูเร็วทั้งในช่วงต้นครึ่งแรกและครึ่งหลัง มันก็มีผลให้สมาธิและสภาพจิตใจถดทอย จนไม่สามารถขึงเกมบุกแบบเบ็ดเสร็จได้ หรือต่อให้มีโอกาส ก็ดันทำได้ไม่ดีพอ ฉะนั้นสำหรับแข้งเทพ ถือว่าเสียหายอย่างยิ่งกับการไร้แต้มในเกมนี้  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“บ๊วยที่เกือบกลืนไม่ลง”

เทโร ข่มมิด แต่ได้แค่เฉือน เชียงใหม่ ช่วงท้ายเกม 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ของฤดูกาล ในส่วนของโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ทำได้แค่บุกไปเจ๊า ประจวบ มา วันนี้จะได้กลับมาเฝ้าบ้านรับทีมบ๊วยอย่าง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ซึ่งวันนี้ต้องพยายามเก็บแต้ม ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ของฤดูกาล ในส่วนของโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ทำได้แค่บุกไปเจ๊า ให้ได้ มิเช่นนั้นจะเหนื่อยในเลกที่ 2 สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ขณะที่ทีมเยือนปรับมาเป็น 4-2-3-1

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น โปลิศ เทโร ค่อยๆต่อบอลและทำเกมบุกไปเรื่อยๆ กระทั่งสามารถโจมตีได้รอบทิศทางและทุกรูปแบบ แต่ความเฉียบคมและการจบสกอร์แบบเหน่งๆมีน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถยิงประตูขึ้นนำได้ ทั้งๆที่องค์ประกอบทุกอย่างเหนือกว่าหมด ขณะที่ เชียงใหม่ การตั้งเกมรับไม่ได้แน่นหนาอะไร อีกทั้งมันควรจะโดนส่องเป็นประตูไปแล้ว แต่ก็เดชะบุญที่รอดตัวมาได้ ส่วนเกมรุกจะมาแบบนานๆทีทางริมเส้น แล้วไม่มีความอันตรายใดๆนัก เพราะขึ้นมาไม่กี่คนและต่อบอลกันไม่กี่จังหวะก็ต้องรีบยิง

ครึ่งหลัง เทโร ยังคงเดินเกมบุกเพื่อหาประตูแรก แต่การเข้าทำยังมีลักษณะเดิม คือ เข้าทำไม่ละเอียด จบสกอร์ไม่ดี ซึ่งการปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป มันก็มีผลให้ทีมเกิดความท้อถอยจนเกมบุกเริ่มจะตื้อ อีกทั้งยังเกิดอาการจำยอมที่จะแบ่งแต้มในเกมนี้แล้ว ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ เกมรับไม่ได้ดี แต่ในเมื่อไม่โดนยิง จึงเลือกที่จะเล่นแนวทางนี้ต่อไปและรอโอกาสสวนกลับเพื่อลุ้นเอา 3 แต้ม กลับบ้าน กระนั้นในช่วงทดเวลา เจ้าบ้านมาได้ประตูนำ 1-0 จากลูกเตะมุมที่จังหวะลงล็อค โดยมันเริ่มจากการโหม่งที่เหมือนจะออก แต่บอลดันไปเข้าเท้า ฮอนนี่ ได้จิ้มเข้าประตูไป

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม โปลิศ เทโร เอฟซี มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เหนือกว่าคู่แข่ง แต่พอเจอคู่แข่งที่อ่อนกว่า ดันอ่อนตามและเล่นไม่ดุดัน ซึ่งมันเกือบเสียหายถึงขั้นเสียแต้ม กระนั้นยังดีที่จังหวะฟุตบอลเป็นใจจนได้ประตูชัยช่วงท้ายเกม ขณะที่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด การพ่ายแพ้เพียงลูกเดียว ถือว่าเป็นความโชคดีแล้ว เพราะคุณภาพเกมรับไม่ได้ดีและพร้อมจะโดนยิงตลอด เพียงแต่ว่าเจ้าถิ่นยังยิงไม่ได้เท่านั้น เช่นกันกับเกมรุก ที่แทบจะไม่มีไอเดียการสวนกลับที่น่ากลัวเลย ฉะนั้นการพักเบรกราว 1 เดือน ช้างเผือกต้องเสริมทัพเป็นการด่วน มิเช่นนั้นตกชั้นแน่นอน 1000% (1 พัน)

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“รวมจุดบกพร่อง”

ในการแข่งขัน AFF SUZUKI cup 2020 ณ ประเทศสิงคโปร์

ศึก AFF SUZUKI CUP 2020 ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีเจ้าเดี่ยว เพราะที่ผ่านมาจะมาจะมีแค่เจ้าภาพรอบแบ่งกลุ่ม หรือสลับกันเล่นแบบปี 2016 ซึ่งการนำระบบเจ้าภาพเดี่ยวมาใช้นั้น มันมีผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้การเดินทางข้ามประเทศไม่สะดวก โดยการรับหน้าสื่อของสิงคโปร์ ถูกคาดหมายว่าจะมีความพร้อมและราบรื่น แต่จากภาพที่ปรากฎตลอด 1 เดือน มันก็ได้เห็นถึงข้อบกพร่องต่างๆ จนควรค่าแก่การนำไปปรับปรุงในโอกาสถัดไป

คุณภาพการถ่ายทอดสด

เรื่องการถ่ายทอดสด มักไม่ค่อยมีความบกพร่อง แต่การแข่งขันในครั้งนี้ ได้ปรากฏให้เห็นถึงการตัดภาพช้าที่ไม่มีความสำคัญใดๆมาฉายซ้ำ อีกทั้งภาพช้าดังกล่าวได้ย้อนหลังไปไกลหลายจังหวะ ไม่เพียงเท่านั้นการจับภาพของกล้องในหลายจังหวะไม่ทันต่อเหตุการณ์ ทำให้ภาพที่ออกมา คือ ลูกฟุตบอลจะตกจากเฟรมของกล้องไป

จนผู้ชมทางบ้านไม่เห็นว่าลูกฟุตบอลไปไหนและจะเห็นเพียงตัวนักฟุตบอลกำลังหวดอะไรอยู่เท่านั้น โดยทั้งหมดนี้ล้วนมีผลให้ผู้บรรยายเกมเกิดความสับสนและไม่สามารถบรรยายให้เป็นไปอย่างราบรื่นได้ ฉะนั้นหากได้รับโอกาสอีก ก็ควรมีการอบรมทีมถ่ายทอดสดให้มีคุณภาพดีกว่านี้

ปริมาณและโภชนาการของอาหารไม่เพียงพอ

เรื่องของอาหาร จะมีความบกพร่องให้เห็นบ่อยๆในอดีต แต่สำหรับในการแข่งขันครั้งนี้ มันมีปัญหาตรงที่เจ้าภาพจัดทำอาหารแล้วไม่ตรงกับวัฒนธรรมการกินของแต่ละทีม อีกทั้งปริมาณที่ให้ก็ไม่เพียงพอ โดยจากภาพที่ออกมา ทีมชาติไทย ต้องไปว่าจ้างร้านอาหารไทยให้เอามาส่งที่แคมป์ ทีมชาติเวียดนาม ที่ออกมาตำหนิเรื่องเมนูและไม่มีเนื้อหมู จนต้องหาร้านอาหารเวียดนามให้มาส่งกับข้าวเพื่อเสริมพลัง ขณะที่ทีมชาติอินโดนีเซีย กล่าวว่าปริมาณอาหารไม่พอ เพราะพวกเขาต้องซ้อมหนักและใช้แรงเยอะ ฉะนั้นหากมีโอกาสในคราวหน้า อาจจะต้องสำรวจความต้องการจากทุกทีม เพื่อจัดสรรคอาหารให้ตรงกับวัฒนธรรมการกินของชาตินั้นๆมากที่สุด

ความบกพร่องและปัญหาในสนามแข่งขัน

การแข่งขันในครั้งนี้ใช้สนาม 2 แห่ง เท่านั้น ซึ่งสนามบินชาง พื้นหญ้าไม่ค่อยมีปัญหา แต่สำหรับสนามใหญ่อย่าง เนชั่นเนล สเตเดี้ยม ต้องตำหนิเล็กน้อย เพราะหญ้าเป็นแบบผสมจริงและเทียม แต่การยังดูแลรักษาไม่ดีและมีหญ้าหลุดทั่วสนาม  

ส่วนอีกเรื่อง คือ การแบ่งฝั่งกองเชียร์ เพราะกฎมีระบุชัดเจนว่าถือพาสสปอร์ตชาติไหน ก็ต้องซื้อตั๋วฝั่งนั้นแต่เจ้าภาพดันปล่อยให้กองเชียร์เวียดนามที่แสดงสัญลักษณ์ชัดเจนมานั่งฝั่งไทย อีกทั้งกฎเกณฑ์และข้อห้าม ก็ไม่เหมือนกัน อาทิ กองเชียร์ไทย ห้ามนำอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเสียงเข้าสนาม  แต่พอเป็นสิงคโปร์ สามารถนำเข้าได้เสียอย่างนั้น ฉะนั้นฝ่ายจัดควรไปตกลงกันก่อน ว่าจะยึดกฎเกณฑ์ไหนกันแน่

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“กระต่ายสะดุดต่อเนื่อง”

บีจี ปทุม บู่ต่อเนื่อง ด้วยการบุกเจ๊า ประจวบ 0-0 หล่นที่ 5 ปิดท้ายเลกแรก

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 คู่ประเดิมของวันอาทิตย์ ณ สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม พีที ประจวบ เอฟซี ที่อยู่ภายใต้การคุมทัพของโค้ชหระ จะต้องพบกับทีมที่ผลงานดรอปลงแบบน่าใจหายอย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านกลับมาเล่น 4-4-2 ตามเดิม ขณะที่ทีมเยือนก็ปรับมาใช้แผนเก่งอย่าง 3-5-2

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ประจวบ กลายเป็นฝ่ายที่ดูดีกว่า เพราะเมื่อไรที่เล่นเร็วได้ ก็จะแทงให้กองหน้าใช้ความเร็ววิ่งสวนกับ 3 กองหลัง ของทีมเยือน ซึ่งเกือบได้ประตู แต่ก็ไม่คม หรือถ้าไม่มีจังหวะก็จะค่อยๆต่อขึ้นไป แต่ก็ไม่สามารถพาไปถึงแดนสุดท้ายได้ นอกจากนี้ยังมีลูกยิงไกลและการชิงเล่นจังหวะ 2 ด้วยเช่นกัน ขณะที่ บีจี ปทุม ช่วงต้นเป็นรองเยอะ แต่พอเกมผ่านไปได้สัก 25 นาที ก็เริ่มจะครองเกมได้มากกว่า แต่บอลไม่ค่อยถึง 2 กองหน้า เพราะมิติการขึ้นบอลมีแค่จากริมเส้น ซึ่งมันปราศจากการแทงหรือออกบอลจากแดนกลาง

ครึ่งหลัง ประจวบ สามารถต่อบอลได้อย่างไหลลื่น แต่ยังไม่มีโอกาสจบสกอร์แบบจะแจ้งเท่านั้น ขณะที่ บีจี ปทุม ส่ง ชาตรี ลงมาเพื่อโยนบอลจากริมเส้นไปให้โขกหน้าประตู ซึ่งมันก็สร้างจังหวะหวาดเสียวเพียงชั่วครู่และหายไป กระนั้นพอเข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าบ้านดันมีรูปเกมที่ดรอปลง กระทั่งกลายเป็นบอลที่จืดสนิท เพราะต่อบอลไม่กี่จังหวะก็เสียและไม่มีฝ่ายไหนที่มีฮึดขึ้นมา สุดท้ายเมื่อจบเกมจึงต้องแบ่งกันคนละแต้ม

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม พีที ประจวบ เอฟซี เลือกที่จะเปลี่ยนจากการเล่นหลัง 3 กลับมาเล่นหลัง 4 เพราะเล็งเห็นถึงความชำนาญและเคยชินของผู้เล่น ซึ่งมันจะมีผลให้การป้องกันเต็มประสิทธิภาพมากกว่า แล้วในเกมนี้มันก็ได้ผล เพราะมันสามารถป้องกันเกมรุกของคู่แข่งได้ดี ยกเว้นช่วงที่ ชาตรี ลงมาใหม่ๆ ส่วนเกมรุกได้เห็นถึงการเล่นแบบรู้จังหวะ ว่าควรช้าหรือเร็ว ซึ่งมันก็ออกมาในทางที่ดี แต่มันขาดการเข้าทำและจบสกอร์ ขณะที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เกมรับยังแน่นหนา แม้จะถูกทดสอบหลายหน ส่วนเกมรุก ถือว่าน่าเป็นห่วงจริงๆ เพราะแต่ดั้งเดิมก็มีมิติการเข้าทำที่ไม่หลากหลาย แล้ววันนี้พอยิงไม่ได้ มันก็กลายเป็นว่าเป็นตัวเองตื้อตันและไม่รู้จะแก้เกมอย่างไร โดยหากในเลกที่ 2 ยังเป็นเช่นนี้ การลุ้นแชมป์จะริบหรี่แน่นอน

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

รวมพลคนฟอร์มตก

ในศึก AFF SUZUKI CUP 2020

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รูดม่านปิดฉากลงไป พร้อมกับความยอดเยี่ยมของทีมชาติไทย ที่คว้าแชมป์สมัยที่ 6 พร้อมกับการกวาดรางวัลต่างๆเกือบหมดโต๊ะ กระนั้นในบรรดา 29 ขุนพลช้างศึกที่ลงสนาม มันก็ปรากฏให้เห็นถึงการเล่นที่ต่ำกว่ามาตรฐานสำหรับบางราย ซึ่งจะเป็นใครบ้าง นับจากนี้เราไปวิเคราะห์พร้อมกัน

ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมณ์

มาโน่ คาดหวังที่จะให้ มิกกี้ ยืนปีก หรือหน้าคู่กับ ธีรศิลป์ เพราะเล่นด้วยกันกับสโมสร ซึ่งในนัดเปิดหัวกับ ติมอร์ เป็นคนยิงเบิกประตูแรกให้ทีมคลายความกดดัน แต่พอหลังจากนั้นเมื่อถูกส่งลงสนาม ก็ไม่โดดเด่นและหายไปจากเกม กระทั่งมักเป็นรายแรกๆที่ถูกเลือกถอดออก หรือส่งลงสนาม  

ศิวกร เตียนตระกูล

ในระบบ 4-3-3 เจ้าเฟ้ย ดูจะเหมาะสมและมีโอกาสเบียดแย่งลงสนามได้ แต่ตลอดทัวร์นาเมนต์นี้ เจ้าตัวได้รับโอกาสน้อย อีกทั้งเมื่อได้โอกาสก็โชว์ฟอร์มไม่โดดเด่น ทำให้ท้ายที่สุดต้องนั่งสำรอง ผิดกับก่อนหน้านี้ที่มักเป็นตัวเลือกให้โค้ชส่งลงไปแล้วโชว์ฟอร์มได้เข้าตา

ทริสตอง โด

ฟอร์มกับสโมสรอยู่ในระดับมาตรฐาน ซึ่งการมีแบ็คขวาที่ดีหลายคน ทำให้ มาโน่ โยกมาเล่นแบ็คซ้าย แต่ก็ไม่โดดเด่น พลางจะโยกกลับมาเล่นตำแหน่งถนัดในฝั่งขวา ก็ดันโชว์ฟอร์มไม่ดีเสียอีก โดยสิ่งที่ทำให้เห็นว่าฟอร์มไม่เข้าตา คือ การเปิดบอลเสียและเพื่อนที่รอบอลเสียโอกาสไปแบบเปล่าประโยชน์ การถอยไปตั้งรับหรือสมาธิในการอ่านจังหวะบอล มีความผิดพลาดจนต้องตัดฟาวล์แบบไม่จำเป็น

ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร

ถูกคาดหวังว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์แจ้งเกิด เพราะจะได้เล่นร่วมกับ ชนาธิป ในแดนกลาง โดยในเกมรอบแรก ฟอร์มอาจจะไม่ดีมาก แต่ยังพอมีลูกยิงไกลที่ดูวูบวาบให้เห็น พอเข้าสู่รอบลึกๆ เจ้ากันหายไปจากเกมและไม่มีความโดดเด่นเมื่อเจอเกมที่ปะทะหนักๆ กระทั่งถูกผู้เล่นรายอื่นๆเบียดแทรกขึ้นมาและเล่นได้โดดเด่นกว่า

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

รวมพลคนฟอร์มดี

AFF SUZUKI CUP 2020 

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รูดม่านปิดฉากลงไป พร้อมกับแชมป์สมัยที่ 6 ของทีมชาติไทย โดยในทัวร์นาเมนต์นี้ มีทั้งตัวเก่งตัวเก๋าอยู่ค่อนทีม พร้อมกับการผสมของตัวหน้าใหม่เข้ามา ซึ่งใครจะเป็นดาวเด่นในการแข่งขันครั้งนี้บ้าง ไปลุ้นพร้อมๆกันด้านล่างนี้

ชนาธิป สรงกระสินธุ์

ในรอบแบ่งกลุ่มยังโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออก อีกทั้งยังมีอาการไข้ผสม จนอดคิดไม่ได้ว่าเป็นเพราะความกดดันที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมหรือเปล่า แต่พอเข้าสู่รอบรองและรอบชิง เมสซี่เจก็โชว์ฟอร์มทั้งชิงทั้งจ่ายจนคว้ารางวัลดาวซัลโวร่วมและผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์

ธีราทร บุญมาทัน

หลังจากบินมาสบทบผ่านการตรวจโควิด-19 โก๋อุ้มก็ลงสนามช่วยทีมทันที ซึ่งลูกเปิดด้านข้างยังฉมังเหมือนเคย ขณะที่รอบรองและรอบชิง เจ้าตัวต้องถอยมาเล่นเกมรับมากขึ้น แล้วสามารถโชว์ให้เห็นถึงความครบเครื่องในการยืนป้องกันเกมรับ

ฟิลิป โรลเลอร์

มาสมทบทีมเป็นรายสุดท้าย อีกทั้งยังถูกมองว่าจะเป็นเพียงอะไหล่สำรอง เพราะ นฤบดินทร์ โชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดี กระนั้นเมื่อโอกาสมาถึง ดาวเตะลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ก็จัดการกระชากลากเลื้อยและเติมเกมแบบขึ้นสุดลงสุดในทุกจังหวะ กระทั่งสร้างความปวดหัวให้กับ มาโน่ กับการเลือกแบ็คขวาลงไปเล่น เพราะตัวที่มีอยู่ต่างเล่นได้ดีทุกคน แต่สำหรับ โรเลอร์ ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าการกระชากลากเลื้อย ทำให้ผู้คนจดจำได้มากกว่า

วีระเทพ ป้อมพันธุ์

ถูกเรียกติดทีมชาติไทยชุดใหญ่เป็นหนแรก ซึ่งหลายคนต่างมองว่าเจ้าเตอร์ คงเป็นเพียงอะไหล่สำรองเท่านั้น กระนั้นพอเจ้าตัวได้รับโอกาสในเกมที่ขาดไปแล้วกับ สิงคโปร์ ดาวเตะจากเมืองทอง ก็ฉายฟอร์มยอดกองกลางออกมา อีกทั้งในเกมกับ อินโดนีเซีย ก็ได้รับโอกาสให้ถอยไปเล่นกองหลัง แล้วดันเล่นได้ดีจนได้รับความไว้วางใจให้ลงไปเล่นแทนกองหลังอาชีพในเกมที่ 2 อีกด้วย

กฤษดา กาแมน

จัดเป็นแข้งแจ้งเกิดเต็มตัวที่สุดในทีมชุดนี้ เพราะก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ไม่ได้เป็นที่จับตามอง กระนั้น มาโน่ ได้จับให้เจ้าและห์ไปเล่นเป็นกองหลัง เพราะมีคุณสมบัติในการอ่านจังหวะบอลที่เด็ดขาด กระทั่งยืนได้ดีกว่ากองหลังอาชีพเสียอีก อีกทั้งยังเชื่อว่าด้วยฟอร์มแบบนี้ จะช่วยให้เจ้าตัวมีลุ้นติดทีมได้แบบยาวๆ เนื่องจากมีฟอร์มที่คงเส้นคงวาและสารพัดประโยชน์  

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover