Categories
Sport

“อเดคนดวงแข็ง”

สุพรรณบุรี ทำช็อก บุกไปเชือด สมุทรปราการ ถึงถิ่น 1-2 หยุดสถิติแพ้ 7 นัดรวด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 14 ในส่วนของโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนาม กกท. บางพลี สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ฟอร์มรูดลงต่อเนื่อง จะต้องพบกับทีมที่ฟอร์มย่ำแย่ยิ่งกว่าอย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี ซึ่งแพ้รวดถึง 7 นัดติด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาเป็น 4-3-3

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น สมุทรปราการ ต่อบอลและเคลื่อนที่ตามสไตล์ อีกทั้งยังได้เห็นการตัดเข้าในของปีกทั้ง 2 ข้าง แต่ยังไม่มีจังหวะจบที่อันตราย กระนั้นระหว่างที่กำลังทำเกมอยู่ แดนกลางและหลังดันยืนตำแหน่งผิด ทำให้บอลแทงทะลุของ สุพรรณบุรี กลายเป็นประตูนำ 0-1 เสียอย่างนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่มีจังหวะบุก หรือต่อให้ครองบอลได้ ก็จะทำได้เพียงเลี้ยงวนเพื่อหลีกหนีการเพรสซิ่ง          

      หลังจากโดนยิงนำไปก่อน สมุทรปราการ พยายามจะเดินหน้าบุกต่อ แต่มันก็เป็นงานที่ยากขึ้น เพราะแนวรับทีมเยือนถอยไปรับแบบเต็มพิกัด ทำให้การใช้ลูกโยนต้องถูกงัดออกมา กระนั้นมันไม่มีทีเด็ดและไม่มีจังหวะอันตราย ตรงกันข้าม สุพรรณบุรี นานๆทีจะได้บอลขึ้นมาบุก ซึ่งการเคาะบอลในแดน 3 แล้วยิงไกลติดไซล์ก้อย ก็ได้กลายเป็นประตูทิ้งห่าง 0-2

ครึ่งหลังเริ่มต้นไปได้ไม่กี่นาที เนโต้ แจกโชคด้วยการจ่ายไปเข้าทาง ซากาอิ ให้ยิงสวนข้ามหัวเข้าประตูเป็น 1-2 ซึ่งในสถานการณ์ตรงนั้น สมุทรปราการ ได้โชคเล็กๆตรงที่ช่องว่างเหลือแค่ลูกเดียว แต่พวกเขาดันกดทีมเยือนไม่อยู่ อีกทั้ง สุพรรณบุรี ยังได้โต้กลับแบบมีความมั่นใจและไม่ตั้งรับแบบเต็มพิกัดเหมือนที่ผ่านมา โดยกว่าที่ลูกทีมของอิชิอิ จะขึงบุกได้ เวลาก็ใกล้จะหมดแล้ว นั่นจึงทำให้เวลาไม่พอที่ยิงตีเสมอ แล้วสุดท้ายต้องพ่ายแพ้ไป  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ เกมรุกยังมีปัญหาในเรื่องของไอเดียการเข้าทำที่ค่อนข้างจำกัด แล้วในขณะเดียวกัน แนวรับดันเสียประตูง่าย อีกทั้งยังมาโดนลูกยิงแบบสุดปัญญาอีก นั่นจึงทำให้สถานการณ์หลังจากนั้นค่อนข้างอึดอัด ซึ่งกว่าจะรวบรวมสติและขึงบุกได้ เวลามันก็ไม่เพียงพอ ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี เกมรับเหมือนจะแน่นหนา แต่มันก็มีความผิดพลาดส่วนบุคคลจนเสียประตู อีกทั้งช่วงท้ายเกมก็มีอาการแกว่งให้เห็น กระนั้นยังดีที่เกมรุกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แล้วมายิงประตูที่ 2 จากระยะไกลได้อีก ฉะนั้น 3 แต้มในวันนี้ ปัจจัยหลักมาจากจังหวะของฟุตบอลที่เข้าข้าง ขณะที่ฝีมือเป็นปัจจัยรอง

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“นอกบ้านไว้ใจกว่าง”

เชียงราย นอกบ้านไว้ใจได้ บุกเฉือน เชียงใหม่ ในล้านนาดาร์บี้แมตช์ 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 14 ของฤดูกาล ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้กำลังรั้งบ๊วยและต้องการแต้ม จะทำดาร์บี้แมตช์ล้านนา กับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ผลงานเกมเยือนดันดีกว่าในบ้าน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนยังเป็น 3-4-3

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เชียงราย ครองบอลได้เหนือกว่าชัดเจน แต่มันก็ตามที่คาด คือ ได้แต่ถ่ายบอลไปมาและไม่มีการแทงบอลจากแนวลึก ทำให้เข้าแดนสุดท้ายไม่ได้และไม่มีจังหวะจบสกอร์ ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ รู้ว่าเป็นรองจึงตั้งรับเพื่อซื้อเวลา เพื่อหวังอย่างน้อย 1 แต้ม ซึ่งมันดูเหมือนจะดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าแนวรุกฝ่ายตรงข้ามไม่มีประสิทธิภาพเองมากกว่า         การขึงเกมบุกของ เชียงราย มีเวลาและโอกาสค่อนข้างเยอะ เพราะแนวรับคู่แข่งไม่ได้บีบกดดันอะไร ทำให้การต่อบอลไหลลื่นขึ้น กระทั่งมีจังหวะจบสกอร์ แต่การยิงเกือบทุกครั้งมันไม่อยู่ในระยะที่อันตรายพอ อีกทั้งการวางเท้ายิงก็ไม่ดี กระนั้นก่อนจบครึ่งแรก กว่างโซ้งมหาภัยมาได้ประตูขึ้นนำ 0-1 จากการโขกลูกเตะมุม ซึ่งมันเป็นการโหม่งที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะมันเป็นการย้อนตัวมาโหม่งเสาแรก แล้วได้ทั้งทิศทางและน้ำหนักจนเสียบสามเหลี่ยมมุมบน

การเสียประตูของ เชียงใหม่ ทำให้ครึ่งหลังต้องพยายามทำเกมบุกเพื่อตีเสมอ ซึ่งพวกเขาพยายามเล่นให้น้อยจังหวะ แล้วแทงหรือโยนไปให้ โบลี่ กับ เดอลูว์ ที่อยู่แดนหน้าอย่างเร็วที่สุด กระนั้นด้วยศักยภาพการต่อบอลที่ด้อยกว่า มันก็มีผลให้พวกเขาต้องเสียบอลกลางทางให้กับทีมเยือนแบบถี่ๆ กระทั่งเวลาผ่านไป เชียงราย กลายเป็นฝ่ายที่มีโอกาสได้ประตูมากกว่า อีกทั้งยังมีพื้นที่และโอกาสจบสกอร์แบบเหน่งๆกว่าครึ่งแรก แต่ดันยิงทิ้งยิงขวางกันไปเอง ทำให้สกอร์ค้างอยู่ที่ 0-1 จนจบเกม  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เลือกวางหมากแรกด้วยการเล่นเกมรับ ซึ่งผลลัพธ์ในครึ่งแรกเหมือนจะดี แต่ก็ถูกเจาะอยู่เนื่องๆจนเสียประตู จากนั้นพอเข้าสู่ครึ่งหลัง สถานการณ์บังคับว่าต้องยิงประตู แต่สุดท้ายด้วยศักยภาพทุกอย่างที่เป็นรอง มันจึงมีผลให้ช้างเผือกไม่สามารถทำอะไรได้ดีไปกว่าการไม่เสียประตูเพิ่มและไม่พ่ายแพ้แบบเละเทะไปมากกว่านี้ ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เกมรุกยังคงเป็นปัญหา ยามต้องขึงบุกใส่ทีมที่มาตั้งรับ ซึ่งการเจอกับทีมที่แนวรับหละหลวมแล้วยังทำอะไรไม่ได้แบบนี้ มันก็สื่อให้เห็นชัดเจนแล้วว่าพวกเขาต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง มิเช่นนั้นเลกที่ 2 จะเหนื่อยหนัก

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“สูสีจัดจนต้องแบ่งแต้ม”

สุพรรณบุรี ฟอร์มดี แต่ราชบุรี ก็ดีไม่แพ้กัน สุดท้ายจบเจ๊าที่ 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 ซึ่งลงเตะกันในวันกลางสัปดาห์ สุพรรณบุรี เอฟซี ได้โอกาสกลับมาเฝ้ารังเหย้าอีกครั้ง รับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ได้พักมากกว่าเล็กน้อย เพราะเจอพายุฝนจนต้องเลื่อนเกม สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3  ส่วนทางด้านทีมเยือนใช้ 4-5-1

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองทีมไม่รู้คำว่ารัดกุมหรือความระมัดระวัง เพราะต่างฝ่ายต่างพาบอล สาดบอล หรือแทงไปข้างหน้า ไม่มีการถ่ายบอลใดๆให้ชักช้าเสียเวลา ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ทำให้ประตูแรกของเกมเกิดอย่างรวดเร็ว เพียง 15 นาทีแรกเท่านั้น โดยจังหวะดังกล่าวเป็น สุพรรณบุรี ที่ได้โต้มาทางริมเส้นและเปิดไม่ดีแล้ว เพราะเพื่อนไม่ถึงบอล แต่จังหวะมันดันพอดีกับ สีหนาท ที่วิ่งมาตรงนั้น อีกทั้งการตะบันเต็มข้อแบบเต็มแรง จึงทำให้บอลเสียบมุมจน กัมพล แทบจะไม่ต้องเซฟ

หลังจากเสียประตูให้เจ้าบ้าน ราชบุรี จำเป็นต้องบุกใส่แบบจริงจังมากขึ้น แต่อุปสรรคที่เพิ่มขึ้นมา คือ คู่แข่งถอยมารับมากขึ้น ทำให้การเจาะยากลำบากขึ้น อีกทั้งตัวเองก็ไม่มีกองกลางที่เก็บและจ่ายบอลดีไปให้แนวรุก ทำให้ราชันมังกร ต้องทำเกมบุกจากการขึ้นทางริมเส้นแล้วเปิด หรือชิงเล่นบอลเก็บตกจังหวะ 2 เพื่อหวังนำบอลไปโต้กลับแบบสายฟ้าฟาด

ในช่วงต้นครึ่งหลัง สุพรรณบุรี มีโอกาสเหน่งๆที่จะบวกเพิ่มเป็น 2-0 แต่พลาดไป ทำให้หลังจากนั้นโมเมนตัมเหวี่ยงมาทาง ราชบุรี แล้วได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการขึ้นทางริมเส้น แล้วค่อยๆตัดเข้ามา ซึ่งจังหวะจ่ายถวายพานเหมือนจะไม่ดี เพราะกำลังจะโดนสกัด แต่แนวรับเจ้าบ้านดันสกัดพลาด ทำให้บอลเลยไปถึงเสา 2 แล้วได้ยิงเข้าไป

หลังจากสกอร์กลับมาเท่ากัน ทั้ง 2 ทีม ต่างไม่พอใจในผลเสมอ เพราะจากรูปเกมที่แลกกันคนละหมัด มันสื่อให้เห็นว่าต่างฝ่ายต่างต้องการ 3 แต้ม แต่จากจังหวะการเข้าทำที่ปรากฏ สุพรรณบุรี มีโอกาสเหน่งๆมากกว่า แต่ดันถูก กัมพล เซฟปฏิเสธทั้งหมด ทำให้จบเกมด้วยการแบ่งกันไปแบบสุดมันส์ระดับ 6 ดาว

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี เล่นได้ดีมากในครึ่งแรก เพราะสามารถยืนป้องกัน ทำเกมสวนกลับและยิงประตูได้ อย่างไรเสียในครึ่งหลัง ความผิดส่วนบุคคลนิดเดียวส่งผลเสียถึงการเสียประตู ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี หลังจากเสียประตูไปก่อน มันก็เริ่มเห็นได้ชัดว่าเกมรุกไม่มีไอเดีย เพราะขาดกองกลางตัวสร้างสรรค์ กระนั้นยังโชคดีที่แนวรับคู่แข่งผิดพลาดให้ แล้วตัวเองสามารถฉวยโอกาสเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ได้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เดือดยันข้างสนาม”

ขอนแก่น เจ๊าเดือด โคราช ในดาร์บี้แมตช์อีสาน 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 6 ลงแข่งขันกันในวันกลางสัปดาห์ โดยในส่วนนี้ขอพาไปดูดาร์บี้แมตช์อีสาน ระหว่าง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก กับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ผลงานในเกมเยือนไม่ค่อยดี  สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 4-2-3-1

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองทีมพยายามเล่นด้วยความระมัดระวัง จากนั้นเมื่อเวลาไปจนเริ่มจับจังหวะของเกมได้ นครราชสีมา เปิดฉากด้วยขึ้นบอลทางริมเส้นแล้วเปิด ซึ่งมันดูเข้าเป้ากับการได้จบสกอร์ แต่นั่นก็มีส่วนมาจากแนวรับของเจ้าบ้านที่ยังจัดระเบียบการป้องกันไม่ค่อยดี

หลังจาก ขอนแก่น ผ่านพ้นมรสุมในเกมรับด้วยการไม่เสียประตู  นั่นจึงทำให้แท็กติกที่วางมาสามารถดำเนินต่อไปได้ กระทั่งการเปิดเกมรุกเริ่มแสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่า แต่ไม่ใช่การขึง หากแต่เป็นการขึ้นบอลและฝากไปให้ เมโล่ พัก เก็บ และเลี้ยงฝ่ายิงเอง โดยอย่างหลังนี้แนวรับของโคราชเอาไม่ค่อยอยู่ จนสุดท้ายโดนแนวรุกชาวบราซิลยิงประตูให้ จงอางผยอง ขึ้นนำ 1-0

ครึ่งหลัง เป็นงานหยาบของ โคราช และโค้ชโจ เพราะต้องเปิดเกมรุกใส่ทีมที่รับลึกแบบสุดใจ กระนั้นจุดเปลี่ยนสำคัญก็มาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการเสียใบแดงของ ขอนแก่น แบบไม่มีความจำเป็นใดๆเลย ทำให้ในช่วงเวลาที่อีกค่อนข้างมาก โคราช จะได้เปรียบกว่าเล็กน้อย โดยการปูพรมบุกใส่แน่นอนว่าสวาทแคท ไม่ชำนาญการขึงและต่อบอลเท้าสู่เท้า แต่การเล่นแบบฉาบฉวยก็ช่วยให้พวกเขามีลุ้นอยู่เนืองๆ กระทั่งการเล่นในลักษณะนี้ช่วยให้พวกเขาตีเสมอ 1-1 ซึ่งการยิงจังหวะแรกถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะถ้าหากจับบอลสักจังหวะ ก็อาจจะไม่มีช่องให้ยิงแล้ว

ช่วงที่ ขอนแก่น เหลือ 10 คน และสกอร์ยังนำอยู่ พวกเขามีโอกาสได้สวนกลับเป็นพักๆ แต่การจับบอลลั่นและสัมผัสแรกที่ไม่ค่อยดี ทำให้ไม่สามารถนำบอลไปโต้กลับแบบสุดทางได้ ส่วนหลังจากโดนตีเสมอ แนวรับจงอางผยอง ออกอาการรวนจนเกือบโดนยิงแซง กระนั้นยังโชคดีที่บอลไปชนเสาชนคาน ทำให้จบเกมด้วยการแบ่งแต้ม 

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด มีปัญหาในเกมรับตรงที่ไม่สามารถเล่นให้ดีตลอดรอดฝั่งได้  โดยในช่วงต้นเกมกับท้ายเกม ออกอาการแกว่งชัดเจน ส่วนในแผงเกมรุกมีเพียงการฝากบอลไปให้กับกองหน้า  อีกทั้งเกมสวนกลับก็ยังไม่ใช่อาวุธเด็ด ทำให้นับจากนี้คงต้องลุ้นเหนื่อยไปอีกสักพัก ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ฟอร์มการเล่นยังคงมาตรฐานเดิม กล่าวคือ เกมรับมักมีข้อผิดพลาดเสมอยามเจอแนวรุกที่ความสามารถเฉพาะตัวจัด ส่วนเกมรุก มิติการเข้าทำยังไม่มีความหลากหลายที่ต่างไปจากเดิม อย่างไรเสียวันนี้ตัวต่างชาติยังมีทักษะที่ล้นเหลือพอจะยิงประตูตีเสมอ เพื่อเอาแต้มกลับบ้าน

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ขอโป้งเดียว ก็เพียงพอ”

หนองบัว ใช้โอกาสไม่เปลื้อง เฉือน เทโร 1-0 เก็บชัยนัดที่ 2 ในบ้าน

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 5 คู่สุดท้ายของวันเสาร์ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ชนะตั้งแต่นัดแรก แล้วก็ยังไม่ชนะใครอีกเลย ต้องเปิดบ้านรับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ย่ำแย่กว่าตรงที่ 4 นัดแรก ไม่ชนะใครเลย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 5-3-2 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 4-3-3

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ทีม ต่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เสียเชิงไปก่อน กระทั่งเกมผ่านไปราว 10 นาที เทโร เริ่มพาบอลมาป่วนหน้าบ้านของคู่แข่งได้ แต่ด้วยตัวรุกที่ขึ้นมาไม่กี่คน แล้วต้องเจอแนวรับที่ยืนขวางอยู่เกินครึ่งทีม ทำให้แนวรุกของมังกรโล่ต้องใช้การเลี้ยงฝ่าและเลี้ยงกินตัว ซึ่งมันก็ช่วยให้มีโอกาสในการจบสกอร์และใกล้เคียงกับประตูขึ้นนำ แต่ นัฐพงษ์ ยังป้องกันไว้ได้แบบวุดหวิด

หนองบัว เล่นมา 20 กว่านาที แทบจะไม่จังหวะได้จบ แต่โอกาสครั้งแรกที่ได้เปิดจากริมเส้นแล้วโหม่ง ก็ได้กลายเป็นประตูขึ้น 1-0 ทันที ซึ่งในจังหวะนี้โหม่งดี แต่คู่แนวรับ เทโร ก็แบ่งหน้าที่กันผิดพลาด รวมถึงผู้รักษาประตูที่ออกมาแบบไม่ค่อยสุด ทำให้หลังจากนี้จนจบครึ่งแรก เทโร ต้องโหมเกมบุกเป็น 2 เท่า แต่กระนั้นก็ต้องพบกับงานที่ยากลำบาก เพราะคู่แข่งถอยไปรับลึกมากกว่าเดิม ทำให้การเลี้ยงฝ่าเริ่มตีบตันจนโดนโต้กลับ กระทั่งเกือบเสียประตูเพิ่ม หรือหลายครั้งต้องเลือกตัดเกมด้วยการทำฟาวล์

ครึ่งหลัง เทโร พยายามปรับวิธีการบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่ด้วยข้อจำกัดตรงที่ตัวเองไม่โดดเด่นเรื่องการต่อบอลและขึงบุก ทำให้ต้องใช้ท่าไม้ตายแบบสิ้นคิด นั่นคือ การโยนเข้าไปลุ้น แต่มันก็เท่านั้น เพราะมังกรโล่เงินไม่มีศูนย์หน้าประเภทเข้าฮอตหรือเจ้าเวหา ส่วนทางฝั่งหนองบัว เน้นการเล่นเกมรับเป็นสำคัญ เพราะเมื่อไรที่ตัดบอลได้ ก็จะต่อเร็ว ทำเร็ว และจบเร็ว ซึ่งจากภาพที่ปรากฏมันเป็นผลเสียมากกว่า เพราะการรีบเร่งจบสกอร์ในระยะที่ไม่เหมาะสม มันไม่สามารถสร้างจังหวะให้อันตรายได้มากพอ ทำให้เมื่อครบ 90 นาที เจ้าบ้านเฉือนไป 1-0

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม หนองบัว พิชญ เอฟซี ตั้งธงแรกไว้ด้วยการขอมีแต้ม เพราะแนวทางการเล่นเน้นไม่เสียประตู กระทั่งเมื่อได้ประตูที่ต้องการ ก็จัดการเล่นแบบรัดกุมเพื่อรักษาสกอร์ ซึ่งก็ต้องชมเกมรับที่ยืนกันได้ดี แม้จะมีหลุดไปบ้างช่วงต้น  กระนั้นทีมที่เจอวันนี้เป็นทีมศีลเสมอกัน ทำให้ไม่หนักจนเกินไปในการรับมือ ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร เอฟซี มีโอกาสแล้วทำไม่ได้ แถมยังมาโดนยิงนำไปก่อน ทำให้กลายเป็นงานหยาบในการทวงประตูคืนจากทีมที่เล่นเกมรับเหนียวแน่น สุดท้ายเมื่อเจาะไม่ได้ ก็ต้องพ่ายแพ้ไป

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เม็ดเดียวก็เพียงพอ”

ท่าเรือ เปิดรีงเชือด เมืองทอง แบบมีเสียว 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 5 ในส่วนของค่ำคืนวันเสาร์ มีเกมบิ๊กแมตช์ที่สนามแพท สเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซี ที่ออกไปพ่ายสุพรรณบุรีมาแบบเจ็บช้ำ จะเปิดบ้านล้างตาความแค้นกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เก็บ 3 แต้มมาแบบลุ้นระทึก สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-3-1 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้แผน 4-1-4-1 เหมือนเดิม

ก่อนเกมและระหว่างเกมมีฝนตกสะสมลงมาหลายวัน ทำให้สภาพพื้นสนามเปียกแฉะจนมีผลต่อทิศทางและการไหลของลูกฟุตบอล

ครึ่งแรก

โดยเมื่อเกมเริ่มขึ้น เมืองทอง สามารถโหมบุกจนมีโอกาสได้จบ แต่เมื่อเกมผ่านไป 5 นาที การท่าเรือ สามารถตัดบอลเอาไปโต้กลับได้อยู่เนืองๆ กระทั่งได้ประตูนำ 1-0 จากการโต้กลับ แล้วผู้รักษาประตูอย่าง สมพร ยศ ดันรับหลุดมือจนได้ยิงง่ายๆ หลังจากนั้น เมืองทอง พยายามจะทำเกมบุกต่อ แต่จนถึงบัดนี้มันก็เริ่มเห็นได้ชัดว่าสภาพสนามมีผลให้การต่อบอลบนพื้นช้าลง อีกด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว จึงทำให้การพาบอลเข้าไปในแดน 3-4 มีน้อยมาก

ครึ่งหลัง

เมืองทอง ปรับตำแหน่งการยืน การให้บอล จนสามารถต่อบอลและโจมตีที่ว่างของเจ้าบ้านได้อย่างน้ำได้เนื้อ ขาดเพียงประตูที่บอลดันไปชนเสาและคายเสียหมด แต่อย่างไรเสียเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ แนวรับของการท่าเรือ ที่โดนเจาะจนแกว่งก็เริ่มนิ่งขึ้นจนสามารถหยุดการบุกของ กิเลนผยองได้ กระทั่งจบเกมด้วยสกอร์ 1-0 ตามเดิม

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี เริ่มต้นเกมด้วยสถานการณ์ที่เป็นรอง แต่โชคดีที่คู่แข่งมีความผิดพลาด แล้วตัวเองสามารถลงโทษได้สำเร็จ กระนั้นหากมองแบบองค์รวม เกมรับก็ยังมีอาการแกว่งในบางช่วงของเกม ซึ่งก็โชคดีชั้น 2 ที่ไม่โดนยิงคืน ขณะที่เกมรุกก็เป็นอีกครั้งที่ไม่สามารถขึงคู่แข่งให้อยู่หมัดได้ ฉะนั้นการคว้า 3 แต้มในวันนี้ โค้ชโอ่งยังมีการบ้านที่แก้ไม่ตกรออยู่ ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ยูไนเต็ด วันนี้เหมือนจะออกสตาร์ทได้ดี แต่เมื่อยิ่งเล่นยิ่งมีความผิดพลาดกับการเสียบอลให้คู่แข่งได้โต้กลับ อีกทั้งยังมาโดนยิงประตูนำ อย่างไรเสียในครึ่งหลัง โค้ชโอ้สามารถแก้เกมจนดูเหนือกว่าและควรได้ประตูตีเสมอ แต่พอบุกหนักๆแล้วไม่ได้ ก็เริ่มออกอาการแผ่วจนจบเกม

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover