ลำปาง คนละชั้น โดน บียู ถล่มคาบ้าน 0-5

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามห้วยม้า ลำปาง เอฟซี ที่เปิดหัว 2 นัดเก็บ 4 แต้ม จะต้องพบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ออกสตาร์ท 2 นัด เก็บ 6 คะแนนเต็ม สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนยึดระบบ 4-2-3-1 เป็นแผนหลักในฤดูกาลนี้

        การแข่งขันเริ่มต้นมาได้ 5 นาที ทรู แบงค็อก ขึ้นนำ 0-1 จากจังหวะจ่ายแทงแล้วทะลุให้ มาห์มูด หลุดเดี่ยว ก่อนจะแตะหลบผู้รักษาประตูและยิงเข้าไป จากนั้น 4 นาทีให้หลัง แข้งเทพมาได้ประตูทิ้งห่าง 0-2  นั่นจึงทำให้ ลำปาง พยายามจะต่อเก็บบอลมาครองให้ต่อเนื่อง แล้วค่อยๆทำสร้างจังหวะบุกขึ้นไป แต่ในความจริง พวกเขาเสียบอลง่ายๆตลอด อีกทั้งแนวรับอย่าง บรินเนอร์ กับ วุฒิชัย ก็ค่อนข้างเชื่องช้าและไม่ทันต่อความเร็วของแนวรุกคู่แข่ง กระนั้นยังโชคดีที่ไม่โดนยิงประตูที่ 3

ครึ่งหลัง ลำปาง พยายามจะออกมาสู้เพื่อยิงประตูให้เห็นที่สุด แต่การเสียบอลง่ายๆแล้วแนวรับเชื่องช้าเช่นเดิม มันก็เป็นผลให้ วานเดอร์ หลุยส์ วิ่งแซงแนวรับและยิงเป็น 0-3 ให้ บียู ขณะที่ประตู 0-4 เป็นความผิดพลาดของแนวรับเจ้าบ้านที่สื่อสารกันไม่ดี ทำให้บอลที่โหม่งกระดอนแบบไม่รุนแรง ไหลเข้าประตูไป ส่วนประตู 0-5 ปิดท้าย เป็นการเลี้ยงตัดและยิงไปที่เสาไกล  

        บทสรุปจากเกม ลำปาง เอฟซี ศักยภาพเป็นรองค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว ฉะนั้นโจทย์แรกของเกมนี้ คือ รับให้เหนียวแน่นและยื้อให้นานที่สุดเพื่อไม่ให้เสียประตู แต่พอเริ่มเกมไปได้ 10 นาที พวกเขาโดนยิงถึง 2 ลูก ทำให้การกลับสู่เกมยากลำบาก อีกทั้งความเชื่องช้าของคู่แนวรับ ถือเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ทีมเสียประตูอย่างมากมายในวันนี้ เช่นเดียวกับการขึ้นบอลที่เสียง่ายๆตลอดเวลา สุดท้ายตัวผู้เล่นต้องเสียเวลาและพลังงานในการถอยมาตั้งรับ กระทั่งเกมรุกแทบไม่มีโอกาสได้พาบอลเข้ากรอบเขตโทษเลย ส่วนทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ก่อนเกมที่กังวลว่าจะเจาะแนวรับเจ้าบ้านได้ มันก็ได้มลายหายไปในทันที อีกทั้งน่าจะเป็นเกมที่ง่ายและได้ 3 แต้ม แบบสบายๆมากที่สุดนัดหนึ่งเลยทีเดียว เพราะด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าและไม่ทิ้งขว้างโอกาส ทำให้ได้ประตูนำเร็วและเล่นสบาย จากนั้นอีก 80 นาที ก็ยังเบาเกมและรอดักจังหวะที่เจ้าบ้านจ่ายบอลพลาด กระทั่งยิงเพิ่มได้อีก 3 เป็น 5 ประตู

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

เกมรีโว่ไทยลีก นัดที่ 10 (วันอาทิตย์) 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก แมตช์การแข่งขัน นัดที่ 10 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ มีเกมลงสนามทั้งหมด 4 คู่ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นทีมใหญ่ที่ต้องการ 3 แต้ม โดยคู่เปิดหัวเป็นการพบกันของทีมเล็กเจอทีมใหญ่ ก่อนจะต่อด้วยเกมชี้ชะตาของกุนซือเจ้าบ้าน จากนั้นจะเป็นเกมรองคู่เอกของทีมเสื้อส้มปะทะน้ำเงิน และปิดท้ายสัปดาห์นี้ด้วยบิ๊กแมตช์เมืองปทุมธานี โดยจากโปรแกรมทั้งหมดนี้ ผลการแข่งขันที่คาดจะออกไปในทางไหน นับจากนี้เราจะไปวิเคราะห์กัน

สุโขทัย เอฟซี พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (17.30 น.)

     การเก็บ 1 กับ 3 แต้ม สลับกันไปในช่วงหลังของ สุโขทัย มันได้ช่วยชุบชีวิตให้พวกเขากระโดดขึ้นมาอยู่กลางตาราง พร้อมกับหายใจได้สะดวกคอ ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ หลุดเสมอมาหลายนัด ก่อนจะมาปลดล็อคในเกมเปิดบ้านเจอลำปาง ซึ่งดูเป็นง่ายไม่ยาก แต่ก็เกือบเอาตัวไม่รอด ฉะนั้นการบุกถิ่นค้างคาวไฟ สุโขทัยไม่น่าแพ้อย่างแน่นอน

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี (18.00 น.)

       เมืองทอง กำลังเผชิญต่อสถานการณ์ที่หน้าสิ่วหน้าขวานแบบสุดๆ เพราะเปิดฤดูกาลมาแล้ว 9 นัด ชนะนัดเดียว อีกทั้งหลังจากโดน ชลบุรี ยำคาบ้าน พวกเขาก็เป๋ยาวต่อเนื่อง กระทั่งเก้าอี้ของโค้ชมาริโอ้ กำลังลุกเป็นไฟ พร้อมกับมีความเป็นได้ว่าถ้านัดนี้ยังไม่ดีขึ้น กุนซือลูกหม้อคนนี้ก็พร้อมจะลาออกจากตำแหน่ง ส่วนทางฝั่ง พีที ประจวบ ผลงานขึ้นๆลงๆ แต่สถานการณ์ไม่ตึงเครียดกับการอยู่โซนกลางตาราง ฉะนั้นเกมที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ ต่อพิฆาตไม่แพ้ในการบุกมาเยือน 

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ ชลบุรี เอฟซี (18.00 น.)

     ผลงานของ ราชบุรี ถือว่าดูดีกว่าปีที่แล้ว แต่ถ้าจะขึ้นไปเกาะกลุ่มผู้นำ พวกเขาอาจจะแกร่งไม่พอสำหรับการยืนระยะ เพราะตลอดทางที่ผ่านมา 9 นัด แมตช์การแข่งขัน ของราชันมังกรไม่หนัก แต่พวกเขาดันทำแต้มหลุดกับทีมเล็ก ส่วนทางฝั่ง ชลบุรี ผลงานดีจนขึ้นไปรั้งจ่าฝูง แต่จากเกมที่ผ่านมา ดันพ่ายคาบ้านแก่ บียู พร้อมกับเสียบัลลังก์จ่าฝูง กระนั้นการบุกไปเยือนทีมเมืองโอ่ง ถ้าฉลามชลอยู่ในฟอร์มมาตรฐาน พวกเขาจะไม่แพ้ในเกมนี้อย่างแน่นอน

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (19.00 น.) 

     ผลงานของ ทรู แบงค็อก ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อยู่ แต่การหลุดเสมอ 2 เกม ทำให้อันดับในตารางยังไปไม่ถึงจ่าฝูง ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม เกมในบ้านดีเยี่ยม ตรงข้ามกับเกมเยือนที่แต้มหล่นกระจาย ฉะนั้นในเมื่อสถิติของกระต่ายแก้วไม่ค่อยดี มันก็เป็นโอกาสของแข้งเทพที่จะขย่ม พร้อมกับการฟันธงว่าพวกเขาจะไม่แพ้ในถิ่นของตัวเอง

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีวิวก่อนเกมรีโว่ไทยลีก (วันศุกร์-เสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก แมตซ์การแข่งขัน นัดที่ 10 ลงเตะกันพร้อมหน้าเช่นเคย โดยในคู่เปิดหัววันศุกร์ เป็นเกมที่เจ้าบ้านต้องการ 3 แต้ม ส่วนในวันเสาร์ 3 คู่ ล้วนเป็นเกมของทีมหนีตาย ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาต่างต้องการแต้ม มิเช่นนั้นสถานการณ์จะย่ำแย่ไปมากกว่านี้ สุดท้ายนี้ใครจะมีโอกาสได้แต้มเข้ากระเป๋ากันบ้าง นับจากนี้เราจะไปวิเคราะห์กัน

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (วันศุกร์, 19.00 น.)

     การออกไปเล่นนอกบ้านของ ลีโอ เชียงราย ในซีซั่นนี้ พวกเขาทำแต้มหล่นกระจาย ไม่ว่าทีมนั้นจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ทำให้อันดับในตารางไม่สามารถขึ้นไปเกาะกลุ่มผู้นำได้ ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา เกมล่าสุดเกือบเอาตัวไม่รอด เพราะต้องเหลือตัวผผู้เล่น 10 คน ตั้งแต่ 21 นาทีแรก แถมโดนยิงนำไปก่อน แต่สุดท้ายพวกเขายิงตีเสมอ สุโขทัย  และแบ่งแต้มในบ้านได้ สำหรับสถิติการพบกันของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมีความเหนือกว่าทุกครั้ง แต่มักออกผลเสมอเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นเกมนัดนี้คาดว่าเจ้าบ้านยังไม่แพ้ ขณะที่โอกาสเบียดชนะผู้มาเยือนพอมีบ้างเล็กๆ   

หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ ลำพูน วอริเออร์ (วันเสาร์, 18.00 น.)

     จากหลังเก็บชัยนัดแรกได้สำเร็จ หนองบัว ก็กลับสู่ฟอร์มเดิมด้วยการพ่ายแพ้ บุรีรัมย์  ทำให้สถานการณ์ยังอยู่ในโซนสีแดงเช่นเดิม ไม่ต่างกับ ลำพูน ที่ผ่านไปแล้ว 9 นัด ยังไม่ชนะใคร ทำให้นอนจมบ๊วยด้านล่างสุดของตาราง ฉะนั้นเกมนัดนี้จัดว่าสำคัญยิ่งต่อทั้ง 2 ทีม เพราะหากใครพ่ายแพ้ มันจะส่งผลต่อความมั่นใจอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วยังมองว่าพญาไก่ชนจะไม่แพ้

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 18.30 น.)

     แมตซ์การแข่งขัน ขอนแก่น กำลังเผชิญต่อผลงานที่ดำดิ่งสุดกู่ เพราะ 3 นัดหลังสุด นอกจากจะแพ้รวดแล้ว พวกเขายังยิงใครไม่ได้เลยสักประตู ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่วิกฤตอย่างยิ่งของจงอางผยอง ต่างจากบุรีรัมย์ ที่สามารถยึดตำแหน่งจ่าฝูงกลับมาได้แล้ว ทำให้เกมนี้มองว่าปราสาทสายฟ้าจะสานต่อผลงานที่ดีด้วยการเก็บ 3 แต้ม สำหรับการออกไปเยือนในครั้งนี้

ลำปาง เอฟซี พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี (วันเสาร์, 19.00 น.)

การออกไปเยือนของแมตซ์การแข่งขัน ลำปาง ถือว่าสม่ำเสมอตรงที่แพ้รวด หลังจากทำได้ดีที่สุด คือ การบุกเจ๊าเมืองทอง 2-2 ทำให้สถานการณ์ตอนนี้อยู่เหนือโซนแดงด้วยการมีแต้มมากกว่า 2 คะแนน ส่วนทางฝั่งโปลิศ เทโร การเก็บ 6 แต้ม จาก 3 เกมหลัง ทำให้สถานการณ์ดูปลอดโปร่งมากขึ้นเป็นกอง แล้วต้องจุดนี้อาจมีผลให้พวกเขาบุกโค่นหรือแบ่งแต้มจากรถม้ามรกตได้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีวิวก่อนเกมรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 คู่วันอาทิตย์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 ในส่วนของวันอาทิตย์ มีเกมที่ทีมใหญ่ต้องการแต้มและทีมเล็กน้อยการปลดล็อค อีกทั้งยังมีเกมระดับบิ๊กแมตช์ให้ได้ชม ซึ่งความพร้อมของแต่ละทีมจะเป็นอย่างไร แล้วใครมีโอกาสจะคว้าชัยชนะบ้าง นับจากนี้ แมตช์การแข่งขัน เราจะได้ทราบกัน

ราชบุรี เอฟซี พบกับ ลำปาง เอฟซี (17.30 น.)

       ราชบุรี ที่ผลงานกำลังไฉไลอยู่ดีๆ ดันหลุดเสมอและถูกเลื่อนเกมเพราะฝนตกหนัก ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ต้องรวบรวมสมาธิให้ดี เพื่อไม่ให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้นอีก ส่วนทางฝั่งลำปาง ถือว่าหนักหนาสาหัสและอาจจะเข้าสู่วิกฤตในไม่ช้านี้ เพราะด้วยตัวผู้เล่นที่เป็นรองทีมอื่นค่อนข้างมาก ทำให้การเปิดเกมบุกใส่คู่แข่งเป็นเรื่องยาก และมันก็ไม่แปลกที่พวกเขาจะไม่ชนะใครมา 5 เกมติดแล้ว ฉะนั้นการเข้าถ้ำมังกรในครั้งนี้ ราชันมังกรน่าจะเช็คบิลได้แบบไม่ไม่ระคายคอ

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (18.00 น.)

       การท่าเรือ พยายามจะแสดงถึงความเป็นเจ้าบุญทุ่ม สุดท้ายผลงานก็อยู่ในวังวนเดิมๆเหมือนที่เคยเป็นมา ทำให้อันดับหัวตารางยังไม่สามารถมองได้ ส่วนทางฝั่งแบงค็อก ผลงานร้อนแรงยามเปิดซีซั่น แต่สุดท้ายก็ต้องตามต่อยาวๆว่าจะเหมือนเดิมหรือเปล่า เมื่อผ่านไปแล้วครึ่งเลก สำหรับการพบกันของทั้ง 2 ทีม สิงห์เจ้าท่ามีผลงานในบ้านที่ดีตรงที่ยิงเยอะ แต่ก็มักเสียประตูเป็นเศษติ่งแบบง่ายๆเหมือนกัน ทำให้มองเกมนี้ว่าแข้งเทพจะไม่แพ้ และจากนี้ลุ้นแค่จะได้ 1 หรือ 3 แต้มเท่านั้น

ชลบุรี เอฟซี พบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี (18.00 น.)

       ชลบุรี มีผลงานที่ร้อนแบบเกินห้ามใจ เพราะอย่างนัดล่าสุดก็จัดการถล่มเมืองทอง แบบถึงบ้านที่สกอร์ 1-5 ทำให้ตอนนี้ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของตารางแล้ว ส่วนหนองบัว การไม่มีกองหน้าที่ไว้ใจได้ ก็มันก็เป็นผลให้จำนวนประตูลดลงและกระทบต่อแต้มที่หล่นหายไปเยอะ ทำให้การพบกันของทั้ง 2 ทีมฉลามชลจะงับไก่ชนแบบไม่เหลือซาก

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ พีที ประจวบ เอฟซี (19.00 น.)

       การพบกันของทั้ง 2 ทีม เมื่อฤดูกาลก่อน จัดเป็นแมตช์พลิกนรกของ พีที ประจวบ ที่บุกมาคว้าชัยชนะแบบหน้าตาเฉย แต่สำหรับวันนี้อาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะบุรีรัมย์ ในเวอร์ชั่นของอิชิอิ มีความเขี้ยวลากดินมากกว่าเดิม ส่วนทางฝั่งโค้ชโจ ที่คุม ประจวบ ในตอนนี้ รูปแบบของทีมดี แต่มันยังไม่ถึงขั้นแข็งแกร่งและแพ้ยาก ฉะนั้นการพบกันของทั้ง 2  ทีม ปราสาทสายฟ้าน่าจะถอนแค้นจากปีที่แล้วได้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีวิวก่อนเกมรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 คู่วันเสาร์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 กลับมาลงฟาดแข้งกันอีกครั้ง หลังจากหลีกทางให้กับโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ ซึ่งจบลงด้วยความล้มเหลวของทีมชาติไทย ในถ้วยคิงคัพ ส่วนโปรแกรมไทยลีกในวันเสาร์นี้ มีทั้ง 4 คู่ โดยความพร้อมและผลที่คาดจะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราจะมารีวิวกัน

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด (18.00 น.)

      การลงเล่นในบ้านของโคราช เหมือนจะมีฟอร์มที่ดี แต่จากผลงานที่ผ่านมามักไม่เป็นดั่งที่หวัง อาทิ เกมล่าสุดที่คิดว่านอนมา แต่สุดท้ายได้แค่เสมอ ลำพูน เสียอย่างนั้น ส่วนทางฝั่งทีมเยือนอย่าง ขอนแก่น ผลงานยังลุ่มๆดอนๆและอยู่ในอาการไม่สู้ดีนัก ซึ่งอาการฟอร์มตกของกองหน้าถือเป็นปัจจัยสำคัญให้ทีมยิงน้อยและเก็บแต้มยาก ฉะนั้นในดาร์บี้แมตช์อีสานครั้งนี้ สวาทแคทดูดีกว่าและน่าจะเฉือนได้  

โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ ลำพูน วอริเออร์ (18.30 น.)

      เทโร เป็นทีมที่แข่งน้อยกว่าคนอื่น 2 นัด เพราะโปรแกรมถูกเลื่อนและถูกพายุฝนเล่นงาน จนต้องไปเล่นเกมนัดตกค้าง มิหนำซ้ำผลงานตลอด 4 นัด ก็เข้าขั้นย่ำแย่ เพราะเก็บมาได้แค่แต้มเดียว ไม่ต่างจาก ลำพูน ที่ผ่านไปแล้วหลายนัด ก็ยังไม่สามารถคว้าชัยชนะนัดแรกได้ ทำให้การพบกันของทั้ง 2 ทีม ถือเป็นการเดิมพันที่สูงมาก แต่สุดท้ายแล้วมังกรโล่เงินน่าจะไม่แพ้ในถิ่น

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ สุโขทัย เอฟซี (19.00 น.)

      ผลงานในบ้านของเชียงราย ถือว่าสวยหรูกับการคว้า 3 แต้ม แต่เมื่อออกไปเล่นนอกบ้านกลับทำแต้มหล่น ส่วนทางฝั่งสุโขทัย การบุกไปคว้า 3 แต้มเหนือลำปาง ช่วยให้ความกดดันคลี่คลายไปได้พอสมควร กระนั้นการบุกไปเยือน ลีโอ เชียงราย สเตเดี้ยม กว่างโซ้งมหาภัยน่าจะจัดการผู้มาเยือนได้แบบไม่ยากเย็น  

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด (19.30 น.)

      บีจี ปทุม ยิ่งเล่นยิ่งแสดงอาการล้าให้เห็น ซึ่งก็ไม่ทราบว่าการพักเบรคให้ทีมชาติจะช่วยเพิ่มความสดชื่นแก่นักเตะได้หรือไม่ ส่วนทางฝั่งเมืองทอง การออกสตาร์ทไม่ดีเท่าไร แถมนัดล่าสุดโดนชลบุรี ถล่มคาถิ่นแบบช็อกทุกสายตา อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่าโค้ชโอ้ จะถูกพิจารณาในอีก 3 นัดข้างหน้า ถ้าผลงานยังไม่ดีขึ้น อย่างไรเสียหากเทียบฟอร์มของทั้ง 2 ทีม และสถิติการเล่นในบ้านของเจ้าถิ่น กระต่ายแก้วของเทกุซังน่าหาหนทางเอาชนะได้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ประจวบโค้ชโจ สุดห้าว อัด สุโขทัย ถึงถิ่น 0-3 ประเดิมซีซั่นใหม่

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดเปิดฤดูกาล 2022/23 ณ สนามทุ่งทะเลหลวง สุโขทัย เอฟซี ที่จบรองแชมป์ไทยลีก 2 ทำให้เลื่อนชั้นกลับมาสู่ลีกสูงภายในปีเดียว จะต้องพบกับ พีที ประจวบ ที่รอดตายจากเมื่อฤดูกาลที่แล้วแบบฉิวเฉียด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-2-4-1 ส่วนทีมเยือนวาง 3-4-3

      เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น สุโขทัย บิวอัพบอลจากหลังขึ้นมาได้ดี แต่เมื่อมาถึงแดน 3 ของคู่แข่ง พวกเขาจบสกอร์ได้ไม่ดี กระทั่งต้องใช้การโยนหรือส่องไกล แต่ก็ไม่มีความแม่นยำ นอกจากนี้ระหว่างที่พวกเขาบุกเพลินๆ เกมรับก็มีช่องโห่วเมื่อทีมเยือนสวนกลับ ทำให้ในนาทีที่ 31 พีที ประจวบ ที่มาเน้นตั้งรับให้แน่นหนาและโต้กลับ มาได้ประตูนำ 0-1 จาก โรซ่า ซึ่งในจังหวะนี้แนวรับเจ้าบ้านผิดพลาดที่ปล่อยให้ตัวไกลอย่าง โรซ่า เข้าถึงบอลแบบไม่มีการเข้าไปขัดขวาง   

ครึ่งหลัง ประจวบ ยังเน้นเกมรับให้เหนียวแน่นแบบเดิม แต่พอเจอบอลวางข้ามไลน์กองหลัง ก็เริ่มจะดักล้ำหน้าพลาดและเปิดโอกาสให้เจ้าบ้านได้ลุ้นประตู แต่เป็นสุโขทัย เสียเองที่ยิงไม่คม ซึ่งพอมีโอกาสแล้วทำไม่ได้ พวกเขาดันมาเสียจุดโทษจากความผิดพลาดส่วนบุคคลของ เรียวเฮ ที่พยายามจะสกัดบอลแต่โดนขาคู่แข่งเต็ม ทำให้กลายเป็นจุดโทษและ โรซ่า ลุกขึ้นมาสังหารให้ทิ้งห่างออกไปเป็น 0-2 จากนั้นค้างคาวไฟพยายามจะเดินเกมรุก แต่ท้ายเกมมาเสียบอลกลางทาง แล้วถูกลากไปยิงปิดกล่องเป็น 0-3   

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุโขทัย เอฟซี เริ่มเกมได้ดี แต่มีปัญหาติดขัดตรงเข้าพื้นที่แดน 3-4 ได้ กระนั้นเกมรับเล่นไม่ละเอียดพอ ทำให้การเสียประตูก่อนกลายเป็นจุดเปลี่ยน อย่างไรเสียพอลงมาเล่นครึ่งหลัง พวกเขาปรับรูปแบบการเข้าทำและรูปเกมดูดีขึ้น แต่ก็มิวายมาเสียประตูเพิ่ม ทำให้เกมแทบจะจบลงทันที ฉะนั้นโดยสรุปแล้วพวกเขามีช่วงเวลาที่เล่นดี แต่ต้องลดความผิดพลาดให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ขณะที่ พีที ประจวบ แผนแรกคือแพ็คเกมรับให้เหนียวแน่นและรอโต้กลับ ซึ่งพวกเขาทำได้อย่างแรก คือ ไม่เสียประตู จากนั้นเมื่อมีโอกาสพวกเขาคว้าไว้ได้ ทำให้นับตั้งแต่ได้ประตูนำ ต่อพิฆาตเล่นสบาย อย่างไรก็ดีเกมรับต้องระวังลูกวางข้ามหลังไลน์ เพราะช่วงต้นครึ่งมีอาการรวนเล็กน้อยให้เห็นเหมือนกัน

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover   

บุรีรัมย์ โดนไว แต่ฮึดแซง โคราช หึดจับ 1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2022/23 นัดเปิดฤดูกาล ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่รอดตกชั้นมาแบบหวุดหวิดเมื่อซีซั่นก่อน จะต้องทำดาร์บี้แมตช์อีสานใต้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เป็นแชมป์เมื่อปีล่าสุด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านและทีมเยือนต่างมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน

เกมเริ่มไปได้ไม่กี่นาที นครราชสีมา ขึ้นนำ 1-0 จากการเปิดบอลที่เหมือนจะเสียแล้ว แต่ ชูลาก้า ดันโหม่งไม่ดี และ นฤบดินทร์ เตะสกัดไม่ดีต่อ ทำให้บอลลอยโด่งและไปเข้าทาง มอร์แกน ได้ซัดแบบเต็มข้อหน้าประตู จากนั้น บุรีรัมย์ ไม่เสียอาการ พร้อมกับเดินหน้าบุกและตั้งเกม แล้วใช้เวลาไม่นานก็ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการจ่ายเข้าแดน 3 ที่เหมือนจะจับบอลลั่นแล้ว แต่ ศุภชัย ที่วิ่งเข้าหาบอลและแตะหลบ ชาร์ลี ก่อนจะตะบัดยิงเข้าแรก ส่วนในช่วงเวลาที่เหลือราว 20 กว่านาที บุรีรัมย์ ยังคงเดินเกมบุก แต่มันยังมากจังหวะจนเข้าแดนสุดท้ายยาก กลับกันพอใช้วิธีจ่ายยัดให้ โบรินกิ จะมีความอันตรายมากกว่า

ครึ่งหลังเริ่มไปได้ 3 นาที ธีราทร จ่ายขนานริมเส้นจนตัวประกบไปได้หลายคน ศุภณัฏฐ์ จึงสามารถลากบอลไปเปิดให้ ศุภชัย ยิงแบบไขว้ลอดขาเป็น 2-1 จากนั้น บุรีรัมย์ น่าได้ประตูที่ 3 จากฟรีคลิก ซึ่งในจังหวะนั้นแนวรับเจ้าบ้านปล่อยว่างแล้ว จนเมื่อเวลาผ่านไป ปราสาทสายฟ้าได้ถอยไปรับมากขึ้น กระทั่งกลายเป็น โคราช ที่ต้องเปิดเกมบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่ไม่สามารถเจาะถึงพื้นที่อันตรายได้เลย

บทสรุปจากเกม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โชคดีที่คว้าโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แล้วเปลี่ยนเป็นประตูได้สำเร็จ แต่เมื่อต้องลงไปตั้งรับ ดันไม่เหนียวแน่นและเสียประตูคืนอย่างรวดเร็ว ทำให้เวลาที่เหลือในครึ่งแรก ต้องเน้นการประคองเอาเสมอไวก่อน จากนั้นเมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง เป้าหมายหลัก คือ ยันสกอร์นี้เอาไว้ แต่พอลงไปเล่นแค่ 3 นาที แผนที่เตรียมมาดันแตกแล้วเข้าทางคู่แข่ง สุดท้ายกลายเป็นโคราชที่ไม่สามารถทำอะไรได้ มิหนำยังมีโอกาสจะโดนเพิ่มเสียอีก

ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมรับผิดพลาดครั้งใหญ่แล้วเสียประตู แต่ยังดีที่เกมรุกไม่เสียทรงและได้ประตูคืนเร็ว ทำให้นับจากนั้นสามารถรันเกมบุกตามสไตล์ได้ กระนั้นการเข้าพื้นที่แดน 3-4 ยังดูติดๆและไม่ลงตัว ซึ่งต้องนำไปปรับปรุง นอกจากนี้ยังดีที่การจ่ายบอลแบบเฉียบแหลมของ ธีราทร เป็นจุดเริ่มต้นให้ทีมได้ประตูชัยและคว้า 3 แต้มออกมาแบบหืดจับ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

แมตช์การแข่งขัน นัดที่ 6 (วันอาทิตย์) 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 6 ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ลงฟาดแข้งกันทั้งหมด 4 คู่ ซึ่งมีให้ชมตั้งแต่การขับเคี่ยวของทีมหนีตาย การฟาดฟันของทีมเล็กกับใหญ่ และการเชือดเฉือนของทีมที่ผลงานดีทั้งคู่ แต่กระนั้นใครจะมีสิทธิ์คว้าชัยไปได้ นับจากนี้จะมาวิเคราะห์กัน  

พีที ประจวบ เอฟซี พบกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (17.30 น., วันอาทิตย์)

ผลงานของ พีที ประจวบ ดูเหมือนแกว่งๆที่ชนะสลับแพ้ แต่ถ้าดูจากศักยภาพของทีมถือว่าไม่ได้แย่ในศึกรีโว่ไทยลีก ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม การต้องลงเล่นถี่ๆ 3 นัดต่อสัปดาห์ เริ่มมีผลกระทบให้นักเตะล้า ดังจะเห็นได้จากนัดก่อนที่ต้องเหงื่อตก กว่าจะเอาชนะลำพูนได้ ทำให้การบุกมาเยือนในครั้งนี้ กระต่ายแก้ว น่าจะเหนื่อยต่อเนื่องและไม่การันตีว่าจะได้ 3 หรือแค่ 1 แต้มออกมา   

ลำปาง เอฟซี พบกับ สุโขทัย เอฟซี (18.00 น., วันอาทิตย์)

การเปิดหัว 2 นัด 4 แต้มของลำปาง ดูเหมือนจะเป็นภาพลวงตาเสียแล้ว เพราะจากเกม 3 นัดหลัง พุ่งชนความพ่ายแพ้แบบเสียประตูเป็นเข่ง ส่วนทางฝั่งสุโขทัย ชะตากรรมดูหนักว่าเล็กน้อยตรงที่ยังไม่ชนะใครและทำได้แค่เสมอ 2 นัด มี 2 คะแนน ฉะนั้นเกมคู่นี้จึงมีความหมายต่อทั้งคู่ เพราะถ้าใครเก็บชัยได้ สถานการณ์จะปลอดโปร่งและโล่งสบายกว่าที่เป็น ซึ่งจากการวัดฟอร์มแบบปอนด์ต่อปอนด์ ค้างคาวไฟดูดีกว่านิดๆและน่าจะไม่แพ้ในเกมนี้

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบกับ ราชบุรี เอฟซี (18.30 น., วันอาทิตย์)

ผลงานการออกสตาร์ทดีตามสไตล์ แต่ ทรู แบงค็อก ดันสะดุดต่อสุโขทัย แบบสุดเสียดาย ทำให้การนำจ่าฝูง แต้มไม่ทิ้งห่างจากผู้ตาม ส่วนทางฝั่งราชบุรี รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง และมีผลงานคล้ายๆกัน คือ ทำแต้มหล่นด้วยการเสมอกับทีมเล็กเมื่อนัดที่แล้ว ทำให้เกมนัดนี้จะเป็นการชิงตำแหน่งฝูง ซึ่งหากต้องเลือกข้าง แข้งเทพน่าจะไม่แพ้ในถิ่นของตัวเอง

หนองบัว พิชญ เอฟซี พบกับ การท่าเรือ เอฟซี (19.00 น., วันอาทิตย์)

หนองบัว กำลังเผชิญกับวิกฤตแบบสุดๆ เพราะการออกสตาร์ท 5 นัด แต้มเป็นศูนย์ ซึ่งเหตุผลก็คงทราบกันดีว่าเป็นเพราะการขาดตัวโหม่งอย่างแฮรมิลตัน ส่วนทางฝั่งการท่าเรือ การเล่นในถิ่นสามารถยิงได้เยอะ แต่มันมีจุดตำหนิ คือ เกมรับที่เสียประตูง่าย กระนั้นหากเทียบกัน สิงห์เจ้าท่าน่าจะบุกไปคว้า 3 แต้มแบบชิวๆใน ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีวิวก่อนเกมรีโว่ไทยลีก นัดที่ 6 (วันศุกร์-เสาร์)

แมตช์การแข่งขันศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 6 ลงสนามกันอย่างพร้อมหน้าเช่นเคย โดยในวันศุกร์ 1 คู่ นับเป็นงานที่กดดันของเจ้าบ้านที่ต้องการแต้ม ส่วนในเกมวันเสาร์จัดเต็ม 3 คู่ พร้อมกับบิ๊กแมตช์ ซึ่งผลที่คาดจะเป็นอย่างไร นับจากนี้จะมารีวิวใหได้ทราบกัน

ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด (วันศุกร์, 19.00 น.)

    จากภาวะฟอร์มตกของ เมโล่ ถือว่าสร้างความสะเทือนต่อจำนวนประตูและผลการแข่งขันของ ขอนแก่น ทำให้ในฤดูกาลนี้ การออกสตาร์ทค่อนข้างย่ำแย่และสุมเสี่ยงจะต้องหนีตาย ส่วนทางฝั่งผู้มาเยือนอย่าง ลีโอ เชียงราย ที่เน้นยิงน้อยแต่ชนะ กระนั้นเมื่อนัดที่แล้ว พวกเขาจัดการกะซวกน้องใหม่แบบไม่ไว้หน้าถึง 5-1 ซึ่งนี่ถือเป็นสกอร์มโหฬารที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ ทำให้เกมนี้วิเคราะห์ไม่ยากว่ากว่างโซ้งมหาภัย จะบุกมาคว้า 3 ออกไปได้  

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ ลำพูน วอริเออร์ (วันเสาร์, 18.00 น.)

    ผลงานการเล่นในบ้านของนครราชสีมา ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะล้วนแต่เจอทีมใหญ่หรือขนาดเท่ากัน แล้วมักจะแพ้ยาก ต่างจากลำพูน ที่สถานการณ์เริ่มเข้าขั้นวิกฤต เพราะออกสตาร์ทมาแล้ว 5 ยังไม่ชนะใครและมีเพียงแต้มเดียวเท่านั้น ทำให้เกมนี้มองว่าสวาทแคทจะเฉือนชนะได้

โปลิศ เทโร เอฟซี พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (วันเสาร์, 18.30 น.)

    สภาพทีมของเทโร ที่มีผู้เล่นแบบตามมีตามเกิด จึงไม่แปลกนักที่ผลงานจะเป็นในลักษณะนี้ คือ ลุ่มๆดอนๆและอยู่ในแถบกลางค่อนล่างของตาราง ส่วนทางฝั่งผู้มาเยือนอย่างบุรีรัมย์ เกม 2 นัดในบ้าน แล้วได้เพียง 2 แต้ม ถือเป็นความเสียหายพอสมควร ฉะนั้นเกมนี้พวกเขามุ่งมั่นเต็มที่ แล้วถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ปราสาทสายฟ้าน่าจะบุกมาคว้า 3 แต้มได้

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ ชลบุรี เอฟซี  (วันเสาร์, 19.00 น.)

    แมตช์การแข่งขันเกมคู่ส่งท้ายของวันเสาร์ อาจจะเรียกศึกเอลกลาซิโก้ได้ไม่เต็มปาก เพราะในปัจจุบันทั้ง 2 ทีมต่างไม่ใช่มหาอำนาจของลีกไทย แต่เป็นทีมที่ให้โอกาสเด็กในสายเลือดได้ขึ้นมาแจ้งเกิด โดยทางฝั่งเมืองทอง ฟอร์มการเล่นยังแกว่งๆ กระนั้นเมื่อนัดที่แล้ว พวกเขาสามารถบุกไปคว้า 1 แต้มใหญ่มาจากบุรีรัมย์ได้ ขณะที่ชลบุรี หากไม่นับเกมที่แพ้บุรีรัมย์ พวกเขาจัดเป็นทีมที่มีฟอร์มดีมาก ฉะนั้นการบุกมาเยือนถิ่นธันเดอร์โดม ฉลามชลไม่น่าแพ้ เหลือแค่จะ 1 หรือ 3 แต้มเท่านั้น

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

แดร์แลซัดประตูโทนพา ราชบุรี เฉือน เมืองทอง 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2022/23 นัดเปิดฤดูกาล ณ สนามมิตรผล สเตดี้ยม ราชบุรี เอฟซี ที่หนีตายมาได้แบบฉิวเฉียด จะต้องพบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่อุตส่าห์จบอันดับ4 แต่ดันไม่ได้โควตา ACL เสียอย่างนั้น สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนเจ้าบ้านเป็นระบบเดิมอย่าง 4-1-4-1

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ราชบุรี ออกสตาร์ทได้ดีกว่า โดยเกมกลางสนามจะใช้กลางรับ 2 ตัว ปิดทางบอลของคู่แข่ง แล้วในขณะเดียวกันก็รับแน่นและเพรสซิ่งตั้งแดน 2 จนเมื่อไรที่ตัดบอลกลับมาได้ ก็จะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้รวดเร็ว ซึ่งในเกมรุกได้อาศัยปีกทั้ง 2 ข้างโจมตี แต่มุมยิงนั้นแคบและมีตัวรับคอยขัดขวาง ทำให้การจบสกอร์ไม่อันตรายมาก ขณะที่ทางฝั่งเมืองทอง รูปเกมเป็นรองจนไม่สามารถขึ้นบอลผ่านกลางสนามไปได้ นั่นจึงทำให้กองหน้าไม่ได้บอล กระทั่งการใช้ความสามารถเฉพาะตัวของกองกลาง ต้องถูกงัดออกมาใช้พร้อมกับการขึ้นแบบสลับข้างซ้าย-ขวาของปีกกับแบ็ค เพื่อไม่ใหเสี่ยงจนเกินหากเสียบอลกลางทาง  

ครึ่งหลัง เมืองทอง พยายามแก้ลำบอลบุกจากด้านข้างของเจ้าบ้าน ด้วยยืนซ้อน 2 คน ซึ่งมันก็ได้ผลเพราะไม่โดนเจาะแบบง่ายๆเหมือนครึ่งแรก แต่กระนั้นการแฮนด์บอลในเขตโทษ ก็ได้ส่งให้ ราชบุรี ขึ้นนำ 1-0 กระทั่งกิเลนผยองต้องบุกเพื่อทวงคืนประตู แต่ก็ยังติดปัญหาเมื่อถึงกลางสนาม อย่างไรเสียด้วยจังหวะของฟุตบอล ลูกทีมของมาริโอ้ ก็มีโอกาสเหน่งๆ 1-2 แล้วทำไม่ได้เอง ส่วนทางฝั่งราชบุรี พอโดนจับทางได้ เกมรุกก็เริ่มไม่มีจังหวะได้พาบอลเข้าแดนสุดท้าย กระทั่งส่อแววจะเจ๊า กระทั่งท้ายเกมมาได้จุดโทษจากแฮนด์บอล ทำให้เอาตัวรอดจากความอึดอัดมาได้  

บทสรุปจากเกม ราชบุรี เอฟซี สามารถคุมเกมกลางสนามได้หมด ทำให้รูปเกมดีกว่าและสามารถต่อยอดไปสู่เกมรุกได้ กระนั้นเกมรุกของราชันมังกร ยังต้องไปปรับจูนเรื่องการเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย รวมถึงการรักษาฟอร์มให้สม่ำเสมอตลอด 90 นาที เพราะในครึ่งหลัง ความอันตรายในเกมรุกมันหดหายจนแทบหมดสิ้น

ส่วนทางฝั่งเมืองทอง ยูไนเต็ด พยายามจะเล่นเกมของตัวเอง แต่พอวันนี้เจอการวางหมากที่ดักบอลได้ดี มันก็เป็นผลให้กองกลางทำงานหนักและออกอาการรวน จนกองหน้าแทบจะไม่ค่อยได้บอล ขณะที่เกมรับก็มีปรับแก้ไปตามสถานการณ์ แต่สุดท้ายดันมีความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้เสียจุดโทษ เสียประตู และต้องพ่ายแพ้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover