Categories
Sport

“โดนเร็ว แต่รอดตัว”

บุรีรัมย์ โดนไว แต่ฮึดแซง โคราช หึดจับ 1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2022/23 นัดเปิดฤดูกาล ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่รอดตกชั้นมาแบบหวุดหวิดเมื่อซีซั่นก่อน จะต้องทำดาร์บี้แมตช์อีสานใต้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เป็นแชมป์เมื่อปีล่าสุด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านและทีมเยือนต่างมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน

เกมเริ่มไปได้ไม่กี่นาที นครราชสีมา ขึ้นนำ 1-0 จากการเปิดบอลที่เหมือนจะเสียแล้ว แต่ ชูลาก้า ดันโหม่งไม่ดี และ นฤบดินทร์ เตะสกัดไม่ดีต่อ ทำให้บอลลอยโด่งและไปเข้าทาง มอร์แกน ได้ซัดแบบเต็มข้อหน้าประตู จากนั้น บุรีรัมย์ ไม่เสียอาการ พร้อมกับเดินหน้าบุกและตั้งเกม แล้วใช้เวลาไม่นานก็ได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการจ่ายเข้าแดน 3 ที่เหมือนจะจับบอลลั่นแล้ว แต่ ศุภชัย ที่วิ่งเข้าหาบอลและแตะหลบ ชาร์ลี ก่อนจะตะบัดยิงเข้าแรก ส่วนในช่วงเวลาที่เหลือราว 20 กว่านาที บุรีรัมย์ ยังคงเดินเกมบุก แต่มันยังมากจังหวะจนเข้าแดนสุดท้ายยาก กลับกันพอใช้วิธีจ่ายยัดให้ โบรินกิ จะมีความอันตรายมากกว่า

ครึ่งหลังเริ่มไปได้ 3 นาที ธีราทร จ่ายขนานริมเส้นจนตัวประกบไปได้หลายคน ศุภณัฏฐ์ จึงสามารถลากบอลไปเปิดให้ ศุภชัย ยิงแบบไขว้ลอดขาเป็น 2-1 จากนั้น บุรีรัมย์ น่าได้ประตูที่ 3 จากฟรีคลิก ซึ่งในจังหวะนั้นแนวรับเจ้าบ้านปล่อยว่างแล้ว จนเมื่อเวลาผ่านไป ปราสาทสายฟ้าได้ถอยไปรับมากขึ้น กระทั่งกลายเป็น โคราช ที่ต้องเปิดเกมบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่ไม่สามารถเจาะถึงพื้นที่อันตรายได้เลย

บทสรุปจากเกม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โชคดีที่คว้าโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แล้วเปลี่ยนเป็นประตูได้สำเร็จ แต่เมื่อต้องลงไปตั้งรับ ดันไม่เหนียวแน่นและเสียประตูคืนอย่างรวดเร็ว ทำให้เวลาที่เหลือในครึ่งแรก ต้องเน้นการประคองเอาเสมอไวก่อน จากนั้นเมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง เป้าหมายหลัก คือ ยันสกอร์นี้เอาไว้ แต่พอลงไปเล่นแค่ 3 นาที แผนที่เตรียมมาดันแตกแล้วเข้าทางคู่แข่ง สุดท้ายกลายเป็นโคราชที่ไม่สามารถทำอะไรได้ มิหนำยังมีโอกาสจะโดนเพิ่มเสียอีก

ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมรับผิดพลาดครั้งใหญ่แล้วเสียประตู แต่ยังดีที่เกมรุกไม่เสียทรงและได้ประตูคืนเร็ว ทำให้นับจากนั้นสามารถรันเกมบุกตามสไตล์ได้ กระนั้นการเข้าพื้นที่แดน 3-4 ยังดูติดๆและไม่ลงตัว ซึ่งต้องนำไปปรับปรุง นอกจากนี้ยังดีที่การจ่ายบอลแบบเฉียบแหลมของ ธีราทร เป็นจุดเริ่มต้นให้ทีมได้ประตูชัยและคว้า 3 แต้มออกมาแบบหืดจับ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“รับถ้วยแบบกร่อยๆ”

สุพรรณบุรี  แสบก่อนร่วง เฉือน บุรีรัมย์ 2-1 ปิดท้ายวันรับถ้วย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 หรือนัดปิดฤดูกาล ณ สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ตกชั้นอย่างเป็นทางการแล้วก่อนหน้านี้ จะได้เล่นสั่งลาลีกสูงสุดกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีกประจำปีนี้ ที่มารอรับถ้วยหลังจบเกมส์ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-4-2 เหมือนเดิม

หลังจากบอลเขี่ยเริ่มเล่นไปได้แค่ 2 นาที สุพรรณบุรี ขึ้นนำ 1-0 แบบสุดเซอร์ไพรส์ โดยจังหวะนี้เป็นการออกบอลยาวจาก เนโต้ ให้ วิลเลี่ยม ได้ลากไปเรื่อยๆ แล้วจัดการยิงไปที่เสาไกล ซึ่งความผิดพลาดของทีมเยือน คือ ศศลักษณ์ ที่ถอยเยอะและเสียหลัก แถมตัวที่อยู่ข้างเคียงก็เข้ามาช้า มิหนำซ้ำ นพพล ก็ควรจะปัดได้ หากดูจากน้ำหนักและทิศทาง 

บุรีรัมย์ เสียประตูเร็ว แต่ก็เดินเกมรุกตามแผนที่วางมา ซึ่งได้เห็นถึงการโจมตีที่มีมิติทางฝั่งซ้าย คือ หากบอลอยู่กับตัวริมเส้น จะหาโอกาสเปิดไปหน้าประตู ส่วนถ้าบอลอยู่กับตัวปีกด้านใน ก็จะแทงให้ 2 กองหน้าได้วิ่งทะลุไลน์ จนสร้างโอกาสและควรยิงได้ 2-3 ประตูด้วยซ้ำ ถ้ายิงได้เฉียบคมกว่านี้ ขณะที่ สุพรรณบุรี สวนกลับแบบนับครั้งได้ แต่การสวนกลับเหล่านั้นค่อนข้างอันตราย เพราะพาบอลมาถึงปากประตูเกือบทุกครั้ง

ครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียง 6 นาที สุพรรณบุรี ขึ้นนำ 2-0 จากการวางบอลให้ วิลเลี่ยม ก่อนที่เจ้าตัวจะฝากเพื่อนและรับกลับมาด้วยยิงพุ่งเสียบเสาแรก ซึ่งนี่เป็นอีกครั้งที่แนวรับทีมเยือนเปิดพื้นที่ให้เล่นและผู้รักษาประตูควรพุ่งปัดถึง หลังจากนั้น บุรีรัมย์ ยังคงเดินหน้าต่อ แล้วได้เห็นถึงความแตกต่างตรงการเข้าทำที่เน้นโยนทั้งซ้ายและขวา รวมถึงการจบสกอร์ที่มีประสิทธิภาพ จนมาได้ประตูตีตื้น 2-1 ส่วนในช่วงเวลาที่เหลือ ก็ยังไม่เบาเกมบุก แต่โอกาสทองทั้งหลายดันติดเสาและเซฟของ เนโต้ ทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์ 2-1

บทสรุปจากเกม สุพรรณบุรี เอฟซี ยังคงยึดรูปแบบเดิมๆ เพียงแต่ว่าวันนี้มันเข้าทางและได้ผล คือ ให้ วิลเลี่ยม ฉายเดี่ยวและยิงประตู ส่วนรับก็ป้องกันและยื้อไว้ให้มากที่สุด จนสุดท้ายประตูที่เสียนั้นน้อยกว่าประตูที่ยิงได้ ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมรับทำหน้าที่ไม่เยอะ แต่มีรอยแผลตลอด ทั้งๆที่แนวรุกคู่แข่งมีเพียงไม่กี่คน ขณะที่เกมรุกคุมทุกอย่างได้หมด ยกเว้นความเฉียบคมที่โยนทิ้งขว้างไปเสียอย่างนั้น  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“กว่างทำแต้มหลุด”

“กว่างทำแต้มหลุด” เชียงราย สุดเสียดาย ได้แค่เจ๊า เชียงใหม่ ทีมบ๊วย 0-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 28 เป็นเกมแข่งขันล่วงหน้าเพราะ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เจ้าถิ่น จะต้องเป็นตัวแทนไปเล่น ACL รอบแบ่งกลุ่ม โดยในเกมนี้พวกเขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะเอา 3 แต้ม จากทีมบ้านใกล้เรือนเคียงที่ดูจะเชือดไม่ยาก เพื่อเกาะกลุ่มหัวตารางให้ได้  ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ด้วยสภาพทีมและผลงานที่ไม่ชนะใครยาวนาน มันก็น่าจะต้องจำยอมต่อการร่วงกลับไปสู่ลีกรอง กระนั้นหากรับแน่น สวนคมๆ มันก็ยังพอจะมีโอกาสเหลืออยู่ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-1-1 ส่วนทีมเยือนปรับเป็น 3-4-3

ลีโอ เชียงราย ดูเหนือกว่าเล็กน้อยเท่านั้น เพราะการต่อบอลช้าจนไม่ไหลลื่นทั่วสนาม อีกทั้งยังจ่ายขาดๆเกินๆบ่อย แต่ก็ยังมีจังหวะได้พาบอลขึ้นไปจนได้จบสกอร์ ส่วนทางฝั่งเชียงใหม่ แนวรับยังเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งเล่นง่ายเหมือนเคย แต่ยังไม่โดนยิงเพราะเจ้าบ้านไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดี เช่นเดียวกับเกมรุกที่พอเจอคู่แข่งรับต่ำ การเจาะพื้นที่อันตรายไม่สามารถเข้าไปได้ สุดท้ายต้องอาศัยการยิงไกลเป็นหลัก

ช่วงต้นครึ่งหลัง เชียงใหม่ พยายามเน้นย้ำแนวรุกอย่าง บิลล์ และ เอกนิษฐ์ ให้ทำชิ่งเร็ว ซึ่งสร้างโอกาสได้ แต่ดันยิงไม่เข้า จากนั้นกลายเป็นเกมของ เชียงราย ที่มีการปรับให้ตัวริมเส้นพยายามจ่ายบอลเข้าแดนอันตรายในระยะที่ใกล้ขึ้น ส่วนตัวรอบอลก็ต้องหาพื้นที่และรอรับบอลให้ได้ นั่นจึงเป็นผลให้กว่างโซ้งมีโอกาสเป็นระยะๆ จนกดหัวทีมเยือนอยู่ กระนั้นด้วยจังหวะจบที่ไม่ค่อยชัดแจ้ง มันก็เป็นผลให้พวกเขาไม่ได้ประตู กระทั่งหมดเวลาการแข่งขัน

บทสรุปจากเกม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด มีศักยภาพและรูปเกมที่เหนือกว่าคู่แข่ง แต่ในครึ่งแรกเล่นผิดฟอร์ม จนในครึ่งหลังมีการปรับแก้และรูปเกมดีขึ้น กระนั้นด้วยความไม่เด็ดขาดพอ มันก็เลยเป็นผลให้กว่างโซ้งได้แค่แต้มเดียว ซึ่งถือเป็นความเสียหายและอาจมีผลให้พวกเขาไปไม่ถึงเป้าหมาย ขณะที่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เป็นรองตามศักยภาพ แต่การได้ 1 แต้ม ในวันนี้ ถือเป็นดวงเฮงของทีม เพราะตลอดทั้งเกม พวกเขาเปิดช่องให้คู่แข่งเล่นงานตลอด แต่คู่แข่งดันทำไม่ได้เอง ส่วนเกมรุกก็เล่นอย่างเข้าขาแค่ไม่กี่คน ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่สามารถเจาะแนวรับที่เชี่ยวชาญการรับต่ำได้ กระนั้นการมี 1 แต้ม ในเกมนี้ คงไม่น่าเพียงพอต่อการอยู่รอด หากดูระยะห่างจากโซนปลอดภัย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“คว้าแชมป์สำเร็จ เพราะเลือกเปลี่ยนเร็ว”

สรุปผลงาน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบเลกแรกด้วยการเป็นจ่าฝูง ซึ่งหากมองผ่านๆก็นับเป็นผลงานที่น่าพอใจ แต่สำหรับนายใหญ่อย่าง เนวิน ชิดชอบ ยังไม่ประทับใจ ทำให้เลือกที่จะปรับและเปลี่ยนทันที แล้วการตัดสินใจเร็วครั้งนี้ก็ได้เป็นตัวแปรให้ทีมคว้าแชมป์ในบั้นปลาย แม้จะมีเสียวมีเกร็งในช่วงท้าย แต่ที่สุดก็คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 7 มาครองได้

ในช่วงพักเลกแรก บุรีรัมย์ จัดการปลด การ์ม่า ออกจากตำแหน่ง แม้จะพาทีมจบตำแหน่งจ่าฝูง ซึ่งหากดูจากรูปแบบและฟอร์มการเล่น มันได้เห็นถึงความกระท่อนกระแท่น ความไม่คงเส้นคงวา และระบบหลัง 3 ที่ดูไม่สร้างสรรค์อีกต่อไปแล้ว ส่วนกุนซือใหม่ที่ดึงมาร่วมงานก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เพราะคนคนนั้น คือ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่เลือกทิ้งสมุทรปราการ ซิตี้ แบบกลางทาง เพื่อมารับงานใหญ่ที่ชาติตระกูลสูงกว่า พร้อมกันนั้นยังได้ดึงสตาฟญี่ปุ่นเข้ามาทำงานในทีมชุดใหญ่จนถึงชุดเยาวชน

ในเรื่องของขุมกำลังนักเตะ บุรีรัมย์ ได้เรียกเจ้าพี ศศลักษณ์ กลับมา พร้อมกับดึงเด็กเก่าอย่าง ธีราทร มาร่วมทีมอีกครั้ง ขณะที่ตัวต่างชาติก็ได้ มาซิก้า และ โบลินกี้ เข้ามาเสริมแนวรุก ซึ่งการเสริมตัวในรอบนี้ มันได้เห็นถึงความอันตรายทางฝั่งซ้าย โดยมี ธีราทร เป็นตัวเอก แล้วด้วยความอันตรายตรงนี้ มันก็เป็นผลให้ทัพปราสาทสายฟ้าเดินหน้ากวาดแต้มและทำคะแนนทิ้งห่างทีมตาม

โดยเฉพาะการเฉือน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 ในบ้าน มิหนำซ้ำระยะห่างของแต้มก็มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทีมตามดันสะดุดเองอยู่ร่ำไป กระทั่งเกมในบ้านนัดที่ 26 กับ บีจี ปุทม ยูไนเต็ด ซึ่งขอแค่เก็บชัยก็จะคว้าแชมป์ทันที แต่สุดท้ายดันโดนทีเด็ดของ สารัช จนต้องแพ้คาบ้าน 0-1 จากนั้นกลายเป็น บุรีรัมย์ กดดันตัวเองจนสะดุดเสมอแบบรัวๆ ทำให้ทีมตามอย่าง บีจี ปทุม ที่เหมือนจะหมดลุ้นไปแล้ว เหมือนผีฟื้นจากหลุม อย่างไรเสียยอดทีมจากอีสานใต้ก็ปิดจ็อบของตัวเองได้ จากเกมบุกถล่ม หนองบัว พิชญ เอฟซี 0-3

การกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ไทยลีกอีกครั้งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดูน่าเกรงขามในช่วงต้นเลก 2 เพราะมันได้เห็นรูปแบบการเล่นที่ต่างออกในยุคอิชิอิ แต่จุดติที่ต้องกลับไปทบทวน คือ ช่วงโค้งสุดท้ายที่อยู่ๆดันเครื่องสะดุด ซึ่งยังดีที่ตุนแต้มมาเยอะ มิเช่นนั้นอาจโดนแซงและน้ำตาตกเหมือนปีที่ผ่านๆมา

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“คว้าแชมป์สำเร็จ เพราะเลือกเปลี่ยนเร็ว”

สรุปผลงาน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบเลกแรกด้วยการเป็นจ่าฝูง ซึ่งหากมองผ่านๆก็นับเป็นผลงานที่น่าพอใจ แต่สำหรับนายใหญ่อย่าง เนวิน ชิดชอบ ยังไม่ประทับใจ ทำให้เลือกที่จะปรับและเปลี่ยนทันที แล้วการตัดสินใจเร็วครั้งนี้ก็ได้เป็นตัวแปรให้ทีมคว้าแชมป์ในบั้นปลาย แม้จะมีเสียวมีเกร็งในช่วงท้าย แต่ที่สุดก็คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 7 มาครองได้

ในช่วงพักเลกแรก บุรีรัมย์ จัดการปลด การ์ม่า ออกจากตำแหน่ง แม้จะพาทีมจบตำแหน่งจ่าฝูง ซึ่งหากดูจากรูปแบบและฟอร์มการเล่น มันได้เห็นถึงความกระท่อนกระแท่น ความไม่คงเส้นคงวา และระบบหลัง 3 ที่ดูไม่สร้างสรรค์อีกต่อไปแล้ว ส่วนกุนซือใหม่ที่ดึงมาร่วมงานก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เพราะคนคนนั้น คือ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่เลือกทิ้งสมุทรปราการ ซิตี้ แบบกลางทาง เพื่อมารับงานใหญ่ที่ชาติตระกูลสูงกว่า พร้อมกันนั้นยังได้ดึงสตาฟญี่ปุ่นเข้ามาทำงานในทีมชุดใหญ่จนถึงชุดเยาวชน

ในเรื่องของขุมกำลังนักเตะ บุรีรัมย์ ได้เรียกเจ้าพี ศศลักษณ์ กลับมา พร้อมกับดึงเด็กเก่าอย่าง ธีราทร มาร่วมทีมอีกครั้ง ขณะที่ตัวต่างชาติก็ได้ มาซิก้า และ โบลินกี้ เข้ามาเสริมแนวรุก ซึ่งการเสริมตัวในรอบนี้ มันได้เห็นถึงความอันตรายทางฝั่งซ้าย โดยมี ธีราทร เป็นตัวเอก แล้วด้วยความอันตรายตรงนี้ มันก็เป็นผลให้ทัพปราสาทสายฟ้าเดินหน้ากวาดแต้มและทำคะแนนทิ้งห่างทีมตาม

โดยเฉพาะการเฉือน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 ในบ้าน มิหนำซ้ำระยะห่างของแต้มก็มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทีมตามดันสะดุดเองอยู่ร่ำไป กระทั่งเกมในบ้านนัดที่ 26 กับ บีจี ปุทม ยูไนเต็ด ซึ่งขอแค่เก็บชัยก็จะคว้าแชมป์ทันที แต่สุดท้ายดันโดนทีเด็ดของ สารัช จนต้องแพ้คาบ้าน 0-1 จากนั้นกลายเป็น บุรีรัมย์ กดดันตัวเองจนสะดุดเสมอแบบรัวๆ ทำให้ทีมตามอย่าง บีจี ปทุม ที่เหมือนจะหมดลุ้นไปแล้ว เหมือนผีฟื้นจากหลุม อย่างไรเสียยอดทีมจากอีสานใต้ก็ปิดจ็อบของตัวเองได้ จากเกมบุกถล่ม หนองบัว พิชญ เอฟซี 0-3

การกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ไทยลีกอีกครั้งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดูน่าเกรงขามในช่วงต้นเลก 2 เพราะมันได้เห็นรูปแบบการเล่นที่ต่างออกในยุคอิชิอิ แต่จุดติที่ต้องกลับไปทบทวน คือ ช่วงโค้งสุดท้ายที่อยู่ๆดันเครื่องสะดุด ซึ่งยังดีที่ตุนแต้มมาเยอะ มิเช่นนั้นอาจโดนแซงและน้ำตาตกเหมือนปีที่ผ่านๆมา

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

“VAR ใช้คุ้ม แต่จบเจ๊า” บุรีรัมย์ สาดลูกโด่งทั้งเกม แต่ได้แค่เสมอกับสุพรรณบุรี 0-0

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 นัดเปิดสนาม ในค่ำคืนของวันเสาร์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังช้างอารีนา พร้อมกับผู้ชม 25 % ของความจุ พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมดวงแข็งแห่งการหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาเป็น 3-4-3

          เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นมาเป็น บุรีรัมย์ ที่โหมบุกใส่ตลอด 45 นาทีแรก ด้วยการโยนยาว ได้แก่ โยนเพื่อให้กองหน้าโหม่ง โยนเพื่อให้แนวรุกเก็บบอลลงแล้วทำชิ่ง หรือยิงไกล ซึ่งจังหวะทั้งหลายเหล่านี้มีทั้งที่พลาดเอง จังหวะไม่ลงล็อค รวมถึงแนวรับของสุพรรณบุรี ช่วยกันบีบและรุมสกัดเอาไว้ได้ ส่วนทางฝั่งของช้างศึกยุทธหัตถี ได้แต่ตั้งรับในแดน โดยในช่วงครึ่งแรกสามารถยืนตำแหน่งและช่วยซ้อนได้ดี แต่ก็มีบางจังหวะที่หลวมไปบ้าง ตรงข้ามกับเกมบุกที่ไม่มีโอกาสได้ทำเกมโต้กลับเลย   

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ พยายามจะเร่งจังหวะเพื่อให้แนวรับของคู่แข่งปั่นป่วนและเสียประตู แต่ภาพที่ปรากฏหลับกลายเป็นปราสาทสายฟ้าเสียเอง ที่ยิ่งเร่งยิ่งพลาดแล้วเสียทั้งโอกาสและเวลา ขณะที่เกมโต้กลับของสุพรรณบุรี ครึ่งหลังสามารถดักบอลและโต้กลับได้ดี พร้อมกับมีการสอดประสานและทำชิ่ง จนมีโอกาสได้ยิงและลุ้นเสียว

แต่น่าเสียดายที่การครองบอลบุกแต่ละหน ไม่เหนียวและยาวนานพอที่ทำให้เกมบุกของเจ้าบ้านเป็นอัมพาตได้ อย่างไรก็ดีช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ ลดความเร็วและกลับมาเน้นการออกบอลในทุกจังหวะ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยากยิ่ง เพราะแนวรับช้างศึกยุทธหัตถี ยืนต้านทานไว้จนเกิดความมั่นใจไปเรียบร้อยแล้ว

          เกมนี้มีการใช้ VAR ค่อนข้างบ่อย โดยการเช็คจุดโทษในครึ่งแรกกับการเช็คจังหวะฟาวล์ก่อนได้ประตูช่วงท้ายเกม ทุกอย่างเคลียร์ แต่จังหวะการเช็คจังหวะแฮนด์บอลในครึ่งหลัง แล้วตัดสินว่าไม่เป็นจุดโทษ ดูจะเป็นประเด็นที่ถกเถียงพอสมควร เพราะจากภาพ ผู้เล่นของบุรีรัมย์เอามือไขว้หลัง แต่เมื่อบอลทำท่าจะผ่านตัวไป

จึงกางแขนออกมา แล้วบอลโดนเสื้อที่เป็นบริเวณแขนเสื้อด้านบน ซึ่งการตัดสินในกรณีแบบนี้มันเคยปรากฏออกมาว่าถ้าบอลโดนส่วนแขนตั้งแต่ข้อพับลงมา ถึงจะนับเป็นแฮนด์บอล ฉะนั้นเคสนี้ ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ถูกต้อง

          บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการไอเดียการเข้าทำเพียงแค่การโยนบอลยาวเท่านั้น ซึ่งมันอาจเป็นทรงบอลที่ไม่สวยต่อสายตาท่านผู้ชม แต่ผลลัพธ์ของมันก็ออกมาดี เพียงแค่ว่าวันนี้ทำไม่ได้เพราะตัวเองและคู่แข่งที่ป้องกันได้ดี ส่วนทางฝั่งสุพรรณบุรี เอฟซี ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใด เกมรับยิ่งแน่น อีกทั้งยังมีตัวช่วยซ้อนทุกจังหวะ

ขณะที่เกมรุกวันนี้ไม่ค่อยแผงฤทธิ์เท่าใด ฉะนั้นการคว้า 1 แต้ม ถือว่าสุดยอดแล้ว เพราะถ้าหากวันนี้โดนเจ้าบ้านยิงเมื่อใด เชื่อว่าช้างศึกยุทธหัตถี มีโอกาสแพ้มากถึง 90% เลยทีเดียว    

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

ในช่วง 3-4 ปีหลังมานี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยืนนโยบายชัดเจน กับการดันตัวเยาวชนของสโมสรขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ ตามความตั้งใจของท่านประธานสโมสรที่อยากให้คนในพื้นที่ได้เล่นตอบแทนบ้านเกิด พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ซื้อตัวผู้เล่นไทยจากสโมสรไหนอีก ส่วนโควตาต่างชาติก็จะเสริมเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด อย่างไรเสียนโยบายดังกล่าว มันก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าล้มเหลว เพราะผลงานมีแต่ตกต่ำลงเรื่อยๆ จนคว้าน้ำเหลวเมื่อปีที่ผ่านมา

          การดันตัวเยาวชนของตัวเองขึ้นมาสู่ชุดใหญ่แบบพร้อมๆกันหลายราย มันชี้ชัดให้เห็นว่าบางคนคุณภาพถึง จนพร้อมจะเป็นกำลังหลักของทีมได้ แต่ต้องใช้เวลา เช่น พี่น้อง ศุภโชค-ศุภนัฐ ขณะที่หลายคนพอเล่นได้ เช่น ศุภชัย และ รัตนากร ส่วนตัวที่เล่นไม่ได้หรือคุณภาพไม่ถึง ก็มีค่อนข้างมาก จนสุดท้ายต้องปล่อยยืม ไม่ก็ขายให้ไปเติบโตที่อื่น ทำให้ตัวผู้เล่นไทยที่ลงสนามขั้นต่ำ 7 คน (ตัดโควตาต่างชาติ 3, โควตาเอเชีย 1) มันก็เริ่มเห็นตัวที่เป็นบ่อน้ำมันแล้ว 3-4 ราย

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา
ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

ในเมื่อตัวผู้เล่นไทยเป็นจุดอ่อนหลายคน ทำให้ความหวังสุดท้ายต้องพึ่งนักเตะต่างชาติ ซึ่งก็มีหลายทีมที่นักเตะไทยไม่ดี แต่นักเตะต่างชาติดี แล้วผลงานดี อย่างไรเสียด้วยนโยบายของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เลือกจะนำเข้าจากต่างประเทศแบบฟรีเอเยนท์ มันก็ยิ่งกลายเป็นอุปสรรค เพราะการโยกย้ายข้ามทวีปมาเล่นแบบนี้ มันย่อมต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ปราสาทสายฟ้ารอไม่ได้ เพราะถ้ามาแล้วเล่นไม่ดีก็โละออก นอกจากนี้การดึงมาแบบฟรีเอเยนท์ มันก็ยากที่จะเจอตัวแบบดีๆที่เข้าขั้นเกรดพรีเมี่ยม เพราะถ้าหากนักเตะคนนั้นดีจริง สโมสรต้นสังกัดคงไม่ปล่อยตัวมาง่ายๆ ฉะนั้นในเมื่อตัวต่างชาติมาแล้วเล่นไม่ได้ ตัวไทยก็คุณภาพไม่ถึงหลายราย ผลงานของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จึงดำดิ่งแบบไม่ต้องสงสัย   

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา
ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

      การหันเหกลับมาซื้อตัวผู้เล่นไทย จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ แม้จะต้องกลืนน้ำลายตัวเอง โดยการดึงตัวผู้เล่นไทยมาแบบรัวๆในช่วงตลาดซื้อ-ขายนี้ มันมีผลดีอยู่ตรงที่เข้ามาแล้ว ใช้เวลาปรับตัวไม่นาน เพราะพวกเขาเหล่านี้พอมีประสบการณ์มาบ้าง นอกจากนี้ในส่วนของโควตาต่างชาติก็ไม่บ้าเลือดกับการโละทิ้งเป็นว่าเล่นอีกแล้ว หากแต่ดูว่าตำแหน่งไหนขาดก็เติมจุดนั้น ฉะนั้นมันจึงเป็นส่วนผสมที่น่าจะดีที่สุดในตอนนี้สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับการให้โอกาสเยาวชนที่คุณภาพถึง การมีตัวโควตาต่างชาติที่ดีและเล่นได้ พร้อมกับมีตัวเชื่อม คือ นักเตะไทยที่ซื้อเข้ามา ส่วนผลงานจะเป็นอย่างไรในฤดูกาลใหม่ ก็ต้องรอติดตามชม

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา
ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com