Categories
Sport

“ยีมาโจไป สวาทแคทรอดหวุดหวิด”  

สรุปผลงาน โคราช ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

การทำงานของโค้ชโจ ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้นนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ดูเหมือนจะมั่นคงและไม่มีอะไรมาหักเก้าอี้ตัวนี้ได้ง่ายๆ แต่เมื่อบอร์ดบริหารเปลี่ยนมือมาเป็น วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลผู้ฉาวโฉ่ สถานการณ์ในแคมป์สวาทแคทก็เปลี่ยนไป กระนั้นทางฝั่งผู้บริหารก็ไม่ได้คิดจะขับไล่โค้ชโจออกไปในทันที แต่อาศัยช่วงที่ผลงานแพ้ติดต่อกันอันเชิญให้ออกในยามวิกฤต สุดท้ายยังดีที่โคราชยังไว้ลายและอยู่รอดในลีกสูงสุด

      ผลงานในเลกแรกของ นครราชสีมา ไม่ย่ำแย่ แต่ก็มีการเสริมทัพเข้ามา โดยเฉพาะในโควต้าต่างชาติอย่าง ชาร์ลี คลัฟ ที่เข้ามายืนคู่กับ เฉลิมพงษ์ ในตำแหน่งกองหลัง และ ชินทาโร่ ที่เข้ามาช่วยเกมแดนกลางของทีม แล้วในทันทีที่เลก 2 เริ่มขึ้น การเสริมตัวต่างชาติดังกล่าว ก็ช่วยเสริมสร้างให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น กระทั่งผลงานของทีมดูจะไม่ปัญหากับการหนีตาย แต่อย่างไรเสีย เกมที่เปิดบ้านพบกับ พีที ประจวบ แล้วแพ้เพราะพิษกรรมการ 2-3 ก็ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้โคราช กลายเป็นอีกทีมที่พร้อมจะแพ้คู่แข่งทุกนัด

การไม่ชนะใคร 7 นัดติดต่อกัน ได้ทำให้บอร์ดบริหารเรียกโค้ชโจ เข้าไปพบ แล้วได้มีการประกาศลาออกในช่วงเย็น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาแบบนี้นับเป็นอะไรที่เสี่ยงอย่างยิ่ง แล้วมันก็ยิ่งเสี่ยงขึ้นไปอีกกับการเอากุนซือชาวอังกฤษที่ร้างการทำงานไปนานอย่าง เควิน แบ็คเวลล์ เข้ามาแทน อีกทั้งกุนซือวัยเฒ่าผู้นี้ก็ไม่เคยมีประสบการณ์กับฟุตบอลไทยมาก่อน ทำให้ไม่แปลกนักที่สวาทแคทจะต้องหนีตกชั้นแบบเต็มตัว กระทั่งเกมนัดสำคัญที่ชนะ ราชบุรี 1-0 กับบุกไปตบ ชลบุรี 1-2 ก็ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้พวกเรารอดตายแบบทันเวลา

      การจบอันดับที่ 11 ด้วยการมีคะแนนห่างจากโซนแดง 7 แต้ม อาจมองได้ว่าผลงานเป็นไปตามเป้าหมาย กระนั้นหากเจาะลึกลงไป นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ควรไปลุ้นอันดับกลางตารางเสียด้วยซ้ำ หากแต่พวกเขาไปเจอเกมสุดช็อตกับ ประจวบ แล้วจากนั้นเหมือนมรสุมรุมเร้าจนไม่ชนะใครถึง 7 เกม แถมบอร์ดบริหารก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยการดึงโค้ชที่ไม่ได้ทำงานมานานและไม่เคยมีประสบการณ์กับฟุตบอลไทยมาคุมทีมเสียอย่างนั้น อย่างไรเสียมันยังดีที่พวกเขารวมพลังฮึดสุดท้าย แล้วสามารถคว้าชัยในเกมแห่งฤดูกาลจาก ราชบุรี และ ชลบุรี มาได้ ทำให้สุดท้ายยังได้อยู่ในลีกสูงสุดต่อ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ซุปตาร์ร้อยล้าน ผลงานกลางตาราง”

สรุปผลงาน การท่าเรือ ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

การท่าเรือ เอฟซี การดึงโค้ชโอ่งเข้ามาทำทีม สุดท้ายผลงานไม่เป็นไปตามคาด ทำให้ต้องแยกทางและดึงคนคุ้นเคยอย่างโค้ชอู๊ดขึ้นมาอีกครั้ง แล้วดันทำผลงานได้ดีกับการคว้าชัย 3 นัดรวดก่อนปิดเลกแรก ซึ่งตรงนี้ทำให้มาดามแป้งเลือกใช้โค้ชอู๊ดและไม่หาโค้ชใหม่เข้ามาแทน แต่สุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิม คือ ผลงานย่ำแย่จนต้องแยกทาง

สรุปผลงาน การท่าเรือ เอฟซี ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22 ในเลกที่ 2 เลือกที่จะแต่ตั้งให้ สระราวุฒิ กลับเข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชภาค 2 เพราะจากผลงานก่อนปิดเลกที่ชนะ 3 นัดรวด แบบไม่เสียประตู มันได้สะกิดให้มาดามแป้งเบาใจและไม่อยากหาโค้ชใหม่ให้เสียเวลา นอกจากนี้ทีมได้เสริมทัพนักเตะใหม่ด้วยการดึงเจ้าตอง กวินทร์ แบบยืมตัวจาก โอเฮช ลูเวิน เพื่อให้ตำแหน่งนายทวารมีการแข่งขันที่สูงยิ่งขึ้น ส่วนแนวรุกก็จัดหนักจัดเต็มด้วยการดึง เจนภพ โพธิ์ขี ที่โชว์ฟอร์มยิงกระจายในเครื่องแบบ โปลิศ เทโร กับ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่การสวมเสื้อแสดน้ำเงินน่าจะช่วยเรียกวิญาณความเป็นเพชฌฆาตให้กลับมาได้  ในทางกลับกัน คู่แฝดทิตาธร-ทิตาวี คือ 2 นักเตะที่ย้ายทีมออกไปเพื่อโอกาสการลงสนามที่มากขึ้น  

การทำงานคำรบ 2 ของโค้ชอู๊ด ไม่ได้มีความแตกต่างไปจากภาคแรก ที่เริ่มต้นดีและค่อยๆดรอปลง แต่ในรอบนี้อาจหนักกว่าตรงที่บอลถ้วยทั้ง 2 รายการ ตกรอบอย่างรวดเร็ว แถมในถ้วยลีกคัพก็พ่ายแพ้ต่อทีมรองบ่อนจากไทยลีก 3 ขณะที่เกมลีกก็โชว์ผลงานงามหน้าด้วยการพ่ายคาบ้านแก่บ๊วยของตารางอย่าง เชียงใหม่ กระทั่งเกมที่บุกไปพ่าย บุรีรัมย์ ได้กลายเป็นเกมสุดท้ายของโค้ชอู๊ด นั่นจึงทำให้มาดามแป้ง เลือกดันโค้ชแขก วีรยุทธ์ เข้ามา แต่การเปิดตัวก็สร้างคอนแทนต์ด้วยการคาบ้านต่อ สมุทรปราการ ที่ไม่ชนะใครมายาวนาน สุดท้ายก่อนปิดซีซั่น ได้มีการเปลี่ยนกุนซือมาเป็น จเด็จ มีลาบ พร้อมกับการแจ้งเกิดของ วิลเลี่ยม และ ธีรศักดิ์

      จากเม็ดเงินที่ลงทุนไปกับผลงานที่ได้รับกลับมา ถือว่าสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เพราะการลงทุนแบบมหาศาลเพื่อดึงนักชื่อดังมาอยู่กับทีม มันไม่ตอบโจทย์ต่อความต้องการที่ทีมอยากได้  นั่นจึงทำให้โค้ชจัดทีมได้ลำบาก อีกทั้งการก้าวก่ายจากเจ้าของ มันก็ไม่แปลกนักที่ทีมจะไม่เดินหน้าไปไหน สุดท้ายตัวแห่งความหวังดันกลายเป็นเด็กกรอกวัยคะนองไปเสีย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“อ้นไทม์พาอยู่รอด”  

สรุปผลงาน โปลิศ เทโร ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

ผลงานในเลกแรกของ โปลิศ เทโร เอฟซี ถือว่าสอบผ่านหากดูจากสภาพทีมที่มีผู้เล่นจำกัดจำเขี่ย กระนั้นก่อนเริ่มเลกที่ 2 ทีมต้องเสียนักเตะฟอร์มแรงอย่าง เจนภพ โพธิ์ขี ไปให้กับ การท่าเรือเอฟซี ทำให้อาวุธในเกมรุกถูกลดทอนลงไป ขณะที่นักเตะขาเข้า ก็ล้วนแต่เป็นตัวชราภาพจากลีกรองและตัวยืมจากทีมใหญ่ที่ไม่ใช้งาน

      โปลิศ เทโร เปิดหัวเลกสองแบบไม่ร้อนแรงนัก แต่พอถึงนัดที่พบกับ บุรีรัมย์ ก็ได้สร้างความแสบทรวงด้วยการแบ่งแต้ม จากนั้นก็เริ่มแผงฤทธิ์ใส่ ชลบุรี และ บีจี ปทุม ในเกมฟุตบอลถ้วย ซึ่งในช่วงนั้นการคว้าแต้มอย่างต่อเนื่องมันมีผลให้การหนีตายแทบไม่ต้องกังวล กระนั้นพอหมดช่วงฟอร์มพีค มังกรโล่เงินก็เริ่มดรอปลงและไม่ชนะใครยาวนาน กระทั่งเกมแห่งฤดูกาลกับ สุพรรณบุรี พวกเขาสามารถล้วง 3 แต้ม ออกมาในวินาทีสุดท้ายของเกม แล้วจุดนั้นมันส่งผลให้ลูกทีมของโค้ชอ้นรอด ส่วนผู้แพ้ก็ตกชั้นลงไปเป็นที่เรียบร้อย

การคว้า เรียว มัตซึมูระ มาจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ถือเป็นการเสริมทัพที่ตรงจุด เพราะด้วยความเร็วทางด้านข้างของตัวเอง มันได้ช่วยให้กองหน้าไม่ต้องเหนื่อยลงมาล้วงบอล แต่อย่างไรเสียทรงเกมรุกของทีมก็ยังไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน นอกเสียจากพึ่งพาความสามารถส่วนบุคคล ขณะที่นายทวารวัยเก๋าอย่าง สินทวีชัย ก็ได้ขนประสบการณ์ทั้งหมดมาช่วยทีม กระนั้นสังขารที่ไม่เอื้ออำนวย มันก็เป็นผลให้ปฏิกิริยาเซฟมีความเชื่องช้าลงไปตามสภาพ ส่วนนักเตะที่แจ้งเกิดขึ้นมาอีกคำรบ คงหนีไม่พ้น เฉลิมศักดิ์ อัคขี ที่ฟอร์มติดตาจน มาโน่ ต้องเรียกไปติดทีมชาติ เช่นเดียวกับ อาทิตย์ บุตรจินดา ที่ฟอร์มลุ่มๆดอนๆมานาน สุดท้ายสามารถปล่อยของและความแสบทรวงใส่คู่แข่งได้หลายนัด

      ผลงานในเลกที่ 2 ของ โปลิศ เทโร เอฟซี อยู่รอดแบบไม่ต้องลุ้นถึงนัดสุดท้ายก็จริง แต่จากทรงบอลตลอดฤดูกาลที่ผ่าน ถือว่าไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนให้เป็นภาพจำได้ โดยเฉพาะเกมรุกที่เน้นความสามารถมากกว่าระบบ ฉะนั้นหากฤดูกาลหน้าจะยึดทรงบอลแบบนี้ ก็จำเป็นต้องหาผู้เล่นในจำพวกไปกับบอลได้ดีและมีความเร็ว กระนั้นการเก็บตัวผู้เล่นคนสำคัญก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากปล่อยเยอะและซื้อน้อย หรือซื้อของไม่ดีมา เป้าหมายที่จะอยู่รอดก็จะยากยิ่งขึ้นไปอีก

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

พีที ประจวบ เอฟซี

สรุปภาพรวม พีที ประจวบ เอฟซี ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

นับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อปี 2018 พีที ประจวบ เอฟซี ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการจบอันดับที่ 6 พร้อมกับการลงเล่นในบ้านที่เป็นจุดแข็ง อีกทั้งยังเคยทำโหดด้วยการถล่ม เมืองทอง ที่ในยุคนั้นอุดมไปด้วยแข้งทีมชาติถึง 6-1 จนเวลาผ่านไปไม่นาน พวกเขาสามารถไปถึงการคว้าแชมป์โตโยต้า ลีกคัพ เมื่อปี 2019 แต่กระนั้นก่อนฤดูกาลนี้จะเริ่มขึ้น โค้ชวัง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่วันแรกที่เลื่อนชั้น ได้อำลาและโยกย้ายไปคุมทีมอื่น ทำให้ฤดูกาลนี้มีความหวาดหวั่นไม่น้อย ว่าสภาพทีมจะไม่เหมือนเดิม

      โค้ชวัง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล โยกย้ายไปคุม หนองบัว พิชญ เอฟซี ซึ่งเป็นน้องใหม่อีกทีมที่พึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจากไทยลีก 2 ทำให้ทางฝั่ง พีที ประจวบ เอฟซี ต้องหาโค้ชคนใหม่และลงเอยด้วยการดึง มาซามิ ทากิ กุนซือ ชาวญี่ปุ่นที่พึ่งหมดสัญญากับ ระยอง เอฟซี ที่พึ่งตกชั้นลงไป โดยจากผลงานที่ผ่านมาของ ทากิ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีและน่าจะช่วยทีมให้อยู่รอดปลอดภัยแบบสบายๆได้

พีที ประจวบ เอฟซี ปรับเปลี่ยนมาเล่นระบบ 4-4-2 ตามสไตล์โค้ชญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีทรงบอลที่เข้าท่าในนัดเปิดสนามกับ เมืองทอง จากนั้นชัยชนะนัดแรกมาในเกมที่ 4 จากการบุกแซง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-2  ส่วนชัยชนะอีกนัดมาจากเกมบุกไปเยือน เชียงใหม่ ยูไนเต็ด แต่หลังจากนั้นไม่สามารถเก็บ 3 แต้มได้อีกเลย โดยเกมในบ้านที่เคยเป็นจุดแข็ง กลับกลายเป็นไม่ชนะตลอดเลกแรก ทำให้การมีคะแนนหลักเดียว ส่งผลให้ต่อพิฆาตเริ่มลงมาอยู่ในโซนแดง สุดท้ายเกมที่บุกไปพ่าย หนองบัว พิชญ เอฟซี คือ วันชะตาขาดของ ทากิ กับการโดนปลด

      พีที ประจวบ เอฟซี เลือกจะเปลี่ยนเร็วเพื่อไม่ให้สถานการณ์ย่ำแย่ไปกว่านี้ อีกทั้งการเร่งหาโค้ชใหม่เสียตั้งแต่ตอนนี้ มันจะเป็นผลดีตรงที่โค้ชใหม่มีเวลาปรับจูนทีม ซึ่งสุดท้ายได้ปิดดีลกับ โค้ชหระ อิสระ ศรีทะโร โดยให้เข้ามาคุมตั้งแต่เกมนัดที่ 14 กับ โปลิศ เทโร เอฟซี กระทั่งจบเลกแรกลงไป บอร์ดบริหารของทัพต่อพิฆาต ได้จัดการเสริมนักเตะถึง 9 ราย โดยแบ่งเป็นอาเซียน 2 ราย คือ แพทริค ไรเชลท์ กับ อามิน นาซารี โควตาเอเชีย  1 ราย คือ ซุนนี ซะอัด ขณะที่นักเตะไทยจะมี นุกูลกิจ ครุฑใหญ่, ประวีณวัช บุญยงค์, อภิวิชญ์ เสมอเหมือน, ศรุฒ ณะศรี และ 2 ฝาแผดอย่าง ทิตาธร กับ ทิตาวีร์ อักษรศรี ซึ่งหากดูจากดีกรีของนักเตะทั้งหมด กับฝีมือของโค้ชหระ ก็เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ายอดทีมแห่งเมืองสามอ่าว จะสามารถยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ แต่จะรอดหรือร่วง ก็คงต้องตามไปลุ้นกัน

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ขอนแก่น ยูไนเต็ด

สรุปภาพรวม ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

นี่คือทีมสุดท้ายที่ได้เลื่อนชั้นจากไทยลีก 2 สู่ไทยลีก 1 ด้วยวิธีการจากการเพลย์ออฟ แถมยังยื้อไปถึงช่วงการดวลจุดโทษ ฉะนั้นจึงไม่แปลกหากกูรู หรือแฟนบอลโดยทั่วไปจะมองว่า ขอนแก่น ยูไนเต็ด เป็นทีมเต็งที่จะร่วงตกชั้น กระนั้นจากการแข่งขันในเลกแรกที่ผ่านมา จงอางผยองได้กลายเป็นอีกทีมที่สร้างผลงานระดับเซอร์ไพรส์เลยทีเดียว

      ขอนแก่น ยูไนเต็ด ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก 1 เป็นทีมสุดท้าย ซึ่งช้ากว่า 2 ทีมที่ขึ้นมาแบบอัตโนมัติราว 1 เดือน นั่นจึงเป็นผลให้แผนทำทีมและการเข้าสู่ตลาดซื้อขายนักเตะ ต้องล่าช้าและเสียเปรียบทีมอื่น กระนั้นการเสริมทัพของพวกเขา ก็ได้ตัวนักเตะระดับไทยลีกมาร่วมทีม รวมถึงการได้ ฮิบสัน เมโล่ ในโควตาต่างชาติ ซึ่งหากมองในตอนต้น มันก็พอที่จะหวังหนีตายได้

ขอนแก่น ยูไนเต็ด ใช้ระบบ 3-5-2 เป็นแผนเบื้องต้นสำหรับการลงเล่น โดยชัยชนะนัดแรกเกิดขึ้นตั้งแต่เกมนัดที่ 2 ของฤดูกาล เหนือ พีที ประจวบ จากนั้นเมื่อต้องมาเล่นในบ้านอีกหน พวกเขาต้องเจอกับฝันร้ายด้วยการโดน ชลบุรี บุกมาถล่ม 0-7 ซึ่งหลังจากนั้นจงอางผยองก็เป๋ไปหลายนัด จนเริ่มถูกมองน่าจะต้องหนีตาย แต่สุดท้ายพวกเขากลับมาได้ด้วยการชนะ หนองบัว ในดาร์บี้แมตช์อีสาน

และบุกไปตบสุพรรณบุรี 2-4 แบบนำไปก่อน 0-4 ตั้งแต่ครึ่งแรก ทำให้ความมั่นใจเริ่มกลับมา แต่กระนั้นเกมฟุตบอลก็เหมือนชีวิตของคน ที่ย่อมมีสุขและทุกข์สลับกันไป เพราะในเกมที่เปิดบ้านรับ ทรู แบงค็อก มันได้เกิดดราม่ากับการให้จุดโทษแก่ทีมเยือนแบบค้านสายตา จากนั้นกรรมการก็มาให้จุดโทษแก่พวกเขาแบบค้านสายตาเหมือนกัน แต่ เมโล่ ดันยิงออกไป

      รูปแบบการเล่นของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด จะเน้นเกมรับให้รัดกุม แล้วอาศัยการโต้กลับด้วยการวางบอลไปให้ เมโล่ ได้ฉายเดี๋ยว หรือให้ จักกริช กับปีกทั้ง 2 ข้าง เป็นตัวพาบอลขึ้นไปป้อนให้กับดาวเตะชาวบราซิล ฉะนั้น เมโล่ จึงกลายเป็นเดอะแบกที่ทีมจะขาดไปเสียมิได้ เพราะหากวันไหนขาดหายไป เกมรุกก็แทบจะจบสิ้น

ซึ่งตรงจุดนี้บอร์ดบริหารมองเห็นถึงปัญหา จึงจัดการดึง โรมูโล่ ที่เคยค้าแข้งกับหลายสโมสรในเมืองไทยมาร่วมทีม โดยการเข้ามาผนึกกับกำลังกับ เมโล่ น่าจะช่วยให้เกิดการประสานในเกมรุก อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน นอกจากนี้น้องใหม่จากแดนอีสาน อาจมองถึงการจบฤดูกาลด้วยอันดับกลางตารางก็เป็นได้  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปภาพรวม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

ในเลกแรกของฤดูกาลก่อน ทำผลงานได้ดีและขึ้นไปถึงอันดับที่ 4 ของตาราง จากนั้นในเลกที่ 2 ผลงานรูดลงมา แต่ด้วยแต้มบุญที่ทำไว้ในเลกแรก มันก็เป็นผลให้พวกเขาได้สิทธิ์ไปลุยถ้วยเอเชียในบั้นปลาย แม้ว่าสุดท้ายจะตกรอบตั้งแต่หัววัน แถมโดนคู่แข่งไล่ถล่มเป็นว่าเล่น ทั้งๆที่ตัวเองขอยื่นเป็นเจ้าภาพเพื่อความได้เปรียบแล้วแท้ๆ  อีกทั้งการเสียตัวแนวรุกต่างชาติออกไป พร้อมกับกัปตันของทีมอย่าง โรเลอร์ ก่อนหน้านี้ ถือเป็นความเสียหายและเป็นเหตุผลที่ทำให้ผลงานของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ดูดรอปลง

หลังจากตกรอบ ACL รอบแบ่งกลุ่ม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เห็นถึงสิ่งที่ทีมขาด จึงได้ทำการเสริมแนวรุกอย่าง แดรเลย์ เข้ามา เพื่อหวังให้เป็นตัวทำสกอร์ แต่ทีมดันไม่เสริมแนวรับเข้ามาเสียอย่างนั้น โดยการเปิดฤดูกาลใหม่นี้ ราชันมังกรยังคงยึดการเล่นหน้า 3 ตัว แต่ผลงานที่ออกมาถือว่าหลุดจากที่คิดไว้เยอะ เพราะการเล่นเกมรุกดูต่างคนต่างเล่นและไม่ค่อยช่วยเหลือกัน ทำให้ภาพที่ออกมามัก คือ หน้าซ้าย-ขวา ป้อนบอลให้กับหน้าเป้า แต่ต้องมีอันถูกสกัดง่ายๆอยู่ร่ำไป ถัดมาที่ตำแหน่งแดนกลาง ไม่มีความสำคัญและไม่สามารถแจกจ่ายบอลไปให้แดนหน้าได้ ซ้ำร้ายในแผงกองหลัง การใช้ตัวไทยแบบล้วนๆ มันไม่สามารถต้านทานเกมรุกของคู่แข่งที่มีตัวต่างชาติระดับเกรดเอได้ อีกทั้งคู่แนวรับอย่าง ปวีร์ กับ ปวีณวัชร์ ยังมีความผิดพลาดที่เกิดจากตัวเองอีก แล้วนั่นก็เป็นภาระให้ กัมพล ต้องเซฟแบบรัวๆ จนได้สถิติว่าเป็นผู้รักษาประตูที่มีจังหวะเซฟมากที่สุดในลีกอีกด้วย

ผลงานในเลกแรกของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ขยับขึ้นลงอยู่แค่บริเวณกลางตาราง ส่วนที่แย่สุดๆ คือ ใกล้โซนแดง เมื่อผ่านเกมที่ 10 กับ สมุทรปราการ แต่สุดท้ายสามารถถีบตัวเองขึ้นมาได้ชัยชนะ กระนั้นมันก็ไม่สบายใจ เพราะฟอร์มและทรงบอลไม่เข้าทีเลย โดยหลังจากจบเลกแรก ราชันมังกรมีการปล่อยตัวผู้เล่นออก ขณะที่ขาเข้าและชื่อชั้นดูเข้าท่า ประกอบไปด้วย คาราบูเอ้ ซาโตะ และ เยนเซ่น ซึ่งการเสริมทัพประมาณนี้ น่าจะเพียงพอสำหรับการหนีตาย หากมีการปรับปรุงวิธีการเล่น ตรงกันข้ามหากทรงบอลยังเป็นแบบเดิมๆ การตกชั้นของทีมใหญ่เหมือนที่ การท่าเรือ และ บีจี ปทุม เคยเจอ ก็อาจเกิดขึ้นกับ ราชบุรี ก็ได้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปภาพรวม โปลิศ เทโร เอฟซี

ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

เมื่อฤดูกาลก่อน โปลิศ เทโร เอฟซี ต้องเจอกับความยากลำบากในการหนีตาย แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ นั่นจึงทำให้พวกเขาติดโผที่มีลุ้นหนีตายอีกปีในซีซั่นนี้ กระนั้นเมื่อการแข่งขันเริ่มต้นจนจบเลกแรก พวกเขามีฟอร์มที่ไม่สวยหรู แต่ก็เก็บได้ถึง 20 แต้ม พร้อมกับการรั้งอันดับที่ 9 ของตาราง

      นับตั้งแต่ปีแล้ว โปลิศ เทโร เอฟซี ปล่อยและขายตัวผู้เล่นหลักออกทีมค่อนข้างเยอะ ตรงข้ามกับการเสริมเข้ามาใหม่ ที่ชื่อเสียงเรียงนามไม่เสมอเหมือนกับคนที่ออกไป หรือหากมองที่ตัวสำรอง ก็ล้วนแต่เป็นตัวชราภาพและใกล้ปลดระวาง ฉะนั้นมันจึงไม่แลกนักถ้าจะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มทีมตกชั้น      

      ฟุตบอลของโค้ชอ้น รังสรรค์ เป็นฟุตบอลที่มีระบบชัดเจน คือ เล่น 4-3-3, 4-2-3-1 ในบ้าน ส่วนถ้าออกเป็นเล่นเป็นทีมก็อาจปรับเป็น 3-4-3 กระนั้นจากผลงานในช่วง 5 นัดแรก ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดำดิ่งสุดๆ เพราะต้องรอถึงนัดที่ 6 ถึงจะเจอชัยชนะ แล้วจากนั้นก็คว้าชัยได้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งในแผงเกมรับดูเป็นจุดอ่อน เพราะมักถูกคู่แข่งยิงบ่อย อีกทั้งไม่ว่าใครจะลงมาเป็นผู้รักษาประตู ก็จะต้องเซฟจนเจ็บมือ ขณะเดียวกัน แนวรุกก็ไม่มีการขึ้นบอลที่เป็นระบบเอาเสียเลย อีกทั้ง เปาลิสต้า ที่เป็นแนวรุกคนสำคัญก็ดันมีอาการบาดเจ็บ กระนั้นยังดีที่ เจนภพ สามารถเป็นมวยแทน แล้วยิงประตูได้สม่ำเสมอ ทำให้ในหลายๆนัดได้แต้มมา แม้ว่าเหนื่อยแทบลากเลือดก็ตาม  

ในทันทีที่จบเลกแรก ผลงานของ โปลิศ เทโร ออกมาดีแบบเกินคาด แต่ในทางกลับกันปัญหาเรื่องการเงินของสโมสร ได้กลายเป็นปัญหาให้ทีมต้องมีเรื่องขัดใจกับนักฟุตบอล เริ่มจากผู้รักษาประตู 2 ราย อย่าง ประสิทธิ และ กิตติภูมิ ที่ถึงขั้นยอมแหกกฎไปเล่นบอลเดินสาย หรือในรายของ เจนภพ ที่เลือกจะอำลาทีมไป เพื่อไปอยู่ในทีมที่มั่นคงกว่า แม้โอกาสลงสนามจะน้อยนิด

ส่วนการเสริมทัพในเลกที่ 2 ได้มีการดึงผู้รักษาประตูโคตรประสบการณ์อย่าง สินทวีชัย เข้ามาเฝ้าเสา กับ กรวิทย์ ที่เป็นอดีตปราการหลังทีมชาติ ซึ่งดาวเตะวัยชราภาพทั้ง 2 ราย ได้หลีกหนีสังกัดเก่าที่ค้างคาค่าเหนื่อยมาหลายเดือน พร้อมกันนั้นยังได้ดึงตัว เรียว มัตซึมูระ มาจาก บีจี ปทุม เพื่อเพิ่มความการลากเลื้อยทางริมเส้น ซึ่งจากการเสริมทัพดังที่กล่าวมานี้ ก็คงจะเพียงพอต่อการอยู่รอดอีกปี  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปภาพรวม ศึกรีโว่ไทยลีก

การท่าเรือ เอฟซี ในเลกที่ 1 ฤดูกาล 2021/22

ศึกรีโว่ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 ในเลกแรก ของ การท่าเรือ เอฟซี ถือว่าเป็นอีกครั้งที่ผลงานน่าผิดหวัง เพราะเมื่อช่วงต้นฤดูกาล พวกเขาได้จัดการเปลี่ยนเฮดโค้ชมาเป็น ดุสิต เฉลิมแสน เพื่อหวังให้โค้ชดีกรีแชมป์ไทยลีกผู้นี้ รีดศักยภาพของนักเตะที่มีคุณภาพอยู่แล้วออกมาให้ได้ แต่สุดท้ายก็ทำทีมได้เพียง 4 เดือน ก่อนจะลาออกเพื่อรับผิดชอบผลงานที่บู่สุดขีด   

      การท่าเรือ เอฟซี มีผลงานที่ล้มเหลวในลีกฤดูกาลก่อน แล้วตามด้วยการตกรอบแบ่งกลุ่ม ACL แบบไม่น่าประดับทับใจ นั่นจึงเป็นผลให้ มาดามแป้ง จัดการขยับโค้ชอู๊ด ลงไปเป็นผู้ช่วย พร้อมกับติดต่อไปยัง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เพื่อขอยืมโค้ชโอ่ง มาคุมทีม ซึ่งการได้กุนซือดีกรีแชมป์ไทยลีก มาดูแลนักเตะที่มีคุณภาพคับแก้วล้นทีม มันก็ได้ก่อเกิดความหวังครั้งใหม่ สำหรับการคว้าแชมป์ไทยลีกสมัยแรกในปีนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าโค้ชโอ่งไม่ได้มีฝีมือมากขนาดนั้น รวมถึงแนวทางการทำทีมและเสริมนักเตะของสิงห์เจ้าท่า “ที่คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ”

เมื่อการแข่งขันออกสตาร์ท การท่าเรือ เอฟซี เผชิญกับอาการสะดุดและยังไม่มีระบบการเล่นที่ลงตัว ซึ่งในเกมนัดที่ 3 กับ ขอนแก่น ดูเหมือนว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น แต่พอนัดต่อๆมา มันก็เป็นในลักษณะวงจรอุบาทก์ กล่าวคือ แพ้ ชนะ เสมอ สลับๆกันไป กระทั่งถึงนัดที่บุกไปพ่าย นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-1 ที่สิงห์เจ้าท่าหมดรูปและสู้ไม่ได้อย่างสิ้นเชิง สุดท้ายโค้ชโอ่งประกาศลาออก ทั้งๆที่ทำงานได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น จากนั้นโค้ชอู๊ด สระราวุฒิ ตรีพันธุ์ ก็ได้กลับมารับตำแหน่งเฮดโค้ชคำรบ 2 พร้อมกับพาทีมเก็บชัย 3 รวดเร็ว เป็นครั้งแรก ก่อนจะมาสะดุดแพ้ หนองบัว พิชญ เอฟซี โดยหากดูผลงานอย่างละเอียดของโค้ชอู๊ด อาจจะพาทีมชนะก็จริง แต่ในแง่ของทรงบอลก็ไม่ได้ต่างจากที่คุมรอบแรก

      การจบเลกแรกด้วยอันดับ 4 และมีแต้มห่างจ่าฝูง 5 คะแนน อาจมีผลให้บอร์ดพอใจที่จะใช้บริการโค้ชอู๊ดต่อไปในเลกที่ 2 แต่อย่างที่กล่าวไปในย่อหน้าที่แล้วว่าทรงบอลของโค้ชอู๊ด ไม่ได้แตกต่างจากที่คุมรอบแรก แล้วในเมื่อมันไม่ดี มันก็มีความเสี่ยงที่ในอีกครึ่งทางที่เหลือ จะไม่สามารถไล่บี้แต้มได้ทัน มิหนำซ้ำอาจมีระยะแต้มห่างมากกว่านี้ และท้ายที่สุด การท่าเรือ เอฟซี อาจต้องรอคอยแชมป์ไทยลีกไปอีก 1 ปี เพราะยังจมปลักกับการใช้โค้ชที่ไม่มีศักยภาพเพียงพอ และการนโยบายซื้อนักเตะ ที่เสริมไม่ตรงกับความต้องการของทีม  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover