ช้างเอฟเอ คัพ 2021/22 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ศึกฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2021/22 เดินทางมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นที่เรียบร้อย โดย 4 คู่แรกที่จะนำมาสรุปนี้ ก็ได้มีเหตุการณ์ล้มยักษ์ จนถึงเลื่อนการแข่งขัน ซึ่งบทสรุปของทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ไปดูกันต่อที่ด้านล่างนี้

สงขลา เอฟซี 10-9 สมุทรปราการ ซิตี้ (เสมอในเวลา 120 นาที 1-1)

      ผลงานในไทยลีก 3 โซนภาคใต้ ของ สงขลา กลับมาดีและมีลุ้นไปรอบซุปเปอร์ลีกอีกครั้ง หลังจากมีอาการหลุดๆไป ส่วนเส้นทางในถ้วยใบนี้ ถล่มคู่แข่งขาดลอยมาตลอดทาง แต่ในวันนี้ต้องเจอศึกหนัก เพราะทีมที่มาเยือนมีดีกรีไทยลีกค้ำคอ กระนั้นเมื่อลงเล่นครบ 90 นาที ยังเสมอ 0-0 จากนั้นเมื่อต่อเวลาพิเศษถึงนาทีที่ 115 เหมือนโมเมตัมจะเหวี่ยงหาทีมเยือน กับประตูขึ้นนำ 0-1 แต่พอเอาบอลกลับไปเขี่ย เจ้าถิ่นก็ตีเสมอ 1-1 ได้แบบทันควัน ทำให้เกมต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ โดยการดวลเป้าตรงนี้ยิงกันเกือบครบและวนรอบอยู่แล้ว แต่คนที่ 10 ของสมุทรปราการ ดันยิงติดเซฟเต็มๆ นั่นจึงเป็นผลให้เงือกสมิหลาเข้าสู่รอบ 8 สุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร  

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4-1 ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด

      ถูกจับตามว่าเป็นเกมคู่ใหญ่ของรอบนี้ เพราะทีมหนึ่งต้องการกวาดแชมป์ ขณะที่อีกทีมเป็นสิงห์บอลถ้วย แต่เมื่อลงสนามไปได้ไม่นาน บุรีรัมย์ ก็มาได้ประตูนำจากจุดโทษ และลูกยิง 2-0 ของ ชูลาก้า จากนั้น เชียงราย ดูจะมีฮึดกับประตูไล่มา 2-1 แต่สุดท้ายก็มาเสียจุดโทษ 3-1 พร้อมกับประตูปิดกล่องท้ายเกม 4-1 ทำให้แชมป์เก่าต้องหยุดเส้นทางไว้แค่รอบนี้    

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-1 ลำปาง เอฟซี

      โคราช ได้เล่นบ้านและเจอทีมต่ำชั้นกว่า ทำให้เป็นต่อค่อนข้างเยอะ แล้วเพียง 5 นาที ก็ขึ้นนำไปก่อน จากนั้นก็มายิงเพิ่มเป็น 2-0 พร้อมกับการไล่ผู้เล่นลำปางออก ทำให้กลายเป็นเกมที่ง่ายของเจ้าถิ่น กระทั่งยิงเพิ่มเป็น 3-0 และประตูตีไข่แตก 3-1 ของรถม้ามรกต แต่สุดท้ายก็ไม่ทันและเป็นสวาทแคทที่เข้ารอบต่อไป ซึ่งมันเป็นรอบที่ลึกมากที่สุด ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาเลยทีเดียว  

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ อุทัยธานี เอฟซี (เลื่อนการแข่งขัน)

      หลังจากเกมกับ บีจี ปทุม มีการแจ้งว่านักเตะเมืองทอง ติดเชื้อโควิด-19  แล้วก่อนแข่งเกมนี้ก็ได้มีการขอเลื่อนจากฝ่ายเจ้าบ้าน เพราะมีผู้ติดเชื้อกว่า 18 ราย ฉะนั้นเกมนัดนี้จะเลื่อนไปเตะในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ แทน กระนั้นจากฝ่ายอุทัยธานี ก็ได้มีการออกมาทวงถาม เนื่องจากเป็นทีมเล็กและต้องออกค่าจ่ายต่างๆในการมาแข่งเป็นเยือน อีกทั้งการประกาศก็กระชั้นชิดเกินไป   

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ปราการยังน่าห่วง เปิดบ้านทำได้แค่เจ๊า เทโร 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 18 ในโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนาม กกท. บางพลี สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ต้องหยุดเล่นเมื่อสัปดาห์ก่อน จะต้องพบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ได้ลงเล่นมาต่อเนื่องและน่าจะได้เปรียบเล็กน้อย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมาใช้ 4-2-3-1 ส่วนทางฟากทีมเยือนเป็น 3-4-3

สมุทรปราการ ต่อบอลขึ้นมา โดยถ้าเห็นช่องจะแทงหรือวางเพื่อวัดทันที แต่ถ้าช้าและคู่แข่งถอยมารับเต็มพื้นที่ พวกเขาก็จะเซตหาช่องจนกว่าจะมีช่อง ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร จะเป็นแนวสวนกลับด้วยการลากบอลขึ้นมา แล้วรีบจบสกอร์ เพราะถ้าหากชักช้า แนวรับเจ้าบ้านจะถอยมารับเต็มพื้นที่และจะไม่มีช่องได้เจาะเข้าไปยิง กระนั้นด้วยความผิดพลาดของแนวรับเจ้าถิ่นที่สกัดบอลไม่ดี มันก็เป็นผลให้แนวรับมังกรโล่เงิน ได้เปิดบอลไปให้ เปาลิสต้า ได้โขกขึ้นนำ 0-1

สมุทรปราการ เกือบได้ประตูตีเสมอแบบทันควันและมีโอกาสแบบนี้อีกหลายหน รวมถึงมีโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แต่นักเตะของเจ้าถิ่นลงโทษและยิงประตูไม่ได้ โดยจังหวะการเข้าทำทั้งหลายนี้ เขี้ยวสมุทรจะพยายามเซตบอลในแดน 1-2 แล้วแทงวัดในแดน 3-4 ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร เกมรุกมีโอกาสสวนกลับเนืองๆที่ค่อนข้างแม่นยำ แต่พอเคาะมากจังหวะก็หมดโอกาสจนต้องยิงจากระยะที่ไกลและไม่อันตราย

ครึ่งหลัง เทโร พยายามแก้ลำด้วยการปิดพื้นที่ในแนวรับ เพื่อไม่ให้คู่แข่งได้วางหรือแทงบอลง่ายๆ กระนั้นพอเป็นเกมโดนโต้กลับ การป้องกันที่ว่าก็ใช้การไม่ค่อยได้ผล แต่ก็ยังไม่เสียประตู กระทั่งท้ายเกม แนวรับมังกรโล่เงินพลาดที่ไปเปิดพื้นที่ด้านข้างให้ได้เปิดง่าย กับการประกบตัวที่หละหลวมบริเวณเสาไกล ทำให้โดนโขกตีเสมอ 1-1 แล้วโมเมนตัมก็ดีดมาหาทางฝั่งสมุทรปราการ จนเกือบจะน็อคทีมเยือนได้เหมือนกัน แต่ดันทำไม่สำเร็จ

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ เกมรุกมีทรงและกดดันคู่แข่งได้พอควร แต่ปัญหา คือ ความเด็ดขาดที่ใช้โอกาสเปลื้องและต้องรอถึงท้าย โดยหากเฉียบคมกว่านี้ เขี้ยวสมุทรมีโอกาสเป็นผู้ชนะสูง ส่วนเกมรับ ยังมีความผิดพลาดง่ายๆและเป็นต้นเหตุให้เสียประตู ขณะที่ โปลิศ เทโร เอฟซี เกมรุกไม่จัดจ้านเท่าเจ้าบ้าน แต่พอมีโอกาสแล้วทำได้ จากนั้นพวกเขาพยายามใช้เกมรับอุดประตู ซึ่งมันก็เกือบจะโดนคู่แข่งส่องหลายหน กระทั่งท้ายเกมโดนยิงตีเสมอ สมาธิมีแกว่งเหมือนกัน กระนั้นยังโชคดีที่เจ้าบ้านไม่คมเอง ทำให้คว้า 1 แต้ม ออกมาแบบมีเสียว

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีโว่ไทยลีก นัดตกค้าง (พุธ 26 มค)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก วันพุธวันที่ 26 มกราคม มีเกมตกค้าง 2 คู่ ซึ่งถูกเลื่อนเนื่องจากคำประกาศของจังหวัดและปัญหาของทีมที่มีผู้เล่นติดเชื้อโควิด-19 โดยคำสั่งจากสมาคมฟุตบอล ก็ได้มีการกล่าวว่านับจากนี้จะไม่มีการเลื่อนโปรแกรมคู่ไหนอีก แล้วถ้าทีมไหนมีผู้ติดเชื้อก็จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ให้ แต่ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็จะปรับแพ้ กระนั้นก็ต้องดูกันต่อไปว่าสุดท้ายจะเป็นเพียงเสือกระดาษหรือไม่ สำหรับการแข่งขันนักตกค้างของทั้ง 2 คู่ จะลงสนามพร้อมกันในเวลา 18.00 ส่วนใครจะพบกับใคร แล้วความพร้อมและผลการแข่งขันที่คาดจะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราจะมาไล่เรียงกัน  

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด

      ตามตารางเกมคู่นี้ คือ แมตช์ที่ 16 โดยการเลื่อนมาจากคำสั่งของจังหวัด ทำให้ทางสโมสรได้ส่งเรื่องไปยังสมาคม โดยทางฝั่ง นครราชสีมา ออกสตาร์ท 2 เกมแรกได้ดี กับการบุกไปคว้า 3 มาจาก เทโร แต่ดันมาเสียแต้มในบ้านด้วยการเจ๊า เชียงใหม่ ทีมบ๊วย 2-2 ส่วนทางฝั่ง เชียงราย เปิดหัวด้วยไปบุกไปชนะ ราชบุรี ก่อนจะต่อด้วยการล้างแค้น ประจวบ 1-3 ทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัด ว่าเกมนอกบ้านของกว่างโซ้งดูจะดีกว่าในบ้าน แล้วยิ่งต้องมาเยือนถิ่นเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีโอกาสที่ทีมดังจากเมืองเหนือจะมาเก็บอย่างน้อยๆ 1 แต้ม       

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด

      ตามตารางเกมนี้คู่นี้ คือ แมตช์ที่ 18 หรือต้องลงเตะเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เกมมีอันต้องเลื่อนเพราะ นัเตะและทีมงานของ เมืองทอง ยูไนเต็ด มีผลบวกว่าติดเชื้อถึง 18 ราย นั่นจึงทำให้พวกเขาต้องขอเลื่อนเพื่อหยุดวงจรการระบาด โดยทางฝั่งของ ราชบุรี ลงเตะในบ้าน 2 นัด เก็บได้แต้มเดียวจาก บีจี ปทุม อีกทั้งกว่าจะได้แต้มนี้มา ก็เกือบโดนส่องไปหลายหน

ทำให้สภาพทีมของราชันมังกรดูไม่ดีและมีเสียวๆกับการหล่นประชิดโซนแดง ขณะที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ลงแข่งไป 2 นัด มี 2 คะแนน นับว่าเป็นผลงานที่ไม่เลว แต่หากเจาะลึกที่ฟอร์มการเล่น อาจจะยังไม่น่าประทับ กระนั้นการบุกมาเยือนถิ่นมิตร สเตเดี้ยม ก็คงต้องดูสภาพทีมของกิเลนผยองเป็นหลัก เพราะถ้าหากตัวจริงอยู่ครบ ยังไงก็ไม่แพ้ แต่ถ้าตัวหลักขาดไปหลายตัว เจ้าบ้านก็มีลุ้นเก็บแต้มทันที

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รอบ 32 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2021/22

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ ฤดูกาล 2021/22 รอบ 32 ทีมสุดท้าย เดินทางมาถึงโปรแกรมที่ลงเตะในช่วงหัวค่ำ ซึ่งใน 4 คู่สุดท้าย ไม่ค่อยพลิกโผกับการที่ทีมใหญ่จะเข้ารอบ แต่สุดท้ายก็มีทีมจากลีกสูงสุด ต้องกระเด็นหายไปอีก 1 ทีม  

เชียงใหม่ เอฟซี 0-1 ชลบุรี เอฟซี 

      เชียงใหม่ เอฟซี มีผลงานที่ขึ้นมาบ้าง หลังจากฟอร์มรูดจนแทบจะหลุดโคจรพื้นที่เพลย์ออฟไทยลีก 2 ส่วนเส้นทางของถ้วยใบนี้ในรอบที่แล้ว จัดการถล่มทีมจากไทยลีก 3 แบบไม่ใยดี ขณะที่ผู้มาเยือนต้องเน้นเต็มที่ เพราะการลุ้นแชมป์ฟุตบอลถ้วยเหลือเพียงถ้วยนี้ถ้วยเดียว ทำให้ตลอดทั้งเกม ชลบุรี พยายามบุกพรมใส่ กระทั่งสุดท้ายมาได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกม

นครปฐม ยูไนเต็ด 1-2  โปลิศ เทโร เอฟซี (เสมอกันในเวลา 90 นาที 0-0)

      นครปฐม มีผลงานที่ไม่มีดีนักในไทยลีก 2 เพราะด้วยสภาพทีมที่มีเด็กค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับฟุตบอลถ้วย พวกเขาไม่เป็นรองใคร แล้วในนัดนี้ได้ส่งชุดผสมลงสู้กับ เทโร ที่ได้พักมาเต็มๆเนื่องจากโปรแกรมเลื่อน นั่นจึงทำให้โค้ชอ้นจัดชุดใหญ่มาสู้ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเจ้าบ้านได้ในเวลาปกติ กระนั้นพอเข้าสู่ช่วงต่อเวลา เทโร มาขึ้นนำ 0-1 แต่ นครปฐม ก็ตามตีเสมอ 1-1 แบบทันควัน แล้วเกมเดินต่อไปเรื่อยๆจนเกือบจะหมดเวลาและไปสู้กันต่อในช่วงดวลจุดโทษ แต่สุดท้ายมังกรโล่เงินมายิงประตูนำ 1-2 ปิดท้ายและหมดเวลาไปเลย ทำให้เสือป่าราชาตกรอบหมดทุกถ้วยและต้องไปโฟกัสการหนีตายในลีกเพียงอย่างเดียว  

ชัยนาท ฮอร์นบิล 2-1 นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

      ชัยนาท มีผลงานในลีกที่ค่อนข้างดี อีกทั้งในบอลถ้วยก็ยังอยู่ในเส้นทาง กระนั้นการต้องเจอกับ โคราช ก็เป็นงานหนักไม่น้อย อีกทั้งโค้ชโจยังเลือกที่จะส่งชุดตัวจริงลงสนาม แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลายเป็นเจ้าบ้านนำไปก่อน 1-0 แล้วทีมเยือนมาตามตีเสมอ 1-1 กระนั้นไม่นานนัก นกใหญ่พิฆาตก็มายิงนำ 2-1 อีกครั้ง พร้อมกับประคองตัวจนชนะและเขี่ยทีมที่ใหญ่กว่าตกรอบไป

ระยอง เอฟซี 0-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

      ระยอง เริ่มต้นเส้นทางในถ้วยใบนี้ด้วยการบุกไปเฉือน ฉะเชิงเทรา จากไทยลีก 3 แต่พอเข้าสู่รอบนี้ ต้องเจอกับงานที่หนักหนาสาหัส เพราะผู้มาเยือน คือ บุรีรัมย์ ที่มีโค้ชและนักเตะใหม่ ทำให้เกมที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ถูกแฟนบอลตั้งตารอคอยที่จะเห็น บุรีรัมย์ ลงเล่น ซึ่งสุดท้ายแล้ว ทัพปราสาทสายฟ้าก็จัดการตบม้านิลมังกรไป 0-2 พร้อมกับผ่านเข้ารอบไปแบบชิวๆ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ราชบุรี แพ้ทางและแพ้พ่าย เชียงราย 0-1 จากการทำเข้าประตูตัวเอง

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 17ของฤดูกาล ในส่วนของโปรแกรมวันเสาร์ คู่แรก ณ สนามมิตรผล สเตเดี้ยม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ได้ลงเล่นในบ้านเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน จะต้องพบกับของอาถรรพ์อย่าง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 3-4-3 เหมือนเดิม

ทันทีที่เกมเริ่มต้นขึ้น ราชบุรี ก็มีปัญญาในเกมรับ เพราะแค่ออกบอลให้พ้นจากแดนตัวเองยังมีความผิดพลาด จนเกือบจะเสียประตูหลานหน ส่วนเกมบุกกว่าจะขึ้นบอลได้ ก็ต้องรอจนเกือบจบครึ่งแรก อีกทั้งจังหวะที่ปรากฏก็ไม่ได้ใกล้เคียง หรือมีรูปแบบการเข้าทำที่สวยงาม เพราะในหลายๆครั้ง กองหน้าอย่าง แดรเลย์ ต้องถ่างตัวออกซ้ายหรือขวาเพื่อรับบอล เนื่องจากเพื่อนป้อนบอลมาไม่ถึง ขณะที่ ลีโอ เชียงราย เหนือกว่าคู่ก็จริง แต่ไม่สามารถทำเกมบุกให้ต่อเนื่องได้ หรือการได้จังหวะเก็บตกจากความผิดพลาดของคู่แข่ง กว่างโซ้งมหาภัยก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้

ครึ่งหลัง เชียงราย ปรับแก้เกมบุกด้วยการใช้แดนกลางขยับเข้าไปช่วยกองหน้า เพื่อการสอดประสานและให้บอลส่งถึงกันโดยง่าย แต่กระนั้นทีมเยือนก็มาได้ประตูนำ 0-1 จากการเตะมุม แล้วบอลไปตกใส่เท้าผู้เล่นเจ้าบ้านเข้าประตูไป จากนั้น ราชบุรี พยายามเปิดเกมบุก แต่การเสียบอลกลางทาง ก็มีผลให้ทีมเยือนโต้กลับ แต่ก็ไม่สามารถลงโทษเจ้าถิ่นได้ กระนั้นต่อให้ราชันมังกรไม่เสียบอล ก็พาไปถึงแค่แดน 3 แล้วเคาะไปเคาะมาก่อนจบด้วยการยิงไกล หรือไม่ก็เปิดจากด้านข้างและไม่เข้าเป้าเลย

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ยังไม่มีพัฒนาการอะไรที่ดีขึ้น เพราะในแผงเกมรับยังเสียบอลหน้าบ้านตัวเองอยู่เรื่อยๆ โดยแม้ว่าจะไม่เสียประตู แต่สุดท้ายก็มีเหตุให้ต้องเสียจากความผิดพลาดส่วนบุคคล เช่นกันกับเกมรุก ที่แทบจะเจาะแดนอันตรายของคู่แข่งไม่ได้เลย มิหนำซ้ำยังเสียง่ายกลางทางอีก ขณะที่ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เกมรับแทบจะไม่เจอบททดสอบ เพราะประสิทธิภาพเกมรุกของคู่แข่งมันค่อนข้างน้อย ส่วนเกมรุกแม้ว่าจะมีการเสริมเข้ามา แต่มันยังไม่เห็นถึงความแตกต่าง และยังคงเห็นถึงปัญหาในการสร้างจังหวะเข้าทำ รวมถึงการจบสกอร์ที่เฉียบคม

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ประจวบ บุกทั้งเกม แต่สุดท้ายพ่าย ขอนแก่น คาถิ่น 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 16 ในส่วนของโปรแกรมเปิดหัววันอาทิตย์ ณ สนามสามอ่าว สเตเดี้ยม พีที ประจวบ เอฟซี ที่เปลี่ยนโค้ชและเสริมนักเตะแบบเต็มอัตรา จะต้องพบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่อาจจะเสริมไม่มาก เพราะผลงานเดิมก็อยู่ในเกณฑ์ดีอยู่แล้ว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านกลับมาใช้ 4-4-2 ส่วนทางฟากทีมเยือนยังเป็น 3-5-2 ตามเดิม

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น พีที ประจวบ ยืนดักสูงและบอลเอามาทำเกมบุก แต่การสร้างจังหวะเข้าทำไม่เร็วเพียงพอ จนโดนรบกวนและยิงไม่ถนัด พลางจะถ่ายบอลรอให้แบ็คสองข้างเติมขึ้นมาเปิด บอลก็ไม่เข้าเป้ากับศีรษะของเพื่อนเสียอีก กระนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส เพราะการตัดบอลเร็วกลางสนาม พวกเขาสามารถเปลี่ยนเป็นเกมรุกได้ทันที ขาดเสียเพียงประตูที่ยิงทิ้งยิงขว้างออกไป

ขอนแก่น ตั้งรับได้แน่นอน แต่มีปัญหาในเรื่องการออกบอลจากหลังสู่แดนกลางที่เสียง่ายๆตลอด กระนั้นหากพาบอลหลุดไปถึงข้างหน้าได้ มันกลายเป็นว่าเกมรุกของพวกเขามีโอกาสจบสกอร์ที่หวาดเสียวกว่าเจ้าบ้าน กระทั่งมาได้ประตูนำ 0-1 จากลูกจุดโทษในช่วงท้ายครึ่งแรก อีกทั้งจังหวะต่อมาก็เกือบได้ประตูทิ้งห่างอีกด้วย

ครึ่งหลัง ประจวบ พยายามจะบุกเพื่อท้วงประตูคืน ซึ่งกลายเป็นว่าการโยนดูจะมีลุ้น แต่จังหวะมันไม่เป็นใจเท่านั้น ขณะที่การต่อบอลทำชิ่งเข้าไป มันก็เริ่มจะมีจังหวะสวยๆช่วงท้ายเกม แต่ก็ยังไม่ได้เสียอีก ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น ยังคงวางแท็กติกตั้งรับแน่นๆและรอสวนกลับ ซึ่งการหาพื้นที่และความรู้ใจระหว่างผู้เล่น มันจึงเป็นผลให้การโต้ขึ้นมาแต่ละครั้ง จะพบภาพของการให้บอลที่แม่นยำแม้จะอยู่ไกลกัน แล้วมันก็น่าเสียดายที่พวกเขายิงประตูทิ้งห่างไม่ได้

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม พีที ประจวบ เอฟซี พยายามจะเล่นเกมรุกให้มีระบบ แต่ด้วยจังหวะการเข้าทำที่ช้าในแดนสุดท้าย มันก็เป็นผลให้พวกเขาเจาะไม่เข้า จนต้องพึ่งการเปิดจากแบ็คทั้งสองข้าง ซึ่งไม่มีความแม่นยำ ทำให้กล่าวสั้นๆได้ว่า “ลูก(พยายาม)ถนัดไม่ชำนาญ ลูกพลิกแพลงไม่มี” ขณะที่เกมรับ ไม่ค่อยเจองานหนัก แต่ดันไปพลาดทำเสียจุดโทษ ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น ยูไนเต็ด การยืนป้องกันหน้าปากประตูทำได้ดี แต่การออกบอลจากหลังบ้านตัวเอง คือ ปัญหาที่ต้องแก้ เพราะมันยังคงปรากฏให้เห็นถึงการเสียบอลง่ายๆอยู่ ขณะที่เกมรุกไม่ต้องพูดถึง เพราะการหาหน้าคู่ต่างชาติมาช่วย เมโล่ มันได้เกิดความลงตัวแล้ว ซึ่งขอเพียงแก้เพรสหลุดและจ่ายบอลให้ เพียงเท่านี้ก็ได้ลุ้นประตูแล้ว

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รีโว่ไทยลีก นัดที่ 18 คู่วันอาทิตย์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 17 ของฤดูกาล ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ มีเกมอีก 4 คู่ ให้ได้ติดตาม ซึ่งเกือบทุกคู่ล้วนแต่อุดมไปด้วยความเมามันส์ที่รออยู่ แต่สุดท้ายก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ว่าจะมีทีมไหนขอเลื่อนการแข่งขันอีกหรือไม่

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด (18.00 น.)

      ในช่วงออกสตาร์ท หลายฝ่ายค่อนข้างเป็นห่วงว่าโคราชจะไหวหรือไม่ แต่พอผ่านไปได้ครึ่งซีซั่น การเก็บแต้มไปเรื่อยๆ แม้ทรงบอลจะไม่สวย ก็มีผลให้พวกเขาเกาะกลุ่มกลางตาราง พลางสบายถึงการรอดตายได้ ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ เสริมทัพแบบจัดเต็ม จนสามารถสู้ บุรีรัมย์ ได้ดี แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่เด็ดขาด กระนั้นการบุกมาเยือนบ้านสวาทแคท ก็ยังเชื่อว่าเจ้าถิ่นจะมีลุ้นเก็บ 3 แต้ม   

ชลบุรี เอฟซี พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด (18.00 น.)

      ออกสตาร์ท 2 นัด ด้วยการมีคะแนนเดียว มันก็มีผลให้ ชลบุรี เริ่มจะกดดันเล็กน้อย เช่นกันกับทีมเยือนที่แม้ว่า 2 นัด จะเก็บได้ 3 แต้ม แต่นัดล่าสุดมันก็น่าเสียดายตรงที่ เมโล่ ยิงจุดโทษข้ามคาน จนพลาดโอกาสเก็บชัยชนะ ฉะนั้นเกมที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์นี้ ชลบุรี ที่เคยบุกไปยำมาถึง 0-7 มีโอกาสไม่น้อยที่จะเก็บ 3 คะแนน ในเกมนี้    

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี (18.30 น.)

      ดูเหมือนว่าลูปนรกของโค้ชอู๊ด จะกลับมาหลอกหลอน การท่าเรือ อีกครั้ง เพราะออกสตาร์ท 2 นัด เก็บได้ 2 คะแนน ซึ่งสิ่งที่ถูกวิจารณ์ คือ มีการเสริมทัพมาอย่างมากมาย แต่การจัดตัวผู้เล่นยังเป็นคนเดิมๆ อีกทั้งการแก้เกมก็ชอบขัดใจแฟนบอล ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เหมือนจะแย่ แต่พอมีช่วงเก็บ 3 แต้ม แบบรัวๆ มันก็มีผลให้พวกเขาหลุดโซนแดงแบบหน้าตาเฉย ฉะนั้นเกมนี้จึงเชื่อว่าสิงห์เจ้าท่า จะได้ 1 มากกว่า 3 แต้ม

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (19.00 น.)

      การเสริมทัพและเรียกตัวที่ถูกยืมกลับมา พร้อมกับการดึงโค้ชใหม่เข้ามา มันก็ได้กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวและช่วยให้ บุรีรัมย์ ดูโหดเหี้ยมขึ้นเป็นกอง เพราะจากผลงานที่ลงแข่งไป 3 นัด ก็เห็นๆกันอยู่ ส่วนทางฝั่ง บียู เริ่มต้นเลก 2 ด้วยอาการสะดุด แถมยังงามหน้าด้วยการตกรอบบอลถ้วยแบบคาบ้าน ทำให้สถานการณ์ของทัพแข้งเทพ ส่อแววจะล้มเหลวและไร้ถ้วยอีกปี อีกทั้งสถิติการเยือนช้างอารีนา ก็ไม่เคยเก็บชัยได้ ฉะนั้นจึงฟันธงได้ว่า ปราสาทสายฟ้า จะไม่แพ้ในถิ่น

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

ท่าเรือนำก่อน แต่ไ”สิงห์น้ำตาตก”ปหยุดเล่นจน บียู โดนตีเสมอ 1 -1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 16 ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามแพทสเตเดี้ยม การท่าเรือ เอฟซีที่เป็นสิงห์แรงปลายเมื่อช่วงท้ายเลกแรก จะเปิดรังรับรองจ่าฝูงอย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องชอกช้ำกับการพลาดเป็นรองแชมป์เลกแรก สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านและทีมเยือนต่างพร้อมใจกันวางระบบ 4-3-3

ช่วงต้นเกม ทรู แบงค็อก พยายามครองบอลและบุกใส่ โดยหากเป็นการขึงบุกจะทำอะไรไม่ได้มาก นอกเสียจากยิงไกลจากนอกกรอบ แต่ถ้าเป็นการสวนกลับ หรือขึ้นบอลเร็ว ความหวาดเสียวในการจบสกอร์จะมีมากกว่า ซึ่งมันน่าเสียดายที่ บียู ไม่สามารถคว้าโอกาสตรงนี้ให้เป็นประตูได้

ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ ช่วงต้นเกมต้องตั้งรับเยอะ แล้วเมื่อไรที่ได้สวนกลับ จะอาศัยการวางบอลจากริมเส้นในแดนตัวเอง ไปยังที่ว่างระหว่างกองหลังกับผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้แนวรุกวิ่งโฉบหรืออาศัยการเลี้ยงฝ่าพาบอลขึ้นไป จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป 25 นาที สิงห์เจ้าท่า เริ่มจะตั้งเกมของตัวเองได้ แล้วมีความพยายามจะต่อบอลตามช่อง กระทั่งมาได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่39 ซึ่งในจังหวะนี้ต้องชม ซัวเรส ที่หาพื้นที่ดีและพาบอลไปมุมอับ จนดึงตัวประกบให้หน้าประตูโล่ง แล้วจัดการปาดมาให้ อดิศักดิ์ ยิงง่ายๆ

ครึ่งหลัง บียู พยายามจะทำเกมบุก แต่มันไม่รวดเร็วพอจะเจาะแนวรับเจ้าบ้านได้ กระนั้นมันก็มีจังหวะเป็นใจให้ แต่ก็ดันตั้งเท้ายิงไม่ดีอีก ส่วนทางฝั่งการท่าเรือ เล่นอย่างผ่อนคลายด้วยการรอจังหวะโต้กลับ แต่ดันบวกประตูเพิ่มไม่ได้ ทำให้เมื่อเหลือ 25นาทีสุดท้าย โค้ชอู๊ดเลือกจะเน้นเกมรับเพื่อรักษาสกอร์ ตรงข้ามกับ บียู ที่ต้องส่งตัวรุกลงมา แม้จะไม่สมบูรณ์ โดยการลงมาของเหล่าตัวสำรอง มันก็มีโอกาสบ้าง แต่ดันโชคร้ายชนเสาด้านนอกกระทั่งช่วงทดเวลา บียู มาได้ประตูตีเสมอ1-1จากความพยายามแทงบอลตัดหลังและปาดบอลมาหน้าประตู ซึ่งในจังหวะนี้ ผู้เล่นเจ้าบ้านไปหยุดเล่น เพราะเห็นไลน์แมนยกธงแต่พอเช็ค VAR ปรากฏว่าไม่ล้ำหน้า

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี เล่นได้ตามมาตรฐาน โดยเกมรับยืนป้องกันได้ดีเมื่อถูกขึงใส่ แต่พอเจอเกมสวนกลับก็มีช่องให้คู่แข่งโจมตี รวมถึงช่วงที่เน้นตั้งรับ ซึ่งก็มีสัญญาณเตือนแล้ว สุดท้ายก็ไม่รอดกับการเสียประตู ส่วนเกมรุกมีแค่การเปิดบอลจากริมเส้นและอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะเป็นหลัก ขณะที่ ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด ถ้าเกมรุกเฉียบคม มันสามารถปิดจ็อบตั้งแต่ครึ่งแรกได้ แต่พอทำไม่ได้แล้วยังมาผิดพลาดจนเสียประตูอีก มันจึงเป็นผลให้ครึ่งหลังต้องเล่นอย่างลำบาก จนเกือบต้องยอมแพ้อยู่แล้ว ยังดีที่มาได้ประตูตีเสมอเก็บแต้ม ซึ่งอย่างน้อยมันยังดีกว่าไม่ได้เลย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

รอบ 32 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2021/22

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ในส่วนนี้จะเป็นการแข่งขันในรอบเวลา 18.00 น. ซึ่งมีการล้มยักษ์เกิดขึ้นอีกแล้ว ส่วนคู่ที่เหลือแม้ทีมที่ใหญ่กว่าจะผ่านเข้ารอบไป แต่กว่าจะผ่านไปได้ก็ต้องเหนื่อยถึงช่วงต่อเวลา โดยผลการแข่งขันและเหตุการณ์ต่างๆในเกมจะเป็นอย่างไร นับจากนี้เราไปดูกัน    

สงขลา เอฟซี 1-4 บีจีปทุม ยูไนเต็ด  

      เกมคู่นี้ถือว่ามีแฟนบอลเข้ามาชมในสนามมากที่สุดในรอบนี้ จากทั้งหมด 16 สนาม ซึ่งจากจำนวนที่แจ้ง 13,000 คน อาจขัดแย้งกับการประเมินจากสายตา ที่พุ่งถึง 2 หมื่น ส่วนในเกมการแข่งขัน บีจี ปทุม ออกนำไปก่อน แต่ สงขลา มาตามตีเสมอได้ อีกทั้งเกมทำท่าว่าเจ้าบ้านจะสู้ได้ดี แต่สุดท้ายพอเข้าสู่ครึ่งหลัง แชมป์ไทยลีก 1 สมัย ก็จัดการรัว 3 เม็ด จนชนะไป 1-4

เกษตรศาสตร์ เอฟซี 1-2 ขอนแก่น ยูไนเต็ด (เสมอใน 90 นาที 1-1)

       เกษตรศาสตร์ ตบทีมรองบ่อนจากไทยลีก 3 จนเข้ามาสู่รอบนี้ อีกทั้งยังต้องเจอกับ ขอนแก่น ซึ่งมันก็หนัก ในแง่ที่ทีมเยือนอยู่ในลีกสูงกว่า แต่อาจจะไม่มากมายจนถึงขั้นสู้ไม่ได้ ทำให้เกมที่ออกมา นาคามรกตสามารถตามตีเสมอ 1-1 และยื้อไปถึงช่วงต่อเวลา ซึ่งก็เกือบที่จะไปสู้กันต่อในการดวลจุดโทษ แต่สุดท้ายแล้ว จงอางผยอง สามารถยิงประตูชัย 1-2 ก่อนนกหวีดยาวจะดังเพียงนิดเดียว

ลำพูน วอริเออร์ 1-2 พีที ประจวบ เอฟซี (เสมอใน 90 นาที 1-1) 

     ลำพูน มีผลงานที่ดีในลีก ส่วนในเกมบอลถ้วยก็แอบหวังอยู่ลึกๆ ซึ่งการเล่นในบ้านและต้องเจอ ประจวบ ที่กำลังหนีตายในลีกสูงสุด มันก็พอจะมีลู่ทางให้พวกเขาล้มยักษ์ โดยการถูกขึ้นนำไปก่อน พวกเขาก็ใช้เวลาไม่นาน สำหรับการตามตีเสมอและยื้อจนไปถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ แล้วมันกำลังจะไปต่อในช่วงดวลจุดโทษอยู่แล้ว แต่บอลเจ้ากรรมดันไปโดนผู้เล่นของราชันโคขาว เข้าประตูในวินาทีสุดท้ายของช่วงต่อเวลาพิเศษ  

อุทัยธานี เอฟซี 1-0 เมืองทอง ยูไนเต็ด 

      จ่าฝูงไทยลีก 3 โซนภาคเหนือ มีผลงานที่ร้อนแรงสุดๆ อีกทั้งยังอยู่ในเส้นทางบอลถ้วยครบ โดยในถ้วยใบนี้ จัดการโค่น เมืองกาญจน์ แบบไม่เกรงชื่อชั้น แล้วการจับสลากดันต้องมาพบกับ เมืองทอง ที่เมื่อมองมุมไหน อุทัยธานี ก็เป็นรอง แต่พอเอาเข้าจริงๆ ลูกทีมของน้าเทิด สามารถต่อกรกับกิเลนผยองได้ดีและขึ้นนำไปก่อน จากนั้นก็ประคองสกอร์ จนโค่นอดีตแชมป์รายกายนี้ 1 สมัย ลงได้สำเร็จ+

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover