Categories
Sport

สรุปผล รีโว่ลีกคัพ

รอบ 32 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2021/22

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ ฤดูกาล 2021/22 รอบ 32 ทีมสุดท้าย คู่ที่ลงเตะช่วงเวลาบ่ายสามโมง ยังหลงเหลืออีก 2 คู่ ก่อนจะต่อด้วยคู่เวลา 5 โมงเย็นอีก 2 คู่ ซึ่งในส่วนนี้ไม่มีการล้มยักษ์ แต่กว่าที่ทีมใหญ่จะผ่านไปได้ ก็9hv’เหนื่อยทั้งคนเล่นและคนเชียร์ โดยผลทั้ง 4 คู่ ต่อไปนี้จะเป็นอย่างไร ด้านล่างนี้มีคำตอบรออยู่แล้ว  

นครราชสีมา ยูไนเต็ด 1-3  เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

      หัวจักรสีส้ม จัดการโค่นยักษ์อย่าง ขอนแก่น เอฟซี มาในรอบที่แล้ว ส่วนการเข้ามาสู่รอบนี้ อาจต้องเจอทีมที่ใหญ่ขึ้น แต่หากดูจากผลงานในลีกของ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด มันก็พอมีลู่ทางที่จะผ่านได้ กระนั้นการจัดทัพกึ่งชุดใหญ่ของช้างเผือก ก็ได้จัดการรัวก่อน 0-2 แต่เจ้าถิ่นไม่ยอม ไล่ตีตื้น 1-2 อย่างไรเสียพอเข้าสู่ครึ่งหลัง การโดนยิงเพิ่มเป็น 1-3 และมาโดนใบแดงอีก มันก็เป็นให้โคราชทีมน้อย ต้องกระเด็นตกรอบไป  

ปลวกแดง ยูไนเต็ด 1-3  สมุทรปราการ ซิตี้

      ปลวกแดง จัดเป็นอีกทีม ที่ล้มยักษ์อย่าง สุโขทัย มาในรอบที่แล้ว ขณะที่รอบนี้ต้องเจอทีมจากลีกสูงสุด ซึ่งการเริ่มต้นเกมด้วยการนำก่อน 1-0 ก็เริ่มทำให้หัวใจพองโต แต่สุดท้ายด้วยสภาพทีมของสมุทรปราการ ที่จัดผู้เล่นเกือบฟูลทีมลงสนาม ก็รัวคืน 1-3 พร้อมกับส่งเจ้าบ้านจอดป้ายเพียงรอบนี้

ราชประชา เอฟซี 1-3 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

      ในคู่เวลา 5 โมงเย็น ราชประชา ที่ผลงานในลีกไม่ดี ต้องพบกับทีมที่ผลงานไม่ดีเช่นกันอย่าง ราชบุรี ซึ่งการที่ตราชฎาออกนำไปก่อน ก็มีผลให้ราชันมังกร ดูเสียทรงไปพักใหญ่ ก่อนจะรวมใจกลับมาฮึดแซง 1-3 ในช่วงครึ่งหลัง กระทั่งผ่านเข้ารอบต่อไปได้ตามเป้า     

ลำปาง เอฟซี 5-6 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (เสมอใน 120 นาที 0-0)

     ลำปาง มีผลงานในลีกที่ดีเยี่ยม เช่นเดียวกันกับบอลถ้วยรายการนี้ ที่จัดการถล่ม ชัยนาท ยูไนเต็ด มาแบบไม่ใยดี กระนั้นการต้องเปิดบ้านรับ บียู ก็ถือเป็นงานที่หนักอย่างมาก เพราะทางฝั่งแข้งเทพ ก็มีเป้าหมายที่จะเข้ารอบลึกๆเพื่อลุ้นแชมป์ อย่างไรเสีย การที่โค้ชแบนจัดชุดผสม มาเจอกับทีมที่เล่นได้ดีแบบใส่ไข่พิเศษ มันก็เป็นผลให้รถม้ามรกต สามารถยื้อจนจบ 90 และ 120 นาที ด้วยการเสมอ 0-0 ซึ่งถึงตรงนี้ มันเป็นโอกาสทองที่ทีมเล็กจะโค่นทีมใหญ่ระดับประเทศได้ แต่สุดท้ายเจ้าบ้านมีความแม่นในการยิงจุดโทษน้อยกว่า ทำให้ทีมเยือนเป็นฝ่ายเข้ารอบต่อไปแบบหืดจับ

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“พลาดคนละที ดีคนละช่วง”

ชลบุรี แจกโชค ก่อนตามเจ๊า เมืองทอง 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 16 ในโปรแกรมของวันอาทิตย์ ชลบุรี เอฟซี ที่เป็นฉลามแรงปลายเมื่อท้ายเลกแรก และวันนี้ก็ต้องการเอาคืน เพราะเมื่อเลกแรกที่บุกไปเยือน อุตส่าห์นำถึง 1-3 แต่โดนตีเสมอ 3-3 ซึ่งทีมที่ว่านั้น คือ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ทำผลงานได้ดี แม้ตัวผู้เล่นจะไม่ใช่ดาวดัง สำหรับผังการของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-1-4-1 เหมือนเดิม

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ชลบุรี ขึ้นบอลจากหลังหรือกลาง ไปยังข้างหน้าตามสูตร แค่ยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้เท่านั้น ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ก็เล่นตามสไตล์ของตัวเอง คือ การขึ้นบอลจากแดนหลัง ซึ่งในวันนี้ต้องเจอการเพรสซิ่งที่หนักหน่วงในแดนกลาง จนขึ้นบอลไปข้างหน้าช้าและพื้นที่ปิด กระทั่งต้องโจมตีด้วยลูกเปิดริมเส้น

หรือการเลาะตัดเข้าไปลุ้นประตู กระนั้น ประตูนำ 0-1 ของกิเลนผยอง จริงๆไม่มีอะไร เพราะ ซาดอร์ ยิงไม่ดี แต่มันเป็นความผิดพลาดของ มูริลโล่ ที่ไปสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตู ซึ่งต่อให้ไม่สกัด ชนินทร์ ก็รับได้ จากนั้นกลายเป็นเจ้าถิ่นที่ต้องบุกมากขึ้น ซึ่งก็ทำได้ดีเพราะบอลถูกเซตขึ้นไปอย่างไหลลื่น แต่การหาพื้นที่ในแดนอันตรายยังไม่ดี แล้วส่งผลให้การจบสกอร์ไม่อยู่ในระยะที่อันตรายตามไปด้วย

ครึ่งหลัง ชลบุรี ยังขึ้นเกมบุกสไตล์เดิม แต่มีปรับเรื่องการยืนหาพื้นที่ในแดนอันตราย ซึ่งพอปรับตรงนี้ได้ การจบสกอร์ที่หวาดเสียวก็มาทันที แล้วไม่นานนักก็ได้ประตูตีเสมอ1-1 โดยการเล่นจังหวะนี้เคาะจากทางฝั่งขวา แล้วเปิดทแยงไปทางซ้ายสุดให้ กฤษดา โหม่งตั้งกลับมาให้ เครลิช ยิง แต่ในขณะเดียวกัน แนวรับของทีมเยือนก็พลาดกับการยืนเช็คล้ำหน้า จากนั้นชลบุรีเหมือนจะดีต่อเนื่อง แต่พอเวลาผ่านไปถึงช่วง 25 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นบุกไม่ขึ้นอีกเลย อีกทั้ง เมืองทอง กลายเป็นฝ่ายที่โหมบุกใส่และมีโอกาสหวาดเสียวหลายครั้ง จนน่าจะเป็นผู้ชนะจริงๆ ถ้าจบสกอร์ได้เฉียบคม

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี ขึ้นเกมรุกได้ดี แล้วพอมีการปรับแก้บางจุด ก็สามารถยิงได้ เช่นกันกับเกมรับที่ยืนปิดพื้นที่ได้ดี ซึ่งประตูที่เสียก็มาจากความผิดพลาดส่วนบุคคล กระนั้นพอเข้าสู่ช่วงท้ายเกม เกมรุกและเกมรับก็ดรอปลงจนเกือบจะแพ้เสียด้วยซ้ำ ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ยูไนเต็ด ชิงความได้เปรียบที่ได้ประตูนำไปก่อน แต่ก็ไม่วายที่จะต้องมาเสียประตูจากความผิดพลาดซ้ำๆซากๆของแนวรับ ที่ไม่เช็คล้ำหน้าให้ดี ส่วนเกมรุก ฉายแสงเต็มที่ในช่วงท้ายเกม ซึ่งมันน่าเสียดายตรงที่มีโอกาสหลายหนที่จะได้ประตูและ 3 แต้ม กลับบ้าน

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปผลงาน กองกลาง

ทีมชาติไทย ในศึก AFF SUZUKI CUP 2020

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 ที่พึ่งรูดม่านปิดฉากลงไป ทีมชาติไทยนับชาติที่มีทรัพยากรในตำแหน่งกองกลางแบบล้นทีม นั่นจึงทำให้ มาโน่ สามารถหยิบสอยและเลือกใช้แบบสะดวกมือ ซึ่งผู้เล่นรายใดจะเป็นดาวเด่นในการแข่งขันครั้งนี้บ้าง ด้านล่างนี้มีคำตอบและบทสรุปรายบุคคล

ชนาธิป สรงกระสินธ์

ว่าที่ดาวเตะคนใหม่ของ คาวาซากิ ฟอนตาเล่ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ด้วยโปรแกรมเจลีกที่คาบเกี่ยวกัน ทำให้กัปตันเจต้องตามมาสมทบทีหลัง และพลาดเกมแรก กับ ติมอร์ โดยการลงสนามในรอบแรกอาจจะต้องทำความคุ้นเคยกับแท็กติกใหม่ รวมถึงสภาพร่างกายที่มีไข้ ทำให้ฟอร์มยังไม่โดดเด่นนัก แต่พอเข้าสู่รอบรองและรอบชิง เมสซี่เจระเบิดฟอร์มอันสุดยอดออกมา กระทั่งพาทีมเดินไปถึงแชมป์ในท้ายที่สุด

ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร

แฟนบอลหลายคนล้วนจับตามองถึงการเล่นร่วมกันของ ธนวัฒน์ และ ชนาธิป ซึ่งสิ่งที่แฟนบอลคาดหวังว่าเจ้ากันจะเติมเต็มทีมชุดนี้ ก็ไม่เป็นไปตามที่หวัง โดยเฉพาะตั้งแต่เกม กับ ฟิลิปปินส์ จนถึงรอบชิง กับ อินโดนีเซียซึ่งดาวเตะว้าย 21 ปี โชว์ฟอร์มไม่ออกและมักถูก มาโน่ เปลี่ยนตัวออกอยู่บ่อยๆ

สุภโชค สารชาติ

ดาวเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำผลงานดีและเสถียรกับสโมสรต้นสังกัด ทำให้ มาโน่ ไม่ลังเลที่จะเรียกเจ้าเช็คมาติดทีม ซึ่งในระบบ 4-4-2 เจ้าตัวจะยืนหน้าคู่ แต่ถ้าเป็น 4-3-3 จะยืนหน้าฝั่งขวา โดยในรอบแรกอาจจะมีอาการเกร็งอยู่บ้าง แต่พอเข้าสู่รอบลึกๆก็เล่นได้อย่างมั่นใจขึ้น อย่างไรเสียด้วยสไตล์ของตัวนักเตะ มันก็ต้องแลกมากับการโดนคู่แข่งเข้าปะทะแบบหนักหน่วง โดยเฉพาะเกมที่พบกับ เวียดนาม ในนัดแรก

วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ

ดาวเตะป้ายแดงของ บีจีปทุม ยูไนเต็ด สลัดคราบของความเป็นดาวรุ่งตลอดกาลด้วยการโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมกับ ชลบุรี เอฟซี ตลอดเลกแรก ซึ่งนั่นเป็นผลทีมดังจากย่านคลอง 3 ต้องไปสู่ขอด้วยเงินราว 35 ล้านบาท อีกทั้งด้วยความร้อนแรงแบบนี้ มาโน่ จึงตัดสินใจที่จะเรียกมาติดทีม เพื่อหวังให้โชว์ฟอร์มเก่งต่อเนื่อง กระนั้นการลงเล่นในทีมชุดใหญ่หนนี้ เจ้ายิมไม่สามารถฉายความโดดเด่นในฐานะตัวสำรองได้ อีกทั้งเมื่อลงสนามมาแล้วยังหายไปจากเกมอยู่บ่อยๆ ฉะนั้นมันยังพูดไม่ได้เต็มปากว่าเจ้ายิมแจ้งเกิดกับทีมชุดนี้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปผล รีโว่ลีกคัพ

รอบ 32 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2021/22

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ ฤดูกาล 2021/22 เดินทางมาถึงรอบ 32 ทีมสุดท้าย ซึ่งในรอบนี้จะมีทีมจากไทยลีก 1 มาร่วมโม่แข้งด้วย โดย 4 คู่แรก ที่จะนำมาสรุปนี้ ก็ได้เกิดเหตุการณ์แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ถึง 2 คู่ แต่จะเป็นคู่ไหนและทีมใด ต้องไปตามต่อที่ด้านล่างนี้  

นครศรี ยูไนเต็ด หนองบัว 1-2 พิชญ เอฟซี

      หลังจากบุกไปถล่ม มหาสารคาม มาแบบสบายเท้า ในรอบเพลย์ออฟ รอบนี้ได้ถูกจับมาชนกับทีมจากไทยลีก 1 อย่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี ซึ่งกำลังโชว์ฟอร์มได้ดีในลีกสูงสุด โดยการเดินไกลของพญาไก่ชน ได้จัดทีมชุดผสม แล้วสามารถยิงประตูนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 13 และลูกที่ 2 นาทีที่ 69 ขณะที่เจ้าบ้านมาได้ประตูปลอบใจในช่วงทดเวลา    

เมืองเลย ยูไนเต็ด 6-5 การท่าเรือ เอฟซี (เสมอในเวลา 120 นาที 0-0)

      เส้นทางในถ้วยใบนี้ของ เมืองเลย ต้องเจอกับงานหนักอยู่เหมือนกัน เพราะในรอบที่แล้วต้องบุกไปเยือน นนทบุรี ทีมแกร่งจากโซนกรุงเทพและปริมณฑล แล้วจัดการเฉือนชนะมาได้ ส่วนรอบนี้ถือว่าหนักกว่า เพราะต้องรับทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งตลอด 120 นาที เมืองเลยสามารถยกระดับตัวเองขึ้นมาสู้กับทีมยักษ์ใหญ่อย่างสูสี กระทั่งเกมยื้อมาถึงการดวลลูกโทษ ซึ่งการยิงจุดโทษ สิงห์เจ้าท่าได้จัดการยิงชนคาน 2 หน ทำให้ท้ายที่สุดกลายเป็นนักรบเซไลที่ผ่านเข้ารอบไป

พิษณุโลก เอฟซี 1-2 ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด

      ในเส้นทางฟุตบอลถ้วย ถูกคู่รักคู่แค้นอย่าง อุทัยธานี เขี่ยตกรอบช้างเอฟเอ คัพ ไปแล้ว ทำให้เหลือเพียงถ้วยเดียวในรายการนี้ แล้ววันนี้ต้องเจอกับของแข็งอย่าง ลีโอ เชียงราย ซึ่งในช่วงต้นเกม ขุนพลนเรศวรทำช็อคด้วยการขึ้นนำก่อน 1-0 แต่ไม่นานก็ถูกตีเสมอ 1-1 กระนั้นเวลาที่ล่วงเลยจนเกือบครบ 90 นาที เชียงรายที่มาแบบเต็มทีมก็ยังยิงแซงไม่ได้ จนทำท่าว่าจะต้องต่อเวลา แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็มายิงประตูชัย 1-2 แบบหืดจับ ในช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย   

กระบี่ เอฟซี 3-2 สุพรรณบุรี เอฟซี (เสมอใน 90 นาที 1-1)

      ถล่ม กำแพงเพชร มาด้วยสกอร์มโหฬาร แต่สำหรับรอบนี้ต้องพบกับของแข็งอย่าง สุพรรณบุรี ที่แม้ว่าสถานการณ์ในลีกจะยังลูกผีลูกคน แต่หากเทียบศักยภาพกัน พวกเขาก็ดูเหนือกว่าเจ้าบ้าน อย่างไรเสีย อินทรีอันดามัน มาเล่นด้วยฟอร์มที่ดีแบบใส่ไข่พิเศษ กระทั่งจบ 90 นาที ด้วยสกอร์ 1-1 ขณะที่ในช่วงต่อเวลาพิเศษ กระบี่นำไปก่อน และสุพรรณบุรีไม่ยอม มาตีเสมอ 2-2 กระนั้นในนาทีสุดท้ายของเกม ทีมรองบ่อนจากไทยลีก 3 ก็มีฮึดกับการกระซวกทีมยักษ์ใหญ่ให้ล้ม ด้วยสกอร์ 3-2  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

โค้ชเกาหลี

เหมาะกับฟุตบอลอาเซียน ?

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI 2020 เป็นที่ทราบกันดีกว่า ทีมชาติไทย คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 6 แบบนอนมา กระนั้นหากดูถึงชาติอื่นๆ จะพบเห็นถึงความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เพื่อให้ตัวเองมีลุ้น ซึ่งการหันเหมาใช้บริการกุนซือชาติ คือ สิ่งที่เหล่าชาติอาเซียนนิยมทำ และโดยเฉพาะโค้ชจากเกาหลีใต้ ถือว่าเป็นสัญชาติที่เริ่มมาแรง หากดูจากผลงานของทีมชาติที่เข้าไปคุม   

หากย้อนกลับไปในศึก AFF SUZUKI 2016 ทีมชาติกัมพูชา เคยใช้บริการโค้ชชาวเกาหลีใต้อย่าง อี แต ฮุน ซึ่งแม้ว่าตามศักยภาพนักเตะจะเป็นรอง แต่กุนซือผู้นี้ก็ยกระดับให้ขุนพลอังกอร์วอริเออร์ ไม่ใช่ไม้ประทับที่จะให้ใครมาถล่ม 7-8 ลูกอีกต่อไป จากนั้น ทีมชาติเวียดนาม ที่ไม่ได้แชมป์ หรือประสบความสำเร็จใดๆมานานนับทศวรรษ คือ ชาติต่อมาที่ใช้บริการกุนซือแดนโสมขาว โดยการเข้ามาของ ปาร์ค ฮัง ซอ ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ของวงการฟุตขอลเวียดนาม เพราะกุนซือผู้นี้ได้พาทีมบินสูงในระดับเอเชีย ด้วยการคว้ารองแชมป์ U-23 กับการพาทีมชุดใหญ่เข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย เป็นครั้งแรก และที่ขาดไม่ได้ คือ การกวาดแชมป์ระดับอาเซียนทั้ง ซีเกมส์ และ AFF SUZUKI CUP แบบเรียบวุฒิ ขณะที่ชาติล่าสุดอย่าง อินโดนีเซีย เมื่อเห็นว่า ชิน แต ยัง วางมือจากการคุมทีมชาติเกาหลีใต้ จึงรีบไปสอยมาคุมทีมแบบทันทีทันใด แล้วก็อย่างที่ทราบกันว่า น้าชิน สามารถแปลงโฉมจากการูด้าที่ถอยหลังลงคลอง ให้กลายเป็นทีมรองแชมป์ AFF SUZUKI CUP 2020 แบบสุดเซอร์ไพรส์

จากที่กล่าวไปเช่นนี้ มันจึงเกิดคำว่าถามว่ากุนซือชาวเกาหลีใต้ เหมาะสมกับฟุตบอลอาเซียนใช่หรือไม่ มันก็คงตอบได้เต็มปากว่าใช่ เพราะฟุตบอลสไตล์เกาหลีใต้ จะเน้นกำลังและความมีระเบียบวินัย อีกทั้งแท็กติกก็ไม่ซับซ้อน ส่วนนักเตะในระดับอาเซียน ศักยภาพไม่สูงส่งมากนัก ทำให้หลายครั้งเกิดความล้มเหลว หากนำกุนซือต่างชาติ หรือญี่ปุ่นเข้ามา กลับกันพอเป็นโค้ชจากเกาหลีใต้ เพียงแค่พวกเขาเพิ่มกำลัง เพิ่มความเข้มข้นการในการฝึกซ้อมให้ยืนระยะในเกมได้ และใส่ทีมเวิรค์เข้าไป มันจึงใช้เวลาไม่นานก็จูนทีมติด อีกทั้งนักเตะก็สามารถตอบสนองความต้องการได้ สุดท้ายผลงานจึงออกมาดี แม้ทรงการเล่นจะไม่สวยงาม

อย่างไรเสีย แม้ว่ากุนซือชาวเกาหลีใต้จะทำผลงานได้ดี กับการมารับงานคุมทีมชาติในแถบอาเซียน แต่หากชาติใดต้องการผลงานแบบนี้ในระยะยาว มันก็จำเป็นต้องมีการพัฒนาลีก เพื่อให้โค้ชทีมชาติมีวัตถุดิบที่เพียงพอและเลือกใช้ได้สะดวกมือ ตรงกันข้ามหากลีกยังต้องหยุดยาวแรมปีเหมือน เวียดนาม หรือฟุตบอลลีกเตะคู่ขนานกับทีมชาติแบบ อินโดนีเซีย สุดท้ายการนำกุนซือเกาหลีใต้เข้ามาก็อาจเป็นเพียงการสร้างทีมแบบชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น 

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปผลงาน กองหน้า

ทีมชาติไทย ในศึก AFF SUZUKI CUP 2020

เป็นเวลานับกว่าทศวรรษที่ ทีมชาติไทย มีปัญหาในเรื่องของผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้า ซึ่งในทัวร์นาเมนต์ AFF SUZUKI CUP 2020 หนนี้ ถือว่าโชคดีที่ตัวหลักไม่ถอนตัวและอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดี โดยทั้ง 4 ราย ที่เรียกมาจะมีฟอร์มอย่างไรบ้าง เราจะมาสรุปกันด้านล่างนี้

ธีรศิลป์ แดงดา

หากไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ลาและไม่ถอนตัว ยังไงเจ้ามุ้ยก็ต้องถูกเรียกติดทีม ซึ่งการที่อายุอานามมากขึ้น มันก็มีผลให้ความเร็วลดน้อยถอยลงไป กระนั้นด้วยประสบการณ์บวกความเก๋า คือ สิ่งที่เจ้าตัวมีและนำมาช่วยทีม ทำให้เรายังคงเห็นการยิงประตูที่เฉียบคมและประคองทีมให้ได้ผลการแข่งขันที่ดี แม้จะเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดัน อาทิ เกมกับ ฟิลิปปินส์

ศุภชัย ใจเด็ด

ศูนย์หน้าจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจนได้ติดทีมชาติทุกชุด แต่ในรอบปีที่ผ่านมาดันเผชิญกับอาการฟอร์มตกและยิงประตูไม่ได้เลย กระทั่งในเลกแรกของศึกไทยลีกฤดูกาลนี้ ฟอร์มที่เคยไฉไลเมื่อวันวานได้หวนมาอีกครั้ง ฉะนั้นมันจึงไม่แปลกที่ มาโน่ จะเลือกบังอารม์มาติดทีมชุดนี้ ส่วนเรื่องฟอร์มการเล่น เจ้าตัวได้จัดการล่าตาข่ายมาได้ 1 ลูก จากเกมกับ สิงคโปร์ ส่วนบทบาทการลงสนามจะเน้นไปที่การเป็นตัวสำรอง และเปลี่ยนลงมา

อดิศักดิ์ ไกรษร

การย้ายกลับสู่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นสังกัดแม่ จัดว่ามีผลให้เจ้ากอล์ฟฟอร์มตก หากอ้างอิงจากจำนวนกประตูที่สวนทางกับตอนปล่อยยืมไปอยู่ การท่าเรือ เอฟซี กระนั้นด้วยประสบการณ์และบุญเก่าที่สะสมไว้มาก มันก็ได้หนุนนำให้ มาโน่ ยังคงไว้ใจและเรียกมาติดทีม แต่โอกาสการลงสนามก็จัดว่าน้อยนิด อย่างไรเสียเจ้าตัวก็ยังคงช่วยทีม ด้วยการยิง 1 ประตู ใส่อินโดนีเซีย

อดิศักดิ์ ไกรษร

การย้ายกลับสู่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นสังกัดแม่ จัดว่ามีผลให้เจ้ากอล์ฟฟอร์มตก หากอ้างอิงจากจำนวนกประตูที่สวนทางกับตอนปล่อยยืมไปอยู่ การท่าเรือ เอฟซี กระนั้นด้วยประสบการณ์และบุญเก่าที่สะสมไว้มาก มันก็ได้หนุนนำให้ มาโน่ ยังคงไว้ใจและเรียกมาติดทีม แต่โอกาสการลงสนามก็จัดว่าน้อยนิด อย่างไรเสียเจ้าตัวก็ยังคงช่วยทีม ด้วยการยิง 1 ประตู ใส่อินโดนีเซีย

เจนภพ โพธิ์ขี

ก่อนเริ่มฤดูกาลเกือบโดน โปลิศเทโร เอฟซี โละทิ้ง แต่พอได้รับโอกาส เจ้าตัวก็ได้ตอบแทนด้วยการยิงประตูแบบรัวๆ กระทั่งมีชื่อติดโผแต่ไม่ใช่ 30 คนสุดท้าย อย่างไรเสียในเมื่อฟ้ามันลิขิตว่าต้องติดทีมชาติ มันก็ได้เกิดเหตุตัวจริงขอถอนตัว ทำให้ท้ายที่สุด มาโน่ ได้เลือกดาวเตะผู้นี้มาติดทีมเป็นรายสุดท้าย และได้มีโอกาสลงสัมผัสเกมราว 10 นาที ในนัดที่ 2 กับ อินโดนีเซีย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ฉลามแรงปลาย”

ชลบุรี ฮอตต่อเนื่อง เปิดรังถล่ม ราชบุรี 3-0 กระโดดรั้งที่ 3 ปิดท้ายเลกแรก

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ของฤดูกาล ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานกลับมาไฉไลอีกครั้ง จะต้องเปิดรังรับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ถีบตัวเองออกจากโซนแดงได้แบบหวุดหวิด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-1-2 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-3-3

      ในช่วงต้นเกม ทั้ง 2 ฝ่าย เริ่มต้นด้วยเจาะพื้นที่ทางริมเส้น แต่มันก็ไม่ไปถึงแดนลึก กระทั่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ชลบุรี ตั้งหลักได้ก่อน แล้วพยายามจะขึงและยิงเมื่อมีโอกาส จนมาได้ประตูนำ 1-0 จากการประสานงานทางริมเส้นและในกรอบเขตโทษ ซึ่งหากไปย้อนดูภาพช้า จังหวะนี้ต้องอาศัยความเข้าใจล้วนๆ มิเช่นนั้นจะไม่ลงล็อคแบบนนี้ หลังจากนั้น ราชบุรี เป็นฝ่ายที่ต้องโหมเกมบุกใส่ แล้วมันก็กดดันคู่แข่ง จนถึงขั้นที่แนวรับฉลามชลมีสมาธิแกว่งๆไป กระนั้นการบุกเพลินๆ ลูกทีมของโค้ชเตี้ยก็มีโอกาสสวนกลับและเกือบจะได้ประตู แต่แนวรับของราชมังกรยังสกัดไว้ได้แบบทันควัน  

ครึ่งหลัง เกมค่อนข้างเปิดมากขึ้น โดยทางฝั่ง ราชบุรี พยายามจะเอาประตูตีเสมอให้ได้ ซึ่งมันก็มีจังหวะหวาดเสียวและใกล้เคียงที่จะเป็นประตู แต่มันก็ปรากฏให้เห็นถึงการขึ้นบอลจากแดนกลาง ที่ป้อนไปไม่ถึงแดนหน้า อีกทั้งหลายหนยังเสียบอลให้ ชลบุรี โต้กลับและฉีกแนวรับของทีมเยือนที่ยืนตำแหน่งผิดพลาด จนมาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 และ 3-0 อีกทั้งยังเกือบได้เพิ่มอยู่เรื่อยๆ แต่เจ้าถิ่นดันไม่คมเสียเอง

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี เล่นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและไม่ได้มีฟอร์มที่สุดยอดอะไร โดยเกมรับพอเจอการกดดันหนักๆ ก็มีภาพของการยืนซ้อนป้องกันที่ผิดพลาดเหมือนกัน ซึ่งยังดีที่คู่แข่งลงโทษไม่ได้ มิเช่นนั้นมีหงายหลังเหมือนกัน ส่วนเกมรุก มีการขึ้นบอล ประสานงาน และจบสกอร์ที่เฉียบคมขึ้น แต่หากดูจากจำนวนของโอกาส มันสามารถยิงได้มากกว่านี้ หากเฉียบคมเข้าขั้นมือสังหาร

ขณะที่ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี รูปเกมเฉื่อยชา จนต้องรอให้เสียประตูก่อน ถึงจะกระตือรือร้นขึ้นมา ซึ่งการลุกขึ้นมาทำเกมบุก มันก็ปรากฏให้เห็นถึงความไม่ลงตัว จนกลายว่าตัวเองไม่มีอาวุธที่หนักพอจะโจมตีคู่แข่ง มิหนำซ้ำการเสียบอลและแนวรับยืนหละหลวม มันก็เป็นผลให้ประตูของพวกเขา กลายเป็นประตูน้ำที่พร้อมจะเสียประตูตลอดเวลา  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นไทย

ในเกมเจ๊า อินโดนีเซีย คว้าแชมป์เจ้าอาเซียนสมัยที่ 6

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ทีมชาติไทย ถูก อินโดนีเซีย ตามตีเสมอ 2-2 แต่ผลรวม 2 นัด ไทย ชนะ 6-2 ทำให้คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 6 กระนั้นหากดูฟอร์มการเล่นในเกมนี้ ไม่ทราบว่าเป็นเหตุผลใด เพราะเหล่าขุนพลช้างศึกต่างร่วมใจกันโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน อีกทั้งมันต่ำตมจนมีน้อยรายที่ได้คะแนนดี

ศิวรักษ์ (4 คะแนน)

      ประตูแรกเสียแบบง่ายๆ จากนั้นก็เล่นแบบไร้ความมั่นใจ โดยเฉพาะจังหวะออกมารับและตัดบอล กระทั่งท้ายเกมเสียอีกลูก ซึ่งหากมองให้ดี มันยังไม่มุมและยังอยู่ในวิสัยที่จะปัดได้ 

นฤบดินทร์ (6 คะแนน)  

      ไม่มีความโดดเด่นนัก อีกทั้งได้แต่ช่วยเกมและไม่ค่อยได้เติมเกมบุก

ปวีร์ (5 คะแนน)

      ฟอร์มที่เคยโดดเด่น ถูกทิ้งลงแม่น้ำและกลับคืนสู่ฟอร์มเดิม ทำให้ในทันทีที่หมดครึ่งแรก มาโน่ จึงเลือกจะเปลี่ยนออกและเอากองกลางมายืนกองหลังแทน 

กฤษดา (7 คะแนน)

      เป็นอีกนัดที่ยังทำหน้าที่ได้ดีและไม่ความผิดพลาดแบบติดตา   

ธีราทร (6 คะแนน)

       ขึ้นเกมไม่ค่อยได้และลูกเปิดไม่ฉมังนัก ทำให้งานหลักต้องอยู่ในแผงเกมรับเป็นหลัก

สารัช (7 คะแนน)

      ครึ่งแรกงานหนัก ขณะที่ในครึ่งหลังงานเริ่มเบาและเดินเกมรุกได้บ้าง กระทั่งได้โอกาสยิงประตู 2-1 จากจังหวะที่บอลมาตกตรงหน้าพอดี ซึ่งมันเป็นการยิงที่ค่อนข้างดีทีเดียว    

ธนวัฒน์ (5 คะแนน)

      ไม่มีบทบาทกับเกม ซึ่งนับเป็นอีกเกมที่เจ้ากันเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้ครึ่งหลังถูกเปลี่ยนตัวออกอย่างรวดเร็ว

 สุภโชค (7 คะแนน)

      ครึ่งแรกได้บอลน้อย จนเมื่อเข้าสู่ครึ่งหลัง ก็พอจะมีจังหวะได้ลากเลื้อยจนมีส่วนสำคัญกับประตูที่ได้มา   

ชนาธิป (6 คะแนน)

       วันนี้ไม่โดดเด่นนัก แต่ด้วยบุญเก่าที่สะสมมา มันก็นำไปพารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมและดาวซัลโวร่วม

 บดินทร์ (7 คะแนน)

      การลากเลื้อยบอลสร้างความอันตรายได้ดี และเป็นจุดเริ่มต้นของประตูทั้ง 2 ลูก

 ธีรศิลป์ (5 คะแนน)

      พอพลังหมด ก็ไร้พิษสงที่จะขยับไปไหน ทำให้ทันทีที่หมดครึ่งแรก มาโน่ จึงเลือกที่จะเปลี่ยนออก

 อดิศักดิ์ ไกรษร (6 คะแนน)

      ได้บอลไม่เยอะ แต่ยังไว้ลายเรื่องความคมอยู่บ้าง ซึ่งในวันนี้จัดการยิงประตูตีเสมอแบบเลือดเย็น  

วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (6 คะแนน)

      ได้รับความไว้วางใจให้ลงมายืนเป็นกองหลัง ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดี แต่อาจจะไม่แนบสนิทนัก

พิธิวัตต์ (6 คะแนน)

      ลงมาในครึ่งหลัง แล้วสามารถช่วยให้เกมแดนกลางนิ่งขึ้น

ฟิลิป (7 คะแนน)

      ลงมาเล่นเป็นปีกขวา แล้วจัดการกระชากลากเลื้อยตามสไตล์

เจนภพ (ไม่มีคะแนน)

      เป็นรายสุดท้ายที่ถูกส่งลงมาช่วงท้ายเกม ทำให้ไม่มีคะแนนให้

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แพ้ปั๊บร่วงปุ๊บ”

สุพรรณบุรี ทำแสบ เปิดบ้านเชือด บียู 2-0 ฉุดแข้งเทพร่วงจ่าฝูงส่งท้ายเลกแรก

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ในส่วนของโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี สุพรรณบุรี เอฟซี ที่พึ่งปลดล็อคตัวเองด้วยชัยชนะ จะต้องเปิดรังทำศึกหนักกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องการ 3 แต้ม เพื่อปิดเลกด้วยการเป็นจ่าฝูง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 5-4-1 ขณะที่ทีมเยือนเป็นไปตามโผกับระบบ 4-3-3

ทันทีที่เกมเริ่มต้นขึ้น ทรู แบงค็อก พยายามครองบอลและบุกใส่ตามสไตล์ทันที แต่ผ่านไปได้แค่ 6 นาที สุพรรณบุรี กลายเป็นฝ่ายที่ขึ้นนำก่อน 1-0 ซึ่งในจังหวะนี้ ทีมเยือนต้องโทษตัวเองที่ปล่อยให้เจ้าบ้านครองบอลง่ายและแนวรับอย่าง ทอม เบียรห์ กับ เอฟเวอร์ตัน ดันพลาด จน ดานีโล่ ที่ยืนตรงนั้นพอดี ได้ยิงแบบไม่ยากเย็น หลังจากได้ประตูนำ สุพรรณบุรี ถอยรับเต็มพิกัดและยืนป้องกันได้ดีแบบไม่มีข้อผิดพาด พร้อมกันนั้นก็ปล่อยให้ บียู ต่อบอลไปเรื่อยๆ ซึ่งการต่อบอลมันก็ทำได้แค่ในแดน 1-3 และเปิดโด่งเข้ามา     

ครึ่งหลัง บียู ยังคงเดินหน้าบุก ซึ่งการเปิดบอลโด่งจากริมเส้น จริงๆมันก็เริ่มมีโอกาสให้ได้ลุ้น แต่กองหน้าตัวเป้าอย่าง คาร์เตอร์ โหม่งไม่ดีเอาเสีย ไม่ต่างกันกับกองหลัง ที่เปิดพื้นที่จนโดนคู่แข่งโหม่งเข้าไปเป็น 2-0 จากนั้น ทีมเยือน พยายามจะบุกต่อ แต่เจ้าบ้านก็เริ่มจะมั่นใจและเข้าถึงบอลเร็วจนทีมเยือนเล่นลำบาก กระทั่งหลายจังหวะต้องสูญเสียการครองบอลให้ช้างศึกยุทธหัตถี เอาไปเผาเวลาได้หลายจังหวะ ซึ่งกว่าแข้งเทพจะมีโอกาสลุ้นแบบเนื้อๆ เวลาก็ล่วงเลยถึงช่วงท้าย อีกทั้งจังหวะต่างๆก็ไม่เป็นใจ เพราะบอลที่ยิงออกไป ชนเสา ชนคาน และติดเซฟทั้งหมด

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี แนวรุกฉกฉวยโอกาสและแปรเปลี่ยนเป็นประตูได้ดี ทำให้เกมนี้เล่นสบาย ส่วนเกมรับก็ยืนได้ดีแบบไร้ที่ติในครึ่งแรก แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลัง ก็เริ่มมีรอยรั่ว แต่โชคดีที่ไม่โดนยิงประตู ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด คู่กองหลังต้องรับผิดชอบกับประตูที่เสียทั้ง 2 ลูก ซึ่งการเสียประตูเร็วทั้งในช่วงต้นครึ่งแรกและครึ่งหลัง มันก็มีผลให้สมาธิและสภาพจิตใจถดทอย จนไม่สามารถขึงเกมบุกแบบเบ็ดเสร็จได้ หรือต่อให้มีโอกาส ก็ดันทำได้ไม่ดีพอ ฉะนั้นสำหรับแข้งเทพ ถือว่าเสียหายอย่างยิ่งกับการไร้แต้มในเกมนี้  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“บ๊วยที่เกือบกลืนไม่ลง”

เทโร ข่มมิด แต่ได้แค่เฉือน เชียงใหม่ ช่วงท้ายเกม 1-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ของฤดูกาล ในส่วนของโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ทำได้แค่บุกไปเจ๊า ประจวบ มา วันนี้จะได้กลับมาเฝ้าบ้านรับทีมบ๊วยอย่าง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ซึ่งวันนี้ต้องพยายามเก็บแต้ม ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 15 ของฤดูกาล ในส่วนของโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนามบุญยะจินดา โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ทำได้แค่บุกไปเจ๊า ให้ได้ มิเช่นนั้นจะเหนื่อยในเลกที่ 2 สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ขณะที่ทีมเยือนปรับมาเป็น 4-2-3-1

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น โปลิศ เทโร ค่อยๆต่อบอลและทำเกมบุกไปเรื่อยๆ กระทั่งสามารถโจมตีได้รอบทิศทางและทุกรูปแบบ แต่ความเฉียบคมและการจบสกอร์แบบเหน่งๆมีน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถยิงประตูขึ้นนำได้ ทั้งๆที่องค์ประกอบทุกอย่างเหนือกว่าหมด ขณะที่ เชียงใหม่ การตั้งเกมรับไม่ได้แน่นหนาอะไร อีกทั้งมันควรจะโดนส่องเป็นประตูไปแล้ว แต่ก็เดชะบุญที่รอดตัวมาได้ ส่วนเกมรุกจะมาแบบนานๆทีทางริมเส้น แล้วไม่มีความอันตรายใดๆนัก เพราะขึ้นมาไม่กี่คนและต่อบอลกันไม่กี่จังหวะก็ต้องรีบยิง

ครึ่งหลัง เทโร ยังคงเดินเกมบุกเพื่อหาประตูแรก แต่การเข้าทำยังมีลักษณะเดิม คือ เข้าทำไม่ละเอียด จบสกอร์ไม่ดี ซึ่งการปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป มันก็มีผลให้ทีมเกิดความท้อถอยจนเกมบุกเริ่มจะตื้อ อีกทั้งยังเกิดอาการจำยอมที่จะแบ่งแต้มในเกมนี้แล้ว ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ เกมรับไม่ได้ดี แต่ในเมื่อไม่โดนยิง จึงเลือกที่จะเล่นแนวทางนี้ต่อไปและรอโอกาสสวนกลับเพื่อลุ้นเอา 3 แต้ม กลับบ้าน กระนั้นในช่วงทดเวลา เจ้าบ้านมาได้ประตูนำ 1-0 จากลูกเตะมุมที่จังหวะลงล็อค โดยมันเริ่มจากการโหม่งที่เหมือนจะออก แต่บอลดันไปเข้าเท้า ฮอนนี่ ได้จิ้มเข้าประตูไป

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม โปลิศ เทโร เอฟซี มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เหนือกว่าคู่แข่ง แต่พอเจอคู่แข่งที่อ่อนกว่า ดันอ่อนตามและเล่นไม่ดุดัน ซึ่งมันเกือบเสียหายถึงขั้นเสียแต้ม กระนั้นยังดีที่จังหวะฟุตบอลเป็นใจจนได้ประตูชัยช่วงท้ายเกม ขณะที่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด การพ่ายแพ้เพียงลูกเดียว ถือว่าเป็นความโชคดีแล้ว เพราะคุณภาพเกมรับไม่ได้ดีและพร้อมจะโดนยิงตลอด เพียงแต่ว่าเจ้าถิ่นยังยิงไม่ได้เท่านั้น เช่นกันกับเกมรุก ที่แทบจะไม่มีไอเดียการสวนกลับที่น่ากลัวเลย ฉะนั้นการพักเบรกราว 1 เดือน ช้างเผือกต้องเสริมทัพเป็นการด่วน มิเช่นนั้นตกชั้นแน่นอน 1000% (1 พัน)

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover