Categories
Sport

“อเดคนดวงแข็ง”

สุพรรณบุรี ทำช็อก บุกไปเชือด สมุทรปราการ ถึงถิ่น 1-2 หยุดสถิติแพ้ 7 นัดรวด

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 14 ในส่วนของโปรแกรมวันเสาร์ ณ สนาม กกท. บางพลี สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ฟอร์มรูดลงต่อเนื่อง จะต้องพบกับทีมที่ฟอร์มย่ำแย่ยิ่งกว่าอย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี ซึ่งแพ้รวดถึง 7 นัดติด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-4-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาเป็น 4-3-3

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น สมุทรปราการ ต่อบอลและเคลื่อนที่ตามสไตล์ อีกทั้งยังได้เห็นการตัดเข้าในของปีกทั้ง 2 ข้าง แต่ยังไม่มีจังหวะจบที่อันตราย กระนั้นระหว่างที่กำลังทำเกมอยู่ แดนกลางและหลังดันยืนตำแหน่งผิด ทำให้บอลแทงทะลุของ สุพรรณบุรี กลายเป็นประตูนำ 0-1 เสียอย่างนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่มีจังหวะบุก หรือต่อให้ครองบอลได้ ก็จะทำได้เพียงเลี้ยงวนเพื่อหลีกหนีการเพรสซิ่ง          

      หลังจากโดนยิงนำไปก่อน สมุทรปราการ พยายามจะเดินหน้าบุกต่อ แต่มันก็เป็นงานที่ยากขึ้น เพราะแนวรับทีมเยือนถอยไปรับแบบเต็มพิกัด ทำให้การใช้ลูกโยนต้องถูกงัดออกมา กระนั้นมันไม่มีทีเด็ดและไม่มีจังหวะอันตราย ตรงกันข้าม สุพรรณบุรี นานๆทีจะได้บอลขึ้นมาบุก ซึ่งการเคาะบอลในแดน 3 แล้วยิงไกลติดไซล์ก้อย ก็ได้กลายเป็นประตูทิ้งห่าง 0-2

ครึ่งหลังเริ่มต้นไปได้ไม่กี่นาที เนโต้ แจกโชคด้วยการจ่ายไปเข้าทาง ซากาอิ ให้ยิงสวนข้ามหัวเข้าประตูเป็น 1-2 ซึ่งในสถานการณ์ตรงนั้น สมุทรปราการ ได้โชคเล็กๆตรงที่ช่องว่างเหลือแค่ลูกเดียว แต่พวกเขาดันกดทีมเยือนไม่อยู่ อีกทั้ง สุพรรณบุรี ยังได้โต้กลับแบบมีความมั่นใจและไม่ตั้งรับแบบเต็มพิกัดเหมือนที่ผ่านมา โดยกว่าที่ลูกทีมของอิชิอิ จะขึงบุกได้ เวลาก็ใกล้จะหมดแล้ว นั่นจึงทำให้เวลาไม่พอที่ยิงตีเสมอ แล้วสุดท้ายต้องพ่ายแพ้ไป  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สมุทรปราการ ซิตี้ เกมรุกยังมีปัญหาในเรื่องของไอเดียการเข้าทำที่ค่อนข้างจำกัด แล้วในขณะเดียวกัน แนวรับดันเสียประตูง่าย อีกทั้งยังมาโดนลูกยิงแบบสุดปัญญาอีก นั่นจึงทำให้สถานการณ์หลังจากนั้นค่อนข้างอึดอัด ซึ่งกว่าจะรวบรวมสติและขึงบุกได้ เวลามันก็ไม่เพียงพอ ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี เกมรับเหมือนจะแน่นหนา แต่มันก็มีความผิดพลาดส่วนบุคคลจนเสียประตู อีกทั้งช่วงท้ายเกมก็มีอาการแกว่งให้เห็น กระนั้นยังดีที่เกมรุกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง แล้วมายิงประตูที่ 2 จากระยะไกลได้อีก ฉะนั้น 3 แต้มในวันนี้ ปัจจัยหลักมาจากจังหวะของฟุตบอลที่เข้าข้าง ขณะที่ฝีมือเป็นปัจจัยรอง

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“นอกบ้านไว้ใจกว่าง”

เชียงราย นอกบ้านไว้ใจได้ บุกเฉือน เชียงใหม่ ในล้านนาดาร์บี้แมตช์ 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 14 ของฤดูกาล ในโปรแกรมวันอาทิตย์ ณ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้กำลังรั้งบ๊วยและต้องการแต้ม จะทำดาร์บี้แมตช์ล้านนา กับ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ผลงานเกมเยือนดันดีกว่าในบ้าน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 4-3-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนยังเป็น 3-4-3

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เชียงราย ครองบอลได้เหนือกว่าชัดเจน แต่มันก็ตามที่คาด คือ ได้แต่ถ่ายบอลไปมาและไม่มีการแทงบอลจากแนวลึก ทำให้เข้าแดนสุดท้ายไม่ได้และไม่มีจังหวะจบสกอร์ ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ รู้ว่าเป็นรองจึงตั้งรับเพื่อซื้อเวลา เพื่อหวังอย่างน้อย 1 แต้ม ซึ่งมันดูเหมือนจะดี แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าแนวรุกฝ่ายตรงข้ามไม่มีประสิทธิภาพเองมากกว่า         การขึงเกมบุกของ เชียงราย มีเวลาและโอกาสค่อนข้างเยอะ เพราะแนวรับคู่แข่งไม่ได้บีบกดดันอะไร ทำให้การต่อบอลไหลลื่นขึ้น กระทั่งมีจังหวะจบสกอร์ แต่การยิงเกือบทุกครั้งมันไม่อยู่ในระยะที่อันตรายพอ อีกทั้งการวางเท้ายิงก็ไม่ดี กระนั้นก่อนจบครึ่งแรก กว่างโซ้งมหาภัยมาได้ประตูขึ้นนำ 0-1 จากการโขกลูกเตะมุม ซึ่งมันเป็นการโหม่งที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะมันเป็นการย้อนตัวมาโหม่งเสาแรก แล้วได้ทั้งทิศทางและน้ำหนักจนเสียบสามเหลี่ยมมุมบน

การเสียประตูของ เชียงใหม่ ทำให้ครึ่งหลังต้องพยายามทำเกมบุกเพื่อตีเสมอ ซึ่งพวกเขาพยายามเล่นให้น้อยจังหวะ แล้วแทงหรือโยนไปให้ โบลี่ กับ เดอลูว์ ที่อยู่แดนหน้าอย่างเร็วที่สุด กระนั้นด้วยศักยภาพการต่อบอลที่ด้อยกว่า มันก็มีผลให้พวกเขาต้องเสียบอลกลางทางให้กับทีมเยือนแบบถี่ๆ กระทั่งเวลาผ่านไป เชียงราย กลายเป็นฝ่ายที่มีโอกาสได้ประตูมากกว่า อีกทั้งยังมีพื้นที่และโอกาสจบสกอร์แบบเหน่งๆกว่าครึ่งแรก แต่ดันยิงทิ้งยิงขวางกันไปเอง ทำให้สกอร์ค้างอยู่ที่ 0-1 จนจบเกม  

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด เลือกวางหมากแรกด้วยการเล่นเกมรับ ซึ่งผลลัพธ์ในครึ่งแรกเหมือนจะดี แต่ก็ถูกเจาะอยู่เนื่องๆจนเสียประตู จากนั้นพอเข้าสู่ครึ่งหลัง สถานการณ์บังคับว่าต้องยิงประตู แต่สุดท้ายด้วยศักยภาพทุกอย่างที่เป็นรอง มันจึงมีผลให้ช้างเผือกไม่สามารถทำอะไรได้ดีไปกว่าการไม่เสียประตูเพิ่มและไม่พ่ายแพ้แบบเละเทะไปมากกว่านี้ ส่วนทางฝั่ง ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด เกมรุกยังคงเป็นปัญหา ยามต้องขึงบุกใส่ทีมที่มาตั้งรับ ซึ่งการเจอกับทีมที่แนวรับหละหลวมแล้วยังทำอะไรไม่ได้แบบนี้ มันก็สื่อให้เห็นชัดเจนแล้วว่าพวกเขาต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง มิเช่นนั้นเลกที่ 2 จะเหนื่อยหนัก

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ดีคนละครึ่ง”

สิงคโปร์ รูปเกมเป็นรอง ไล่เจ๊า อินโดนีเซีย 1-1 ในรอบรอง นัดแรก

ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 รอบรองชนะเลิศ คู่แรกและนัดแรก ที่สนามเนชั่นเนล สเตเดี้ยม ออฟสิงคโปร์ ทีมชาติสิงคโปร์ ที่เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่ม A จะต้องพบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่เบียดเข้าป้ายมาในฐานะแชมป์กลุ่ม B ด้วยจำนวนประตูได้เสีย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เมอร์ไลออนของโยชิดะ ใช้ 3-5-2 ส่วนทางฝั่งเดอะการูด้าของ ชิน แต ยัง เป็น 3-4-3

      การแข่งขันในช่วง 5 นาทีแรก ทั้ง 2 ทีม แลกหมัดกันทันที ซึ่งหากฝ่ายไหนรุกก็จะวัดด้วยการสาดบอลไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด ส่วนฝ่ายไหนต้องตั้งรับ ก็จะสกัดแบบทีเดียวเอาอยู่ จากนั้นพอเข้าสู่นาทีที่ 6 เป็นต้นไป รูปเกมเริ่มจะเป็นระบบมากขึ้น โดยทางฝั่ง ทีมชาติอินโดนีเซีย จะดูดีกว่า เพราะสามารถต่อบอลจากหลังสู่แดนกลาง แล้วพยายามสบโอกาสเพื่อออกบอลไปให้ปีกได้จู่โจม กระทั่งมาได้ประตูนำ 0-1 จากการตัดบอลได้ในแดนตัวเอง แล้วจัดการทำชิ่งกันแค่ 2 คน ก่อนจบด้วยการยิงบริเวณจุดวางลูกโทษ ซึ่งในจังหวะนี้ แนวรับฝ่ายตรงข้ามไปชะงักตอนทำชิ่ง จนเกิดการยืนป้องกันที่ผิดตำแหน่ง ขณะที่ ทีมชาติสิงคโปร์ รูปเกมดูเป็นรองเพราะวิ่งขยับหาช่องน้อยกว่า จ่ายบอลแม่นน้อยกว่า และที่สำคัญ คือ จังหวะเข้าทำที่เป็นการโยนหรือแทงแบบโต้งๆ ซึ่งมันทำให้เป็นงานง่ายของแนวรับในการสกัด    

ครึ่งหลัง สิงคโปร์ เลือกที่จะแลกด้วยการส่งแนวรุกลงมาเพิ่ม แต่ปัญหาเดิมๆอย่างที่กล่าวว่า การวิ่งน้อยกว่า การจ่ายบอลแม่นยำน้อยกว่า และการเข้าทำที่ไม่มีความแยบยลพอ มันก็เป็นผลให้ อินโดนีเซีย ดักบอลและเอาบอลไปครองได้อยู่เรื่อยๆ กระนั้นการต่อบอลมาถึงแดน 3 ของพวกเขา มันก็หมดความอันตรายลงไป เพราะมันได้แต่แทง จนบอลออกหลัง หรือโยนข้ามฟาก จนบอลออกข้างและโดนดัก กระทั่งการโดนดักจากบอลโยนข้ามฟาก ก็ได้กลายเป็นเกมโต้กลับของ สิงคโปร์ และประตตีเสมอ 1-1 ซึ่งการยิงของ อิรซาน ทำได้ดี แต่แนวรับของ อินโดนีเซีย ก็มีการยืนตำแหน่งที่ผิดพลาด

      หลังจากได้ประตูตีเสมอ รูปเกมของ สิงคโปร์ วูบวาบขึ้นมาทันที และเกือบขึ้นนำ แต่พอผ่านไปสัก 5-10 นาที รูปเกมก็ดีดกลับมาทาง อินโดนีเซีย กระนั้นแนวรับของเมอร์ไลออนที่ถอยลึกและไม่พลาดง่ายๆอีก มันก็มีผลให้เกมนี้จบลงด้วยสกอร์ 1-1

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทีมชาติสิงคโปร์ ศักยภาพและรายละเอียดต่างๆของเกม เป็นรองคู่แข่ง กระนั้นยังดีที่ว่าการแก้ของโค้ช ผสมกับความสามารถของนักเตะ ยังมีแต้มบุญให้พวกเขาตีเจ๊าในเกมนี้ได้ ส่วนทางฝั่ง ทีมชาติอินโดนีเซีย รูปเกมเหนือกว่า แม้การเข้าทำจะไม่หลากหลาย แต่ครึ่งหลังไปเล่นแบบเนือยๆจนโดนตีเสมอ กระนั้นการจะเอาคืน มันก็กลายเป็นงานยาก เพราะคู่แข่งไม่พลาดเปิดช่องให้แล้ว

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ยิงน้อยไปนิด”

ไทย เหนือกว่าทุกเหลี่ยม แต่สุดท้ายเฉือน ติมอร์ แค่ 0-2

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน หรือ AFF SUZUKI CUP 2020 นัดประเดิมสนามที่ เนชั่นเนลสเตเดี้ยมออฟสิงคโปร์ ทีมชาติติมอร์ เลสเต้ ที่ได้บายในรอบเพลย์ออฟ จะต้องพบกับเต็งแชมป์ของรายการอย่าง ทีมชาติไทย ที่ยังอยู่ในสภาพไม่ฟูลทีม อีกทั้งนี่ยังเป็นการประเดิมคุมทีมนัดแรกของ มาโน่ โพลกิ้ง อีกด้วย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม แซมบ้าน้อยมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทัพช้างศึกใช้ 4-3-3

      การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ไทย ครองเกมได้เหนือกว่าทันที แต่ปัญหาที่เห็นได้ชัดเจน คือ การเล่นบอลในพื้นที่แดน 3 ซึ่งตัวไม่มีบอลเคลื่อนที่น้อย ส่วนคนมีบอลก็ไม่ค่อยมีตัวเลือกในการจ่าย นั่นจึงทำให้การต่อบอลที่รวดเร็วเพื่อทะลุทะลวงไม่มี สุดท้ายจึงต้องพึ่งการเปิดจากแบ็คทั้งสองข้าง โดยมาตรฐานที่ต่างกันจึงทำให้ทัพช้างศึกมีโอกาสอยู่เนืองๆ แต่เพราะความเฉียบคมและการเล่นมากจังหวะ มันก็ส่งผลให้ทีมยิงประตูนำไม่ได้ ขณะที่ ติมอร์ พยายามตั้งรับให้แน่นหนาแต่ก็โดนเจาะถึงไส้ตลอด กระนั้นยังโชคดีที่คู่แข่งไม่คมเอง ส่วนเกมรุก แค่ต่อบอลให้พ้นจากแดนตัวเองยังลำบาก หรือต่อให้ไปได้ก็แค่ลากบอลและโดนรุมจนเสีย   

ครึ่งหลัง ไทย เปลี่ยนเอากลางรุกลงมาเพิ่ม แล้วใช้เวลาไม่นานก็ได้ประตูนำ 0-1 ซึ่งในจังหวะนี้มาจากการฉกบอลกลางทาง แล้วเป็น นฤบดินทร์ ที่เปิดให้ ปฐมพล จับบอล ลากหาพื้นที่ และยิงเข้าไป จากนั้นการบุกของ ไทย ดูจะผ่อนคลายมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเมื่อ ติมอร์ ได้บอล พวกเขาก็ใช้วิธีการถ่ายบอลหนีและค่อยขึ้นเกม อีกทั้งการขึ้นมาก็เน้นที่จะจบให้เร็วและยิงเข้ากรอบไว้ก่อน แต่พอศูนย์หน้าตัวหลักอย่าง ซัวเรช เจ็บ เกมบุกก็ไร้พิษสง ทันที จากนั้น ทัพช้างศึก สามารถเดินเกมบุกได้อย่างสะดวกและมาได้ประตูทิ้งห่าง 0-2 จากจังหวะที่เป็นใจของ สุภโชค

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทีมชาติติมอร์ ศักยภาพเป็นรองชัดเจน โดยแม้ว่าจะมาตั้งแผงเกมรับให้แน่นหนาที่สุด แต่ก็โดนเจาะเข้ามาตลอดเวลา กระนั้นด้วยความไม่เฉียบคมของคู่แข่งเอง ทำให้โดนยิงน้อย รวมถึงมีโอกาสที่จะบุกแลกในช่วงที่สกอร์ยังโดนนำไม่ขาด ขณะที่ ทีมชาติไทย เกมรับยังไม่มีข้อผิดพลาดแบบชัดเจน เพราะยังไม่เจอคู่แข่งที่แข็ง แต่สำหรับเกมรุก นับว่ามีอะไรที่ต้องปรับอีกเยอะ โดยเฉพาะการต่อบอลเข้าไปในแดน 3-4 ที่ยังช้าและไม่สอดรับกัน กระนั้นยังดีที่ความฉมังของบอลริมเส้นช่วยหนุนนำให้ได้ประตู

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย

ตัดเกรดผู้เล่นทีมชาติไทย ในเกมถล่ม พม่า 4-0

      ศึกฟุตบอล AFF SUZUKI CUP 2020 นัดที่ 2 สาย A ทีมชาติไทย ลงสนามและถล่มคู่แข่งอย่าง ทีมชาติเมียนมาร์ ไปขาดลอย 4-0 ซึ่งภายใต้สกอร์ที่มากขนาดนี้ ผู้เล่นที่ลงสนามไปจะคะแนนกันคนละเท่าไร นับจากนี้เราไปลุ้นพร้อมๆกัน  

ฉัตรชัย (5)  

      ไม่มีงานหนักให้ต้องเซฟยากๆ แต่การเล่นท่ายากมาเกินไปมันเกือบส่งผลให้ทีมเสียประตู

ทอม เบียรห์ (6)

      มีจังหวะต้องตามประกบคู่แข่งไม่กี่ครั้ง แต่การจ่ายบอลพลาดหน้าบ้านตัวเองมันติดตาจนต้องหักคะแนน

กฤษดา (7)

      น่าจะเป็นกองหลังตัวจริงในทัวร์นาเมนต์นี้ เพราะการอ่านเกมที่มองขาด อีกทั้งยังเติมเกมบุกได้ด้วย

ธีราทร (7)

      การเปิดบอลน่ากลัวเหมือนเคย แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ประตูจากการเปิดของโก๋อุ้ม

นฤบดินทร์ (8)

      เติมเกมได้สนุกสุดมันส์ อีกทั้งการเปิดบอลของเจ้าต้นฉมังสุดๆ แล้ววันนี้ได้เพิ่มอีกแอสซิสต์

พิธิวัฒน์ (6)

      ยืนคุมกลางรับ ทำให้บทบาทน้อย อีกทั้งยังมีจังหวะจ่ายบอลกลางสนามพลาด ทำให้มีอันต้องหักคะแนน

สารัช (6)

      มีบทบาทในการเชื่อมเกมกลางสนาม แต่ไม่ค่อยมีจังหวะจ่ายคิลเลอร์พาส ทำให้คะแนนไม่ค่อยขึ้น

ธนวัตน์ (7)

      การเชื่อมและสวิตช์บอลยังมีให้เห็นเหมือนเคย อีกทั้งวันนี้ยังได้เห็นลูกยิงไกลค่อนข้างบ่อย ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้ประตู แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของประตูที่ 2

ชนาธิป (6)

      การมีเมสซี่เจ ทำให้เกมแดนกลางไหลลื่น แต่ที่คะแนนน้อยเพราะมีโอกาสทองที่จะเป็นประตู แล้วเจ้าตัวดันชิพไปติดหัวกองหลังเสียอย่างนั้น

ธีรศิลป์ (6)

      ยิงได้ 2 ประตู ก็จริง แต่โอกาสทองที่มีมากมายก่ายกอง ดันยิงทิ้งยิงขว้างไปเสียอย่างนั้น

ศุภชัย (6)

      ถ่างตัวออกไปเก็บบอลด้านข้างเยอะ ทำให้ห่างจากประตูจนแทบไม่มีโอกาสได้ยิงนัก  

ศุภโชค (7)

      ลงมาในช่วงท้าย ซึ่งการเล่นง่ายๆและไม่มากจังหวะ มันก็ส่งผลให้ยิงประตูได้ 2 เกมติด

ฐิติพันธ์ (6)

      ลงมาช่วงท้าย แต่ดูเฉื่อยๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะร่างกายไม่สมบูรณ์ หรือต้องการถนอมตัว

ปฐมพล (6)

      ไม่ค่อยมีบทบาทนัก เพราะเมื่อไรที่บอลมาถึงตัว ก็จะถูกรายล้อมด้วยแนวรับคู่แข่ง

วรชิต (7)

      ลงมาแปบเดียวก็ยิงประตูได้ทันที ซึ่งการยิงลูก 3-0 แบบไม่จับ มันสื่อให้เห็นถึงความมั่นใจที่มีอยู่เต็มอก

ทริสตอง โด (7)

      ลงมาไม่นาน แต่ความโดดเด่นมีเทียบเท่า นฤบดินทร์ ซึ่งหากมองผ่านๆอาจเผอคิดว่าเป็นคนคนเดียวกัน

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ทีมชาติไทย ชุดลุยซูซูกิ คัพ 2020

เปิดรายชื่อผู้เล่นตำแหน่งปีกซ้าย-ขวา ทีมชาติไทย

จากการประกาศรายชื่อ 30 คน ของทีมชาติไทย ชุดลุยศึกซูซูกิ คัพ 2020 มาโน่ โพลกิ้ง ได้จัดการเรียกในตำแหน่งกองกลางเป็นจำนวนมากที่สุด ซึ่งในส่วนนี้ได้จำแนกและแยกแยะออกมาเป็นกลุ่มจำพวกปีก ซึ่งใครมีโอกาสจะได้ลงสนามกันบ้าง นับจากนี้เราจะไปวิเคราะห์กัน

สุภโชค สารชาติ

      ปีกเพชรน้ำงามจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นหัวใจของทีมในตำแหน่งปีก ที่สามารถรบกวนและทะลุทะลวงคู่แข่งได้ดีเยี่ยม ขณะที่ผลงานกับทีมชาติไทย แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวในยุคของ นิชิโนะ ฉะนั้นหากไม่มีอะไรพลิกโผ เราคงได้เห็นเจ้าตัวลงสนามอย่างแน่นอน   

บดินทร์ ผาลา

      ปีกจอมพลิ้วจาก การท่าเรือ เอฟซี เป็นตัวหลักให้กับสโมสรมาโดยตลอด ซึ่งด้วยคุณสมบัติการลากเลี้ยง ถือว่าเป็นจุดเด่นของเจ้าตัว แต่การจบสกอร์อาจเป็นจุดด้อย ส่วนผลงานกับทีมชาติไทย จะเป็นในลักษณะขาจร ฉะนั้นในทัวร์นาเมนต์อาจเบียดลงสนามยากสักหน่อย

ปกเกล้า อนันต์

      กองกลางสารพัดตำแหน่งจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อาจจะไม่ถึงขั้นเป็นปีกเต็มตัว เพราะการเล่นของเจ้าตัวสามารถเล่นได้เกือบทุกตำแหน่งในแผงกองกลาง ขณะที่ผลงานการติดทีมชาติไทย เริ่มต้นตั้งแต่ยุคโค้ชซิโก้ ส่วนหลังจากนั้นก็มีชื่ออยู่ตลอด แต่อาจจะไม่ได้ลงสนาม ซึ่งในทัวร์นาเมนต์นี้ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น

ศิวกรณ์ เตียตระกูล

      ปีกจอมลุยจาก ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ลงสนามให้กับต้นสังกัดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งฟอร์มการเล่นก็อยู่ในขั้นที่ดี แต่จุดอ่อนที่เห็นค่อนข้างชัด คือ การจบสกอร์ในระยะเผาขนที่มักยิงบอลไปดาวอังคาร ส่วนผลงานกับทีมชาติไทย ได้แจ้งเกิดกับบทบาทตัวสำรองทีเด็ดของ นิชิโนะ ขณะที่ในทัวร์นาเมนต์นี้ก็คงไม่ต่างกัน

ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์

      นักเตะสารพัดตำแหน่งในแนวรุกจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้กลายร่างจากกองกลางมาเป็นกองหน้าแบบเต็มตัว ซึ่งบทบาทที่เห็นจนชินตา คือ การเล่นร่วมกับ ธีรศิลป์ ส่วนตำแหน่งในทีมชาติไทย นิชิโนะ ให้เจ้ามิกกี้เล่นในตำแหน่งปีก แต่การคุมทีมภายใต้การนำของ มาโน่ ก็น่าสนใจจริงๆว่าจะจับเจ้าตัวลงเล่นในตำแหน่งไหน  

วีระเทพ ป้อมพันธุ์

      ปีกจอมลุยจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำผลงานได้โดดเด่นจริงๆกับสโมสร ซึ่งความดีความชอบที่ต้องยกให้ คือ เฮดโค้ชอย่าง มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ อย่างไรเสียการติดทีมชาติไทยในหนนี้ ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวอาจจะเป็นรองเพื่อนและรุ่นพี่รายอื่น ฉะนั้นอาจต้องยอมรับกับบทบาทอะไหล่สำรองไปก่อน  

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ทีมชาติไทย ชุดลุยซูซูกิ คัพ 2020

เปิดรายชื่อผู้เล่นตำแหน่งกองหลัง ทีมชาติไทย

ศึกฟุตบอลเอเอฟเอ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่จะระเบิดแข้งกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทีมชาติไทย ได้ทำการเรียกนักเตะตำแหน่งๆต่างรวม 30 คน เข้าสู่แคมป์ กระนั้นในตำแหน่งกองหลัง ก็ได้มีกระแสดราม่าถึงการถอนตัวของ พรรษา เหมวิบูลย์ ซึ่งเป็นตัวหลักของทีม ทำให้จากตัวเลือกที่มีอยู่เกิดความกังวลใจ อีกทั้งตำแหน่งกองหลังก็น่าจะเป็นจุดอ่อนที่สุดของทีมชุดนี้  

มานูเอล ทอม เบียร์ห

      ปราการหลังลูกครึ่งไทย-เยอรมัน จาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นตัวหลักของทีมชาติไทย มาตั้งแต่สมัยที่ราเยวัช ยังคุมทีมอยู่ ซึ่งจุดเด่นของเจ้าตัว คือ ลูกกลางอากาศ แต่ทางกลับกันดันมีจุดด้อยตรงความเชื่องช้า อีกทั้งการเล่นกับสโมสรในช่วงที่ผ่านมา ก็มักปรากฏให้เห็นถึงความผิดพลาดอยู่เนืองๆ ฉะนั้นแม้ว่า เบียร์ห จะมีโอกาสเป็นตัวจริงให้ทีม แต่ภาพของความผิดพลาดต่างๆนาๆมันก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว  

เอเลียส ดอเลาะ

      ปราการหลังลูกครึ่งไทย – สวีเดน จาก การท่าเรือ เอฟซี ถูกมองว่าไม่น่าติดทีมชาติไทยชุดนี้ เพราะจากผลงานตอนติดทีมชาติครั้งแรกในยุคของ นิชิโนะ ในเกมออกไปเยือนมาเลเซีย เจ้าตัวกลายเป็นจุดอ่อนให้ทีมพ่ายแพ้ ก่อนที่หลังจากนั้นจะไม่ได้เห็นชื่อของเจ้าตัวอีกเลย กระทั่งทัวร์นามเนต์นี้ นอกจากนี้ ผลงานกับสโมสรก็ไม่ได้ถึงขั้นยอดเยี่ยมอะไร เพราะมันยังปรากฏให้เห็นถึงความผิดพลาดและโดนแนวรุกเผาเครื่องบ่อยๆ โดยจุดด้อยของ เอเลียส คือ ความเชื่องช้าและอ่านเกมคู่แข่งไม่ค่อยทัน ฉะนั้นตรงจุดนี้จึงเป็นสิ่งที่แฟนบอลกังวล    

โจนาธาน เข็มดี  

ปราการหลังลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก จาก โอเดนเซ ถูกเรียกตัวมาติดทีมชาติไทยชุดยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลีย ซึ่งด้วยสรีระ การอ่านเกม และอารมณ์ร่วมกับเกมที่ค่อนข้างสูง ก็ได้กลายเป็นที่ประทับของแฟนบอล อีกทั้งยังมองว่านี่อาจเป็นความหวังใหม่ของทีมชาติไทย นั่นจึงทำให้ มาโน่ ไม่รีรอที่จะเรียกเด็กหนุ่มวัย 19 ปี มาติดทีมชุดใหญ่ ซึ่งนับจากนี้คงต้องวัดกันในสนามฝึกซ้อม ว่าสุดท้ายแล้วเจ้าตัวจะมีศักยภาพขนาดไหน ทั้งแง่ของฝีเท้าและประสบการณ์

ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์      

ปราการหลังไทยแท้เพียงคนเดียวในทีมชุดนี้ จาก ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ถูกเรียกเข้ามาติดทีมแทน พรรษา ที่ถอนตัวไป ซึ่งในทันทีที่ชื่อของเจ้าตัวปรากฏ แฟนบอลต่างมองว่านักเตะรายนี้ควรอยู่ที่ม้านั่งสำรองดีที่สุด เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยได้รับโอกาสติดทีมชาติอยู่เนืองๆ กระทั่งในยุคของ นิชิโนะ ที่มีการขนนักเตะไป 46 ราย แล้วมีการอุ่นเครื่อง แต่เจ้าตัวดันทำงามหน้าด้วยการโดนใบแดง หรือในเกมกับสโมสร เจ้าตัวก็พร้อมจะแสดงความผิดพลาดออกมาให้เห็น ฉะนั้นหากดูจากตรงนี้ ปวีร์ จึงน่าจะเป็นเพียงอะไหล่สำรองในลำดับท้ายๆเท่านั้น

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ทีมชาติไทย ชุดลุยซูซูกิ คัพ 2020

เปิดรายชื่อผู้เล่นตำแหน่งกองหน้า ทีมชาติไทย

การแนะนำและวิเคราะห์ถึงโอกาสของผู้เล่นทีมชาติไทย ในตำแหน่งๆต่างของชุดลุยศึกเอเอฟเอฟซูซูกิ คัพ 2020 ได้เดินทางมาถึงตำแหน่งสุดท้ายแล้ว นั่นคือ กองหน้า ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา เหมือนจะเป็นปัญหาของทีมมาโดยตลอด แต่สำหรับทีมชุดนี้อาจมลายหายไปเป็นการชั่วคราว เพราะจากฟอร์มและจำนวนที่เรียกมา มันอยู่ในขั้นที่น่าพอใจทีเดียว แต่ใครจะมีโอกาสจะได้ลงเล่นมากที่สุด นับจากนี้เราจะไปวิเคราะห์กัน

ธีรศิลป์ แดงดา

      ศูนย์หน้าวัยเก๋าจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หากไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ลาไม่ไปไหน ยังไงโค้ชทุกคนก็ต้องเรียกมาติดทีมอยู่แล้ว โดยในรอบปีที่ผ่านมา เจ้ามุ้ยมีสภาพร่างกายที่ดีขึ้น ทำให้สามารถลงช่วยสโมสรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย รวมถึงการรับใช้ชาติในครั้งนี้ด้วย แต่อย่างไรเสียด้วยวัยเลขสามกว่าของเจ้าตัว มาโน่ อาจจะต้องหาคนมาเล่นหน้าคู่ มากกว่าจะให้ยืนเป็นหน้าเป้าเดี่ยว เพราะนั่นอาจมีผลให้สภาพร่างกายกรอบและไม่พร้อมสำหรับการเล่นแบบทัวร์นาเมนต์ที่แข่งขันถี่ยิบเช่นนี้   

ศุภชัย ใจเด็ด

      ศูนย์หน้าที่เป็นดั่งกล่องดวงใจของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เคยสร้างผลงานอย่างร้อนแรงจนมีชื่อติดทีมชาติไทย ไม่ว่าจะชุดใหญ่หรือชุดเล็ก อีกทั้งหลายคนยังมองว่านี่คืออนาคตของทัพช้างศึกอย่างแท้จริง กระนั้นจากเหตุการณ์ที่เจ้าตัวโดนใบแดงในเกม U-23 ชิงแชมป์เอเชีย กับ เวียดนาม เจ้าอารม์ก็ฟอร์มร่วงไปเสียดื้อๆ ซึ่งมันย่ำแย่ถึงขั้นที่ว่าการยิงประตูกลายเป็นเรื่องยาก อีกทั้งการมีชื่อในสีเสื้อทีมชาติก็เริ่มไม่แน่นอน กระทั่งในฤดูกาลล่าสุด เจ้าอาร์มก็กลับมาฉายฟอร์มเก่งอีกครั้ง สุดท้ายการเรียกชื่อมาติดทีมชาติ จึงมีความเหมาะสมและไม่มีแฟนบอลคนไหนค้านได้ลง  

อดิศักดิ์ ไกรษร

      ศูนย์วัยเก๋าจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ฟอร์มดูจะดรอปๆไปพอสมควร หากเทียบกับปีที่แล้วที่ย้ายแบบยืมตัวไปอยู่ การท่าเรือ เอฟซี กระนั้นการที่เจ้าตัวมีชื่อติดทีมในหนนี้ ก็อาจเป็นเพราะความเก๋าและประสบการณ์ที่น่าจะช่วยทีมได้ในยามคับขัน

 เจนภพ โพธิ์ขี

      ศูนย์หน้าจอมขยันจาก โปลิศ เทโร เอฟซี ถูกเรียกติดทีมแทน ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ที่ได้รับบาดเจ็บและถอนตัวไป ซึ่งการติดทีมชาติไทย หนแรกของเจ้าตัว ถือว่าเป็นอะไรที่เกินฝัน เพราะก่อนเริ่มต้นฤดูกาล สโมสรต้นสังกัดมีแผนที่จะปล่อยตัวด้วยซ้ำไป แต่แล้วการตัดสินใจเก็บตัวไว้ใช้งาน ก็ได้ให้ผลตอบแทนเป็นประตู พร้อมกับแต้มสำคัญจากทีมน้อยใหญ่ ฉะนั้นการได้รับโอกาสในครั้งนี้ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์ย่อมเป็นโจทย์แรกที่เจ้าตัวมอง   

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ทีมชาติไทย ชุดลุยซูซูกิ คัพ 2020

เปิดรายชื่อผู้เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุก ทีมชาติไทย

จากการแนะนำและวิเคราะห์ถึงโอกาสการลงสนามของผู้เล่นทีมชาติไทย ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 มาหลากหลายตำแหน่ง กระทั่งในส่วนนี้ก็ถึงตาของตำแหน่งกองกลางตัวรุกกันบ้าง ซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นตำแหน่งที่ มาโน่ โพลกิ้ง ปวดหัวอยู่เล็กๆ เพราะมันมีการกระจุกตัวของผู้เล่นที่มีคุณภาพมากๆ กระนั้นใครจะมีโอกาสมากที่สุด นับจากนี้เราจะไปวิเคราะห์กัน   

ชนาธิป สรงกระสินธ์

      กองกลางห้องเครื่องของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่ จากเจลีก มีอาการบาดเจ็บรบกวนในช่วงต้นฤดูกาล แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี มีการเปลี่ยนนักกายภาพและสามารถลงเล่นได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องสภาพร่างกาย ขณะที่การติดทีมชาติไทย เป็นตัวหลักมาตลอดอยู่แล้ว อีกทั้งทัวร์นาเมนต์นี้ยังได้รับเกียรติให้เป็นกัปตันทีมอีกด้วย กระนั้นในแมตช์แรก เมสซี่เจจะพลาดการลงสนาม เพราะพึ่งเสร็จภารกิจกับสโมสรและจะเดินทางถึงสิงคโปร์ ในวันที่ 5 ธ.ค.

ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร

      กองกลางตัวรุกดาวรุ่งที่มีเลือดไทยแท้ๆของ เลสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่สามารถเบียดขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ก็จริง แต่จากการลงสนามช่วยทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลโลกและ U-23 ชิงแชมป์เอเชีย เจ้ากันก็ได้โชว์ให้เห็นถึงทักษะอันยอดเยี่ยมตามตำราของฟุตบอลยุโรปเลยทีเดียว อีกทั้งนี่จะเป็นอนาคตของทัพช้างศึกอย่างแน่นอน หากดูจากอายุอานามที่ยังอยู่ในวัย 21 ปี เท่านั้น ส่วนในทัวร์นาเมนต์นี้ การต้องมาผลึกกำลังกับ ชนาธิป ก็กลายเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ว่า มาโน่ จะทำอย่างไรดี ระหว่างสลับ เจ กับ กัน ลงสนาม หรือจะหาวิธีการและระบบเพื่อให้สองคนนี้ลงเล่นพร้อมกัน ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็มีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น  

วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ

      กองกลางตัวรุกใหม่แกะกล่องของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สามารถสลัดคำวิจารณ์ที่สบประมาทว่าเป็นดาวรุ่งตลอดกาลได้เสียที หลังจากโชว์ผลงานเทพกับ ชลบุรี เอฟซี ในเลกแรก ทำให้ล่าสุด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จัดการคว้าตัวในขณะที่เจ้ายิมกำลังรายงานตัวกับทีมชาติ ซึ่งมีการประเมินกันว่าค่าตัวในย้ายครั้งนี้ สูงถึง 35 ล้านบาท ทีเดียว

ส่วนการเล่นให้กับทีมชาติไทย เจ้ายิมโด่งดังและแจ้งเกิดตอนติดชุด U-16 จากนั้นก็จะเป็นชุดซีเกมส์ และห่างหายไป ก่อนที่จะติดชุดใหญ่ในหนนี้ กระนั้นการที่เจ้าตัวพึ่งกลับมาโชว์ฟอร์มดีอีกครั้ง มันอาจจะเป็นเรื่องยากสักหน่อยที่จะเบียดลงสนาม เพราะผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกันนั้นต่างโชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอในระยะเวลาที่ยาวนานกว่า    

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ทีมชาติไทย ชุดลุยซูซูกิ คัพ 2020

เปิดรายชื่อผู้เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรับ ทีมชาติไทย

ศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟซูซูกิ คัพ 2020 ที่จะเริ่มขึ้นอีกไม่ไม่กี่วันนี้ จากรายชื่อ 30 คน ของทีมชาติไทย ในยุคของมาโน่ โพลกิ้ง มีประกาศรายเรียกตัวนักเตะในตำแหน่งกองกลางค่อนข้างเยอะ ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นตำแหน่งในเชิงตัวรับ ซึ่งมีใครและใครมีโอกาสมากที่สุดที่จะได้ลงสนาม นับจากนี้เราจะมีวิเคราะห์กัน

สารัช อยู่เย็น

      กองกลางตัวรับจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นับเป็นขาประจำของทีมชาติไทยมาทุกชุด นับตั้งแต่โค้ชซิโก้ เข้ามาคุมทีม ซึ่งหากไม่เจ็บไม่ป่วยไม่ลา อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีชื่อเป็นสำรอง สำหรับผลงานที่ผ่านของเจ้าตัง อาจจะไม่หวือหว่า แต่มีความเสถียรในฟอร์มการเล่น ไม่ว่าจะในสีเสื้อสโมสรหรือทีมชาติ ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้โค้ชหลายคนไว้วางใจให้ลงสนาม อีกทั้งทัวร์นาเมนต์นี้ก็น่าจะได้เห็นเจ้าตัวลงสนามแน่นอน  

ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

      กองกลางบ็อกทูบ็อกจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด นับเป็นขาประจำของทีมชาติไทยอีกราย ที่จะต้องถูกเรียกเข้ามาติด ซึ่งด้วยสไตล์การเล่นที่ขึ้นสุดลงสุด แล้วไม่มีความผิดพลาดง่ายๆให้เห็น มันจึงทำให้โค้ชทุกคนชื่นชอบเจ้านิว อีกทั้งสไตล์ของเจ้าตัวก็น่าจะถูกกับจริตของ มาโน่ ที่ชอบนักเตะแนวๆเร็วแรงทะลุนรกอยู่แล้ว ฉะนั้นหากไม่มีอะไรผิดพลาด ยังไงก็ต้องส่งลงสนาม

พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล    

      กองกลางสมองเพชรจาก ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในยุคของนิชิโนะ ซึ่งนับจากนั้นจนถึงวันนี้ ฟอร์มการเล่นของเจ้าเต้ก็เสถียรมาตลอด ไม่ว่าจะอยู่ในสีเสื้อไหน นอกจากนี้เจ้าตัวยังมีคุณสมบัติในการยิงไกลที่ยอดเยี่ยม ซึ่งหากใครไม่เชื่อก็สามารถดูได้จากการลงเล่นกับสโมสร ส่วนโอกาสที่จะได้เห็นเจ้าตัวลงสนาม ก็คงต้องขึ้นอยู่กับ มาโน่ ว่าวันนั้นต้องใช้กลางรับกี่คน หรือจะมีการหมุนเวียนอย่างไร

กฤษดา กาแมน

      กองกลางจอมขยันจาก ชลบุรี เอฟซี เริ่มมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดเล็กเรื่อยมา จนล่าสุดครั้งนี้ก็ได้ติดทีมชุดใหญ่เสียที ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าตัวได้พยายามแสดงให้เห็นถึงความขยันและทุ่มเท ซึ่งมันนับเป็นเรื่องที่ดีที่ทีมชาติจะมีนักเตะคุณภาพไว้ให้เลือกใช้ นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่าเจ้าตัวเคยเป็นกองหลังมาก่อน ทำให้ตรงจุดนี้อาจมีเซอร์ไพรส์ก็ได้ กับการถอยให้ลงไปเล่นกองหลัง แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับโค้ช ว่าจะวางแผนและจัดตัวอย่างไร  

พิชา อุทรา

      กองกลางจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด นับเป็นขาจรของทีมชาติไทย ซึ่งในครั้งนี้ถือว่าเหมาะสมที่จะมีชื่อ เพราะผลงานกับสโมสรมันโดดเด่นเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่หากต้องวัดกระดูกกับคนอื่นในตำแหน่งนี้ มันก็ค่อนข้างยากที่จะเบียดลงสนาม

ติดตามข่าว Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover