Categories
Sport

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด(แข้งเทพ)

“โดนก่อน แต่แซงได้” บียู โดนนำไปก่อน แต่พลิกกลับมาแซง เชียงใหม่ 1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก สัปดาห์แรก ในส่วนของค่ำคืนวันเสาร์ ไปกันที่สนามสมโภช 700 ปี จ.เชียงใหม่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่พึ่งเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรก พบกับหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ปีนี้อย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนยังยึดแผน 4-3-3

          เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นมา แบงค็อก มีไอเดียการทำเกมบุกที่น่าสนใจ กล่าวคือ มีการสอดประสานที่ดีระหว่างกองกลางกับกองหน้า ผ่านการรู้จังหวะว่าจังหวะนี้ต้องถอย จังหวะนี้ต้องขึ้น จังหวะนี้ต้องขยับถ่างออกไป อีกทั้งถ้าจังหวะไหนโดนบีบจนต่อบอลยาก ก็จะใช้ความสามารถเฉพาะตัวของแนวรุกในการเลี้ยงฝ่าและจบสกอร์

แต่ด้วยระยะการยิงที่ยังไม่อยู่ในระยะทำการ จึงทำให้บอลยังไม่ผ่านมือ นนท์ ม่วงงาม ผู้รักษาประตูของเจ้าถิ่น ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ พยายามแพ็คโซนรับอย่างมีวินัย พร้อมกับเกมสวนกลับที่ค่อนข้างจำกัด เพราะนอกจากจะโต้มาน้อยครั้งแล้ว ยังถูกบีบให้เล่นแต่เพียงบริเวณริมเส้น กระนั้นด้วยโชคที่พกมาเต็มกระเป๋าจากจังหวะเตะมุม พีระพัฒน์ ดันยื่นเท้าไปโดนบอลและผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง บียู ขึงบุกด้วยไอเดียการเข้าทำที่หลากหลาย กระทั่งการหยอดแล้วเอาบอลลงให้ เฮแบร์ตี้ วิ่งมาซัด ได้กลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 จากนั้นแข้งเทพพยายามบุกต่อไป แล้วก็ได้ปรากฏให้เห็นถึงลูกเล่นอื่นๆอีก อาทิ การเบิ้ลบอลจังหวะเดียวเพื่อให้หลุดจากการประกบชิดของคู่แข่ง

โดยประตู 1-2 มีการเปิดข้ามฟากและสอดประสานจนได้ยิงเข้าประตู อย่างไรเสียทิศทางของมันไม่ได้ดีมาก แต่ผู้รักษาประตูดันเทน้ำหนักไปอีกทาง ส่วนช่วง 10 นาทีที่เหลือ ไม่มีใครทำอะไรได้ แข้งเทพของโค้ชแบน จึงคว้า 3 แต้ม กลับบ้านไป          

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด มีการป้องกันที่ดี เพราะสามารถต้านทานและไม่เปิดช่องให้คู่แข่งโจมตีง่ายๆ แต่ด้วยความที่คู่แข่งศักยภาพสูงจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หากจะเสียประตู แต่เกมรุก คือ สิ่งที่ต้องปรับ เพราะวันนี้ไม่มีไอเดียการเข้าทำอะไรแสดงออกมาเลย ซึ่งถ้ายังปรับไม่ได้ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับการลุยลีกสูงสุดหนแรก

ส่วนทางฟากของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรับไม่มีความผิดพลาดอะไร แต่ดันดวงซวยทำเข้าประตูตัวเอง ขณะที่เกมรุกนับว่ามีการเล่นที่น่าสนใจและดูตื่นตามากที่สุดในบรรดาทีมลุ้นแชมป์ ซึ่งนับจากนี้หากปรับจูนไปเรื่อยๆ เชื่อว่าแข้งเทพจะเป็นทีมที่ใครๆต้องกลัว

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960

Categories
Sport

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี (ราชันมังกร)

“งูเล็กแพ้งูใหญ่” ขอนแก่น โดน ราชบุรี เผาเครื่องคารัง 0-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดเปิดฤดูกาล ในค่ำคืนวันเสาร์ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร พบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พี่ใหญ่แห่งศึกไทยลีก ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-1-2 แบบรับเต็มพิกัด ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-5-1 เพื่อขับเคลื่อนเกมแดนกลาง

          ในช่วงต้นเกม ราชบุรี พยายามจะครองเกมให้เหนือกว่า แต่ด้วยการที่คู่แข่งมาแพ็คโซนรับแน่นหนา ทำให้การเจาะเป็นไปอย่างยากลำบาก อีกทั้งตัวเองก็ไม่ได้มีสปีดบอลที่รวดเร็วนัก กระทั่งนาทีที่ 26 ล็องจิล ตัดสินใจที่จะเลี้ยงฝ่าจากริมเส้นมายังหน้าประตู ซึ่งต้องผ่านผู้เล่นถึง 5 คน ก่อนจะได้ยิงแล้วไปแฉลบกองหลังเข้าประตูเป็น 1-0

ซึ่งในจังหวะนี้นับเป็นความยอดเยี่ยมของดาวยิงชาวฝรั่งเศสจริง แต่แนวรับของจงอาจผยองก็มีส่วนผิดพลาด เพราะหากมีความเหนียวแน่นมากพอ จะต้องมีคนหนึ่งเบียดแล้วอีกคนเข้ามาซ้อน หรือช่วยสกัดทิ้ง ไม่ใช่คนที่หนึ่งผ่าน คนที่สองหลังหัก คนที่สามเบียดๆ คนที่สี่และห้ายืนบังเฉยๆแบบนี้

          เกมบุกของ ขอนแก่น สามารถลำเลี้ยงขึ้นมาได้ดีพอสมควร อีกทั้งแนวรับคู่แข่งก็ไม่ได้มีการยืนตำแหน่งที่แน่นหนา ทำให้มีช่องสำหรับการยิง แต่จากที่ดูมันเหมือนกับว่าแนวรุกเจ้าบ้านยังยิงได้ไม่เน้นพอ โดยการตามหลังแค่สกอร์เดียว มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไร แต่แล้วในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก จงอาจผยองโดนโต้กลับ แล้วดันไม่ประกบชิดเดร์เลย์ ทำให้มีพื้นที่ยิงจ่อๆเป็น 0-2

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ครึ่งหลัง ขอนแก่น พยายามจะทำเกมบุก แต่มันไม่สามารถเจาะเข้าไปถึงแดน 3-4 ของคู่แข่งแบบต่อเนื่องได้ มิหนำซ้ำยังโดนโต้กลับอยู่เนืองๆ จนเริ่มเห็นได้ว่าแนวรับของจงอาจผยอง ไม่มีการตามประกบ ล็องจิล ที่ดีพอ เพราะเมื่อไรที่ได้บอลก็จะกระชากหลุดแล้วไม่มีตัวซ้อนเข้ามาช่วย ทำให้สกอร์จะไหลเป็น 0-3 มากกว่าเป็น 1-2

แต่ด้วยความไม่เน้นและไม่คมของราชบุรี เสียเอง ทำให้สกอร์ไม่ขยับและจบเกมด้วยสกอร์เดิมกับครึ่งแรก ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด ทำได้ดีกับการถอยไปรับลึก แต่เมื่อกำแพงแตกแล้วต้องดันเกมบุก มันก็เห็นได้ว่าพวกเขาหยุดความเร็วของคู่แข่งไม่อยู่ โดยเฉพาะการโดนโต้กลับ อีกทั้งยังไม่สามารถยืนตำแหน่งและประกบให้ชิดได้

ขณะที่เกมรุก พอไปวัดไปวาได้ แต่การยิงในทุกครั้งยังไม่ได้ทั้งทิศทางและน้ำหนักสำหรับการลีกสูงสุด ส่วนทางฝั่งราชบุรี มิตรผล เอฟซี เกมรับไม่มีข้อผิดพลาดที่ชัดเจน แต่ก็ยังเห็นการยืนป้องกันที่หละหลวมเล็กๆให้คู่แข่งโจมตีอยู่ ขณะที่เกมบุกเจอปัญหาเมื่อต้องเจาะแผงรถบัส

แต่สุดท้ายก็ทลายความเครียดลงหลังได้ประตูขึ้นนำ ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าถ้าไม่ได้ประตูแรกจาก ล็องจิล เกมบุกของราชันมังกรอาจอึดอัดและสกอร์อาจไม่ได้เป็นเช่นนี้

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960

Categories
Sport

พีที ประจวบ เอฟซี(ต่อพิฆาต)

“ดีคนละครึ่ง” ประจวบนำก่อน แต่ต้องตีเสมอ เมืองทอง ท้ายเกม 2-2

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 นัดแรกของฤดูกาล ในส่วนของคู่วันเสาร์ เวลา 18.00 น. ณ.สนามบุรีรัมย์ ซิตี้ (เขากระโดง) พีที ประจวบ เอฟซี ลงเล่นในฐานะเจ้าบ้าน พบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่อพิฆาตมาในระบบ 3-4-3 ส่วนกิเลนผยอง ปรับมายืน 4-1-4-1

          เพียง 3 นาทีแรกของเกม เมืองทอง เหม่อลอยแล้วเปิดแผลทำให้ ประจวบ ฉวยโอกาสนำไปก่อน 1-0 ซึ่งนอกจากสกอร์จะได้เปรียบ ทรงบอลและวิธีการก็ดูเหนือกว่าตลอด 45 นาทีแรก กล่าวคือ ลูกทีมของ มาซามิ ทากิ มีการเพรสซิ่งสูงไม่ให้คู่แข่งเซตเกมขึ้นมา แต่ถ้าดักไม่ได้ ก็จะถอยไปตั้งโซนรับแน่น ขณะที่เกมบุกจัดว่าไหลลื่น

เพราะเซตบอลจากหลังสู่หน้าแบบไม่มากจังหวะ อีกทั้งยังมีการเปิดเปลี่ยนแกนที่รวดเร็ว ซึ่งมันค่อนข้างตรงกันข้ามกับ เมืองทอง ที่ได้แต่ขึ้นบอลทางริมเส้นทั้ง 2 ข้าง แล้วเปิดไม่ค่อยเข้าเป้า ส่วนการทะลุทะลวงแดนกลางแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะแค่คิดช้าทำช้า ก็ถูกรุมบีบจนเสียบอลแล้ว

พีที ประจวบ เอฟซี
พีที ประจวบ เอฟซี

ครึ่งหลังต้องชื่นชม มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ เพราะมีการแก้เกมและปรับวิธีการบุก ด้วยการเจาะพื้นที่กลางสนามกับวางยาวทะลุช่อง ผสมกับการเปิดจากริมเส้น ซึ่งมันกลายเป็นความหลากหลายที่มากพอต่อการโหมบุกคู่แข่ง กระทั่งมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการโยนด้านข้าง ส่วนลูก 1-2 มาจากการเพรสซิ่งแล้วฉกบอลมายิง ขณะที่ประจวบ

ครึ่งหลังเลือกจะผ่อนคันเร่ง ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะมันเป็นวิถีปฏิบัติทั่วไปของทีมนำ แต่สิ่งที่ถือว่าผิดพลาด คือ การไม่เพรสซิ่งคู่แข่งเหมือนในครึ่งแรก เพราะนั่นทำให้คู่แข่งสามารถเซตบอลเข้ามาในแดนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับขึงบุกในแดนอันตรายได้ยาวนาน กระทั่งโดนเจาะตาข่าย 2 ประตู อย่างที่กล่าวไป แต่กระนั้นในช่วงท้ายเกม ความผิดพลาดส่วนบุคคลของคู่แข่ง ช่วยหนุนนำให้ต่อพิฆาตได้จุดโทษ แล้วตีเสมอเป็น 2-2      

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม พีที ประจวบ เอฟซี ได้เปรียบเรื่องสกอร์ที่ขึ้นนำตั้งแต่ช่วงต้นเกม อีกทั้งวิธีการเล่นในครึ่งแรก ก็จัดว่าเหนือกว่าคู่แข่งทุกอย่าง แต่ในครึ่งหลัง ความผิดพลาดทางแท็กติกถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมเกือบแพ้ เพราะดันถอนคันเร่งมากเกินไป ในขณะที่คู่แข่งแก้เกมมาดีและถูกจุด ซึ่งการตีเสมอได้ท้ายเกม ถือว่ามีดวงและโชคเข้ามาช่วยไว้ ส่วนทางฝั่ง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ครึ่งแรกมีความผิดพลาดและถูกลงโทษทันที ขณะที่เกมรุกมีมิติเพียงด้านเดียว แต่พอลงมาในครึ่งหลัง การแก้เกมช่วยพลิกฟื้นทีมให้กลับมานำ แต่น่าเสียดายที่ผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้กิเลนผยองต้องชวด 3 แต้ม ในวันนี้

พีที ประจวบ เอฟซี
พีที ประจวบ เอฟซี

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960

Categories
Sport

ความจริงแล้ว บาจโจ้ ไม่เหมาะกับการท่าเรือ ตั้งแต่แรก

ถึงตอนนี้คงเป็นที่แน่นอนว่าแล้ว จอห์น บาจโจ้ จะไม่มีชื่อลงเล่นให้การท่าเรือ เอฟซี ในศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2021/22 ส่วนความหวังจะได้ลงเล่นในบอลถ้วย อย่างเต็มที่คงมีเพียง 1-2 นัด เพราะสัญญาที่เซ็นไว้มีอายุถึงแค่เดือนพฤศจิกายนนี้ อีกทั้งยังมีข่าวลือว่ามีทีมให้ความสนใจอีกมากมายรายล้อมอยู่ ฉะนั้นโอกาสที่จะเห็น บาจโจ้ ลงเล่นให้สิงห์เจ้าท่า มันค่อนข้างริบหรี่เต็มที่

          หากจะพูดว่า บาจโจ้ ไม่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของการท่าเรือ มันคงจะไม่ผิดนัก เพราะหากย้อนไปดูผลงานกับต้นสังกัดเก่าอย่าง สุโขทัย เอฟซี บาจโจ้ จะลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าด้านซ้ายหรือขวา พร้อมกับทำหน้าที่เก็บบอล กระชากบอล เพื่อเอาไปป้อนให้กับกองหน้าตัวเป้า แต่กระนั้นหากมีโอกาสและช่องที่เหมาะสม เจ้าตัวก็จะสังหารด้วยตัวเอง ทำให้การอยู่ค้าแข้งกับค้างคาวไฟ ดาวยิงมะขามข้อเดียวผู้นี้จะต้องมีคู่หูในแดนหน้า หรือ 3 ประสานในแดนหน้า

ความจริงแล้ว บาจโจ้ ไม่เหมาะกับการท่าเรือ ตั้งแต่แรก
ความจริงแล้ว บาจโจ้ ไม่เหมาะกับการท่าเรือ ตั้งแต่แรก

ส่วนสไตล์การเล่นและสเปคนักเตะของการท่าเรือ เอฟซี พวกเขามีปีกที่เป็นตัวไทยอยู่แล้ว ทำให้ตำแหน่งของ บาจโจ้ ทับซ้อน นั่นจึงทำให้โค้ชอู๊ดจับ บาจโจ้ ไปเล่นกองหน้าตัวเป้า เพราะเล็งเห็นว่าตอนอยู่ สุโขทัย เอฟซี เจ้าตัวเคยเล่นยามที่ ฮิบสัน เมโล่ บาดเจ็บ

แต่ตอนนั้นผลงานของค้างคาวไฟก็ไม่ดีและอันดับรูด ทำให้การจับไปยืนตำแหน่งนี้มีความเสี่ยง แล้วยิ่งไอเดียการเข้าทำของสิงห์เจ้าท่า ที่ไม่สามารถเข้าทำด้วยบอลบนพื้นได้ แล้วต้องอาศัยการโยนเข้าไป แน่นอนว่า บาจโจ้ เก็บ หรือโขกบอลไม่ได้แน่ เพราะส่วนสูงยังไม่ถึง 160 ซม เลย จึงไม่แปลกนักที่การยืนหน้าเป้าของ บาจโจ้ กับการท่าเรือ เอฟซี ในศึก ACL ล้มเหลวไม่เป็นท่า

          การเข้ามาของโค้ชโอ่ง ก็คงเล็งเห็นถึงจุดนี้เหมือนกัน โดยการจะจับ บาจโจ้ ไปยืนตำแหน่งปีกหรือกองหน้าฝั่งซ้าย-ขวา มันก็จะต้องตัดโควตาต่างชาติรายอื่น ขณะเดียวกัน ตัวไทยในตำแหน่งเหล่านี้ ก็มีและดีไม่แพ้กัน อีกทั้งมันจะเป็นการเปลื้องโควตาเสียเปล่าๆ เว้นเสียแต่การโควตาต่างชาติคนสุดท้ายไปให้ โรเชล่า ในตำแหน่งกองหลัง ซึ่งจุดนี้เป็นปัญหาสำคัญของทีมมาตลอด             

ความจริงแล้ว บาจโจ้ ไม่เหมาะกับการท่าเรือ ตั้งแต่แรก
ความจริงแล้ว บาจโจ้ ไม่เหมาะกับการท่าเรือ ตั้งแต่แรก

ส่วนอนาคตนับจากนี้ถ้า บาจโจ้ ย้ายทีม เรื่องค่าเหนื่อยไม่ใช่ปัญหา เพราะนักเตะรายนี้ลงเล่นด้วยความอยาก ไม่ใช่เพราะหิวเงิน แต่ข้อแม้เดียวที่ทีมใหม่จะต้องคำนึง คือ เอาไปแล้วเข้ากับสไตล์การเล่นของทีม ไม่ใช่ซื้อไปก่อน แล้วจะใช้ยังไงค่อยว่ากัน ซึ่งแบบนี้จะเป็นการปิดโอกาสและพัฒนาการของนักเตะไปโดยเปล่าประโยชน์

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

สรุปผลงานของ เชียงราย ยูไนเต็ด ใน ACL รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2021

โชว์ฟอร์มได้ดีกับการแข่งขัน ACL ปี 2020 แม้จะต้องตกรอบไป แต่ด้วยการคว้าอันดับ 3 ในลีก ทำให้ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้กลับมาเล่นรายการนี้ 2 ปีติดต่อกัน อีกทั้งยังโชคดีที่ทีมจากออสเตรเลียถอนตัว ทำให้ได้สิทธิ์เข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่มในสาย H แต่กระนั้นหากพูดถึงโอกาสการเข้ารอบ ก็จัดว่ายากยิ่ง เพราะคู่แข่งร่วมสายมีทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ยืนขวางอยู่    

ชนบุค ฮุนไดมอเตอร์ส 2-1 เชียงราย ยูไนเต็ด

         เกมต้นเหมือนจะสู้ได้ดี แต่ดันพลาดเสียประตูไปก่อน แล้วยังมาโดนลูกโทษซ้ำเข้ามาไปอีก แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้กว่างโซ้งถอดใจ เพราะยังมุ่งมั่นจนได้ประตูไล่มา แต่สุดท้ายก็ไม่ทันจนต้องพ่ายแพ้ไป 

เชียงราย ยูไนเต็ด
เชียงราย ยูไนเต็ด

เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 แทมปิเนส โรเวอร์ส 

         นี่คือทีมที่อ่อนที่สุดและสามารถชนะได้ง่ายที่สุด ทำให้ กว่างโซ้ง ต้องเน้นเป็นพิเศษ เพื่อการคว้า 3 แต้ม แต่กระนั้นเมื่อลงไปเล่นจริงๆ กลายเป็นสูสีกันเสียอย่างนั้น ยังดีที่ช่วงท้ายเกม สโมสรจากไทยสามารถฉวยโอกาสยิงประตูเดียวของเกมได้แบบสุดระทึก ทำให้โอกาสเข้ารอบยังเปิดกว้าง   

เชียงราย ยูไนเต็ด
เชียงราย ยูไนเต็ด

เชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 กัมบะ โอซาก้า 

         การพบกับทีมจากญี่ปุ่นถือว่าเป็นงานหนัก แต่พอลงไปเล่น เชียงราย เป็นรองไม่มาก แต่ก็ไม่วายถูกไปก่อน อย่างไรเสียสิ่งที่ต้องชื่นชม คือ การที่ขุนพลกว่างโซ้งไม่ถอดใจและไม่ยอมเสียประตูไปมากกว่านี้ ทำให้หากยิงโป้งเดียวแล้วเป็นประตู นั่นคือ 1 แต้ม แล้วสุดท้ายก็ทำได้จริงๆ ในวินาทีสุดท้ายของเกม  

เชียงราย ยูไนเต็ด
เชียงราย ยูไนเต็ด

กัมบะ โอซาก้า 1-1 เชียงราย ยูไนเต็ด 

         การพบกันในอีก 3 วันถัดมา คราวนี้กลายเป็น เชียงราย ที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาสู้ได้อย่างสูสี อีกทั้งยังขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม แต่ท้ายที่สุดไม่สามารถต้านทานได้อยู่ เพราะโดนตีเสมอในช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งการแข่งขันผ่านมา 4 นัด สถานการณ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ถึงขั้นเลวร้าย สำหรับตัวแทนจากไทย  

เชียงราย ยูไนเต็ด
เชียงราย ยูไนเต็ด

เชียงราย ยูไนเต็ด 1-3 ชนบุค ฮุนไดมอเตอร์ส 

         วันนี้ เชียงราย วางแท็กติกมาเปิดหน้าสู้ เพื่อเอา 3 แต้ม เพราะการคว้า 1 แต้ม ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบ แต่กระนั้นการบุกใส่ยอดทีมจากเกาหลีใต้ ผลที่ได้ตอบกลับมาคือการเสียประตู 3 ลูกรวด ตั้งแต่ครึ่งแรก แม้ว่าครึ่งหลังจะพยายามไล่คืน แต่การเสียประตูมากขนาดนี้มันหนักหนาเกินไป ทำให้เส้นทางในถ้วย ACL ของกว่างโซ้ง ต้องจบที่รอบแบ่งกลุ่มอีกปี   

เชียงราย ยูไนเต็ด
เชียงราย ยูไนเต็ด

แทมปิเนส โรเวอร์ส 0-3 เชียงราย ยูไนเต็ด          

เกมปิดท้ายของ 2 ทีม ที่ตกรอบไปแล้ว ทั้งคู่ต่างต้องการทำผลงานให้ดีที่สุด ดังจะเห็นได้จากการเล่นในสนามของทั้ง 2 ทีม แต่เมื่อเข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ตัวแทนจากสิงคโปร์ดันหมดแรง ทำให้ตัวแทนจากไทยยิงรัว 3 เม็ด คว้า 3 แต้ม และจบอันดับ 3 ของกลุ่ม ด้วยการมี 8 คะแนน ซึ่งถึงแม้ว่าจะตกรอบ แต่ก็สร้างความประทับใจแก่แฟนบอลชาวไทยอยู่ไม่น้อย  

เชียงราย ยูไนเต็ด
เชียงราย ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

อนาคตของ ชัปปุยส์ จะเป็นอย่างไรนับจากนี้

ในยุคโควิด-19 แบบนี้ สโมสรฟุตบอลในไทย ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า เพราะไม่มีรายได้เข้ามาเลยราว 1 ปีกว่าๆแล้ว นั่นจึงทำให้นักเตะไทยราคาแพงที่ต้องต่อสัญญาในช่วงระยะนับจากนี้ จะไม่มีทางได้ค่าเหนื่อยที่มากไปกว่าเดิม รวมไปถึงแข้งที่โชว์ฟอร์มตก ที่คงจะยากยิ่งกับการได้เงินเดือนเท่าเดิม ซึ่งตรงจุดนี้กำลังโยงไปถึง ชาริล ชัปปุยส์ ที่อนาคตนับจากนี้ คงไม่มีสิทธิ์จะมารับค่าเหนื่อยแพงระยับได้อีก

          จริงๆแล้ว ชาริล ชัปปุยส์ ก็ไม่ได้มีฟอร์มการเล่นที่ดีมาตั้งแต่สมัยอยู่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แล้ว แต่การย้ายมาสู่ถิ่นกิเลนผยอง มันได้ช่วยสร้างมูลค่าทางการตลาดและรายได้ที่เพิ่มขึ้น ผ่านการขายของที่ระลึก กระทั่งปี 2020 ก็ได้ย้ายข้ามฝากมาอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี ด้วยความหวังว่าจะสามารถยกระดับทีม เพิ่มมีมูลค่าทางการตลาด รายได้ และฐานแฟนคลับให้กว้างไกลออกไป ซึ่งราคาที่มาดามแป้งต้องจ่ายเป็นค่าเหนื่อยสำหรับการดึงตัวในครั้งนี้ ตกเดือนละ 7 แสนบาท แต่จากที่เห็นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก็จะเห็นได้ว่า ชัปปุยส์ ใช้เวลาส่วนใหญ่บนม้านั่งสำรอง ส่วนการลงสนามจะเป็นในฐานะตัวสำรองช่วง 10-15 นาทีท้าย หรือถ้าหากการลงเต็มเกม ก็จะมีเพียงในทัวร์นาเมนต์บอลถ้วยรอบแรกๆ ฉะนั้นการจ่ายเงินเดือนมากขนาดนี้ แต่เล่นได้แค่นี้ มันจัดว่าขาดทุนบรรลัยสำหรับคนจ่าย  

อนาคตของ ชัปปุยส์ จะเป็นอย่างไรนับจากนี้
อนาคตของ ชัปปุยส์ จะเป็นอย่างไรนับจากนี้

ทีนี่หากถามว่าถ้า ชัปปุยส์ ต้องย้ายทีม มันมีเงื่อนไขส่วนตัวอะไรบ้าง อย่างแรก คือ นักเตะต้องการอยู่อาศัยในกรุงเทพ หรือปริมณฑล อีกทั้งไม่ต้องการย้ายออกไปต่างจังหวัด นั่นจึงทำให้ตัวเลือกน้อยลง แต่เมื่อกวาดสายตาดู ก็จะพบว่าไม่มีทีมไหนจะยอมจ่ายค่าตัวแพงระยับกับผู้เล่นที่ฟอร์มตกแบบนี้ เพราะขนาดบ้านเก่าอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ให้ได้เต็มที่ คือ 3 แสนบาทต่อเดือน หรืออีกตัวเลือกที่นักเตะอาจจะไม่สนใจ แต่อาจเป็นผลดีกับเจ้าตัว คือ ชลบุรี เอฟซี ที่ลือๆกันว่าเคยคิดยื่นข้อเสนอขอยืมตัวและช่วยจ่าย 10-20% ของเงินเดือน โดยหากย้ายมาอยู่ที่นี่จะไม่ใช่การมากอบโกยเงิน หากแต่เป็นการบำบัดฟื้นฟูฟอร์มการเล่นที่ตกลงมานานหลายปี ให้ฟื้นคืนเหมือนเมื่อ 5-6 ปีก่อน 

อนาคตของ ชัปปุยส์ จะเป็นอย่างไรนับจากนี้
อนาคตของ ชัปปุยส์ จะเป็นอย่างไรนับจากนี้

          ฉะนั้นจากที่เล่ามาทั้งหมดนี้ จึงเป็นทางเลือกที่ ชัปปุยส์ ต้องพิจารณาอย่างจงหนัก เพราะถ้าหากมองเรื่องสถานที่และเงิน การค้าแข้งอยู่ในไทยจะลำบากมากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะฟอร์มการเล่นสวนทางกับเงินเดือนที่สูง แต่ถ้าหากเลือกจะพัฒนาตัวเองเป็นอันดับแรก การค้าแข้งในไทยก็จะยังคงเปิดกว้างต่อไปสำหรับมาดฟิลด์รูปหล่อผู้นี้

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

ในช่วง 3-4 ปีหลังมานี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยืนนโยบายชัดเจน กับการดันตัวเยาวชนของสโมสรขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ ตามความตั้งใจของท่านประธานสโมสรที่อยากให้คนในพื้นที่ได้เล่นตอบแทนบ้านเกิด พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ซื้อตัวผู้เล่นไทยจากสโมสรไหนอีก ส่วนโควตาต่างชาติก็จะเสริมเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด อย่างไรเสียนโยบายดังกล่าว มันก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าล้มเหลว เพราะผลงานมีแต่ตกต่ำลงเรื่อยๆ จนคว้าน้ำเหลวเมื่อปีที่ผ่านมา

          การดันตัวเยาวชนของตัวเองขึ้นมาสู่ชุดใหญ่แบบพร้อมๆกันหลายราย มันชี้ชัดให้เห็นว่าบางคนคุณภาพถึง จนพร้อมจะเป็นกำลังหลักของทีมได้ แต่ต้องใช้เวลา เช่น พี่น้อง ศุภโชค-ศุภนัฐ ขณะที่หลายคนพอเล่นได้ เช่น ศุภชัย และ รัตนากร ส่วนตัวที่เล่นไม่ได้หรือคุณภาพไม่ถึง ก็มีค่อนข้างมาก จนสุดท้ายต้องปล่อยยืม ไม่ก็ขายให้ไปเติบโตที่อื่น ทำให้ตัวผู้เล่นไทยที่ลงสนามขั้นต่ำ 7 คน (ตัดโควตาต่างชาติ 3, โควตาเอเชีย 1) มันก็เริ่มเห็นตัวที่เป็นบ่อน้ำมันแล้ว 3-4 ราย

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา
ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

ในเมื่อตัวผู้เล่นไทยเป็นจุดอ่อนหลายคน ทำให้ความหวังสุดท้ายต้องพึ่งนักเตะต่างชาติ ซึ่งก็มีหลายทีมที่นักเตะไทยไม่ดี แต่นักเตะต่างชาติดี แล้วผลงานดี อย่างไรเสียด้วยนโยบายของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เลือกจะนำเข้าจากต่างประเทศแบบฟรีเอเยนท์ มันก็ยิ่งกลายเป็นอุปสรรค เพราะการโยกย้ายข้ามทวีปมาเล่นแบบนี้ มันย่อมต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ปราสาทสายฟ้ารอไม่ได้ เพราะถ้ามาแล้วเล่นไม่ดีก็โละออก นอกจากนี้การดึงมาแบบฟรีเอเยนท์ มันก็ยากที่จะเจอตัวแบบดีๆที่เข้าขั้นเกรดพรีเมี่ยม เพราะถ้าหากนักเตะคนนั้นดีจริง สโมสรต้นสังกัดคงไม่ปล่อยตัวมาง่ายๆ ฉะนั้นในเมื่อตัวต่างชาติมาแล้วเล่นไม่ได้ ตัวไทยก็คุณภาพไม่ถึงหลายราย ผลงานของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จึงดำดิ่งแบบไม่ต้องสงสัย   

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา
ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

      การหันเหกลับมาซื้อตัวผู้เล่นไทย จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ แม้จะต้องกลืนน้ำลายตัวเอง โดยการดึงตัวผู้เล่นไทยมาแบบรัวๆในช่วงตลาดซื้อ-ขายนี้ มันมีผลดีอยู่ตรงที่เข้ามาแล้ว ใช้เวลาปรับตัวไม่นาน เพราะพวกเขาเหล่านี้พอมีประสบการณ์มาบ้าง นอกจากนี้ในส่วนของโควตาต่างชาติก็ไม่บ้าเลือดกับการโละทิ้งเป็นว่าเล่นอีกแล้ว หากแต่ดูว่าตำแหน่งไหนขาดก็เติมจุดนั้น ฉะนั้นมันจึงเป็นส่วนผสมที่น่าจะดีที่สุดในตอนนี้สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับการให้โอกาสเยาวชนที่คุณภาพถึง การมีตัวโควตาต่างชาติที่ดีและเล่นได้ พร้อมกับมีตัวเชื่อม คือ นักเตะไทยที่ซื้อเข้ามา ส่วนผลงานจะเป็นอย่างไรในฤดูกาลใหม่ ก็ต้องรอติดตามชม

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา
ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

ดูยังไงถึงจะรู้ว่าล้มบอล ?

คำว่า ล้มบอล แฟนบอลชาวไทยชอบพูดกันอย่างติดปากเวลาที่ทีมนั้น นักฟุตบอลคนนั้น ทำผลงานได้ไม่ดี กระทั่งกรณีล่าสุดที่ผู้ใช้ Facebook รายหนึ่ง ได้แสดงความเห็นว่า ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ล้มบอล ทำให้ พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน ผู้เป็นลูกชาย ได้ทำการฟ้องร้องต่อศาลในข้อหาหมิ่นประมาท อย่างก็ตามคำว่า ล้มบอล มันคืออะไร มีลักษณะอย่างไร วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจ เพื่อให้รู้และไม่นำไปพูดลอยๆกับใครอีก

          การล้มบอล คือ การตั้งใจเล่นไม่เต็มที่ตามศักยภาพอย่างที่เคยเป็น เช่น วิ่งไล่คู่แข่งด้วยความเร็วที่ช้าลง, ทำเป็นพุ่งรับบอลไม่ทัน, ทำเป็นยิงออกไปเสียดื้อๆ หรือกรรมการตั้งใจตัดสินเพื่อให้ประโยชน์กับฝ่ายหนึ่งอย่างชัดเจน โดยการล้มบอลนี้มักเกิดขึ้นในลีกรอง ลีกที่ยังไม่แข็งแกร่ง หรือลีกที่พึ่งก่อร่างสร้างตัว และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีไทยลีก ปนอยู่ด้วย โดยที่ผ่านมายังไม่มีกฎหมายที่จะเอาผิดได้ กระทั่งปี 2556 ที่มี พ.ร.บ. กีฬาอาชีพออกมา จึงสามารถบังคับใช้กับผู้ที่ล้มบอลได้ทันทีหากมีหลักฐาน

ดูยังไงถึงจะรู้ว่าล้มบอล
ดูยังไงถึงจะรู้ว่าล้มบอล

การล้มบอลมีอยู่หลักๆ 2 ประเภท คือ การล้มบอลเพื่อเอื้อประโยชน์บางอย่างแก่ทีมใดทีมหนึ่ง ซึ่งการล้มบอลลักษณะนี้ในลีกไทย จะกระทำต่อเมื่อทีมนั้นๆไม่มีอะไรต้องลุ้นแล้ว อีกทั้งการทำจะเอื้อประโยชน์แก่ทีมตรงข้าม หรือทีมอื่นๆ เช่น ในนัดสุดท้ายของไทยลีก 1 ปี 2015 ทีมที่มีสนามเหย้าทางตะวันออกของ กทม. บุกไปเยือนทีมทางภาคเหนือ แล้วอยู่ๆทีมเยือนก็ดันยิงถล่มทลายถึง 0-5  ทั้งที่ปกติยิงใครเกิน 1 ลูก ก็น่าดีใจแล้ว หรือในปี 2018 ที่เป็นทีมจากภาคกลางด้วยกันทั้งคู่ โดยทีมเจ้าบ้านใส่ชุดสีกรม ทีมเยือนสีชมพู แล้วดันจับมือกันเล่นแบบมิตรภาพจนกอดคอรอดตกชั้น อย่างเสียการล้มบอลแบบนี้ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นจริงหรือไม่ เพราะมันไม่มีหลักฐานมัดตัว

ดูยังไงถึงจะรู้ว่าล้มบอล
ดูยังไงถึงจะรู้ว่าล้มบอล

ส่วนการล้มบอลอีกวิธี มีบ่อเกิดมาจากโต๊ะพนันฟุตบอล โดยผู้เล่นพนันอาจเดิมพันไว้หลักล้าน แล้วเลือกที่จะเสริมโอกาสให้ชนะการเดิมพันด้วยการจ้าง โค้ช นักฟุตบอล หรือกรรมการ ให้ล้มบอลเพื่อให้ผลการแข่งขันเป็นไปตามที่ต้องการ แต่กระนั้นบางที โค้ช นักฟุตบอล หรือกรรมการ ก็เล่นพนันและล้มบอลเองเสียเลยก็มี ซึ่งการล้มบอลแบบนี้มักมีหลักฐานมัดตัวจากคลิปเสียง คลิปการสนทนาทางโทรศัพท์ หรือหลักฐานอื่นๆ จนสามารถจับกุมและชี้ชัดได้ว่าบุคคลนั้นล้มบอลจริงๆ

ดูยังไงถึงจะรู้ว่าล้มบอล
ดูยังไงถึงจะรู้ว่าล้มบอล

สำหรับฟุตบอลไทยลีก ได้มีการเปิดเผย จับกุม สู้คดีในชั้นศาล จนถึงการจัดสินจำคุกแล้ว 15 ราย โดยจำนวนนี้มากกว่าครึ่งเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อ แต่การเลือกทางเดินที่ผิดแบบนี้ ก็คงต้องหมดอนาคตไปจากวงการฟุตบอลไทยแน่นอน

ดูยังไงถึงจะรู้ว่าล้มบอล
ดูยังไงถึงจะรู้ว่าล้มบอล

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

จัดอันดับตัวเต็ง 5 ทีม ลุ้นคั่วแชมป์ไทยลีก 1

นับจากนี้ไม่เกิน 2 เดือน ฟุตบอลไทยลีก 1 จะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งแน่ เหลือตรงที่ว่าจะแข่งขันแบบสนามใครสนามมัน หรือแข่งแบบบั้บเบิ้ล อย่างไรเสียก่อนออกสตาร์ท เราจะจัดอันดับ 5 ทีมเต็ง ที่มีลุ้นแชมป์ในปีนี้ ซึ่งในท้ายที่สุดจะแม่นยำและไม่หลุดโผจากนี้หรือไม่ ในอนาคตเรามาดูกัน

 การท่าเรือ เอฟซี
การท่าเรือ เอฟซี

ตัวเต็งลำดับ 5 การท่าเรือ เอฟซี

          การเสริมทัพยังดูโหดเหี้ยมไม่เสื่อมคลายก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังรักษามาตรฐานได้ดี คือ การซื้อตัวที่ไม่ตรงกับความต้องการของทีม ซึ่งการดึงโค้ชโอ่งเข้ามา ก็มีความเสี่ยงไม่น้อยที่จะเป็นเหยื่อรายต่อไปกับความล้มเหลวของทีม แต่ถ้าหากโค้ชโอ่ง พาทีมไปถึงแชมป์ ก็คงต้องสะดุดดีสัก 3 วัน 7 วัน  

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ตัวเต็งลำดับ 4 สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

          แม้ว่าจะสภาพทีมจะดูเหมือนถังแตกและเงินน้อย เพราะเสียตัวผู้เล่นไปหลายราย แต่ไม่มีข่าวคราวซื้อเข้ามา อย่างไรเสียด้วยผลงานที่ผ่านและเตะตาที่สุดใน ACL จึงทำให้กาชื่อทิ้งไม่ได้ จนต้องใส่ไว้ในฐานะตัวเต็ง แม้จะมีข้อจำกัดสำคัญ คือ หากตัวต่างชาติเจ็บ หรือโดนแบน มันค่อนข้างสะเทือนกับผลงานของทีม

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ตัวเต็งลำดับ 3 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          การเข้ามาของโค้ชแบน ค่อยๆสร้าง บียู ให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากผลงานในเลกที่ 2 เมื่อฤดูกาลก่อน ที่เร่งเครื่องขึ้นมาจบอันดับที่ 5 ได้ อย่างไรเสียด้วยขุนกำลังที่ไม่ได้หลากหลายมาก ก็อาจมีผลให้ยืนระยะไม่อยู่ในภาวะที่การแข่งขันต้องเตะถี่ๆเช่นนี้

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ตัวเต็งลำดับ 2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

          ปีที่แล้วคว้าน้ำเหลวก็จริง แต่ผลงานในเลกที่ 2 ถือว่ายอดเยี่ยม กับการเร่งเครื่องจนมาจบตำแหน่งรองแชมป์ ส่วนในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาหันมาใช้นโยบายดึงตัวผู้เล่นไทยเกรดดี ส่วนโควตาต่างชาติไม่โละแบบบ้าระห่ำอีกแล้ว เว้นเสียแต่โควตาเอเชียที่ดึงผู้เล่นในเกมรับมาเติมเต็ม ฉะนั้นไทยลีก 1 ฤดูกาลใหม่นี้ จะมาประมาทขุนพลปราสาทสายฟ้าทีมนี้ไม่ได้อีกแล้ว

 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด  
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด  

ตัวเต็งลำดับ 1 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด  

          ด้วยความที่ทีมลงตัวและไม่เสียผู้เล่นตัวหลักออกไป ทำให้คาดได้ว่าความแข็งแกร่งคงไม่ต่างไปจากเดิม อีกทั้งยังมีการเสริมตัวไทยและโค้ชเข้ามา จนได้เห็นผลไปแล้วในศึก ACL ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะต้องยกให้เต็ง แต่จงจำไว้เสมอว่าการเป็นแชมป์ที่ว่ายากแล้ว การป้องกันแชมป์ไทยลีก 1 ฤดูกาลนี้ยาก

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

ชาริล ชัปปุยส์ “นักฟุตบอลที่ยังอยู่ในระดับสูงได้ เพราะหน้าตา”

การที่นักฟุตบอลคนหนึ่งจะเล่นอยู่ในระดับสูงได้ ย่อมต้องมีฝีเท้าที่จัดจ้านพอควร อีกทั้งถ้านักฟุตบอลคนนั้นมีหน้าตาที่หล่อเหลาด้วยแล้ว มันก็จะยิ่งไปกันใหญ่กับความนิยมและชมชอบจากแฟนบอล โดยเฉพาะสาวน้อย สาวใหญ่ และสาวเทียม ซึ่งวงการฟุตบอลไทยก็เคยมีนักฟุตบอลที่ผีเท้าและหน้าตาดี จนกลายเป็นสามีล้านเมียมาแล้ว ส่วนในปัจจุบันฟอร์มตก เข่าพัง แต่ยังอยู่ในระดับสูงได้ นั่นคือ ชาริล ชัปปุยส์

          ชาริล ชัปปุยส์ เป็นนักฟุตบอลสัญชาติลูกครึ่งสวิตเซอร์แลนด์-ไทย โดยในช่วงเยาวชนได้ลงเล่นให้กับชาติของคุณพ่อ พร้อมกับช่วยขุนพลแดนนาฬิกาคว้าแชมป์ U-17 ชิงแชมป์โลก กระทั่งปี 2013 ชัปปุยส์ ถูกบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดึงตัวมา แต่ก็โชว์ฟอร์มไม่เข้าตาท่าประธานปราสาทฟ้า ทำให้ถูกปล่อยยืมตัวและซื้อขาดไปอยู่กับ สุพรรณบุรี เอฟซี

ชาริล ชัปปุยส์
ชาริล ชัปปุยส์

การมาอยู่กับช้างศึกยุทธหัตถี เจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้ดี แต่ที่เห็นว่าจะสร้างชื่อที่สุด คือ การไปรับใช้ทีมชาติไทย ในศึก AFF Suziki cup 2014 โดยบทบาทของ ชัปปุยส์ ลงประจำการในตำแหน่งกองกลาง แล้วมีจุดเด่นที่การสวิตบอล เชื่อมเกมจากหลังสู่หน้า และการยิงจุดโทษที่แม่นยำสุด อีกทั้งเจ้าตัวยังเป็นฮีโร่ในนัดชิงกับมาเลเซีย ที่บูกิต จาริล ด้วยการตามซ้ำลูกยิงให้ไล่มา 3-1 ก่อนจะจบที่ 3-2 แล้วทีมชาติไทย คว้าแชมป์ด้วยกฎประตูทีมเยือน จากนั้นเมื่อจบทัวร์นาเมนต์ ชัปปุยส์ ก็มุ่งหน้าเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าหัวเข่ารักษาอาการบาดเจ็บ

ชาริล ชัปปุยส์
ชาริล ชัปปุยส์

หลังจาก ชัปปุยส์ ผ่าตัดและกายภาพ ฟอร์มการเล่นก็ดูจะไม่ดีเท่าเดิม แต่อย่างไรเสียปี 2017 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ได้ยื่นข้อเสนอซื้อตัวไปยัง สุพรรณบุรี เอฟซี ซึ่งในเวลานั้นหลายคนมองว่าการย้ายทีมครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อการตลาด เพราะการเล่นในถิ่นเอสซีจี สเตเดี้ยม จะเป็นในลักษณะได้ลงสลับนั่งสำรอง กระทั่งปี 2019 เจ้าตัวได้เลือกย้ายไปอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี

จากต้นสังกัดเดิมที่ก็โชว์ฟอร์มไม่ดีอยู่แล้ว การมาอยู่กับสิงห์เจ้าท่ายิ่งแย่กว่า เพราะโอกาสลงเล่นค่อนข้างจำกัด โดยในลีกจะมีบางนัดที่ถูกส่งลงมาช่วงท้ายเกมหากสกอร์นำขาด ส่วนฟุตบอลถ้วยจะได้ลงในรอบแรกๆ อย่างไรเสียการมาอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี มันไมใช่เพราะเรื่องฟอร์ม หากแต่มีการมอบเงินเดือนที่สูงถึง 7 แสนบาท/เดือน พร้อมกับข้อตกลงเรื่องการทำ PR ให้กับบริษัทของท่านประธานสโมสร

ฉะนั้นหากกล่าวมาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า ชัปปุยส์ ฟอร์มตกมาตั้งนานสองนานแล้ว แต่เพราะด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา จึงช่วยให้เจ้าตัวยังยืนหยัดอยู่ในระดับสูงได้ แต่จะนานหรือไม่ อันนี้ต้องติดตาม  

ชาริล ชัปปุยส์
ชาริล ชัปปุยส์

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com