Categories
Sport

ฟุตบอลเดินสายเฟื่องฟู ในวันที่ลีกอาชีพไม่ตอบโจทย์

ฟุตบอลเดินสายเฟื่องฟู มีคุณภาพดีกว่าฟุตบอลลีก

กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เมื่อฟุตบอลเดินสายรายการหนึ่ง มียอดวิวทะลุแสน ซึ่งมากกว่าฟุตบอลไทยลีก 1 บางคู่เสียอีก อีกทั้งยังมีนักฟุตบอลอาชีพชื่อดังมาลงเล่น รวมถึงความเมามันส์ที่กระแทกใจผู้ชม ทำให้เกิดประเด็นในแง่ที่ว่า ฟุตบอลเดินสายเฟื่องฟู สวนทางกับฟุตบอลลีก ที่ซบเซาเพราะปัญหาด้านการเงิน แล้วอะไรเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์อย่างที่เกริ่นไป บทความนี้จะพาไปวิเคราะห์กัน

การบริหารสิทธิประโยชน์ที่ผิดพลาด

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาดมากที่สุดสำหรับสมาคมฟุตบอลชุดนี้ เพราะก่อนหน้านี้เคยการันตีรายได้ราวๆ 800-1,200 ล้านบาท / ปี โดยมาจากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด แต่พอมีการเปิดประมูลใหม่ กลับขาดความรอบครอบและดูจากราคาที่เสนอมาเท่านั้น ซึ่งผ่านไปไม่ถึงครึ่งปีบริษัทดังกล่าวถอนตัวไป กระทั่งต้องเปิดประมูลใหม่และได้เงินสนับสนุนน้อยลงกว่าเดิมเกินครึ่ง นั่นจึงส่งผลกระทบทันทีต่อสโมสรที่สายป่านสั้นและต้องพึ่งพาเงินสนับสนุนตรงนี้ สุดท้ายสโมสรต่างๆต้องหาทางรอดด้วยการคุมรายจ่าย เช่น ลดปริมาณนักฟุตบอล คุมเพดานค่าจ้าง ลดระยะเวลาการเซ็นสัญญา และอื่นๆ

ฟุตบอลเดินสายเฟื่องฟู สวนทางกับฟุตบอลลีกที่ซบเซา

เงินก้อน ได้โบนัส ดีกว่า เงินเดือน แต่ค้างจ่าย ?

จั่วหัวย่อหน้านี้เขียนไม่ผิด เพราะฟุตบอลลีกสมัยนี้มันเป็นเช่นนั้นแล้วจริงๆ จากผลพวงที่เงินสนับสนุนถูกตัดไปเกินครึ่ง ได้มีผลให้สโมสรต้องขอจ่ายไม่เต็ม 100% ไปจนถึงค้างจ่าย กระนั้นก็มีสโมสรบางจำพวกที่รู้ทั้งรู้ว่าหมุนเงินไม่ทัน ก็ยังจ้างนักฟุตบอลในราคาที่เกินเพดาน แล้วสุดท้ายค้างจ่ายหลายเดือน ซึ่งกว่าจะได้ครบก็ต้องรอเป็นแรมปีเลยทีเดียว นั่นจึงทำให้หลายคนตัดความลำคานด้วยการไปเล่นฟุตบอลเดินสาย เพราะเล่นเสร็จได้เงินทันที โดยไม่ต้องทวงให้เหนื่อยหัวใจ

ฟุตบอลเดินสายเฟื่องฟู สวนทางกับฟุตบอลลีกที่ซบเซา

เจ็บ รักษาให้ หรือ เจ็บแล้ว ยกเลิกสัญญา

เมื่อไรที่นักฟุตบอลเจ็บ สโมสรต้องช่วยรักษา แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีข่าวให้เห็นว่าสโมสรพยายามเลี่ยงบาลีว่าไม่มีเงิน พร้อมกับปล่อยให้นักฟุตบอลไปรักษาเอง หรือบางเคสถึงขั้นยกเลิกสัญญาในทันที แถมเงินเดือนก็ค้างจ่าย ซึ่งจุดนั้นถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายสำหรับนักฟุตบอล ตรงข้ามกับฟุตบอลเดินสาย ที่แม้จะเป็นทัวร์นาเมนต์สั้นๆ แต่ก็รักษาและดูแลจนหาย ซึ่งมันได้ใจนักฟุตบอลมากกว่า

ฟุตบอลเดินสายเฟื่องฟูสวนทางกับฟุตบอลลีกที่ซบเซา

หากสมาคมฟุตบอลยังหาทางออกไม่ได้ สโมสรบางจำพวกยังใช้เงินเกินตัว ก็เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นการบั่นทอนฟุตบอลลีกให้มีมาตรฐานต่ำลง กระทั่งส่งผลให้เสื่อมความนิยม ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครอยากเห็นฟุตบอลเดินสายมีคุณภาพดีกว่าฟุตบอลลีก เพราะสุดท้ายแล้วมันจะกระทบต่อระบบฟุตบอลทั้งระบบ

ฟุตบอลเดินสายเฟื่องฟูสวนทางกับฟุตบอลลีกที่ซบเซา

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ตัดเกรดผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ศึกช้างเอฟเอ คัพ 

ศึกช้างเอฟเอ คัพ ตัดเกรดผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเกมเฉือนชนะ การท่าเรือ 2-0

ศึกช้างเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะแชมป์เก่า 5 สมัย ต้องเจอกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ผลงานดีในช่วงหลัง แต่จาก 90 นาทีที่พึ่งผ่านพ้นไป ขุนพลปราสาทสายฟ้าสามารถกดหัวคู่แข่งและเอาชนะได้ 2-0 ทำให้เป็นฝ่ายเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ฉะนั้นในบทความนี้จะมา ตัดเกรดผู้เล่นบุรีรัมย์ ที่ลงสนามในวันนี้ ว่าจะได้กันคนละเท่าไรบ้าง

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (7)

งานไม่หนัก ไม่ชุก เพราะคู่แข่งพาบอลไปไม่ค่อยถึง แต่ก็มีจังหวะเซฟลูกยิงของ ธีรศักดิ์ ซึ่งถือเป็นจังหวะสำคัญที่ทำให้ทีมไม่โดนตีเสมอ  

ธีราทร บุญมาทัน (7)

          บทบาทอาจจะไม่โดดเด่นนัก แต่มาตรฐานยังสูง และเป็นผู้จ่ายถวายพานให้ ศุภณัฏฐ์ ชาร์ตบอลเข้าประตู

พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (6)

          ผ่านบอลไปมา ไม่ค่อยมีจังหวะที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนในแนวรุก

ศุภชัย ใจเด็ด (5)

          ดาวยิงประจำทีม วันนี้เงียบสงัดและแทบไม่ได้บอลเลย  

ดิออน คลูส์ (6)

          ไม่ค่อยมีงานหนักเท่าไร เพราะคู่แข่งทำเกมมาไม่ค่อยถึง แต่เมื่อต้องทำหน้าที่ก็ไม่มีจังหวะผิดพลาดอะไร   

นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (7)

          เติมเกมบุกตามสไตล์ แต่ก็ถอยกลับมาตั้งเกมรับทัน จนกระทั่งปีกฝั่งตรงข้าม ไม่สามารถฉายฟอร์มเก่งออกมาได้

ฮาริส วูซคิส (6)

          มีบทบาทอยู่เนืองๆ แต่อาจจะไม่เด่นมากนัก กระนั้นการยิงไกลก็พอจะมีลุ้นหวาดเสียวอยู่บ้าง

โกรัน เคาซิส (5)

          บทบาทไม่เด่น แถมยังไม่มีสมาธิอยู่กับเกม จากจังหวะที่ถือขวดน้ำแล้วเล่นฟุตบอล ซึ่งมันเป็นการโดนใบเหลืองที่ไม่สมควร  

ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา (6)

          จริงๆวันนี้ควรเป็นแมนออฟเดอะแมตช์ เพราะมีส่วนสำคัญต่อทั้ง 2 ประตู แต่จังหวะที่หลุดเดี่ยวและมีเพียงเสาโกว์โล่งๆ เจ้าตัวดันชะล่าใจจนถูกคู่แข่งตามมาสกัดได้ทันเวลาเสียอย่างนั้น ทำให้ต้องหักคะแนนหนักๆ

เรบิน ซูลาก้า (6)

เป็นฝั่งที่ถูกคู่แข่งเจาะ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้แสดงความผิดพลาดอะไรออกมา

 ลอนซาน่า ดุมบัวย่า (5)

          เกมที่ต้องเซตบอลขึ้นไปแบบนี้ ไม่เหมาะกับเจ้าตัวที่ถนัดควบบอลและไปข้างหน้าแบบรวดเร็ว ทำให้ในช่วงครึ่งหลัง ถูกเปลี่ยนตัวออกเป็นรายแรก

รัตนากร ใหม่คามิ (5)

          ลงมาแล้ว ไม่มีค่อยโดดเด่น กระทั่งลืมไปเลยว่าเจ้าตัวอยู่ในสนาม

ศศลักษณ์ ไหประโคน (5)

          ถูกส่งลงมาในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เพื่อเล่นแท็กติกเกมรับ แต่ด้วยความที่คู่แข่งพาบอลมาไม่ถึง งานจึงไม่หนักมาก

ศึกช้างเอฟเอ คัพ ตัดเกรดผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศึกช้างเอฟเอ คัพ ตัดเกรดผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศึกช้างเอฟเอ คัพ ตัดเกรดผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศึกช้างเอฟเอคัพ ตัดเกรดผู้เล่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ระบบไทยๆ กับฟุตบอลไทย

ระบบไทยๆ ทำร้ายฟุตบอลไทย

นับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เป็นต้นมา การทำงานของสมาคมฟุตบอลเหมือนกราฟที่พุ่งลงต่ำอย่างเดียว ดังจะเห็นจะได้จากการทำงานในหลายๆส่วนที่ดูจะเป็นการประสานงา มากกว่าจะเป็นประสานงาน และเรื่องที่ดูจะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด คงหนีไม่พ้นการกำหนดเป้าหมายจากภาครัฐ ที่ส่งตรงมาถึงสมาคมฟุตบอลว่า ทีมชาติไทย ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ที่กัมพูชา ต้องคว้าเหรียญทองให้ได้ แล้วถ้าหากทำได้ต้องมีคนรับผิดชอบ ซึ่งหากฟังและตีความ นี่ถือเป็นความคิดที่ล้าหลังและกำลังทำลายโครงสร้างฟุตบอลอาชีพเข้าอย่างจัง    

เป้าหมายของรัฐ และคำสั่งตรงจากประธานโอลิมปิก

      เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ก่อนจะเริ่มมหกรรมกีฬาใดๆก็ตาม ก็จะต้องมีการประชุมและวางเป้าหมายก่อนไปทำการแข่งขัน แต่ที่เห็นว่าไม่ปกติ คือ ภาครัฐได้เอาผลงานมาเป็นตัวชี้วัดต่อการให้งบประมาณสนับสนุนในปีต่อไป นั่นจึงกลายเป็นการบีบบังคับว่าถ้าสมาคมฟุตบอลไม่สามารถทำ ทีมชาติไทย ให้คว้าเหรียญทองได้ งบประมาณที่จะได้ก็จะถูกตัด อีกทั้งการกล่าวของรองนายกรัฐมนตรีและประธานโอลิมปิกอย่าง พอเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าหากไม่ได้เหรียญทองกลับมา จะต้องมีคนรับผิดชอบ มันก็ยิ่งทำให้นายกสมาคมและผู้เกี่ยวข้อง ต้องพยายามจัดทีมที่พร้อมที่สุดไปลงแข่งขัน  

ฟุตบอลอาชีพ กับทัวร์นาเมนต์สมัครเล่น

      ด้วยการกล่าวที่ปราศจากวิสัยทัศน์ มันจึงกลายเป็นการทำลายโครงของฟุตบอล เพราะในปัจจุบันนี้ฟุตบอลไทยเป็นลีกอาชีพและมีช่วงเวลาของการปล่อยตัวมาเล่นตามปฏิทินฟ่าเดย์ แต่สำหรับทัวร์นาเมนต์ซีเกมส์ มันเป็นเพียงรายการสมัครเล่นที่แข่งขันกันเองภายในอาเซียนและไม่มีผลอะไรหากคว้าเหรียญทองมาได้ ฉะนั้นหากจะหยุดลีกเหมือนที่เคยมาก่อนหน้านี้ มันก็คงต้องกล่าวว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีวิสัยทัศน์ของการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย 

สิ่งที่ควรจะเป็นสำหรับฟุตบอลไทย และ ทีมชาติไทย

      สิ่งที่ควรจะเป็นและจะมีผลต่อวงการกีฬา ที่ไม่เฉพาะแค่กีฬาฟุตบอล คือ ภาครัฐควรลงรายละเอียดก่อนจะกำหนดเป้าหมาย มิใช่กำหนดแบบโต้งๆว่าต้องการเหรียญทองเท่านั้นเท่านี้ ส่วนฟุตบอลทีมชาติไทย แน่นอนว่าทัวร์นาเมนต์แบบนี้ควรเป็นเวทีสำหรับเด็กที่สโมสรพร้อมจะปล่อยมาเล่นทีมชาติ หรือกำหนดชุดที่จะไปทำการแข่งขัน เช่น ชุดยู 21 ยู 19 อย่างไรก็ว่าไป เพื่อเป็นการเตรียมตัวสำหรับการเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่และเป็นอนาคตให้กับทีมชาติชุดใหญ่ มิใช่หยุดลีกแรมเดือนเพื่อเอานักเตะชุดใหญ่ไปเล่นแบบที่ทำมา เพราะผลลัพธ์ในท้ายที่สุดเราจะไม่ก้าวข้ามอาเซียนและฟุตบอลโลกจะเป็นแค่ฝันไปจนวันตาย

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

มรสุมนอกฤดู ฉลามชล

ในวันที่ฉลามชลต้องฝ่ามรสุมนอกฤดู

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาของฟุตบอลไทย คงไม่มีข่าวไหนจะดังไปกว่ากรณีที่ วรวุฒิ สุขุนา เมาแล้วขับรถยนต์ส่วนตัวไปพุ่งชนผู้ที่มาออกกำลังกาย กระทั่งมีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมีแถลงการณ์ 2 ฉบับ การประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมของ นาย ศศิศ สิงห์โตทอง การออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อผู้สูญเสีย และการประกาศยกเลิกสัญญากับ วรวุฒิ สุขุนา ซึ่งจากที่กล่าวมานี้ คงเป็นเพียงแค่มรสุมช่วงเริ่มต้นเท่านั้น เพราะนับจากนี้คงมีมรสุมอีกหลายลูกที่ ชลบุรี จะต้องเจอและฝ่ามันไปให้ได้

เสียเด็กปั้นไปมือดีไปหนึ่งราย

การประกาศยกเลิกสัญญากับ วรวุฒิ สุขุนา ถูกมองว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม หากดูจากกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับนักกีฬาระดับโลก แต่ในอีกแง่หนึ่งก็นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับ ชลบุรี เอฟซี ที่เป็นผู้นำเจ้าแบงค์มาปลุกปั้น กระทั่งมีฝีมือจนติดทีมชาติชุดเยาวชน อีกทั้งยังได้ถูกส่งไปเก็บเลเวลกับสโมสรต่างๆ แล้วในฤดูกาล 2022/23 นี้ เจ้าตัวได้ถูกวางเป็นมือ 2 แต่ดันโชคดีมือ 1 บาดเจ็บ ทำให้ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงมาตลอด 6 นัด พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้ดีจนถูกมองว่าจะเป็นทายาทรุ่นต่อไปของฉลามชล แต่สุดท้ายดันมาเกิดเรื่องเสียก่อน และนับจากนี้อนาคตคงดับวูบหากคดีถูกตัดสินว่ามีความผิด  

แค่หางบทำทีมก็เหนื่อยแล้ว

ชลบุรี ไม่ใช่ทีมที่มีเงินมากมายก่ายกองเหมือนเมื่อแต่ก่อน เพราะได้เปลี่ยนโครงสร้างทีมด้วยการพึ่งพาตัวเยาวชนและขายออกเพื่อทำกำไร แต่ในบางเวลาเมื่อหมุนเงินไม่พอ ผู้บริการก็ต้องควักเนื้อจนถึงขั้นนำที่ดินไปเร่ขาย กระทั่งการเกิดกรณีของ วรวุฒิ ทำให้สิ่งที่ตามมาเป็นอย่างแรก คือ การใช้จ่ายเงินต้องแบ่งไปเยียวยาให้ผู้สูญเสีย ขณะเดียวกันระบบอะคาเดมี่ของชลบุรี ก็จะถูกตั้งคำถามถึงเรื่องระเบียบวินัยของนักเตะ ว่าจะสามารถควบคุมดูแล พัฒนา หรือคุ้มค่าที่จะทุ่มเงินมาซื้อตัวหรือไม่สำหรับสโมสรที่จะมาซื้อ  

ผลงานกำลังดี โมเมนตัมอาจเสียไป

     ผลงานของ ชลบุรี ในฤดูกาลนี้ เคยก้าวขึ้นไปยืนในตำแหน่งจ่าฝูง แต่ถึงแม้จะยืนระยะบนอันดับ 1 ไม่ได้ อย่างน้อยๆก็ยังเกาะกลุ่มหัวตาราง แต่การอุบัติขึ้นของเหตุการณ์ที่กล่าวมานี้ แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลต่อสภาพจิตใจของนักเตะ ดังจะเห็นได้จากเกมที่ลงเตะไป 2 นัด ซึ่งโดนทีมที่อ่อนกว่ายิ่งนาทีบาป แถมเกมล่าสุดต้องตกรอบ ช้างเอฟเอ คัพ อย่างรวดเร็ว ฉะนั้นตรงจุดนี้ก็ต้องเยียวยาจิตใจและพูดคุยกันให้มากขึ้น

      บทเรียนจากเหตุการณ์นี้ แน่นอนว่าผู้ก่อเหตุนั้นได้รับไปเต็มๆ กระนั้นมันได้ส่งสัญญาณเตือนให้นักฟุตบอลทุกนได้พึงระลึกว่าหน้าที่ที่สำคัญที่สุดคืออะไร เพราะเมื่อมันผิดพลาดไปแล้วคนรอบข้างก็ได้รับผลกระทบ รวมไปถึงต้นสังกัดที่ต้องมาติดร่างแหด้วย

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สโมสร การท่าเรือ เอฟซี

เสือคืนป่าดั่งการท่าเรือ กลับคือสู่ แพทสเตเดี้ยม รังเหย้าสุดสะท้านของเหล่าทีมเยือน

หลังจากที่แพท สเตเดี้ยมโดนมรสุม จากโควิด 19 เข้าเล่นงานแบบจัง ๆ จนทำให้ สนามเหย้าอันน่าเกรงขามนี้ ได้รับผลกระทบมาระยะหนึ่ง แต่จนในนาทีนี้แล้ว หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะทุกอย่างได้กลับมาแล้วในฤดูกาล ฟาดแข้ง 2021- 22

 เนื่องจากการที่ศบค ได้มีการประกาศให้ที่นี่เป็นพื้นที่ สีแดงเข้มทั่วทั้งกทม ซึ่งแน่นอนว่าต้องกระทบกับสนามแพทสเตเดี้ยมอย่างเลี่ยงไม่ได้  การซ้อม และการแข่งขันจึงต้องย้ายไปใช้ สนามช้างอารีน่า เป็นหลักในการแข่งชั่วคราว ในนัดเปิดสนาม ที่มีการจัดปะทะกับ โปลิศ เทโร เอฟซี กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว​ ก็ได้มีการเฝ้ารอดูสถานการณ์ให้ดีขึ้นอยู่มาตลอด เพราะเสมือนหนึ่งเสือไม่ได้อยู่ป่า การคว้าชัยก็อาจทำได้ยากขึ้น

สโมสร การท่าเรือ เอฟซี
สโมสร การท่าเรือ เอฟซี

 จังหวะมา เกมเปลี่ยน เสือคืนถิ่น ฟื้นชีวิต แพทสเตเดี้ยม

ฝันที่เป็นจริงนั้น เริ่มต้นวันที่ 1 กันยายน 60 แทบจะทันทีที่บริษัทไทยลีกจำกัด ได้มีการอนุญาตอย่างเป็นทางการ ให้แพท สเตเดี้ยม เป็นรังเหย้าได้อีกครั้ง หลังจากที่ปิดมาระยะหนึ่ง แต่ทั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ยังอยู่ในมาตรการป้องกันโรค covid-19 ขั้นตอนเข้มงวดสูงสุด แต่นับว่านั่นเป็นที่สุดของความยินดีแห่งสโมสร อันเป็นที่รักของแฟนบอลแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้กลับคืนถิ่น บ้านเดิมเขตคลองเตย ที่เคยยืนอยู่ด้วยความสง่างาม และสุดแข็งแกร่งมาก่อน จากนี้ไปอะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อขวัญ และกำลังใจเต็มร้อยอีกครั้ง

สโมสร การท่าเรือ เอฟซี
สโมสร การท่าเรือ เอฟซี

ความมั่นใจกลับมา เมืองไทยประกันชีวิต CEO คอนเฟิร์ม

มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะประธานของสโมสร ที่มีเกมการเล่นอันสุดดุดันแห่งนี้ ได้เปิดเผยกับนักข่าวด้วยรอยยิ้มว่า นับว่าเป็นผลดี และความยินดียิ่ง เพราะทางด้านทีมงาน มีความคุ้นเคยกับสนามเหย้าแห่งนี้เป็นที่สุด สำหรับการเปิดให้ได้มีการฟาดแข้งในถิ่นของตนทำให้ทุกศึก ที่กำลังจะได้เจอในอนาคต นักเตะทุกคนต่างมีกำลังใจเต็มร้อย มีความคืบหน้าเป็นอย่างยิ่งแม้ว่า จะเป็นการแข่งขันที่ยังไม่มีการอนุญาตให้แฟนบอล นำกำลังใจเข้ามาเติมเต็มก็ตามที แต่การวางมาตรการต่าง ๆ ตามที่ ศบค​ กำหนดกฎเกณฑ์ไว้อย่างเข้มงวด ทางทีมงาน สโมสร การท่าเรือ เอฟซี ก็ยังหวังไว้ว่า จะสามารถนำร่องให้ทีมแฟนบอลได้เข้ามาชม และเชียร์ได้อย่างล้นสนามเหมือนเคย ในอนาคตอันใกล้

สโมสร การท่าเรือ เอฟซี
สโมสร การท่าเรือ เอฟซี

สรุป

แม้ว่าโควิด 19 จะเป็นอุปสรรคต่อเกมกีฬาเกือบทุกประเภท และสโมสรหลายแห่งต่างก็ได้รับผลกระทบกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่สำหรับเกมกีฬา และศึกในลีกที่จะปะทะกันในแต่ละครั้งนั้น ความมันส์ และความสะใจจะไม่มีวันลดน้อยลงไปอย่างแน่นอน ขุนพล เมืองไทยประกันภัย กล่าวสำทับไว้อย่างหนักแน่น

และเราก็เชื่ออย่างนั้นเช่นกัน จริงไหม ?

Cr.Pic : matichon

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960

Categories
Sport

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 (วันเสาร์-อาทิตย์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 ของฤดูกาล ได้ผ่านการวิเคราะห์วิจารณ์ไปแล้ว 4 จาก 7 คู่ ที่จะลงสนามในสัปดาห์นี้ ทำให้ในส่วนนี้จะมาพูดถึงเกมอีก 3 คู่ ในคู่สุดท้ายของวันเสาร์ 1 คู่ และวันอาทิตย์ 2 คู่ ในเวลา 18.00 น.  ซึ่งใครจะพบกับใครและผลที่คาดจะเป็นอย่าง ติดตามกันต่อได้นับจากบรรทัดนี้ 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

          ปราสาทสายฟ้า ออกสตาร์ท 2 แมตช์ในบ้าน ด้วย 4 แต้ม โดยถ้าดูจากตรงนี้อาจไม่แย่แต่ไม่ถึงกับดี แต่หากดูจากชื่อชั้นของคู่แข่งและฟอร์มการเล่น มันยังไม่ถึงขั้นประทับใจสักเท่าไร เพราะอย่างนัดล่าสุดต้องใช้เวลาอยู่นานสองนานกว่ากว่าจะทำประตูขึ้นนำและแซงขาดได้ ทั้งที่ฝ่ายตรงข้ามเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน

ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก ส่วนทางฝั่งช้างศึกล้านนา 2 นัด 1 แต้ม ถือว่าบุญโขแล้ว เพราะอย่างนัดล่าสุดกับสุพรรณบุรี ขนาดคู่แข่งเหลือ 10 คน ยังต้องตามตีเสมอแบบเลือดตาแทบกระเด็น ฉะนั้นเกมคู่สุดท้ายของวันเสาร์ที่ช้างอารีน่า คงไม่พลิกโผสำหรับเจ้าบ้านในการเก็บ 3 แต้ม    

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

สุพรรณบุรี เอฟซี พบกับ ประจวบ เอฟซี

          ก่อนเริ่มซีซั่น ช้างศึกยุทธหัตถีถูกยกให้เป็นเต็งลำดับต้นๆในการหนีตาย แต่จากผลงานที่ปรากฏ 2 นัด จะเห็นได้ว่าพวกเขายังพอมีอนาคตสำหรับการยืนหยัดบนเวทีลีกสูงสุด โดยในนัดแรกกับบุรีรัมย์ ออกไปยันมหาอุดจนได้ 1 แต้ม ส่วนนัดล่าสุดเกือบเก็บ 3 แต้ม ได้อยู่แล้ว

แต่การเหลือ 10 ตัว กับเวลาที่เหลืออีก 20 นาที มันหนักหนาและสาหัสเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือไหว ทำให้ท้ายที่สุดพวกเขาเก็บได้เพียงแต้มเดียว ขณะที่ต่อพิฆาต รูปแบบและทรงการเล่นจัดว่าดี แต่ข้อเสีย คือ ไม่สามารถรักษาฟอร์มที่ดีไว้ได้ตลอดเกม ทำให้ 2 นัด ที่ผ่านมา ไร้แต้มเสียอย่างนั้น สำหรับการพบกันของทั้ง 2 ทีม ศักยภาพมีความเท่าเทียมกันจนยากที่คาดเดาถึงผล แต่หากต้อชี้ฝั่ง คงต้องบอกว่าเจ้าบ้านจะไม่แพ้ในเกมนี้

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี          

สวาทแคท เป็นทีมดีเซลเครื่องร้อนช้าอย่างที่โค้ชโจกล่าวไว้จริงๆ เพราะในนัดแรกฟอร์มจัดว่าแย่ไปสักหน่อย แต่พอนัดล่าสุดสามารถเล่นได้ดีขึ้นมาทันตาเห็น กระนั้นก็นับว่าน่าเสียดายที่การผ่อนเกมมากไปดันมีผลให้คู่แข่งยิงแซงในนาทีสุดท้าย ส่วนทางฝั่งมังกรโล่เงิน

การได้นักเตะใหม่เข้ามาผสม มีผลให้สภาพทีมดูแข็งแกร่งขึ้น แต่จุดอ่อนที่เห็นได้ชัด คือ เกมรับที่พร้อมจะเสียประตูในนาทีที่โดนกดหัว ทำให้เกมที่จะพบกันเป็นคู่สุดท้ายของสัปดาห์นี้ เจ้าบ้านมีสิทธิ์จะคว้าชัยได้

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

โปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 (วันศุกร์-เสาร์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก เดินหน้าซัดความมันส์อย่างต่อเนื่องในนัดที่ 3 โดยในสุดสัปดาห์นี้จะมีการแข่งขันเพียง 7 คู่ เพราะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ต้องเดินทางไปที่ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อทำศึก ACL รอบ 16 ทีมสุดท้าย กับ ชนบุค ฮุนไดมอเตอร์ ขณะที่ในส่วนนี้เราจะหยิบยกเกมการแข่งขัน 1 คู่ ในวันศุกร์ และ 3 คู่ ของวันเสาร์ ในเวลา 18.00 น. มาวิเคราะห์วิจารณ์กัน      

สมุทรปราการ ซิตี้ พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          เขี้ยวสมุทร ออกสตาร์ท 2 นัดแรก ด้วยการออกไปเยือนแล้วสามารถเก็บได้ 4 คะแนน ซึ่งนี้ถือว่าเป็นผลงานที่ใช้ได้ หากดูจากสภาพทีมที่หลากคนเป็นห่วง ส่วนทางฝั่งแข้งเทพของโค้ชแบน ฟอร์มการเล่นจาก 2 นัดที่ผ่านมา ถือว่าโชว์ฟอร์มได้สมกับทีมเต็งจริงๆ แต่มันก็น่าเสียดายที่นัดล่าสุดทำได้แค่เสมอ ทั้งที่มีโอกาสทองจะคว้า 3 แต้มได้ สำหรับเกมการแข่งขันคู่นี้มองว่าจะเป็นเกมคุณภาพอีกคู่ ขณะที่ผลการแข่งขันเชื่อว่าทีมเยือนจะไม่แพ้ออกไปเป็นแน่

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

การท่าเรือ เอฟซี พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด

          สิงห์เจ้าท่า เก็บได้ 2 คะแนน จาก 2 นัด ซึ่งมันอาจเป็นผลงานที่ไม่ค่อยดีเท่าไรหากมองจากตรงนี้ แต่ถ้าแหวกให้ลึกลงไปจะพบว่าลูกทีมของโค้ชโอ่งมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเกมล่าสุดกับ บียู

ส่วนทางด้านจงอางผยอง ไม่ต้องรอนานกับการคว้า 3 แต้มแรกในลีกสูงสุด เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถโค่น ประจวบลงได้ แต่สำหรับเกมที่จะบุกมาเยือน แพท สเตเดี้ยม มันอาจเป็นงานยากของทีมจากเมืองหมอแคนที่มาแบ่งแต้ม เพราะด้วยศักยภาพและเป้าหมาย การท่าเรือ ต้องหวัง 3 แต้ม สถานเดียว   

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ชลบุรี เอฟซี พบกับ หนองบัว พิชญ เอฟซี          

ฉลามชล ออกสตาร์ทปีนี้ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดูดีมีทรงและน่าติดตามกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา กระนั้น 2 นัดที่ผ่านมา ดันเก็บได้เพียง 2 แต้ม อีกทังนัดล่าสุดกับ เมืองทอง ถือว่าเสียดายสุดๆ เพราะอุตสาห์นำไปไกลถึง 0-3 แต่การถอนคันเร่งเกินพิกัดแล้วดวงซวยผสม

ทำให้ถูกตีเสมอ 3-3 แบบช็อคตาตั้ง ส่วนทางฝั่งพญาไก่ชน การเจอกับทีมระดับกลางๆในบ้าน 2 นัด แล้วเก็บได้ 3 แต้ม ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่การออกไปเยือนถิ่นชลบุรี สเตเดี้ยม มองมุมไหนก็น่าจะเสร็จเจ้าบ้านที่หิวกระหายกับ 3 แต้ม 

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

“ผลัดกันนำคนละครั้ง” เชียงราย(กว่างโซ้งมหาภัย)นำก่อน แต่ต้องตามเจ๊าสมุทรปราการ 2-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดเปิดฤดูกาล คู่ปิดท้ายอยู่ที่สิงห์ สเตเดี้ยม ซึ่งการเป็นการพบกันระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ช้างเอฟเอ คัพ กับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ถูกตั้งคำถามอย่างหนักว่าจะไหวไหมสำหรับปีนี้ เพราะช่วงปิดฤดูกาลเสียตัวผู้เล่นหลักไปเยอะเหลือเกิน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 อีกครั้ง ส่วนทีมเยือนใช้ 4-4-2

ครึ่งแรก เชียงราย ถือว่าสอบตกอย่างสิ้นเชิงในเกมรุก เพราะแค่การขึ้นเกมก็เสียบอลตั้งแต่กลางสนามและแดน 1-2 ของคู่แข่งแล้ว ทำให้โอกาสแบบจะแจ้งไม่มีเลย ส่วนเกมรับยังทำให้หน้าที่ได้ดีกับการป้องกันลูกคอร์สด้านข้างที่เป็นของอันตรายจากขุนพลเขี้ยวสมุทร ขณะที่สมุทรปราการ เกมแดนกลางถือว่าทำได้ดีกว่า แต่การต่อบอลที่ไม่แม่นยำมากนัก จึงทำให้มีจังหวะพาบอลมาถึงแดนสุดท้ายไม่บ่อยนัก แต่โอกาสที่ไม่แม้จะไม่มาก มันก็ชวนให้ผู้ชมทางบ้านหวาดเสียวได้ 

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ในช่วงพักครึ่ง เชียงราย แก้เกมขนานใหญ่ ด้วยการปรับตำแหน่งการยืนและพื้นที่ให้บอลมาอย่างแน่นอน เพราะทันที่ออกมาเล่นในครึ่งหลัง พวกเขาสามารถต่อบอลจนมาถึงแดนสุดท้ายของคู่แข่งได้ถี่ยิ่งขึ้น กระทั่งการขึ้นมาของ พิธิวัฒน์ แล้วเห็น เอกนิษฐ์ ยืนว่างอยู่ จึงจัดการจ่ายให้เจ้าบุ๊คยิงจังหวะแรกเข้าไป ซึ่งจังหวะนี้นับเป็นการยิงที่ฉลาด เพราะถ้าจับก่อนมีสิทธิ์ไม่ได้ยิงแน่ จากนั้น สมุทรปราการ พยายามจะโหมบุกบ้าง แต่ก็ต้องเจอการแพ็คโซนรับแน่น ทำให้เด็กเก่าของเชียงรายอย่าง ชัยวัฒน์ บุราณ วิ่งมากดบอลพุ่งชน 2 เสา เป็นประตูตีเสมอ

          เกมบุกของ สมุทรปราการ ไม่นิยมเปิดจากด้านข้างอีกแล้ว แต่การเจาะด้วยบอลตามช่องก็ติดๆขัดๆ อย่างไรเสียด้วยจังหวะที่ลงล็อคแล้วเลือกยิงไกลอีกครั้ง มันได้กลายเป็นประตูนำ 1-2 เสียอย่างนั้น ทำให้ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เจ้าบ้านต้องอยู่ในสภาวะกดดัน แต่ก็ไม่นาน เพราะไม่กี่นาทีให้หลังก็มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกเตะมุมที่จังหวะลงล็อค แต่แนวรับของเขี้ยวสมุทรก็เหม่อลอยไปหน่อย จากนั้นกลายเป็นเจ้าบ้านที่โหมบุกใส่จนเกือบได้ประตูชัย แต่เพราะความไม่คมจึงทำให้จบด้วยผลเสมอ

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ออกสตตาร์ทด้วยความไม่ครบเครื่อง เพราะเกมบุกแทบจะเป็นอัมพาตตลอด 45 นาทีแรก ซึ่งมันเปรียบกับการเสียเวลาไปฟรีๆ ขณะที่ในครึ่งหลัง เกมบุกแก้ลำมาดีและทำได้ แต่ดันมาดวงซวยด้วยการเจอลูกยิงไกล 2 ลูกซ้อน ส่วนทางฟากสมุทรปราการ ซิตี้ เกมบุกพอใช้ แต่ต่อยไม่ค่อยหนัก ซึ่งยังดีที่วันนี้มีลูกยิงไกลช่วยนำพาแต้มกลับบ้าน ตรงข้ามกับเกมรับที่ในช่วงครึ่งหลังมีความผิดพลาด แล้วกลายเป็นสมาธิแกว่ง โดยเฉพาะหลังจากถูกตีเสมอ 2-2     

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (กระต่ายแก้ว)

“ตัวสำรอง พาคว้าชัย” บีจี ไม่ฟูลทีม เฉือนราชบุรี นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 2  ในค่ำคืนวันศุกร์มี 1 คู่ ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มีตัวบาดเจ็บมามายเหลือเกิน กับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่มาพร้อมแบบฟูลทีม ส่วนในเรื่องของผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนก็ใช้แผนเดิม คือ 4-5-1

          ในช่วงต้นเกม ราชบุรี ครองเกมได้เหนือกว่า เพราะสามารถครองบอลไว้กับตัวได้ แต่พอถึงแดน 2 ก็ต้องถ่ายคืนหลัง แล้วโดนคู่แข่งตัดไป กระทั่งผ่านไปสัก 10 นาที ก็เริ่มมีความพยายามจะเจาะทางริมเส้นที่เป็นของถนัด แต่กาทำเข้าทำแบบนี้จะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมาจากเกมโต้กลับ ซึ่งมันเกือบได้ผล แต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสา

ส่วนทางฝั่งบีจี ตั้งรับด้วยการยืนแพ็คแน่น ขณะที่กองกลางและกองหน้าช่วยกันวิ่งไล่บีบในแดน 1-2 แล้วมันสามารถตัดบอลเอาไปโต้ได้ แต่ความเฉียบของผู้เล่นกระต่ายแก้วยังมีไม่มากพอ กระทั่งเกมผ่านไปราว 30 นาที บีจีเริ่มจะครองเกมได้เหนือกว่า เพราะสามารถต่อบอลในแดน 1-3 ได้อย่างไหลลื่น รวมถึงมีการเปิดบอลจากริมเส้นที่เข้าเป้าอยู่เนืองๆ ขาดเพียงการเข้าทำและจบสกอร์ในพื้นที่แดนสุดท้ายที่ยังขาดๆเกินๆ  

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง บีจี เลือกจะเล่นเหมือนในช่วงท้ายครึ่งแรก กระทั่งการเปิดบอลจากลูกเตะเป็นที่มาของประตูนำ 1-0 จากนั้นแนวรับราชบุรี ก็ดันเปิดแผลด้วยการเล่นแบบเสียสมาธิ ทำให้บอลที่เคลียร์ไม่ขาดย้อนกลับมาลงโทษด้วยการเสียประตู 2-0 กระนั้นจังหวะฟุตบอลก็เป็นใช้ให้เจ้าบ้านด้วย

จากนั้นราชันมังกรพยายามจะต่อบอลสู้ แต่ก็เหมือนฉายภาพซ้ำ เพราะการพาบอลเข้าไปในแดน 1-2 ของคู่แข่ง ก็ถูกบีบกดดันจนต้องจ่ายย้อนคืนหลัง หรือการจะใช้ปีกที่มีความเร็ววิ่งกระชากริมเส้น ก็มักมีตัวประกบเข้ามาช่วยกันซ้อน พลางจะเปิดไปลุ้นดู

ก็เสมือนกับเปิดบอลให้ ฉัตรชัย รับ กระทั่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ บีจี เริ่มจะตัดบอลและต่อกันได้อย่างไหลรื่น จนในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลูกทีมของวิดมาร์ สามารถครองบอลและคุมจังหวะเกมไว้ได้หมด 

  ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เริ่มต้นด้วยความรัดกุมและสามารถป้องกันได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งหากจะหาจังหวะที่การป้องกันผิดพลาด คงจะมีเพียงจังหวะที่ แดร์เลย์ ยิงชนเสาเท่านั้น ขณะที่เกมรุก วันนี้สามารถยกระดับตัวเองได้ดี โดยเฉพาะการจ่ายบอลจากหลังสู่หน้า

จากซ้ายสู่ขวา ที่จัดว่ารวดเร็วพอตัว กระนั้นสิ่งที่ต้องไปเก็บงาน คือ การเข้าทำในจังหวะสุดท้ายที่ต้องลดความผิดพลาดง่ายๆลงบ้าง ส่วนทางด้าน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ช่วงต้นเกมเหมือนจะเหนือกว่า

แต่การครองบอลแบบนั้นไม่มีประโยชน์ เพราะสปีดของบอลช้าเกินไป ทำให้ถูกดักง่าย ขณะที่เกมรับยังปรากฏให้เห็นถึงช่องว่างและการยืนป้องกันที่หละหลวม กระทั่งสิ่งเหล่านี้ลงโทษให้เสียประตู อีกทั้งยังมาเสียสมาธิอีก ทำให้วันนี้สมควรแล้วที่ต้องเป็นผู้แพ้

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

“VAR ใช้คุ้ม แต่จบเจ๊า” บุรีรัมย์ สาดลูกโด่งทั้งเกม แต่ได้แค่เสมอกับสุพรรณบุรี 0-0

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 นัดเปิดสนาม ในค่ำคืนของวันเสาร์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังช้างอารีนา พร้อมกับผู้ชม 25 % ของความจุ พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมดวงแข็งแห่งการหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาเป็น 3-4-3

          เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นมาเป็น บุรีรัมย์ ที่โหมบุกใส่ตลอด 45 นาทีแรก ด้วยการโยนยาว ได้แก่ โยนเพื่อให้กองหน้าโหม่ง โยนเพื่อให้แนวรุกเก็บบอลลงแล้วทำชิ่ง หรือยิงไกล ซึ่งจังหวะทั้งหลายเหล่านี้มีทั้งที่พลาดเอง จังหวะไม่ลงล็อค รวมถึงแนวรับของสุพรรณบุรี ช่วยกันบีบและรุมสกัดเอาไว้ได้ ส่วนทางฝั่งของช้างศึกยุทธหัตถี ได้แต่ตั้งรับในแดน โดยในช่วงครึ่งแรกสามารถยืนตำแหน่งและช่วยซ้อนได้ดี แต่ก็มีบางจังหวะที่หลวมไปบ้าง ตรงข้ามกับเกมบุกที่ไม่มีโอกาสได้ทำเกมโต้กลับเลย   

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ พยายามจะเร่งจังหวะเพื่อให้แนวรับของคู่แข่งปั่นป่วนและเสียประตู แต่ภาพที่ปรากฏหลับกลายเป็นปราสาทสายฟ้าเสียเอง ที่ยิ่งเร่งยิ่งพลาดแล้วเสียทั้งโอกาสและเวลา ขณะที่เกมโต้กลับของสุพรรณบุรี ครึ่งหลังสามารถดักบอลและโต้กลับได้ดี พร้อมกับมีการสอดประสานและทำชิ่ง จนมีโอกาสได้ยิงและลุ้นเสียว

แต่น่าเสียดายที่การครองบอลบุกแต่ละหน ไม่เหนียวและยาวนานพอที่ทำให้เกมบุกของเจ้าบ้านเป็นอัมพาตได้ อย่างไรก็ดีช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ ลดความเร็วและกลับมาเน้นการออกบอลในทุกจังหวะ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยากยิ่ง เพราะแนวรับช้างศึกยุทธหัตถี ยืนต้านทานไว้จนเกิดความมั่นใจไปเรียบร้อยแล้ว

          เกมนี้มีการใช้ VAR ค่อนข้างบ่อย โดยการเช็คจุดโทษในครึ่งแรกกับการเช็คจังหวะฟาวล์ก่อนได้ประตูช่วงท้ายเกม ทุกอย่างเคลียร์ แต่จังหวะการเช็คจังหวะแฮนด์บอลในครึ่งหลัง แล้วตัดสินว่าไม่เป็นจุดโทษ ดูจะเป็นประเด็นที่ถกเถียงพอสมควร เพราะจากภาพ ผู้เล่นของบุรีรัมย์เอามือไขว้หลัง แต่เมื่อบอลทำท่าจะผ่านตัวไป

จึงกางแขนออกมา แล้วบอลโดนเสื้อที่เป็นบริเวณแขนเสื้อด้านบน ซึ่งการตัดสินในกรณีแบบนี้มันเคยปรากฏออกมาว่าถ้าบอลโดนส่วนแขนตั้งแต่ข้อพับลงมา ถึงจะนับเป็นแฮนด์บอล ฉะนั้นเคสนี้ ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ถูกต้อง

          บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการไอเดียการเข้าทำเพียงแค่การโยนบอลยาวเท่านั้น ซึ่งมันอาจเป็นทรงบอลที่ไม่สวยต่อสายตาท่านผู้ชม แต่ผลลัพธ์ของมันก็ออกมาดี เพียงแค่ว่าวันนี้ทำไม่ได้เพราะตัวเองและคู่แข่งที่ป้องกันได้ดี ส่วนทางฝั่งสุพรรณบุรี เอฟซี ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใด เกมรับยิ่งแน่น อีกทั้งยังมีตัวช่วยซ้อนทุกจังหวะ

ขณะที่เกมรุกวันนี้ไม่ค่อยแผงฤทธิ์เท่าใด ฉะนั้นการคว้า 1 แต้ม ถือว่าสุดยอดแล้ว เพราะถ้าหากวันนี้โดนเจ้าบ้านยิงเมื่อใด เชื่อว่าช้างศึกยุทธหัตถี มีโอกาสแพ้มากถึง 90% เลยทีเดียว    

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com