Categories
Sport

“รับถ้วยแบบกร่อยๆ”

สุพรรณบุรี  แสบก่อนร่วง เฉือน บุรีรัมย์ 2-1 ปิดท้ายวันรับถ้วย

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 30 หรือนัดปิดฤดูกาล ณ สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ตกชั้นอย่างเป็นทางการแล้วก่อนหน้านี้ จะได้เล่นสั่งลาลีกสูงสุดกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีกประจำปีนี้ ที่มารอรับถ้วยหลังจบเกมส์ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ 3-4-3 ส่วนทีมเยือนเป็น 4-4-2 เหมือนเดิม

หลังจากบอลเขี่ยเริ่มเล่นไปได้แค่ 2 นาที สุพรรณบุรี ขึ้นนำ 1-0 แบบสุดเซอร์ไพรส์ โดยจังหวะนี้เป็นการออกบอลยาวจาก เนโต้ ให้ วิลเลี่ยม ได้ลากไปเรื่อยๆ แล้วจัดการยิงไปที่เสาไกล ซึ่งความผิดพลาดของทีมเยือน คือ ศศลักษณ์ ที่ถอยเยอะและเสียหลัก แถมตัวที่อยู่ข้างเคียงก็เข้ามาช้า มิหนำซ้ำ นพพล ก็ควรจะปัดได้ หากดูจากน้ำหนักและทิศทาง 

บุรีรัมย์ เสียประตูเร็ว แต่ก็เดินเกมรุกตามแผนที่วางมา ซึ่งได้เห็นถึงการโจมตีที่มีมิติทางฝั่งซ้าย คือ หากบอลอยู่กับตัวริมเส้น จะหาโอกาสเปิดไปหน้าประตู ส่วนถ้าบอลอยู่กับตัวปีกด้านใน ก็จะแทงให้ 2 กองหน้าได้วิ่งทะลุไลน์ จนสร้างโอกาสและควรยิงได้ 2-3 ประตูด้วยซ้ำ ถ้ายิงได้เฉียบคมกว่านี้ ขณะที่ สุพรรณบุรี สวนกลับแบบนับครั้งได้ แต่การสวนกลับเหล่านั้นค่อนข้างอันตราย เพราะพาบอลมาถึงปากประตูเกือบทุกครั้ง

ครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียง 6 นาที สุพรรณบุรี ขึ้นนำ 2-0 จากการวางบอลให้ วิลเลี่ยม ก่อนที่เจ้าตัวจะฝากเพื่อนและรับกลับมาด้วยยิงพุ่งเสียบเสาแรก ซึ่งนี่เป็นอีกครั้งที่แนวรับทีมเยือนเปิดพื้นที่ให้เล่นและผู้รักษาประตูควรพุ่งปัดถึง หลังจากนั้น บุรีรัมย์ ยังคงเดินหน้าต่อ แล้วได้เห็นถึงความแตกต่างตรงการเข้าทำที่เน้นโยนทั้งซ้ายและขวา รวมถึงการจบสกอร์ที่มีประสิทธิภาพ จนมาได้ประตูตีตื้น 2-1 ส่วนในช่วงเวลาที่เหลือ ก็ยังไม่เบาเกมบุก แต่โอกาสทองทั้งหลายดันติดเสาและเซฟของ เนโต้ ทำให้เกมจบลงด้วยสกอร์ 2-1

บทสรุปจากเกม สุพรรณบุรี เอฟซี ยังคงยึดรูปแบบเดิมๆ เพียงแต่ว่าวันนี้มันเข้าทางและได้ผล คือ ให้ วิลเลี่ยม ฉายเดี่ยวและยิงประตู ส่วนรับก็ป้องกันและยื้อไว้ให้มากที่สุด จนสุดท้ายประตูที่เสียนั้นน้อยกว่าประตูที่ยิงได้ ส่วน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมรับทำหน้าที่ไม่เยอะ แต่มีรอยแผลตลอด ทั้งๆที่แนวรุกคู่แข่งมีเพียงไม่กี่คน ขณะที่เกมรุกคุมทุกอย่างได้หมด ยกเว้นความเฉียบคมที่โยนทิ้งขว้างไปเสียอย่างนั้น  

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“คว้าแชมป์สำเร็จ เพราะเลือกเปลี่ยนเร็ว”

สรุปผลงาน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบเลกแรกด้วยการเป็นจ่าฝูง ซึ่งหากมองผ่านๆก็นับเป็นผลงานที่น่าพอใจ แต่สำหรับนายใหญ่อย่าง เนวิน ชิดชอบ ยังไม่ประทับใจ ทำให้เลือกที่จะปรับและเปลี่ยนทันที แล้วการตัดสินใจเร็วครั้งนี้ก็ได้เป็นตัวแปรให้ทีมคว้าแชมป์ในบั้นปลาย แม้จะมีเสียวมีเกร็งในช่วงท้าย แต่ที่สุดก็คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 7 มาครองได้

ในช่วงพักเลกแรก บุรีรัมย์ จัดการปลด การ์ม่า ออกจากตำแหน่ง แม้จะพาทีมจบตำแหน่งจ่าฝูง ซึ่งหากดูจากรูปแบบและฟอร์มการเล่น มันได้เห็นถึงความกระท่อนกระแท่น ความไม่คงเส้นคงวา และระบบหลัง 3 ที่ดูไม่สร้างสรรค์อีกต่อไปแล้ว ส่วนกุนซือใหม่ที่ดึงมาร่วมงานก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เพราะคนคนนั้น คือ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่เลือกทิ้งสมุทรปราการ ซิตี้ แบบกลางทาง เพื่อมารับงานใหญ่ที่ชาติตระกูลสูงกว่า พร้อมกันนั้นยังได้ดึงสตาฟญี่ปุ่นเข้ามาทำงานในทีมชุดใหญ่จนถึงชุดเยาวชน

ในเรื่องของขุมกำลังนักเตะ บุรีรัมย์ ได้เรียกเจ้าพี ศศลักษณ์ กลับมา พร้อมกับดึงเด็กเก่าอย่าง ธีราทร มาร่วมทีมอีกครั้ง ขณะที่ตัวต่างชาติก็ได้ มาซิก้า และ โบลินกี้ เข้ามาเสริมแนวรุก ซึ่งการเสริมตัวในรอบนี้ มันได้เห็นถึงความอันตรายทางฝั่งซ้าย โดยมี ธีราทร เป็นตัวเอก แล้วด้วยความอันตรายตรงนี้ มันก็เป็นผลให้ทัพปราสาทสายฟ้าเดินหน้ากวาดแต้มและทำคะแนนทิ้งห่างทีมตาม

โดยเฉพาะการเฉือน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 ในบ้าน มิหนำซ้ำระยะห่างของแต้มก็มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทีมตามดันสะดุดเองอยู่ร่ำไป กระทั่งเกมในบ้านนัดที่ 26 กับ บีจี ปุทม ยูไนเต็ด ซึ่งขอแค่เก็บชัยก็จะคว้าแชมป์ทันที แต่สุดท้ายดันโดนทีเด็ดของ สารัช จนต้องแพ้คาบ้าน 0-1 จากนั้นกลายเป็น บุรีรัมย์ กดดันตัวเองจนสะดุดเสมอแบบรัวๆ ทำให้ทีมตามอย่าง บีจี ปทุม ที่เหมือนจะหมดลุ้นไปแล้ว เหมือนผีฟื้นจากหลุม อย่างไรเสียยอดทีมจากอีสานใต้ก็ปิดจ็อบของตัวเองได้ จากเกมบุกถล่ม หนองบัว พิชญ เอฟซี 0-3

การกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ไทยลีกอีกครั้งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดูน่าเกรงขามในช่วงต้นเลก 2 เพราะมันได้เห็นรูปแบบการเล่นที่ต่างออกในยุคอิชิอิ แต่จุดติที่ต้องกลับไปทบทวน คือ ช่วงโค้งสุดท้ายที่อยู่ๆดันเครื่องสะดุด ซึ่งยังดีที่ตุนแต้มมาเยอะ มิเช่นนั้นอาจโดนแซงและน้ำตาตกเหมือนปีที่ผ่านๆมา

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“คว้าแชมป์สำเร็จ เพราะเลือกเปลี่ยนเร็ว”

สรุปผลงาน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเลกที่ 2 ฤดูกาล 2021/22

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบเลกแรกด้วยการเป็นจ่าฝูง ซึ่งหากมองผ่านๆก็นับเป็นผลงานที่น่าพอใจ แต่สำหรับนายใหญ่อย่าง เนวิน ชิดชอบ ยังไม่ประทับใจ ทำให้เลือกที่จะปรับและเปลี่ยนทันที แล้วการตัดสินใจเร็วครั้งนี้ก็ได้เป็นตัวแปรให้ทีมคว้าแชมป์ในบั้นปลาย แม้จะมีเสียวมีเกร็งในช่วงท้าย แต่ที่สุดก็คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 7 มาครองได้

ในช่วงพักเลกแรก บุรีรัมย์ จัดการปลด การ์ม่า ออกจากตำแหน่ง แม้จะพาทีมจบตำแหน่งจ่าฝูง ซึ่งหากดูจากรูปแบบและฟอร์มการเล่น มันได้เห็นถึงความกระท่อนกระแท่น ความไม่คงเส้นคงวา และระบบหลัง 3 ที่ดูไม่สร้างสรรค์อีกต่อไปแล้ว ส่วนกุนซือใหม่ที่ดึงมาร่วมงานก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เพราะคนคนนั้น คือ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่เลือกทิ้งสมุทรปราการ ซิตี้ แบบกลางทาง เพื่อมารับงานใหญ่ที่ชาติตระกูลสูงกว่า พร้อมกันนั้นยังได้ดึงสตาฟญี่ปุ่นเข้ามาทำงานในทีมชุดใหญ่จนถึงชุดเยาวชน

ในเรื่องของขุมกำลังนักเตะ บุรีรัมย์ ได้เรียกเจ้าพี ศศลักษณ์ กลับมา พร้อมกับดึงเด็กเก่าอย่าง ธีราทร มาร่วมทีมอีกครั้ง ขณะที่ตัวต่างชาติก็ได้ มาซิก้า และ โบลินกี้ เข้ามาเสริมแนวรุก ซึ่งการเสริมตัวในรอบนี้ มันได้เห็นถึงความอันตรายทางฝั่งซ้าย โดยมี ธีราทร เป็นตัวเอก แล้วด้วยความอันตรายตรงนี้ มันก็เป็นผลให้ทัพปราสาทสายฟ้าเดินหน้ากวาดแต้มและทำคะแนนทิ้งห่างทีมตาม

โดยเฉพาะการเฉือน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-0 ในบ้าน มิหนำซ้ำระยะห่างของแต้มก็มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทีมตามดันสะดุดเองอยู่ร่ำไป กระทั่งเกมในบ้านนัดที่ 26 กับ บีจี ปุทม ยูไนเต็ด ซึ่งขอแค่เก็บชัยก็จะคว้าแชมป์ทันที แต่สุดท้ายดันโดนทีเด็ดของ สารัช จนต้องแพ้คาบ้าน 0-1 จากนั้นกลายเป็น บุรีรัมย์ กดดันตัวเองจนสะดุดเสมอแบบรัวๆ ทำให้ทีมตามอย่าง บีจี ปทุม ที่เหมือนจะหมดลุ้นไปแล้ว เหมือนผีฟื้นจากหลุม อย่างไรเสียยอดทีมจากอีสานใต้ก็ปิดจ็อบของตัวเองได้ จากเกมบุกถล่ม หนองบัว พิชญ เอฟซี 0-3

การกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ไทยลีกอีกครั้งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดูน่าเกรงขามในช่วงต้นเลก 2 เพราะมันได้เห็นรูปแบบการเล่นที่ต่างออกในยุคอิชิอิ แต่จุดติที่ต้องกลับไปทบทวน คือ ช่วงโค้งสุดท้ายที่อยู่ๆดันเครื่องสะดุด ซึ่งยังดีที่ตุนแต้มมาเยอะ มิเช่นนั้นอาจโดนแซงและน้ำตาตกเหมือนปีที่ผ่านๆมา

ติดตาม ข่าวSport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 (วันเสาร์-อาทิตย์)

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 3 ของฤดูกาล ได้ผ่านการวิเคราะห์วิจารณ์ไปแล้ว 4 จาก 7 คู่ ที่จะลงสนามในสัปดาห์นี้ ทำให้ในส่วนนี้จะมาพูดถึงเกมอีก 3 คู่ ในคู่สุดท้ายของวันเสาร์ 1 คู่ และวันอาทิตย์ 2 คู่ ในเวลา 18.00 น.  ซึ่งใครจะพบกับใครและผลที่คาดจะเป็นอย่าง ติดตามกันต่อได้นับจากบรรทัดนี้ 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด

          ปราสาทสายฟ้า ออกสตาร์ท 2 แมตช์ในบ้าน ด้วย 4 แต้ม โดยถ้าดูจากตรงนี้อาจไม่แย่แต่ไม่ถึงกับดี แต่หากดูจากชื่อชั้นของคู่แข่งและฟอร์มการเล่น มันยังไม่ถึงขั้นประทับใจสักเท่าไร เพราะอย่างนัดล่าสุดต้องใช้เวลาอยู่นานสองนานกว่ากว่าจะทำประตูขึ้นนำและแซงขาดได้ ทั้งที่ฝ่ายตรงข้ามเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน

ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก ส่วนทางฝั่งช้างศึกล้านนา 2 นัด 1 แต้ม ถือว่าบุญโขแล้ว เพราะอย่างนัดล่าสุดกับสุพรรณบุรี ขนาดคู่แข่งเหลือ 10 คน ยังต้องตามตีเสมอแบบเลือดตาแทบกระเด็น ฉะนั้นเกมคู่สุดท้ายของวันเสาร์ที่ช้างอารีน่า คงไม่พลิกโผสำหรับเจ้าบ้านในการเก็บ 3 แต้ม    

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

สุพรรณบุรี เอฟซี พบกับ ประจวบ เอฟซี

          ก่อนเริ่มซีซั่น ช้างศึกยุทธหัตถีถูกยกให้เป็นเต็งลำดับต้นๆในการหนีตาย แต่จากผลงานที่ปรากฏ 2 นัด จะเห็นได้ว่าพวกเขายังพอมีอนาคตสำหรับการยืนหยัดบนเวทีลีกสูงสุด โดยในนัดแรกกับบุรีรัมย์ ออกไปยันมหาอุดจนได้ 1 แต้ม ส่วนนัดล่าสุดเกือบเก็บ 3 แต้ม ได้อยู่แล้ว

แต่การเหลือ 10 ตัว กับเวลาที่เหลืออีก 20 นาที มันหนักหนาและสาหัสเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือไหว ทำให้ท้ายที่สุดพวกเขาเก็บได้เพียงแต้มเดียว ขณะที่ต่อพิฆาต รูปแบบและทรงการเล่นจัดว่าดี แต่ข้อเสีย คือ ไม่สามารถรักษาฟอร์มที่ดีไว้ได้ตลอดเกม ทำให้ 2 นัด ที่ผ่านมา ไร้แต้มเสียอย่างนั้น สำหรับการพบกันของทั้ง 2 ทีม ศักยภาพมีความเท่าเทียมกันจนยากที่คาดเดาถึงผล แต่หากต้อชี้ฝั่ง คงต้องบอกว่าเจ้าบ้านจะไม่แพ้ในเกมนี้

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี          

สวาทแคท เป็นทีมดีเซลเครื่องร้อนช้าอย่างที่โค้ชโจกล่าวไว้จริงๆ เพราะในนัดแรกฟอร์มจัดว่าแย่ไปสักหน่อย แต่พอนัดล่าสุดสามารถเล่นได้ดีขึ้นมาทันตาเห็น กระนั้นก็นับว่าน่าเสียดายที่การผ่อนเกมมากไปดันมีผลให้คู่แข่งยิงแซงในนาทีสุดท้าย ส่วนทางฝั่งมังกรโล่เงิน

การได้นักเตะใหม่เข้ามาผสม มีผลให้สภาพทีมดูแข็งแกร่งขึ้น แต่จุดอ่อนที่เห็นได้ชัด คือ เกมรับที่พร้อมจะเสียประตูในนาทีที่โดนกดหัว ทำให้เกมที่จะพบกันเป็นคู่สุดท้ายของสัปดาห์นี้ เจ้าบ้านมีสิทธิ์จะคว้าชัยได้

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก
เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

“VAR ใช้คุ้ม แต่จบเจ๊า” บุรีรัมย์ สาดลูกโด่งทั้งเกม แต่ได้แค่เสมอกับสุพรรณบุรี 0-0

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 นัดเปิดสนาม ในค่ำคืนของวันเสาร์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังช้างอารีนา พร้อมกับผู้ชม 25 % ของความจุ พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมดวงแข็งแห่งการหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาเป็น 3-4-3

          เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นมาเป็น บุรีรัมย์ ที่โหมบุกใส่ตลอด 45 นาทีแรก ด้วยการโยนยาว ได้แก่ โยนเพื่อให้กองหน้าโหม่ง โยนเพื่อให้แนวรุกเก็บบอลลงแล้วทำชิ่ง หรือยิงไกล ซึ่งจังหวะทั้งหลายเหล่านี้มีทั้งที่พลาดเอง จังหวะไม่ลงล็อค รวมถึงแนวรับของสุพรรณบุรี ช่วยกันบีบและรุมสกัดเอาไว้ได้ ส่วนทางฝั่งของช้างศึกยุทธหัตถี ได้แต่ตั้งรับในแดน โดยในช่วงครึ่งแรกสามารถยืนตำแหน่งและช่วยซ้อนได้ดี แต่ก็มีบางจังหวะที่หลวมไปบ้าง ตรงข้ามกับเกมบุกที่ไม่มีโอกาสได้ทำเกมโต้กลับเลย   

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ พยายามจะเร่งจังหวะเพื่อให้แนวรับของคู่แข่งปั่นป่วนและเสียประตู แต่ภาพที่ปรากฏหลับกลายเป็นปราสาทสายฟ้าเสียเอง ที่ยิ่งเร่งยิ่งพลาดแล้วเสียทั้งโอกาสและเวลา ขณะที่เกมโต้กลับของสุพรรณบุรี ครึ่งหลังสามารถดักบอลและโต้กลับได้ดี พร้อมกับมีการสอดประสานและทำชิ่ง จนมีโอกาสได้ยิงและลุ้นเสียว

แต่น่าเสียดายที่การครองบอลบุกแต่ละหน ไม่เหนียวและยาวนานพอที่ทำให้เกมบุกของเจ้าบ้านเป็นอัมพาตได้ อย่างไรก็ดีช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ ลดความเร็วและกลับมาเน้นการออกบอลในทุกจังหวะ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยากยิ่ง เพราะแนวรับช้างศึกยุทธหัตถี ยืนต้านทานไว้จนเกิดความมั่นใจไปเรียบร้อยแล้ว

          เกมนี้มีการใช้ VAR ค่อนข้างบ่อย โดยการเช็คจุดโทษในครึ่งแรกกับการเช็คจังหวะฟาวล์ก่อนได้ประตูช่วงท้ายเกม ทุกอย่างเคลียร์ แต่จังหวะการเช็คจังหวะแฮนด์บอลในครึ่งหลัง แล้วตัดสินว่าไม่เป็นจุดโทษ ดูจะเป็นประเด็นที่ถกเถียงพอสมควร เพราะจากภาพ ผู้เล่นของบุรีรัมย์เอามือไขว้หลัง แต่เมื่อบอลทำท่าจะผ่านตัวไป

จึงกางแขนออกมา แล้วบอลโดนเสื้อที่เป็นบริเวณแขนเสื้อด้านบน ซึ่งการตัดสินในกรณีแบบนี้มันเคยปรากฏออกมาว่าถ้าบอลโดนส่วนแขนตั้งแต่ข้อพับลงมา ถึงจะนับเป็นแฮนด์บอล ฉะนั้นเคสนี้ ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ถูกต้อง

          บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการไอเดียการเข้าทำเพียงแค่การโยนบอลยาวเท่านั้น ซึ่งมันอาจเป็นทรงบอลที่ไม่สวยต่อสายตาท่านผู้ชม แต่ผลลัพธ์ของมันก็ออกมาดี เพียงแค่ว่าวันนี้ทำไม่ได้เพราะตัวเองและคู่แข่งที่ป้องกันได้ดี ส่วนทางฝั่งสุพรรณบุรี เอฟซี ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใด เกมรับยิ่งแน่น อีกทั้งยังมีตัวช่วยซ้อนทุกจังหวะ

ขณะที่เกมรุกวันนี้ไม่ค่อยแผงฤทธิ์เท่าใด ฉะนั้นการคว้า 1 แต้ม ถือว่าสุดยอดแล้ว เพราะถ้าหากวันนี้โดนเจ้าบ้านยิงเมื่อใด เชื่อว่าช้างศึกยุทธหัตถี มีโอกาสแพ้มากถึง 90% เลยทีเดียว    

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

ในช่วง 3-4 ปีหลังมานี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยืนนโยบายชัดเจน กับการดันตัวเยาวชนของสโมสรขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ ตามความตั้งใจของท่านประธานสโมสรที่อยากให้คนในพื้นที่ได้เล่นตอบแทนบ้านเกิด พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ซื้อตัวผู้เล่นไทยจากสโมสรไหนอีก ส่วนโควตาต่างชาติก็จะเสริมเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด อย่างไรเสียนโยบายดังกล่าว มันก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่าล้มเหลว เพราะผลงานมีแต่ตกต่ำลงเรื่อยๆ จนคว้าน้ำเหลวเมื่อปีที่ผ่านมา

          การดันตัวเยาวชนของตัวเองขึ้นมาสู่ชุดใหญ่แบบพร้อมๆกันหลายราย มันชี้ชัดให้เห็นว่าบางคนคุณภาพถึง จนพร้อมจะเป็นกำลังหลักของทีมได้ แต่ต้องใช้เวลา เช่น พี่น้อง ศุภโชค-ศุภนัฐ ขณะที่หลายคนพอเล่นได้ เช่น ศุภชัย และ รัตนากร ส่วนตัวที่เล่นไม่ได้หรือคุณภาพไม่ถึง ก็มีค่อนข้างมาก จนสุดท้ายต้องปล่อยยืม ไม่ก็ขายให้ไปเติบโตที่อื่น ทำให้ตัวผู้เล่นไทยที่ลงสนามขั้นต่ำ 7 คน (ตัดโควตาต่างชาติ 3, โควตาเอเชีย 1) มันก็เริ่มเห็นตัวที่เป็นบ่อน้ำมันแล้ว 3-4 ราย

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา
ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

ในเมื่อตัวผู้เล่นไทยเป็นจุดอ่อนหลายคน ทำให้ความหวังสุดท้ายต้องพึ่งนักเตะต่างชาติ ซึ่งก็มีหลายทีมที่นักเตะไทยไม่ดี แต่นักเตะต่างชาติดี แล้วผลงานดี อย่างไรเสียด้วยนโยบายของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เลือกจะนำเข้าจากต่างประเทศแบบฟรีเอเยนท์ มันก็ยิ่งกลายเป็นอุปสรรค เพราะการโยกย้ายข้ามทวีปมาเล่นแบบนี้ มันย่อมต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ปราสาทสายฟ้ารอไม่ได้ เพราะถ้ามาแล้วเล่นไม่ดีก็โละออก นอกจากนี้การดึงมาแบบฟรีเอเยนท์ มันก็ยากที่จะเจอตัวแบบดีๆที่เข้าขั้นเกรดพรีเมี่ยม เพราะถ้าหากนักเตะคนนั้นดีจริง สโมสรต้นสังกัดคงไม่ปล่อยตัวมาง่ายๆ ฉะนั้นในเมื่อตัวต่างชาติมาแล้วเล่นไม่ได้ ตัวไทยก็คุณภาพไม่ถึงหลายราย ผลงานของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จึงดำดิ่งแบบไม่ต้องสงสัย   

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา
ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

      การหันเหกลับมาซื้อตัวผู้เล่นไทย จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ แม้จะต้องกลืนน้ำลายตัวเอง โดยการดึงตัวผู้เล่นไทยมาแบบรัวๆในช่วงตลาดซื้อ-ขายนี้ มันมีผลดีอยู่ตรงที่เข้ามาแล้ว ใช้เวลาปรับตัวไม่นาน เพราะพวกเขาเหล่านี้พอมีประสบการณ์มาบ้าง นอกจากนี้ในส่วนของโควตาต่างชาติก็ไม่บ้าเลือดกับการโละทิ้งเป็นว่าเล่นอีกแล้ว หากแต่ดูว่าตำแหน่งไหนขาดก็เติมจุดนั้น ฉะนั้นมันจึงเป็นส่วนผสมที่น่าจะดีที่สุดในตอนนี้สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับการให้โอกาสเยาวชนที่คุณภาพถึง การมีตัวโควตาต่างชาติที่ดีและเล่นได้ พร้อมกับมีตัวเชื่อม คือ นักเตะไทยที่ซื้อเข้ามา ส่วนผลงานจะเป็นอย่างไรในฤดูกาลใหม่ ก็ต้องรอติดตามชม

ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา
ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถึงต้องซื้อตัวผู้เล่นไทยเข้ามา

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

จัดอันดับตัวเต็ง 5 ทีม ลุ้นคั่วแชมป์ไทยลีก 1

นับจากนี้ไม่เกิน 2 เดือน ฟุตบอลไทยลีก 1 จะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้งแน่ เหลือตรงที่ว่าจะแข่งขันแบบสนามใครสนามมัน หรือแข่งแบบบั้บเบิ้ล อย่างไรเสียก่อนออกสตาร์ท เราจะจัดอันดับ 5 ทีมเต็ง ที่มีลุ้นแชมป์ในปีนี้ ซึ่งในท้ายที่สุดจะแม่นยำและไม่หลุดโผจากนี้หรือไม่ ในอนาคตเรามาดูกัน

 การท่าเรือ เอฟซี
การท่าเรือ เอฟซี

ตัวเต็งลำดับ 5 การท่าเรือ เอฟซี

          การเสริมทัพยังดูโหดเหี้ยมไม่เสื่อมคลายก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังรักษามาตรฐานได้ดี คือ การซื้อตัวที่ไม่ตรงกับความต้องการของทีม ซึ่งการดึงโค้ชโอ่งเข้ามา ก็มีความเสี่ยงไม่น้อยที่จะเป็นเหยื่อรายต่อไปกับความล้มเหลวของทีม แต่ถ้าหากโค้ชโอ่ง พาทีมไปถึงแชมป์ ก็คงต้องสะดุดดีสัก 3 วัน 7 วัน  

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ตัวเต็งลำดับ 4 สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

          แม้ว่าจะสภาพทีมจะดูเหมือนถังแตกและเงินน้อย เพราะเสียตัวผู้เล่นไปหลายราย แต่ไม่มีข่าวคราวซื้อเข้ามา อย่างไรเสียด้วยผลงานที่ผ่านและเตะตาที่สุดใน ACL จึงทำให้กาชื่อทิ้งไม่ได้ จนต้องใส่ไว้ในฐานะตัวเต็ง แม้จะมีข้อจำกัดสำคัญ คือ หากตัวต่างชาติเจ็บ หรือโดนแบน มันค่อนข้างสะเทือนกับผลงานของทีม

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ตัวเต็งลำดับ 3 ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

          การเข้ามาของโค้ชแบน ค่อยๆสร้าง บียู ให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากผลงานในเลกที่ 2 เมื่อฤดูกาลก่อน ที่เร่งเครื่องขึ้นมาจบอันดับที่ 5 ได้ อย่างไรเสียด้วยขุนกำลังที่ไม่ได้หลากหลายมาก ก็อาจมีผลให้ยืนระยะไม่อยู่ในภาวะที่การแข่งขันต้องเตะถี่ๆเช่นนี้

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ตัวเต็งลำดับ 2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

          ปีที่แล้วคว้าน้ำเหลวก็จริง แต่ผลงานในเลกที่ 2 ถือว่ายอดเยี่ยม กับการเร่งเครื่องจนมาจบตำแหน่งรองแชมป์ ส่วนในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาหันมาใช้นโยบายดึงตัวผู้เล่นไทยเกรดดี ส่วนโควตาต่างชาติไม่โละแบบบ้าระห่ำอีกแล้ว เว้นเสียแต่โควตาเอเชียที่ดึงผู้เล่นในเกมรับมาเติมเต็ม ฉะนั้นไทยลีก 1 ฤดูกาลใหม่นี้ จะมาประมาทขุนพลปราสาทสายฟ้าทีมนี้ไม่ได้อีกแล้ว

 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด  
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด  

ตัวเต็งลำดับ 1 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด  

          ด้วยความที่ทีมลงตัวและไม่เสียผู้เล่นตัวหลักออกไป ทำให้คาดได้ว่าความแข็งแกร่งคงไม่ต่างไปจากเดิม อีกทั้งยังมีการเสริมตัวไทยและโค้ชเข้ามา จนได้เห็นผลไปแล้วในศึก ACL ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะต้องยกให้เต็ง แต่จงจำไว้เสมอว่าการเป็นแชมป์ที่ว่ายากแล้ว การป้องกันแชมป์ไทยลีก 1 ฤดูกาลนี้ยาก

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

เปิดโปรแกรมนัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1 (1)

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 แม้จะยังไม่มีกำหนดในการเริ่มเขี่ยบอล แต่กระนั้นก็ได้คลอดโปรแกรมออกมาเป็นที่เรียบร้อย ว่าใครต้องเจอกับใครบ้าง ฉะนั้นเราจะไม่รีรอ เพราะเราจะพาทุกท่านไปดูโปรแกรม พร้อมการวิเคราะห์เล็กๆน้อยๆ

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด – สุพรรณบุรี เอฟซี

ในช่วงกลางฤดูกาลที่แล้ว ปราสาทสายฟ้าฟอร์มดิ่งไปอยู่ท้ายตารางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กระทั่งการเข้ามาของคนคุ้นเคยอย่าง การ์ม่า ก็ช่วยพลิกสถานการณ์ให้ทีมกระโดดขึ้นมาจบรองแชมป์ ทำให้ปีนี้ต้องระวังเจ้าของแชมป์ลีก 6 สมัย อย่างจงหนัก ส่วนช้างศึกยุทธหัตถี โกงความตายด้วยการรอดตกชั้นแบบวุดหวิดในนัดสุดท้าย อย่างไรเสียในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมานี้ การเสริมตัวผู้เล่นใหม่ดูไม่หนักหน่วงพอ จนอดคิดไม่ได้ว่าปีนี้ลำบากแน่ ฉะนั้นการเจอกันของทั้ง 2 ทีมนี้ บุรีรัมย์ ดูได้เปรียบกว่าหลายช่วงตัวและมองได้ว่า 3 แต้มอยู่ไม่ไกล

นัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1(1)
นัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1(1)

 

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี – หนองบัว พิชญ เอฟซี

การได้ จีดี้ คานยุบ เข้ามา ได้ช่วยเปลี่ยนจากแมวเซา กลายเป็นแมวซ่า กระทั่งจบอันดับที่ 9 ในบั้นปลาย ซึ่งนี่คือผลที่ดีที่สุดในประวัติซาสตร์ของทัพสวาทแคท แต่ในช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาก็เสียตัวหลักไปหลายราย ทำให้ประเมินได้ว่าความน่ากลัวอาจลดดีกรีลง ส่วนพญาไก่ชน ขึ้นชั้นสู่ไทยลีก 1 ในฐานะแชมป์ไทยลีก 2 โดยน้องใหม่หน้าสดๆซิงค์ๆคนนี้ต้องเจอรับน้องสาหัสแน่ เพราะประสบการณ์ยังไม่มี ตัวผู้เล่นก็ยังยึดชุดเดิม แต่การเจอกับโคราช ในวันที่ไม่โหดเหี้ยมนัก ก็เชื่อว่ามีโอกาสจะแบ่งแต้มได้ หากเล่นได้ดี

นัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1(1)
นัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1(1)

การท่าเรือ เอฟซี – โปลิศ เทโร เอฟซี

ผลงานในลีกไม่เป็นไปตามเป้า ผลงานในถ้วยเอเชียก็ไม่ปัง สุดท้ายสิงห์เจ้าท่า ก็ต้องแยกทางกับโค้ช อู๊ด สระราวุฒิ ตรีพันธ์ แล้วไปดึงโค้ชโอ่งมาแทน พร้อมกับการเสริมตัวผู้เล่นราคาแพงระยับตามสูตร ส่วนมังกรไฟโล่เงิน ผลงานเป็นไปตามเป้ากับการอยู่รอดบนลีกสูงสุด อีกการเสริมตัวก็ไม่เป็นที่จับตามอง ทำให้เชื่อว่าผลงานคงไม่ต่างจากเดิม อย่างไรเสียการพบกันของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ ต้องพยายามเอาชนะให้ได้ เพราะหากผลออกมาเป็นอย่างอื่น ความกดดันและเสียงวิจารณ์จะกระหึ่มตั้งแต่นักแรกแน่นนอน

นัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1(1)
นัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1(1)

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี – ขอนแก่น ยูไนเต็ด

เลกแรกโชว์ฟอร์มดี เลกสองผลงานดรอป ส่วนการไปลุยถ้วยเอเชีย คว้ามาได้ 2 แต้ม ซึ่งหากดูถึงตรงนี้คงจะยากยิ่งสำหรับราชันมังกร กับการลุ้นอันดับหัวตาราง แต่การได้ แดรเลย์ เข้ามา นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่งว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนจงอางผยอง เลื่อนชั้นจากไทยลีก 2 ด้วยการดวลจุดโทษในนัดชิงเพลย์ออฟ อย่างไรเสียการเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดครั้งแรก การเสริมตัวผู้เล่นไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร ฉะนั้นเกมที่ทั้ง 2 ทีมจะพบกัน หากราชันมังกรไม่พลาดเอง ยังไงก็เก็บ 3 แต้มได้ไม่ยาก

นัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1(1)
นัดเปิดฤดูกาล ไทยลีก 1(1)

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com