Categories
Sport

“น้องแมวโหดเต็มระบบ”

โคราช ฟอร์มโหด ถล่ม การท่าเรือ ในถิ่น 3-1

ศึกฟุตบอลรีโวไทยลีก นัดที่ 11 ในส่วนของคู่เปิดหัววันอาทิตย์ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ผลงานเริ่มจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จะได้เปิดรังเหย้าของตัวเอง พบกับ การท่าเรือ เอฟซี ที่วันนี้ต้องเต็มที่เพื่อเก็บ 3 แต้ม ให้ได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านในใช้ 4-4-2 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนปรับมาเป็น 4-4-1-1

        การท่าเรือ ออกสตาร์ทได้ดูดีกว่า เพราะสามารถต่อบอลและทำชิ่งบริเวณริมเส้นได้ แต่การเจาะพื้นที่กรอบเขตโทษและยิงประตูยังไม่มี อย่างไรเสียพอเกมผ่านไปเรื่อย ๆ เกมรุกดันดรอปลงจนต้องลุ้นประตูจากการยิงไกลนอกกรอบแทน ขณะที่ นครราชสีมา เกมรับต้านทานได้สบาย ส่วนเกมรุกเริ่มตั้งตัวเมื่อ 10 นาทีผ่าน แต่การพาบอลไปข้างหน้าจะรู้สึกว่าการครองบอลไม่เหนียวและมักเสียเองก่อนเข้าพื้นที่อันตราย กระนั้นด้วยความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือน ก็ได้มีผลให้เจ้าถิ่นได้จุดโทษและประตูนำ 1-0

      การท่าเรือ พยายามจะบุกต่อเพื่อคุมเกมและประตูตีเสมอ แต่การเสียบอลกลางทางก็ได้เป็นการเติมเชื้อไฟให้แนวรุกเจ้าถิ่นมีความมั่นใจที่จะบุกทะลุทะลวง รวมถึงเจาะพื้นที่ที่แบ็คของทีมเยือนเติมขึ้นไปและลงไม่ทัน สุดท้ายบอลยาวจากหลังก็ถูก คาริคาลี่ ดูดลงและเลี้ยงเข้าไปยิงเป็น 2-0

การท่าเรือ เปลี่ยนแนวรุกลงมาเพิ่มในครึ่งหลัง แต่มันยังไม่ค่อยเห็นผล เพราะบอลไปไม่ถึงแดนสุดท้าย มิหนำซ้ำยังมาเสียสมาธิจากลูกเตะมุม จนถูกฉวยโอกาสเล่นเร็วและกลายเป็นประตู 3-0 ทำให้หลังจากนั้น เกมขึงบุกของสิงห์เจ้าท่า แทบจะเก็บฉากกลับบ้าน อีกทั้งการครองบอลในแดนกลาง ก็ถูกฉกถี่ๆจนเกือบโดนยิงเพิ่มหลายครั้ง กระนั้นในช่วงท้ายเกม ลูกทีมของโค้ชโอ่งมาได้ประตูปลอบใจ 3-1 จากจากจังหวะที่เจ้าถิ่นประมาทแล้วเปิดพื้นที่ให้เลี้ยงจี้และยิงนอกกรอบเสียบสามเหลี่ยม

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เกมนี้สถานการณ์เป็นใจตั้งแต่ขึ้นนำ 1-0 ทำให้หลังจากนั้นสามารถเล่นเกมสวนกลับที่ตัวเองถนัดได้เต็มที่ แต่การสวนกลับที่ไม่ค่อยแม่ยำและทำเสียเองระหว่างทางเกือบทุกครั้ง คือ สิ่งที่ต้องนำไปปรับ เพราะหากเกมสวนกลับมีคุณภาพ จำนวนประตูจะต้องมากว่า 3 ลูก ที่ยิงได้ ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี การพ่ายแพ้แบบนี้เสียท่าทีมใหญ่ เพราะประตูที่เกิดขึ้นล้วนมาจากความผิดพลาดทั้งหมด ขณะที่เกมรุกก็ไร้น้ำยาที่จะเจาะเข้าไปในแดนคู่แข่ง ซึ่งถึงตรงนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงจริงๆสำหรับสิงห์เจ้าท่า เพราะไม่ว่าจะเกมรับหรือรุกก็ล้วนแต่มีปัญหา

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ไม่สวยหรู แต่มี 3 แต้ม”

ชลบุรี ฟอร์มไม่สะเด่า แต่ยังเฉือน สมุทรปราการ 2-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 11 เกมคู่ส่งท้ายของสัปดาห์ อยู่ที่ชลบุรี สเตเดี้ยม โดย ชลบุรี เอฟซี ที่ผลงานดูดาว์นลง จะต้องพบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ขาดนักเตะตัวหลักและอยู่ในสภาพฟอร์มที่ไม่ดี ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม มาในระบบ 4-4-2 แบบชนระบบ

 ในช่วง 10 นาทีแรก รูปเกมของทั้ง 2 ทีม ยังต่อไม่ค่อยติด แต่พอหลังจากนั้น สมุทรปราการ ทักทายก่อนด้วยอาวุธเบา แต่พอเป็น ชลบุรี ดันตอบโต้ด้วยอาวุธหนัก โดยประตูแรกมาจากลูกโหม่งของ เคลิช ที่ถอยมาโขกแบบได้ทั้งน้ำหนักและทิศทาง จนแนวรับของทีมเยือนต้องจำยอม จากนั้นไล่หลังไม่กี่นาที ก็จัดการยิงประตู 2-0 จากลูกเปิดของ ชนินทร์ แล้ว แนวรับของทีมเยือนอ่านจังหวะบอลพลาด ทำให้ เกริกฤทธิ์ พาบอลไปยิงแบบไม่ยากเย็น

หลังจาก สมุทรปราการ ถูกขึ้นนำตั้งแต่เกมยังไม่ผ่าน 20 นาที พวกเขาก็พยายามจะรักษาเชฟรูปเกมของตัวเองให้ดี เพราะมันยังคงมีภาพของการเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งได้เล่นง่ายๆ อย่างไรเสียพวกเขาก็หาลู่ทางทำเกมบุกเพื่อยิงประตูเพิ่ม แต่การขาดตัวจ่ายชั้นดีอย่าง เจริญศักดิ์ ก็มีผลให้ เอลิอันโด ต้องโดดเดี่ยวและถอยตัวมารอรับบอล กระนั้นในช่วงท้ายครึ่งแรก เขี้ยวสมุทรก็มาได้ประตูตีตื้น 2-1 จากลูกยิงเก็บตกหน้ากรอบเขตโทษ ทำให้ใน 45 นาทีหลัง อาจเป็นงานที่ง่ายขึ้นก็ได้    

ครึ่งหลัง รูปเกมไม่ต่างจากครึ่งแรกมาก โดยเกมบุกของ สมุทรปราการ พอไม่มีตัวจ่ายทะลุไปข้างหน้า มันก็มีผลให้ เอลิอันโด ต้องถอนตัวมารับบอลและเลี้ยงฝ่า หรือยิงไกล กระทั่งประสิทธิภาพการยิงประตูถูกลดทอนลงไป แล้วในขณะเดียวกันแนวรับของเขี้ยวสมุทรก็เปิดพื้นที่ให้แนวรุก ชลบุรี ได้จบสกอร์ แต่เพราะแนวรุกของฉลามชลที่ไม่คมเอง ทำให้ไม่มีสกอร์เพิ่ม

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี ยังมีปัญหาในแนวรุกที่ใช้โอกาสค่อนข้างเปลื้อง ส่วนในแนวรับแม้จะเสียประตู แต่ก็ยังรับมือได้ดี ขณะที่ สมุทรปราการ ซิตี้ การขาด เจริญศักดิ์ ไป ส่งผลต่อการทำเกมบุกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการทะลุทะลวงที่เชื่องช้าลงจนไม่สามารถจู่โจมแบบฉับพลันได้ ส่วนเกมรับ ปกติจะมีความผิดพลาดให้เห็น แต่สำหรับวันนี้พวกเขาเปิดช่องว่างให้คู่แข่งได้เล่นง่ายๆมากเกินไป กระทั่งกล่าวได้ว่าเกมรับในวันนี้ค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งยังโชคดีที่คู่แข่งขว้างหมูทิ้งไปเยอะ มิเช่นนั้นอาจโดนมากกว่านี้   

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ไม่มีโอ้ ไม่มีผลต่อ 3 แต้ม”

เมืองทอง ไม่มีโค้ชโอ้ แต่ยังเจ๋งพอจะคว่ำ สุพรรณบุรี 2-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 11 ในส่วนของวันอาทิตย์ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ผลงานไปตามเรื่องตามราว จะเปิดรังธันเดอร์โดม รับ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่แพ้ติดต่อกัน 4 นัดติดต่อกัน จนกระแสต่อต้านตัวโค้ชก็เริ่มหนักขึ้น ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านใช้ระบบเดิมอย่าง 4-1-4-1 ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-3-3 

      เกมยังไม่ทันได้ออกรสออกชาติ ประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นกับทางฝั่ง สุพรรณบุรี โดยในจังหวะนั้นเป็นฟรีคลิกที่เปิดมาหน้าประตู แล้ว พีรพงษ์ ชะงักจนล้มตัวช้า กระนั้นให้หลังแค่ 3 นาที ซาดอร์ มาตีเสมอ 1-1 จากลูกฟรีคลิกที่แฉลบกำแพง จากนั้นเมื่อสกอร์กลับมาเท่ากัน ดันกลายเป็นทั้งคู่เลือกจะแลกใส่กัน ซึ่งทางฝั่ง กิเลนผยอง โจมตีจากทางริมเส้น แต่การเปิดเข้ากรอบดูไกลและไม่แม่นยำกับตัวที่อยู่ในกรอบ ขณะที่ช้างศึกยุทธหัตถี ใช้การโจมตีริมเส้นเหมือนกัน แต่เน้นการเลี้ยงฝ่าและจี้ใส่แนวรับเจ้าบ้าน กระทั่งเกิดช่องและมีโอกาสที่ชัดเจนกว่า ขาดเสียเพียงความเฉียบคม

ครึ่งหลัง เมืองทอง ติวแท็กติกเกมรุกให้หาพื้นที่ว่าง เพื่อให้ตัวจ่ายสามารถมีทางเลือกในการออกบอล ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ช่วยให้เกมบุกไหลลื่นจนมาได้ประตูนำ 2-1 จากการเปิดให้ ซาร์ดอน วิ่งตัดหน้าแนวรับแล้วขึ้นโหม่ง ส่วนแผงเกมรับของ เมืองทอง มีการกำชับให้ยืนประคองตำแหน่งและคอยจับตายตัวจ่าย ซึ่งก็ทำได้ดีจนแนวรุกของทีมเยือนดูไร้พิษสง กระนั้นในช่วงท้ายเกม สุพรรณบุรี โหมบุกเต็มอัตรา ซึ่งตัวเองก็มีโอกาสจะได้ประตูตีเสมอ แต่การจ่ายเสียระหว่างทาง ก็ทำให้ เมืองทอง ที่แนวรับดูจะยวบไป มีโอกาสได้สวนและยิงฝัง แต่สุดท้ายไม่มีฝ่ายไหนทำประตูเพิ่มได้

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด มีฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะในครึ่งแรก ส่วนในครึ่งหลัง การแก้เกมมีผลต่อประตูนำ 2-1 แต่หลังจากนั้นเกมรับถูกขย่มจนเกือบจะโดนตีเสมอเหมือนกัน กระนั้นยังเดชะบุญสุดๆที่คู่แข่งมีทำหมูหกระหว่างทาง ทำให้มีเวลาได้หายใจหายคอบ้าง

ส่วนทางฝั่ง สุพรรณบุรี เอฟซี ทรงบอลไม่ถึงขั้นห่วยแตกและย่ำแย่แบบสุดๆ แต่ภาพที่ออกมามันเหมือนกับเป็ด ที่ไปไม่สุดสักทางและอะไรไม่ดีสักอย่าง โดยเกมรุกมีการเลี้ยงฝ่าที่ดี แม้จะต่อบอลไม่ดี แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม ขณะที่เกมรับเหมือนจะเอาอยู่ แต่สุดท้ายก็เสียประตู ทำให้ทั้งหมดทั้งมวล ช้างศึกยุทธหัตถีต้องเผชิญต่อแรงต้านในเรื่องทรงบอลที่ไม่มีรูปแบบนัก และผลการแข่งขันก็ไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“2 นัด 9 ประตู”

บียู สวมบทโหด กระซวกไส้ เทโร ไม่เหลือซาก 5-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 12 ลงเตะกันในวันกลางสัปดาห์ โดยคู่แรกของวันอังคาร เป็นการพบกันของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่แม้จะสะดุดเสมอในบ้าน แต่เกมที่ผ่านมาไปถล่ม เชียงราย แบบไม่ให้ได้เกิด กับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่ผลงานลุ่มๆดอนๆไปตามเรื่องและไม่ต้องร้อนร้นกับการหนีตกชั้นมาก ส่วนผังการเล่นในวันนี้ เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ขณะที่ฝั่งทีมเยือนใช้ 3-4-3

      เกมการแข่งขันเริ่มขึ้น เทโร พยายามจะต่อบอลและบุกทางริมเส้น แต่ความเชื่องช้าของการรับส่งบอล ทำให้เมื่อเข้าแดน 2-3 ก็จะถูกดักเอาบอลคืน กระทั่งเวลาผ่านไปก็ไม่ได้บุก ส่วนทางฝั่ง ทรู แบงค็อก ยามได้บอลกลับคืนมาก็พยายามจะเล่นเร็ว แต่จังหวะเข้าทำยังไม่แม่นและพอดีกัน พลางจะต่อบอลและขึงไปเรื่อย ๆ ก็เจาะพื้นที่แดนสุดท้ายไม่ได้ เพราะแนวรับทีมเยือนยืนป้องกันได้หนาแน่น แต่แล้วในนาทีที่ 28 บียู ก็มาขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุมที่เปิดมาได้พอดีกับหัวคนโหม่ง นั่นจึงทำให้สถานการณ์คลายความกดดัน จากนั้นก็มาได้ประตู 2-0 ให้อุ่นใจมากขึ้น จากการเปิดฟรีคลิกแฉลบกำแพง

ครึ่งหลัง เทโร ออกมาเล่นด้วยการบุกแลก ซึ่งมันก็พอจะมีจังหวะให้ได้เสียวบาง แต่กระนั้นการได้ประตูทิ้งห่าง 3-0 จากลูกเตะมุมอีกครั้ง มันก็มีผลให้การขึงบุกของทีมเยือนล้มเลิกไป แม้จะยังคงเดินหน้าอยู่ แต่การเสียบอลกลางทางถี่ ๆ มันก็มีผลให้รูปเกมเข้าทาง บียู ในการเอาบอลไปโต้กลับและเปลี่ยนเป็นประตู 4-0 และ 5-0 เมื่อครบ 90 นาที

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เริ่มต้นเกมด้วยความกดดันเล็กน้อย เพราะไม่สามารถเจาะแนวรับที่หนาแน่นได้ แต่พอได้ประตูนำ สถานการณ์มันก็เปลี่ยนไปจนอะไรๆก็ง่ายขึ้น จากนั้นจนจบเกม พวกเขาก็แค่ตั้งเกมรับและรอโต้กลับตามของชอบ แล้วด้วยความเฉียบคม จึงทำให้ยิงได้ถึง 5 ลูก

ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร เอฟซี ศักยภาพการต่อบอลและขึ้นเกมบุกเป็นรอง กระนั้นยังทำดีเพราะเกมรับแพ็คได้แน่นหนา แต่พอโดนเจาะประตู แผนแตกทันที เพราะมันไม่สามรถอุดประตูได้อีกต่อไป แล้วสุดท้ายด้วยศักยภาพและไอเดียการทำเกมบุกที่เป็นรอง มันก็เข้าทางให้คู่แข่งเอาบอลมาโต้กลับจนต้องจำยอมรับ แม้ว่าสกอร์จะดูโหดร้ายไปสักหน่อย      

ติดตามความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

สรุปผลการแข่งขัน

รีโว่ลีกคัพ 2021/22 รอบเพลย์ออฟ (3)

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ หรือชื่อเดิมคือ โตโยต้า ลีกคัพ กลับมาทำการแข่งขันอีกครั้ง หลังจากเว้นว่างไป 1 ปี จากปัญหาโควิด-19 สำหรับการแข่งขันในรอบนี้เป็นการเพลย์ออฟหา 16 ทีม ไปผสมกับ 16 ทีม จากไทยลีก 1 ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย 

นครราชสีมา ห้วยแถลง ยูไนเต็ด 2-1 ขอนแก่น เอฟซี

          นครราชสีมา ห้วยแถลง โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงสุดๆในไทยลีก 2 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะสามารถโกยแต้มจนขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงได้ กระนั้นในรายการบอลถ้วย พวกเขาก็เลือกที่จะส่งทีมเล่นแค่ถ้วยลีกคัพรายการเดียว แม้วันนี้จะต้องเจอกับที่วรรณะสูงกว่าอย่าง ขอนแก่น จากไทยลีก 2 อย่างไรเสียด้วยความมุ่งมานะที่มากกว่า ก็ส่งผลให้หัวจักรขนวนนี้พุ่งไดโนเสาร์จนสิ้นซาก พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบต่อไปอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน  

นนทบุรี ยูไนเต็ด ส.บุญมีฤทธิ์ 1-2 เมืองเลย ยูไนเต็ด

          นนทบุรี กำลังต้องขับเคี่ยวอย่างหนักกับเพื่อนร่วมโซนกรุงเทพและปริมณฑล ในไทยลีก 3 ซึ่งมีหลายทีมที่ต้องการไปต่อในรอบซุปเปอร์ กระนั้นในรายการบอลถ้วย พวกเขาก็ได้ส่งครบทั้ง 2 รายการ โดยในศึกช้างเอฟเอคัพ ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้ายไปแล้ว ขณะที่วันนี้ลงเล่นถ้วยรีโว่ลีกคัพ แล้วดันโดนจ่าฝูง ไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่าง เมืองเลย บุกมาเฉือนนิ่มๆ ทำให้บอลถ้วยทั้ง 2 รายการ นักรบเซไล ยังอยู่ในเส้นทาง       

ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี 1-2 ระยอง เอฟซี

          ฉะเชิงเทรา มีลุ้นจะเลื่อนชั้นหลายปี แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังเล่นอยู่ในไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออก อีกทั้งผลงานในปีนี้ก็ดูดรอปลงจนส่อแววจะหมดลุ้นตั้งแต่หัววัน ขณะที่บอลถ้วยเลือกส่งแค่รายการลีกคัพ เพียงถ้วยเดียว พร้อมกับจากไปอย่างรวดเร็วด้วยการพ่าย ระยอง จากไทยลีก 2 ไป 1-2           

สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี เอฟซี 1-4 ลำพูน วอริเออร์ (เสมอใน 120 นาที 3-3)

          สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี โชว์ผลงานสุดอ่องด้วยการรั้งจ่าฝูงไทยลีก 3 โซนภาคตะวันตก ขณะที่บอลถ้วยช้างเอฟเอ คัพ ก็หักด่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ได้สำเร็จ แต่สำหรับถ้วยลีกคัพ ต้องเจอกับของแข็งจากไทยลีก 2 อย่าง ลำพูน ที่ผลงานก็ไม่เลวกับการเกาะกลุ่มเพลย์ออฟ กระนั้นการแข่งขันในเกมนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างกันเต็มที่ กระทั่งต้องลุ้นถึงการดวลเป้า สุดท้ายราชันโคขาวนิ่งและแม่นกว่า ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบถัดไป     

ปลวกแดง ยูไนเต็ด 2-0 สุโขทัย เอฟซี

          ปลวกแดง มีผลงานในไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออก ที่น่าผิดหวัง เพราะจากการเป็นตัวเต็งดันกลายเป็นทีมกลางตารางไปเสียอย่างนั้น ขณะที่บอลถ้วยอย่าง ช้างเอฟเอ คัพ ก็โดนถล่มจนตกรอบ ส่วนในลีกคัพ ต้องเจอกับศึกหนักเพราะผู้มาเยือน คือ สุโขทัย ที่กำลังรั้งรองจ่าฝูงไทยลีก 2 กระนั้นผลการแข่งขันถือว่าพลิกล็อคพอสมควร เพราะเป็นเจ้าถิ่นเอาชนะไปได้ ส่งผลให้ค้างคาวไฟต้องไปเน้นในลีกเพียงอย่างเดียว เพราะในรายการฟุตบอลถ้วยตกรอบหมดแล้ว

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Spot lover

Categories
Sport

สรุปผลการแข่งขัน

รีโว่ลีกคัพ 2021/22 รอบเพลย์ออฟ (2)

ศึกฟุตบอลรีโว่ลีกคัพ ประจำฤดูกาล 2021/22 รอบเพลย์ออฟ กลับแข่งขันกันอีกครั้ง หลังจากงดเว้นไปเมื่อปีที่แล้ว สำหรับปีนี้มีการคัดเลือกและเพลย์ออฟให้เหลือ 16 ทีม เพื่อที่จะเข้าไปเจอกับทีมจากไทยลีก 1 ในรอบ 32 ทีมสุดท้ายต่อไป สำหรับทีมไหนบ้างที่ได้ไปต่อ ไปติดตามกันได้จาก 5 คู่ ต่อไปนี้

สงขลา เอฟซี 6-1 ราชนาวี เอฟซี

สงขลา อาจจะมีผลงานที่ไม่ดีในไทยลีก 3 โซนภาคใต้ แต่ในบอลรายการบอลถ้วย ผลงานจัดว่าร้อนแรง เพราะในบอลถ้วยช้างเอฟเอ คัพ สามารถถล่มคู่แข่งแบบยับเยิน แล้วในถ้วยลีกคัพ ก็เหมือนกับฉายภาพซ้ำ ด้วยการถล่ม 6-1 กระนั้นทีมที่เจอด้วยในคราวนี้ คือ ทีมจากไทยลีก 2 อย่าง ราชนาวี ที่ผลงานในลีกย่ำแย่และยังไม่ชนะใคร ขณะที่รายการบอลถ้วยก็ตกรอบจนหมดสิ้น ฉะนั้นนับจากนี้คงต้องไปหนีตายแบบสุดชีวิต สำหรับตะหานน้ำ

กาญจนพัฒน์ เอฟซี 0-1 พิษณุโลก เอฟซี

กาญจนบุรี มีผลงานในไทยลีก 3 โซนภาคตะวันตก ด้วยการเกาะกลุ่มกลางตาราง ส่วนผลงานในบอลถ้วยอย่าง ช้างเอฟเอคัพ ตกไปตั้งแต่รอบคัดเลือก ขณะที่ในรายการลีกคัพ ต้องเจอกับ รองจ่าฝูงของไทยลีก 3 โซนภาคเหนืออย่าง พิษณุโลก ซึ่งในเกมการแข่งขันก็สู้กันได้ดี แต่สุดท้ายศักยภาพของขุนพลนเรศวรเหนือกว่า จึงเฉือนไปได้ 0-1      

กระบี่ เอฟซี 7-0 กำแพงเพชร เอฟซี

กระบี่ สามารถออกสตาร์ทได้ดีกับการเกาะกลุ่มผู้นำ ไทยลีก 3 โซนภาคใต้ โดยในรายการบอลถ้วยไม่ส่งแข่ง ช้างเอฟเอ คัพ แต่เลือกจะส่งรายการลีกคัพ เพียงถ้วยเดียว แล้วในวันนี้โชคดีที่เจอทีมในไทยลีก 3 ด้วยกัน แต่อยู่ในโซนภาคเหนือ โดยการต้องเดินทางไกลและสภาพทีมก็ไม่ได้แข็งแกร่งของ กำแพงเพชร ทำให้อินทรีอันดามันปิดบ้านถล่มไปอย่างขาดลอย 7-0     

มหาสารคาม สามใบเถา เอฟซี 1-4 นครศรี ยูไนเต็ด

      มหาสารคาม ภายใต้กลุ่มทุนใหม่ กับผลงานในไทยลีก 3 โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจจะยังไม่น่าประทับใจนัก แต่ในรายการบอลถ้วยอย่าง ช้างเอเอฟเอ คัพ สามารถหักด่านเข้ารอบต่อไปได้ กระนั้นในวันนี้ต้องเจอจ่าฝูงไทยลีก 3 จากโซนภาคใต้ อย่าง นครศรี แล้วสุดท้ายปูม่วงมหากาฬไม่สามารถต้านทานได้ โดนต้อนในถิ่นไป 1-4

ชัยนาท ยูไนเต็ด   0-4 ลำปาง เอฟซี

      ชัยนาท ยูไนเต็ด ลงเล่นในไทยลีก 3 โซนภาคตะวันตก ผลงานเหมือนจะดี แต่ก็ไม่ดีมาก เพราะการเสมอมากเกินไป ทำให้คะแนนไม่ค่อยขยับและรั้งไปทางค่อนท้ายตาราง ส่วนการลงเล่นฟุตบอลถ้วย ส่งแข่งเพียงแค่ลีกคัพรายการนี้รายการเดียว แต่ก็ต้องพบกับศึกหนักด้วยการเจอ ลำปาง ที่ผลงานโดดเด่นอย่างยิ่งใน ไทยลีก 2 ซึ่งด้วยความห่างชั้นจึงทำให้รถม้ามรกตบุกมาถล่ม 0-4 พูลสวัสดิ์

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“น้องแมวปลดล็อคเกมเยือน”

โคราช บุกเฉือน ประจวบ ถึงสามอ่าว 1-2 ปลดล็อคชัยชนะเกมเยือน

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก ในส่วนของเย็นวันเสาร์ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ผลงานยังไม่ค่อยดีและยังไม่ชนะใครในบ้าน จะต้องเปิดรังสามอ่าวพบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่การเล่นนอกบ้านยังไม่เคยพบเจอชัยชนะ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 4-3-3

      เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้ง 2 ทีม เปิดเกมบุกใส่กัน แต่การจบสกอร์ยังไม่ดี เพราะเมื่อเข้าถึงแดน 3-4 แล้วเห็นช่อง ก็เลือกจะส่องเลย กระนั้น ประจวบ มีโอกาสนำก่อน จากความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือนที่สกัดไม่ดี แต่การหลุดเดี่ยวของแนวรุกเจ้าถิ่น ดันยิงหลุดกรอบออกไปแบบไม่น่าเชื่อ จากนั้นเป็นทีของ นครราชสีมา ที่กำลังจะเปิดบอลไปหน้าประตู แต่ดันเปิดล้นและทิศทางเปลี่ยน แล้วมันกลายเป็นว่าน้ำหนักของบอลตกใต้คานเข้าประตูไป กระนั้น ขวัญชัย ก็มีส่วนพลาด เพราะบอลไม่ไกลตัวและสามารถป้องกันได้ หากปฏิกิริยาเร็วกว่านี้ 

ครึ่งหลัง ประจวบ เปิดเกมบุกด้วยการขึ้นบอลให้เร็วและจบที่การเปิดจากริมเส้นไปหน้าประตู ซึ่งการบุกกดดันซ้ำๆก็มีโชคที่บอลไปโดนแขนแนวรับคู่แข่ง แล้ว VAR ตัดสินให้เป็นจุดโทษและลูกตีเสมอ 1-1 ของเจ้าถิ่น จากนั้น ต่อพิฆาตยังคงเดินเครื่องต่อ แต่จังหวะการเปิดบอลเริ่มมีความละเอียดน้อยลง เพราะมันเน้นความแรงแล้วให้แนวรุกเอาตัวเข้าชาร์ตเอา ส่วนทางฝั่ง โคราช ครึ่งหลังเน้นรับและสวนกลับ โดนการสวนกลับจะได้จากบอลจังหวะ 2 หรือยามคู่แข่งจ่ายเสีย แต่จังหวะการเข้าทำยังไม่ดี

      ช่วงท้ายเกม ประจวบ เร่งจังหวะการบุกจนกลายเป็นพลาดและเสียบอล ทำให้ โคราช ได้สวนกลับถี่ขึ้น กระทั่งเสมือนว่าทั้ง 2 ทีม กำลังแลกหมัดกัน ซึ่งถึงตรงนี้อยู่ที่ใครจะชัวร์และแม่นกว่ากัน สุดท้ายกลายเป็น สวาทแคท ที่ได้ลูกนนำ 1-2 จากการเปิดริมเส้นและเข้าซาร์ตหน้าประตู ซึ่งแนวรับเจ้าถิ่นเปิดพื้นที่ไว้ให้ 

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม พีที ประจวบ เอฟซี เกมรุกมีโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่งหลายครั้ง แต่ฉกฉวยไว้ไม่ได้เลย กระนั้นยังดีที่การเข้าทำของตัวเองนำไปสู่ประตูตีเสมอ กระนั้นการเร่งจังหวะจนประสิทธิภาพลดลงและไม่ได้ลุ้นประตู มันก็เสียแรงไปโดยเปล่าประโยชน์ ขณะที่เกมรับ อาจไม่มีข้อผิดพลาดอะไรมากมาย แต่วันนี้พลาดช่วงท้ายครั้งเดียว ถึงขั้นแพ้เลย ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เกมรับยังคงมีข้อผิดพลาด แต่เดชะบุญสุดๆที่ไม่โดนลงโทษ ขณะที่เกมรุก สร้างสรรค์โอกาสได้น้อย แต่ด้วยจังหวะของฟุตบอลและความผิดพลาดของคู่แข่ง มันได้ผสมกันจนกลายเป็นชัยชนะและ 3 แต้ม       

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

ว่ากันด้วยเรื่องของสนามหญ้า

ทีมชาติไทยชุดยู-23

การแข่งขันฟุตบอลยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ทีมชาติไทย ได้เดินทางไปแข่งขันที่ประเทศมองโกเลีย แล้ว 2 นัด แบ่งเป็นชนะและเสมออย่างละนัด กระนั้นสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ สภาพสนามที่เป็นหญ้าเทียม ซึ่งกำลังเป็นจุดที่บ่อนทำลายให้นักเตะต้องบาดเจ็บแบบไม่จำเป็น

      ในเกมที่ทีมชาติไทย ทำได้แค่เสมอกับ มองโกเลีย วันชาติ ชูสงค์ คือ นักเตะที่โชคร้ายสุดๆ เพราะมีอาการกระดูกเท้าแตก ทำไมต้องปิดเทอมยาว 3-6 เดือน ขณะที่ เบนจามิน เดวิส และ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตรถาวร ก็ได้รับอาการบาดเจ็บ แต่ไม่รุนแรงนัก จากนั้นในเกมที่ชนะ ลาว 3-0 อันโธนิโอ แสนใจรักษ์ กับ โจนาธาน เข็มดี ก็ได้กลายเป็น 2 ผู้เล่นล่าสุด ที่โชคร้ายได้รับอาการบาดเจ็บ ซึ่งจาก 2 เกมที่กล่าวมานี้ มันก็พอจะเห็นได้ว่าแล้วหญ้าเทียมมีผลให้นักฟุตบอลได้รับอาการบาดเจ็บง่าย

หากพูดกันถึงหญ้าเทียม จริงๆแล้วมันก็มีหลายเกรด โดยอย่างฟุตบอลไทยก็เคยมีทีมที่ใช้หญ้าเทียม คือ ศรีราชา สเตเดี้ยม ของ ศรีราชา เอฟซี ลีโอ สเตเดี้ยม ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ สนามจุ๊บ ของ จามจุรี ยูไนเต็ด โดยศรีราชา มีการยุบทีมไป ส่วน บีจี ปทุม เล็งเห็นแล้วว่าหญ้าเทียมมันก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บต่อตัวนักฟุตบอล อีกทั้งยังต้องสลับไปซ้อมสนามซ้อมหญ้าจริงทุกครั้งที่ออกไปเยือน

สุดท้ายจึงเปลี่ยนมาใช้หญ้าจริง ขณะที่ จามจุรี ยังคงเป็นทีมเดียวในลีกอาชีพที่ใช้หญ้าเทียม ฉะนั้นสำหรับวงการฟุตบอลไทย เราตระหนักถึงเรื่องนี้มาได้สักพักใหญ่แล้ว หรือต่อให้ในระดับอาเซียน ชาติที่มีสนามหญ้าเทียมอย่าง กัมพูชา ก็ถูกตำหนิ จนไม่ค่อยได้รับหน้าสื่อให้เป็นเจ้าภาพ หรือ สิงคโปร์ ที่จะเป็นเจ้าภาพ AFF Suzuki cup ปลายปีนี้ ก็ยังไม่ใช้สนามจาลันเบซาร์ ที่เป็นหญ้าเทียม แม้จะมีมาตรฐานค่อนข้างสูง

ทีนี้มาพูดถึงหญ้าเทียมที่สนาของมองโกเลีย จากที่สื่อไทยได้เก็บภาพมาลงในสื่อโซเชียล จะเห็นได้ว่าสนามในเกมกับ มองโกเลีย หญ้าเทียมสั้นเตียนและมีเม็ดยางดำค่อนข้างมาก ซึ่งตรงจุดนี้มันสื่อให้เห็นว่าเกรดของหญ้าเทียมนั้นต่ำและเป็นอันตรายต่อนักเตะ ขณะที่ในเกมกับ ลาว สภาพหญ้าเทียมดีขึ้นมาเล็กน้อย ฉะนั้นตรงจุดนี้อาจต้องกล่าวโทษไปยัง AFC ว่าเหตุใดถึงให้สนามหญ้าเทียมแบบนี้ผ่านเกณฑ์ เพราะจากงานศึกษาวิจัยหลายชิ้นมันก็ปรากฎให้เห็นแล้วว่า หญ้าเทียม มีความฝืดเคือง ไม่ไหลลื่นเหมือนหญ้าจริง ทำให้กล้ามเนื้อของนักเตะที่ยึดหยุ่น เกิดความไม่เป็นธรรมชาติเมื่อต้องมาเล่นหญ้าเทียม สุดท้ายความเสี่ยงที่จะเกิดอาการบาดเจ็บก็เกิดขึ้น

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ไม่เร้าใจแต่มีผู้ชนะ”

บุรีรัมย์ ฟอร์มไม่ไฉไล แต่ตบ เมืองทอง เวอร์ชั่นเด็กนิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 10 ในส่วนทางค่ำคืนวันอาทิตย์ มีเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ที่ทุกคนรอคอยอยู่ นั่นคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่อยู่ในฐานะจ่าฝูงและต้องเปิดรังช้างอารีน่า รับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่อยู่ในสภาพเด็กค่อนทีม แต่ก็พร้อมจะสู้สุดใจเหมือนกัน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 4-1-4-1 เหมือนเดิม 

      เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เมืองทอง ดูกครองบอลมากกว่า เพราะพวกใช้การต่อบอลจากหลังสู่หน้าเหมือนดังที่เราเคยเห็น และถึงแม้ว่าเจ้าบ้านจะวิ่งขึ้นมาบีบ แต่ก็ไม่มีความกดดันเสียบอลหรือต้องสาดยาว โดยการต่อบอลของกิเลนผยอง สามารถต่อขึ้นมาและออกไปทางริมเส้นฝั่ง แล้วใช้การโยนไปที่หน้าประตูเป็นการโจมตี ซึ่งก็มีโอกาสให้เห็น แต่ยังไม่เหน่งพอที่จะเป็นประตู ส่วนทางฝั่ง บุรีรัมย์ เกมในครึ่งแรกดูเป็นรอง เพราะการเติม การยืนตำแหน่งในเกมรุกห่างกันและไม่สอดรับกัน ทำให้ต้องพึ่งพาการเลี้ยงฝ่า โยน หรือเปิดจากริมเส้นที่ไม่มีความแม่นยำ

ครึ่งหลัง เกมรุกของบุรีรัมย์ ยังไม่ดีขึ้น แม้ว่าจะต่อบอลมาถึงแดน 3-4 ได้มากขึ้น แต่เมื่อเข้ามาในแดนอันตรายตรงนี้ ศุภโชค ต้องเลี้ยงวนหาช่องอยู่นานสองนานตลอด ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ยังเล่นสไตล์เดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิม คือ มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ซึ่งในจังหวะที่เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 มีการจ่ายบอลเสียกลางทาง แล้วการยืนป้องกันของ ชาติชาย ก็ผิดพลาดที่ไปเสียเหลี่ยม กับ แนวรับปล่อยให้มีตัวสอดเข้ามายิงโล่งๆ

      หลังจาก เมืองทอง เสียท่าไปก่อน จึงพยายามจะทำเกมบุกสู้ แต่ก็ต้องเจอความยากลำบาก เพราะเจ้าบ้านก็ถอยมารับแน่นขึ้น ทำให้การบุกไม่ทะลุทลวงเหมือนตอนเสมอกัน นอกจากนี้ท้ายเกมยังมีความผิดพลาดในการป้องกันทั้งจากกองหลังและผู้รักษาประตู จนเสียลูก 2-0

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันนี้มาตรฐานตกไปเล็กน้อย โดยเฉพาะในครึ่งแรก ส่วนในครึ่งหลังดูดีขึ้นมาเล็กน้อย แต่เกมรุกก็ยังคงเชื่อมไม่ติด กระนั้นยังดีว่าแนวรับคู่แข่งพลาดให้ แล้วตัวเองฉวยโอกาสจนคว้า 3 แต้มมาได้ ขณะที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ครึ่งแรกเล่นได้ดีกว่าเจ้าบ้าน เพราะเกมรับไม่มีข้อผิดพลาด และเกมรุกก็บุกได้ แม้จะไม่ได้ประตู กระทั่งเข้าสู่ครึ่งหลัง เกมรับดันเปิดแผลให้เจ้าบ้าน ทำให้การทวงประตูคืนลำบาก มิหนำซ้ำยังมาโดนลูก 2 ทำให้เวลาที่เหลือกลับสู่เกมลำบาก สุดท้ายจึงไม่รอดพ้นความพ่ายแพ้   

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“โดนจ่าฝูงทิ้งห่าง 5 แต้ม”

 บียู เหนือกว่าทุกเหลี่ยม แต่ได้แค่เจ๊า หนองบัว 1-1 ในบ้าน

ศึกฟุตบอลรีโวไทยลีก นัดที่ 10 ในส่วนของวันอาทิตย์ เกมคู่เล็กที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต เป็นการพบกันระหว่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่กำลังรั้งรองจ่าฝูงและต้องการ 3 แต้ม เพื่อจี้ตูดจ่าฝูง กับ หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่วันนี้ขอมีแต้มกลับบ้าน ก็เป็นบุญโขแล้ว สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ส่วนทาฝั่งทีมเยือนปรับมาเป็น 4-2-3-1

      เกมการแข่งเริ่มขึ้น แบงค็อก เหนือกว่าและทำเกมบุกใส่ด้วยการต่อบอลเท้าสู่เท้า แล้วก็มีลูกเล่นอย่างที่เคยปรากฏ ไล่ตั้งแต่ การทำชิ่ง โยกบอลเปลี่ยนแกน วางบอล และเลี้ยงฝ่า กระนั้นแนวทีมเยือนมาดี เพราะสามารถยืนตำแหน่งได้ดีจนไม่มีช่องว่างขนาดใหญ่เลย อีกทั้งผู้รักษาประตูอย่าง กิตติคุณ ก็โชว์ซุปเปอร์เซฟ ส่วนเกมรุกของ หนองบัว ใน 45 นาทีแรก แทบจะไม่มีจังหวะได้บุกเลย โดยเฉพาะการโจมตีทางอากาศจากบอลริมเส้น ที่มีโอกาสได้เปิดและได้โหม่ง 1-2 ครั้ง เท่านั้น      

ครึ่งหลัง บียู แก้เกมด้วยการส่ง คาร์เตอร์ ลงมาในแนวรุก เพื่อโหมเกมบุกให้เข้มข้นกว่าเดิม กระทั่งประตูนำ 1-0 ก็มา จากการเปิดคัทแบ็คที่ยอดเยี่ยม แล้วแนวรับทีมเยือนสกัดเข้าประตูตัวเอง ซึ่งจังหวะนี้ต่อให้ไม่สกัดก็มีโอกาสสูงที่จะโดนยิง เพราะแนวรุกของเจ้าถิ่นง้างเท้ารอแล้ว จากนั้นดูเหมือนแข้งเทพจะสบายใจมากขึ้น เพราะได้สกอร์นำ แต่การเสียฟรีคลิก แล้วแนวรับผิดพลาดที่ไม่ประกบตัวอันตรายอย่าง แฮมิลตัน ก็มีผลให้ศูนย์หน้าชาวบราซิลได้โขกเต็มหัวแล้วโล่ง ตีเสมอเป็น 1-1 ทำให้ในช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่นต้องกลับมาบุกใหม่ แต่กว่าจะตั้งหลักและบุกเพื่อเอาประตู เวลาก็หมดเสียก่อน

      ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรุกที่ขาด วานเดอร์ หลยุส์ มีผลให้ความหลากหลายหายไป แต่ก็ยังดีพอที่จะยิงได้ แม้จะมีความผิดพลาดของคู่แข่งเข้ามา กระนั้นเมื่อโดนยิงตีเสมอ เกมรุกดันช็อตไปเสียอย่างนั้น ขณะที่เกมรับ ยืนได้ดีมาตลอดเกม แต่มาพลาดครั้งถึงขั้นเสียประตูเลย ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี ต้องชื่นชมเกมรับที่มีวินัยจนสามารถต้านทานเกมบุกสุดแสนอันตรายของเจ้าถิ่นได้ แม้จะมีจังหวะโชคร้ายจากการสกัดเข้าปรูตัวเอง ขณะที่เกมรุก การมีไอเดียจำกัดส่งผลต่อการโอกาสที่จะทำเกมโต้กลับอยู่แล้ว แต่วันนี้โชคดีที่คู่แข่งพลาดให้ ทำให้สามารถตีเสมอและแบ่งแต้มออกมาได้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover