Categories
Sport

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

“ผลัดกันนำคนละครั้ง” เชียงราย(กว่างโซ้งมหาภัย)นำก่อน แต่ต้องตามเจ๊าสมุทรปราการ 2-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดเปิดฤดูกาล คู่ปิดท้ายอยู่ที่สิงห์ สเตเดี้ยม ซึ่งการเป็นการพบกันระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ช้างเอฟเอ คัพ กับ สมุทรปราการ ซิตี้ ที่ถูกตั้งคำถามอย่างหนักว่าจะไหวไหมสำหรับปีนี้ เพราะช่วงปิดฤดูกาลเสียตัวผู้เล่นหลักไปเยอะเหลือเกิน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 อีกครั้ง ส่วนทีมเยือนใช้ 4-4-2

ครึ่งแรก เชียงราย ถือว่าสอบตกอย่างสิ้นเชิงในเกมรุก เพราะแค่การขึ้นเกมก็เสียบอลตั้งแต่กลางสนามและแดน 1-2 ของคู่แข่งแล้ว ทำให้โอกาสแบบจะแจ้งไม่มีเลย ส่วนเกมรับยังทำให้หน้าที่ได้ดีกับการป้องกันลูกคอร์สด้านข้างที่เป็นของอันตรายจากขุนพลเขี้ยวสมุทร ขณะที่สมุทรปราการ เกมแดนกลางถือว่าทำได้ดีกว่า แต่การต่อบอลที่ไม่แม่นยำมากนัก จึงทำให้มีจังหวะพาบอลมาถึงแดนสุดท้ายไม่บ่อยนัก แต่โอกาสที่ไม่แม้จะไม่มาก มันก็ชวนให้ผู้ชมทางบ้านหวาดเสียวได้ 

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ในช่วงพักครึ่ง เชียงราย แก้เกมขนานใหญ่ ด้วยการปรับตำแหน่งการยืนและพื้นที่ให้บอลมาอย่างแน่นอน เพราะทันที่ออกมาเล่นในครึ่งหลัง พวกเขาสามารถต่อบอลจนมาถึงแดนสุดท้ายของคู่แข่งได้ถี่ยิ่งขึ้น กระทั่งการขึ้นมาของ พิธิวัฒน์ แล้วเห็น เอกนิษฐ์ ยืนว่างอยู่ จึงจัดการจ่ายให้เจ้าบุ๊คยิงจังหวะแรกเข้าไป ซึ่งจังหวะนี้นับเป็นการยิงที่ฉลาด เพราะถ้าจับก่อนมีสิทธิ์ไม่ได้ยิงแน่ จากนั้น สมุทรปราการ พยายามจะโหมบุกบ้าง แต่ก็ต้องเจอการแพ็คโซนรับแน่น ทำให้เด็กเก่าของเชียงรายอย่าง ชัยวัฒน์ บุราณ วิ่งมากดบอลพุ่งชน 2 เสา เป็นประตูตีเสมอ

          เกมบุกของ สมุทรปราการ ไม่นิยมเปิดจากด้านข้างอีกแล้ว แต่การเจาะด้วยบอลตามช่องก็ติดๆขัดๆ อย่างไรเสียด้วยจังหวะที่ลงล็อคแล้วเลือกยิงไกลอีกครั้ง มันได้กลายเป็นประตูนำ 1-2 เสียอย่างนั้น ทำให้ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เจ้าบ้านต้องอยู่ในสภาวะกดดัน แต่ก็ไม่นาน เพราะไม่กี่นาทีให้หลังก็มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกเตะมุมที่จังหวะลงล็อค แต่แนวรับของเขี้ยวสมุทรก็เหม่อลอยไปหน่อย จากนั้นกลายเป็นเจ้าบ้านที่โหมบุกใส่จนเกือบได้ประตูชัย แต่เพราะความไม่คมจึงทำให้จบด้วยผลเสมอ

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ออกสตตาร์ทด้วยความไม่ครบเครื่อง เพราะเกมบุกแทบจะเป็นอัมพาตตลอด 45 นาทีแรก ซึ่งมันเปรียบกับการเสียเวลาไปฟรีๆ ขณะที่ในครึ่งหลัง เกมบุกแก้ลำมาดีและทำได้ แต่ดันมาดวงซวยด้วยการเจอลูกยิงไกล 2 ลูกซ้อน ส่วนทางฟากสมุทรปราการ ซิตี้ เกมบุกพอใช้ แต่ต่อยไม่ค่อยหนัก ซึ่งยังดีที่วันนี้มีลูกยิงไกลช่วยนำพาแต้มกลับบ้าน ตรงข้ามกับเกมรับที่ในช่วงครึ่งหลังมีความผิดพลาด แล้วกลายเป็นสมาธิแกว่ง โดยเฉพาะหลังจากถูกตีเสมอ 2-2     

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (กระต่ายแก้ว)

“ตัวสำรอง พาคว้าชัย” บีจี ไม่ฟูลทีม เฉือนราชบุรี นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 2  ในค่ำคืนวันศุกร์มี 1 คู่ ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มีตัวบาดเจ็บมามายเหลือเกิน กับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่มาพร้อมแบบฟูลทีม ส่วนในเรื่องของผังการเล่น เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ขณะที่ทีมเยือนก็ใช้แผนเดิม คือ 4-5-1

          ในช่วงต้นเกม ราชบุรี ครองเกมได้เหนือกว่า เพราะสามารถครองบอลไว้กับตัวได้ แต่พอถึงแดน 2 ก็ต้องถ่ายคืนหลัง แล้วโดนคู่แข่งตัดไป กระทั่งผ่านไปสัก 10 นาที ก็เริ่มมีความพยายามจะเจาะทางริมเส้นที่เป็นของถนัด แต่กาทำเข้าทำแบบนี้จะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมาจากเกมโต้กลับ ซึ่งมันเกือบได้ผล แต่บอลเจ้ากรรมดันไปชนเสา

ส่วนทางฝั่งบีจี ตั้งรับด้วยการยืนแพ็คแน่น ขณะที่กองกลางและกองหน้าช่วยกันวิ่งไล่บีบในแดน 1-2 แล้วมันสามารถตัดบอลเอาไปโต้ได้ แต่ความเฉียบของผู้เล่นกระต่ายแก้วยังมีไม่มากพอ กระทั่งเกมผ่านไปราว 30 นาที บีจีเริ่มจะครองเกมได้เหนือกว่า เพราะสามารถต่อบอลในแดน 1-3 ได้อย่างไหลลื่น รวมถึงมีการเปิดบอลจากริมเส้นที่เข้าเป้าอยู่เนืองๆ ขาดเพียงการเข้าทำและจบสกอร์ในพื้นที่แดนสุดท้ายที่ยังขาดๆเกินๆ  

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง บีจี เลือกจะเล่นเหมือนในช่วงท้ายครึ่งแรก กระทั่งการเปิดบอลจากลูกเตะเป็นที่มาของประตูนำ 1-0 จากนั้นแนวรับราชบุรี ก็ดันเปิดแผลด้วยการเล่นแบบเสียสมาธิ ทำให้บอลที่เคลียร์ไม่ขาดย้อนกลับมาลงโทษด้วยการเสียประตู 2-0 กระนั้นจังหวะฟุตบอลก็เป็นใช้ให้เจ้าบ้านด้วย

จากนั้นราชันมังกรพยายามจะต่อบอลสู้ แต่ก็เหมือนฉายภาพซ้ำ เพราะการพาบอลเข้าไปในแดน 1-2 ของคู่แข่ง ก็ถูกบีบกดดันจนต้องจ่ายย้อนคืนหลัง หรือการจะใช้ปีกที่มีความเร็ววิ่งกระชากริมเส้น ก็มักมีตัวประกบเข้ามาช่วยกันซ้อน พลางจะเปิดไปลุ้นดู

ก็เสมือนกับเปิดบอลให้ ฉัตรชัย รับ กระทั่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ บีจี เริ่มจะตัดบอลและต่อกันได้อย่างไหลรื่น จนในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลูกทีมของวิดมาร์ สามารถครองบอลและคุมจังหวะเกมไว้ได้หมด 

  ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เริ่มต้นด้วยความรัดกุมและสามารถป้องกันได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งหากจะหาจังหวะที่การป้องกันผิดพลาด คงจะมีเพียงจังหวะที่ แดร์เลย์ ยิงชนเสาเท่านั้น ขณะที่เกมรุก วันนี้สามารถยกระดับตัวเองได้ดี โดยเฉพาะการจ่ายบอลจากหลังสู่หน้า

จากซ้ายสู่ขวา ที่จัดว่ารวดเร็วพอตัว กระนั้นสิ่งที่ต้องไปเก็บงาน คือ การเข้าทำในจังหวะสุดท้ายที่ต้องลดความผิดพลาดง่ายๆลงบ้าง ส่วนทางด้าน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ช่วงต้นเกมเหมือนจะเหนือกว่า

แต่การครองบอลแบบนั้นไม่มีประโยชน์ เพราะสปีดของบอลช้าเกินไป ทำให้ถูกดักง่าย ขณะที่เกมรับยังปรากฏให้เห็นถึงช่องว่างและการยืนป้องกันที่หละหลวม กระทั่งสิ่งเหล่านี้ลงโทษให้เสียประตู อีกทั้งยังมาเสียสมาธิอีก ทำให้วันนี้สมควรแล้วที่ต้องเป็นผู้แพ้

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

“VAR ใช้คุ้ม แต่จบเจ๊า” บุรีรัมย์ สาดลูกโด่งทั้งเกม แต่ได้แค่เสมอกับสุพรรณบุรี 0-0

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 นัดเปิดสนาม ในค่ำคืนของวันเสาร์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดรังช้างอารีนา พร้อมกับผู้ชม 25 % ของความจุ พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมดวงแข็งแห่งการหนีตาย สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนปรับมาเป็น 3-4-3

          เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นมาเป็น บุรีรัมย์ ที่โหมบุกใส่ตลอด 45 นาทีแรก ด้วยการโยนยาว ได้แก่ โยนเพื่อให้กองหน้าโหม่ง โยนเพื่อให้แนวรุกเก็บบอลลงแล้วทำชิ่ง หรือยิงไกล ซึ่งจังหวะทั้งหลายเหล่านี้มีทั้งที่พลาดเอง จังหวะไม่ลงล็อค รวมถึงแนวรับของสุพรรณบุรี ช่วยกันบีบและรุมสกัดเอาไว้ได้ ส่วนทางฝั่งของช้างศึกยุทธหัตถี ได้แต่ตั้งรับในแดน โดยในช่วงครึ่งแรกสามารถยืนตำแหน่งและช่วยซ้อนได้ดี แต่ก็มีบางจังหวะที่หลวมไปบ้าง ตรงข้ามกับเกมบุกที่ไม่มีโอกาสได้ทำเกมโต้กลับเลย   

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง บุรีรัมย์ พยายามจะเร่งจังหวะเพื่อให้แนวรับของคู่แข่งปั่นป่วนและเสียประตู แต่ภาพที่ปรากฏหลับกลายเป็นปราสาทสายฟ้าเสียเอง ที่ยิ่งเร่งยิ่งพลาดแล้วเสียทั้งโอกาสและเวลา ขณะที่เกมโต้กลับของสุพรรณบุรี ครึ่งหลังสามารถดักบอลและโต้กลับได้ดี พร้อมกับมีการสอดประสานและทำชิ่ง จนมีโอกาสได้ยิงและลุ้นเสียว

แต่น่าเสียดายที่การครองบอลบุกแต่ละหน ไม่เหนียวและยาวนานพอที่ทำให้เกมบุกของเจ้าบ้านเป็นอัมพาตได้ อย่างไรก็ดีช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ ลดความเร็วและกลับมาเน้นการออกบอลในทุกจังหวะ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยากยิ่ง เพราะแนวรับช้างศึกยุทธหัตถี ยืนต้านทานไว้จนเกิดความมั่นใจไปเรียบร้อยแล้ว

          เกมนี้มีการใช้ VAR ค่อนข้างบ่อย โดยการเช็คจุดโทษในครึ่งแรกกับการเช็คจังหวะฟาวล์ก่อนได้ประตูช่วงท้ายเกม ทุกอย่างเคลียร์ แต่จังหวะการเช็คจังหวะแฮนด์บอลในครึ่งหลัง แล้วตัดสินว่าไม่เป็นจุดโทษ ดูจะเป็นประเด็นที่ถกเถียงพอสมควร เพราะจากภาพ ผู้เล่นของบุรีรัมย์เอามือไขว้หลัง แต่เมื่อบอลทำท่าจะผ่านตัวไป

จึงกางแขนออกมา แล้วบอลโดนเสื้อที่เป็นบริเวณแขนเสื้อด้านบน ซึ่งการตัดสินในกรณีแบบนี้มันเคยปรากฏออกมาว่าถ้าบอลโดนส่วนแขนตั้งแต่ข้อพับลงมา ถึงจะนับเป็นแฮนด์บอล ฉะนั้นเคสนี้ ผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ถูกต้อง

          บทสรุปจากเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการไอเดียการเข้าทำเพียงแค่การโยนบอลยาวเท่านั้น ซึ่งมันอาจเป็นทรงบอลที่ไม่สวยต่อสายตาท่านผู้ชม แต่ผลลัพธ์ของมันก็ออกมาดี เพียงแค่ว่าวันนี้ทำไม่ได้เพราะตัวเองและคู่แข่งที่ป้องกันได้ดี ส่วนทางฝั่งสุพรรณบุรี เอฟซี ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใด เกมรับยิ่งแน่น อีกทั้งยังมีตัวช่วยซ้อนทุกจังหวะ

ขณะที่เกมรุกวันนี้ไม่ค่อยแผงฤทธิ์เท่าใด ฉะนั้นการคว้า 1 แต้ม ถือว่าสุดยอดแล้ว เพราะถ้าหากวันนี้โดนเจ้าบ้านยิงเมื่อใด เชื่อว่าช้างศึกยุทธหัตถี มีโอกาสแพ้มากถึง 90% เลยทีเดียว    

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

การท่าเรือ เอฟซี (สิงห์เจ้าท่า)

“หลังรั่วเป็นเหตุให้ได้แค่แต้มเดียว” การท่าเรือ ประเดิมสนาม เจ๊าเทโร สุดมันส์ 3-3

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก สัปดาห์แรก ในส่วนของวันอาทิตย์ เปิดหัวด้วยดาร์บี้แมตช์แห่ง กทม. ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี ของโค้ชโอ่ง กับ โปลิศ เทโร เอฟซี ของโค้ชอ้น ผู้เป็นรุ่นน้อง ส่วนผังการเล่นที่ขึ้นมา เจ้าบ้านปรับมายืน 3-4-2-1 ขณะที่ทีมเยือนรับเต็มสูบในระบบ 5-4-1

          ช่วงต้นเกม การท่าเรือ ดูเหนือกว่านิดๆ เพราะสามารถต่อบอลสั้น วางยาวทะลุช่องและเปลี่ยนแกนเร็ว แต่พอต้องเล่นเกมรับ กลางรับดันตามไม่สุด ขณะที่เกมรับก็มัวแต่ถอย ทำให้ เปาลิสต้า ของเทโร ยิงไกลเสียบสามเหลี่ยม จากนั้นเจ้าบ้านพยามโหมบุกต่อ ซึ่งการโจมตีทางฝั่งขวาก็นำพามาสู่ประตูตีเสมอ 1-1 แต่แนวรับของมังกรโล่เงิน ก็ผิดพลาดที่ยืนป้องกันผิดพลาดกันหมด 

          แนวรับของการท่าเรือ จัดว่าเป็นปัญหาในเกมนี้ เพราะเมื่อไรที่ถูกเลี้ยงผ่าน กลางรับไม่ตามต่อ หรือเมื่อไรที่ถูกเลี้ยงจี้ แนวรับทั้ง 3 เลือกจะถอยไปเรื่อยๆ ซึ่งมันกลายเป็นช่องให้ เปาลิสต้า คนเดิมยิงไกลเป็น 1-2 ส่วนลูก 1-3 แนวรับยืนประกบหลวม แล้วผู้รักษาประตูดันชกบอลพลาดอีก แต่กระนั้นยังดีที่ เทโร ทำแฮนด์บอลและเสียจุดโทษ จนสามารถยิงตีตื้น 2-3 ทำให้การเล่นในครึ่งหลังเป็นงานที่เบาลง

การท่าเรือ เอฟซี
การท่าเรือ เอฟซี

          ครึ่งหลัง การท่าเรือ พยายามจะต่อบอลให้เร็วและเหนียวแน่น เพื่อให้แนวรับคู่แข่งถอยไปรับในแดนสุดท้าย โดยการถ่ายบอลไปมาทำให้เชฟเกมรับของเทโร ปั่นป่วนจนถูกตีเสมอ 3-3 จากนั้นทั้ง 2 ทีม ต่างเปิดแลกใส่กัน แบบไม่มีการเพรสซิ่งใดๆทั้งสิ้น ซึ่งมันก็ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย มีโอกาสได้ประตู แต่ดันยิงไปชนเสา ชนเสา ติดเซฟ หรือยิงออกไปเอง   

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม การท่าเรือ เอฟซี ภายใต้การดูแลของโค้ชโอ่ง รูปแบบเกมรุกมีมิติขึ้นกว่าเดิม ทำให้นับจากนี้ขอแค่ปรับนิดอีก ก็น่าจะโหดเหี้ยมได้ไม่ยาก แต่สำหรับเกมรับจัดว่าน่าเป็นห่วงสุดๆ เพราะแค่คู่แข่งไม่กี่คนพาบอลเข้ามาในแดน ก็แสดงอาการให้เห็นถึงการป้องกันที่หละหลวม ซึ่งถ้าเกิดวันนี้เจอทีมที่เกมบุกจัดจ้าน วันนี้จะเสียมากกว่า 3 ลูก แน่นอน ส่วนทางฝั่ง โปลิศ เทโร เอฟซี เกมรับยืนได้ดี

แต่พอโดนขึงนานๆหรือต่อเนื่อง มักจะรวนจนเสียประตู ถัดมาที่การขึ้นบอล จัดว่าไหลลื่นและดีกว่าปีที่ผ่านมามากโข ขณะที่เกมรุก การเจาะเข้าไปในแดนอันตรายไม่ค่อยมี แต่ดันมีการยิงไกลมาช่วย ผสมกับการชิงจังหวะที่คู่แข่งผิดพลาด ทำให้วันนี้สามารถเก็บ 1 แต้ม กลับออกมาได้   

การท่าเรือ เอฟซี
การท่าเรือ เอฟซี

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960

Categories
Sport

สรุปผลงานของ ราชบุรี เอฟซี ใน ACL รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2021

การทำอันดับติดที่ 4 ในเลกแรกของศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2020/21 ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ของ ราชบุรี เอฟซี ในการไปลุย ACL รอบเพลย์ออฟ แต่ด้วยปัญหาจากโควิด-19 ทำให้ทีมจากออสเตรเลียถอนตัว แล้วราชันมังกรได้ส้มหล่น กับการเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่ม สาย G อีกทั้งยังได้เป็นเจ้าภาพ แต่ต้องเล่นที่ราชมังคลากีฬาสถาน  

โปฮัง สตีลเลอร์ 2-0 ราชบุรี เอฟซี          เปิดหัวด้วยการพบกับทีมจากเกาหลีใต้ ซึ่งไม่ทันไรก็เสียประตูแรก จากนั้นยังเป็น โปฮัง ที่ได้ขึงบุกต่อเนื่อง แต่ทางฝั่งของราชันมังกร ยังป้องกันไว้ได้ ซึ่งกว่าจะมาได้ประตูตอกฝาโลง ต้องรอถึงนาทีที่ 81

ราชบุรี เอฟซี
ราชบุรี เอฟซี

ราชบุรี 0-1 ยะโฮร์ ดารูทักซิม 

         นี่คือคู่แข่งที่ดูอ่อนที่สุดในกลุ่ม ทำให้เป้าหมายของ ราชบุรี ต้องเอาชนะพยัคฆ์แห่งคาบสมุทรมลายูให้ได้สถานเดียว แต่แล้วเมื่อลงสนามไป กลายเป็นตัวแทนจากมาเลเซียที่เหนือกว่า แถมมีโอกาสบวกเพิ่มเป็น 0-2 มากกว่า 1-1 ทำให้ถึงตรงนี้ โอกาสเข้ารอบของราชันมังกร ริบหรี่ลงทันที 

ราชบุรี เอฟซี
ราชบุรี เอฟซี

ราชบุรี เอฟซี 0-4 นาโงย่า แกรมปัส

         เกมนัดนี้ ราชบุรี ออกสตาร์ด้วยฟอร์มที่ไม่ค่อยดี ในขณะที่คู่แข่งมาตรฐานไม่ตก ทำให้ครึ่งแรกถูกยิงทิ้งห่างไปถึง 0-3 ก่อนจะมาบวกเพิ่มในครึ่งหลังอีก 1 ลูก ทำให้ถึงตรงนี้ ราชันมังกรตกรอบแล้ว 100% เพราะแข่งมาแล้ว 3 นัด ไร้ทั้งแต้มและประตู 

ราชบุรี เอฟซี
ราชบุรี เอฟซี

นาโงย่า แกรมปัส 3-0 ราชบุรี เอฟซี

          3 วันให้หลังจากที่โดนถล่มมา ราชบุรี วางแท็กติกรัดกุมและส่งตัวผู้เล่นไทยล้วนๆลงสนาม แล้วปรากฏว่าครึ่งแรกสามารถยันได้อยู่แบบไม่เสียประตู แต่แล้วในครึ่งหลังเรี่ยวแรงเริ่มตกลงไป จนเปิดโอกาสให้คู่แข่งรัวยิง 3 เม็ด พลาดโอกาสเก็บแต้มแรกอย่างน่าเสียดาย  

ราชบุรี เอฟซี
ราชบุรี เอฟซี

ราชบุรี เอฟซี 0-0 โปฮัง สตีลเลอร์ 

         ราชันมังกรเริ่มจับทางถูกกับการเล่นเกมตั้งรับที่เหนียวแน่น แล้วในเกมนี้สามารถเอาได้อยู่หมัด จนคู่แข่งยิงตรงกรอบแค่ครั้งเดียว ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้สโมสรตัวแทนจากไทย สามารถเก็บแต้มแรกได้ด้วยการเสมอ 

ราชบุรี เอฟซี
ราชบุรี เอฟซี

ยะโฮร์ ดารูทักซิม 0-0 ราชบุรี เอฟซี 

         พยัคฆ์แห่งคาบสมุทรมลายู มีชะตาไม่ต่างกับราชันมังกร กับการกอดคอกันตกรอบ ทำให้เกมนี้ไม่มีผล แต่ทั้ง 2 ทีม ต่างต้องการผลการแข่งขันที่ดีที่สุดเพื่อเป็นเกียรติประวัติของสโมสร ทำให้เกมตลอด 90 นาที ต่างเปิดแลกใส่กัน แต่ไม่มีผ่านไหนทำประตูได้ ทำให้จบเกมด้วยการแบ่งแต้ม ส่วน ราชบุรี แข่ง 6 นัด มี 2 คะแนน เป็นบ๊วยของกลุ่ม  

ราชบุรี เอฟซี
ราชบุรี เอฟซี

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

ชลบุรี เอฟซี (ฉลามชล)

“หลังยวบ แต่ยังยันอยู่” ชลบุรี ได้โทษตามเจ๊า บีจี สุดมันส์ 1-1   

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 นัดเปิดฤดูกาล เกมบิ๊กแมตช์อยู่ในส่วนของวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง ชลบุรี เอฟซี ในฐานะเจ้าบ้านและรองแชมป์ช้างเอฟเอ คัพ กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ลงสนามในฐานะแชมป์เก่าและสดๆร้อนๆ กับแชมป์ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์ คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่างเลือกเอาระบบ 3-5-2

มาชนกัน การแข่งขันใน 45 นาทีแรก เป็นไปอย่างสูสี โดยทางฝั่ง บีจี ปทุม เพรสซิ่งสุดซอย แต่มันไม่ได้บอล นอกเสียจากถอยมาดักในแดนของตัวเอง ส่วนจังหวะการเข้าทำไม่มีปรากฏให้เห็นแบบเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็มาได้ประตูจากความเฉียบคมของ ดิโอโก้ ที่ถอยตัวมายิงเสาแรก ทางฝั่งของชลบุรี เกมรับทำหน้าที่ได้ดี

แต่ดันเสียประตูแบบคาดไม่ถึง ขณะที่เกมบุกแกะเพรสซิ่งและโต้กลับได้ดี แต่บอลมักไปตายในแดน 3-4 ของคู่แข่ง ทำให้ในช่วงท้ายครึ่งแรกมีการดันตัวผู้เล่นขึ้นไปค้ำแดนบน เพื่อดักบอลและโจมตีแบบสายฟ้าแลบ กระนั้นแนวรับของทีมเยือนก็ไม่มีผิดพลาดให้   

ชลบุรี เอฟซี
ชลบุรี เอฟซี

ช่วงครึ่งแรก บีจี เสียกองหลังตัวหลักอย่าง วิคเตอร์ ไป เช่นกันกับครึ่งหลังที่เสีย ชาตรี ไปอีกคน แต่นั้นกลับไม่ใช่ปัญหา เพราะตัวที่ลงมาสามารถทดแทนได้เป็นอย่างดี กระทั่ง เฮอร์เนสโต้ ที่ลงมาในฐานะตัวสำรองไปเข้าพรวดจนเสียจุดโทษและถูกตีเสมอ 1-1 แถม ยอดรัก ยังมาสมาธิแตกกับการชักศอกใส่คู่แข่งจนโดนแดง ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นเวลาที่วิกฤต แต่ความนิ่งของแนวรับกระต่ายแก้ว ก็ช่วยประคองให้ทีมไม่ถูกยิงแซง

อีกทั้งแนวรุกยังหาโอกาสที่จะบวกประตูเพิ่ม แต่มันก็ห่างไกลจากจุดนั้น เพราะแดนกลางของ บีจี ไม่มีตัวประเภทสร้างสรรค์เกม ส่วนทางด้านชลบุรี ครึ่งหลังพยายามเข้าบีบเร็ว แต่เมื่อได้บอลต้องชะลอจังหวะ เพราะยิ่งเร่งยิ่งเสีย ซึ่งการชะลอจังหวะทำให้เจาะประตูยาก เพราะแนวรับคู่แข่งถอยไปแพ็คแน่นแล้ว อย่างไรเสียด้วยผิดพลาดของคู่แข่ง ก็ได้มอบโอกาสยิงตีเสมอให้ 

          สิ่งที่น่าเสียดายของ ชลบุรี ในเกมนี้ คือ โมเมนตัมกำลังเหวี่ยงมาหากับการได้ประตูตีเสมอและได้เปรียบตัวผู้เล่น 1 คน ซึ่งตรงนี้ควรหาทางยิงแซง แต่ดันถอยไปรับและไม่เพรสซิ่งอย่างดุเดือดเหมือนก่อนที่จะตีเสมอ ทำให้รูปเกมที่ปรากฏกลายเป็น บีจี ได้บุก ส่วน ชลบุรี ได้แต่บุกขึ้นไปแล้วเปิดบอลจากริมเส้นซ้าย-ขวา จนจบเกม          

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ชลบุรี เอฟซี มีเกมรับที่ดี แต่ดันโชคร้ายกับการเสียประตู ส่วนเกมบุก ความอันตรายลดลงทันทีเมื่อถึงแดนสุดท้ายของคู่แข่ง เพราะตัวเองสปีดบอลช้า จนโดยคู่แข่งแพ็คเกมรับแน่น พลางจะแทงทะลุช่องก็มีเพียง มูริลโล่ ที่เป็นเป้าเดี่ยว ซึ่งยังโชคดีที่ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามพลาดให้ มิเช่นนั้นวันนี้มีสิทธิ์แพ้สูง

ส่วนทางฝั่ง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เกมรับแน่นขึ้น พร้อมกับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมเก็บแต้มกลับมา ขณะที่การเซตเกมก็ไหลลื่น แต่เกมบุก คือ ปัญหา เพราะไม่ค่อยมีไอเดียที่ชัดเจนเลย ซึ่งถ้าวันนี้ไม่ได้ความเฉียบคมของ ดิโอโก้ วันนี้มีสิทธิ์ถึงแพ้         

ชลบุรี เอฟซี
ชลบุรี เอฟซี

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960

Categories
Sport

สรุปผลงานของ บีจี ปทุม ใน ACL รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2021

ศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก ประจำฤดูกาล 2021 นับเป็นสถิติใหม่สำหรับฟุตบอลไทย เพราะมีทีมเข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่มถึง 4 ทีม แต่สำหรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่ คือ ความหวังของคนทั้งหมู่บ้าน เพราะศักยภาพดูดีที่สุด อยู่ในสายที่ไม่หนัก และได้เป็นเจ้าภาพ แล้วสุดท้ายก็ทำได้กับการเข้ารอบต่อไปในฐานะอันดับ 2 ที่ดีที่สุด

นัดที่ 1 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 4-1 คายา เอฟซี

          การลงเล่นนัดเปิดหัวกับตัวแทนจากฟิลิปปินส์ เป็นไปอย่างง่ายดาย เพราะเพียงแค่ 20 นาที สกอร์แรกก็มา ก่อนจะไหลไปถึง 4-0 หลังเกมผ่านไป 1 ชม. จากนั้นกระต่ายน้ำเงินคราม ผ่อนเกมลงไป จนโดนทีเด็ดของคู่แข่งยิงตีไข่แตกท้ายเกม 

บีจีปทุม ยูไนเต็ด
บีจีปทุม ยูไนเต็ด

นัดที่ 2 อุลซาน ฮุนได 2-0 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

          เกมนัดนี้ บีจี ได้เจอกับของจริง เพราะตัวแทนจากเกาหลีใต้ทีมนี้คือแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเกมก็ออกมาเป็นอย่างที่คาด กับการที่อุลซาน บุกได้จะแจ้งกว่า จนได้ 2 ประตู ใน 45 นาทีแรก ขณะที่เกมในครึ่งหลัง ฝนเทลงมาอย่างหนักจนต้องหยุดพักการแข่งขันชั่วคราว ก่อนจะกลับมาลงเตะในอีก 15 นาทีสุดท้าย แต่สกอร์ก็ยังคงเดิม

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

นัดที่ 3 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2-0 เวียตเทล

          เกมนัดนี้จัดเป็นดาร์บี้แมตช์ของสโมสรร่วมอาเซียน อีกทั้งยังเป็นเกมสำคัญที่จะชี้ชะตากลายๆว่าใครจะเข้ารอบ ซึ่งในเกมการแข่งขัน ตัวแทนจากไทยชิงความได้เปรียบด้วยการขึ้นนำเร็ว จากนั้นก็เล่นแบบประคองไปเรื่อยๆ แล้วมาบวกประตูเพิ่มได้ในช่วงท้ายเกม

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

นัดที่ 4 เวียตเทล 1-3 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

          3 วันให้หลังจากที่เจอกัน ตัวแทนจากเวียดนามหวังจะล้างแค้น บีจี ให้ได้ ซึ่งด้วยความพยายามอย่างแรงกล้า ก็ช่วยให้พวกเขาขึ้นนำได้จริงๆในช่วงครึ่งแรก แต่แล้วช่วงต้นครึ่งหลัง ดันมาเสียสมาธิจนโดนรัวแซง 3 ลูก ทำให้พลิกกลับมาพ่ายและตกรอบไป ขณะที่กระต่ายน้ำเงินคราม มีลุ้นเข้ารอบเกินกว่า 50%  

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

นัดที่ 5 คายา เอฟซี 0-1 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

เกมนัดนี้กลายเป็นเกมสำคัญของ บีจี เพราะหากเอาชนะตัวแทนจากฟิลิปปินส์ทีมนี้ได้ โอกาสเข้ารอบก็จะสดทันที ทำให้รูปเกมที่ปรากฏกลายเป็นผู้เล่นของกระต่ายน้ำเงินครามที่เกร็งและกดดัน ในขณะที่คู่แข่งเล่นชิวๆ เนื่องจากตกรอบไปตั้งนานแล้ว แต่กระนั้นด้วยความมุ่งมั่น เจ้าตัง สารัช ก็มาช่วยเบิกสกอร์เดียวของเกมในช่วงท้ายเกม ให้ทีมเอาชนะไปได้แบบวุดหวิด 

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

นัดที่ 6 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 0-2 อุลซาน ฮุนได

          ก่อนลงสนาม ทั้ง 2 ทีม ต่างทราบชะตาของตัวเองแล้ว ว่าจูงมือกันเข้ารอบต่อไปแบบ 100% ทำให้เกมนัดนี้ไร้ซึ่งความกดดันใดๆ แต่สุดท้ายก็เป็นตัวแทนจากเกาหลีใต้ที่ย้ำแค้นเป็นคำรบที่ 2 ด้วยสกอร์เดิม

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com

Categories
Sport

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด(แข้งเทพ)

“โดนก่อน แต่แซงได้” บียู โดนนำไปก่อน แต่พลิกกลับมาแซง เชียงใหม่ 1-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก สัปดาห์แรก ในส่วนของค่ำคืนวันเสาร์ ไปกันที่สนามสมโภช 700 ปี จ.เชียงใหม่ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่พึ่งเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรก พบกับหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ปีนี้อย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 ส่วนทีมเยือนยังยึดแผน 4-3-3

          เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นมา แบงค็อก มีไอเดียการทำเกมบุกที่น่าสนใจ กล่าวคือ มีการสอดประสานที่ดีระหว่างกองกลางกับกองหน้า ผ่านการรู้จังหวะว่าจังหวะนี้ต้องถอย จังหวะนี้ต้องขึ้น จังหวะนี้ต้องขยับถ่างออกไป อีกทั้งถ้าจังหวะไหนโดนบีบจนต่อบอลยาก ก็จะใช้ความสามารถเฉพาะตัวของแนวรุกในการเลี้ยงฝ่าและจบสกอร์

แต่ด้วยระยะการยิงที่ยังไม่อยู่ในระยะทำการ จึงทำให้บอลยังไม่ผ่านมือ นนท์ ม่วงงาม ผู้รักษาประตูของเจ้าถิ่น ส่วนทางฝั่ง เชียงใหม่ พยายามแพ็คโซนรับอย่างมีวินัย พร้อมกับเกมสวนกลับที่ค่อนข้างจำกัด เพราะนอกจากจะโต้มาน้อยครั้งแล้ว ยังถูกบีบให้เล่นแต่เพียงบริเวณริมเส้น กระนั้นด้วยโชคที่พกมาเต็มกระเป๋าจากจังหวะเตะมุม พีระพัฒน์ ดันยื่นเท้าไปโดนบอลและผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ครึ่งหลัง บียู ขึงบุกด้วยไอเดียการเข้าทำที่หลากหลาย กระทั่งการหยอดแล้วเอาบอลลงให้ เฮแบร์ตี้ วิ่งมาซัด ได้กลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 จากนั้นแข้งเทพพยายามบุกต่อไป แล้วก็ได้ปรากฏให้เห็นถึงลูกเล่นอื่นๆอีก อาทิ การเบิ้ลบอลจังหวะเดียวเพื่อให้หลุดจากการประกบชิดของคู่แข่ง

โดยประตู 1-2 มีการเปิดข้ามฟากและสอดประสานจนได้ยิงเข้าประตู อย่างไรเสียทิศทางของมันไม่ได้ดีมาก แต่ผู้รักษาประตูดันเทน้ำหนักไปอีกทาง ส่วนช่วง 10 นาทีที่เหลือ ไม่มีใครทำอะไรได้ แข้งเทพของโค้ชแบน จึงคว้า 3 แต้ม กลับบ้านไป          

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด มีการป้องกันที่ดี เพราะสามารถต้านทานและไม่เปิดช่องให้คู่แข่งโจมตีง่ายๆ แต่ด้วยความที่คู่แข่งศักยภาพสูงจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หากจะเสียประตู แต่เกมรุก คือ สิ่งที่ต้องปรับ เพราะวันนี้ไม่มีไอเดียการเข้าทำอะไรแสดงออกมาเลย ซึ่งถ้ายังปรับไม่ได้ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับการลุยลีกสูงสุดหนแรก

ส่วนทางฟากของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรับไม่มีความผิดพลาดอะไร แต่ดันดวงซวยทำเข้าประตูตัวเอง ขณะที่เกมรุกนับว่ามีการเล่นที่น่าสนใจและดูตื่นตามากที่สุดในบรรดาทีมลุ้นแชมป์ ซึ่งนับจากนี้หากปรับจูนไปเรื่อยๆ เชื่อว่าแข้งเทพจะเป็นทีมที่ใครๆต้องกลัว

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960

Categories
Sport

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี (ราชันมังกร)

“งูเล็กแพ้งูใหญ่” ขอนแก่น โดน ราชบุรี เผาเครื่องคารัง 0-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดเปิดฤดูกาล ในค่ำคืนวันเสาร์ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร พบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พี่ใหญ่แห่งศึกไทยลีก ส่วนผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-1-2 แบบรับเต็มพิกัด ขณะที่ทีมเยือนใช้ 4-5-1 เพื่อขับเคลื่อนเกมแดนกลาง

          ในช่วงต้นเกม ราชบุรี พยายามจะครองเกมให้เหนือกว่า แต่ด้วยการที่คู่แข่งมาแพ็คโซนรับแน่นหนา ทำให้การเจาะเป็นไปอย่างยากลำบาก อีกทั้งตัวเองก็ไม่ได้มีสปีดบอลที่รวดเร็วนัก กระทั่งนาทีที่ 26 ล็องจิล ตัดสินใจที่จะเลี้ยงฝ่าจากริมเส้นมายังหน้าประตู ซึ่งต้องผ่านผู้เล่นถึง 5 คน ก่อนจะได้ยิงแล้วไปแฉลบกองหลังเข้าประตูเป็น 1-0

ซึ่งในจังหวะนี้นับเป็นความยอดเยี่ยมของดาวยิงชาวฝรั่งเศสจริง แต่แนวรับของจงอาจผยองก็มีส่วนผิดพลาด เพราะหากมีความเหนียวแน่นมากพอ จะต้องมีคนหนึ่งเบียดแล้วอีกคนเข้ามาซ้อน หรือช่วยสกัดทิ้ง ไม่ใช่คนที่หนึ่งผ่าน คนที่สองหลังหัก คนที่สามเบียดๆ คนที่สี่และห้ายืนบังเฉยๆแบบนี้

          เกมบุกของ ขอนแก่น สามารถลำเลี้ยงขึ้นมาได้ดีพอสมควร อีกทั้งแนวรับคู่แข่งก็ไม่ได้มีการยืนตำแหน่งที่แน่นหนา ทำให้มีช่องสำหรับการยิง แต่จากที่ดูมันเหมือนกับว่าแนวรุกเจ้าบ้านยังยิงได้ไม่เน้นพอ โดยการตามหลังแค่สกอร์เดียว มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไร แต่แล้วในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก จงอาจผยองโดนโต้กลับ แล้วดันไม่ประกบชิดเดร์เลย์ ทำให้มีพื้นที่ยิงจ่อๆเป็น 0-2

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ครึ่งหลัง ขอนแก่น พยายามจะทำเกมบุก แต่มันไม่สามารถเจาะเข้าไปถึงแดน 3-4 ของคู่แข่งแบบต่อเนื่องได้ มิหนำซ้ำยังโดนโต้กลับอยู่เนืองๆ จนเริ่มเห็นได้ว่าแนวรับของจงอาจผยอง ไม่มีการตามประกบ ล็องจิล ที่ดีพอ เพราะเมื่อไรที่ได้บอลก็จะกระชากหลุดแล้วไม่มีตัวซ้อนเข้ามาช่วย ทำให้สกอร์จะไหลเป็น 0-3 มากกว่าเป็น 1-2

แต่ด้วยความไม่เน้นและไม่คมของราชบุรี เสียเอง ทำให้สกอร์ไม่ขยับและจบเกมด้วยสกอร์เดิมกับครึ่งแรก ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด ทำได้ดีกับการถอยไปรับลึก แต่เมื่อกำแพงแตกแล้วต้องดันเกมบุก มันก็เห็นได้ว่าพวกเขาหยุดความเร็วของคู่แข่งไม่อยู่ โดยเฉพาะการโดนโต้กลับ อีกทั้งยังไม่สามารถยืนตำแหน่งและประกบให้ชิดได้

ขณะที่เกมรุก พอไปวัดไปวาได้ แต่การยิงในทุกครั้งยังไม่ได้ทั้งทิศทางและน้ำหนักสำหรับการลีกสูงสุด ส่วนทางฝั่งราชบุรี มิตรผล เอฟซี เกมรับไม่มีข้อผิดพลาดที่ชัดเจน แต่ก็ยังเห็นการยืนป้องกันที่หละหลวมเล็กๆให้คู่แข่งโจมตีอยู่ ขณะที่เกมบุกเจอปัญหาเมื่อต้องเจาะแผงรถบัส

แต่สุดท้ายก็ทลายความเครียดลงหลังได้ประตูขึ้นนำ ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าถ้าไม่ได้ประตูแรกจาก ล็องจิล เกมบุกของราชันมังกรอาจอึดอัดและสกอร์อาจไม่ได้เป็นเช่นนี้

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960

Categories
Sport

พีที ประจวบ เอฟซี(ต่อพิฆาต)

“ดีคนละครึ่ง” ประจวบนำก่อน แต่ต้องตีเสมอ เมืองทอง ท้ายเกม 2-2

ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 นัดแรกของฤดูกาล ในส่วนของคู่วันเสาร์ เวลา 18.00 น. ณ.สนามบุรีรัมย์ ซิตี้ (เขากระโดง) พีที ประจวบ เอฟซี ลงเล่นในฐานะเจ้าบ้าน พบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม ต่อพิฆาตมาในระบบ 3-4-3 ส่วนกิเลนผยอง ปรับมายืน 4-1-4-1

          เพียง 3 นาทีแรกของเกม เมืองทอง เหม่อลอยแล้วเปิดแผลทำให้ ประจวบ ฉวยโอกาสนำไปก่อน 1-0 ซึ่งนอกจากสกอร์จะได้เปรียบ ทรงบอลและวิธีการก็ดูเหนือกว่าตลอด 45 นาทีแรก กล่าวคือ ลูกทีมของ มาซามิ ทากิ มีการเพรสซิ่งสูงไม่ให้คู่แข่งเซตเกมขึ้นมา แต่ถ้าดักไม่ได้ ก็จะถอยไปตั้งโซนรับแน่น ขณะที่เกมบุกจัดว่าไหลลื่น

เพราะเซตบอลจากหลังสู่หน้าแบบไม่มากจังหวะ อีกทั้งยังมีการเปิดเปลี่ยนแกนที่รวดเร็ว ซึ่งมันค่อนข้างตรงกันข้ามกับ เมืองทอง ที่ได้แต่ขึ้นบอลทางริมเส้นทั้ง 2 ข้าง แล้วเปิดไม่ค่อยเข้าเป้า ส่วนการทะลุทะลวงแดนกลางแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะแค่คิดช้าทำช้า ก็ถูกรุมบีบจนเสียบอลแล้ว

พีที ประจวบ เอฟซี
พีที ประจวบ เอฟซี

ครึ่งหลังต้องชื่นชม มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ เพราะมีการแก้เกมและปรับวิธีการบุก ด้วยการเจาะพื้นที่กลางสนามกับวางยาวทะลุช่อง ผสมกับการเปิดจากริมเส้น ซึ่งมันกลายเป็นความหลากหลายที่มากพอต่อการโหมบุกคู่แข่ง กระทั่งมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการโยนด้านข้าง ส่วนลูก 1-2 มาจากการเพรสซิ่งแล้วฉกบอลมายิง ขณะที่ประจวบ

ครึ่งหลังเลือกจะผ่อนคันเร่ง ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะมันเป็นวิถีปฏิบัติทั่วไปของทีมนำ แต่สิ่งที่ถือว่าผิดพลาด คือ การไม่เพรสซิ่งคู่แข่งเหมือนในครึ่งแรก เพราะนั่นทำให้คู่แข่งสามารถเซตบอลเข้ามาในแดนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับขึงบุกในแดนอันตรายได้ยาวนาน กระทั่งโดนเจาะตาข่าย 2 ประตู อย่างที่กล่าวไป แต่กระนั้นในช่วงท้ายเกม ความผิดพลาดส่วนบุคคลของคู่แข่ง ช่วยหนุนนำให้ต่อพิฆาตได้จุดโทษ แล้วตีเสมอเป็น 2-2      

          ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม พีที ประจวบ เอฟซี ได้เปรียบเรื่องสกอร์ที่ขึ้นนำตั้งแต่ช่วงต้นเกม อีกทั้งวิธีการเล่นในครึ่งแรก ก็จัดว่าเหนือกว่าคู่แข่งทุกอย่าง แต่ในครึ่งหลัง ความผิดพลาดทางแท็กติกถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมเกือบแพ้ เพราะดันถอนคันเร่งมากเกินไป ในขณะที่คู่แข่งแก้เกมมาดีและถูกจุด ซึ่งการตีเสมอได้ท้ายเกม ถือว่ามีดวงและโชคเข้ามาช่วยไว้ ส่วนทางฝั่ง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ครึ่งแรกมีความผิดพลาดและถูกลงโทษทันที ขณะที่เกมรุกมีมิติเพียงด้านเดียว แต่พอลงมาในครึ่งหลัง การแก้เกมช่วยพลิกฟื้นทีมให้กลับมานำ แต่น่าเสียดายที่ผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้กิเลนผยองต้องชวด 3 แต้ม ในวันนี้

พีที ประจวบ เอฟซี
พีที ประจวบ เอฟซี

ติดตามข่าวสารฟุตบอลได้ที่ tarutaofc.com และ ทาง Facebook

https://www.facebook.com/Sport-lover-101626538901960