Categories
Sport

“เซตเพลย์ช่วยชีวิต”

เทโร ฟอร์มตก แต่ยังดวงแข็ง ไล่เจ๊า ราชบุรี นาทีท้าย 2-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 ในส่วนของค่ำคืนวันอาทิตย์ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่กำลังฟอร์มขึ้นหม้อ จะเปิดรังบุญยะจินดา รับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่วันนี้อยากมีแต้มกลับบ้าน สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมายืน 3-4-3 ส่วนทางฝั่งทีมก็ปรับมายืน 4-2-3-1

เกมในช่วง 20 นาทีแรก จืดสนิทจนไร้รสชาติ เพราะทางฝั่ง ราชบุรี ต่อบอลไม่แม่น ทำให้บุกไม่ขึ้นและเสียบอลให้คู่แข่ง แต่ทางฝั่ง เทโร เมื่อได้บอลไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะบุกยังไงดี ทำให้การต่อบอลไม่กี่จังหวะก็เสียคืนให้คู่แข่ง กระนั้นเมื่อเกมในครึ่งแรกผ่านไปครึ่งทาง ทีมเยือนเริ่มดูดีกว่า เพราะสามารถต่อบอลและทำเกมบุกได้ไหลลื่น ทำให้ใช้เวลาไม่นาน ประตูนำ 0-1 ก็มา โดยในจังหวะนี้เริ่มต้นจากนักเตะมังกรโล่เงินพยายามพิงบอลแล้วเสียกลางทาง ทำให้แนวรุกราชันมังกรได้ลากบอลขึ้นมา แล้วเจอแนวรับยืนขวาง ก่อนจะเลือกยิงไกลแล้วเสียบมุม

ครึ่งหลัง ราชบุรี เดินหน้าเปิดเกมบุกไปเรื่อยๆ หากมีโอกาส กระทั่งมาได้ประตูนำ 0-2 จากการเลี้ยงตัดริมเส้นเข้ามาแล้วยิง ซึ่งการปัดบอลของ ประสิทธิ์ ดันมาเข้าทาง สรรวัชญ์ ได้ตามซ้ำแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แล้วการซ้ำนี้ดันไปแฉลบ เฉลิมศักดิ์ เข้าประตูตัวเอง

หลังจากโดนยิงนำไปแล้ว 2 ลูก เกมรุกของ เทโร ก็ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งการบุกขึ้นมาแต่ละครั้ง จะเป็นลักษณะนานๆทีขึ้นมาที แล้วไม่อันตราย กระนั้นลูกทีมของโค้ชอ้น ก็มาได้ประตู 1-2 จากลูกฟรีคลิกที่เปิดได้แม่นและลงหัวคนโหม่งพอดี จากนั้นเกมรุกแบบ open play ของเจ้าบ้านก็ยังไม่ดีขึ้น ทำให้เวลาที่เหลือน้อยลงไป ก็คงต้องทำใจล่วงหน้า อย่างไรเสียในวินาทีสุดท้ายของเกม นักเตะของราชบุรี ดันไปโอบกอดนักเตะเทโร ตอนเล่นลูกฟรีคลิก ทำให้ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ แล้ว ปาลิสต้า ยิงตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 90+5

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม โปลิศ เทโร เอฟซี ถือว่าพกดวงมาเต็มกระเป๋า เพราะเกมรับมีข้อผิดพลาดจนเสียประตู ขณะที่เกมรุกก็เร่งไม่ขึ้นเลย แต่การได้ฟรีคลิกและจุดโทษท้ายเกม ช่วยให้พวกเขากลับมาตีเสมอและแบ่งแต้มได้แบบสุดระทึก ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี วันนี้เล่นได้ดีพอสมควร กระทั่งได้ผลตอบแทนเป็นประตู 2 ลูก แม้ว่าจะมีโชคและจังหวะที่เป็นใจผสม แต่ในช่วงท้ายเกมดันโชคร้ายและพลาดเอง แล้วมันส่งผลร้ายแรงถึงการเปลี่ยนจาก 3 คะแนน เหลือแค่แต้มเดียว

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“ภาพหลอนยังคงชัดเจน”

เชียงราย ดับเบิ้ลดวงแตก โดน เมืองทอง 10 คน ยิงท้ายเกม 0-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 ในส่วนของค่ำคืนวันอาทิตย์ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้กลับมาเปิดรังเหย้าของตัวเอง ที่มีสถิติไม่ค่อยดีเท่าไร รับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มยังลุ่มๆดอนๆ แม้ทรงบอลจะดูดีและสวยงาม สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนก็ยังใช้ 4-1-4-1 เหมือนเดิม

       เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เชียงราย ดูเหมือนจะเหนือกว่าเล็กๆ เพราะสามารถทำเกมบุกใส่แนวรับของทีมเยือนที่ยังดูไม่ค่อยนิ่งได้ กระทั่งเวลาผ่านไปแค่ราว 10 นาที จุดเปลี่ยนของเกมก็เกิดขึ้นจากการโดนใบแดงของ บัลลีนี่ ที่เป็นตัวสุดท้ายแล้วเข้าไปสกัด บิลล์ ทำให้หลังจากนั้นไม่กี่นาที มาริโอ้ ต้องเปลี่ยนกลางรุกออกและใส่กองหลังเข้าไปแทน  

       เชียงราย โหมบุกและกดดันได้พอสมควร แต่โอกาสเหน่งๆไม่ค่อยมี เพราะการต่อบอลเท้าสู่เท้าไม่เร็วพอ ทำให้ต้องใช้การหยอดแล้วไหลให้เพื่อนยิง หรือยิงไกลเป็นหลัก กระทั่งเมื่อเกมผ่านไป 30 นาที เมืองทอง ก็เริ่มตั้งหลักและทำเกมโต้กลับได้อยู่เนืองๆ แต่จังหวะการเข้าทำไม่ดีเอง

10 นาทีแรกของครึ่งหลัง เมืองทอง ลงมาสู้ด้วยเกมรุกแบบไม่เกรงกลัว แต่หลังจากนั้น เชียงราย ก็ตั้งหลักได้ แล้วพยายามจะกดหัวทีมเยือนให้อยู่ ด้วยการขึ้นทางขวาหรือกลาง แล้วออกบอลไปทางด้านซ้ายเพื่อโจมตี ซึ่งผลลัพธ์ของมันก็ออกมาดี เพราะมีโอกาสเหน่งๆที่ควรค่าแก่การเป็นประตู แต่นักเตะเจ้าถิ่นดันทำหมูหกอย่างไม่น่าเชื่อ สุดท้ายจุดพีคที่สุดของเกมก็มาเกิดขึ้นในช่วงทดเจ็บ 90+5 โดยในจังหวะนั้น เมืองทอง ได้พาบอลขึ้นมา แล้ว เคอร์แรน ลากเลี้ยงไปมา แล้วในทันทีที่เห็น ป๊อปป์ วิ่งตัวเปล่าขึ้นมา ก็ได้จัดการโยนไปให้โหม่ง ขึ้นนำ 0-1 และจบเกมทันที

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ครองเกมได้เหนือกว่าเกือบทั้งเกม อีกทั้งยังได้เปรียบตัวผู้เล่นราว 80 นาที โดยการตอบสนองและปรับเปลี่ยนแผนการเล่นในครึ่งหลัง ถือว่าทำได้ดีแล้ว แต่ยิงไม่ได้เท่านั้นเอง อีกทั้งแนวรับดันมาพลาดจังหวะเดียวแล้วเสียประตูเลย ทำให้กล่าวได้ว่าความพ่ายแพ้ในวันนี้ เป็นเรื่องที่เจ็บช้ำอย่างยิ่ง ส่วนทางฝั่ง เมืองทอง ยูไนเต็ด หากวันนี้ 11 ตัวเท่ากัน อาจจะแพ้ไปแล้วก็ได้ เพราะหลังจากเหลือ 10 คน เกมรับแน่นขึ้นอย่างผิดหูผิดตา แต่กระนั้นเจ้าถิ่นก็พลาดเองที่ยิงไม่ได้ มิหนำซ้ำยังป้องกันไม่ดี ทำให้โอกาสเหน่งๆครั้งเดียวกลายเป็น 3 แต้ม อันล้ำค่าของกิเลนผยองในที่สุด         

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เหลือ 10 ตัว แต่เหนือกว่า”

บุรีรัมย์ 10 ตัวไม่หวั่น ไล่ตี โคราช นิ่มๆ 2-0

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 คู่ส่งท้ายของสัปดาห์เป็นศึกดาร์บี้แมตช์อีสานใต้ ณ สนามช้างอารีน่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฐานะเจ้าถิ่นและจ่าฝูงของตาราง พบกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ฟอร์การเล่นยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไร สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฟากทีมเยือนใช้ 4-3-3

       ในช่วง 10 นาทีแรก จังหวะของเกมรวดเร็วและออกไปในลักษณะดักบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว อีกทั้งจังหวะที่รวดเร็วนี้ทำให้ไม่ปรากฏการขึงหรือต่อบอลไปมาให้เสียเวลา สุดท้ายการเล่นที่วัดกันจังหวะต่อจังหวะ บุรีรัมย์ กลายเป็นฝ่ายพลาดไปก่อน กับการเลือกตัดฟาวล์เป็นตัวสุดท้ายของ รัตนากร นั่นจึงทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือก นอกเสียจากให้เป็นใบแดงโดยตรง

       นครราชสีมา กลายเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบทันที แต่ความได้เปรียบนี้ไม่สามารถกดหัวเจ้าบ้านได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพราะศักยภาพการต่อบอลและขึงบุกไม่ใช่สิ่งที่ถนัด นั่นจึงทำให้รูปเกมที่ปรากฏจะเป็นในลักษณะที่ว่า บุรีรัมย์ ดูตื้อไปพักใหญ่ ก่อนจะตั้งตัวได้ในช่วงท้ายครึ่งแรก กับการโต้กลับขึ้นมาไม่กี่คน แล้วอาศัยการทำชิ่งและเลี้ยงฝ่าเข้าไปยิง

ครึ่งหลัง โคราช พยายามจะเปิดเกมบุก แต่ภาพก็ยังฉายซ้ำ เพราะศักยภาพไม่เทียบเคียงกับเจ้าบ้าน อีกทั้งยังเสียบอลง่ายๆมากขึ้น ซึ่งการเล่นที่ผิดพลาดนี้สวนทางกับฟอร์มการเล่นของแนวรุกบุรีรัมย์ ที่เมื่อได้บอลก็จะขึ้นเกมและมีการจ่ายแทงให้แนวรุกอยู่เนืองๆ กระทั่งได้ประตูขึ้นนำ 1-0 แม้ว่าจังหวะนี้จะมีความผิดพลาดของ ธวัชชัย ที่ถึงบอลก่อนแต่เท้าลั่น แล้วจังหวะถัดมาเป็นใจให้กับ ปิยะพล จิ้มเข้าไป จากนั้นกลายเป็นเจ้าบ้านที่เล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ขณะที่โคราช ยิ่งเล่นยิ่งบันทอนความมั่นใจ แล้วมันนำมาสู่การเสียประตู 2-0 จากความพยายามจะบังบอลให้ออกหลัง แต่ โรซ่า ฉกมาได้แล้วเอาไปล่อเป้า   

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีความผิดพลาดและเล่นไม่ได้ท็อปฟอร์ม แต่วันนี้สามารถเก็บ 3 แต้มได้เพราะ “จิตใจ” กล่าวคือ เมื่อเจอสถานการณ์ที่ย่ำแย่ แต่ก็สามารถประคองตัวให้ผ่านไปได้ กระทั่งความมั่นใจเริ่มมา ก็ได้แปรเปลี่ยนพลังตรงนี้ด้วยการเช็คบิลคู่แข่ง ส่วนทางฝั่ง นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี หากมองแค่ตัวเองในการเล่นตลอด 8 นัด รวมเกมนี้ โคราชไม่เคยเล่นได้เต็มขีดความสามารถของตัวเองเลย ทำให้การเจอสถานการณ์ที่ได้เปรียบแล้วตัวเองไม่สามารถครองเกมให้เหนือกว่าได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดขึ้นกับสวาทแคท      

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“งูฉกไก่ตายคาปากจงอาง”

ขอนแก่น ทำศึกอีสานดาร์บี้ เฉือน หนองบัว 1-0 หนีบ๊วยสำเร็จ 

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 ในส่วนของค่ำคืนวันเสาร์ มีดาร์บี้แมตช์อีสาน 1 คู่ ที่สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น ขอนแก่น ยูไนเต็ด ที่ตั้งแต่เปิดซีซั่น ชนะมาแค่นัดเดียว จะต้องพบกับคู่แค้นเมื่อครั้งยังอยูลีกรองอย่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-5-2 เหมือนเดิม ส่วนทางฟากทีมเยือนปรับมาเล่น 3-4-3

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ขอนแก่น ดูดีกว่าเล็กๆ เพราะสามารถเซตบอลจนทำเกมบุกได้เป็นเรื่องเป็นราว แต่หากพูดถึงความหวาดเสียว มันยังไม่อันตรายพอที่จะเป็นประตู กระทั่งเวลาผ่านไปความแม่นยำเริ่มมากขึ้น อีกทั้งแนวรับทีมเยือนก็เริ่มมีรอยร้าว ขาดเพียงประตูขึ้นนำที่ยังไม่มา ส่วนทาง หนองบัว มาเน้นตั้งรับและรอตัดบอล เพื่อสวนกลับด้วยการโยนบอลไปให้ แฮริงตัน ได้โหม่ง อย่างไรเสียใน 45 นาทีแรก ไม่ปรากฎให้เห็นการโต้กลับแบบมีเสียวเลย

ครึ่งหลังเริ่มไปได้ 3 นาที ขอนแก่น มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะขี้นบอลจากหลัง แล้วแทงทะลุช่องให้ เมโล่ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ กิตติคุณ ซึ่งในความยอมเยี่ยมนี้ ก็ต้องกล่าวโทษแนวรับทีมเยือนที่เปิดพื้นที่ให้ตัวจ่าย ขณะที่ตัวหน้าเป้ามีแค่ตัวเดียว แต่ก็ดันปล่อยให้วิ่งสลัดหลุดไปได้ นั่นจึงทำให้ หนองบัว ต้องเปิดเกมบุกแลก ซึ่งมันก็ปรากฎให้เห็นว่าพวกเขาทำได้ดี เพราะรูปแบบการเข้าทำมีทั้งจากริมเส้นเพื่อเปิด การทำชิ่ง หยอด และไหลย้อนเพื่อสลัดตัวประกบ โดยทั้งหมดทั้งมวลขาดเพียงประตู อีกทั้งการบุกอย่างต่อเนื่อง มันก็มีผลมาจากแนวรับของเจ้าบ้านที่เริ่มแสดงปัญหาออกมา แล้วที่น่าเสียดายที่สุด คือ ฟรีคลิกท้ายเกมที่บอลไปชนเสาแล้วเด้งออกแบบโชคร้าย

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ขอนแก่น ยูไนเต็ด เล่นเกมรุกได้หลากหลาย กระทั่งได้ประตูนำก็ถอยไปรับทันที ซึ่งการตั้งรับในสภาพที่ตัวเองมีปัญหาในแนวรับ ก็เกือบโดนยิงหลายหน แต่เพราะความโชคดีและคู่แข่งทิ้งโอกาสเอง ถึงทำให้รอดมาได้ ส่วนทางฝั่ง หนองบัว พิชญ เอฟซี การวางแท็กติกเน้นความรัดกุมเสมือนว่าตัวเองเป็นรอง อาจเป็นการวางแผนที่ผิด เพราะหลังจากเสียประตู ตัวเองสามารถรุกได้อย่างถึงพริกถึงขิง ซึ่งถ้าหากเลือกมาสู้กับเจ้าบ้านตั้งแต่แรก วันนี้อาจมองถึงชนะได้ มิใช่มาไล่ตามตีเสมอแบบนี้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เกาะรองจ่าฝูงยาวไป”

บียู ยังแกร่ง เชือด ชลบุรี ในถิ่น 1-0 รั้งรองจ่าฝูงต่ออีกสัปดาห์

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 คู่วันอาทิตย์เปิดหัวด้วยเกมบิ๊กแมตช์ระหว่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มกำลังดีวันดีคืนและต้องการ 3 แต้ม เพื่อเกาะกลุ่มหัวตาราง กับ ชลบุรี เอฟซี ที่แม้จะชนะมาเมื่อนัดที่แล้ว แต่ฟอร์มการเล่นยังไม่ดีเท่าที่ควร สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านปรับมายืน 4-5-1 เป็นหนแรก ส่วนทางฟากทีมเยือนมาแบบรัดกุมในระบบ 3-4-2-1

       เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น แบงค็อก เหนือกว่าตามศักยภาพ แต่ก็ไม่ได้เหนือกว่ามาก เพราะทีมเยือนมาแพ็คเกมรับแบบหนาแน่นและมีวินัย นั่นจึงทำให้เกมบุกของเจ้าถิ่นใน 45 นาทีแรก จะเป็นในลักษณะของการทำเกมแดนกลาง แล้วเมื่อไรที่เห็นช่องก็จะทำการแทง หรือต่อบอลไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีการสวิตช์บอลเปลี่ยนแกนเร็ว แล้วใช้การสอดประสานทีมเวิรค์ให้เห็นเป็นระยะ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้สร้างความอันตราได้ดีทีเดียว ขาดเสียเพียงประตูขึ้นนำเท่านั้น ส่วนเกมรุกของ ชลบุรี แทบจะไม่มีปรากฏให้เห็นเลย     

ครึ่งหลัง ชลบุรี พยายามปรับหมากเกมรุก ซึ่งก็สามารถต่อบอลขึ้นมาได้ แต่มันไม่ถึงแดนสุดท้ายของคู่แข่ง อีกทั้งการขึ้นบอลก็มักเสียกลางทางให้เจ้าบ้านเอาไปโต้กลับ กระทั่ง บียู มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการลากเลี้ยงกินตัวของ เฮแบร์ตี้ 9 ตั้งแต่กลางสนามจนถึงแดน 3 จากนั้นเลือกจ่ายให้ ทริสตอง โด เพื่อส่งต่อเข้าเขตโทษ ซึ่งจังหวะเปิดก็ได้มีการข้ามหลอกให้ วานเดอร์ หลยุส์ ได้ยิง

       หลังจากเสียประตูขึ้นนำ ชลบุรี พยายามเดินหน้าต่อ แต่การเสียบอลกลางทางอยู่ร่ำไป ก็ยิ่งเร่งเร้าให้ บียู ได้สวนกลับจนเกือบยิงเพิ่มได้หลายหน ซึ่งกว่าแนวรุกฉลามชลจะเครื่องติดแล้วทำเกมบุกได้ดี ก็ต้องรอถึง 15 นาทีสุดท้ายของเกม โดยเวลาที่รัดตัวแบบนี้ ทำให้พวกเขาไล่ไม่ทันและต้องกลับบ้านมือเปล่า

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เล่นได้ตามมาตรฐานและมีความอดทนต่อการเผชิญหน้ากับแผงเกมรับที่ยืนหนาแน่น แล้วสุดท้ายสามารถยิงได้ 1 ลูก ส่วนในแผงกองกลางต้องชื่นชมเป็นพิเศษ เพราะสามารถรบกวนคู่แข่งจนแผงหลังไม่ต้องทำงานหนัก ขณะที่ ชลบุรี เอฟซี การวางหมากมาเล่นเกมรับในครึ่งแรก ถือว่าสอบผ่าน แต่ในครึ่งหลังเลือกจะเล่นเกมรุก ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การตอบสนองต่อแท็กติกและฟอร์มการเล่นของนักเตะในแผงเกมรุก มันต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้ตรงจุดกลายเป็นหอกที่กลับมาทิ่มแทงตัวเองให้เสียประตูและต้องพ่ายแพ้ในเกมนี้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“กระต่ายคาบ้าน 2 นัดติด”

บีจี ดวงแตกพ่าย เทโร ยับคาถิ่น 0-3

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 ในค่ำคืนวันเสาร์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เปิดซิงค์ความพ่ายแพ้ในบ้านเป็นหนแรกในรอบ 2 ปี จะได้เปิดรังของตัวเองอีกครั้งด้วยการรับ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่พึ่งปลดล็อคคว้าชัยชนะนัดแรกของซีซั่นได้ สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนปรับมาใช้ 3-4-3

การแข่งขันเริ่มต้น บีจี ปทุม พยายามจะขึ้นบอลและขึง แต่การเข้าหาบอลเร็วของแนวรับ เทโร ทำให้พวกเขาได้โต้กลับถึงแดนสุดท้ายและมีจังหวะหวาดเสียว ซึ่งสัญญาณเตือนหลายครั้งก็มีผลให้ เทโร นำไป 0-1 โดยในจังหวะดังกล่าว ไม่มีกองกลางลงมาช่วยสกรีน ขณะที่กองหลังได้แต่ยืนประคองและมีช่องว่าง ทำให้มีการตัดสินใจยิงยัดเสาแรก แล้ว กรพัฒน์ ดันปัดได้ไม่เต็มมือ ทำให้บอลหลุดเข้าประตูไป

หลังจากโดนประตูขึ้นนำและยังโดนบุกอย่างต่อเนื่อง มันก็เริ่มเห็นได้ว่าการยืนหลัง 4 ไม่เวิร์ค เพราะคู่แข่งได้แทงริมเส้นและตรงกลางอยู่ตลอด ขณะที่เกมรุกของ บีจี เจาะเข้าไปในแดนสุดท้าย หรือต่อบอลสวยๆไม่ได้ ทำให้หลายครั้งต้องยิงไกล

ครึ่งหลัง แนวรับบีจียืนห่างกัน ทำให้โดนเลี้ยงฝ่าและซ้อนไม่ทัน อีกทั้งยังโดนยิงหนีไปเป็น 0-2  จากนั้นแนวรุกกระต่ายแก้ว พยายามบุกต่อเนื่อง ซึ่งมันก็พอจะมีช่องและโอกาส แต่ก็มีที่ยิงไม่ดีและ ประสิทธิ์ ซุปเปอร์เซฟ กระทั่งท้ายเกมนักเตะเจ้าบ้านเริ่มถอดใจเล็กๆกับการสกัดและพยายามจะขึ้นบอล แต่แดนกลางไม่ถอนตัวลงมารับบอล ในขณะที่นักเตะเทโร วิ่งสวนขึ้นมา แล้วได้บอลเอาไปยิงปิดกล่อง 0-3

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด วันนี้ฟอร์มดรอปลงไป โดยเกมรับมีข้อผิดพลาดทั้ง 3 ลูก อีกทั้งมันเริ่มจะสื่อให้เห็นว่าการยืนหลัง 4 ใน 2 นัด ของฤดูกาลนี้ ผลลัพธ์ที่ออกมามันไม่ดีเลย ส่วนเกมรุกพอเจอการเข้าบีบตลอดเกม ก็กลายเป็นผิดพลาดจนบอลไม่ไหลลื่น ขณะที่ โปลิศ เทโร เอฟซี เกมรุกยิงได้เยอะ แต่มิติการเข้าทำไม่ได้หลากหลาย ฉะนั้นอย่าพึ่งหลงดีใจไป ส่วนในแผงเกมรับไม่เสียประตูก็จริง แต่การป้องกันยังมีรูรั่วให้เห็น ซึ่งถ้าหากประตูไม่เหนียว แล้วเจอคู่แข่งที่จบได้คม ผลการแข่งขันอาจไม่ออกมาเช่นนี้ก็ได้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“แบบนี้บังยีก็ช่วยไม่ไหว”

โคราช ทานไม่อยู่ พ่าย บียู คาถิ่นนิ่มๆ 0-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 7 คู่เปิดหัวในวันเสาร์ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่ถือยึดถือสถิติไม่แพ้ใคร หากบังยีมานั่งชมเกม ซึ่งในวันนี้ต้องเดบ้านเจอศึกกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้เครื่องร้อนและพร้อมจะเก็บ 3 แต้มให้ได้ทุกนัด สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านและทีมเยือนต่างมาในระบบ 4-3-3 เหมือนกัน

       ในช่วงต้นเกม นครราชสีมา ดูดีกับการโจมตีด้วยลูกตั้งเตะและการสวนกลับ ขณะที่ แบงค็อก ค่อยๆสตาร์ทเกมของตัวเองไปเรื่อยๆ แต่ประสิทธิภาพยังดีเท่าที่ควร เพราะการเร่งจังหวะขึ้นบอลและรีบจบสกอร์ ทำให้จังหวะไม่อันตรายและไม่อยู่ในระยะที่เหมาะสม กระนั้นเมื่อเวลาผ่านไป การบุกของ บียู ก็ดีขึ้นจนได้ประตูนำ 0-1 จากการขึ้นบอลทางฝั่งขวา แล้วเปลี่ยนแกนมาฝั่งซ้ายให้ วานเดอร์ หลยุส์ เลี้ยงหลบแนวรับเข้าไปยิงประตู

ครึ่งหลัง บียู ปรับแท็กติกเกมรุกด้วยการวางบอลยาวข้ามไลน์กองหลังคู่แข่ง ซึ่งมันช่วยให้ประหยัดเวลาในการต่อบอลและแนวรุกสามารถนำบอลไปทำเกมรุกได้ แต่ประตู 0-2 ยังไม่มา จากนั้นในช่วง 20 นาทีสุดท้าย โคราช ยกระดับเกมรุกของตัวเองขึ้นมาแบบเต็มขั้นเพื่อเอาประตูเสมอ โดยภาพที่ปรากฏมันก็มีจังหวะที่หวาดเสียวแบบเนืองๆ จากตัวเองทำขึ้นมาและแนวรับคู่แข่งพลาดให้ กระนั้นการรุกเต็มสูบของสวาทแคท มันก็มาพร้อมกับการโดนตัดบอลให้ แข้งเทพ เอาไปโต้กลับแบบสุดทางและเกือบได้ประตูหลายหน ซึ่งกว่าจะได้ประตูปิดกล่อง 0-2 ก็ต้องรอถึงช่วงทดเวลา 90+5    

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เกมรับยังมีปัญหาในการรับมือแนวรุกที่มีความสามารถเฉพาะตัว โดยอย่างลูกแรกที่เสียก็เพราะสาเหตุนี้ เว้นเสียแต่ลูก 0-2 ที่พวกเขาดันสูงเพื่อทำเกมบุก ส่วนในแผงเกมรุก มาดีในช่วงต้นและท้ายเกมราว 20 นาทีสุดท้าย ซึ่งหากจบคมและเล่นละเอียดกว่านี้ มันก็พอมีโอกาสที่จะยิงตีเสมอได้ ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมรับถูกทดสอบในช่วงท้ายแล้วมีจังหวะหลุดไปบ้าง ยังดีที่ไม่ถูลงโทษ ส่วนเกมรุกยิงได้ 2 ลูก ก็จริง แต่ต้องตำหนิตรงที่ท้ายเกมมีโอกาสสวนกลับเหน่งๆแล้วยิงเพิ่มไม่ได้ ซึ่งถ้าเกิดคมกว่านี้ แข้งเทพจะเล่นสบายราว 10-20 นาที เลยทีเดียว มิใช่ต้องรอถึงนาทีสุดท้ายของเกมเหมือนเช่นที่เห็น

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

เปิดโปรแกรมวิเคราะห์รีโว่ไทยลีก นัดที่ 9

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 9 สัปดาห์นี้จะลงแข่ง 2 วัน วันละ 4 คู่ โดยส่วนนี้จะเป็นของวันเสาร์

ซึ่งอาจจะไม่มีเกมคู่ใหญ่ แต่ในหลายๆคู่ล้วนเปี่ยมไปด้วยความหมายกับเป้าหมายของทีม ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้าง ด้านล่างนี้มีคำตอบรออยู่แล้ว

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบกับ สมุทรปราการ ซิตี้ (17.30 น.)

โคราช กำลังอยู่ช่วงโดนรัวหมัด เพราะ 2 นัดหลังแพ้รวด อีกทั้งนัดล่าสุดเจอ บุรีรัมย์ แล้วตัวผู้เล่นเหนือกว่า แต่รูปเกมดันเป็นรองและสู้ไม่ได้ ส่วนทางฝั่ง สมุทรปราการ ผลงานอาจจะไม่ย่ำแย่เท่า แต่มันก็นานถึง 5 นัดแล้ว ที่ไม่ชนะใคร ทำให้การพบกันของทั้ง 2 ทีม จะต้องใส่กันไฟแลบ ส่วนผลที่คาดน่าจะเป็น เขี้ยวสมุทร ที่มีแต้มกลับบ้าน   

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ โปลิศ เทโร เอฟซี (18.00 น.)

       เมืองทอง พึ่งบุกไปเผด็จศึก เชียงราย มาแบบสุดมันส์ แต่หากมองถึงฟอร์มการเล่น แนวรับยังคงเป็นปัญหาให้ มาริโอ้ ต้องแก้ไขกันต่อไป ส่วนทางฝั่ง เทโร ผลงานดีขึ้นมาใน 3 นัดหลัง เพราะเก็บได้ถึง 7 แต้ม แต่ปัญหาก็คล้ายกัน คือ แนวรับยังไม่คอยนิ่ง ฉะนั้นเกมที่จะเกิดขึ้น ณ สนามธันเดอร์โดม มองว่าเจ้าบ้านดูดีกว่าเล็กน้อยและจะไม่แพ้คาถิ่น

ชลบุรี เอฟซี พบกับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด (18.00 น.)

       ชลบุรี พึ่งดวงแตกจากการบุกไปพ่าย บียู มา ซึ่งจนถึงตอนนี้ ฉลามชลอาจไม่ใช่ทีมที่มีลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวแล้ว เพราะด้วยผลงานที่กระท่อนกระแท่นและทำแต้มหล่นเป็นว่าเล่น ส่วนทางฝั่งผู้มาเยือนอย่าง เชียงใหม่ ตอนนี้พยายามหาจุดเปลี่ยนด้วยการปลดโค้ชและแต่งตั้งคนใหม่ ทำให้ต้องติดตามกันว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร สำหรับเกมนี้คู่คงไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากมาย เพราะความห่างชั้นขนาดนี้ ฉลามชลต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น

ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด (19.00 น.)

       เจ็บช้ำและอย่าไปพูดใกล้หูให้จี้จุดสำหรับ เชียงราย ที่พึ่งพ่ายแพ้คาบ้านต่อ เมืองทอง ทั้งที่ตัวผู้เล่นมากว่าและได้บุกแบบวันเวย์ ทำให้การลงเล่นในบ้านของกว่างโซ้งมหาภัย ชนะเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น ส่วนทางฝั่ง ขอนแก่น อาจจะยิ้มได้จากการคว้าชัยเมื่อสัปดาห์ก่อนเหนือ หนองบัว แต่สถานการณ์ยังไม่น่าวางใจ เพราะตัวเองยังอยู่ในโซนแดง ฉะนั้นเกมที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ มันถึงเวลาแล้วที่ เชียงราย ต้องชนะ เพราะคู่แข่งอ่อนชั้นกว่าอยู่มากโข กระนั้นหากผลออกมาเป็นอื่น บิ๊กฮั่นและมาดามฮาย อาจต้องทำบุญสนามครั้งใหญ่เสียบ้าง 

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lvoer

Categories
Sport

“สูสีจัดจนต้องแบ่งแต้ม”

สุพรรณบุรี ฟอร์มดี แต่ราชบุรี ก็ดีไม่แพ้กัน สุดท้ายจบเจ๊าที่ 1-1

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 8 ซึ่งลงเตะกันในวันกลางสัปดาห์ สุพรรณบุรี เอฟซี ได้โอกาสกลับมาเฝ้ารังเหย้าอีกครั้ง รับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ได้พักมากกว่าเล็กน้อย เพราะเจอพายุฝนจนต้องเลื่อนเกม สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3  ส่วนทางด้านทีมเยือนใช้ 4-5-1

เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองทีมไม่รู้คำว่ารัดกุมหรือความระมัดระวัง เพราะต่างฝ่ายต่างพาบอล สาดบอล หรือแทงไปข้างหน้า ไม่มีการถ่ายบอลใดๆให้ชักช้าเสียเวลา ซึ่งการเล่นลักษณะนี้ทำให้ประตูแรกของเกมเกิดอย่างรวดเร็ว เพียง 15 นาทีแรกเท่านั้น โดยจังหวะดังกล่าวเป็น สุพรรณบุรี ที่ได้โต้มาทางริมเส้นและเปิดไม่ดีแล้ว เพราะเพื่อนไม่ถึงบอล แต่จังหวะมันดันพอดีกับ สีหนาท ที่วิ่งมาตรงนั้น อีกทั้งการตะบันเต็มข้อแบบเต็มแรง จึงทำให้บอลเสียบมุมจน กัมพล แทบจะไม่ต้องเซฟ

หลังจากเสียประตูให้เจ้าบ้าน ราชบุรี จำเป็นต้องบุกใส่แบบจริงจังมากขึ้น แต่อุปสรรคที่เพิ่มขึ้นมา คือ คู่แข่งถอยมารับมากขึ้น ทำให้การเจาะยากลำบากขึ้น อีกทั้งตัวเองก็ไม่มีกองกลางที่เก็บและจ่ายบอลดีไปให้แนวรุก ทำให้ราชันมังกร ต้องทำเกมบุกจากการขึ้นทางริมเส้นแล้วเปิด หรือชิงเล่นบอลเก็บตกจังหวะ 2 เพื่อหวังนำบอลไปโต้กลับแบบสายฟ้าฟาด

ในช่วงต้นครึ่งหลัง สุพรรณบุรี มีโอกาสเหน่งๆที่จะบวกเพิ่มเป็น 2-0 แต่พลาดไป ทำให้หลังจากนั้นโมเมนตัมเหวี่ยงมาทาง ราชบุรี แล้วได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการขึ้นทางริมเส้น แล้วค่อยๆตัดเข้ามา ซึ่งจังหวะจ่ายถวายพานเหมือนจะไม่ดี เพราะกำลังจะโดนสกัด แต่แนวรับเจ้าบ้านดันสกัดพลาด ทำให้บอลเลยไปถึงเสา 2 แล้วได้ยิงเข้าไป

หลังจากสกอร์กลับมาเท่ากัน ทั้ง 2 ทีม ต่างไม่พอใจในผลเสมอ เพราะจากรูปเกมที่แลกกันคนละหมัด มันสื่อให้เห็นว่าต่างฝ่ายต่างต้องการ 3 แต้ม แต่จากจังหวะการเข้าทำที่ปรากฏ สุพรรณบุรี มีโอกาสเหน่งๆมากกว่า แต่ดันถูก กัมพล เซฟปฏิเสธทั้งหมด ทำให้จบเกมด้วยการแบ่งกันไปแบบสุดมันส์ระดับ 6 ดาว

ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม สุพรรณบุรี เอฟซี เล่นได้ดีมากในครึ่งแรก เพราะสามารถยืนป้องกัน ทำเกมสวนกลับและยิงประตูได้ อย่างไรเสียในครึ่งหลัง ความผิดส่วนบุคคลนิดเดียวส่งผลเสียถึงการเสียประตู ส่วนทางฝั่ง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี หลังจากเสียประตูไปก่อน มันก็เริ่มเห็นได้ชัดว่าเกมรุกไม่มีไอเดีย เพราะขาดกองกลางตัวสร้างสรรค์ กระนั้นยังโชคดีที่แนวรับคู่แข่งผิดพลาดให้ แล้วตัวเองสามารถฉวยโอกาสเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ได้

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover

Categories
Sport

“เชียงใหม่ อาการยังแย่”

เชียงใหม่ พ่าย การท่าเรือ ตามคาด 0-2

ศึกฟุตบอลรีโว่ไทยลีก นัดที่ 6 ลงแข่งขันกันในวันกลางสัปดาห์ โดยในส่วนนี้จะเป็นคู่ส่งท้ายจากเมืองเหนือ ระหว่าง เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่พึ่งคว้าชัยชนะนัดแรกของซีซั่นได้สำเร็จ กับ การท่าเรือ เอฟซี ที่ต้องการ 3 แต้ม อย่างยิ่งเพื่อเกาะกลุ่มหัวตาราง สำหรับผังการเล่นของทั้ง 2 ทีม เจ้าบ้านมาในระบบ 3-4-3 ส่วนทางฝั่งทีมเยือนใช้ 4-2-1-3

       เกมการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นเป็น การท่าเรือ ที่ดูเหนือกว่า เพราะสามารถโจมตีใส่เจ้าบ้านได้อยู่ตลอด แต่ความเฉียบคมไม่มี กระนั้นส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะแนวรับของ เชียงใหม่ ที่ไม่ดีเอง เพราะการยืนตำแหน่งป้องกันในหลายๆจังหวะเกิดความผิดพลาดและหละหลวม แต่ที่ยังไม่เสียประตูก็เป็นเพราะทีมเยือนจบไม่คมเอง ขณะที่เกมโต้กลับก็มีนานๆครั้ง อีกทั้งมันไม่มีประสิทธิภาพเลย เพราะการต่อบอลเชื่องช้า หรือต่อให้พาไปถึงแดน 3 ก็จะหมดไอเดีย แล้วใช้การวางบอลที่ไม่มีความแม่นยำ หรือยิงไกลที่หลุดออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

ครึ่งหลัง เชียงใหม่ แก้เกมออกมาได้ดี เพราะสามารถต่อบอลด้วยสปีดที่เร็วขึ้น แต่จังหวะเข้าทำยังขาดๆเกินๆ ทำให้ไม่มีโอกาสจบสกอร์แบบเหน่งๆ อย่างไรก็ตามแนวรับของเจ้าบ้านที่หละหลวมมาตั้งแต่ครึ่งแรก ก็มาโดนยิงขึ้นนำ 0-1 จนได้ ซึ่งในจังหวะนั้นเป็นการโจมตีทางขวา แล้วเปิดไปเสาไกลให้ โบนีญ่า ที่ยืนโล่งๆอยู่นานสองนานได้โหม่งระยะประชิด จากนั้นลูก 0-2 แนวรับช้างศึกล้านนา ผิดพลาดอีกครั้ง เพราะปล่อยให้ตัวในกรอบเขตโทษได้ยืนอย่างมีอิสระ ทำให้ทันทีที่บอลมาถึง โก ซุน กิ จึงได้ยิงแบบสบายๆ ส่วนในช่วงท้ายเกม ลุกทีมของโค้ชอั๋นยังคงเดินหน้าบุกต่อ แต่ไม่มีน้ำยาทำสกอร์เพิ่ม    

       ภาพรวมของทั้ง 2 ทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ลงเล่นด้วยฟอร์มที่แตกต่างจากเกมที่ชนะเมื่อนัดล่าสุด โดยเกมรับมีปัญหาและพร้อมจะเสียประตูตลอดเวลา ซึ่งวันนี้ยังดีที่คู่แข่งไม่คม ไม่อย่างนั้นวันนี้โดนมากกว่า 2 เม็ด แน่นอน ขณะที่เกมรุกไร้ซึ่งไอเดียในการเล่น open play ฉะนั้นอาการของช้างศึกล้านนา นับว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ส่วนทางฝั่ง การท่าเรือ เอฟซี ชนะและเก็บ 3 ก็จริง แต่คุณภาพไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเลย โดยเกมรุกจบไม่คม แต่ก็ยังดีที่ยิงได้ 2 ลูก ขณะที่เกมรับวันนี้ไม่เสียประตู แต่มันก็เห็นๆอยู่ว่าคู่แข่งไม่มีอาวุธเด็ดอะไร ฉะนั้นมันไม่มีเหตุใดเลยที่จะปล่อยให้แนวรุกคู่แข่งเข้ามาป่วนหน้าบ้านง่ายๆแบบนี้     

ติดตามบทความ Sport ในทุกสัปดาห์ได้ที่ tarutaofc.com

FB : Sport lover